ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (จบแล้ว) DISTANT | CHANHUN HUNKAI BAEKDO

    ลำดับตอนที่ #7 : ( 18 x 25 ) - หก : พอใจหรือยัง

    • อัปเดตล่าสุด 27 ส.ค. 59



    Distant ( 18-25)
    Chanyeol x Sehun / Sehun x Kai By:ซรดจ.

    หก.  พอใจหรือยัง







              "กูชอบมึง เซฮุน"



              "....."



              "มาคบกันมั้ย"



              เซฮุนรู้สึกเหมือนนาฬิกาหยุดเดินไปชั่วขณะ รู้สึกว่าเข็มวินาทีค่อยๆเคลื่อนที่อย่างเชื่องช้า  บางทีจงอินอาจจะลืมไปว่ายังมีแบคฮยอนอีกคนที่ยืนอยู่ตรงนั้น หรือไม่ก็จำได้แต่ไม่สนใจอะไรอีกแล้ว  



              "งั้นคุยกันไปแล้วกัน กูลงไปทำสัญญาเช่าหอ" แบคฮยอนหัวเราะหึๆอย่างเสียสติเหมือนจะถามว่าเขายังจำเป็นอยู่ไหม ยิ้มให้เซฮุนและตบบ่าจงอินให้กำลังใจ ในเมื่อจงอินเลือกจะทำตามสิ่งที่หัวใจเรียกร้อง เขาคงเตือนอะไรไม่ทันแล้ว ได้แต่อวยพรขอให้เพื่อนทั้งสองคนตกลงปลงใจกันด้วยดี



              พอแบคฮยอน
    คล้อยหลังไป ดูเหมือนว่าสถานการณ์มันยิ่งอึมครึมกว่าเดิม เพราะเซฮุนเองก็ไม่รู้จะให้คำตอบยังไงกับจงอิน ก็อย่างที่บอก เขายังไม่มั่นใจในความรู้สึกตัวเองมากพอจะตอบปฏิเสธ



              จงอินมองเขาตอบกลับมาด้วยแววตาที่ไม่เปลี่ยนแปลง เหมือนกับแววตาที่ใช้มองเขาเสมอมา แต่ไม่รู้ทำไมเซฮุนถึงได้รู้สึกว่ามันแปลกไป  ไม่รู้ทำไมเขาถึงพึ่งจะมองเห็นความรู้สึกห่วงใยและอยากจะดูแลจากแววตาคู่นั้น เขานึกย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์หลายๆครั้ง เวลาที่จงอินคอยอยู่ข้างๆตอนที่ไม่สบายใจ หรือแม้แต่ตอนที่เอาแต่บ่นเพราะเขาทำตัวไม่ดี



              ถ้าไม่ใช่เพราะเซฮุนผิดหวังจากชานยอลจนคิดไปเอง จงอินอาจจะเป็นคนที่แบคฮยอนเคยพูดถึง คนที่แอบชอบเขามานาน และรอคอยเวลาจะพูดกับเขา ร้องขอความรักให้เขาตอบสนอง



              "กู...ไม่รู้หรอกนะ ว่าตอนนี้กูชอบมึงหรือเปล่า.." เซฮุนกลืนน้ำลายเหนียวตอนที่นึกถึงใบหน้าของชานยอล และตัดสินใจพูดมันออกมาหลังจากอ้ำอึ้งอยู่นาน  เซฮุนแค่เพียงคิดว่าถ้าหากมันต้องเริ่มใหม่  เขาก็คงถึงเวลาจะตัดใจจากชานยอลอย่างจริงจังเสียที "แต่ถ้ามึงไม่รีบ...ก็..มาลองคุยๆกันก็ได้"



             
    "จริงเหรอ"




              "ก็ไม่ได้โกหกอะ" พอเห็นรอยยิ้มที่ค่อยๆแต้มบนใบหน้าของจงอิน ดวงตากลมๆที่ยิ้มตามจนหยีเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว เซฮุนก็อดจะหยอกไม่ได้ "ดีใจอะดิ"



              
    จงอินไม่ได้ตอบอะไร แค่อมยิ้มและไม่พูดต่อ แต่เท่านั้นก็มากพอสำหรับเซฮุนแล้ว ความรู้สึกอิ่มเอิบที่ไม่เคยได้สัมผัสมานาน ตอนนี้เขาได้รับความรู้สึกเดิมจากคนใหม่..  จะเป็นไปได้ไหม หากเขาจะเลิกรักชานยอลเสียที



              "วันพรุ่งนี้ไปเรียนบัลเล่ต์มั้ย เดี๋ยวขี่สมรักษ์ไปรับ" แม้มันจะเคยเป็นสิ่งธรรมดาที่เขาและเซฮุนให้ต่อกัน แต่ตอนนี้ความรู้สึกมันกลับต่างออกไป มันไม่ใช่แค่เพื่อนที่อาศัยรถเพื่อนไปส่งที่ๆไกลจากป้ายรถประจำทาง มันไม่ใช่การไปรับไปส่งเพราะ 'ตั๋วเซฮุน' ที่เขาทั้งสองคนเคยใช้



              แม้ไม่พูดอะไรกัน แต่เซฮุนและจงอินก็รู้ว่าความรู้สึกจากนี้มันกำลังจะต่างไปแล้วจากที่เคยเป็นมาตลอด





     




              "ยิ้มหน้าบานเป็นจานทรูเชียวนะมึง" แบคฮยอนอดจะเอ่ยกระเซ้าไม่ได้ตอนที่เพื่อนทั้งสองลงมาจากห้อง เหล่มองเซฮุนแล้วกระซิบถาม "มึงปล้ำนีนี่เหรอวะ รับผิดชอบเพื่อนกูเลย ถ้าเพื่อนกูท้องทำไง"


              "ท้อง
    ที่หน้ามึงดิครับ  คนนะไม่ใช่ปลากัด" เซฮุนตบกระโหลกแบคฮยอนเบาๆไปหนึ่งดอกข้อหาพูดมากไม่ถูกเรื่อง แบคฮยอนไม่ได้ต่อล้อต่อเถียงอะไร แค่ยิ้มทะเล้นให้เพื่อนทั้งสองคน ก็ถ้ามันตกลงกันด้วยดีแฮปปี้ เพื่อนอย่างแบคฮยอนก็ต้องยินดีด้วยอยู่แล้ว


              "คบกันแล้วเหรอวะ" กระซิบมุบมิบกับเซฮุนสองคน ตอนที่จงอินเดินไปนั่งรอที่โซฟารับรองที่ห้องโถงล่างสุดของหอ รอให้แบคฮยอนจัดการเรื่องสัญญาเช่า  คนตัวสูงส่ายหน้าวืด


              "ยังอะ ยังไม่คบ"
     


              "เอ๊า นี่มึงจะหักอกนีนี่เหรอวะ" แบคฮยอนกระซิบลอดไรฟัน ไม่ให้เสียงดังเกินไป "มึงทำงี้ไม่ได้นะเว้ย"


              "แค่คุยกันไง ยังไม่ได้คบ มันจะเรียกหักอกมั้ยล่ะ"


              "มึงชอบมันป้ะเนี่ย" แบคฮยอนจัดการเรื่องเอกสารเสร็จเรียบร้อยแล้วล่ะ แต่ก็ยังคงยืนอยู่ที่หน้าเคาเตอร์ ซักไซ้ไล่เรียงถามความเอาจากเซฮุน เพราะไม่อยากจะเดินกลับไปคุยต่อหน้าจงอิน


               "ตอนนี้ไม่รู้  แต่ในอนาคตไม่แน่"




               "ให้มันรอแบบไม่มีจุดหมาย ไม่ใจร้ายไปเหรอวะ" แบคฮยอนขมวดคิ้วถามจนเซฮุนทำหน้าเหยเก


               "ก็กูไม่มั่นใจ กูไม่อยากให้เสียเพื่อนนี่หว่า... ถ้าถึงเวลากูรู้สึกว่ากูชอบมันจริงๆ ก็คือชอบนั่นแหละ"

            


               "คำตอบโคตรเซเลป" เซฮุนยักไหล่และหัวเราะน้อยๆตอนที่เดินทำท่าไม่รู้ไม่ชี้และพยักหน้าให้จงอินเพื่อบอกว่าทำสัญญาเช่าเสร็จสิ้นแล้ว จงอินลุกขึ้นยืนแล้วมองไปรอบๆ อันที่จริงหอพักนี้ก็น่าอยู่ไม่ใช่น้อย ยิ่งจะได้มาอยู่กับแบคฮยอนและเซฮุนด้วยแล้ว จงอินก็อดตื่นเต้นไม่ได้




               "เขาให้ย้ายของเข้าได้วันไหนเหรอ" 


               "จริงๆก็เริ่มย้ายได้เลยนะ แต่วันนี้คงยัง  แยกย้ายกันกลับไปเก็บของก่อน" เซฮุนพูดแล้วก็หันมามองแบคฮยอนที่ส่งสายตาล้อเลียนมาที่พวกเขาทั้งคู่ อดหมั่นไส้ไม่ได้จนต้องง้างตีนขึ้นมาทำท่าจะจัดให้แบคฮยอนซักดอก  

             

                "ไอ้เตี้ย ไม่ต้องมามองกูแบบนั้นเลยนะ เดี๋ยวมึงจะโดน"



                 ทั้งที่ก่อนหน้า เซฮุนได้แต่ครุ่นคิดเรื่องที่ทำให้ตัวเองรู้สึกเจ็บปวดใจ แต่ในตอนนี้มันกลับเปลี่ยนไปราวกับเทปคนละม้วน  แม้ว่าจะไม่สามารถตอบรับหรือให้สัญญาอะไรจงอินได้ในตอนนี้ แต่ในใจเซฮุนนึกอย่างที่บอกจริงๆ



                  เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างเป็นใจและลงตัว ในวันนั้นเขาคงสามารถให้คำตอบกับจงอินได้อย่างไม่ลังเล และพร้อมจะเรียนรู้ทุกๆอย่างไปด้วยกันในฐานะคนรัก             



                     หากวันหนึ่งที่เขาพร้อม และจงอินเองก็ยังยอมจะรอ





     
     

     


     
     
    [ 11 - 18 ]





                     "ชานยอล  ได้ข่าวว่าเซฮุนก็สอบม.ต้นติดที่เดียวกับโรงเรียนเก่าลูกเลยนะ ไว้พรุ่งนี้ชวนน้องมากินเลี้ยงด้วยกันสิจ๊ะ" คุณนายปาร์คบอกกับลูกชายวัยสิบแปดที่เพิ่งสอบติดคณะวิศวกรรมศาสตร์หมาดๆ 



                      ชานยอลบิดขี้เกียจแล้วเงยหน้าจากหนังสือกลศาสตร์ประยุกต์ในมือ หลังจากนั่งอ่านมาตลอดเช้าจนเย็น  ตอนนี้หนังสือและปาร์คชานยอลควร'ห่างกันซักพัก'ได้แล้ว



                      "ก็ดีนะครับ" พูดไปพลางก็ขยี้ตา "เดี๋ยวผมชวนลู่หานกะอี้ฟานมาด้วยนะ"



                      "ก็ดีนะลูก มากันเยอะๆ สนุกดี" หญิงสาวคลุกผักสดและน้ำสลัดแบบที่ชานยอลชอบใส่ในชามแก้วก้นลึกตอนที่พูดบอกลูกชาย "ชานยอลเดินไปบอกบ้านน้องเซฮุนให้แม่ทีว่าแม่ชวนทานข้าววันพรุ่งนี้ ชวนน้องจุนฮง กับคุณพ่อคุณแม่น้องมาด้วยนะ"



                       "โอเคครับ" ชานยอลลุกขึ้นยืนและบิดขี้เกียจน้อยๆตอนที่เดินลากขาไปที่บ้านข้างๆ ตอนนี้เขาสูงเกือบจะเดินไม่พ้นกรอบประตูห้องอยู่แล้ว แต่พอได้เจอหน้าเซฮุนหลังจากไม่ได้คุยกันจริงๆจังๆมาหลายปี เขาก็ต้องแปลกใจ  เวลามันผ่านไปไวโขจริงๆ ตอนนี้เซฮุนเองก็ตัวสูงขึ้นเยอะเลย แถมโครงหน้าน้องก็เริ่มเปลี่ยน ไหล่ก็เริ่มผายเพราะโตเป็นหนุ่ม ทั้งๆที่เพิ่งเห็นเจ้าตัวเล็กวิ่งเล่นอยู่แพ้บๆ



                      "มีอะไร" นี่ไง บทสนทนาของคนที่ไม่ได้คุยกันมาร่วมสองปี



                      "พรุ่งนี้ที่บ้านพี่มีปาร์ตี้บาบีคิวฉลองกันที่พี่ติดมหาลัย คุณแม่ให้มาชวนไปทานข้าว จุนฮง แล้วก็คุณพ่อคุณแม่ด้วยนะ" ชานยอลเว้น จริงๆแล้วก็พอเข้าใจความกะโปก ไม่รู้สัมมาคารวะของเด็กวัยนี้อยู่ เลยไม่อยากจะถือสาอะไร "แล้วก็ ดีใจด้วยนะที่สอบติด"



                     พอชานยอลพูดจบ คนที่ฟังก็ทำหน้าเหมือนกินพริกสดเข้าไปกำมือใหญ่ คิ้วเข้มกระตุกนิดๆ ตอนที่เซฮุนยิ้มพิลึกมาให้ ไม่รู้ว่าเขาคิดไปเองหรือเปล่าที่น้องชายข้างบ้านดูไม่ค่อยแฮปปี้นักเวลาที่คุยกัน





     
     


    [ 18 - 25 ]





                     "เซฮุน แม่ให้เอารองเท้าไปคืนพี่ชานยอล เอาคืนให้พี่เค้าไปรึยังลูก"  ตอนนี้อะไรก็ดี แต่พอกลับมาอยู่บ้าน เซฮุนก็ต้องมาเจอกับบรรยากาศเดิมๆและวังวนเดิมๆอีกไม่รู้จักหยุดจักหย่อน


                    
                     "คืนแล้วครับ" โกหกคำโตตอนที่กดจอยสติ๊กเล่นเกมต่อสู้ในเครื่องPS3กับจุนฮงอยู่ในห้องนั่งเล่น ทำไม่รู้ไม่ชี้จนกระทั่งคนเป็นแม่เดินมาเท้าเอวขวางหน้าทีวีนั่นแหละ



                     "คืนแล้วแล้วนี่อะไรจ๊ะ" ชูรองเท้าคู่ใหญ่เบ้อเริ่มของชานยอลแล้วถามด้วยน้ำเสียงขึงขัง "ไม่ต้องงอแงเลย เอาไปคืนให้พี่เค้าเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นแม่ไม่ให้เล่นเกมแล้วนะ ทั้งคู่เลย"



                    "โหยยยแม่ ไม่เอาาา ทำงี้กับหนูไม่ได้นะ  พี่เซฮุนรีบเอาไปคืนเลยยยย" เซฮุนแยกเขี้ยวใส่จุนฮงตอนที่คนเป็นน้องเอาเท้าเขี่ย ไล่ให้พี่ชายรีบทำตามคำตามแม่สั่ง



                    "นี่เอาตีนเขี่ยเลยเหรอ"


     
                    "พี่เซฮุนก็รีบไปดิ เดี๋ยวแม่ปิดเกมมมมมมมมมมม" หนูจุนฮงลากเสียงยาวจนเซฮุนยอมแพ้ คว้ารองเท้าหนังสีดำของชานยอลและเดินปึงปังไปเคาะประตูบ้านข้างๆ 




                         คงเพราะก่อนหน้านี้เขาหวังและวางแผนเอาไว้ว่าพอย้ายไปอยู่หอกับจงอินและแบคฮยอน เขาก็คงลอยตัว ไม่ต้องพบปะพูดคุยอะไรกับชานยอลอีก พอต้องมีเรื่องให้มาเคาะประตูแบบนี้ เซฮุนถึงรู้สึกหงุดหงิดใจที่ต้องเจอหน้า   คิดภาวนาอยู่ในใจให้คนที่มาเปิดประตูเป็นคุณนายปาร์ค แต่ดูเหมือนคำภาวนาของเซฮุนไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่



                    "แม่ให้เอารองเท้ามาคืน" พอเปิดประตู วินาทีที่สบตาคนอายุน้อยกว่า ชานยอลก็นึกรู้อยู่แล้วว่าเซฮุนจะต้องโกรธ พอยัดรองเท้าใส่มือเขา ก็ปึงปังทำท่าจะกลับบ้านจนต้องคว้าข้อมือของคนอายุน้อยกว่าเอาไว้แล้วข่มอารมณ์เคืองขุ่นถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ



                    "เซฮุน โกรธอะไรพี่" อันที่จริงชานยอลรู้คำตอบดีอยู่แล้วล่ะ ก็เมื่อคืนเขากับเซฮุนเพิ่งจะทะเลาะกันเสร็จไปหมาดๆ



                  "ไม่ได้โกรธ ไม่ต้องมาจับ"



                 "ไม่จับก็เดินหนีอีก" ยิ่งเซฮุนพยายามจะบิดข้อมือหนี ชานยอลก็ยิ่งกำรอบข้อมือของคนตัวบางแน่นกว่าเก่า ท่าทางเหมือนจิ้งจอกจอมพยศของเซฮุน ไม่ว่านานแค่ไหนก็ไม่เคยเปลี่ยนเลย ไม่เคยยอมฟังหรือพูดคุยกันให้รู้เรื่อง รังแต่จะดื้อจะหนีท่าเดียว



                 "ไม่เคยรักกันแล้วจะมารั้งทำไม ผมจะกลับบ้าน"



                 "ก็แล้วแค่รักแบบแฟนไม่ได้ จำเป็นมั้ยที่ต้องเกลียดกัน" ชานยอลเองก็เริ่มเอะอะ เขาโมโหพอได้ฟังคำที่เซฮุนพูดขึ้นมาแบบนั้น มันไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาและเซฮุนทะเลาะกันเรื่องนี้ และมันก็ทำให้ชานยอลอารมณ์ขึ้น ถ้าต้องมาหมางใจกันด้วยเรื่องเดิมคือการที่เขาตอบรับความรักฉันท์ชู้สาวที่เซฮุนพยายามจะสื่อถึงไม่ได้



                "จะเกลียดหรือจะรักมันก็เรื่องของผม ไม่ต้องมายุ่ง"



                "เซฮุนเป็นน้องที่พี่สนิทมาตั้งแต่เด็กๆนะ  เราเป็นพี่น้องกัน จะไม่ให้พี่ยุ่งได้ยังไง"



                 เซฮุนแสยะยิ้มน่าเกลียดตอนที่ฟังคำว่าพี่น้องจากชานยอล ใช้เล็บมืออีกข้างจิกชานยอลให้ปล่อยข้อมือตัวเองแล้วพูดช้าๆชัดๆทีละคำ



                 "ผมพูดตอนไหนว่าอยากจะเป็นพี่น้องอะไรนั่น" เซฮุนดึงข้อมือตัวเองให้พ้นจากการเกาะกุม และคนที่กำลังนิ่งอึ้งเพราะคำพูดของคนตรงหน้าก็ปล่อยมือของเซฮุนง่ายๆตอนที่คนอายุน้อยกว่าพูดย้ำอีกครั้ง "พี่น้องอะไร ผมไม่เป็นหรอกนะ"



                 "เซฮุน"




                "ตอนนี้พี่จะไม่รักผมก็ไม่แคร์แล้ว บอกให้ก็ได้ว่าผมกำลังจะย้ายไปอยู่หอกับแบคฮยอนจงอิน ทีนี้พอใจหรือยัง พี่จะได้ไม่ต้องเห็นหน้าผมอีกแล้วไงล่ะ"




                 เซฮุนพ่นคำพูดที่เกือบจะกลายเป็นตะคอกออกมาภายในเวลาไม่กี่วินาที แต่แววตาผิดหวังที่ฉายชัดของชานยอล และความรู้สึกเจ็บหน่วงที่หัวใจมันไม่ได้จบไปกับคำพูดเหล่านั้นเลย มันยังคงค้างนิ่งเนิ่นนาน เหมือนลูกโป่งสวรรค์ที่เผลอปล่อยให้หลุดมือและไม่สามารถจะเก็บกลับคืนมาได้



                 คำพูดของชานยอลสะท้อนอยู่ในหูตอนที่คนโตกว่าพูดคำว่าพี่น้อง แววตาโกรธขึง รอยแดงที่ข้อมือ ไหนจะความทรงจำที่เคยดีแต่บัดนี้พังยับเยินจนไม่มีใครอยากจะเก็บจะเอาอีกแล้วทั้งเขาและตัวชานยอลเอง



                เซฮุนยังคงเจ็บอยู่ เหมือนที่เคยเจ็บมาตลอด



     
    โ ป ร ด ติ ด ต า ม ต อ น ต่ อ ไ ป
    _________________________

    ถ้าพี่ชานยอลพูดอะไรได้ พี่ชานยอลคงอยากจะร้องเพลง http://youtu.be/ycb0SIvBkho
    ให้กับทุกคนที่หนีไปอยู่ทีมนีนี่กันหมด 55555555555 อย่าพึ่งหนีไปทีมนีนี่กันนะคะ รอฟังพี่ชานพูดก่อน



      #พิชาน25น้องฮุน18 / #ฮุนไคDistant
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×