ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ( 18 x 25 ) - สาม : สัตว์เลี้ยงตัวแรก
Distant ( 18-25)
Chanyeol x Sehun By:ซรดจ.
สาม.
สัตว์เลี้ยงตัวแรก
[ 8-15 ]
"เซฮุน เอาหูฟังออก" เหมือนจะโดนแม่ดุเลย พูดว่าอะไรนะฟังไม่ถนัด "ทำไมเปิดเพลงเสียงดังขนาดนั้น"
เซฮุนย่นคอตอนที่แม่เอ็ดเอาแล้วชี้นิ้วคาดโทษ เด็กชายบุ้ยหน้า กดลดเสียงลงแต่ก็ยังไม่ยอมเอาหูฟังออกอย่างที่แม่ว่า ทำไมต้องเอาออกด้วยล่ะ เพลงกำลังเพราะ
เซฮุนชอบฟังเพลง ชานยอลโตแล้วก็ยุ่งอยู่ตลอด แต่เพราะว่ามีคุณเอ็มพีสามเป็นตัวประกัน ถึงชานยอลจะงานยุ่งและไม่มีเวลาให้เขาบ้าง ก็ไม่เป็นไรหรอก เจ๊าท์กันไปก็แล้วกัน
"นี่ตาชานยอลไม่น่าเอาเอ็มพีสามมาให้น้องฟังเลย แล้วดูซิ ฟังเสียงดังแบบนี้เดี๋ยวแก่ตัวไป หูเหอไม่น้ำหนวกพอดีเหรอ" เซฮุนบึนปาก แม่ขี้บ่นมากๆ สงสัยเพราะเหนื่อยกับการดูแล'จุนฮง' น้องชายวัยสามขวบที่อยู่ในช่วงกำลังซน แต่เซฮุนไม่สนใจหรอก แม่อยากจะบ่นก็บ่นได้เท่าที่อยากเลย แต่ห้ามมาเอาเอ็มพีสามไปจากเซฮุนเด็ดขาด!
"แม่ ขอไปข้างนอกนะครับ"
"ไปไหน"
"หาพี่ชานยอล"
เสียงแม่ตะโกนไล่หลังมาว่าอย่ากลับบ้านค่ำ เซฮุนพูดครับๆใส่แม่ แต่ต่อให้กลับค่ำ เขาก็ไม่ได้ไปไหนไกลเสียหน่อย แค่ไปหาพี่ชานยอลข้างๆบ้าน แล้วถ้ามันดึก เซฮุนก็แกล้งทำเป็นหลับ จะได้นอนกับพี่ชานยอลแค่นั้นเอง!
"ถ้าพี่เค้าทำการบ้านอยู่ก็อย่าเข้าไปกวนนะเซฮุน" และถึงแม่จะเตือนไว้แล้ว
"รู้แล้วครับ" แต่เซฮุนก็แค่รับคำส่งๆไปอย่างนั้นเองแหละ
"พี่ชานยอล ทำไรอยู่อ่ะ" เด็กชายโผล่พรวดเข้าไปในห้องนอนของพี่ชายโดยที่ไม่ได้เคาะประตู ดูเหมือนว่าชานยอลจะมีแขกอยู่ คงจะเป็นเพื่อนผู้หญิงที่โรงเรียน ใบหน้าหวาน ดวงตากลมโต ผมยาวตรงถึงกลางหลังสีดำขลับ
"หวัดดีฮะ ผมชื่อเซฮุน" แม้ว่าสีหน้าของทั้งชานยอลและพี่สาวคนสวยจะแปร่งๆ แปลกๆตอนที่เซฮุนโผล่พรวดเข้าไป แต่ตอนนี้เซฮุนก็เป็นเด็กดีและก็โตเป็นผู้ใหญ่พอที่จะทักทายพี่สาวอย่างมีมารยาทพร้อมทั้งแนะนำตัวและก้มหัวให้นิดๆแล้วเดินเข้ามานั่งในห้อง
พอได้เจอกับเจ้าลูกหมาพุดเดิ้ลทอยตัวจิ๋วที่น่าจะเป็นหมาของพี่สาวคนนี้ เซฮุนยิ้มจนตาหยีตอนที่ยื่นมือจะไปแตะเจ้าลูกหมา เจ้าสัตว์หน้าขนสีขาวตากลมแป๋วน่าเอ็นดูเสียจนอดทักทายไม่ได้
"หวัดดี เจ้าตัวเล็ก" แต่ไอ้ตัวจิ๋วไม่เป็นมิตรอย่างที่คิด กลับขู่แฮ่และกัดเข้าที่มือของเด็กชายทันทีที่เซฮุนยื่นมือไปแตะ แต่เซฮุนก็ยังเป็นเซฮุน แม้จะตกใจและเจ็บนิดๆ เจ้าตัวเล็กก็แค่หัวเราะแหะๆแล้วใช้ชายเสื้อยืดของตัวเองกดแผลไว้ พี่สาวไม่พูดอะไรซักคำ หน้าตาของเธอตกใจน่าดู และพี่ชานยอลก็ทำท่าทางโกรธๆ
"เซฮุน" เสียงเรียกที่ทั้งกระชากทั้งโกรธเคืองจนเหมือนตะคอกทำให้เด็กชายไม่เข้าใจ มือใหญ่ของคนที่โตกว่าบีบต้นแขนน้องชายข้างบ้านอย่างแรงจนเซฮุนรีบละล่ำละลักขอโทษ
"ผมขอโทษ" ปากอิ่มเริ่มเบะเหมือนจะร้องไห้ น้ำเสียงก็อ่อนลง ตอนนี้เด็กชายไม่เข้าใจว่าตัวเองผิดอะไรตรงไหน สิ่งที่เซฮุนรู้คือ ชานยอลโกรธเอามากๆ "ผมแค่จะเล่นกับมัน"
"พูดมากกลับบ้านไปเลยไป"
[ 18-25 ]
"คณะกู เขานัดรวมเด็กปี1วันพรุ่งนี้นะ แล้วของนิเทศนัดวันไหน" แบคฮยอนวางต็อกปกกีเจ้าอร่อยร้อนๆในชามให้เซฮุน เพราะแขนเดี้ยงก็เลยไม่มีปัญญาจะออกไปซ่าที่ไหน แต่เปลี่ยนเป็นแบคฮยอนที่มาหาแทน
"อาทิตย์หน้ามั้ง" เซฮุนตอบ นอนยืดแข้งยืดขาดูฟุตบอลอย่างสบายใจ รู้สึกดีกับการแขนเดี้ยงขึ้นมาชั่วขณะ เพราะนั่นหมายถึงต่อให้มีการรับน้อง เขาก็ไม่จำเป็นต้องไปตรากตรำให้บอบช้ำฟรี
"แล้วนี่มึงมาไงเนี่ย ขโมยรถแม่มาเหรอ" ตักต็อกปกกีชีสใส่ปากเคี้ยวหยับๆแล้วถามเพื่อนสนิท พอพูดถึงรถแม่แบคฮยอนก็ทำหน้าบอกบุญไม่รับใส่แทบจะทันที
"เมื่อวานนี้กูขับรถชนคนด้วยนะ"
"ห้ะ" เซฮุนตาโต
"แต่คนไม่เป็นไร" พูดจบก็ทำหน้าบู้ใส่จนเซฮุนสงสัย อันที่จริงมันก็ควรเป็นเรื่องน่าดีใจไม่ใช่หรือไงที่ไม่มีใครบาดเจ็บ แต่ทำไมก็ไม่รู้สีหน้าของแบคฮยอนมันถึงได้ดูโกรธเกลียดเคียดแค้นเหมือนมีประกายไฟลุกโชนอยู่ในลูกตา
"แล้วไงต่อ"
"ก็คนอะ ไม่เป็นไร แต่รถแม่กูเนี่ยดิ" แบคฮยอนขยี้ผมตัวเอง พอนึกถึงหน้าเด็กผู้ชายตากลมที่ท่าทางเลิ่กลั่กคนนั้นแล้วก็ยังโกรธตัวเองไม่หาย มัวแต่ห่วงเขาจนไม่ทันได้คิด จนเด็กคนนั้นคล้อยหลังไปแล้วถึงได้มาเห็นสภาพรถตัวเอง
"ชนแล้วหนีว่างั้น"
"เออดิ อย่าให้เจอนะมึง.." แบคฮยอนมั่นใจว่าเขาจะต้องจำหน้าคนๆนั้นได้แม่นแน่ ถ้าได้เจออีกครั้ง สาบานได้เลยว่าเขาจะไม่เผลอปล่อยให้คนตาเศร้านั่นชิ่งเป็นรอบที่สองแน่ๆ
"เซฮุน ซื้อไก่ทอดมาฝาก"
เสียงเคาะประตูแค่พอเป็นพิธี ก่อนที่บุคคลที่สามของวงสนทนาจะชะโงกหน้าเข้ามา พอเห็นว่าแบคฮยอนนั่งอยู่ด้วยก็เอ่ยขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ แต่เซฮุนก็ไม่ได้ตอบรับอะไร เพียงแค่พยักเพยิดให้แบคฮยอนเอาหยิบถุงไก่ทอดจากมือชานยอลมาเท่านั้น
"เดี๋ยวพี่ไปทำงานละนะ"
"อือ..แล้ว..คืนนี้จะมานอนมั้ย" พยักหน้าหงึกหงักแล้วก็อดถามออกไปไม่ได้ ตากลมมองไปที่คนแก่กว่าอย่างหาคำตอบ พี่ชายข้างบ้านพยักหน้าหน่อยๆ ก่อนจะเดินออกจากบ้านไป แค่เพียงชานยอลคล้อยหลัง แบคฮยอนก็ตั้งคำถาม
"พี่ข้างบ้านมึงนี่เค้ามาค้างกะมึงด้วยเหรอ"
"ก็..อือ.. เวลาพ่อแม่พี่มันไม่อยู่บ้านอะ" เซฮุนแสร้งทำเป็นดูดชานมไข่มุกเหมือนเรื่องที่เขากำลังสนทนากับแบคฮยอนเป็นเรื่องปกติธรรมดา ไม่ได้มีความน่าตื่นตกใจอะไรขนาดนั้นเสียหน่อย
"ยังกะแฟนกัน"
"ก็เปล่านี่ พี่น้องกัน" ทำหน้ามึนๆตอนที่ตอบแบคฮยอนออกไป เซฮุนหลบสายตา ไม่กล้าจะพูดกับแบคฮยอนตรงๆด้วยซ้ำ ก็เพราะมันไม่บริสุทธิ์ใจ และเซฮุนก็โกหกไม่เก่งเลย
"ให้มันแน่เหอะ มีคนเค้าแอบชอบมึงอยู่ ระวังจะทำเค้าอกหักโดยไม่รู้ตัว"
"ใครวะ"
"ไม่รู้จริงหรือแกล้งโง่" ดูแบคฮยอนถามเข้าสิ เซฮุนขมวดคิ้ว พยายามจะเดาแต่ก็เดาไม่ออก อันที่จริงไม่ว่าจะอะไรที่เขาทำ ทั้งฟังเพลง ดูหนัง กิน เที่ยวเล่น เขาก็ทำมันพร้อมๆกับเพื่อนสนิททั้งสองคน เซฮุนไม่ใช่คนสังคมจ๋า แม้จะเข้าถึงได้ง่าย แต่สนิทกับคนยาก เขาถึงคิดไม่ออกว่าจะเป็นใครไปได้
"โง่จริง ไม่ได้แกล้ง" ทำหน้าเซ็งใส่อวดให้ดูเลยว่าไม่รู้จริงๆ "รีบบอกดิวะ อย่าลีลา"
"ก็...." แบคฮยอนเว้นแล้วเหล่มอง ทำท่าทำทางน่าหมั่นไส้เหมือนคนมีภูมิรู้ เซฮุนรู้สึกเหมือนในหัวใจมีเสียงกลองรัวเป็นจังหวะระทึกใจคล้ายตอนที่ผู้เข้าประกวดนางงามรอฟังผลการประกาศว่าใครจะได้รับรางวัลเป็นผู้ชนะ
"วันนึงเขาก็บอกมึงเองแหละ" เซฮุนรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงสวิตช์ความตื่นเต้นโดนกดปิดตอนที่ได้ยินประโยคถัดมานี้จากแบคฮยอน พึมพำบ่นพร้อมกับตั้งท่าง้างตีนจะถีบ แบคฮยอนแม่งน่าหมั่นไส้
"ขี้สปอย สัส"
"ถ้ากูเป็นเค้า กูก็อยากให้มึงได้ยินจากปากตัวเองมากกว่า" หลอกล่อด้วยคำพูดที่ดูสวยซึ้งแบบซีรีย์ไต้หวันแสนโรแมนติคจนเซฮุนคล้อยตาม พลางก็นึกถึงเรื่องของตัวเองที่จำฝังใจ..
ได้ยินคำบอกรักจากปากใครซักคนตรงๆ มันดีอย่างนั้นเหรอ
"จริงเหรอวะ"
"มึงไปบอกมันอย่างงั้นได้ไง"
"เอ๊า"
"กูไปบอกตอนไหนว่ากูอยากให้มันได้ยินจากปากกู" จงอินโอดครวญ แทบจะพุ่งมาบีบคอเพื่อนรักให้ตายคามือ แบคฮยอนทำหน้ามุ่ย ดูจงอินพูดจาเข้าสิ มันน่าแช่งให้กินแห้วจนท้องแตกตาย คนอุส่าห์จะช่วยเป็นพ่อสื่อให้แท้ๆ
"นี่อย่าบอกนะ ว่ามึงนัดกูออกมานั่งไอ้ร้านกาแฟแพงๆนี่เพราะเรื่องแค่นี้น่ะ" แบคฮยอนถอนหายใจอย่างหงุดหงิดแล้วโบกมือปัดๆตอนที่ตักเครปเค้กสีรุ้งของโปรดใส่ปาก ถ้าจงอินใช้คำว่า'เรื่องแค่นี้' แบคฮยอนไม่เป็นพ่อสื่อให้แล้วดีกว่า ช่างหัวพวกมันจะสมหวังจะผิดหวังก็ช่าง แบคฮยอนจะไม่ยุ่ง
"เออๆ ถือว่ากูมาเลี้ยงหนมละกัน"
แบคฮยอนยกแก้วโกโก้เย็นขึ้นดูดก่อนจะทอดสายตามองออกไปนอกร้าน ร้านกาแฟที่จงอินเรียกว่า 'ไอ้ร้านกาแฟแพงๆ' มันก็ไม่ได้แพงมากสำหรับแบคฮยอนหรอก ถ้าเทียบกับบรรยากาศภายในร้าน แอร์เย็นฉ่ำ ผนังปูนที่ตกแต่งเป็นพื้นผิวลักษณะคล้ายกับอิฐก่อสีอมน้ำตาล โซฟาเล็กๆเข้าคู่กันกับโต๊ะกาแฟตัวเตี้ยเรียงรายชิดริมหน้าต่างบานใหญ่ที่สามารถมองทะลุออกไปเห็นทรรศนียภาพด้านนอกร้าน มันทำให้เขามีสมาธิเวลาที่มานั่งติวหนังสือสอบกับเพื่อนๆกัน
อาจเพราะฐานะและการเติบโตที่ทำให้แบคฮยอนและเซฮุนติดหรู ติดสบายกว่าจงอิน เพื่อนรักถึงได้นั่งกอดอกทำหน้ามุ่ย บ่นกระปอดกระแปดเรื่องที่แบคฮยอนชอบพามากินร้านแพงๆทั้งที่ยังหาเงินเองไม่ได้ แบมือขอตังพ่อแม่ใช้ไปวันๆ แต่แบคฮยอนไม่ได้ตั้งใจฟังคำบ่นหรอก เพราะตอนนี้สายตาเขามันกำลังจ้องอยู่ที่ใครบางคนนอกร้านกาแฟต่างหาก
"เฮ้ย เดี๋ยวกูมา"
พูดจบก็รีบเร่งและพรวดพราดออกไปจากร้าน ไม่ให้จงอินได้หือได้อือซักคำ
"ขอโทษนะครับ คุณ" แบคฮยอนเร่งฝีเท้าตอนที่เดินตามเด็กชายในชุดเสื้อคอกลมแขนสั้นสีขาว ผมที่ตัดสั้น รวมถึงข้อศอกที่เป็นแผลนั่นมันทำให้เขาคับคล้ายคับคลาแม้จะยังไม่เห็นหน้า แต่เด็กคนนี้ก็เดินเร็วซะเหลือเกิน
"นี่ คุณ" แบคฮยอนเรียกตอนที่เดินเร็วๆจนแทบจะเปลี่ยนเป็นวิ่งเพื่อพยายามจะไล่กวดให้ทัน แต่กลายเป็นว่าพอคนๆนั้นเหลือบมองและเห็นหน้าของแบคฮยอนเข้า กลายเป็นว่าเด็กคนนั้นกลับเร่งฝีเท้ายิ่งกว่าเดิมเสียอีก
"จะหนีไปไหน" พอคว้าคอเสื้อคนตรงหน้าได้แบคฮยอนก็ถามเสียงดังจนเด็กตรงหน้าสะดุ้ง
"ค..คุณจำคนผิดแล้วครับ" เสียงตะกุกตะกัก ไหนจะดวงตากลมโตที่มีแววเศร้าเล็กๆ แบคฮยอนรู้ว่าเขาไม่ได้ทักผิดคน และก็รู้ด้วยว่าคนตรงหน้าพยายามจะโกหกเพื่อหนีความผิดแน่ๆ
"จะจำผิดได้ยังไง" มือหนาจับที่ข้อมือคนตรงหน้าแล้วชูขึ้นก่อนจะพยักเพยิดไปที่แผลบนข้อศอก "รถแม่ผมต้องทำสีใหม่ทั้งคัน จะชดใช้ยังไง"
"นี่..คือ....ถ้าเผื่อคุณยังไม่รู้" คนตรงหน้าพยายามบิดข้อมือออกระหว่างที่พูดและทำเอาแบคฮยอนฉุนกึก "ผมไม่มีตังหรอกนะ ผมยังเรียนอยู่เลย"
"เออ นี่ก็ไม่มีเหมือนกันเว้ย ยังเรียนไม่จบเหมือนกัน จะเอายังไงว่ามาเลยดีกว่า" แบคฮยอนจ้องมองคนตรงหน้าอย่างเอาเรื่อง ไหล่ที่แคบเล็กยิ่งทำให้คนตรงหน้าตัวเล็กเข้าไปใหญ่ สีหน้าตื่นตกใจตลอดเวลาก็ยิ่งทำให้แบคฮยอนรู้สึกว่าเขากำลังรังแกเด็ก
"ม..ไม่รู้....." ริมฝีปากรูปหัวใจเหมือนจะขยับพะงาบๆแต่ไร้สรรพเสียง "ไม่มีตังอะ..."
"รู้แล้วว่าไม่มีตัง" แบคฮยอนเองก็หมดคำจะพูดเหมือนกัน แถมนี่เขายังทิ้งจงอินไว้ที่ร้านทั้งที่ยังไม่ได้จ่ายเงินอีก "ชื่ออะไร"
"หะ.."
"นายน่ะชื่ออะไร"
"คยองซู"
"เรียนที่ไหน"
"มหาลัยโซล" เหมือนแจ็คพอตแตก
"ดี ผมก็มหาลัยโซล" แบคฮยอนแบมือออกมาตรงหน้า "เอาโทรศัพท์มือถือมา"
แม้ว่าเด็กคยองซูจะทำท่ายึกยักเหมือนกล้าๆกลัวๆ แต่ก็ยอมยื่นโทรศัพท์มือถือจอขาวดำรุ่นปาหัวหมามาให้แบคฮยอนแต่โดยดี แบคฮยอนกดเบอร์ยุกยิกอยู่พักนึงพอโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงดังก็กดวางแล้วยื่นโทรศัพท์ส่งคืนให้เจ้าของ
"เดี๋ยวไว้เปิดเทอมผมจะโทรไป"
"อะ...โอเคๆ.."
"เมมไว้ด้วย ผมชื่อแบคฮยอน"
พอพูดจบก็หันหลังทำท่าจะเดินกลับไปที่ร้าน แต่ก็เดินย้อนกลับมาแล้วถ่ายรูปคนตากลมไว้เป็นหลักฐานแล้วโชว์ให้เจ้าของรูปดูหน้าตัวเอง มันบูดเบี้ยวเหยเกราวกับโดนรุมตื้บมาไม่มีผิด คยองซูรู้สึกว่าตัวเองทำหน้าเหมือนคนจะร้องไห้
"ถ้าหนี ผมตามคุณถึงบ้านแน่!" ท่าทางคยองซูจะกลัวมาก และก็สร้างความสะอกสะใจให้แก่คนที่ตอนนี้ถือไพ่เหนือกว่าในฐานะเจ้าหนี้ แต่จริงๆแล้วแบคฮยอนก็ขู่ไปอย่างนั้นแหละ รู้จักบ้านซะที่ไหนล่ะ
"ปิดไฟห้องน้ำรึยัง"
"อื้ม ปิดแล้ว" สุดท้ายแม้ว่าแม่จะกลับมาแล้วแต่ชานยอลก็ยังคงตามมานอนกับเซฮุนที่ห้องของน้องอยู่ดี ก็เซฮุนน่ะนอนดิ้นจะตาย แถมหมอบอกเอาไว้ว่าห้ามให้แขนเคลื่อน ไม่งั้นมีหวังไม่ได้ถอดเฝือกออกตามกำหนดแน่ๆ
ร่างสูงโปร่งปิดสวิตช์ไฟก่อนจะเลิกผ้าห่มและทิ้งตัวลงข้างๆเด็กชายที่เติบโตมาด้วยกัน คงเพราะช่วงอายุที่แตกต่างกัน ชานยอลถึงรู้สึกว่าต่อให้ผ่านไปนานแค่ไหนเซฮุนก็ยังเป็นเด็กชายตัวเล็กๆเสมอ
"พี่ วันนี้แบคฮยอนมันบอกว่ามีคนแอบชอบผมอยู่ด้วย"
"เหรอ ใครล่ะ"
"ไม่รู้" เซฮุนค่อยๆเอียงตัวนอนตะแคงคุยกับคนข้างตัว ทำให้ชานยอลที่ทิ้งตัวนอนลงแล้วตะแคงข้างหันมาหาเซฮุน ตั้งใจฟังว่าน้องจะพูดอะไรต่อ คนอายุน้อยกว่าพูดช้าๆชัดๆทีละคำอย่างระมัดระวัง ตอนที่สบตาคนอายุมากกว่า ท่าทีเขินอายของน้องชายทำให้รอยยิ้มของชานยอลหายไปจากใบหน้า
"แบคฮยอนมันบอกว่า คงดีกว่าถ้าเราได้รู้จากปากคนที่ชอบเราเอง .. ว่าเราชอบเค้า"
"ไร้สาระน่าเซฮุน" เป็นชานยอลที่หลบสายตาและจัดท่าทางให้คนอายุน้อยกว่านอนหงายและวางแขนข้างที่เจ็บกับหมอนข้าง แต่เซฮุนใช้มืออีกข้างจับข้อมือชานยอลเอาไว้และย้ำสิ่งที่ตัวเองรู้สึกให้คนตรงหน้าได้ฟังอีกครั้ง
"พี่.. ผมชอบพี่จริงๆนะ"
"เซฮุน พี่บอกแล้วไงว่าให้เลิกพูดแบบนี้" ชานยอลผุดตัวลุกขึ้นนั่ง แม้ภายในห้องจะไม่สว่างนักแต่เซฮุนก็เดาสีหน้าของคนอายุมากกว่าออก
"พี่เคยบอกไปแล้ว ว่าเซฮุนยังเด็กเกินไป" น้ำหนักที่ยวบลงตอนที่ชานยอลลุกจากที่นอนทำเอาเซฮุนน้ำตาไหล แม้จะอยากพูดอะไรต่อก็พูดไม่ออก มีแต่ชานยอลที่พูดทุกอย่างโดยไม่ยอมฟังเขาเลย "อย่าทำแบบที่เคยทำเลย พี่ขอร้อง"
คนที่กระแทกประตูห้องก่อนจะเดินลงชั้นล่างและออกจากบ้านของเซฮุนไปทางประตูหน้าทำให้เด็กชายอดลุกไปเปิดหน้าต่างมองคนตัวสูงเดินเท้าเปล่าลัดสวนกลับเข้าบ้านตัวเองไม่ได้ ตากลมมองพี่ชายข้างบ้านเดินจากไปจนลับสายตา ฟันคมกัดริมฝีปากเต่งจนเจ็บไปหมด
นี่ไงล่ะ.. ผลของการที่บอกให้คนที่ชอบรู้ตรงๆด้วยปากของตัวเอง
มันทำให้เซฮุนเจ็บปวดซ้ำแล้วซ้ำเล่าเมื่ออีกคนไม่เคยส่งความรู้สึกอะไรกลับมาเลยนอกจากความเฉยชา
[ 8-15 ]
"แม่ เซฮุนอยากเลี้ยงหมา" เด็กชายพูดกับคุณแม่ที่กำลังง่วนกับการเตรียมอาหารให้น้องชายกินเป็นมื้อเย็น เมื่อหญิงสาวไม่หันกลับมามอง เซฮุนจึงเดินไปหาคุณแม่และดึงชายผ้ากันเปื้อนให้หญิงสาวหันมามองหน้า
"ทำไมจู่ๆถึงอยากเลี้ยงหมาล่ะลูก เราพึ่งโดนหมาของแฟนพี่ชานยอลกัดเอาไม่ใช่เหรอ" เสียงคนเป็นแม่เอ่ยถามอย่างใจดีตอนที่ย่อตัวลงนั่งคุกเข่าให้อยู่ระดับเดียวกับเด็กชาย เซฮุนทำตาโต
"แฟนเหรอฮะ" ดวงตากลมหลุบลงต่ำก่อนจะช้อนมองมารดาอีกครั้ง แววตาวิ้งๆเป็นประกายเหมือนลูกหมาอ้อนขอขนม "งั้นขอเซฮุนเลี้ยงหมานะๆๆๆ นะแม่นะ"
คนเป็นแม่เห็นลูกร้องงอแงก็ทนไม่ได้นาน สุดท้ายก็ยอมสัญญาว่าจะพาไปเลือกซื้อน้องหมาน่ารักๆมาอยู่เป็นเพื่อนเล่นกับเซฮุน และนั่นก็คือสัตว์เลี้ยงตัวแรกของเด็กชาย
เซฮุนเคยคิดว่าชานยอลไม่ยอมเล่นกับเขาเพราะว่าเขาไม่มีลูกหมาเหมือนพี่สาวคนนั้น แต่จนแล้วจนรอด ต่อให้เค้าพาเจ้า 'ลัคกี้' ลูกหมาไซบีเรียนฮัสกี้วัย2เดือนไปหาชานยอลที่บ้าน แต่สุดท้ายเซฮุนก็โดนพี่ชายข้างบ้านไล่ตะเพิดออกจากห้องอยู่ดี
เพราะช่วงวัยหัวเลี้ยวหัวตอของคนที่โตกว่า สุดท้ายชานยอลก็ห่างออกไปไกลจนเซฮุนไม่สามารถวิ่งตามพี่ชายได้ทัน ในขณะที่ชานยอลเริ่มเติบโตและเจอกับสังคมใหม่ๆ มีเพื่อน มีแฟน แต่สังคมของเซฮุนกลับไม่ได้ขยับขยายใหญ่โตเช่นชานยอล มันเป็นครั้งแรกที่เซฮุนตัดสินใจว่าเขาควรจะถอยห่างจากพี่ชายและไปใช้ชีวิตของตัวเองเสียที
ไม่ถึงครึ่งปีเจ้าลัคกี้ก็จากเซฮุนไปเพราะป่วย และจากวันนั้นมันก็ทำให้เขาไม่กล้าที่จะเลี้ยงหรือดูแลอะไรอีกเลยเพราะกลัวว่าสุดท้ายสิ่งที่เขาพยายามดูแลจะมีจุดจบเหมือนเจ้าลัคกี้อีก
นั่นนับเป็นความเจ็บปวดเพราะการยึดติดครั้งแรกของเด็กชายวัยประถมอย่างเซฮุน
"ทำไมจู่ๆถึงอยากเลี้ยงหมาล่ะลูก เราพึ่งโดนหมาของแฟนพี่ชานยอลกัดเอาไม่ใช่เหรอ" เสียงคนเป็นแม่เอ่ยถามอย่างใจดีตอนที่ย่อตัวลงนั่งคุกเข่าให้อยู่ระดับเดียวกับเด็กชาย เซฮุนทำตาโต
"แฟนเหรอฮะ" ดวงตากลมหลุบลงต่ำก่อนจะช้อนมองมารดาอีกครั้ง แววตาวิ้งๆเป็นประกายเหมือนลูกหมาอ้อนขอขนม "งั้นขอเซฮุนเลี้ยงหมานะๆๆๆ นะแม่นะ"
คนเป็นแม่เห็นลูกร้องงอแงก็ทนไม่ได้นาน สุดท้ายก็ยอมสัญญาว่าจะพาไปเลือกซื้อน้องหมาน่ารักๆมาอยู่เป็นเพื่อนเล่นกับเซฮุน และนั่นก็คือสัตว์เลี้ยงตัวแรกของเด็กชาย
เซฮุนเคยคิดว่าชานยอลไม่ยอมเล่นกับเขาเพราะว่าเขาไม่มีลูกหมาเหมือนพี่สาวคนนั้น แต่จนแล้วจนรอด ต่อให้เค้าพาเจ้า 'ลัคกี้' ลูกหมาไซบีเรียนฮัสกี้วัย2เดือนไปหาชานยอลที่บ้าน แต่สุดท้ายเซฮุนก็โดนพี่ชายข้างบ้านไล่ตะเพิดออกจากห้องอยู่ดี
เพราะช่วงวัยหัวเลี้ยวหัวตอของคนที่โตกว่า สุดท้ายชานยอลก็ห่างออกไปไกลจนเซฮุนไม่สามารถวิ่งตามพี่ชายได้ทัน ในขณะที่ชานยอลเริ่มเติบโตและเจอกับสังคมใหม่ๆ มีเพื่อน มีแฟน แต่สังคมของเซฮุนกลับไม่ได้ขยับขยายใหญ่โตเช่นชานยอล มันเป็นครั้งแรกที่เซฮุนตัดสินใจว่าเขาควรจะถอยห่างจากพี่ชายและไปใช้ชีวิตของตัวเองเสียที
ไม่ถึงครึ่งปีเจ้าลัคกี้ก็จากเซฮุนไปเพราะป่วย และจากวันนั้นมันก็ทำให้เขาไม่กล้าที่จะเลี้ยงหรือดูแลอะไรอีกเลยเพราะกลัวว่าสุดท้ายสิ่งที่เขาพยายามดูแลจะมีจุดจบเหมือนเจ้าลัคกี้อีก
นั่นนับเป็นความเจ็บปวดเพราะการยึดติดครั้งแรกของเด็กชายวัยประถมอย่างเซฮุน
ติ ด ต า ม ต่ อ ต อ น ห น้ า
_________________________
แท็ก : #พิชาน25น้องฮุน18
ทอล์คแป้บ: ฮือ อย่าพึ่งสาป มันเขียนยากจริงๆ ก็เลยมาต่อช้า วันนี้นั่งเขียนตลอดบ่ายเลย ก็ยังไปไหนไม่เยอะ เลยต้องออกไปนั่งกินไปติมที่บิ๊กซีแล้วกลับมาเขียนต่อ55555555555 พยายามส่งอารมณ์ไปให้ถึงตามที่คิดไว้ให้ได้
เส้นเรื่องจากนี้จะเนื้อหาค่อนข้างละเอียด อยากให้ค่อยๆอ่านและเทียบเคียงช่วงอายุของตัวละครนะ
จริงๆแล้วเรื่องนี้มันค่อนข้างดราม่า แต่อย่าพึ่งด่าชานยอลในตอนนี้ นี่พึ่งEP3เองค่ะคุณณณณณ
_________________________
แท็ก : #พิชาน25น้องฮุน18
ทอล์คแป้บ: ฮือ อย่าพึ่งสาป มันเขียนยากจริงๆ ก็เลยมาต่อช้า วันนี้นั่งเขียนตลอดบ่ายเลย ก็ยังไปไหนไม่เยอะ เลยต้องออกไปนั่งกินไปติมที่บิ๊กซีแล้วกลับมาเขียนต่อ55555555555 พยายามส่งอารมณ์ไปให้ถึงตามที่คิดไว้ให้ได้
เส้นเรื่องจากนี้จะเนื้อหาค่อนข้างละเอียด อยากให้ค่อยๆอ่านและเทียบเคียงช่วงอายุของตัวละครนะ
จริงๆแล้วเรื่องนี้มันค่อนข้างดราม่า แต่อย่าพึ่งด่าชานยอลในตอนนี้ นี่พึ่งEP3เองค่ะคุณณณณณ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น