ลำดับตอนที่ #20
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : 18-1 : เล่าเรื่องจินฮวาน (ตอนที่3) เมื่อเราใกล้เกินกว่าที่จะพูดคำใดใดออกไป
18/1
เล่าเรื่องจินฮวาน (ตอนที่3)
เมื่อเราใกล้เกินกว่าที่จะพูดคำใดใดออกไป
ผมบอกมาตั้งนานแล้วครับว่าผมเป็นคนโง่
ผมรู้ตัวครับว่าผมโง่ ไม่ต้องตอกย้ำกันก็ได้หน่า แต่เอาเป็นว่าในที่สุดผมก็รู้แล้วก็แล้วกันครับว่าสิ่งที่ผมรู้สึกกับจินฮวานมันคือความรู้สึกแบบคนรัก ไม่ใช่ความรักแบบพี่น้อง แบบคนข้างบ้านบ้าบออะไรทั้งนั้น
แต่ก่อนอื่นเลยนะครับ ผมว่าผมควรง้อจินฮวานก่อน เพราะผมทนไม่ได้จริงๆครับที่โดนจินฮวานวีนแตกใส่แบบเมื่อบ่าย
พอโดยอนสะบัดตูดจากไป ผมก็นั่งอยู่ในห้องชมรมจนกระทั่งเกือบจะถึงเวลาเลิกเรียนครับ ปกติแล้วช่วงใกล้จะหมดคาบสุดท้าย พวกน้องที่ไม่มีเรียนอาจจะแวะเข้ามาที่ชมรม ดังนั้นผมก็เลยชิ่งออกมาก่อน และเตร็ดเตร่อยู่แถวที่จอดรถมอไซค์เพื่อรอเวลาเลิกเรียน
หลังจากออดเลิกเรียนดัง ผมก็พุ่งกลับบ้านเลยครับ คิดว่าจินฮวานยังไงก็คงกลับบ้านที่หลังผมอยู่แล้ว ผมก็เลยกลับบ้านไวหน่อย แวะซื้อขนมเจ้าอร่อยไปฝากแม่ครับ จากนั้นก็นั่งคอยจินฮวานอยู่หน้าบ้าน แต่จนแล้วจนรอดยัยหมวยก็ยังไม่มาสักที สงสัยจะไปกินข้าวกับชาวแก๊งอยู่
ผมนั่งคอยไปก็พลางคิดถึงเรื่องตอนเด็กๆไปด้วย จินฮวานเนี่ยอายุมากกว่าผมหลายปีอยู่เหมือนกันครับ แต่ผมไม่เคยเรียกจินฮวานว่าพี่เลย ทั้งที่คนรอบตัวผมเรียกเขาว่าพี่กันหมด ส่วนผมก็เรียกเขาว่าหมวยเพราะตาหยีๆและผิวขาวๆของเขาครับ เรียกแต่คำนี้มาตลอดจนชินปาก
ไม่เคยครุ่นคริสถึงเรื่องราวอีกด้านนึงเลยว่าจริงๆเขาอาจจะไม่ชอบให้ผมเรียกว่าหมวยก็ได้ครับ เขาอาจจะอยากให้ผมพูดเพราะๆแบบมีหางเสียงแล้วก็เรียกเขาว่าพี่เหมือนที่คนอื่นเรียกกัน
แต่ผมก็ไม่ได้อยากเป็นคนอื่นนี่ครับ!!
ใครเขาเรียกคนที่อยากจะคบเป็นแฟนว่าพี่กัน!!
ระหว่างที่ผมกำลังเถียงกับตัวเองในใจ เสียงรถยนต์ก็ดังมาแต่ไกล มาจอดเทียบหน้าบ้านจินฮวานครับ ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นไอ้มินโฮขวัญใจคนใหม่ของยัยตัวแสบนี่เอง หมวยนะหมวย สเน่ห์แรงจริงๆ
"พี่ไปกับมันมาเหรอ"
ผมเอ่ยทักด้วยเสียงขุ่นๆหลังจากที่รถของพี่มินโฮดำนั่นไปแล้ว และเดินเข้าไปใกล้ๆเพื่อคุยกับหมวยครับ หมวยดูตกใจนิดหน่อยที่ผมเรียกเขาว่าพี่ แต่ก็ยอมตอบกลับแบบเบาๆ
"อือ กินข้าว..." ผมกำลังจะเซ็งแล้วแหละครับ แต่จินฮวานก็พูดต่อ "กับพวกลีดคนอื่นด้วย" หมวยทำเสียงหงอยๆใส่ครับ ดูอ่อนลงจากเมื่อตอนกลางวันนิดหน่อย แล้วก็ทำเสียงแข็งขึ้นมาอีกทีเหมือนพึ่งนึกได้ว่าต้องคีปลุคกราดเกรี้ยว
"แล้วนี่มายืนรอเราทำไม มีไร"
จินฮวานไล่เบี้ย ถามแบบเค้นจะเอาคำตอบครับ ดีนะเนี่ยที่เขาไม่รู้ว่าผมรอมาตั้งแต่เลิกเรียน ไม่งั้นโดนล้อแน่ๆ
"เปล่า.." ว่าแล้วก็ลืมไปเลยครับว่าต้องพูดเพราะๆ "..เปล่าครับ ผมแค่...."
บรึ๋ยๆยังไงไม่รู้ที่ต้องเรียกจินฮวานว่าพี่แล้วแทนตัวว่าผม แต่ทำไงได้อะครับ เขาไม่ชอบให้ผมพูดคำหยาบอะ เดี๋ยวเขาก็โกรธผมอีก หาว่าผมกวนตีน
"แค่อะไร"
"แค่อยากจะขอโทษ..."
ผมกระซิบเบาๆ แต่มันดึกแล้วอะครับ ค่อนข้างเงียบ คุยกันแค่นี้ไม่ต้องพูดดังก็ได้ จินฮวานก็คงไม่เห็นหรอกครับว่าผมตาบวม เลยถือโอกาสจ้องลึกเข้าไปในดวงตากลมๆของจินฮวาน
เขาน่ารักมากเลยครับ
น่ารักจริงๆ
จนผมอดไม่ได้ที่จะก้มลงและช้อนคางของจินฮวานขึ้นมาเพื่อประกบริมฝีปากจูบ
มันเป็นจูบชืดๆ ที่ไม่ได้ร้อนแรง หรือวาบหวามอะไรครับ แม้ผมจะสอดลิ้นด้วย แต่ก็ไม่ได้ยายามรุกเร้ารุนแรงอะไร แค่อยากจะทำให้เรารู้สึกใกล้กันมากขึ้นเท่านั้น
เป็นจูบที่จูบเพราะจินฮวานน่ารักมากจริงๆ และผมก็อยากจะจูบเขาขึ้นมา
ผมอาจจะโง่เรื่องวิชาการ แต่เรื่องแบบนี้ผมฉลาดนะครับ
พอถอนริมฝีปากออก จินฮวานก็กะพริบตาปริบๆ จ้องหน้าผมใหญ่เลยครับ เราอยู่ใกล้กันมาจนสามารถนับได้เลยด้วยซ้ำว่าจินฮวานมีขนตากี่เส้น
"ก...แก...ก....ร...เรา...." จินฮวานตะกุกตะกักและทำปากพะงาบๆใส่ผมครับ ดูน่ารักมาก เพราะเหมือนเขาจะสติหลุดไปเรียบร้อยแล้ว
ผมตั้งใจจะใช้จูบนี้บอกเขาครับว่าจากนี้ระหว่างผมกับเขาก็จะไม่เหมือนเดิมอีกแล้วนะครับ ผมไม่ใช่น้องชาย แล้วก็ไม่อยากจะเป็นน้องชายแล้วด้วย
"เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าผมรอหน้าบ้านนะครับ.."
ผมยิ้มให้จินฮวานนิดๆครับ แต่ตอนนี้จินฮวานจ้องหน้าผม ทำหน้าช็อคอย่างกับเห็นผีเลย
"งั้น....เรา..." จินฮวานขยับปากพะงาบๆแล้วชี้เข้าไปในบ้าน ทำท่าเก้ๆกังๆจนผมต้องกลั้นยิ้มเอาไว้ "งั้น..เดี๋ยว...เราเข้าบ้านแล้ว.."
บรรยากาศระหว่างผมกับเขามันเปลี่ยนไปจากเมื่อบ่ายแล้วอะครับ เพราะตอนนี้มันกลายเป็นฟีลเขินๆ อึกอักๆยังไงก็ไม่รู้ แต่ผมชอบมากเลยครับ ชอบเวลาจินฮวานเขินแล้วทำตัวแข็งๆกลบเกลื่อน
ยังไงก็ดีกว่าการเหวี่ยงแล้วด่าผมเหมือนเมื่อบ่ายอะครับ
"เดี๋ยวครับพี่!" พอเห็นเขาเดินหันหลังก้มหน้างุดๆเข้าบ้านไป ผมก็เลยอยากแกล้งแหย่เขากว่าเดิมอีกครับ เลยเรียกจินฮวานเอาไว้ พยายามกลั้นหัวเราะไปด้วย เพราะจินฮวานที่อยู่ตรงหน้าผม เงอะๆงะๆ เขินๆอายๆ ทำอะไรก็ดูน่ารักไปหมดเลยครับ
"อ...อะไร"
"ฝันดีนะครับ"
ผมทำเสียงหวานและยิ้มให้เขา พอพูดจบจินฮวานก็ถลึงตามองผมหน้าแดงก่ำเลยครับ
# จิ น ฮ ว า น พั น ทิ ป
วันรุ่งขึ้นผมก็ตื่นแต่เช้าแบบไม่ต้องพึ่งนาฬิกาปลุกกันเลย อารมณ์ดีแบบออกนอกหน้าจนแม่ทักเลยครับ แต่ผมอุบอิบไม่ยอมบอกอะไร หอมแก้มแกแล้วก็เผ่นแน่บออกมานั่งรอจินฮวานหน้าบ้านครับ
วันนี้นัดกันไว้แล้วว่าเดี๋ยวจะไปโรงเรียนด้วยกันครับ ก็เลยรู้สึกสดใสขึ้นมาแบบบอกไม่ถูก นั่งกดมือถือรอจินฮวานหน้าบ้านตั้งแต่ยังไม่เจ็ดโมงเลยครับ
ผมตั้งใจแต่งตัวเรียบร้อย หวีผมแบบเรียบแปล้ แล้วก็ทักทายเขาด้วยครับ ตามประสาคนมารยาทดีของพี่จินฮวาน~
"อรุณสวัสดิ์ครับพี่"
จินฮวานก็เหมือนเดิมแหละครับ แต่งตัวเหมือนเดิม ตัวสูงเท่าเดิม ชอบทำหน้าเป็นตูดเหมือนเดิม
น่ารักเหมือนเดิม
"พี่ขึ้นเป็นไหมครับ" สาบานได้ครับว่าเขาขึ้นไม่เป็น แต่ถ้าผมไปล้อว่าเขาขึ้นไม่เป็น ก็มีหวังโดนด่าอีกรอบตามระเบียบครับ ผมเลยจูงมือเขามาใกล้ๆและสอนวิธีปีนขึ้นนั่งคร่อมบิ๊กไบค์อย่างง่ายๆครับ
วันนั้นเราไปโรงเรียนด้วยกันเป็นครั้งแรกในรอบสามปี เป็นวันที่ผมมีความสุขมากเลยครับ บรรยากาศเอยอะไรเอยก็ดีขึ้น แต่ดูเหมือนว่าจะมีเรื่องผิดปกติเกิดขึ้น
และสิ่งที่มันเป็นปัญหาก็คือเจนนี่ครับ
เจนนี่เป็นแฟนคนแรกที่ผมเคยคบ แต่เธอวุ่นวายเกินไปครับ และเอาแต่ใจมาก เธอคาดหวังให้ผมเป็นแฟนที่ดีที่เธอสามารถไปอวดใครต่อใครได้ครับ แต่ผมก็ยังห่างไกลจากแฟนแบบที่เธอหวังอยู่มาก
นอกจากรู้สึกว่าเราเข้ากันไม่ได้แล้ว ผมยังรู้สึกว่า เอาเข้าจริง เจนนี่ไม่เคยชอบผมในแบบที่เป็นผมเลยครับ เธอแค่สร้างความเป็นผมในอุดมคติขึ้นมา และยายามทำให้ผมกลายเป็นแบบที่เธอต้องการ และเมื่อเราเลิกกัน เธอก็ยังคงมาวอแวและพยายามจะรีเทิร์นครับ
เป็นที่รู้กันใช่ไหมครับว่าผู้หญิงเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัว เพราะพวกเธอสามารถทำอะไรก็ได้อะครับเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่ต้องการ กรณีของเจนนี่ก็คือ เธอมาตามราวีผู้หญิงทุกคนเลยครับที่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับผม
ที่ผ่านมาผมไม่เคยจัดการอะไรจริงจัง แม้ว่าเจนจะชอบมายุ่งกับคนที่ผมคบอยู่ หรือเรียกร้องความสนใจผมด้วยวิธีต่างๆ แต่ผมก็ปล่อยผ่าน ไม่อยากจะมีเรื่อง แต่รอบนี้ดูจะหนักข้อขึ้นครับ
"กูว่ามึงกันพี่เจนออกห่างๆพี่จินฮวานดีมั้ยอ่ะ เมื่อเช้าเค้าดูไม่ค่อยพอใจนะที่พี่จินฮวานเขามาพร้อมกะมึง"
บยองกระซิบกระซาบตอนที่เรากำลังยืนฉี่โถข้างกันอยู่ในส้วมครับ ผมที่กำลังใช้สมาธิในการยิงกระต่ายอยู่ก็เลยต้องหันไปมองมันแบบเลี่ยงไม่ได้ โดยที่ในมือก็ประคองปืนใหญ่ที่กำลังยิงกระสุนน้ำลงโถฉี่อยู่ครับ
"ทำไมวะ"
"ไม่รู้ แต่กูว่าสายตาพี่เจนเวลามองพี่จินฮวานน่ากลัว"
ไอ้บยองกระซิบกระซาบ ขมวดคิ้วพลางก็ทำหน้าทำตาจริงจังจนผมเครียดไปด้วย
"เฮ่ย ไม่หรอกมั้ง อีกอย่างเจนก็เป็นผู้หญิงอะ ทำไรหมวยได้ไม่มากหรอก หมวยเตี้ยแต่ก็เป็นผู้ชายนะ"
ผมจินตนาการภาพเจนพยายามไปตบจินฮวานเหมือนที่เจนเคยตบผู้หญิงสองสามคนก่อนหน้านี้แล้วก็รู้สึกว่าไม่น่าเป็นไรครับ เพราะถึงจินฮวานจะเตี้ย แต่ก็ตัวสูงกว่าเจนอยู่ดี อีกอย่างเป็นผู้ชายด้วย สู้แรงเจนไหวอยู่แล้วครับ เว้นแต่เจนจะใช้คนอื่นเป็นเครื่องมือเพื่อมาทำอะไรจินฮวาน
แต่ผมน่าจะดูละครช่องเจ็ดมากไปเองแหละครับ เพราะสิ่งที่เจนใช้ไม่ใช่คนอื่น แต่เป็นลูกวอลเล่ย์ครับ!!
หลังจากหมดคาบแรก เราก็เรียนวิชาพละกันครับ อาจารย์ให้เราซ้อมวอลเล่ย์บอลเพื่อสอบเก็บคะแนน และระหว่างที่ผมกำลังตีบวกอัพเวลโปเกม่อนของตัวเองอยู่ ก็เกิดเสียงโวยวายกันครับเพราะเจนนี่เสิร์ฟลูกวอลเล่ย์อัดหัวจินฮวานจนจินฮวานยืนสตันท์ นิ่งแบบเอ๋อไปเลยครับ
"เดี๋ยวกูพาพี่เขาไปห้องพยาบาลเอง" พอเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ไอ้บยองก็ไวกว่าผม วิ่งเข้าไปประกบจินฮวานและพาตัวจินฮวานออกไป ทีแรกผมตั้งใจจะวิ่งตามครับ แต่นึกขึ้นได้ว่าสิ่งที่ผมควรจัดการคือเจนนี่ ผมก็เลยหันขวับไปกวาดสายตาหาเธอ แต่ผมคงทำหน้าดุไปหน่อยครับ เพราะคนอื่นในห้องเงียบกริบและนิ่งเพื่อมองผมกะเจนนี่เริ่มทะเลาะกัน
"เจนทำอะไรอ่ะ ตั้งใจจะทำอะไรกันแน่"
ผมเท้าสะเอว เดินเข้าไปใกล้เจนและถามเสียงดังฟังชัดครับ ผมรู้ว่าเจนอาย แต่ผมไม่อายนะ โดยเฉพาะการตักเตือนที่เจนนี่มาเกเรใส่จินฮวาน ผมยิ่งไม่อายเข้าไปใหญ่เลย ไม่ใช่ความผิดผมหนิครับ
"มันเป็นอุบัติเหตุอะ การเล่นกีฬามันก็พลาดกันได้ไม่ใช่เหรอ" เจนนี่จีบปากจีบคอพูด ทำหน้ามุ่ย คิ้วขมวด แต่ดูรู้เลยครับว่าไม่จริงใจ
ผมขมวดคิ้วแล้วส่ายหน้านิดๆ ไม่อยากจะเชื่อเลยครับผู้หญิงคนนี้
"อย่าให้เรารู้นะว่าเจนพยายามจะแกล้งพี่จินฮวาน เราไม่ยอมแน่"
ผมคาดโทษและหุนหันออกจากยิม เดินไปที่ห้องพยาบาลซึ่งบยองและจินฮวานล่วงหน้าไปก่อนแล้วครับ พอไปถึง อาจารย์ฟานี่ก็กำลังลูบๆหัวจินฮวานตรงท้ายทอยจุดที่โดนบอลกระแทก พลางก็ยิ้มใจดี แบบนี้ก็พอใจชื้นได้ครับว่าไม่น่าจะเป็นอะไรมาก
ไอ้บยองพยักหน้าหงึกๆเป็นเชิงเรียกว่าให้ผมเดินเข้าไปครับ ผมเลยเดินไปยืนข้างเตียงแทนที่ไอ้บยองเมื่อกี้
"พี่เป็นไงบ้าง"
จินฮวานทำหน้าเหนื่อยๆใส่ผมครับ "ก็ยังไม่ตายอะ"
"พี่ไปยืนให้เค้าแกล้งทำไม"
"ไม่ได้ยืนให้แกล้ง ก็ยืนเฉยๆ มันแค่บังเอิญน้องเค้าเสิร์ฟพลาดนิดหน่อย..." จินฮวานพูดเนือยๆ เหมือนเหนื่อยมากแล้วที่จะต่อล้อต่อเถียง นั่นทำให้ผมยิ่งหงุดหงิดเข้าไปใหญ่พอนึกถึงสีหน้าสะอกสะใจของเจนนี่และน้ำเสียงเสแสร้งที่เธอพูดกับผม
"ยัยนั่นมันชักจะมากเกินไปแล้ว"
"นายจะไปตีเจนนี่เหรอ"
จินฮวานอมยิ้มแล้วถามขึ้นมาแบบนั้น ดูเหมือนว่าจะไปฟังพวกข่าวลือที่เขาพูดกันมาจากใครสักคน ผมรู้นะว่าลับหลังผมมีข่าวลือเรื่องที่ผมทำร้ายร่างกายผู้หญิง แต่ดูน้ำหน้าผมสิครับ หน้าอย่างงี้อะนะจะตีผู้หญิง ขนาดโดยอนแทบจะข่วนหน้าผมรายวัน ผมยังไม่กล้าสู้มันเลยเหอะ
ยังไม่ทันที่ผมจะขยับปากตอบ ก็มีมวลสารเสียงดังอึกทึกและกลุ่มเกาหลีมุงหนึ่งหย่อมปรากฏขึ้นที่หน้าห้องพยาบาล สิ่งมีชีวิตหย่อมนั้นพาใครสักคนเข้ามาด้านในครับ ซึ่งฟังจากเสียงร้องไห้วีนแตกและเสียงครูฟานี่ที่เข้าไปดูอาการให้ ก็พอจับใจความได้ว่าเจนนี่เองก็โดนวอลเล่ย์กระแทกจมูกมาเหมือนกันครับ
ระหว่างที่ผมกำลังยืนอึ้งทำหน้าเป็นหมางงอยู่นั้นเอง เสียงหัวเราะหึๆของคนที่เพิ่งเดินเข้ามาใหม่ก็ทำให้ผมถึงบางอ้อ โดยอนนี่เองครับ เธอเดินกอดอกเข้ามาในห้องพยาบาล รอยยิ้มสะใจที่เคลือบไว้ด้วยลิปสติกสีแดงของเธอทำให้เธอดูเหมือนนางร้ายช่องเจ็ดเลยครับ น่ากลัวมาก
"โดยอน ฝีมือเธอใช่มั้ย" ผมเดินอ้อมเตียงไปบีบแขนเธอเพื่อเค้นเอาคำตอบ แต่เธอเบ้หน้า กดยิ้มมุมปากแล้วยักไหล่ ทำท่าทางคล้ายจะบอกว่าโนสนโนแคร์โนแยแส เปงผัวอ่อมาสั่ง ใส่ผมครับ
(เป็นผัวเหรอมาสั่ง aka เปงผัวอ่อมาสั่ง)
"นายก็ได้ยินที่เจนนี่พูด อุบัติเหตุในการเล่นกีฬามันเป็นเรื่องปกติ ใช่มั้ยคะพี่จินฮวาน" ไม่พูดเปล่า โดยอนหันไปส่งสายตาให้จินฮวานและยิ้มกรุ้มกริ่มแบบรู้กันจนจินฮวานยิ้มแป้นตอบกลับไปเลยครับ โอ้ย มันชักจะไปกันใหญ่แล้ว
ผมเลยลากข้อมือโดยอนออกมาคุยนอกห้องพยาบาล แต่ก่อนที่เธอจะออกจากห้องพยาบาลตามผมมา ยัยนี่ก็ยังไม่วายหันไปยักคิ้วหลิ่วตาทำท่าไฟท์ติ้งใส่จินฮวานคล้ายจะบอกว่า 'หนูอยู่ทีมพี่นะคะซิสสสสส'
# จิ น ฮ ว า น พั น ทิ ป
"เทอ อย่าไปยุ่งกับเจนไม่ได้เหรอวะ เลาขอ"
"อ้าวอีนี่!" โดยอนสะบัดมือผมที่จับข้อมือเธออยู่ทิ้งแล้วกอดอกยืนทิ้งสะโพกอย่างเกรี้ยวกราดโพสท่าเดียวกับ'น้องซอลเฮทเลิฟยืนรอลิฟท์'ครับ
(น้องซอลรอลิฟท์ครับ)
"มึงปกป้องอีนั่นทั้งที่นังมาระรานพี่จินฮวานนี่นะ" โดยอนเสยผมแล้วกอดอก มองผมด้วยสายตาน่ากลัวหัวจรดตีน แบบไล่สายตามองหัวจรดเท้าแล้วมองจากเท้าขึ้นมาหัว ก่อนจะใช้นิ้วชี้จิ้มหน้าผากผมจนเกือบหน้าหงายเลยครับ
"มึงอะ บริหารจัดการความฮ็อทของตัวเองดีๆซิ หวงรถมากไง แต่เสือกสองมาตรฐานให้พี่จินฮวานซ้อน แล้วเป็นไง ความซวยไม่ได้ลงที่มึงนะ แต่นู่นไปลงที่พี่เขา ลองใช้สมองที่มีน้อยนิดเนี่ย คิด-คิด-คิดซะบ้าง ว่าจะทำยังไง ไม่ให้คนอื่นต้องมาเดือดร้อนเพราะตัวเอง"
ไม่พูดเปล่า ตอนที่เธอย้ำคำว่าคิด เธอก็ใช้นิ้วจิ้มหน้าผากผมซ้ำย้ำๆลงไปตามจังหวะคำพูดด้วยครับ ขนาดแม่ผมยังไม่เคยดุผมอย่างงี้เลย
"ก็เลาควบคุมไม่ได้ป้ะวะ แล้วถ้าเจนมันมาทำอะไรเทอกลับ เทอจะทำไง แล้วเลาจะทำยังไง ถ้าเกิดอะไรขึ้นกะเทอ เรื่องเจนกะจินฮวาน เลาเคลียร์ได้ แต่เทออย่าไปแลกกะเจนไม่ได้อ่อวะ เดี๋ยวมันจะมีปัญหามากกว่านี้"
ผมพูดเพราะห่วงเธอครับ ใช่อยู่ว่าจินฮวานเป็นคนที่ผมรัก แต่โดยอนเป็นผู้หญิงครับ ถ้าทะเลาะกันแล้วก็จะไม่รู้จักจบ ไม่สามารถรู้ได้เลยครับว่าเจนนี่จะตามมาแก้แค้นหรือราวีอะไรเธอตอนไหน จริงๆผมก็ห่วงทุกคนอะครับ ไม่อยากให้มาตีกันเพราะผมเลย
การเป็นคนหน้าตาดีนี่มันวางตัวลำบากจริงๆครับ มีแต่ผู้หญิงมารักมาชอบ..
"เออ ไม่ยุ่งก็ได้" แม้โดยอนจะทำหน้าแบบ 'เปงผัวอ่อมาสั่ง'ใส่ผมอีกรอบ แต่เธอก็ดูอ่อนลงครับ ไม่เถียงแว้ดๆเหมือนตอนแรกแล้ว "แต่เมเนจชีวิตตัวเองดีๆเหอะ กูขอเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าแบบ หล่อจัง มีแต่คนมาชอบ แต่ปกป้องคนที่ตัวเองรักไม่ได้ คราวนี้อาจจะแค่วอลเล่ย์อัดหัว แล้วคราวหน้าอีกอะ ถ้าอีเจนนังไม่จบ ก็จะปล่อยให้พี่จินฮวานโดนแกล้งไปเรื่อยเหรอ ไม่โอนะยู"
ผมเองก็เห็นด้วยกับโดยอนเรื่องนี้ครับ คงต้องใช้เวลาอีกสักพักนึงแหละ ถึงจะรู้ว่าผมต้องทำไงดี
ตอนบ่ายพี่จินฮวานก็ขอลี้ภัยย้ายที่นั่งให้ไอ้บยองมานั่งข้างผมแทน แต่ผมไม่อยากนั่งข้างไอ้หัวเหม่งนี่นี่ครับ นึกว่าเรียนหนังสือข้างพระถังซัมจั๋ง ผมก็เลยโวยวาย ซึ่งแน่นอนว่าทุกอย่างก็อยู่ในสายตาของเจนนี่ครับ
พอนึกถึงคำที่โดยอนพูดเมื่อเช้า ผมก็นึกขึ้นมาได้ครับว่าถ้าผมทำตัวติดกับจินฮวานมากไป เจนนี่ก็จะไม่พอใจแล้วไปแกล้งจินฮวานอีก ก็เลยยอมนั่งแยกกับจินฮวาน จะมีแค่บางวิชาครับที่เปลี่ยนห้องเรียนแล้วนั่งโต๊ะแบบจับกลุ่ม ผมก็ถึงจะได้นั่งด้วยกันกับจินฮวานบ้าง แต่แค่นี้ก็พอใจแล้วครับ
และหลังจากคิดอยู่พักใหญ่ผมก็เลยตัดสินใจว่า ผมจะไม่มาโรงเรียนและกลับบ้านพร้อมจินฮวานอีก (แม้จะอยากมากก็ตาม) โดยตอนเช้า พี่จินฮวานจะมาเรียนพร้อมกับไอ้บยองแทนครับ
เหตุผลแรก ก็เพื่อให้เรามีระยะห่างให้จินฮวานได้ปรับตัวครับ
ตอนเย็นหลังเลิกเรียน จินฮวานมักจะไปเจอเพื่อนๆเก่า และใช้เวลาอยู่กับเพื่อนๆเหล่านั้น(รวมถึงไอ้พี่มินโฮด้วย) ซึ่งเพื่อไม่ให้จินฮวานอึดอัด ผมก็คิดว่าต้องเว้นตรงนี้ให้จินฮวานครับ
เหตุผลที่สอง เพื่อให้จินฮวานปลอดภัยจากการโดนเพ่งเล็งและหมั่นไส้จากผู้ไม่หวังดีครับ จะได้ไม่ต้องโดนใครตามมาทำร้ายร่างกายอีก
และเหตุผลที่สาม ผมพยายามไม่งอแง ไม่งี่เง่า และเคารพการตัดสินใจของจินฮวาน ก็เพื่อให้จินฮวานรู้สึกว่าผมเป็นผู้ใหญ่และให้อิสระเขามากพอในกรณีที่เราจะคบกัน
ง่อว หล่อเบย
หลังจากที่เราไม่ได้ไปเรียนพร้อมกันมาสักพัก วันนี้ก็เป็นวาระโอกาสอันดีเลยครับที่ผมจะได้ปรับความเข้าใจและพูดความรู้สึกให้จินฮวานรู้สักที
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ครับ เรากำลังจะไปทำรายงานที่อควาเรียมกัน!
ถ้ายังจำกันได้ ผมและจินฮวานโดนลงโทษให้ทำรายงานเรื่องสัตว์น้ำจืดและวิธีสืบพันธ์ครับ ผมหาข้อมูลและให้พวกเพื่อนๆในวงช่วยกันเสิร์ช สรุปว่าเราจะไปอควาเรียมในห้างที่ Coex Mall ครับ
แน่นอนว่าวันนี้ผมก็สดใสและตื่นเช้ามากจนแม่สัมผัสได้อีกเช่นเคย แม่ก็ถามผมนิดหน่อยครับว่าจะไปข้างนอกกับพี่จินฮวานเหรอ พอผมบอกว่าใช่ แม่ก็ไม่ว่าอะไรครับ บอกให้ขับรถดีๆ
เอาจริงๆผมว่าแม่ก็ต้องรู้บ้างล่ะน้าว่าผมชอบจินฮวาน ผมคิดว่าแม่รู้แน่ๆเลยครับ และถ้าวันนี้แผนบอกรักและขอพี่จินฮวานเป็นแฟนสำเร็จ ผมจะเอามาอวดแม่แบบเป็นทางการแน่นอน ผมก็เลยจุ๊บแก้มแม่เอาฤกษ์เอาชัยและมานั่งรอจินฮวานหน้าบ้านเหมือนเช่นเคยครับ
จินฮวานอาบน้ำแต่งตัวช้า เป็นนิสัยที่คงเดิมมาหลายปีจนผมชิน ก็นั่งเล่นเกมรอจนจินฮวานออกมาครับ พอเขาเห็นว่าวันนี้ผมขี่ฮอนด้าเวฟ สีหน้าจินฮวานก็ดูโล่งใจอย่างเห็นได้ชัดครับ น่าจะเพราะไม่ต้องปีนขึ้นไปนั่ง มันลำบากแล้วก็สูงด้วยครับเวลานั่งบิ๊กไบค์
ไม่นานพวกเราก็ถึง Coex Mall ที่ผมแอบมาดูลาดเลากับไอ้ซึงชอลแล้วเมื่อวันก่อนครับ แถวๆหน้าอควาเรียมจะมีแมคโดนัลด์ ซึงชอลวางแผนให้ว่า ให้ผมกินอะไรกับจินฮวานในแมคซะก่อน แล้วค่อยเข้าไปดูปลาข้างใน ผมจะจูบจินฮวานตรงโดมที่เป็นกระจกครอบทางเดิน แบ็คกราวด์ก็จะเป็นปลาว่ายเป็นสักขีพยานครับ ดูเป็นอะไรที่โรแมนติคมาก แค่คิดก็เริ่มตื่นเต้นจนเหงื่อออกมือแล้วครับ
"พี่ ไปรอที่แมคโดนัลด์ก่อนได้ไหม....." จินฮวานหันมามองตาแข็งเลยครับ ผมเลยพูดต่อท้ายให้สุภาพตามที่จินฮวานชอบ "....ครับ"
"จริงๆแล้ว.. แกเรียกเราเหมือนเดิมก็ได้นะ"
"ครับ??" อเมซิ่งโคเรียรัสเซียและเมโสโปเตเมียมากครับ ถ้าผมฟังไม่ผิด จินฮวานกำลังบอกว่า ให้ผมเรียกเขาว่าหมวยเหมือนเดิมได้ใช่ไหมนะ
"หมายถึง...อยากเรียกเราว่าหมวยเหมือนเดิมก็ได้..."
โห...ใจมาครับ ใจมา
จังหวะนี้มันใช่มาก
จินฮวานเกาต้นคอนิดๆแล้วอุบอิบพูดต่อไม่เต็มเสียง รอยยิ้มเขินๆ แก้มใสๆ กับตาขีดๆตอนที่พูดงุบงิบมันน่ารักจนผมมองไปก็ยิ้มไป
"เราก็ไม่ได้ว่าอะไรแก...แต่ก็อย่าดื้อกับเรา " พูดจบเขาก็ช้อนตามองผมงอนๆคล้ายจะถามว่า 'เข้าใจมั้ย!!'
ไม่ต้องเดาเลยใช่ไหมครับ ผมนี่แทบก้มกราบ คลานเข่าเข้าหาเลย
ในที่สุดผมก็สามารถทวงคืนบรรยากาศซีรีย์เกาหลี การ์ตูนตาหวาน หนังรักโรแมนติคระหว่างเราสองคนกลับคืนมาได้แล้วครับ
เสียงสดใสทันที "งั้นหมวยไปรอเค้าในห้างก่อนก็ได้ เดี๋ยวเค้าตามไป"
คือผมว่าจะไปดูดบุหรี่ดับความตื่นเต้นฟุ้งซ่านสักหน่อยนะครับ แต่ก็ไม่อยากให้เขามาดมควันหรือเห็นผมตอนที่สูบบุหรี่ รู้สึกว่าเป็นภาพที่ไม่น่ามองเท่าไหร่
"แล้วจะไปไหน"
อืม แต่เหมือนพี่เขาจะได้ยินความคิดผมครับ หรือว่าผมคิดดังเกินไปก็ไม่รู้
"แฮ่ๆ" ผมยิ้มนำไปก่อนแล้วชูซองบุหรี่ในมือให้จินฮวานดูแบบทำผิดต้องยอมรับผิดครับ "ไปดูดบุหรี่อะ"
จินฮวานกลอกตา ทำท่าเหมือนจะด่าแต่ก็อึ๊บไว้ ผมเลยชิ่งเดินหนีหลบมาอีกทาง แต่ SHIT! จินฮวานเดินตามครับ
"ไปด้วยดิ่"
เฮ้ย!!
"ตามมาทำไม!!.......ครับ" จินฮวานหน้าหงิกเป็นตีนเลยครับ ผมเลยยังคงคอนเซ็ปท์พูดเพราะเอาไว้ก่อนเพื่อให้จินฮวานไม่เกรี้ยวกราดครับ แต่จินฮวานก็ตะเบ็งเสียงใส่ผมกลับมาอย่างหงุดหงิด
"ไม่เต็มใจก็ไม่ต้องครับปะ!"
เอ้อ! อนุญาตเว้ย
"โอเค งั้นค่อยง่ายขึ้นหน่อย" พอเขาบอกว่าไม่ต้องพูดเพราะผมก็เลยยอมตามใจครับ กลับมาพูดแบบเป็นกันเองเหมือนเดิมและจุดบุหรี่สูบ เห็นมั้ยครับว่าผมเป็นเด็กดีขนาดไหน เชื่อฟังจินฮวานที่สุดในโลกใบนี้แล้วผมอ่ะ
จินฮวานเท้าคางมองแล้วก็ถามเสียงยานคางครับ ทำหน้าตาเหมือนทหารฝ่ายเกาหลีเหนือกำลังปรับทัศนคติผมอย่างนั้นแหละครับ ผมนี่เกร็งไปหมด
"เริ่มสูบบุหรี่ตั้งแต่เมื่อไหร่"
"ก็... ประมาณม.สามอะ" พอตอบตามจริงไป เขาถลึงตามองผมเหมือนจะฆ่าเลยครับ คือความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย แต่ถ้าผมพูดความจริงมากเกินไปก็อาจจะทำให้ผมตายได้ครับ ผมเลยรีบพูดต่อ "ก็มันเครียดอะ"
"ก็ไม่ได้ว่าอะไร" จินฮวานถอนหายใจแบบหงุดหงิดเพราะผมคงไม่ได้ดั่งใจเขาน่ะครับ...ก็ตอนนี้ผมไม่ใช่น้องรักเขาแล้วนี่ครับ "เมื่อก่อนเวลาเครียดก็อ่านการ์ตูนไม่ใช่เหรอ"
"ก็อ่าน เดี๋ยวนี้ก็ยังอ่าน แต่มันช่วยได้ไม่เยอะขนาดนั้น"
จินฮวานขมวดคิ้วแล้วเอื้อมมือมาจับผมของผม เป็นวินาทีสั้นๆที่จินฮวานแตะผมหน้าม้าแห้งๆของผม วินาทีนั้นผมอยากจะย้อนเวลากลับบ้านไปทำทรีตเม้นท์มากเลยครับ นี่มันเป็นโมเม้นที่ใกล้ชิดและฟัคอัพที่สุดในชีวิตเลยครับ
"ตัวแค่นี้เรื่องเครียดไรเยอะแยะขนาดนั้นวะ ห้ะ" แต่จินฮวานก็ดูห่วงใยผมตอนที่ถามคำถามออกมาครับ คงไม่มานั่งสนใจหรอกว่าเส้นผมของผมมันแตกปลาย ว่าแต่ทำไมย่อหน้านี้มีคำว่าผมเยอะจังเลยครับ พูดเองก็งงเอง
ระหว่างที่ผม(จุนฮเว)กำลังสับสนกับคำว่าผมผมและผมผมผมอยู่นั้น จินฮวานก็ชักมือกลับเหมือนนึกได้ครับว่าไม่ควรจับผม(บนหัว)ของผม(จุนฮเว)แบบนี้ เราเงียบกันไปนิดหน่อยครับ ผมนึกคำถามที่เขาถาม แล้วก็ตอบอย่างระมัดระวังออกไป
"มันก็หลายอย่างนะ"
พูดถึงเรื่องเครียด มันก็มีหลายอย่างเลยครับ..
ตั้งแต่พี่เขาไม่อยู่
"แต่ไม่เป็นไรหรอก ก็ผ่านมาได้ทุกครั้ง"
แต่เพื่อไม่ให้ดราม่าไปกว่านี้ผมก็เลยพยายามทำเสียงสดใส(แบบไม่จริง) และลุกขึ้นยืนครับ บุหรี่หมดมวนพอดี และผมก็รู้สึกว่าบทสนทนาระหว่างผมกับจินฮวานเดินทางมาถึงช่วงเดดแอร์แล้วเช่นกัน เพราะงั้นเราควรเข้าไปในห้างกันดีกว่าครับจะได้ไม่เจื่อน
"ปะ ทำงานกัน จะได้รีบกลับบ้าน"
จินฮวานทำหน้าเหมือนจะพูดอะไรแต่ก็ไม่ได้พูดออกมา ผมยื่นลูกอมให้แต่เขาก็ปฏิเสธครับ
ถึงเริ่มต้นจะกร่อยๆ แต่ผมมั่นใจว่าจะต้องเป็นต้นร้ายปลายดีแน่นอนครับ! วันนี้แหละที่ผมจะได้บอกรักจินฮวานสักที!!!
กูจุนฮเวไฟ๊ท์ติ้ง!!
กลับมาอัพอีกครั้งกับวันสุกผู้กำลังซ่อมบ้านและจุนฮเวคนโง่ของทุกคน
อย่างที่รู้กันว่าบ้านไฟไหม้ ตอนนี้กำลังซ่อมบ้านค่ะ ที่นอนทุกวันนี้คือแมนชั่นแห่งหนึ่งซึ่งไม่มีอินเตอร์เน็ต ทุกวันนี้ก็เล่นเน็ตจากมือถือเอา ซึ่งมันก็อัพฟิคไม่ได้! ก็เลยยืดเยื้อมาจนป่านนี้ เอาเป็นว่าจะพยายามอัพเดตให้บ่อยเท่าที่อินเตอร์เน็ตจะเอื้ออำนวยนะคะ (คงไม่ได้อัพตามตารางเก่าแล้ว)
มาว่ากันถึงเนื้อหาฟิคบ้าง .. สงสานจุนฮเวอ้ะ วงวานเว่อๆ นังกำลังจะไปบอกรักจินฮวาน ไปขอจินฮวานคบ วงวานแค่ไหนถามใจพวกแกดู เพราะพวกแกก็รู้ว่าหลังจากนี้กำลังจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป / ความจริง EP18 นี้เล่าเรื่องยาวมากกกก มันคือเนื้อหาตั้งแต่ตอนที่จุนฮเวมาขอโทษและเรียกจินฮวานว่าพี่+พามารร.แล้วจินฮวานก็โดนเงาแค้นเจนนี่จัดการ ไปถึงตอนที่จินฮวานไปเมาเพราะเจอเน่กับเจนนี่ทำท่าเหมือนจะเยิ้บกันในห้องดนตรี ก็เลยกินเหล้าย้อมใจ แต่ด้วยความที่มันยาวเว่อร์ ยาวเกิ๊น 10,000กว่าคำ ซึ่งยาวเกินโควต้าปกติของฟิคเรา เราเลยทำการหั่น 18 ออกเป็นสองตอน คือ 18/1 และ 18/2 นั่นเอง
สำหรับฉากเยที่ทุกคนรอคอย ไม่เกินEP19-20 นี้จะได้ยิ้มแน่นอนค่ะ ไม่ยิ้มตอนนี้จะให้ยิ้มตอนไหน ถูกมะ
พบกันเมื่ออินเตอร์เน็ตเอื้ออำนวยจ้ะที่รัก
จาก วันสุกผู้บ้านไฟไหม้คนนั้นแหละ
10.51น. 9/3/2017
ปล. วันที่ 24 มีนาคม เค้ารับปริญญาแล้วนะ อรั๊ง ใครอยู่แถวรังสิต-ปทุม สนใจไปให้กำลังใจและกำจังไร หรือไปชักภาพร่วมกัน ติดต่อสอบถามเข้ามาได้ทางดีเอ็มที่ @skipmetofriday นะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น