ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (จบแล้ว) #จินฮวานพันทิป | JUNHOE x JINHWAN

    ลำดับตอนที่ #14 : 12 : ชีวิตม.ปลายที่แสนจะโหดสัส (ตอนที่2)

    • อัปเดตล่าสุด 23 ธ.ค. 59



      



     12
           ชีวิตม.ปลายที่แสนจะโหดสัส (ตอนที่2)




                   หลังจากจินฮวานออกมาจากห้องปกครอง เขาก็เดินกลับมาที่ห้องเรียนประจำชั้นพร้อมๆกันกับจุนฮเวด้วยบรรยากาศแบบโคตรจะตึง  

                   ไม่คุยกัน ไม่ยิ้ม ไม่แม้แต่การทำท่าทางหงุดหงิดใส่กัน มันเย็นยะเยือกอย่างกับว่าเขาไม่มีตัวตนในสายตาจุนฮเวแล้วอย่างไรอย่างนั้น แม้แต่เสียงหายใจก็ยังดูเหมือนจะดังเกินไป


                   "อ้าวพี่ ไปห้องน้ำนานจุง......" เมื่อเข้ามาในห้องเรียน น้องแชก็แหกปากเอ่ยทักเสียงดัง แต่ก็แผ่วลงในประโยคสุดท้ายตอนที่เห็นว่าจินฮวานเดินเข้ามาพร้อมกับจุนฮเว "กลับมาพร้อมกันด้วย...."


                   จินฮวานมองหน้าน้องแชที่ส่งสายตาสอดรู้สอดเห็นอย่างปิดไม่มิดมาให้ แต่ยังไม่ทันตอบอะไรน้องแชก็หันขวับกลับไปกระมิดกระเมี้ยนนั่งจดเลคเชอร์อย่างตั้งใจเพราะจุนฮเวส่งสายตาอำมหิตไปหาราวกับจะกระซิบใกล้ๆหูว่า 'อย่ามาเสือกน่ะ'


                   จินฮวานแอบถอนหายใจเล็กน้อย ก่อนจะเอาสมุดขึ้นมาจดเลคเชอร์ตามที่อาจารย์กำลังบรรยายถึงประวัติศาสตร์เกาหลีบ้าง เนื้อหาพวกนี้คุ้นๆมาบ้างแหละว่าเคยเรียนผ่านไปแล้ว คงไม่ต้องห่วงเรื่องการสอบแน่ๆ ต่อให้หลับตาฝนข้อสอบ จินฮวานก็มั่นใจว่าเขาตอบถูกแน่นวล


                   "กูจุนฮเว ตอบ"

                   จินฮวานเงยหน้าขึ้นมองและหันไปข้างๆ 

                   เจ้าของชื่อที่จินฮวานสังเกตเห็นว่ากำลังกดโทรศัพท์มือถือเล่นเกมยุกยิกตั้งแต่เมื่อกี้ค่อยๆหย่อนมือถือลงในกระเป๋ากางเกงแล้วลุกขึ้นยืนช้าๆ เอ่ออ่าอยู่ครู่ใหญ่ไม่ยอมตอบคำถาม

                   "ว่าไงนายจุนฮเว"

                   จินฮวานแสยะยิ้ม กลั้นขำหึๆอยู่ข้างๆด้วยความสะใจ เพราะเขารู้ว่าจุนฮเวน่ะไม่มีปัญญาตอบคำถามให้ถูกแน่ๆ แม้จะเห็นใจหน่อยๆที่โดนเรียกให้ตอบ แต่มันก็ขำน่ะ

                   "คำถาม...." เขาหันไปมองคนข้างๆตัว ตั้งใจฟังว่าจุนฮเวจะพูดอะไรต่อ แต่เขาคงจะประเมินจุนฮเวสูงไป ถ้าคิดว่าจุนฮเวจะตอบได้



                   "คำถาม..มันถามว่าไงนะ"

                   สาทุบุน

                   เท่านั้นจินฮวานก็กลั้นหัวเราะไม่ไหวอีกต่อไป ขำพรืดออกมาจนจุนฮเวหันมามองตาเขียว

                   คือแม่งตลกน้อยที่ไหนล่ะ ถ้าให้จินฮวานพิมพ์อะไรแทนความรู้สึกในตอนนี้สัก140ตัวอักษร เขาคงพิมพ์เลข 5 จำนวน140ตัวแบบไม่ขาดไม่เกิน 

                   อย่าว่าแต่จะตอบคำถามเลย มันยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคำถามน่ะถามว่าอะไร

                   "เอ้า นายตัวเล็กที่นั่งข้างจุนฮเว ไม่ต้องมาขำเพื่อนเลย ลุกขึ้นยืนตอบมาซิ ครูไม่ทวนคำถามให้นะ เอ้านายจุนฮเว นั่งลง" 

                   จินฮวานลุกขึ้นยืนและเอ่ยตอบคำถามอาจารย์ทั้งที่ยังแอบขำอยู่นิดๆ 

                   "เหตุผลที่พระเจ้าแทโจทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่เรืองอำนาจและครองราชสมบัติยาวนานมาจากทั้งพระเดชและพระคุณที่พระเจ้าแทโจทำไว้ พระองค์ทรงรวมสามแผ่นดิน และไม่หมิ่นเกียรติกดขี่ ไม่แบ่งแยกประชาชนจากแผ่นดินที่ล่มสลายครับ แต่งตั้งยศตำแหน่งให้ขุนนางเก่า และประนีประนอมไม่ให้เกิดเหตุหมางใจ ดังนั้นพระองค์เจ้าแทโจจึงเป็นที่เคารพและเกรงขามในเวลาเดียวกัน"

                   "สุดยอด....."

                   "พี่จินฮวานเก่งโคตรเลย"

                   "เจ๋งไปเลยอ่ะ"

    หลังจากจินฮวานตอบฉาดฉานจนเป็นที่ตกตะลึงของเด็กๆในห้องและอาจารย์ประจำวิชา อาจารย์ก็ระบายยิ้มออกมาอย่างพอใจก่อนจะปรามให้ทุกคนเงียบเสียงชื่นชมนั้น

                   "เอ้าทุกคน เงียบๆหน่อย นายตัวเล็กนั่งลงได้"

                   จินฮวานก้มหัวให้อาจารย์นิดๆและนั่งลงก่อนจะปรายตาไปทางจุนฮเวและกดยิ้มเยาะๆไปให้ รู้สึกสะใจขึ้นมาพอเห็นว่าจุนฮเวค้อนประหลับประเหลือกใส่เขาราวกับจะแหกอกจินฮวานซะตรงนั้น

                   "เอาล่ะ พวกเธอกลับไปทบทวนมาด้วย เดี๋ยวคาบหน้าอาจารย์จะมีควิซนะ หัวหน้าห้อง บอกได้" อาจารย์หันไปพยักหน้าให้มินฮยอกซึ่งเป็นหัวหน้าห้องบอกทำความเคารพ 

                   ทันทีที่อาจารย์เดินออกจากห้องไป คนที่นั่งอยู่ข้างๆตัวจินฮวานก็ลุกพรวดขึ้นยืนค้ำหัวแล้วทำเสียงหงุดหงิด 

                   "หมวย"

                   จินฮวานชะงัก พอๆกับที่ทุกคนในห้องชะงักไปตอนที่จุนฮเวส่งเสียงขุ่นๆเรียกเขาด้วยชื่อที่คนอื่นๆในห้องไม่คุ้นแบบนั้นขึ้นมา และก็เหมือนจะรู้กันอยู่ว่าห้องเรียนนี้มีแต่คนเสือก เพราะพอจุนฮเวเอะอะมะเทิ่งขึ้นมา ทุกคนก็มีความเงียบกริบเพื่อตั้งใจฟัง

                   "จะเอางี้ใช่ป่ะ" จุนฮเวคิ้วขมวด เอ่ยถามแล้วทำหน้าบูดเป็นตูดลิงให้เขา

                   "อะไร"

                   "นี่จะกวนตีนใช่ป่ะ"

                   อ่าว วอนซะแร้ว

                   "ใครกันแน่วะที่กวนตีน พูดไรหัดดูตัวเองบ้าง"

                   จินฮวานไม่เคยกลัวจุนฮเวอยู่แล้ว แต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่เคยกลัว ยิ่งตอนนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เขาไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ไหนๆจุนฮเวมันก็ไม่ได้ชอบเขา แถมยังทำตัวไม่น่ารักใส่ แม่งก็ไม่ต้องแอ๊บใสใสหัวใจสี่ดวงกันอีกต่อไปแล้ว

                   เขาก็ทนมาเยอะแล้วเหมือนกัน

                   "พี่จินฮวานไปกินข้าวดีกว่า อย่าไปสนใจมันเลย" แชฮยองวอนพยายามออกโรงห้ามปราม รวมถึงบยองยุน จีวอนและวอนอูที่มาช่วยกันจับจุนฮเวซึ่งตอนนี้ทำท่าเหมือนจะต่อยหน้าจินฮวานเอาไว้


                   "เป็นบ้าอะไรนัก ที่เป็นอย่างงี้ ก็เพราะไอ้เหี้ยมินโฮใช่ไหม"

                   ใช่ก็เหี้ยแล้วนะ

                   จินฮวานตวัดสายตามองหน้าจุนฮเวอย่างโกรธๆ เขาสาบานได้ว่าไม่เคยมองจุนฮเวด้วยแววตาแบบนี้มาก่อน แต่ตอนนี้เขาผิดหวังในตัวจุนฮเวมาก เพราะน้องเปลี่ยนไปมากจริงๆ

                   "ไปให้พ้นเลย" จินฮวานกระซิบเสียงเย็น

                   "ว่าอะไรนะ"

                   ลำพังจุนฮเวทำตัวหยาบคายไม่น่ารักใส่เขายังไม่เท่าไหร่ แต่นี่ลามมาถึงขั้นด่าเพื่อนสนิทของเขา มันก็ไม่ใช่แล้วล่ะ

                   "บอกว่าให้ไปให้พ้น กูเป็นเพื่อนเล่นเหรอ คิดว่าเป็นแค่เด็กข้างบ้านจะทำตัวยังไงก็ได้ต้องให้คอยตามใจตลอดเหรอ" ขีดความอดทนของจินฮวานขาดผึงอย่างแรง เขาตะคอกใส่น้องอย่างที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะทำ


                   "ที่ผ่านมากูทำไรดีๆให้ตลอด ใจดีด้วยตลอด พูดเพราะๆด้วยตลอด ถ้านั่นมันทำให้มึงเข้าใจผิดว่าว่ากูใจดีจนจะทำตัวกับกูยังไงก็ได้อะ มึงคิดผิดแล้วจุนฮเว"

                   จินฮวานรู้สึกว่าตัวเองโมโหจนหน้าร้อนไปหมด มือเท้าก็ชา เขากำหมัดแน่น รู้ตัวอีกทีก็ปาสมุดเลคเชอร์ใส่หน้าจุนฮเวสุดแรง ไม่สนด้วยว่ามุมสมุดจะไปกระแทกส่วนไหนบนใบหน้าของจุนฮเว

                   "พอกันที ถ้าอยากจะฉลาด อยากจะตอบคำถามที่อาจารย์ถามได้ก็หัดเรียนหนังสือซะบ้าง อย่าโง่แล้วขี้อิจฉา"

                   จุนฮเวแตะปลายจมูกของตัวเองที่มีเลือดออกนิดๆและหันมามองหน้าจินฮวานอย่างไม่เชื่อสายตา 

                   ก็ดี
                   มองไว้ซะ แล้วก็จำไว้เลย ว่าจุนฮเวเป็นคนทำให้เขากลายเป็นแบบนี้เอง


         "ไม่ต้องมายุ่งกันอีกแล้ว พอสักที"








                   "พี่จินใจเย็นๆก่อนน้า กินข้าวกัน จะได้ใจร่มๆ" หลังจากปาสมุดใส่จุนฮเว เขาก็โดนมินฮยอกและน้องแชลากคอออกมาจากห้องเรียน น้องๆลูบหลังลูบไหล่ให้จินฮวาน calm down พร้อมกับไปซื้อข้าวเที่ยงมาวางให้ตรงหน้าเพื่อให้จินฮวานกินดับโกรธ

                   แต่เขาโกรธแม่งจริงๆนะ


                   ตั้งแต่เล็กจนโตจุนฮเวไม่เคยเป็นแบบนี้ ถึงจะกวนตีนและขี้แกล้งแค่ไหน จุนฮเวก็ไม่เคยหาเรื่องหรือพูดจาไม่รู้ฟังกับเขาแบบนี้ จุนฮเวไม่เคยหยาบคาย และลามปามมาถึงขั้นด่าเพื่อนเขาแบบนี้

                   จินฮวานตักข้าวใส่ปากเคี้ยวอย่างเกรี้ยวกราดพลางก็ถอนหายใจแรง

                   คงเพราะสามปีมันก็เปลี่ยนจุนฮเวไปมากจริงๆ ถ้านับจากที่มินฮยอกและฮยองวอนเล่ามา จุนฮเวกลายเป็นเสือผู้หญิงที่นอนกับคนนั้นคนนี้ไม่เลือกหน้า แล้วก็ขี้เหวี่ยงขี้โมโห

                   "พี่"

                   จินฮวานหยุดสิ่งที่คิดอยู่ในสมองแล้วหันมองคนข้างๆตัวที่ยื่นหน้ายื่นตาเข้ามาใกล้เขาอย่างสอดรู้สอดเห็น

                   "อือ"

                   "น้องแชถามไรหน่อยดิ"
     
                   "อือ"

                   "แต่ว่าถ้าน้องแชถามไปแล้วพี่จินฮวานห้ามโกรธนะ"

                   นี่มันประโยควัดใจชัดๆ
                   ถ้ารู้อยู่แล้วว่าคำถามนั้นมันเสี่ยงล่อตีน จะถามออกมาทำไมวะ ไม่เข้าใจเลย

                   "อือ ว่ามา"

                   "พี่กับจุนฮเวรู้จักกันมาก่อนอ่ะรู้ แต่พี่เคยมีเรื่องอะไรกับมันหรอ ทำไมอีจุนฮเวมันทำท่าทางแปลกๆเวลาอยู่กับพี่ เหมือนไม่ค่อยพอใจ"

                   จินฮวานมองบน กลอกตาเป็นกราฟพาราโบล่าคว่ำ ก่อนจะยกถ้วยซุปซดและส่งเสียงตอบในคออย่างไม่เต็มใจเท่าไหร่

                   "อือ มันโกรธอะไรพี่ก็ไม่รู้"

                   จริงๆแล้วจินฮวานว่าเขาก็พอจะรู้


                   ทำไมไปไหนไม่บอกวะ ยังสำคัญอยู่ป้ะ ไหนบอกมีอะไรจะบอกทุกเรื่องไง


                   จินฮวานใช้ช้อนจิ้มข้าวและขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่ครู่ใหญ่ ถ้ามันเป็นเพราะจุนฮเวน้อยใจที่เขาไปเรียนที่จีนไม่ยอมบอก เขาก็ควรจะปรับความเข้าใจกับจุนฮเวใช่ไหม


                   "พี่ทำให้พวกแกอึดอัดใช่ไหม ไม่น่ามานั่งทะเลาะกันเป็นเด็กๆเลยเนอะ"

                   "ไม่หรอกพี่จินจุนฮเวมันก็เป็นบ้าเป็นบอของมันแบบนี้เป็นปกติ พี่อย่าคิดมากน้า"

                   จินฮวานฝืนยิ้มแหยๆให้ฮยองวอนและมินฮยอกที่พยายามปลอบใจแล้วก็ก้มหน้ากินข้าวต่อ ส่วนจุนฮเวก็หายหัวไปตลอดทั้งคาบบ่ายจนกระทั่งเลิกเรียน 




     

                   หลังจากที่จินฮวานเลิกเรียน เขาก็นัดให้มินโฮมันขับรถมารับที่โรงเรียนเพื่อไปหาอะไรกินฉลองกับเพื่อนคนอื่นๆในทีมเชียร์ลีดเดอร์ ทั้งโบมี จีอึน ดาฮยอน แฮรยอง จีจี้ และมิงฐา จะขาดก็แต่เตนล์เท่านั้นที่กลับเมืองไทยไปแล้ว

                   แน่นอนว่าเขาเล่าเรื่องที่โดนจุนฮเวตะคอกใส่จนทะเลาะกันใหญ่โตแถมโดนจับเข้าห้องปกครองให้เพื่อนรักฟังด้วย มินโฮกลอกตาอย่างใช้ความคิด ฟังแล้วก็ถามอย่างสงสัยเพราะดูเหมือนมันก็ไม่รู้ว่าจุนฮเวโกรธอะไร

                   "อะไรนะ น้องเค้า---ด่า---กู---เหรอ?????"

                   "เออ ด่ามึงอ่ะ"

                   "แล้ว..มึงเอาไงต่อ จะเคลียร์ปะ" มินโฮเอ่ยถามเสียงเครียด เท้าศอกกับกรอบกระจกรถซีดานคันหรูของตัวเองและกระดิกนิ้วชี้อีกข้างที่วางอยู่บนพวงมาลัยอย่างครุ่นคิด "น้องเขาทำอย่างกับหวงมึงอย่างนั้นแหละ"

                   จินฮวานไม่อยากเชื่ออะไรมินโฮมาตั้งแต่คราวก่อนที่มันบอกว่ามองจากดวงจันทร์ก็รู้ว่าจุนฮเวกับเขาชอบพอกัน เพราะผลสุดท้ายไอ้ที่ว่ามองจากดวงจันทร์ มันมาจบแค่การมองอัฒจรรย์ฝั่งตรงข้ามและเห็นจุนฮเวอยู่กับผู้หญิงอีกคนเท่านั้นแหละ

                   "มึงยังชอบน้องอยู่ปะล่ะ"

                   "อืม....ไม่รู้ว่ะ" จินฮวานมองหน้ามินโฮแล้วนิ่งคิดไปครู่หนึ่งก่อนจะส่ายหัวให้มันแล้วหันมองนอกหน้าต่างโดยไม่สบตา


                   เขาก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ว่ายังชอบจุนฮเวอยู่หรือเปล่า
                   ความรัก ความชอบ มันก็เหมือนกันกับความทรงจำนั่นแหละ

                   วันหนึ่งมันก็จะค่อยๆเลือนไปตามเวลา อยู่ที่ว่าเราจะเก็บมันเอาไว้กับตัวได้มากน้อยแค่ไหน


                   "มันก็อาจจะค่อยๆจางมั้ง" จินฮวานตอบอย่างระมัดระวัง แต่มินโฮส่ายหัว

                   "ไม่ต้องตอบกูหรอก" 

                   อ่ะ อีดำนี่ ถ้างั้นจะถามกูทำไม--- จินฮวานเถียงในใจ

                   ตั้งแต่เขากลับมาจากจีน มินโฮเด๋อๆคนเดิมก็กลายเป็นคนขี้เก็กขี้เต๊ะขึ้นมา นอกจากจะขับรถแพง แต่งตัวดี ตัดผมหล่อแล้ว ยังชอบพูดคำคมอะไรไม่รู้ที่เข้าใจยากๆ ชอบไปนั่งร้านกาแฟ ถ่ายรูปกาแฟดริปลงอินสตาแกรมเหมือนพวกฮิปสเตอร์

                   "ก็มึงถามอ่ะ.."

                   "ใช่ กูถาม" มินโฮว่า ทำท่าเท่ราวกับตัวเองเป็นพระเอกหนังค่ายจีทีเฮช "คนอยากรู้คำตอบอะ มันไม่ใช่กู มึงตอบตัวมึงเองให้ได้ก็พอ"

                   อ่ะจ่ะ 
                   จินฮวานฟังแล้วก็ได้แต่พ่นลืมหายใจพรืดและส่ายหัวให้กับความไร้สาระของมัน

                   บอกแล้วว่ามินโฮแม่ง ชอบพูดคำคม 


     




                   "ขอบใจนะเว้ยที่มาส่ง กลับดีๆมึง ถึงละเมนชั่นมาบอกในทวิตด้วย" จินฮวานยักคิ้วแล้วโบกมือบ๊ายบายให้เพื่อนตัวดำ รวมถึงโบมีที่ติดรถกลับมาด้วยอีกคน 

                   ไม่น่าเชื่อว่าแค่การร่วมงานกันตอนกีฬาสีมันทำให้เขาและเพื่อนๆแก๊งลีดผูกพันกันได้ขนาดนี้ จินฮวานมีความสุขมากๆที่ได้ไปเจอเพื่อนเก่าและกินข้าวพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวในชีวิตของกันและกัน

                   เขาฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี มองจนกระทั่งไฟท้ายรถของมินโฮไปไกลจนพ้นสายตา 

                   จินฮวานทำท่าจะเดินเข้าบ้าน แต่ก็พบว่าที่กำแพงข้างๆประตู มีเงามืดๆของใครคนหนึ่งยืนรอเขาอยู่ โชคดีที่มันไม่ใช่ฤดูหนาว ไม่งั้นจินฮวานคงกลายเป็นอีนางเอกซีรีส์ชั่วๆที่ให้พระเอกยืนตากหิมะรอเป็นชั่วโมงแน่ๆ

                   "พี่ไปกับมันมาเหรอ"

                   เสียงยานคางนั้นเป็นเสียงที่จินฮวานจำได้แม่นว่ามาจากใคร แต่สรรพนามที่เปลี่ยนไปทำให้เขาขมวดคิ้ว จุนฮเวเดินมาใกล้เขา แสงไฟไม่จ้านักสะท้อนให้เห็นใบหน้าซีดเซียวของจุนฮเวที่ดูไม่ค่อยสบายนัก

                   อย่างน้อยจุนฮเวก็เรียกเขาว่าพี่... หลังจากที่เขาย้ำกับมันมาตลอดว่าเขาแก่กว่ามันและมันต้องเรียกเขาว่า พี่จินฮวาน ไม่ใช่หมวย หรือการเรียกชื่อเฉยๆ

                   กูนึกว่าต้องรอจนแก่ตายซะแล้ว


                   "อือ กินข้าว..กับพวกลีดคนอื่นด้วย"

                   จินฮวานอ้อมแอ้มตอบไม่เต็มเสียง ไม่เข้าใจว่าทำไมพอเห็นสายตาและน้ำเสียงหมาหงอยของจุนฮเวแล้วเขาจะต้องรู้สึกผิดขึ้นมาด้วย มือไม้ก็รู้สึกเกะกะไปหมด ไม่รู้จะเอาไปวางไว้ตรงไหน

                   "แล้วนี่มายืนรอเราทำไม มีไร"

                   "เปล่า..ครับ.." จุนฮเวเองก็อ้อมแอ้มตอบเช่นกัน "ผมแค่..."

                   คือถ้ามันมาโหวกเหวกหาเรื่องเหมือนเมื่อกลางวัน จินฮวานคิดว่าเขาต้องร้อนกลับแน่ๆ แต่พอมันหงอยๆ แถมพูดเพราะกับเขาแบบนี้ ใครจะไปโกรธลง เขาก็เลยพูดเพราะกับจุนฮเวขึ้น..นิดหน่อย..

                   "แค่อะไร" จินฮวานถามจี้แล้วขยับเข้าไปใกล้ เงยหน้ามองสบตาจุนฮเวให้ชัดๆ 

                   ดวงตาช้ำๆและแววตาหงอยๆที่สะท้อนสู่สายตาทำให้เขานึกถึงจุนฮเวตอนสิบขวบ เขาเคยเห็นแววตาแบบนี้จากจุนฮเวครั้งสุดท้ายก็ตอนที่น้องพลัดหลงกับเขาตอนไปดูมาสก์ไรเดอร์ด้วยกัน แววตาเหมือนจะร้องไห้และขอร้องให้เขาอยู่ด้วยกัน

                   แววตาแบบนั้นสะท้อนอยู่ในดวงตาของเด็กผู้ชายอายุ18 ที่จ้องตาจินฮวานตอบกลับมาอย่างไม่ลดละ

                   "แค่อยากจะขอโทษ.."

                   จุนฮเวพูดเสียงเบา แบบเบาจนแทบจะกระซิบ และตอนที่จินฮวานกำลังจะเถียงกับความคิดของตัวเองและด่าจุนฮเวในใจอย่างที่ทำมาโดยตลอดสิบกว่าอีพี จุนฮเวก็เดินเข้ามาใกล้เขาและทำในสิ่งที่แทบจะไม่เคยทำเลยยกเว้นตอนที่นอนละเมอครั้งนั้น..

                   มันเงียบจนได้ยินเสียงลมหายใจ ตอนที่จุนฮเวเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้และก้มลงจูบเขา


     

      

     talk
    ในที๊สุดดดดดดดดดก็ตัดสินใจรุกอีหมวยซักทีหลังจากปล่อยอีหมวยไฝแห้งรอมาหลายปี ชีวิตไม่แน่นอน ความรู้สึกคนก็ไม่แน่นอน แต่สิ่งที่อีพีหน้ามีแน่นอนคือ 1. ฉากจูบจุนจิน 2. เจนนี่ 3. ชานอู   

    นะจ๊ะนะจ๊ะ

    รักทุกคล จากฟายเดของทุกคล 
    23/12/59 18:55น.
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×