ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (จบแล้ว) DISTANT | CHANHUN HUNKAI BAEKDO

    ลำดับตอนที่ #2 : ( 18 x 25 ) - หนึ่ง : พี่ชางยอง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.44K
      20
      27 ส.ค. 59

     

     Distant ( 18-25)
    Chanyeol x Sehun By:ซรดจ.



    หนึ่ง

    พี่ชางยอง
     
    http://24.media.tumblr.com/eef0c065c540deaf08da63e3604d18d7/tumblr_mk9pq5ieTW1qamzexo2_500.gif





     

     

    [ 5-12 ]




              "พิชางยอง เซฮุงดูด้วย"



              ชานยอลได้เกมกดมาใหม่ เขาทำสัญญาไว้กับพ่อว่าถ้าสามารถสอบเข้าโรงเรียนมัธยมชื่อดังแถวบ้านได้จะ ให้เกมบอยแอดว๊านซ์  เสียงเจื้อยแจ้วของน้องชายข้างบ้านทำให้ชานยอลจิ๊ปากติดรำคาญ เจ้าตัวเล็กวิ่งล้อมหน้าล้อมหลังตอนที่ชานยอลกำลังเล่นเกม ส่งเสียงโยเยจนคนที่โตกว่าต้องอุ้มน้องขึ้นนั่งตักและสอดมือมาโอบรอบเอวเด็ก ชายตัวกระเปี๊ยก ในอ้อมแขนไว้ขณะที่มือก็กำลังกดเล่นเกมแข่งรถ



              "พิชาง ชงอังงี้"



              นิ้วเล็กๆจิ้มไปรถคันข้างๆที่อยู่ในเกม เพราะความไม่รู้ประสาก็จะคอยบอกให้ขับชน ชานยอลส่งเสียงฮึดฮัดแล้วโยกเครื่องเล่นหนีไม่ให้มือเล็กของน้องบังหน้าจอ



              "ไม่ได้ ดูนิ่งๆดิ"



              "พิ ชางยอง ชง" เพราะจังหวะที่พี่ชายเบี่ยงตัวหลบ และเจ้าตัวเล็กก็ยังเด็กเกินกว่าจะทรงตัวให้ดีเด็กชายจึงร่วงลงจากตักของชาน ยอลก้นจ้ำเบ้ากระแทกพื้นเต็มแรง



              ชานยอลตกใจ  เพราะเซฮุนเป็นน้องชายข้างบ้านที่คุณแม่ของเขารักยิ่งกว่าลูกในไส้ ไม่ว่าเขาจะผิดหรือถูกแต่แน่นอนว่าถ้าน้องร้องไห้ล่ะก็ คนโดนด่าจะเป็นใครไปได้ล่ะ นอกเสียจากปาร์คชานยอล



              เด็กชายวางเกมกดบนโต๊ะและรีบประคองน้องขึ้นมาจากพื้น เซฮุนไม่ได้มีท่าทีเจ็บช้ำชำรุดอะไรตรงไหนสักนิด ยิ้มตาหยีแล้วหัวเราะแหะๆทั้งที่เลือดไหลหยดลงมาที่ข้างแก้ม




              ชานยอลได้ยินเสียงแม่ร้องกรี๊ด และอุ้มน้องหายออกไปจากบ้านเพื่อพาเซฮุนไปโรงพยาบาล
              คืนนั้น...เขาจำได้แม่น ว่าแม่ไม่อนุญาตให้เขากินข้าวเย็น
          


     




     

    [ 18-25 ]

     





              "เซฮุน ผูกเนคไทให้พี่หน่อย"



              เสียงของพี่ชายข้างบ้านเรียกตอนที่ทุบประตูทำให้เซฮุนที่กำลังยืนส่องกระจก ถอนหายใจอย่างหงุดหงิด เดินไปเปิดประตูและคว้าเนคไทมาจากมือคนที่แก่กว่า สะบัดคล้องคอของตัวเองตอนที่เดินกลับมายืนหน้ากระจก พลางคิดในใจด้วยความหงุดหงิด ชานยอลน่ะเป็นอย่างนี้เสมอ ทั้งๆที่โตจนเรียนจบทำงานแล้วแต่ก็ยังผูกเนคไทไม่เป็น



              คนตัวสูงยิ้มเผล่เดินมานั่งลงบนเตียง ทำหน้าไม่ชี้ไม่รู้ตอนเซฮุนจ้องกลับมาผ่านเงาสะท้อนในกระจก



               "คุณป้าไม่อยู่เหรอ"



              "ไปเที่ยวน่ะ" พอได้คำตอบอย่างนั้นเซฮุนก็เลยไม่ได้ซักไซร้อะไรต่อ



               "จริงๆ แล้วผมว่าพี่น่าจะฝึกผูกเนคไทเองได้แล้วนะ" เดินมานั่งข้างชานยอลตอนที่ยื่นเนคไทให้


               เพราะงานของพ่อและแม่ เซฮุนจึงต้องอยู่บ้านคนเดียวบ่อยๆมาตั้งแต่เด็ก จนพอแม่คลอดจุนฮง น้องชายของเขานั่นแหละ พ่อกับแม่ก็ถึงกลับมาอยู่ด้วยกันแบบพร้อมหน้าที่เกาหลี แต่ก็ยังไม่วายบินไปทำงานที่นั่นที่นี่เป็นว่าเล่น ไม่ค่อยจะได้อยู่พร้อมหน้าเท่าไหร่ เซฮุนถึงชินแล้วกับการทำอะไรด้วยตัวเอง



              "แล้วพี่ก็ควรจะเลิกไอ้นิสัยที่ชอบปีนหน้าต่างเข้ามาในบ้านคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตได้แล้วด้วย"



               ชานยอลยิ้มกว้าง เชื่อเถอะว่าต่อให้เซฮุนบ่นอะไรด่าอะไร เขาก็ไม่มีวันรู้สึกเจ็บหรอก



              "วันนี้แม่ไม่อยู่ มานอนด้วยดิ"



               "ไม่" ปฏิเสธทันควัน "พี่ไม่มีบ้านอยู่รึไง"



              "บ้านพี่ก็อยู่ข้างบ้านนายไง"  ใช่ เซฮุนควรจะรู้ใช่ไหม ขอบคุณมากที่บอกนะ



              "แล้วทำไมไม่นอนบ้านตัวเองเล่า"



               เอ่ยปากไล่อยู่กลายๆตอนที่เท้าขาวๆดันพี่ชายตัวสูงให้ลงจากเตียง ถ้าไม่เกรงใจว่าแก่กว่ากันตั้ง 7 ปี เซฮุนคงจะออกแรงถีบให้คนแก่กว่าลงไปนอนกลิ้งอยู่ที่พื้นห้องแล้ว



              "ก็อยากอยู่ด้วย"



              "ถ้ากลับค่ำ จะล็อคหน้าต่างครัว"



              แม้ไม่ได้ตอบรับ แต่ก็ไม่ปฏิเสธ เซฮุนพูดดักคอตอนที่ตะเพิ่ดชานยอลให้ออกไปทำงาน เราไม่ได้กำลังอยู่ในยุคที่คนเข้าบ้านทางหน้าต่างแทนประตูหรอกนะถึงได้ขู่แบบนี้ แต่เพราะบ้านของเขาและชานยอลติดกันจนสามารถปีนข้ามมาได้ แค่เปิดหน้าต่างครัวทั้งสองบ้านเอาไว้และปีนเคาต์เตอร์จากบ้านหลังหนึ่งมาอีกหลัง



              เซฮุนและชานยอลเติบโตมาด้วยกัน ตั้งแต่จำความได้ไม่ว่าจะไปที่ไหน เซฮุนก็จะมีชานยอลอยู่ข้างๆเสมอ ความจริงคงต้องพูดว่าเซฮุนมากกว่าที่ตามติดพี่ชายข้างบ้านแจ ไม่ต่างอะไรกับลูกหมีโคอาล่าที่เกาะติดแม่ไม่ยอมหย่านมเสียที



               แม้ว่าชานยอลจะอายุมากกว่าถึง 7 ปี แต่เซฮุนกลับรู้สึกเหมือนชานยอลเป็นให้เขาได้ทั้งเพื่อน และพี่ชาย แม้จะไม่แน่ใจว่ามันเป็นสิ่งที่ตัวเองรู้สึกไปคนเดียวหรือเปล่า บางทีชานยอลอาจจะไม่ได้คิดเหมือนกันก็ได้


     



     






               Rrrrrrrrrrrrrrrr Rrrrrrrrrrrrrrrrrrr

              'เชี่ยจงอิน'





              เพียงแค่เห็นชื่อที่โชว์อยู่บนโทรศัพท์มือถือ คงไม่ต้องอธิบายให้มากความว่าความสัมพันธ์ในแก๊งของทั้งสามคนมันแนบแน่นสนิทชิดเชื้อกันขนาดไหน



              ไม่ใช่แค่จงอินเท่านั้น แบคฮยอนก็ได้ยศนำหน้าชื่อแบบเดียวกับจงอินเช่นกัน เบอร์ที่โชว์ขึ้นบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือทำให้เซฮุนลุกพรวดอย่างนึกขึ้นได้ รีบสะพายกระเป๋าขึ้นบ่าตอนที่รับสาย



              "ฮัลโหล"



              "มึงอยู่ไหนเนี่ยยยย กูมีเรียนบัลเลต์เก้าโมงตรง ไม่ใช่บ่ายสามนะเพื่อน"



              "เนี่ย กูกำลังไปแล่ว"



              ตอนที่พูดคำนั้นเซฮุนยังไม่สตาร์ทรถด้วยซ้ำ ลนลานเสียบกุญแจรถที่ห้อยตุ๊กตาริรัคคุมะพิ้งคุสีชมพูขนาดเท่าฝ่ามือตอนที่ บอกจงอินไปว่ากำลังจะถึงภายในอีกห้านาที และเซฮุนก็แว๊นมอเตอร์ไซค์สี่สูบคู่ใจไปจอดที่หน้าบ้านจงอินตามเวลาที่ว่าไว้จริงๆ



              "กูจะสายเพราะมึงเนี่ย"



              "มึงก็เลิกบ่นแล้วขึ้นมาดิค้าบน้องนีนี่"



              จงอินค้อนจนหน้าคว่ำตอนที่ได้ยินคำสรรพนามที่เพื่อนสนิทใช้เรียก อยากจะตอกกลับไปว่า นีนี่ที่หน้ามึงล่ะสิ แต่ก็กลัวว่าถ้ามัวเสียเวลาต่อล้อต่อเถียงจะไปเรียนบัลเล่ต์ไม่ทัน จึงวาดขาคร่อมมอเตอร์ไซค์ลูกรักของเซฮุนและตบไหล่เพื่อนรักสองที



              เซฮุนแว๊นสั่งได้จริงๆ อย่างกับวินมอเตอร์ไซค์หน้าปากซอย และทำให้จงอินมาถึงโรงเรียนบัลเล่ต์ช่วงก่อนเริ่มคลาสไม่ถึงห้านาที แต่นั่นก็ทำให้เขารอดพ้นการเข้าเรียนสายได้หวุดหวิด จงอินท่าทางอารมณ์ดีขึ้นตอนที่ก้าวขาลง



              "เดี๋ยวเสร็จแล้วกูโทรหา"



              พูดจบก็หันหลังตั้งท่าจะเดินเข้าไปในตัวตึก ถ้าหากเซฮุนไม่รั้งข้อมือแกร่งไว้ซะก่อน ร่างสูงโปร่งที่ยังคร่อมมอเตอร์ไซค์สี่สูบคันใหญ่ล้วงเอากระดาษขนาดเท่านามบัตรออกมาจากกระเป๋ากางเกงพร้อมกับหมึกสำหรับประทับลายนิ้วมือ



              "ไอ้สัส.. ปั๊มด้วย อย่าลืม"



              จงอินหน้ามุ่ยตอนที่สแตมป์ลายนิ้วมือของตัวเองลงไปบน'ตั๋วเซฮุน' แล้วพึมพำใส่เพื่อนว่าหน้าเลือด เซฮุนหัวเราะแต่ก็ไม่ได้ตอบโต้หรือปฏิเสธ



              'ตั๋วเซฮุน' เป็นข้อตกลงระหว่างเขา แบคฮยอน และจงอิน



              ช่วงใกล้สอบปลายภาคก่อนจบม.6 จู่ๆเซฮุนที่แข็งแรงมาตลอดก็ป่วยจนต้องเข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น ยังดีที่ได้เพื่อนรักทั้งสองคนช่วยทำงานส่งอาจารย์แถมยังติวย้อนหลังให้ ไม่งั้นเซฮุนคงจะลำบากกว่านี้แน่ๆ  เพื่อเป็นการตอบแทนและสมนาคุณแก่มิตรสหายผู้แสนดี เซฮุนจึงจัดทำตั๋วเซฮุน(ที่หน้าตาคล้ายกับบัตรสะสมแต้มชาไข่มุก)ซึ่งมีช่องว่างทั้งหมด10ช่อง สำหรับสิทธิการไปรับ-ไปส่งที่ไหนก็ได้ทั่วราชอณาจักรจำนวน 10 ครั้ง



              ตอนที่จงอินกับแบคฮยอนเห็นตั๋วเซฮุนครั้งแรก พวกมันถึงกับเบ้หน้า เพื่อนทั้งสองคนแม้ว่าจะบ้านฐานะปานกลาง(ส่วนแบคฮยอนค่อนไปทางรวย แต่แม่ไม่ให้ขับรถ) ก็อาศัยรถประจำทางเสียมากกว่า มีแค่เซฮุนเท่านั้นที่ขี่มอเตอร์ไซค์ แถมปกติตอนที่ยังไม่มีตั๋วเซฮุน พวกเขาก็ใช้ให้เพื่อนรักขี่ไปส่งแบบฟรีๆอยู่แล้ว



              พอมี'ตั๋วเซฮุน'ขึ้นมา ทั้งแบคฮยอนและจงอินเลยรู้สึกได้ว่ามันไม่ค่อยแฟร์แบบแปลกๆ แม้ว่าเซฮุนจะอ้างว่าด้วยอำนาจตั๋วใบนี้ มันจะยอมไปรับไปส่งที่ไหนก็ได้ตามใจโดยไม่เกี่ยงงอนและไม่คิดค่าน้ำมันเลยก็เถอะ






              หลังจากจงอินคล้อยหลังเข้าไปในตึกเรียน คนตัวสูงก็สวมหมวกกันน็อคอีกครั้งและตั้งใจจะแว๊นไปหาแบคฮยอนที่ตอนนี้น่าจะ ยังไม่ลุกจากที่นอน แม้จะเป็นช่วงเวลาปิดเทอมของเด็กมัธยม แต่เพราะเป็นวันจันทร์จึงเป็นปกติที่จราจรจะติดขัด เซฮุนหาวหวอดอย่างเกียจคร้านตอนที่จ้องไปยังสัญญาณไฟแต่ละฟากถนน แดง เหลือง เขียว เหลือง แดง เหลือง เขียว



              เซฮุนอ้าปากหาวจนตาหยีอีกครั้งตอนที่ไฟสัญญาณแปรเปลี่ยนเป็นสีเขียว เขาต้องขับต้องตรงไป แต่เพราะรถยนต์เลนส์ข้างกันที่หักเลี้ยวไปทางขวาและเข้ามาปะทะ ทำให้ร่างผอมบางหลุดจากตัวรถและครูดไปกับพื้นถนน แม้แรงกระทบจะไม่มากมายแต่ก็ทำเอาเซฮุนรู้สึกเหมือนตัวเองหูอื้อและไม่ สามารถขยับแขนได้ บรรยากาศรอบกายเงียบงันไปหมด แม้ว่าในความเป็นจริงมันจะโกลาหลวุ่นวาย



               รู้ตัวอีกทีเขาก็มาอยู่ที่โรงพยาบาลโดยมีเฝือกแข็งสีขาวน่าเกลียดพันอยู่ที่ แขนซ้ายและมีเชือกเส้นเล็กๆสีขาวห้อยคอ เป็นภาพที่ไม่น่าดูเท่าไหร่ และเซฮุนก็แปลกใจที่ชานยอลปรากฏตัวหลังจากเขาถูกส่งมาที่โรงพยาบาลได้ไม่กี่ สิบนาที



               คนอายุมากกว่าจัดการเรื่องประกันและฟังคำแนะนำจากแพทย์แทน'เด็ก'ชายที่ยังคงนั่งแข็งทื่ออยู่ที่เดิม หลับตาปี๋และส่งเสียงฮึดฮัดเมื่อชานยอลวางมือลงบนกลุ่มผมสีสว่าง



               "ปิดเทอมไม่กี่วันก็ซนจนได้เรื่องเลยนะ" เซฮุนทำหน้าเบ้พอได้ยินที่ชานยอลพูด เซ็งนิดๆที่คนตัวสูงชอบทำเหมือนเค้าเป็นเด็กน้อยๆที่ไม่ยอมโต  



              "แล้ว'สมรักษ์'ล่ะ" คนอายุน้อยกว่าอ้อมแอ้มถามถึงมอเตอร์ไซค์นินจาลูกรักของตัวเอง ชานยอลหัวเราะและยื่นกุญแจที่มีตุ๊กตาหมีห้อยอยู่คืนให้เจ้าของ



              "ฝ่ายนู้นอยู่ผิดเลนส์ แต่เขามีประกัน พี่จัดการเคลมให้แล้ว เดี๋ยวพอซ่อมเสร็จจะพาไปรับ'สมรักษ์'แล้วกัน" พอคนแก่กว่าพูดแบบนั้นเซฮุนก็เบาใจ ส่งเสียงอ้อเบาๆ



              "แล้วเจ็บปะเนี่ย"



              "ลูกผู้ชายเค้าไม่เจ็บกันหรอกเว้ย!!"



               "เหรอ" คนตัวสูงเลิกคิ้วแล้วลองดีดแขนบริเวณที่ถูกพันไว้ด้วยเฝือกแข็งจนส่งเสียง ดัง 'ป็อก ป็อก'  เจ้าตัวเล็กหันมาแยกเขี้ยวใส่ คล้ายจะบอกว่าอย่ามาแกล้ง



              "แล้วนี่จะกลับได้ยังบ้านอะ รอให้รากงอกเลยปะครับ" ชานยอลหัวเราะชอบใจและผายมือก้มหัวอัญเชิญให้คุณชายโอเซฮุนเดินนำไปที่รถ และเดินตามไปเงียบๆโดยไม่พูดอะไร



              ชานยอลที่เดินตามหลังอยู่คงไม่รู้เลยว่าใครที่กำลังเดินนำหน้าไปก่อนแอบอมยิ้ม เขาไม่ได้รู้สึกเจ็บมากมายอะไรจริงๆ และก็รู้สึกดีทุกครั้งที่คนตัวสูงดูแลเขาโดยไม่บ่นซักคำ ความห่วงใยจากชานยอลไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยแม้ว่าเวลาจะผ่านมานานแค่ไหน



     

     



    [ 5-12 ]





              "พิชางยอง อยากกิงกุ้ง"



              ชานยอลหันไปมองเด็กชายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้เด็กตัวสูงที่ออกแบบมาให้พอดีกับ โต๊ะอาหาร เซฮุนยิ้มให้เขาจนตาหยีเป็นสระอิตอนที่พูดย้ำๆคำว่า กุ้ง กุ้ง กุ้ง



              แหม ทีชื่อของกินล่ะพูดชัดเชียวนะ



              "เรียกชื่อพี่ก่อนดิ พี่ชื่ออะไร"



          "ชางยอง!!"  เสียงดังฟังชัดอย่างมั่นใจ



          "ไม่ใช่ซักหน่อย"



          "ชาง!!ยอง!!" เด็กชายวัยห้าขวบยังคงพูดย้ำอย่างชัดเจน! พี่ชายวัยสิบสองปีทำแก้มตุ่ยแล้วพูดแก้ให้



          "ชื่อชานยอลต่างหาก"



          "พิ!!ชาง!!ยอง!! เซฮุงจากิงกุ้ง!"



           คนที่กำช้อนกินข้าวลายเบนเท็นยังคงยึดมั่นในคำที่ตัวเองออกเสียง แถมพูดประโยคยาวๆเลยด้วย! ชานยอลได้แต่ถอนหายใจ มองน้องชายข้างบ้านที่มีผ้าก็อซแปะอยู่ที่หางคิ้ว แล้วก็ตักกุ้งในจานของตัวเองให้เจ้าตัวเล็กกิน



          "ก็บอกว่าชื่อชานยอลไงเล่า ไม่ใช่ชางยอง"









     

     


    - ติ ด ต า ม ต่ อ ต อ น ห น้ า  -
    _________________________

     #พิชาน25น้องฮุน18







    O W E N TM.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×