ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (จบแล้ว) #จินฮวานพันทิป | JUNHOE x JINHWAN

    ลำดับตอนที่ #8 : 07 : โลกมันชักจะอยู่ยากขึ้นทุกวันฯ

    • อัปเดตล่าสุด 27 พ.ย. 59


      
      CR.SQW



     07 
           โลกมันชักจะอยู่ยากขึ้นทุกวัน
    แต่ถ้าเธอคิดถึงกัน มันก็คงอยู่ง่ายขึ้นมานิดนึง






                   หลังจากไปซื้อของกีฬาสีและใช้ให้มินโฮมาส่งบ้าน พอกลับมาถึงจินฮวานก็วางกระเป๋าและนอนแผ่หราบนเตียง หงุดหงิดในใจอยู่เนืองๆแต่ก็ไม่รู้ว่าเกิดมาจากอะไร มันเหนื่อยๆ นอยๆ เนือยๆยังไงก็บอกไม่ถูก


                   นอนเซ็งอยู่ครู่ใหญ่จินฮวานก็ยืดตัวไปหยิบเอาโทรศัพท์มือถือในกางเกงออกมา และกดอ่านข้อความทางไลน์จาก ฮอยคนเดิมเพิ่มเติมเดี๋ยวบอก


                   หมวย วันนี้แยกกันกลับนะ เด่วไปธุระนิดหน่อย โทดนะๆ ^^ 





                   เขาขมวดคิ้ว อ่านข้อความนั้นทวนถึงสามรอบ ก่อนจะกดส่งสติ๊กเกอร์ตอบมันไป

                  


                   แล้วแต่(มึง)เล๊ยยยย

                   จินฮวานโยนโทรศัพท์มือถือเอาไว้บนเตียงแล้วลุกไปเปิดคอม นึกขึ้นมาได้ว่าเขายังไม่ได้เช็คคอมเม้นกระทู้ล่าสุดที่เพิ่งจะตั้งไปเลย ถึงแม้ตอนนี้จะเซ็งนังเน่อยู่ แต่เขาก็มีความอยากจะรู้เบาๆ ป่านนี้จะมีคนมาคอมเม้นว่าไงบ้างก็ไม่รู้


                   จริงๆแล้วเขาคิดยังไงกับผมหรอครับ?


    คอมเม้นที่ 1

    ปัก

    หยางหยางไงจะใครล่ะ
    15 กันยายน 2559 0.11 น.



    คอมเม้นที่ 2

    ฟิน รอค่ะ

    สุดท้ายก็ได้กัน
    15 กันยายน 2559 0.12 น.


                   จินฮวานขมวดคิ้วพออ่านชื่อล็อคอินความเห็นที่ 2..
                   คือนี่กะเชียร์ให้ได้กันแน่นอนถูกมะ

                   แล้วยังจะมาฟงมาฟินอะไรอีก มันไม่ฟินเฟ้ย 



    คอมเม้นที่ 3

    นึกว่าลงเอยไปตั้งแต่ดูดปากคราวที่แล้วแล้วนะครับ

    ไมโนฮิ้วจ์บอย
    15 กันยายน 2559 0.12 น.

    LEEHIเป็นสาววาย ขำกลิ้ง, เมะตะมงบอย ขำกลิ้ง, โอฮยอก_พระกระโดดกำแพง ถูกใจ, ชื่อกูจำง่ายแค่สองพยางค์ ซึ้ง และสมาชิกอีก 8 คนร่วมแสดงความรู้สึกต่อความคิดเห็นนี้


                   เขาขมวดคิ้วอีก ไอ้ล็อกอินนี้ก็เชียร์ให้ได้กันตั้งแต่กระทู้ที่แล้ว แล้วอะไรคือการมีคนมาร่วมหัวเราะด้วยมากมายขนาดนั้นอ่ะ ตลกอะไรขนาดนั้น ไปหาคาเฟ่อยู่กันเลยมั้ย


                   จินฮวานพยายามดับความหงุดหงิดใจลงและกวาดสายตาอ่านคอมเม้นถัดไปต่อ



    คอมเม้นที่ 4 

    ผมว่าเขาชอบจขกท.นะครับ เรื่องแบบนี้จขกท.เองก็น่าจะรู้คำตอบดีที่สุดนะ?

    จ๊อยในตัวเองเหลืออนาถ
    15 กันยายน 2559 0.20 น.



              อืม....
              ก็ถ้ารู้เขาคงไม่มาตั้งกระทู้ในพันทิป



    คอมเม้นที่ 5

    ของแบบนี้ถามไปตรงๆเลยดีที่สุดครับ ผมเคยเจอเคสแบบนี้เหมือนกันนะ แต่เขาไม่ได้คิดอะไร การถามไปตรงๆจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดครับ

    วอนtotheดับเบิลยูoo
    15 กันยายน 2559 0.32 น.



                   เอ้าเครียดเลย




    คอมเม้นที่ 6

    มันแล้วแต่คนนะคะ อย่างที่คห.5 ว่าก็มีส่วนถูก เราคิดว่าจขกท.น่าจะลองถามเขาดูตรงๆ หรือไม่ก็ลองซุ่มดูไปก่อนก็ได้ค่ะ ถ้าเขาชอบจขกท.เราว่าเดี๋ยวก็ต้องมีอาการแสดงออกมาให้เห็นบ้างล่ะ

    เป็นกำลังใจให้จขกท.นะคะ

    สาวน้อยเอี้ยต้วน
    15 กันยายน 2559 0.56 น.


         
                   จินฮวานขมวดคิ้ว รู้สึกถึงความเป็นอเมริกันสไนเปอร์ตอนอ่านคำว่าซุ่มดู นี่ก็ซุ่มมาเป็นเดือนแล้วนะ ยังไม่มีอาการอะไรหลุดออกมาเลยไม่ใช่หรือไง นอกจากการไปกันท่าใส่เพื่อนๆว่านี่หมวยของกู -_-)





    คอมเม้นที่ 8 

    คุณจขกท.รุกเลยค่ะ^^ คุณเน่ดูจะยังกล้าๆกลัวๆ

    ขอบตาคล้ำ
    15 กันยายน 2559 4.52 น.




    คอมเม้นที่ 9

    ก็มีอยู่หลายๆปัจจัยนะที่สังเกตได้ เช่น โทรคุยกันบ้างไหม เป็นห่วงหรือสนใจเราเกินหน้าเกินตาหรือเปล่า ชอบหาเรื่องมาวนเวียนในชีวิตเราบ่อยๆ เรื่องพวกนี้ก็ส่วนนึง แต่อีกอย่างนึงคือต้องลองถามเขาตรงๆค่ะ

    เจ๊ไฝตลาดไท
    15 กันยายน 2559 7.54 น.



                  เจ๊ไฝมาแบบมีสาระ จินฮวานอ่านแล้วทำหน้านึก ก่อนจะเลื่อนไปที่คอมเม้นถัดไป จะว่าไปการอ่านคอมเม้นในกระทู้พันทิปนี่มันก็เหนื่อยเหมือนกันนะ ต้องมาเจอกับความเห็นจากคนร้อยพ่อพันแม่ จินฮวานคิดว่าโลกนี้มันโหดสัสพอประมาณอยู่


                        เอาเถอะ เขาต้องสตรอง เผื่อจะได้แนวคิดอะไรดีๆบ้าง



              
    คอมเม้นที่ 10

    สารภาพว่ามัวแต่นั่งอ่านกระทู้นี้จนไปทำงานสายเลยค่ะ
    เราว่าเขาดูจะชอบคุณนะคะ >< ถ้าเขาไม่พูดอะไรสักที ก็จับรวบหัวรวบหางเลยค่ะ

    เสียสาวเมื่อเช้านี้ 
    15 กันยายน 2559 8.20 น.


                   เเหมะ


                   จินฮวานชักจะเหนื่อยขึ้นเรื่อยๆ ชื่อล็อกอินกะคอมเม้นก็ไปในทิศทางเดียวกันมาก
                   ตอบอะไรไม่ได้ให้เกียรติความสูงอันน้อยนิดของจินฮวานเลย  ขืนเขาจับจุนฮเวปล้ำมีหวังโดนน้องถีบตกเตียงล่ะสิไม่ว่า ดูขนาดตีนมันซะก่อน เตะทีเดียวจินฮวานก็ช้ำในแอดมิดห้องไอซียูแล้ว



    คอมเม้นที่ 11

    ทำเสน่ห์เลยค่ะ

    รักแท้แพ้ไสยศาสตร์ 
    15 กันยายน 2559 1.20 น.



                   "โอ๊ยยยย" 


              จินฮวานอุทานออกเสียงขึ้นมาหลังจากฝืนไปได้ 11 คอมเม้นท์ถ้วน คือมันชักจะออกทะเลกันมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วนี่คือเขาเพิ่งจะอ่านไปได้ไม่ถึงครึ่ง ลองเลื่อนดูคอมเม้นท์ทั้งหมด ปาเข้าไปเกือบห้าสิบคอมเม้นท์ น่ากลัวชิบหาย มีทั้งให้ปล้ำ ให้ทำเสน่ห์ 

                   จินฮวานไม่เคยตระหนักได้เท่าวันนี้ว่าสังคมที่เราอยู่นั้นมันช่างโหดสัสเสียจริงๆ



     

    Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr 


                   ยังไม่ทันที่จินฮวานจะได้อ่านคอมเม้นท์พวกนั้นต่อ เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือที่กระจองอแงก็ทำให้จินฮวานต้องจำใจลุกจากหน้าจอและเดินมาหยิบโทรศัพท์มือถือที่โยนไว้ส่งๆบนเตียงเมื่อกี้ขึ้นดู


                   เดี๋ยวนะ


                   จินฮวานอยากจะขยี้ตาเพื่อให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้ตาฝาด เพราะสายที่โทรเข้ามาปรากฏเป็นชื่อชัดเจนยิ่งกว่าความคมชัดยูทูประดับ 4K


                   จุนฮเว



                   มายก็อด มายลอร์ด มายบุดด้าห์เบลส 
                   จินฮวานนึกถึงคอมเม้นของเจ๊ไฝตลาดไทเมื่อกี้ขึ้นมาทันที 

                   การจะดูว่าเขาชอบเราบ้างไหม ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่นว่า โทรคุยกันบ้างไหม

                   โปรดฟังอีกครั้ง

                   โทรคุยกันบ้างไหม


                   "ฮัลโหล"  จินฮวานพยายามอย่างสุดชีวิตที่จะควบคุมน้ำเสียงให้มันราบเรียบ ไม่ตื่นเต้น ไม่ดีใจ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ไหวแล้ววววววว 

                   "มีอะไรหรือเปล่า"

                   "งอนอ่อครับ ฮึ?"

                   เดี๋ยว

                   จินฮวานถึงกับต้องยกหูโทรศัพท์ให้ห่างจากตัวเพื่อดูชื่อคนโทรเข้าอีกครั้ง นี่เขากำลังคุยถูกคนหรือเปล่า เขาอ่านชื่อผิดไป หรือมีใครยืมโทรศัพท์จุนฮเวโทรหาเขา หรือจุนฮเวเกิดผีเข้า จู่ๆถึงได้พูดเพราะกับเขาขึ้นมา

                   "จุนฮเวเหรอ"

                   "ก็เค้าดิ จะใครล่ะ"

                   แม่งงงงงงงงงงงง

                   "มีไร" จินฮวานยังคงทำเสียงราบเรียบต่อไป แม้ข้างในใจจะเต้นตึกตักเป็นกลองรุมบ้าแล้วก็ตาม

                   "งอนเค้าอ่อ ที่วันนี้ไม่พากลับบ้าน" จุนฮเวว่า ทำน้ำเสียงหยอกล้อแบบที่จินฮวานไม่ค่อยจะได้ยินบ่อยนัก เขาย่นหน้ากับประโยคหน่อมแน้มนั้นของจุนฮเว คือถ้าว่ากันตามสัญชาตญาณและธรรมชาติของมนุษย์โดยทั่วไป สมมติว่าคุณมีแฟน แล้วแฟนคุณไปทำเรื่องน่าทุบเอาไว้ ยกตัวอย่างเช่นปล่อยให้คุณรอหลายชั่วโมงในเดทแรก หรือลืมวันครบรอบ หลังจากนั้นพอพ่อเจ้าประคุณรู้ซึ้งถึงวีรกรรมที่ตัวเองได้ก่อไว้ ก็เลยเอ่ยปากถามคุณว่า งอนหรือเปล่า ในกรณีแบบนี้ถึจะงงอนมันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะมานั่งบอกไหมล่ะ จินฮวานคิดว่าถ้างอนก็ควรรู้ด้วยตัวเอง แล้วก็ง้อซะ หรือจะขอโทษอะไรก็ว่าไป ไม่ใช่มาถามแบบนี้

                   คือเขาต้องตอบยังไงล่ะ 'อื้อ งอน ง้อด้วย' แบบนี้เหรอ


                   "เปล่า วันนี้เพื่อนมาส่ง ไปซื้อของทำกีฬาสีมา"

                   "ก็นึกว่างอน" เสียงกระเซ้านั้นกวนตีนบอกยี่ห้อของคนที่อยู่ปลายสายทำให้จินฮวานหายข้องใจ จากที่เคยคิดสงสัยว่าพูดเพราะขนาดนี้ไม่เหมือนจุนฮเว แต่พอได้มาสัมผัสกับความเร้าตีนนี้ จินฮวานก็รู้ดีว่าคงเป็นใครไปไมได้หรอกนอกจากจุนฮเวนั่นแหละ

                   "ถ้าแค่นี้งอนก็เด็กอนุบาลล้ะ"

                   "ค้าบ ไม่งอนก็ไม่งอน น่ารักมาก" จุนฮเวหัวเราะยียวนอีกครั้ง และทำให้จินฮวานหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม เขาเอนตัวนอนพิงหมอนข้างและเล่นกับตุ๊กตาหมีไปด้วยระหว่างที่คุย อันที่จริงมันก็นานแล้วเหมือนกัน ที่เขาไม่ได้คุยโทรศัพท์นานๆจนนอนเล่นกลิ้งไปกลิ้งมาระหว่างคุยกันแบบนี้

                   "น่ารักไร เราเพื่อนเล่นแกหรอ เราแก่กว่าแกนะ" 

                   "พูดประโยคนี้เป็นรอบที่ล้านละมั้งเนี่ย ไม่เบื่อมั่งเหรอ"

                   "ไม่เบื่อ ถ้าเบื่อก็ไม่ต้องมาคุย" จินฮวานทำเสียงแข็ง เผลอบี้หน้าตุ๊กตาหมีที่อยู่ในมือ ด้วยความอินเบอร์แรง คิดซะว่าเป็นหน้าจุนฮเว เขาอยากจะยีหน้ามันแรงๆไปเลย ฮึ่ย น่าหมั่นไส้


                   "ใครเบื่อ ไม่ได้พูดสักคำเลยว่าเบื่อ" จุนฮเวเถียงกลับมาตามสาย และคำพูดนั้นก็ทำให้จินฮวานแอบอมยิ้ม 


                   "ใครจะเบื่อลง"



    # จิ น ฮ ว า น พั น ทิ ป 


                   "จินฮวาน ต่อไปถ้ายังลืมปิดคอมแบบนี้ แม่จะยึดคอมพิวเตอร์ออกมาวางนอกห้องแล้วนะ แล้วดูซิ นอนก็ไม่รู้จักดับไฟ รู้บ้างไหมว่ามันเปลืองค่าไฟแค่ไหน แล้วถ้าเข้าเว็บอะไรมีสาระ แม่จะไม่ว่าเลย นี่อะไร นั่งอ่านเรื่องรักติ๊งต๊องในพันทิป ทำตัวเป็นสาวออฟฟิศว่างงานไปได้"


                   เสียงแม่บ่นยาวยืดปลุกให้จินฮวานงัวเงียตื่น อันที่จริงคือเขาก็ไม่ได้ตั้งใจจะเปิดคอมค้างเอาไว้หรอก แต่ประเด็นก็คือเมื่อคืนเขาคุยกับจุนฮเวจนหลับไปเลย อย่าว่าแต่ปิดคอมหรือปิดไฟเลย เท่าที่จำได้คือเขายังไม่ได้อาบน้ำด้วยซ้ำ


                   จินฮวานมองโทรศัพท์มือถือที่ตอนนี้ดับสนิทเพราะแบตเตอรี่หมดเกลี้ยงแล้วก็อมยิ้มออกมาโดยที่ไม่รู้ตัว เสียบสายชาร์ตค้างไว้และเดินอมยิ้มเข้าห้องน้ำไปโดยไม่สะเทือนแม้แต่น้อยกับคำด่าของแม่


                   "แล้วนี่อะไรลูกคนนี้ แม่ด่าก็ยังจะมายิ้มอีก เดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อยนะยะ ฟังฉันพูดอยู่หรือเปล่า คิมจินฮวาน!!!"


                   "คร้าบ ขอโทษครับแม่" จินฮวานโผล่หน้าออกมาจากประตูห้องน้ำและยิ้มอ้อนให้ผู้เป็นมารดา บอกเลยว่าความอิ่มเอิบอบอุ่นใจในตอนนี้ของเขา มันไม่มีอะไรมาฉุดรั้งได้จริงๆ แม้แต่โดนด่าจินฮวานก็ยังรู้สึกว่าสบายดี สบายดี


                   "ไปอาบน้ำเลยไป ลูกคนนี้ มาทำหน้าแป้นแล้นอยู่ได้!" พอเขายิ้มแต้ให้แม่ แม่ก็เลยพลอยยิ้มไปกับเขาด้วย จินฮวานขยี้ตานิดหน่อย รู้สึกง่วง แต่ก็อารมณ์ดี ล้างหน้าแปรงฟัน อาบน้ำแต่งตัวและลงมากินข้าวเช้าที่แม่ทำเอาไว้ให้อย่างสบายใจ


                   ทุกอย่างรอบๆตัวดูเหมือนจะดีไปหมดแค่เพราะบทสนทนาและความรู้สึกดีๆที่ก่อตัวขึ้นทีละนิดระหว่างเขากับจุนฮเว น้องชอบแกล้งและกวนตีนเขาอยู่ตลอด แต่บทจะน่ารักก็น่ารักมากเหมือนกัน มันทำให้หัวใจของเขาพองโตและเต็มอิ่มไปหมด 

                   จากที่รู้สึกว่าความสัมพันธ์ไม่เคยจะชัดเจนเลย แต่แค่บทสนทนายืดยาวที่ไม่ยอมจบระหว่างเราสองคนก็ทำให้จินฮวานเริ่มจะพอมีหวังเล็กๆขึ้นมาในใจบ้าง เราพูดคุยกันถึงเรื่องราวตลกๆในอดีตระหว่างเราสองคน และหัวเราะไปกับมัน จินฮวานอดเข้าข้างตัวเองไม่ได้เลย

                   

                   มันก็ดูมีความชอบกูอ่ะ!!
     

                   "แล้วนี่มานั่งยิ้มอะไรอยู่ เป็นบ้าหรอ"

                   สาบานได้ว่านี่แม่จินฮวานเอง

                   "มีขนมเค้กเจ้าอร่อยอยู่ในตู้เย็นน่ะ จุนฮเวเอามาฝากไว้เมื่อเช้า เห็นว่า---"

                   ยังไม่ทันที่คุณนายคิมจะพูดจบประโยคจินฮวานก็กระโดดโครมครามสามก้าวถึงหน้าตู้เย็นแทบจะในทันที กล่องเค้กเจ้าอร่อยที่มักจะเปิดร้านแต่เช้ามืดและขายหมดตั้งแต่ยังไม่สิบโมง เป็นร้านเจ้าอร่อยที่อยู่ไม่ไกลจากละแวกบ้านนัก แต่ส่วนมากแล้วจินฮวานกับจุนฮเวไม่ค่อยจะได้กินเค้กร้านนี้สักเท่าไหร่ เพราะ 1. ตื่นไม่ทัน และ 2.ขี้เกียจขี่มอไซค์ออกไปต่อคิวนั่นเอง

                   จินฮวานอมยิ้มและหัวเราะหึๆกับตัวเองตอนที่คิดว่าจุนฮเวคงขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปต่อคิวซื้อเค้กนี่มาก่อนจะเดินทางไปค่ายเก็บตัวนักกีฬา กล่องเค้กสีฟ้าที่ประดับลวดลายสีชมพูดูเป็นคู่สีที่เข้ากันมาก จินฮวานค่อยๆแกะสก็อตเทปที่แปะไว้อย่างเบามือเพราะไม่อยากให้กล่องเค้กสีสวยมีรอยลอก 


                   โดยส่วนตัวและด้วยความสัตย์จริง จินฮวานสารภาพว่าเขาเป็นสิ่งมีชีวิตประเภทแดกดะอยู่แล้ว ใครซื้อของกินมาให้เขาก็ดีใจทั้งนั้นแต่พอเปิดกล่องเค้กเจ้าอร่อย และเจอลายมือยึกยือที่เขียนเอาไว้ที่ฝาด้านในของกล่อง คนตัวเล็กก็อดไม่ได้ที่จะคลายยิ้มออกมาอีกหน



                   สตอเบอรี่ช็อทเค้กชิ้นสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่โปะหน้าด้วยครีมขาวฟูกับสตอเบอรี่ผ่าครึ่งสีแดงสดชิ้นโต เนื้อเค้กฟองน้ำและครีมที่สอดไส้ด้วยสตอเบอรี่ดูสวยงามมากราวกับงานประติมากรรมที่งดงามของปิกัสโซ่

                   น้ำตาจะไหล ขอแชร์นะคะ

                   จินฮวานยิ้มแก้มปริ คว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปช็อทเค้กเจ้าอร่อยนั้นไว้ โดยตั้งใจถ่ายให้ติดฝากล่องที่เขียนด้วยลายมือของจุนฮเวด้วย


                   ก็ไม่ได้ดีใจอะไรมากหรอกนะ ก็แค่หุบยิ้มไม่ได้อะ


                   จินฮวานกดส่งรูปไปทางไลน์ของไอ้เด็กยักษ์นั่น และพิมพ์อะไรไปนิดหน่อย 

                   KJH: หายงอนก็ได้ เห็นว่าเค้กน่ากินหรอกนะ


                   จินฮวานหัวเราะนิดๆกับตัวเอง และเดินไปหยิบช้อนกาแฟมาตักเค้กใส่ปาก รสสัมผัสที่นุ่มละมุนทำเอาเขาแทบจะนั่งไม่ติดเก้าอี้ เข้าใจเลยว่า อร่อยจนปีกงอกมันเป็นยังไง ตอนนี้เขาแทบจะบินได้ด้วยซ้ำมั้งเนี่ย

                   ฮอยคนเดิม เพิ่มเติมเดี๋ยวบอก: อร่อยป้ะ

                   จินฮวานสะดุ้งทันทีที่เสียงเตือนจากแอพพลิเคชั่นไลน์ดัง เขากดดูข้อความจากจุนฮเวแล้วยิ้มกว้าง คาบช้อนกาแฟไว้ในปากก่อนจะกดพิมพ์ยุกยิกตอบกลับไป

                   KJH: ก็งั้นๆแหละ

                   เขาอมยิ้มและตักเค้กใส่ปากอีกคำ รออยู่ครูใหญ่ข้อความที่ส่งไปก็ยังไม่ขึ้นว่าถูกกดอ่าน นี่ก็ตอบแบบวินาทีต่อวินาทีปะวะ แล้วหายไปเลยคืออะไรอะ มือถือตกท่อหรอ หรือโดนวิ่งราวไปแล้ว

                   อันที่จริงจินฮวานไม่ค่อยชินเท่าไหร่กับการคุยโทรศัพท์หรือแชทกันผ่านไลน์แบบเป็นเรื่องเป็นราวกับจุนฮเว เพราะบ้านของพวกเขามันอยู่ใกล้กันชนิดที่แค่เดินไม่ถึงสิบก้าวก็ถึง มันเลยแปลกนิดหน่อยตอนที่จินฮวานรู้สึกตัว ว่าเขากำลังรอไลน์จากจุนฮเว

                   "เออ เมื่อเช้านี้ มีเพื่อนหนูเค้าฝากบอกว่าตอนบ่ายซ้อมสแตนด์ให้น้อง อยากให้ช่วยไปดู ชื่ออะไรนะแม่ก็จำไม่ได้"

                   จินฮวานหันมามองผู้เป็นแม่แล้วขมวดคิ้ว 

                   "ใครอะ ฮันบินหรอ"

                   "ไม่ใช่ แม่จำฮันบินได้ คนที่ยิ้มแล้วปากเป็นรูปหัวใจ แต่ไม่ใช่คนนี้"

                   อืมม.. "ดำๆ ตัวสูงๆปะแม่"

                   "ก็จะว่าอย่างนั้นก็ใช่อยู่นะ"

                   "อ๋อ คนนั้นชื่อมินโฮ เป็นประธานสี"  ถ้าดำก็ไม่น่าจะผิดคน เพราะมีอยู่เจ้าเดียว 

                   จินฮวานหัวเราะก๊าก ตักเค้กใส่ปากอีกคำแล้วเดินขึ้นบ้านไปเปลี่ยนชุด เตรียมตัวไปโรงเรียนช่วงบ่าย  พอก้าวเท้าพ้นธรณีประตูห้องนอน เขาลืมเรื่องที่จุนฮเวยังไม่ตอบไลน์ไปซะสนิท


    # จิ น ฮ ว า น พั น ทิ ป 



                   กว่าจินฮวานจะไปถึงที่โรงเรียนเพื่อนๆแก๊งลีดก็มานั่งสวยคอยท่ากันอยู่หน้าสแตนด์แล้ว แน่นอนว่านัง(งูเห่า)จี้มาพร้อมกับผัวเด็กของมัน น้องวอนอูสุดหล่อแห่งแก๊งเอฟโฟร์ มิงฐามยองซูก็กำลังนั่งคุยกับน้องซองยอล ม.5 นักบาสสีชมพูที่ตัวสูงปรี๊ดอย่างกับเสาไฟ ส่วนเตนล์ก็ดูมีความวอแวกับใครสักคนอยู่ เป็นรุ่นน้องม.ต้นที่เขาไม่ค่อยจะคุ้นหน้า 


                   ทุกคนดูมีความมีผัว
                   ทำไมล่ะทำไม


                   จินฮวานก็เลยเดินไปนั่งกับเพื่อนๆแก๊งชะนีแทน

                   "ฮ๊ายยยแกกกก มาเม้าท์กันนนน" นี่คือโบมี

                   "มาแก มากินมะม่วงกะปิ" ...นี่แฮรยอง

                   "เมื่อคืนได้ดูเฮทเลิฟมั้ย มึงว่าใครฆ่านานะ" ส่วนนี่..ก็จีอึน

                   "ฉันว่าไอ่ แน่นอน กะแม่อีซอล ต้องร่วมมือกันฆ่านานะ" และก็ตบท้ายด้วยดาฮยอน..

                   จินฮวานนั่งลงข้างๆแฮรยองที่เขยิบให้เขาและยื่นถุงมะม่วงกะปิให้อย่างเอื้ออารี แต่จินฮวานปฏิเสธไปอย่างสุภาพ นี่สรุปว่าเพื่อนตุ๊ดในแก๊งลีดของเขาก็มีแฟนกันไปหมดแล้ว จะเหลือก็แต่จินฮวานที่ยังกอดคานเหงาๆอยู่กับชะนีติดซีรีส์ทั้งสี่คนตรงหน้า

                   "เราไม่ได้ดูอ่ะ"

                   จินฮวานสารภาพ และนั่นก็ส่งผลให้ทั้งสี่หันขวับมาทางเขาแบบไม่อยากจะเชื่อหู

                   "เหยยยยย ถามจริง เอ๊าท์มาก" ดาฮยอนอีกครั้ง

                   "นี่ไง ก็ว่าละว่าทำไมตอนถามทำหน้างง ถ้าจินฮวานดู จินฮวานจะต้องสงสัยแบบเรา ว่าใครฆ่านานะ" และก็เป็นจีอึน

                   "วันนี้จะเลิกกี่โมงวะ เดี๋ยวตอนเย็นกะว่าจะไปดูมินิคอนเสิร์ตฮิปฮอปแถวฮงแด" เฮรยองคุยไปคนละเรื่อง

                   "สายย่อสินะมึง" โบมีเหล่มองเพื่อนอย่างรู้ทันและเอ่ยแซว

                  
                   วอทททททท 
                   นี่จินฮวานจะต้องมานั่งฟังชีคุณหน่องทั้งสี่คุยกันไปคนละเรื่องสองเรื่องแบบนี้เนี่ยนะ

                     "อ้าว มาแล้วเหรอ เดี๋ยวรอแป็บนะ น้องยังมาไม่เต็มสแตนด์เลยอะ"

                 ส่วนมินโฮก็เดินตัวดำมาแต่ไกล เกาพุงไปพลางก็ยิ้มโชว์ฟันขาวให้จินฮวาน มินโฮสวมกางเกงเลกับเสื้อแถมจากน้ำมันเครื่องเวลลอย พร้อมที่คาดผมที่เสยให้ผมหน้าม้าไม่ลงมาปิดหน้าผาก....

                   "นี่ชุดซ้อมเชียร์มึงหรอวะ.." จินฮวานล่ะอึ้ง มันจะชิวไปไหน...

                   "เอ้อ" มินโฮหัวเราะเปิดเผยจนสาวๆที่นั่งกินมะม่วงจิ้มกะปิอยู่พลางก็ขำไปด้วย "ทำไมวะ ก็สบายๆไง"

                   "คือนี่มันดูสบายไปปะ เหมือนชุดที่มึงใช้นั่งเล่นดอทเออยู่บ้านแล้วแม่ใช้ให้เดินออกมาซื้อน้ำปลา" จินฮวานว่าจบ สาวๆในแก๊งก็ฮาครืนอีกครั้ง แต่เพื่อนดำของเขาก็ดูจะไม่สะทกสะท้านใดๆทั้งสิ้นกับคำด่า ยักไหล่ไหวๆทำท่าแร้วไงคัยแคใส่จนสุดท้ายจินฮวานก็พลอยหัวเราะออกมาด้วยอีกคน

                   "ยิ้มได้ซะที กูเห็นทำหน้าตูดตั้งแต่เมื่อกี้ละ" 

                   "เหงาเหรอ น้องนักบาสไม่อยู่อะ" 

                   "อุส่าห์ชวนเม้าท์ละครแก้เหงา" 

                   จินฮวานหันขวับมามองแฮรยองและดาฮยอนอึ้งๆ และหันกลับไปมองมินโฮอีกครั้ง

                   "เมื่อกี้พูดว่าไรนะ" 

                   "แล้วฉันพูดไรผิด" ดาฮยอนกะพริบตาปริบๆ "ก็แกกะน้องเป็นแฟนกันไม่ใช่หรอ"

                   เดี๋ยววววววววววววววว

                   "ไม่ใช่เว้ย! เป็นพี่น้องกัน"


                   จินฮวานรู้สึกปวดหัวตัวร้อนเป็นไข้คล้ายจะเป็นลม แม้แต่ยาอมโบตันยาสีฟันคอลเกตสบู่วิเศษปั๊กกะเป่ายิงฉุบก็คงช่วยเขาไม่ได้แล้วในตอนนี้ ทำไมอยู่ๆดาฮยอนถึงพูดจาแบบนั้นออกมาได้

                   "งั้นก็จีบกันอยู่ป้ะ เห็นกลับบ้านด้วยกันทุกวันเลย ใส่หมวกกันน็อคให้กันด้วย" โบมีแทรกขึ้นมา และทำให้จินฮวานผงะอีกครั้ง

                   "จินฮวานกะน้องนักบาสสีเขียวเหมือนแฟนกันจะตาย ไปถามเด็กอนุบาลแม่งยังดูออกเลย" แฮรยองพูดยาวยืดโดยมีมินโฮยืนหัวเราะเอิ้กอ้ากอยู่ไม่ไกล พลางก็พยักหน้าเห็นด้วย 

                   "จริง เหมือนมาก นี่เมื่อวานที่มาปรึกษาเรื่องหัวใจก็คนนี้ปะเนี่ย"


                   "ย๊า พูดทำส้นตีนอะไร" พอไอ้ดำพูดจบ สาวๆแก๊งเมาท์ก็ทำตาโตขึ้นมาทันที แล้วคือความขี้เม้าท์ของยูนโบมีนี่มันเลเวลที่แบบ โบมีรู้โลกรู้อ่ะ

                   "ปรึกษาไรหลอออ ขอรู้ด้วยคนนนนน" 

                   เพื่อนๆระเบิดเสียงหัวเราะกันยกใหญ่ และจินฮวานก็นึกขอบใจในโชคชะตาที่จุนฮเวหรือเพื่อนๆจุนฮเวไม่ได้อยู่ตรงนั้น แม้วอนอูจะนั่งอยู่ใกล้ๆแต่ก็ดูเหมือนจะไม่ได้ฟังเพราะมัวแต่ออดอ้อนอีจี้อยู่


                   แม่จ๋า จินฮวานอยากร้องไห้ ทุกคนแกล้งหนูอ่ะ


       

                   
    # จิ น ฮ ว า น พั น ทิ ป 
     
                   

                    "เอาล่ะค้าบน้องๆ วันนี้พี่ซ้อมแค่นี้นะค้าบ เดี๋ยววันอังคาร เราต้องไปเชียร์พี่ๆบาสม.ปลาย อย่าลืมไปซ้อมร้องเพลงมาให้แม่นๆน้า"


                   หลังจากผ่านการซ้อมไปพอสมควร รวมทั้งให้เชียร์ลีดเดอร์มาเป็นคนช่วยคุมน้องเรื่องจังหวะจะโคนในการร้องเพลงด้วยแล้ว จินฮวานคิดว่าการซ้อมก็เป็นไปด้วยดีในระดับที่น่าพอใจอยู่ พอส่งน้องๆกลับบ้านกลับช่องกัน พวกรุ่นพี่ก็ประชุมกันอีกนิดหน่อยก่อนจะแยกย้ายกลับบ้าง


                   "อีจิน กลับไงอ่ะ" เดชะบุญที่การมาเป็นเชียร์ลีดเดอร์ก็ช่วยให้จินฮวานได้เจอเพื่อนใหม่ๆที่นิสัยดี ยกตัวอย่างเช่นอีจี้เป็นต้น "กลับกะกูป้ะ วันนี้น้องวอนอูขับรถมา เดี๋ยววนไปส่งบ้าน"


                   วอนอูซึ่งถูกเอ่ยอ้างชื่อขึ้นมาหันมายิ้มตาหยีและพยักหน้าให้จินฮวานพอเป็นมารยาท แหม่ สมแล้วจริงๆที่เป็นหนึ่งในแก๊งเอฟโฟร์ของอีเน่มัน


                   "เดี๋ยวกูกลับเองก็ได้ เกรงใจ"

                   "เกรงใจไรมึง ปกติมึงก็ต้องกลับกะน้องจุนฮเว แต่วันนี้น้องมันไม่มาไม่ใช่อ่อ ก็เดี๋ยวกุวนไปส่ง นิดเดียวเอง"

                   "เออ เดี๋ยวเรากะแฮรยองจะไปคอนเสิร์ตฮิปฮอปที่ฮงแด แกจะไปมั้ยอ่ะ ไปกะพวกเราก็ได้นะ" ดาฮยอนหันมาถามและยิ้มสดใสอย่างมีไมตรีจิต แต่จินฮวานส่ายหัวดุ๊กดิ๊ก  "ไว้คราวหน้าดีกว่า วันนี้ปวดหัวนิดนึง เดี๋ยวคงกลับบ้านไปนอนพักอะ"

                   "ปะ งั้นก็ไปกะกูเนี่ยแหละ เดี๋ยวพาไปส่งบ้าน" 


                   ปากไม่พูดเปล่า อีจี้ก็เดินเข้ามากอดคอเขาแล้วพาไปที่รถพอร์ชของน้องวอนอูที่จอดอยู่ไม่ห่างกัน ผัวเด็กของอีจี้นี่แม่งหล่อทุกท่วงท่า ขนาดแค่ใช้ทิชชู่ซับเหงื่อบนหน้ายังดูรวยเลย นึกแล้วก็คิดถึงอีเน่ พอร์ชเหรอ ไม่ได้แดกหรอก ฮอนด้าเวฟเท่านั้น

                   ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังชอบอยู่ดีเวลาซ้อนท้ายน้องมันกลับบ้าน

                   มันคงเป็นความเคยชินแล้วล่ะมั้ง เราอยู่ด้วยกันมานาน ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด พอวันหนึ่งอยู่ๆจุนฮเวหายหัวไป มันก็เลยรู้สึกโหวงๆในใจแบบประหลาด รู้สึกเหมือนขาดอะไรในชีวิตไป ถึงแม้เวลาอยู่ด้วยกัน จุนฮเวจะกวนตีนเขาตลอดเวลา ชอบเล่นมุกเสี่ยว ชอบทำตัวกวนบาทา...


                   แต่ก็นั่นแหละ
                   สำหรับเขามันดีที่สุดแล้วที่ได้อยู่ใกล้ๆกับจุนฮเว


                   "มึงยิ้มไรของมึงอะ" 

                   จ้ะ

                   "คิดถึงแฟนเหรอ บ้านมึงไปทางไหนอ่ะ บอกน้องเร็ว" 

                   หลังจากที่ยิ้มค้างไปสามวินาที จินฮวานก็ทำท่าจะหันไปพูดกับวอนอู แต่น้องวอนอูพึมพำขึ้นมาก่อน เหมือนตั้งคำถามแต่ก็คล้ายจะบ่นรำพึงกับตัวเองมากกว่าสื่อสารกับจินฮวาน

                   "อยู่ตรงข้ามบ้านจุนฮเวเนอะครับ"

                   อืม..ดูเหมือนว่าวอนอูจะรู้อยู่แล้ว

                   "รู้ด้วยเหรอว่าพี่อยู่ตรงข้ามบ้านจุนฮเว"

                   "จุนฮเวเคยพูดให้ฟังอยู่บ้างครับ"

                   เอ่อ หลังจากน้องจั่วหัวมาซะขนาดนั้น จินฮวานก็อึ้งไปพอสมควรเหมือนกัน สักพักนึงก็ขับถึงบ้านและส่งเขาลงจากรถโดยไม่ได้พูดอะไรกันต่อ 

                   แต่ก็อย่างที่รู้กันดีอยู่ว่าจินฮวานเป็นประเภทคิดเยอะ คิดมาก แถมคิดลงไปลึกล้ำ ดังนั้นไอ้คำว่า 'จุนฮเวเคยพูดให้ฟังอยู่บ้าง' เนี่ย มันช่างเป็นคำที่ดูมีนัยยะแบบบอกไม่ถูก

                   จินฮวานเดินลากเท้าเข้ามาในบ้าน เดินผ่านแม่ที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่โต๊ะกินข้าว เดินผ่านพ่อที่นั่งอยู่หน้าโทรทัศน์ และเปิดตู้เย็นหยิบนมกล่องออกมาแล้วเดินกลับไปนั่งตรงกันข้ามแม่ด้วยสภาพที่ไม่ต่างอะไรกับร่างไร้วิญญาณ

                   จุนฮเวเคยพูดให้ฟัง แบบนี้ก็แสดงว่าน้องเคยเอาเรื่องเขาไปพูดลับหลังกับอีพวกแก๊งเอฟโฟร์งั้นสิ

                   "เป็นไรอ่ะลูก"

                   "เปล่าแม่"

                   "ทำหน้าเหมือนโดนหวยกิน"

                   "แม่ ตอนพ่อมาจีบแม่ แม่เคยเอาเรื่องพ่อไปพูดกับเพื่อนปะ"

                   "พูดกับเพื่อน" แม่ขมวดคิ้ว อารมณ์แบบว่าอยากได้คำขยายความมากกว่าเดิม "พูดยังไง นินทาอ่ะเหรอ"

                   "ก็..เกือบๆ" จินฮวานครุ่นคิด "แล้วเวลาเอาไปพูดกับเพื่อน แม่เอาพ่อไปนินทาว่าไง"

                   แม่มองหน้าจินฮวานนิ่งๆอยู่อย่างนั้นอึดใจหนึ่ง ก่อนจะพับหนังสือพิมพ์ที่กางอยู่ในมือ และทำท่าครุ่นคิดอย่างจริงจังกว่าเดิม 

                   "เอาจริงๆ มันเริ่มผิดนะ" แม่ว่าอย่างนั้น "คือเรื่องของเรื่อง แม่เป็นคนไปจีบพ่อ แล้วก็ชอบเอาไปบ่นกับเพื่อนว่า ทำไมพ่อเอ็งมันถึงโง่ขนาดนี้ที่ไม่รู้เลยว่าแม่มาจีบ"

                   คีย์เวิร์ดของประโยคเมื่อกี้คือคำว่า 'แม่เป็นคนไปจีบ' และ 'ชอบเอาไปบ่นกับเพื่อน ว่าทำไมถึงไม่รู้ว่ามาจีบ'

                   "แล้วสุดท้ายพ่อรู้ได้ไง ว่าแม่มาจีบ"

                   จินฮวานรู้สึกว่าตัวเองเข้าใกล้ความจริงเข้ามาทุกที ภาพของจุนฮเวที่กำลังยิ้มและหัวเราะกับเพื่อนๆ วนเวียนอยู่ในหัว เริ่มจินตนาการได้เป็นรูปเป็นร่าง ว่าสถานการณ์ทั้งหมดจะออกมาประมาณไหน

                   "ก็--พ่อถาม แค่นั้นแหละ ถ้าไม่ถามตรงๆ ป่านนี้คงไม่ได้กันหร้อก"

                   แม่กล่าวก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินเกาตูดเข้าห้องน้ำไป
                                  อืมมมมมมม......  ถ้าไม่ถามตรงๆ ก็คงไม่รู้ได้เลย



        
     




      #จินฮวานพันทิป มาแล้วค่ะ หลังจากหายไปนาน  อีกไม่กี่ตอนจินฮวานก็จะมีผัวแล้วนะคะ 

    รักทุกท่าน จาก ฟายเด คนเดิม
    6/11/59  16.02น.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×