คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : SoulMate
Title: Eyes on You (yaoi)
Author: YunJaeKick
Paring: Joong Yunho, Kim JaeJoong (Other TVfXQ’s member)
Genre: Romance
Rate: PG-13
CHAPTER VII : SoulMate
เรากลับมาทำงานที่ญี่ปุ่นอีกครั้งหลังจากที่โปรโมตละครการกุศลเสร็จสิ้น และได้รับกระแสตอบรับดีเกินคาด นั่นหมายถึงกระแสยุนแจฟีเวอร์ในหมู่แฟนคลับด้วย ผมกับแจจุงกลายเป็นที่จับตามอง ไม่ว่าจะย่างกรายไปไหน หรือไปออกรายการอะไร วันรุ่งขึ้นก็จะมีคลิปมีช็อตเด็ด มีรูปภาพระหว่างเราสองคนกระจายอยู่ว่อนอินเทอร์เน็ตไปหมด
ถูกใจชองยุนโฮคนนี้เป็นที่สุด
“น่าอายจริงๆเลย” แจจุงบ่นอุบอิบอยู่กับตัวเองเมื่อได้เห็นรูปที่ชางมินเป็นคนนำออกมาจากเว็บไซต์แฟนคลับให้เราดู
มันเป็นภาพที่ผมกำลังจ้องมองแจจุงด้วยแววตาที่เปี่ยมความหมาย ในขณะที่แจจุงเองก็มองตอบผมด้วยท่าทางที่ไม่ต่างกัน
ผมยังจำภาพเหตุการณ์วันนั้นได้ดี
ก่อนหน้านี้ พวกเราอยู่ในห้องพักผู้โดยสารในสนามบินคิมโป และแน่นอนว่าต้องมีผู้โดยสารที่ไม่ได้เป็นแค่นักท่องเที่ยวธรรมดา หากแต่ว่าเป็นแฟนคลับ...แฟนคลับยุนแจก็มีอยู่มากเช่นกัน
พวกเขาต้องการเห็นภาพเซอร์วิส
ทว่าทุกอย่างที่ผมทำให้แก่คนๆนี้
เป็นเรื่องจริงที่ออกมาจากใจ
“พี่ยุนโฮดูรัยอยู่อ่ะ” จุนซูเข้ามานั่งข้างๆผมก่อนจะยื่นหน้ายื่นตาแสนซนนั้นเข้ามาดูรูปถ่ายที่ผมกำลังจ้องมองอยู่
ภาพตัดต่อผมกับแจจุงที่กำลังจูบกัน
“แฟนคลับทำมาให้น่ะ” ผมเอ่ยตอบน้องไปทั้งๆที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาสบตาคนถามเลยสักนิด เพราะถึงจะเป็นภาพตัดต่อที่ดูคล้ายของจริงมากแค่ไหน แต่มันก็ยังไม่ใช่เรื่องจริง
แล้วถ้าเป็นความจริงขึ้นมาล่ะ
เง้ออออ >///<
“โอ้โห...ก็ตัดต่อได้เนียนเหมือนกันเนอะ” จุนซูทำหน้าทำตาสุดทึ่ง อย่างกับว่าได้เห็นงานประติมากรรมระดับโลก
“พี่แจจุงดูนี่สิ เนียนมากเลยเนอะ” ทึ่งไม่ทึ่งเปล่า ยังช่วยทำตัวเป็นบุรุษไปรษณีย์ที่ดีในการส่งภาพนั้นให้แก่แจจุงกับมือ
คิมแจจุงรับเอาภาพนั้นไปดูอย่างประหลาดใจ
“กะ...ก็แค่ภาพตัดต่ออ่ะ”
“ก็ทำจริงซะสิ จะได้ไม่ต้องเสียเวลามานั่งตัดต่อ” ชิมชางมินน้องเล็กที่ปากตรงกับใจ เอ่ยออกมาทั้งๆที่ตายังจดจ่ออยู่กับจอโน็ตบุ๊คตรงหน้า ถึงเขาจะพูดเหมือนกับไม่ใส่ใจ แต่สำหรับคิมแจจุงที่พักหลังมานี้ชอบทำตัวแปลกๆ คำพูดเหล่านั้นก็เหมือนกับเป็นการจี้โดนจุดอะไรบางอย่างเหมือนกัน
พรึบ!
แจจุงลุกขึ้นจากที่นั่งด้วยท่าทางเหมือนกับคนที่ทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเดินหนีพวกเราออกไปจากตรงนั้นทันที
“ชางมินนี่นะ พูดอะไรก็ไม่รู้” แถมยังมีบ่นให้พวกเราได้ยินอีก
น่ารักจริงๆเลย
“ฮึ้ม! อะแฮ้มๆ” เสียงกระแอมไอของยูชอนดังขัดจังหวะความคิดของผมที่กำลังจ้องมองแผ่นหลังบอบบางของแจจุงซึ่งเดินห่างออกไปเรื่อยๆ
“ฮึ้มๆ”
“เจ็บคอเหรอยูชอน” ท่าทางจะเริ่มเป็นหวัด ก็อากาศมันเย็นเสียขนาดนั้น
“โธ่พี่ยุนโฮ...รีบตามไปสิ” เจ้ายูชอนผู้หวังดีอุตส่าห์เปิดทางให้ผมได้อยู่กับแจจุงสองต่อสอง(ท่ามกลางผู้โดยสารมากมายเนี่ยนะ)
ขอบคุณจริงๆ น้องรัก
ฉันเพิ่งได้เห็นว่าพวกนายน่ารักกันก็วันนี้นี่เอง
“แจจุง...รอฉันด้วยสิ” ผมลุกเดินตามคนขี้อายไปทันทีโดยมีเจ้าสามตัวแสบแอบส่งกำลังใจมาให้อยู่ห่างๆ
“แล้วนายจะตามฉันมาทำไมเนี่ย” แจจุงหันมาโวยวายใส่ผมอย่างกับว่าผมเป็นตัวน่ารังเกียจก็ไม่ปาน
คนดื้อหยุดเดินแล้วหันหลังพิงกับราวจับตรงทางเดิน แถมยังจ้องมองผมแบบไม่พอใจอีกด้วย
“ก็...กลัวหายมั้ง” แหวะ! ผมขออ้วกให้กับตัวเองก็แล้วกัน
“กลัวหาย...คิดว่าฉันเป็นเด็กสามขวบหรือไง” แจจุงหันมาค้อนผมเสียยกใหญ่ เขาไม่ชอบให้ตัวเองถูกมองว่าเด็ก แต่กลับชอบทำตัวดื้อเหมือนเด็กอยู่เรื่อย
“นี่แจจุง”
“หืม?”
ผมเรียกชื่อแจจุงเบาๆ เพื่อให้อีกฝ่ายหันมาสนใจ และในจังหวะที่แจจุงกำลังมองสบตาผมด้วยความสงสัยอยู่นั้น ผมก็ค่อยๆเคลื่อนใบหน้าของตัวเองเข้าไปใกล้ๆ...ใกล้จนลมหายใจแทบจะสัมผัสกัน
คิมแจจุงหน้าแดงขึ้นมาทันที
ผมเองก็รู้สึกว่าหัวใจมันกำลังพองโต
“เศษผงมันติดผมนายอ่ะ” ผมเอื้อมมือไปหยิบเอาเศษผงเหล่านั้นออกไปจากเรือนผมนุ่มสวยของคนตรงหน้า
นี่ถ้าอยู่กันสองต่อสองนะ
ฮึ้มมมมมม
แชะ!
.
.
.
นั่นแหละครับคือที่มาของภาพที่ผมกำลังนั่งมองอยู่นี่ไงล่ะ
ตุบ!
“โอ๊ย! เจ็บนะโว๊ย!” อะไรบางอย่างฟาดลงมากลางศีรษะของผมอย่างแรง เล่นเอาภาพในฝันสลายหายวับไปกับตา ต้องเป็นเจ้าบ้าชางมินแน่ๆ ขอด่าหน่อยเถอะไอ้เด็กแสบ
“ไอ้!...อ้าว...แจจุงเองเหรอ”
นึกว่าเป็นซาตาน
กลับกลายเป็นนางฟ้าไปได้ไง
“ก็ใช่น่ะสิ...ทำไม? นายจะด่าฉันเหรอ” แจจุงยืนเท้าสะเอวจ้องมองผมอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ ในมือก็ถือหนังสือเล่มใหญ่บึ้มที่ก็คงจะเป็นนิยายของชางมิน
นั่นไงล่ะ
ตัวไม่มายังส่งหนังสือมาด้วยอีก...แสบจริงๆ
“เปล่าหรอก ใครจะกล้าว่านายล่ะ” ทั้งดื้อ ทั้งดุ ผมไม่กล้าแข็งข้อด้วยหรอกครับ
“ฉันเรียกนายตั้งหลายที มัวแต่เหม่ออยู่นั่นแหละ”
“แล้วนายมีอะไรจะบอกฉันเหรอ” ถ้าบอกรักผมก็เต็มใจจะฟังครับ
“แค่จะบอกว่าข้าวเย็นเตรียมเสร็จแล้ว หิวก็ไปอุ่นทานเอาเองนะ”
“แล้วนายจะไปไหนล่ะ” ผมเห็นแจจุงแต่งตัวเหมือนกับจะออกไปข้างนอก แต่ไม่คิดจะชวนผมเลยสักคำ
ใจร้ายจริงๆ
“ฉันกับยูชอนจะออกไปข้างนอก...มาญี่ปุ่นทั้งทีจะให้นั่งนิ่งอยู่แต่บ้านได้ยังไงกันล่ะ”
ฉึก!
รู้สึกเหมือนโดนแทงข้างหลังก็ไม่ปาน
“ละ...แล้วฉันล่ะ ไม่คิดจะชวนกันเลยหรือไง” ปาร์กยูชอน นายช่างกล้ามากนะ
“จะพูดอะไรก็หัดดูสภาพตัวเองบ้าง”
“ขานายเป็นแบบนี้ ยังจะออกไปไหนอีกล่ะ” แจจุงพูดเตือนสติผมก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องพร้อมทั้งลากคอเจ้ายูชอนออกไปจากบ้านด้วยกันทันที
แหะๆ
คือผมจริงจังกับการซ้อมมากไปหน่อย เอ็นข้อเท้าก็เลยอักเสบ
แต่พักแค่วันสองวันก็น่าจะหายนะครับ
ไม่เห็นกับต้องทำร้ายจิตใจกันถึงขนาดนี้เลยนะ...โซลเมททททททททททท
............................................................................................................
ผมแยกตัวออกมาจากการสังสรรค์แล้วทิ้งให้ยูชอนอยู่กับเจ้าสองตัวแสบ...จุนซู ชางมิน ซึ่งละทิ้งหน้าที่ดูแลยุนโฮ ก่อนจะตามมาสมทบกับเราโดยไม่ได้รับอนุญาต
เจ้าเด็กพวกนี้
ไว้ใจไม่ได้เลยจริงๆ
“ก็พี่ยุนโฮหลับไปตั้งแต่หัวค่ำแล้วอ่ะ”
“พวกเราก็เบื่อเป็นเหมือนกันนะ” เหตุผลช่างฟังขึ้นเสียเหลือเกิน
ผมรีบกลับมาที่บ้านด้วยอาการร้อนใจ...ที่ก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าจะว้าวุ่นไปเพราะอะไร หวังว่ายุนโฮคงไม่ได้มีไข้หรอกนะ ก็ปกติไม่ได้นอนเร็วขนาดนี้นี่นา
“กินข้าวแล้วหรือยังนะ” ผมเอ่ยถามกับตัวเอง รู้อย่างนี้ไม่ปล่อยให้ยุนโฮต้องนั่งเหงาอยู่ที่บ้านคนเดียวหรอก
“มีของหวานมาฝากคนป่วยด้วยน้า...” ผมส่งเสียงทักทายตั้งแต่เปิดประตูบ้านเข้าไป อุตส่าห์แวะซื้อของหวานที่ชอบมาฝาก หวังว่ายุนโฮคงจะดีใจ
หากแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆดังออกมาจากห้องนั่งเล่นเลย
เอ...หรือว่าจะหลับไปแล้วจริงๆ
ผมวางถุงของหวานไว้ในครัว ก่อนที่จะตัดสินใจเดินเข้าไปดูในห้องนอนของยุนโฮกับยูชอนแทน (ปกติผมจะนอนห้องเดียวกับจุนซู)
หลับไปแล้วจริงๆด้วย
ผมค่อยๆก้าวเดินเข้าไปอย่างเงียบและพยายามทำตัวเองให้เบาเหมือนปุยนุ่นมากที่สุด เพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายต้องตกใจตื่น
ความจริงก็ไม่อยากให้รู้ด้วยล่ะ ว่าผมกลับมา
ก็มันน่าอายนี่นา
“มีไข้รึเปล่านะ” ผมพึมพำกับตัวเองก่อนจะตัดสินใจเอื้อมมือไปแตะหน้าผากของยุนโฮอย่างเบามือที่สุด เพื่อเป็นการวัดระดับอุณหภูมิในตัวอีกฝ่ายหนึ่งด้วย
ก็ปกติดี
ชองยุนโฮที่กำลังหลับสนิททำสีหน้าอย่างกับลูกแมวที่ต้องการออดอ้อนแม่แมว แพขนตายาวนั้นเรียงนิ่งไม่ไหวติง มุมปากที่ยกหยักขึ้นนั้นแสดงว่าเขากำลังฝัน และต้องเป็นฝันที่ดีมากแน่ๆ
อยากรู้จริงๆว่าในความฝันของนายนั้น
จะมีฉันอยู่บ้างไหมนะ
“ฝันดีนะ ยุนโฮ”
หลับให้สนิท พักผ่อนให้มากเท่าที่นายต้องการ เพราะที่ผ่านมานายก็เหนื่อยมากเกินพอแล้ว
ต่อจากนี้...
ภาระหน้าที่ที่นายต้องแบกรับเอาไว้คนเดียวตลอด ก็ให้ฉันเป็นคนคอยแบ่งเบามันบ้างเถอะนะ
แล้วก็อย่าลืม
ฝันถึงฉันบ้างล่ะ
...........................................................................................................
To Be Continued
YunJaeKick
ฮึก ฮึก เวิ่นเว้อได้อีก หาสาระและคุณภาพอะไรไม่ได้จากฟิคเรื่องนี้เลย งือๆ
ทนๆอ่านกันหน่อยนะคะ
พอดีว่ามันเป็นฟิคที่อิงจากเรื่องจริง(ที่ไม่ใช่ความจริง กร๊ากกก...เสื่อม) เลยต้องให้มันค่อยเป็นค่อยไปตามเรื่องตามราวอ่ะ
ต้องขออภัยจริงๆฮับ
ตอนหน้าระเบิดจะลงคู่โซลเมทแร้วฮับ.
ความคิดเห็น