ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Eyes on You (YunJae...yaoi)

    ลำดับตอนที่ #7 : SoulMate

    • อัปเดตล่าสุด 1 พ.ย. 52


    Title: Eyes on You (yaoi)

    Author: YunJaeKick

    Paring: Joong Yunho, Kim JaeJoong (Other TVfXQ’s member)

    Genre: Romance

    Rate: PG-13

     

    CHAPTER VII : SoulMate

     

    เรากลับมาทำงานที่ญี่ปุ่นอีกครั้งหลังจากที่โปรโมตละครการกุศลเสร็จสิ้น และได้รับกระแสตอบรับดีเกินคาด นั่นหมายถึงกระแสยุนแจฟีเวอร์ในหมู่แฟนคลับด้วย ผมกับแจจุงกลายเป็นที่จับตามอง ไม่ว่าจะย่างกรายไปไหน หรือไปออกรายการอะไร วันรุ่งขึ้นก็จะมีคลิปมีช็อตเด็ด มีรูปภาพระหว่างเราสองคนกระจายอยู่ว่อนอินเทอร์เน็ตไปหมด

     

    ถูกใจชองยุนโฮคนนี้เป็นที่สุด

     

    “น่าอายจริงๆเลย”                                               แจจุงบ่นอุบอิบอยู่กับตัวเองเมื่อได้เห็นรูปที่ชางมินเป็นคนนำออกมาจากเว็บไซต์แฟนคลับให้เราดู

    มันเป็นภาพที่ผมกำลังจ้องมองแจจุงด้วยแววตาที่เปี่ยมความหมาย ในขณะที่แจจุงเองก็มองตอบผมด้วยท่าทางที่ไม่ต่างกัน

     

    ผมยังจำภาพเหตุการณ์วันนั้นได้ดี

     

    ก่อนหน้านี้ พวกเราอยู่ในห้องพักผู้โดยสารในสนามบินคิมโป และแน่นอนว่าต้องมีผู้โดยสารที่ไม่ได้เป็นแค่นักท่องเที่ยวธรรมดา หากแต่ว่าเป็นแฟนคลับ...แฟนคลับยุนแจก็มีอยู่มากเช่นกัน

     

    พวกเขาต้องการเห็นภาพเซอร์วิส

     

    ทว่าทุกอย่างที่ผมทำให้แก่คนๆนี้

    เป็นเรื่องจริงที่ออกมาจากใจ

     

    “พี่ยุนโฮดูรัยอยู่อ่ะ”                                            จุนซูเข้ามานั่งข้างๆผมก่อนจะยื่นหน้ายื่นตาแสนซนนั้นเข้ามาดูรูปถ่ายที่ผมกำลังจ้องมองอยู่

     

    ภาพตัดต่อผมกับแจจุงที่กำลังจูบกัน

     

    “แฟนคลับทำมาให้น่ะ”                                     ผมเอ่ยตอบน้องไปทั้งๆที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาสบตาคนถามเลยสักนิด เพราะถึงจะเป็นภาพตัดต่อที่ดูคล้ายของจริงมากแค่ไหน แต่มันก็ยังไม่ใช่เรื่องจริง

     

    แล้วถ้าเป็นความจริงขึ้นมาล่ะ

    เง้ออออ >///<

     

    “โอ้โห...ก็ตัดต่อได้เนียนเหมือนกันเนอะ”                                   จุนซูทำหน้าทำตาสุดทึ่ง อย่างกับว่าได้เห็นงานประติมากรรมระดับโลก

    “พี่แจจุงดูนี่สิ เนียนมากเลยเนอะ”                                  ทึ่งไม่ทึ่งเปล่า ยังช่วยทำตัวเป็นบุรุษไปรษณีย์ที่ดีในการส่งภาพนั้นให้แก่แจจุงกับมือ

     

    คิมแจจุงรับเอาภาพนั้นไปดูอย่างประหลาดใจ

     

    “กะ...ก็แค่ภาพตัดต่ออ่ะ”                 

     

    “ก็ทำจริงซะสิ จะได้ไม่ต้องเสียเวลามานั่งตัดต่อ”                                        ชิมชางมินน้องเล็กที่ปากตรงกับใจ เอ่ยออกมาทั้งๆที่ตายังจดจ่ออยู่กับจอโน็ตบุ๊คตรงหน้า ถึงเขาจะพูดเหมือนกับไม่ใส่ใจ แต่สำหรับคิมแจจุงที่พักหลังมานี้ชอบทำตัวแปลกๆ คำพูดเหล่านั้นก็เหมือนกับเป็นการจี้โดนจุดอะไรบางอย่างเหมือนกัน

     

    พรึบ!

    แจจุงลุกขึ้นจากที่นั่งด้วยท่าทางเหมือนกับคนที่ทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเดินหนีพวกเราออกไปจากตรงนั้นทันที

     

    “ชางมินนี่นะ พูดอะไรก็ไม่รู้”                                         แถมยังมีบ่นให้พวกเราได้ยินอีก

     

    น่ารักจริงๆเลย

     

    “ฮึ้ม! อะแฮ้มๆ”                                   เสียงกระแอมไอของยูชอนดังขัดจังหวะความคิดของผมที่กำลังจ้องมองแผ่นหลังบอบบางของแจจุงซึ่งเดินห่างออกไปเรื่อยๆ

    “ฮึ้มๆ”                  

     

    “เจ็บคอเหรอยูชอน”                                           ท่าทางจะเริ่มเป็นหวัด ก็อากาศมันเย็นเสียขนาดนั้น

     

    “โธ่พี่ยุนโฮ...รีบตามไปสิ”                                เจ้ายูชอนผู้หวังดีอุตส่าห์เปิดทางให้ผมได้อยู่กับแจจุงสองต่อสอง(ท่ามกลางผู้โดยสารมากมายเนี่ยนะ)

     

    ขอบคุณจริงๆ น้องรัก

    ฉันเพิ่งได้เห็นว่าพวกนายน่ารักกันก็วันนี้นี่เอง

     

    “แจจุง...รอฉันด้วยสิ”                                         ผมลุกเดินตามคนขี้อายไปทันทีโดยมีเจ้าสามตัวแสบแอบส่งกำลังใจมาให้อยู่ห่างๆ

     

    “แล้วนายจะตามฉันมาทำไมเนี่ย”                                   แจจุงหันมาโวยวายใส่ผมอย่างกับว่าผมเป็นตัวน่ารังเกียจก็ไม่ปาน

    คนดื้อหยุดเดินแล้วหันหลังพิงกับราวจับตรงทางเดิน แถมยังจ้องมองผมแบบไม่พอใจอีกด้วย

     

    “ก็...กลัวหายมั้ง”                                 แหวะ! ผมขออ้วกให้กับตัวเองก็แล้วกัน

     

     

    “กลัวหาย...คิดว่าฉันเป็นเด็กสามขวบหรือไง”                                             แจจุงหันมาค้อนผมเสียยกใหญ่ เขาไม่ชอบให้ตัวเองถูกมองว่าเด็ก แต่กลับชอบทำตัวดื้อเหมือนเด็กอยู่เรื่อย

     

    “นี่แจจุง”

     

    “หืม?   

     

    ผมเรียกชื่อแจจุงเบาๆ  เพื่อให้อีกฝ่ายหันมาสนใจ และในจังหวะที่แจจุงกำลังมองสบตาผมด้วยความสงสัยอยู่นั้น ผมก็ค่อยๆเคลื่อนใบหน้าของตัวเองเข้าไปใกล้ๆ...ใกล้จนลมหายใจแทบจะสัมผัสกัน

     

    คิมแจจุงหน้าแดงขึ้นมาทันที

     

    ผมเองก็รู้สึกว่าหัวใจมันกำลังพองโต

     

    “เศษผงมันติดผมนายอ่ะ”                                  ผมเอื้อมมือไปหยิบเอาเศษผงเหล่านั้นออกไปจากเรือนผมนุ่มสวยของคนตรงหน้า

     

    นี่ถ้าอยู่กันสองต่อสองนะ

    ฮึ้มมมมมม

     

    แชะ!

    .

    .

    .

    นั่นแหละครับคือที่มาของภาพที่ผมกำลังนั่งมองอยู่นี่ไงล่ะ

     

    ตุบ!

     

    “โอ๊ย! เจ็บนะโว๊ย!                            อะไรบางอย่างฟาดลงมากลางศีรษะของผมอย่างแรง เล่นเอาภาพในฝันสลายหายวับไปกับตา ต้องเป็นเจ้าบ้าชางมินแน่ๆ ขอด่าหน่อยเถอะไอ้เด็กแสบ

    “ไอ้!...อ้าว...แจจุงเองเหรอ”

     

    นึกว่าเป็นซาตาน

    กลับกลายเป็นนางฟ้าไปได้ไง

     

    “ก็ใช่น่ะสิ...ทำไม? นายจะด่าฉันเหรอ”                                        แจจุงยืนเท้าสะเอวจ้องมองผมอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ ในมือก็ถือหนังสือเล่มใหญ่บึ้มที่ก็คงจะเป็นนิยายของชางมิน

     

    นั่นไงล่ะ

    ตัวไม่มายังส่งหนังสือมาด้วยอีก...แสบจริงๆ

     

    “เปล่าหรอก ใครจะกล้าว่านายล่ะ”                                  ทั้งดื้อ ทั้งดุ ผมไม่กล้าแข็งข้อด้วยหรอกครับ

     

    “ฉันเรียกนายตั้งหลายที มัวแต่เหม่ออยู่นั่นแหละ”     

     

    “แล้วนายมีอะไรจะบอกฉันเหรอ”                                                  ถ้าบอกรักผมก็เต็มใจจะฟังครับ

     

    “แค่จะบอกว่าข้าวเย็นเตรียมเสร็จแล้ว หิวก็ไปอุ่นทานเอาเองนะ”

     

    “แล้วนายจะไปไหนล่ะ”                                    ผมเห็นแจจุงแต่งตัวเหมือนกับจะออกไปข้างนอก แต่ไม่คิดจะชวนผมเลยสักคำ

     

    ใจร้ายจริงๆ

     

    “ฉันกับยูชอนจะออกไปข้างนอก...มาญี่ปุ่นทั้งทีจะให้นั่งนิ่งอยู่แต่บ้านได้ยังไงกันล่ะ”

     

    ฉึก!

    รู้สึกเหมือนโดนแทงข้างหลังก็ไม่ปาน

     

    “ละ...แล้วฉันล่ะ ไม่คิดจะชวนกันเลยหรือไง”                                            ปาร์กยูชอน นายช่างกล้ามากนะ

     

    “จะพูดอะไรก็หัดดูสภาพตัวเองบ้าง”

    “ขานายเป็นแบบนี้ ยังจะออกไปไหนอีกล่ะ”                                                แจจุงพูดเตือนสติผมก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องพร้อมทั้งลากคอเจ้ายูชอนออกไปจากบ้านด้วยกันทันที

     

    แหะๆ

    คือผมจริงจังกับการซ้อมมากไปหน่อย เอ็นข้อเท้าก็เลยอักเสบ

    แต่พักแค่วันสองวันก็น่าจะหายนะครับ

     

    ไม่เห็นกับต้องทำร้ายจิตใจกันถึงขนาดนี้เลยนะ...โซลเมททททททททททท

    ............................................................................................................

     

    ผมแยกตัวออกมาจากการสังสรรค์แล้วทิ้งให้ยูชอนอยู่กับเจ้าสองตัวแสบ...จุนซู ชางมิน ซึ่งละทิ้งหน้าที่ดูแลยุนโฮ ก่อนจะตามมาสมทบกับเราโดยไม่ได้รับอนุญาต

     

    เจ้าเด็กพวกนี้

    ไว้ใจไม่ได้เลยจริงๆ

     

    “ก็พี่ยุนโฮหลับไปตั้งแต่หัวค่ำแล้วอ่ะ”

     

    “พวกเราก็เบื่อเป็นเหมือนกันนะ”                                                   เหตุผลช่างฟังขึ้นเสียเหลือเกิน

     

    ผมรีบกลับมาที่บ้านด้วยอาการร้อนใจ...ที่ก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าจะว้าวุ่นไปเพราะอะไร หวังว่ายุนโฮคงไม่ได้มีไข้หรอกนะ ก็ปกติไม่ได้นอนเร็วขนาดนี้นี่นา

     

    “กินข้าวแล้วหรือยังนะ”                                    ผมเอ่ยถามกับตัวเอง รู้อย่างนี้ไม่ปล่อยให้ยุนโฮต้องนั่งเหงาอยู่ที่บ้านคนเดียวหรอก

    “มีของหวานมาฝากคนป่วยด้วยน้า...”                                            ผมส่งเสียงทักทายตั้งแต่เปิดประตูบ้านเข้าไป  อุตส่าห์แวะซื้อของหวานที่ชอบมาฝาก หวังว่ายุนโฮคงจะดีใจ

    หากแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆดังออกมาจากห้องนั่งเล่นเลย

     

    เอ...หรือว่าจะหลับไปแล้วจริงๆ

     

    ผมวางถุงของหวานไว้ในครัว ก่อนที่จะตัดสินใจเดินเข้าไปดูในห้องนอนของยุนโฮกับยูชอนแทน (ปกติผมจะนอนห้องเดียวกับจุนซู)

     

    หลับไปแล้วจริงๆด้วย

    ผมค่อยๆก้าวเดินเข้าไปอย่างเงียบและพยายามทำตัวเองให้เบาเหมือนปุยนุ่นมากที่สุด เพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายต้องตกใจตื่น

    ความจริงก็ไม่อยากให้รู้ด้วยล่ะ ว่าผมกลับมา

     

    ก็มันน่าอายนี่นา

     

    “มีไข้รึเปล่านะ”                                   ผมพึมพำกับตัวเองก่อนจะตัดสินใจเอื้อมมือไปแตะหน้าผากของยุนโฮอย่างเบามือที่สุด เพื่อเป็นการวัดระดับอุณหภูมิในตัวอีกฝ่ายหนึ่งด้วย

     

    ก็ปกติดี

    ชองยุนโฮที่กำลังหลับสนิททำสีหน้าอย่างกับลูกแมวที่ต้องการออดอ้อนแม่แมว แพขนตายาวนั้นเรียงนิ่งไม่ไหวติง มุมปากที่ยกหยักขึ้นนั้นแสดงว่าเขากำลังฝัน และต้องเป็นฝันที่ดีมากแน่ๆ

     

    อยากรู้จริงๆว่าในความฝันของนายนั้น

    จะมีฉันอยู่บ้างไหมนะ

     

    “ฝันดีนะ ยุนโฮ”                

     

    หลับให้สนิท พักผ่อนให้มากเท่าที่นายต้องการ เพราะที่ผ่านมานายก็เหนื่อยมากเกินพอแล้ว

    ต่อจากนี้...

    ภาระหน้าที่ที่นายต้องแบกรับเอาไว้คนเดียวตลอด ก็ให้ฉันเป็นคนคอยแบ่งเบามันบ้างเถอะนะ

     

     

    แล้วก็อย่าลืม

    ฝันถึงฉันบ้างล่ะ

    ...........................................................................................................

     

    To Be Continued…

    YunJaeKick

     

     

    ฮึก ฮึก เวิ่นเว้อได้อีก หาสาระและคุณภาพอะไรไม่ได้จากฟิคเรื่องนี้เลย งือๆ

    ทนๆอ่านกันหน่อยนะคะ

    พอดีว่ามันเป็นฟิคที่อิงจากเรื่องจริง(ที่ไม่ใช่ความจริง กร๊ากกก...เสื่อม) เลยต้องให้มันค่อยเป็นค่อยไปตามเรื่องตามราวอ่ะ

     

    ต้องขออภัยจริงๆฮับ

     

     

    ตอนหน้าระเบิดจะลงคู่โซลเมทแร้วฮับ.

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×