ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Eyes on You (YunJae...yaoi)

    ลำดับตอนที่ #2 : แปลก

    • อัปเดตล่าสุด 11 ต.ค. 52


    Title: Eyes on You (yaoi)

    Author: YunJaeKick

    Paring: Joong Yunho, Kim JaeJoong (Other TVfXQ’s member)

    Genre: Romance

    Rate: PG-13

     

    CHAPTER II : แปลก

    BGM ตอนนี้ ยกให้ Rising Sun ฮับ ก็เหตุมันเกิดจากตรงนี้นี่นา งุงิ

     

    ผมและสมาชิกทงบังชินกิกำลังเตรียมตัวสำหรับลุยกิจกรรมโปรโมตอัลบั้มชุดที่ 2 อย่างเต็มที่ เราทั้งร้องและซ้อมเต้นกันจนถึงดึกของทุกวัน แน่นอนว่าทั้งเหนื่อยและมีบ้างที่ความท้อแท้จะมาเยือน ผมในฐานะหัวหน้าวงจะเป็นคนคอยเตือน คอยกระตุ้นให้สมาชิกทุกคนมีไฟอยู่เสมอ แม้บางครั้งผมจะรู้สึกเหนื่อย แต่ผมจะไม่มีวันแสดงด้านที่อ่อนแอนั้นออกมาให้ใครได้เห็นแน่

     

    “โธ่เอ๊ย! ทำไมมันยากแบบนี้นะ”                    แจจุงเริ่มโมโหอีกครั้งที่เต้นตามพวกเราไม่ทัน หน้าหวานๆของเขาบึ้งตึงขึ้นมาอย่างชัดเจน แต่ว่าเขากำลังโกรธตัวเองไม่ได้โกรธคนอื่นแต่อย่างใด

     

    “พยายามอีกนิดนะ พี่แจจุง ชางมิน”                              ยูชอนกับจุนซูเดินเข้าไปหาพี่ชายและน้องชายของพวกเขา อยู่ด้วยกันมาเกือบ 5 ปีทำให้ผมพอจะรู้นิสัยใจคอของสมาชิกทั้งสี่ได้มากกว่าเมื่อก่อน ทั้งแจจุงและชางมินเดินเข้ามาเพื่อร้องเพลง พวกเขาเรียกได้ว่าไม่ถนัดเรื่องเต้นเอาเสียเลย หากแต่เมื่อตอนฝึกซ้อมเพื่ออัลบั้มแรกนั้น ทั้งสองคนก็พยายามอย่างหนักและก็ทำได้ดีมากๆด้วย กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งผม ยูชอนและจุนซูก็มีให้แก่พวกเขาอย่างไม่มีวันหมดเช่นกัน

     

    “มาพยายามด้วยกันอีกครั้งเถอะ พี่แจจุง”                      ชางมินที่ทำท่าว่าจะล้มเลิกตามพี่ชายไปกลับมามีแรงสู้อีกครั้ง แม้ว่าเขาจะเป็นเจ้าตัวร้ายในสายตาของใครๆ แต่เมื่อเขาเห็นพวกผมตั้งใจทำงาน ชางมินก็จะปฏิบัติตามเสมอ

     

    “มาเถอะแจจุง นายทำได้ดีมากแล้วนะ”                         ผมเดินเข้าไปหาแจจุงที่นั่งท้ออยู่ตรงมุมห้อง พร้อมทั้งยื่นมือเข้าไปหาเพื่อที่จะยืนยันว่า ฉันนี่แหละจะช่วยให้นายเข้มแข็งขึ้นเองผมรู้สึกเช่นนั้นและแน่นอนว่าด้วยคำพูดของผม สำหรับคิมแจจุงที่ขาดความมั่นใจมาโดยตลอดนั้นถึงกับสามารถมีรอยยิ้มขึ้นมาได้ อีกหนึ่งพี่ใหญ่ของวงกลับมามีความมั่นใจอีกครั้งหนึ่งแล้ว

     

    “ขอบใจมากนะ ยุนโฮ”                      แจจุงเอื้อมมือมารั้งฝ่ามือของผมเพื่อลุกขึ้นยืนอีกครั้งแล้วเราก็กลับเข้าไปพยายามด้วยกันอย่างตั้งใจ

     

    “ฉันเชื่อว่านายต้องทำได้”                 ผมพูดให้กำลังใจเพื่อนรักคนนี้ อืม...ไม่รู้เหมือนกันว่าหมอนี่กลายมาเป็นเพื่อนที่ผมขาดไม่ค่อยได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้แต่ว่าเราสนิทกันมากและแจจุงก็คงคิดไม่ต่างกันจากผมแหละนะ

     

    “อื้ม...ฉันจะขึ้นแสดงให้ดีที่สุด จะไม่ทำให้ทงบังชินกิต้องขายหน้า”                     แจจุงให้คำมั่นสัญญาต่อผม ยิ่งนานวันเข้าเขาก็ยิ่งแสดงออกว่ารักทงบังชินกิมาก ไม่ต่างกันกับผมที่เปรียบสมาชิกทุกคนเป็นอีกหนึ่งชีวิตด้วยเหมือนกัน

    ...................................................................................................

    วันเวลาผ่านล่วงเลยไป เรายังคงซ้อมร้องซ้อมเต้นเพื่อพัฒนาทักษะอย่างไม่หยุดหย่อน จนในที่สุดอีกไม่กี่วันพวกเราทงบังชินกิก็จะได้ขึ้นแสดงบนเวที come backด้วยเพลงนี้

     Rising sun

     หากแต่หนทางที่ต้องก้าวเดินคงไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไปและโชคชะตาก็มักจะเล่นตลกได้ทุกเมื่อ

     

    ดั่งเช่นวันนี้

     

    “โอ๊ย! โอยยยย...จะ...เจ็บเหลือเกิน”                              แจจุงลงไปนั่งร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด เขาจับหัวเข่าเอาไว้จนแน่น บางครั้งความตั้งใจก็ทำให้เราลืมระวังตัวขึ้นมาเสียง่ายๆ เราทุกคนรวมถึงพี่เฮวอนรีบวิ่งเข้าไปดูอาการบาดเจ็บของแจจุงทันที ผมเห็นน้ำตาเอ่ออยู่ตรงขอบตาคู่งามของคนตรงหน้า แจจุงไม่ได้กำลังร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด หากแต่ว่าเขากำลังกลัว...กลัวอะไรบางอย่างที่ผมก็มั่นใจว่ารู้ดี

    วินาทีนั้นผมได้แต่หวังว่าอย่าให้เรื่องมันร้ายแรงอย่างที่คิดไว้เลย

     

    “เป็นไงบ้าง พอจะขยับได้หรือเปล่า”                              ผมลองเอามือไปแตะๆบริเวณหัวเข่าของแจจุง อีกฝ่ายหนึ่งไม่ตอบอะไรเอาแต่ส่ายศีรษะไปมาเพื่อเป็นการปฏิเสธท่าเดียว

     

    “สงสัยเอ็นเข่าจะฉีก พี่ว่าไปโรงพยาบาลกันเถอะ”                     พี่เฮวอนบอกให้ผมช่วยพยุงแจจุงเอาไว้อีกข้าง บรรยากาศรอบตัวเริ่มตึงเครียดและพวกเรามีแต่ความเงียบ บรรดาน้องๆอีก 3 คนไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไรออกมานอกจากแววตาที่บ่งบอกได้ถึงความเป็นห่วงพี่ชายจับใจ

     

    “ผมคงจะเต้นไม่ได้แล้วสินะ”                          ที่โรงพยาบาลแจจุงเอ่ยปากพูดกับคุณหมอทันทีที่อีกฝ่ายบอกว่าเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดหัวเข่า และหลังจากผ่าตัดแจจุงยังจะต้องพักรักษาตัวโดยมีไม้ค้ำยันอยู่เป็นเพื่อน สีหน้าของเขาซีดเผือดลงอย่างเห็นได้ชัด ส่วนพวกเราที่เหลือเองก็กังวลใจไม่แพ้กัน

     

    “คุณเพียงแต่ต้องหยุดกิจกรรมในช่วงนี้ไปก่อน ไม่แน่ว่าพักยังไม่ครบเดือนคุณก็กลับไปเต้นได้แล้ว”              คุณหมอสูงวัยท่าทางใจดีและเปี่ยมไปด้วยประสบการณ์พูดทิ้งท้ายเอาไว้ ก่อนจะปล่อยให้พวกเราอยู่ด้วยกันตามลำพัง ข่าวการบาดเจ็บของแจจุงแพร่กระจายไปรวดเร็วราวกับถูกพายุพัดพา บรรดาแฟนคลับที่ยังมีไม่มากนักของทงบังชินกิต่างก็แสดงออกถึงความห่วงใยและร่วมส่งกำลังใจมาให้ที่โรงพยาบาลอย่างไม่ขาดสาย และสำหรับคนที่รักแฟนคลับมากอย่างแจจุงก็นับว่าเป็นเรื่องน่าประทับใจอยู่ไม่น้อย

     

    “พี่อย่าห่วงไปเลย...ถึงไม่ได้ขึ้นโปรโมตแต่เดี๋ยวก็ได้ขึ้นร้องเพลงช้าด้วยกัน แค่ทำใจให้สบายก็พอ”                ชางมินเป็นคนแรกที่เอ่ยปากพูดขึ้นมา หลังจากที่ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบมาได้พักใหญ่

     

    “อืม..ไม่มีฉันคอยทำพลาด นายก็อย่าทำพลาดแทนแล้วกัน”                     แจจุงรับรู้ได้ถึงกำลังใจที่ชางมินมอบให้แต่ก็ไม่วายพูดจิกกัดน้องอยู่ดี

     

    “โธ่พี่ ผมน่ะไม่พลาดอยู่แล้ว...รอให้พี่หายแล้วกลับไปทำพลาดเองดีกว่า”                            เจ้าตัวเล็กเรียกเสียงหัวเราะจากพี่ๆอย่างเราได้ไม่น้อย แม้แต่คนเจ็บเองก็ต้องยอมรับในฝีปากอันแรงกล้านี้เลยทีเดียว

     

    “ฉันขอโทษทุกคนแล้วกัน...เฮ้อ! ไม่น่าฝืนตัวเองเล้ย”                               แจจุงหันมาขอโทษเหล่าสมาชิกที่เหลือ ท่าทางเศร้าๆแบบนี้ยิ่งทำให้ผมรู้สึกเอ็นดูขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

    ไม่เคยคิดโกรธเลยสักนิด

     

    “นายทำดีที่สุดแล้ว อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ...ดีแล้วล่ะที่ไม่เป็นอะไรมากไปกว่านี้นะ”                     ผมเดินเข้าไปตบบ่าเพื่อเป็นการปลอบใจแจจุงเล็กน้อย

     

    “แต่สุดท้ายแล้วฉันก็อดขึ้นเวที...ความพยายามสูญเปล่าชัดๆ”                  แม้ว่าผมจะคอยปลอบและมีชางมินคอยจิกกัดเรียกรอยยิ้ม หากแต่ผมก็ยังเห็นว่ามีน้ำตารื้นขึ้นมาบนขอบตาคู่นั้นอยู่ดี

    ทำไมนะคิมแจจุง

    ทำไมแววตาของนายถึงได้ดูเศร้าอยู่ตลอดเวลาแบบนี้

     

    “ยังมีพวกเราคอยทำให้มันไม่สูญเปล่า...พี่ไม่ต้องกลัวหรอกน่า”                             ยูชอนก็เดินเข้ามาจับประคองมือนั้นเอาไว้ จุนซูเองก็พยายามยิ้มสดใสให้กำลังใจคนเจ็บอยู่ไม่ห่าง

     

    “ก็นั่นแหละที่ฉันต้องกลัว”              

     

    “อ้าว! แล้วพี่กลัวอะไรอีกล่ะหรือว่ากลัวเข็ม”                               จุนซูห่วงไม่ตรงประเด็นอีกแล้ว พูดเรื่องงานดันโผล่ไปเรื่องเข็มฉีดยาได้อย่างไรเนี่ย

     

    “เปล่าซะหน่อย...ก็มีแต่พวกนายที่ขึ้นเวทีแล้วแบบนี้เรทติ้งของฉันก็ตกแย่สิ”                     

    คิมแจจุ้งงงงงง นี่นายกังวลบ้าบออะไรอยู่เนี่ย

    ลีดเดอร์อย่างผมล่ะเหนื่อยใจจริงๆ

    ........................................................................................................

    การผ่าตัดผ่านพ้นไปได้ด้วยดี และตลอดเกือบหนึ่งเดือนที่ผมพักรักษาตัว ผมทำได้แค่นั่งมองเพื่อนร่วมวงเต้น rising sun อยู่ข้างล่างเวที ในระหว่างที่ผมยังคงต้องใช้ไม้ค้ำยันช่วยในการเดิน ผมทำได้แค่ขึ้นไปร้องเพลงช้าเท่านั้น ถึงแม้ว่าเหตุการณ์จะไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดไว้ในตอนแรกเพราะว่าผมยังคงร้องเพลงได้ หากแต่ว่าผมก็ยังคงรู้สึกเจ็บที่แผลทุกครั้งที่ขยับตัว มันทรมานมากกับการที่จะต้องตีสีหน้าให้เรียบเฉยราวกับว่าไม่เจ็บอยู่แบบนี้ ก็เพราะว่าผมไม่อยากให้ใครต้องมาคอยกังวลไปด้วย แค่นี้ทุกคนก็เหนื่อยกันแทบแย่แล้วนี่นา

     

    “นั่นนายจะทำอะไรน่ะ...คิมแจจุง”                                ในห้องนั่งเล่นที่บ้านของเรา ระหว่างที่ผมกำลังพยายามเอื้อมมือไปหยิบขวดน้ำอยู่นั้น ชองยุนโฮก็ทำเสียงเข้มใส่ผม แถมสีหน้าท่าทางเหมือนกับคนไปกินยาบ้ามาก็ไม่ปาน

     

    “เออ..อ๋อ! ฉันแค่หิวน้ำ ก็เลยจะกินน้ำไง”

     

    “ทีหลังบอกฉันก่อนนะ”                   พูดสั้นๆง่ายๆ พร้อมกับเป็นฝ่ายเดินเข้าไปหยิบขวดน้ำที่อยู่ใกล้มือผมแค่เอื้อมส่งให้ผม ยุนโฮมักจะดูแลผมเป็นอย่างดี จำได้ว่าแทบจะไม่มีใครได้เข้าใกล้ตัวผมเลย เพราะว่ายุนโฮจะเป็นคนคอยกันให้ออกห่างอยู่เสมอ โดยเฉพาะชางมินที่โดนกฎเหล็กห้ามเข้าใกล้ผมเกิน 500 เมตร

    นับวันยุนโฮยิ่งน่ากลัวมากขึ้นเรื่อยๆ

     

    “พี่แจจุงเจ็บที่ขา ไม่ได้เจ็บที่มือเสียหน่อย...พี่จะหวงอะไรกันนักหนา”                                ชางมินเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงหมั่นไส้ผมตามปกติ ก่อนจะก้มหน้าก้มตาเล่นเกมส์เพลต่อไปโดยที่ไม่คิดว่าคำพูดจากเจตนาบริสุทธิ์นั้นจะสามมารถทำให้ยูชอน จุนซูหรือแม้แต่พี่เฮวอนเองหันมามองผมกับยุนโฮสลับกันไปมาด้วยสายตาแปลกๆได้

     

    “ฉะ...ฉันว่าจะไปพักสักหน่อยแล้วล่ะ”                         ผมรู้สึกว่าตัวเองพูดตะกุกตะกักอย่างห้ามไม่อยู่ ไอ้บ้ายุนโฮก็เอาแต่เงียบไป ผมเลยตัดสินใจหลบหลีกสายตาที่เต็มไปด้วยคำถามเหล่านั้นเองเสียดีกว่า

     

    “มา ฉันช่วย”                        ยุนโฮเดินเข้ามาประคองผมไว้ทันทีโดยที่พี่เฮวอนเองยังไม่ทันได้ขยับตัวเสียด้วยซ้ำ

     

    รู้สึกอบอุ่น

    แบบแปลกๆ

     

    ทันทีที่ผมและคนแปลกด้านข้างหายลับเข้าไปในห้องนอน วงสนทนานินทาชาวบ้านด้านนอกก็เริ่มก่อตัวขึ้นทันที

     

    “เอ...แปลก”                         ยูชอนพึมพำกับตัวเองด้วยสีหน้าแปลกๆ รู้สึกว่าอะไรรอบตัวเวลานี้มันแปลกไปเสียหมด

     

    “อะไรแปลก...ชางมินนายรู้สึกแปลกหรือเปล่า”                         จุนซูเอ่ยถามตัวต้นเหตุ แววตาแป๋วมีประกายความสงสัยอย่างแปลกประหลาด

     

    “โอ๊ย! แปลกมานานแล้ว พวกพี่ไม่รู้เหรอ”                                   ชางมินตอบทั้งๆที่ยังคงตั้งใจอยู่กับเกมส์เพลตรงหน้า มุมปากยกขึ้นสูงเพราะว่ากำลังอมยิ้มแบบแปลกๆอยู่

     

    “พี่ว่าจะกลับบ้านไปหาลูกเมียดีกว่า อยู่ที่นี่รู้สึกแปลกเต็มทน”                 พี่เฮวอนทำท่าปวดศีรษะก่อนจะหยิบกระเป๋าทรงแปลกแล้วเดินตรงไปยังประตูบ้านทันที

     

    “แล้วพี่ไม่ต้องอยู่ดูแลพี่แจจุงแล้วเหรอ”                         ยูชอนเป็นผู้เอ่ยรั้งผู้จัดการวงที่กลายมาเป็นนายพยาบาลส่วนตัวคนเจ็บอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ พี่เฮวอนหยุดกึกแล้วหันมาตีหน้ายักษ์ใส่คนถามอย่างแปลกประหลาด

     

    “ก็หน้าที่โดนแย่งไปแล้ว จะอยู่ทำแปลกอะไรล่ะ”                      พูดจบเจ้าตัวก็กระแทกประตูปิดดังปังเลยทีเดียว

     

    “อืม...แบบนี้ต้องหาทางคลี่คลายความแปลกให้ได้”                                    จุนซูเอ่ยออกมาพร้อมทั้งทำท่าทางครุ่นคิด

     

    “ผมว่าถ้าคลี่คลายได้ พวกพี่ก็ต้องเตรียมตัวกินยาแก้ปวดตับไว้เลยล่ะ”                    ชิมชางมินน้องเล็กเอ่ยจบก็เลิกเล่นเกมส์ก่อนจะเดินจากไปอีกคน ทิ้งไว้ก็แต่พี่สองคนที่กำลังนั่งมองหน้ากันด้วยความรู้สึกแปลกๆ

    ................................................................................................

     

    To Be Continued

    YunJaeKick

     

    ป๋อล๋อ. บอกแล้วว่าตอนสองก็ยังคงห่วย ทนๆอ่านคลายเครียด (หรือจะยิ่งเครียด)กันหน่อยแล้วกันนะจ๊ะ

     

    สวีดัด.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×