คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : My Dong Bang Shin Ki
Title: Eyes on You (yaoi)
Author: YunJaeKick
Paring: Joong Yunho, Kim JaeJoong (Other TVfXQ’s member)
Genre: Romance
Rate: PG-13
CHAPTER I : My Dong Bang Shin Ki
BGM สำหรับตอนนี้ เลือกเพลง HUG นะฮับ (กรุณาเปิดจากเครื่องของคุณคลอไปเอง 555+)
เหมาะกับความรู้สึกตรงจุดเริ่มต้นของพวกเขาทั้งห้าดี คิดถึงภาพหนุ่มๆตอนนั้นแล้วก็ฮา เย้ย! ก็ปลาบปลื้มจนน้ำตาไหล
เพราะรักสุดๆนะเนี่ย จร๊วฟฟฟฟฟ
ฤดูหนาวปีนี้รุนแรงกว่าทุกปีที่ผ่านมา หิมะตกหนักจนผมแทบไม่อยากเดินกลับห้องพัก อยากจะกินกับนอนมันอยู่ที่ตึก SM นี่เหลือเกิน จะได้ไม่ต้องไปๆมาๆให้เสียเวลาอยู่อย่างนี้ ผมวิ่งฝ่าหิมะที่กำลังตกลงมาอย่างไม่คิดเห็นใจใคร แต่ความรู้สึกของผมไม่ใช่ความหนาวเหน็บที่เผชิญ ผมรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
ไม่สิ...ทั้งตื่นเต้น ดีใจ จนอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้เสียมากกว่า
ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา
สิ้นสุดการรอคอยเสียทีนะ...คิมแจจุง
“มาแต่เช้าเลยนะ แจจุง” พี่เฮวอนเอ่ยทักทายผมด้วยรอยยิ้มอบอุ่นแบบที่มอบให้ผมตลอดการเป็นเด็กฝึกหัดของที่นี่ ชายวัย 30 ต้นๆคนนี้มักจะโอบอุ้มดูแลเด็กฝึกหัดอย่างพวกเราอยู่เสมอ
“ครับพี่เฮวอน” ผมหยุดพักหายใจเนื่องจากความเหนื่อย ก่อนจะส่งยิ้มสดใสกลับคืนให้แก่เจ้าของคำถาม ภายในลิฟท์มีเพียงผมกับพี่เฮวอนเพียงสองคนเท่านั้น
“คงตื่นเต้นมากสินะ แต่ยังไงก็สมหวังสักที...ดีใจด้วยนะ แจจุง” พี่เฮวอนเอื้อมมือมาตบบ่าให้กำลังใจผมเบาๆ
“ผมนอนไม่หลับเลยล่ะครับ...จะมีใครบ้างน้า...” ยิ่งลิฟท์เคลื่อนที่เข้าใกล้จุดหมายปลายทางมากเพียงใด ใจผมก็ยิ่งเต้นแรงมากขึ้นเท่านั้น วันนี้พวกเราบรรดาเด็กฝึกหัดทั้งหลายถูกเรียกให้มาประชุมพร้อมกัน
เพื่ออะไรน่ะหรือ...ก็เพื่อประกาศรายชื่อสมาชิกวงทงบังชินกิน่ะสิ
“พี่ว่านายต้องได้รับคัดเลือกแน่ๆ” พี่เฮวอนยังคงให้กำลังใจผมต่อไป ท่าทางมั่นใจเสียจนผมอดมีความหวังไม่ได้
“ผมก็หวังว่าจะเป็นแบบนั้นครับ”
ติ้ง!
ประตูลิฟท์เปิดออกทั้งผมและพี่เฮวอนพากันเดินตรงไปยังห้องซ้อมประจำของเด็กฝึกหัดทันที อา...ใกล้แล้ว คิมแจจุง ใกล้ถึงจุดหมายของนายเต็มทีแล้ว
“ว่าไงทุกคน นี่ยังมีคนมาเช้ากว่าพี่อีกเหรอเนี่ย” พี่เฮวอนส่งเสียงทักทายบรรดาเพื่อนร่วมรุ่นของผมอย่างเป็นกันเอง แต่ผมกลับยิ้มไม่ออก ไม่ใช่เพราะความตื่นเต้นอะไรนั่นอีกแล้ว เพราะทันทีที่ผมเห็นหน้าเพื่อนๆที่ร่วมฝึกด้วยกันมาผมกลับรู้สึกว่า สุดท้ายทุกคนก็หวังในสิ่งเดียวกัน แล้วเราก็ต้องมาแข่งขันกันเองจริงๆสินะ
“พี่เฮวอนหวัดดีครับ/ค่ะ” ทุกคนเอ่ยทักทายผู้สูงวัยกว่าพร้อมทั้งรอยยิ้มที่แสนสดใสของเด็กวัยรุ่น แต่ผมสามารถสัมผัสได้ถึงความเป็นกังวลของทุกคนได้ดี พวกเรารู้สึกไม่ต่างกันเลยจริงๆ
“แจจุง มาทางนี้สิ” จองยุนโฮตะโกนเรียกผมให้ตื่นจากภวังค์ ก่อนจะกวักมือเรียกให้ผมไปนั่งรวมกลุ่มด้วย ตรงนั้นมี คิมจุนซู อึนฮยอกและพี่ฮีชอนนั่งอยู่ก่อนแล้วเหมือนกัน
“นายดูเหมือนคนไม่ได้นอนเลยนะ... ท่าทางตื่นเต้นมากสิ” พี่ฮีชอนพุ่งตัวเข้ามาล็อคคอผมเอาไว้ พร้อมกับเอ่ยล้อผมด้วยท่าทางเฮฮาในแบบของเขา ผู้ชายคนนี้นี่ยังไงกันนะ ไม่ว่าจะสถานการณ์ไหนก็ยังยิ้มได้เสมอแหละน่า
“ไม่ต้องกังวลไปหรอกแจจุง พลาดทงบังชินกิก็ยังมีลุ้นซุปเปอร์จูเนียร์อีกตั้ง 12 คน” ยุนโฮคงสังเกตเห็นสีหน้าของผมที่ยังไม่ดีขึ้น เลยต้องรีบให้กำลังใจผมอีกแรง
“เอ๋...ซุปเปอร์จูเนียร์อะไรกัน” ผมยิ่งสงสัยหนักเข้าไปใหญ่ เพราะไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน
“พี่ไม่รู้อะไร...วันนี้เขาจะคัดเลือกสมาชิกวงทงบังชินกิ 5 คนแล้วก็วงซุปเปอร์จูเนียร์อีกตั้ง 12 คนเชียวนะ” จุนซูรีบไขข้อข้องใจให้ผม เพราะหมอนี่คงกลัวจะไม่ได้พูดเป็นแน่
“ยังมีวงชอนซังจินฮีอีก 4 คนนะ” อึนฮยอกรีบเข้ามาสมทบ แววตาสดใสของสองเพื่อนรักนี่ทำให้ผมอดยิ้มไปด้วยไม่ได้
“ไอ้บ้าฮยอกแจ! นั่นมันวงเกิร์ลกรุ๊ป นายอยากจะเป็นสมาชิกหรือไง” จุนซูเอ็ดอึนฮยอกด้วยเสียงใสเหมือนปลาโลมาของเขา ทำเอาพวกเราหลุดหัวเราะออกมาโดยไม่ได้นัดหมาย
“แล้วพวกนายไปรู้เรื่องนี้มาจากไหนกันล่ะ” แม้จะอารมณ์ดีขึ้นมาบ้างแต่ผมก็ยังอดสงสัยอยู่เล็กน้อย กลัวว่าเรื่องพวกนี้จะไม่เป็นความจริงน่ะสิ
“พี่ฮีชอนบอกพวกเราเองแหละ” ทุกคนพากันทำปากบุ้ยใบ้ไปทางพี่ฮีชอนที่ผละออกจากกลุ่มเราไปร่าเริงอยู่กับคนอื่นตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ นั่นยิ่งทำให้อัตราความเชื่อของผมลดลงไปอีกเยอะเลยทีเดียว
“แล้วพี่ฮีชอนไปรู้เรื่องพวกนี้มาจากไหนกัน” ผมยังคงซักต่อไป ยุนโฮส่ายศีรษะเล็กน้อยก่อนจะตอบผม
“ฉันก็ถามแบบนายนี่แหละ แต่เขากลับตอบมาแค่ว่า...เฮ้ๆๆๆ นี่พวกนาย ฉันคิมฮีชอลนะ” ยุนโฮทำเสียงเลียนแบบพี่ฮีชอน
วินาทีนั้นผมได้แค่ตั้งคำถามภายในใจว่า
แล้วพี่ฮีชอล...เป็นใคร...
.............................................................................................
2 ปีหลังจากเหตุการณ์คัดเลือกสมาชิกวงทงบังชินกิและ 1 ปีหลังจากที่ ผม คิมแจจุง ปาร์กยูชอน คิมจุนซูและชิมชางมิน เดบิวในฐานะกลุ่มนักร้องบอยด์แบนหน้าใหม่ฉายาเทพเจ้าแห่งดินแดนตะวันออก โดยมีพี่เฮวอนเป็นผู้จัดการวง และผมทำหน้าที่เป็นหัวหน้าวง แรกเริ่มเดิมทีผมรู้สึกได้ว่าแจจุงออกจะไม่ค่อยพอใจนัก ที่ผมได้ยืนอยู่ในตำแหน่งนี้ ทั้งๆที่เราก็เป็นพี่ใหญ่ของวงเหมือนกัน
“พวกพี่ก็เป็นเหมือนทั้งพ่อและแม่ของวงนั่นแหละ” ชางมินน้องเล็กของเราเคยพูดเอาไว้ ผมไม่แน่ใจว่ามันคือสิ่งที่แจจุงพอใจจะได้ยินหรือไม่ รู้แต่เพียงว่าพอได้ยินประโยคนี้เขาก็เปลี่ยนมาทำดีกับผมมากขึ้นและตั้งแต่นั้นมาผมก็ได้รับสิทธิ์ในอาหารแสนพิเศษเช่นเดียวกับสมาชิกคนอื่นๆในวงแล้วเหมือนกัน
“Rising Sun” ผมบอกชื่อเพลงโปรโมตอัลบั้มที่ 2 ของทงบังชินกิให้สมาชิกในวงได้รับทราบระหว่างที่เราอยู่บนโต๊ะอาหาร เรากำลังรอคอยแกงกิมจิรสชาติ(คิดว่า)เด็ดฝีมือของแจจุง พ่อครัวเพียงหนึ่งเดียวของเรา พอผมพูดจบแจจุงก็หันขวับกลับมาจ้อกับผมในทันที
“ถ้าอย่างนั้นอัลบั้มนี้ก็ตกลงใช้ชื่อนี้ด้วยน่ะสินะ” แจจุงแสดงออกทางสีหน้าและแววตาว่า ‘อืมมมมม อย่างนั้นสินะ’ อยู่คนเดียว ในมือก็ง่วนอยู่กับการทำอาหาร ในขณะที่น้องๆอีก 3 คนไม่มีใครสนใจทั้งเรื่องของผมและการช่วยแจจุงทำอาหาร ทุกคนหิวและกำลังฟังเรื่องตลกจากจุนซูเพื่อเป็นการฆ่าเวลา
“มา...ฉันช่วย” ผมลุกจากโต๊ะทานข้าวแล้วเข้าไปช่วยแจจุงในครัวอย่างเป็นปกติ ตอนนี้ผมเริ่มจะรู้แล้วว่าอะไรวางไว้ตรงไหน แต่ฝีมือในการทำอาหารของผมก็ยังไม่ได้เรื่องอยู่ดี หากเทียบกับยูชอนแล้วรายนั้นถือว่ามีฝีมือใช้ได้ ทว่าเรื่องตลกของจุนซูคงน่าฟังมากกว่าการฟังแจจุงบ่นในครัวอยู่เป็นแน่ เราถึงไม่ได้เห็นยูชอนเข้ามาช่วยทั้งๆที่หิวแบบนี้
“อืม...ขอบใจ ยังดีที่นายไม่คิดจะเกาะฉันกินลูกเดียวไปอีกคน” แจจุงยื่นชามผักให้ผม ปากก็พูดไปด้วย ‘เกาะฉันกิน’ ผมอดขำต่อคำพูดนี้ไม่ได้ ช่างสรรค์หาคำมาพูดเสียจริง
“หัวเราะอะไรไม่ทราบ” แต่ท่าทางอารมณ์ไม่ดีแฮะ
“เปล่าๆ เออนี่แจจุง...นายไม่โกรธใช่มั้ยที่ฉันเห็นว่าเพลงนี้เหมาะจะเป็นเพลงโปรโมตโดยที่ไม่ได้ถามความคิดเห็นของนายก่อนน่ะ”
“นายเป็นหัวหน้าวง หน้าที่นี้เหมาะให้นายตัดสินใจที่สุดแล้วฉันจะโกรธทำไมล่ะ” แจจุงยิ้มให้ผมนิดๆ แต่ก็ไม่ได้หันมามองหน้าผมอย่างจริงจัง
“คงไม่ได้พูดประชดฉันหรอกนะ” ผมก็แค่ล้อเล่นเท่านั้น แต่แปลกที่เขาหันขวับกลับมามองจ้องผมทันที
“หน้าฉันตอนนี้คงมีอารมณ์ประชดนายมากสิท่า” พูดจบแจจุงก็หันกลับไปสนใจอาหารในมือต่อ
จริงสินะ
สายตาของคนๆนี้คือคำตอบของทุกอย่าง ผมดีใจที่ได้ร่วมเดินตามความฝันกับแจจุง เขารักแฟนคลับมากและแน่นอนว่ารักครอบครัวทงบังชินกิมากที่สุดเหมือนกัน
“แต่ถ้านายไม่รีบใส่ผักลงไป รับรองว่าน้ำต้องเหือดไปหมดแน่ๆ” เสียงของแจจุงดึงสติของผมให้กลับมาที่หน้าหม้อแกงเดือดๆได้ชะงัด ผมยิ้มตาหยีแบบที่ชางมินชอบบอกว่า เด็ก ก่อนจะรีบเทผักใส่ลงไปในแกงกิมจิตามคำสั่งของคนข้างๆ
“เอ๋...นั้นนายกำลังทำอะไรอ่ะ เมนูใหม่เหรอ” ผมเหลือบไปเห็นกระดาษจดวิธีทำอาหารที่วางอยู่ทางขวามือของแจจุงเลยอดเอ่ยถามไม่ได้
“อืม เขาเรียกว่าผัดไทย” แจจุงตอบผมพร้อมกับใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มภาคภูมิใจ
“แต่นายทำอาหารไทยไม่เป็นนี่นา” ผมเกิดอาการไม่มั่นใจถึงแม้ว่าหน้าตาของเจ้าผัดไทยที่ว่าจะแอบดูดีอยู่ไม่น้อยก็เถอะ
“ก็นี่ไง” แจจุงยกกระดาษเกือบเปื่อยแผ่นนั้นให้ผมดู นี่มันลายมือของพี่เฮวอนนี่นา แล้วพี่เฮวอนไปทำอาหารไทยเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ
“พี่เฮวอนก็ช่วยหาในหนังสือให้ไง ฉันขี้เกียจอ่านก็ให้พี่เขาอ่านแทน ง่ายจะตาย” ราวกับว่าอ่านใจผมออก แจจุงรัวคำตอบใส่ผมเสร็จก็เป็นจังหวะเดียวกับที่แกงกิมจิและผัดไทยปรุงเสร็จแล้วเช่นกัน ได้เวลาตาย เฮ้ย! ทานแล้วต่างหาก
.............................................................................................
“ไม่อร่อย พวกพี่กินเหอะ” ชิมชางมินน้องเล็กที่ผมหวังจะใช้ผัดไทยเอาใจ พูดตัดรอนความรู้สึกของผมเป็นคนแรก
“แต่นี่ของโปรดนายไม่ใช่เหรอ” จุนซูคนดีมีท่าทางที่ไม่เชื่อว่าเจ้าของแกงกิมจิรสเด็ดที่ชางมินกำลังครอบครองอยู่แต่เพียงผู้เดียวนั้นจะทำอาหารไทยสีสันน่ารับประทานตรงหน้าได้ห่วยอย่างที่ชางมินกล่าวหา
“เออ ไม่อร่อยจริงๆแฮะ ยูชอนนายกินไปเถอะนะ” ไอ้บ้าจุนซูละทิ้งผัดไทยแล้วหันไปทำสงครามแย่งชิงแกงกิมจิในอ้อมกอดของไอ้บ้าชางมินอย่างเอาเป็นเอาตายแทน
“เค็มๆ แปลกๆ แต่ฉันว่าก็กินได้นะ” ยูชอนคนดีช่วยชีวิตไอ้บ้าสองคนนั้นได้อย่างหวุดหวิด เขาตักผัดไทยเข้าปากคำแล้วคำเล่า เคี้ยวตุ้ยๆราวกับตั้งใจจะลืมแกงกิมจิแสนอร่อย เห็นยูชอนทานผัดไทยอย่างสงบท่ามกลางไฟสงครามนั้นมันทำให้ผมอดปลื้มใจไม่ได้เลยจริงๆ
เอ...แต่สีหน้าของนายดูแปลกไป เหมือนกำลังผะอืดผะอม
อืม...ไม่หรอก ผมคงคิดในแง่ลบไปเองเสียมากกว่า
“อร่อยดีออก ทำครั้งแรกออกมาอร่อยแบบนี้เยี่ยมเลยแหละ” โอ...ชองยุนโฮที่รัก นายนี่ช่างมีต่อมรับรสที่ดีเยี่ยมเสียจริง ผมปลื้มใจจนน้ำตาแทบไหล ยิ่งเห็นยุนโฮทานผัดไทยของผมมากขนาดนั้น ผมก็ยิ่งมีกำลังใจที่จะทำให้สมาชิกทุกคนทานอีกในครั้งหน้า
‘พะ...พี่ยุนโฮ ต้องโดนข่มขู่มาแน่ๆ’ คิมจุนซูแอบคิดในใจด้วยความตระหนก
‘คราวหน้าพี่แจจุงต้องบังคับให้พวกเราทานอีกแน่ๆ เฮ้อ...ชีวิตยากจะคาดเดา’ ชิมชางมินแอบบ่นอยู่ในใจแล้วแสดงออกทางสีหน้าเล็กน้อย
‘นี่พี่ยุนโฮกลัวยิ่งกว่าเราอีกเหรอ’ ปาร์กยูชอนก็ได้แต่แอบของแอบคิดอยู่ในใจ พูดไปก็กลัวว่าหัวจะหลุดออกจากบ่า ส่วนความคิดของชองยุนโฮนั้นยากที่จะหยั่งถึงจริงๆ
.............................................................................................
To Be Continued
YunJaeKick
ป๋อล๋อ. ตอนแรกก้อเวิ่นเว้อแล้ว ต้องขออภัย
ป๋อล๋อ. โปรดติดตามตอนหน้า (ก็จะเวิ่นเว้ออีก 555+)
ป๋อล๋อ. ช่วยติแอบชมกันมาเยอะๆนะฮับ ชอบความรุนแรง กร๊ากกกก
รักคนอ่าน
สวีดัสเนะ.
ความคิดเห็น