คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : บทเจ็ด: .............................. 100%
"แจจุง..แจจุง" ยุนโฮเอ่ยเรียก แต่ร่างในอ้อมกอดเขากลับไม่ตอบรับ ไร้ซึ่งเสียงใดๆผ่านออกมามีแต่ความเงียบเท่านั้นที่รู้สึก ยุนโฮก้มมองแจจุง ก็พบว่า
คนในอ้อมกอดของเขาได้หลับไปซะแล้ว
"หลับไปแล้วเหรอนี่ อะไรกัน" ยุนโฮบ่นพึมพัมก่อนจะช้อนตัวแจจุง และอุ้มไปวางไว้บนเตียงบรรทมอย่างเบามือ
ยุนโฮจัดการท่านอนของแจจุงให้สบายที่สุด และห่มผ้าให้กันไม่ให้ลมเย็นๆพัดมาโดนท้องของแจจุงได้ ยุนโฮมองแจจุงแบบที่ว่ารักมากเกินกว่าจะบอกออกมา
ความรักนี้มันยุ่งยาก และวุ่นวาย มีสุขมีทุกข์คละกันไป... แต่เขากับแจจุงคงไ่ม่เป็นแบบนั้นใช่มั้ยนะ
"หลับฝันดีนะ....แจจุง"
'เจ้าจงเอายานี่ไปใส่ไว้ในโอสถของนังแจจุง อย่าให้ใครรู้หรือเห็นเป็นอันขาดถ้าใครมันรู้...ก็ฆ่ามันซะ!'
มิยองคิดถึงคำสั่งของนายคนเอง ก่อนจะเข้าไปในตำหนักของพระชายาอย่างหลบๆซ่อนๆ มิยองเดินเข้าไปในห้องมองหากล่องโอสถที่หมอหลวงจัดมาถวายแจจุง
"มันอยู่ไหนนะ" มิยองมองหาอย่างรีบร้อน ก่อนจะพบกล่องโอสถวางอยู่ในห้องบรรทมทางด้านซ้ายสุดของตำหนัก มิยองจัดการหยิบขวดโอสถออกมาทีละขวด
อย่างเบามือ ก่อนจะหยิบขวดยาพิษออกมาจากแขนเสื้อ
"...แกตายแน่นังแจจุง" มิยองเปิดฝาขวดยาพิษก่อนจะเริ่มเทใส่ลงในขวดโอสถทีละขวด
เมื่อภารกิจเสร็จสิ้นก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ต่อไป มิยองเก็บขวดยาพิษเข้าเเขนเสื้อและจัดการเก็บโอสถลงในกล่องเหมือนเดิม
"..เจ้านายของข้า..ต้องเป็นหนึ่งเท่านั้น" มิยองพูดก่อนจะเดิมออกไปอย่างรีบๆ โดยไม่รู้เลยว่า...นางได้ทำป้ายหยกหล่นไว้ใต้โต๊ะรับรองที่โถงใหญ่...
เช้าวันต่อมา ยุนโฮและแจจุงก็เข้าใจกันมากขึ้น ยุนโฮพาแจจุงออกไปเดินเล่นที่ตลาดนอกวัง โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาเป็นใคร
"โอะ ไปดูตรงโน้นกันดีกว่านะ" ยุนโฮประคองแจจุงไปที่ร้านเครื่องประดับ ยุนโฮมองของพวกนี้อย่างเลือกว่าจะเอาอันที่ดีที่สุดเท่านั้น แจจุงมองยุนโฮอย่างยิ้มๆ
ก่อนจะก้มดูของพวกนี้เหมือนกัน
"อันนี้นี่แหละ" ยุนโฮพูดขึ้น ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบปิ่นปักผมอันหนึ่ง มันเป็นปิ่นทำจากทองคำและประดับด้วยทองคำและทับทิมที่ทำเป็นรูปดอกไม้อย่างประณีต
"ชิ้นนี้รึเพคะ" แจจุงเงยหน้าขึ้นดู ยุนโฮยิ้มให้ก่อนจะเสียบที่ผมของแจจุงอย่างเบามือ
"เก็บของสิ่งนี้ไว้นะ ถึงแม้จะไม่มีค่าเท่ากับของที่มีคนเอามาให้เจ้า แต่ข้าก็อยากให้เจ้าเก็บไว้และใช้มัน" ยุนโฮบอก แจจุงก้มหน้าอย่างเขินอายก่อนจะมองไปที่กระจกและดูความสวยงามของมันอย่างมีความสุขที่สุด
ยุนโฮและแจจุงเดินชมตลาดอยู่ัสักพัก แต่ระหว่างที่ผ่านโรงเตี้ยมแห่งหนึ่งไปก็มีคนมุงดูอะไรสักอย่าง แจจุงเดินเข้าไปอย่างไม่รอช้า ยุนโฮที่ยืนบื้ออยู่ก็เดินตามไปแบบมึนๆ
"มันจะตายมั้ยนะ" "ดูสิเลือดเต็มเลยนะเนี่ย" ชาวบ้านพูดกัน แจจุงแหวกเข้าไป ก็พบหมาตัวหนึ่งนอนจมกองเลือดอยู่
แจจุงลงไปนั่งข้างมัน ก่อนจะเอื้อมมือแตะที่แผลของมัน แต่หมาตัวนี้กลับเงยหน้ามาขู่ฟ่อใส่ทำท่าเหมือนจะกัด
"แจจุงอย่าเข้าใกล้มันนะ" ยุนโฮเอ่ยขึ้น
"ไม่ได้ มันบาดเจ็บอยู่นะ ท่านจะให้ข้ามองข้ามมันรึ"
"แต่่ว่า"
"มาช่วยกันเร็ว ท่านจะปล่อยให้คนท้องแก่อย่างข้าต้องอุ้มหมาตัวใหญ่ขนาดนี้รึอย่างไร" แจจุงบ่นใส่ยุนโฮ ยุนโฮจึงรีบเข้ามาอุ้มหมาตัวนี้แบกขึ้นไหล่
"พามันไปหาหมอเถอะ ท่านป้าแถวนี้พอมีหมอที่รักษาได้มั้ยคะ" แจจุงหันไปถามป้าแก่ๆข้างๆ ป้าแกบอกว่าเดินถัดไปจะเจอซอยลึกๆอยู่ ให้เข้าไปในนั้น
เืมื่อสองคนไปถึงก็พบว่ามีบ้านใครอยู่ ข้างหน้าเขา
"ท่านหมอ อยู่มั้ย!" ยุนโฮตะโกน แต่ก็เงียบไร้เสียงตอบรับ แจจุงเดินนำเข้าไปข้างใน ก็พบว่าในบ้านมีสมุนไพรเต็มไปหมด มีเตียงวางอยู่สามสี่เตียง บนเตียงมีแต่สัตว์บาดเจ็บนอนอยู่ทั้งนั้น
"่ท่านหมอ อยู่มั้ยเจ้าคะ ท่านหมอ"
แกรก! ยุนโฮหันไปตามเสียงทันพลัน ก็พบว่ามีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับตะกร้าสมุนไพรแบกอยู่บนหลัง
"ท่าน...เป็นหมอรึ ? = ="
"อ้าว พวกเจ้าเป็นใคร แล้วหมานั่นไปโดนอะไร ยืนอยู่ทำไม วางมันลงบนเตียงเซ่เจ้าบื่อ!!" ชายคนนั้นเข้ามายืนข้างยุนโฮ และพูดมาฉอดๆทำซะมึน
ยุนโฮวางมันลงกับเตียงเบาๆ ก่อนจะถอดออกมาให้หมอโรคจิต(?)นี่ตรวจอาการ
"โห บาดเจ็บขนาดนี้ รอดมาได้ไง หนังเหนียวจริงๆ" ชายหนุ่มพูด แจจุงมองหน้ายุนโฮแบบว่า'เขาคือหมอจริงๆใช่มั้ย'
"เจ้าทึ่ม เจ้าช่วยหยิบตะกร้าสมุนไพรตรงโต๊ะมาให้ข้าที"
"...ข้าเรอะ ?" ยุนโฮ
"ก็เจ้านนั่นแหละ ข้าไม่อยากจะใช้คนข้างๆเจ้าหรอกนะ เดี๋ยวแท้งซะก่อน"
"-________-"
"เร็วเส้!!" ยุนโฮแสดงสีหน้าไ่ม่พอใจก่อนจะเดินไปหยิบมาให้แต่โดยดี
"รอแปปนะเจ้าหมา ข้าจะช่วยเจ้าเอง -_-v"
"โฮ่ง!"
"นั่นแหละโย่ว -_-v"
จะรอดมั้ยเนี่ย....
ครึ่งชม.ผ่านไป
"เอาหละ ที่เหลือก็ดูแลอาการมันให้ดีแล้วกัน พวกเจ้าเป็นเจ้าของภาษาอะไรปล่อยให้บาดเจ็บ ไร้น้ำยาจริงๆ"
"นี่ ข้าไม่ใช่เจ้าของ ข้าช่วยมันไว้ต่างหาก" ยุนโฮ
"เจ้่าช่วยมัน ก็เท่ากับเจ้าเป็นเจ้าชีวิตมันในตอนนี้ รึจะเถียง ?" หมอ
"เจ้า!" ยุนโฮ
"เอ่อ.. พอเถอะน่า อย่าทะเลาะกันเลย ท่านหมอแล้วหมาตัวนี้อีกนานแค่ไหนถึงจะหายรึ" แจจุงเอ่ยถาม หมอใช้เวลาิคิดอยู่นานกว่าจะตอบออกมาว่า..
"ไม่รู้"
"หา ?"
"ข้าบอกว่าไม่รู้"
"ท่านเป็นหมออะไรทำไมไม่รู้ นักต้มตุ๋นรึเปล่า ถ้าหมาตายขึ้นมาจะทำยังไง!" ยุนโฮ
"นี่ ดูถูกกันไปหน่อยมั้ง ก็ข้าไม่รู้จริงๆ แต่อีกไม่นานหรอกน่า"
"ไร้-น้ำ-ยา" ยุนโฮ
"เจ้าก็ไร้น้ำยาเหมือนกัน -_-*"
"เอ่อ.. เอาเป็นว่าข้าฝากหมานี่ไว้กับท่านก่อน แล้วเดี๋ยววันหลังข้าจะมารับเขากลับไป ฝากด้วยนะเจ้าคะ" แจจุงโค้งคำนับ ก่อนจะดึงยุนโฮให้เดิตามตนออกไป
"..อะไรของพวกนั้นนะ แปลกจริง"
"แจจุงเจ้าไม่น่าไปยอมหมอนั่นเลยนะ เจ้านั่นจะต้องเป็นพวกหลอกเอาเงินแน่ๆ"
"แต่ข้าว่าไม่ใช่หรอก ท่านกังวลมากไปแล้ว"
"แต่ว่าข้า"
"ไม่มีแต่ ท่านต้องพาข้ากลับไปที่ตำหนักเพื่อพบท่านหมอหลวงมิใช่หรือ ? หรือว่าท่านลืมไปแล้ว"
"ยัง แต่่ว่า.. เอ่อ ช่างมัน กลับกันเถอะ" ยุนโฮประคองแจจุงเดินกลับไป ตาเขากระตุกยังไงชอบกล ลางสังหรณ์นี่มันอะไรกันนะ....
ไม่นานนักยุนโฮกับแจจุงก็กลับมาถึงวังหลวง พอเข้ามานั่งพักได้ไม่นานนางกำนัลก็เข้ามารุมประคองถามไถ่แจจุงกันเสียยกใหญ่ ยุนโฮต้องตวาดไล่ไป
ไม่งั้นมีหวังแจจุงจะต้องเป็นลมแน่นอน ไม่นานนักหมอหลวงก็มาถึง ใกล้กำหนดคลอดเข้ามาทุกที อีกไม่กี่อาทิตย์ข้างหน้าก็จะคลอดแล้ว
หมอหลวงจึงต้องเตรียมการ ทั้งหมอหญิง ยาและอุปกรณ์ ไหนจะห้องคลอดอีก
"อืม..พระองค์เสวยยาที่กระหม่อมจัดให้ทุกวันใช่มั้ยพระองค์"
"อื้ม เราทานยาของท่านทุกวัน ตามที่ท่านสั่งไว้" แจจุงเอ่ยและยิ้มให้ หมอชราก็ยิ้มให้เช่นกัน ก่อนจะหันไปหายุนโฮ
"ช่วงนี้ต้องระวังมากหน่อยนะพะย่ะค่ะ อย่าให้ทรงเดินมากเกินไปเชียว มันจะไม่ดีต่อเด็กและแม่ อีกสองสามวันเห็นทีจะต้องพาพระชายาเข้าห้องคลอดเพื่อเตรียมการไว้ตลอดเวลาพระเจ้าค่ะ" หมอหลวงรายงาน ยุนโฮพยักหน้าเข้าใจก่อนจะบอกลาและส่งท่านหมอออกจากตำหนัก
"พระชายา โอสถมาแล้วเพคะ" นางกำนัลคนสนิทถือถาดยามาให้ นางวางถาดยาลงกับโต๊ะเล็กๆข้างๆที่นั่งของแจจุง ก่อนจะหยิบถ้วยยาออกมาและชิมยา
ก่อนจะใช้เข็มตรวจพิษอีกที เมื่อแน่ใจ นางจึงยกถ้วยให้กับแจจุง แจจุงรับถ้วยยานั้นขึ้นมา ก่อนจะยกขึ้นดื่มทีละนิด
"อั่ก!!" จู่ๆนางกำนัลก็กระอักเลือดออกมา นางกระอักเลือดออกมามากมายและล้มไปกองกับพื้น สร้างความตกใจให้กับแจจุงยิ่งนัก แจจุงเริ่มเกิดอาการตกใจชั้นรุนแรง นางหายใจแรง และตื่นกลัว ไม่นานนักยุนโฮก็เดินเข้ามาในห้อง ก่อนจะตกใจกับภาพตรงหน้าและเข้ามาหาแจจุงอย่างรวดเร็วและดูว่านางเป็นอะไรรึไม่
"นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมนางกำนัลของเจ้าถึงไปอยู่ตรงนั้น แล้วเจ้าเป็นอะไรหรือไม่!"
"ข้าไม่เป็นไร หรอก ข้าแค่ ..อะ อ่อก!!" ไม่นานนัก แจจุงก็กระอักเลือดออกมาและสลบไป ยุนโฮตกใจมาก เขาอุ้มแจจุงขึ้นก่อนจะวิ่งออกไปข้างนอกห้อง
"มีใครอยู่บ้าง!!! ตามหมอหลวงที!!" ยุนโฮพาแจจุงเข้าไปในห้องนอน และวางลง และเขาก็สังเกตได้ว่า มีเลือดอยู่ที่กระโปรงของแจจุงไหลเป็นทางลงมา
"แจจุง..แจจุงเจ้าอย่าทำแบบนี้สิ เจ้าต้องตื่นขึ้นมานะ ข้าสั่งอยู่ได้ยินรึไม่ แจจุง!!" ยุนโฮเขย่าเรียกแจจุง หมอหลวงเข้ามาในห้องอย่างรีบร้อนและตกใจ
ก่อนจะสั่งให้คนพาตัวยุนโฮออกไปก่อนและปิดประตูเพื่อตรวจอาการ
"นี่มันอะไร ทำไมเป็นอย่างนี้ สั่งคนตรวจสอบยาที่พระองค์เสวย เราต้องทำการคลอดเดี๋ยวนี้!!" หมอหลวงออกคำสั่ง หมอหญิงและขันทีวิ่งวุ่นกัน
หมอหลวงนำยาสมุนไพรผงยัดใส่ไม้ที่ทำเหมือนหลอด และเป่ามันเข้าไปในรูจมูกของแจจุงเพื่อให้ฟื้นขึ้นมา
"พระชายา!! ทรงตื่นสิพะย่ะค่ะ!! จะทรงหลับไม่ได้นะ ตื่นขึ้นมา!!" หมอหลวงเอ่ย ก่อนจะเป่าเข้าไปอีก
"พระชายา ทรงตื่นขึ้นสิพะย่ะค่ะ!!!" หมอหลวงก้มลงแนบอกของแจจุงและตรวจชีพจร เสียงหัวใจยังเต้นอยู่แต่อ่อนแรงเหลือเกิน
"พระชายา!" หมอหลวงเอ่ยเรียกอีกครั้ง แจจุงลืมตาขึ้นมาและหายใจอย่างอ่อนแรง หมอหลวงยิ้มอย่างดีใจและขอบคุณพระเจ้าที่ให้พระชายาฟื้นขึ้นมา
"ท่านหมอ.." แจจุงเอ่ยเสียงแผ่ว หมอหลวงบอกให้แจจุง จับเชือกสองเส้นที่ผูกไว้และออกแรงเบ่งเด็กออกมา แจจุงทำตามทุกอย่าง โดยที่มีหมอตำแยคอยนวดท้องให้อยู่เป็นจังหวะ หมอกรีดเนื้อตรงซอกนิ้วโป้งออก เพื่อระบายเลือดเสียออกจากตัวแจจุง แจจุงออกแรงเบ่งเด็กอย่างตั้งใจและพยายามอย่างมาก
"พระชายา พยายามเข้านะเพคะ เด็กกำลังจะออกมาแล้ว" หมอตำแยเอ่ยให้กำลังใจ แจจุงกรีดร้องอย่างเจ็บปวด ยุนโฮที่อยู่ข้างนอกแทบจพุ่งเข้ามาในห้องอยู่แล้ว ถ้าไม่ติดว่ามีฮองเฮากับฮ่องเต้ที่คอยปลอบ และขันทีคอยจับไว้คงจะแย่แน่ๆ
"ข้าทนไม่ไหวแล้วนะ ปล่อยข้า!!!!" ยุนโฮตะโกนเสียงดัง ขันทีหลุดเพราะแรงสะบัดของยุนโฮไปทีละคน และลุกมากันไว้ใหม่ วนเวียนอยู่อย่างนี้
ฮองเฮา เห็นแล้วแทบจะคลั่ง ถ้าเป็นแบบนี้ ยุนโฮต้องแย่แน่ๆ
"ให้เขาเข้าไปไม่ได้เลยเหรอ" ฮองเฮาหันถามหมอหญิงที่เฝ้าหน้าห้อง นางส่ายหน้าอย่างหมดหนทาง ฮองเฮาขมวดคิ้วเครียดอย่างคิดไม่ตก
"ข้าจะไปหาแจจุง ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นะ!" ยุนโฮพูด เสียงกรีดร้องของแจจุง ทำให้เขาแทบอยากจะบ้า เขาแทบจะทนไ่ม่ไหวกับเสียงนี้ ความเจ็บปวดนั่นมันเกินจะทน !
"ยุนโฮ! เจ้าช่วยอยู่นิ่งๆก่อนได้รึไม่ แจจุงกำลังผ่านพ้นวิกริตอยู่นะ นางกำลังจะกำเหนิดบุตรให้กับเจ้า ข้าเข้าใจว่าเจ้าเจ็บเหมือนกัน แต่ช่วยอยู่นิ่งๆและสงบใจไว้หน่อยเถิด" ฮองเฮาเอ่ย ก่อนจะนั่งลงข้างๆฮ่องเต้ที่นั่งลุ้นอยู่เช่นกัน
"ฝ่าบาท!" หมอหลวงออกมาจากห้อง ก่อนจะโค้งคำนับและหันไปพูดกับยุนโฮ
"ฝ่าบาท โปรดเข้าไปกับกระหม่อมเถิด" ยุนโฮพยักหน้าแรงๆ ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาแจจุงก่อนหมอหลวงเสียอีก ยุนโฮวิ่งเ้ข้าไปคุกเข่าที่พื้นอยู่ตรงขอบเตียง
ก่อนจะจับมือของแจจุงไว้และกำไว้แน่น
"..พระองค์ หม่อมฉันเหนื่อยเหลือเกินเพคะ..หม่อมฉันคงไม่ไหวแล้ว..." แจจุงหันหายุนโฮ ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยเหงื่อ น้ำตาที่ไหลออกมานั้นแทบจะไม่มีให้ไหลอยู่แล้ว
"..ไม่หรอก เจ้าจะต้องปลอดภัย ลูกของเราจะต้องปลอดภัยแน่ๆ โปรดพยายามอีกสักนิดเถิด ได้โปรด." ยุนโฮเอ่ย ใบหน้าของแจจุงแสดงถึงความเหนื่อยและเจ็บปวดเกินทน หมอหลวงบอกให้ยุนโฮขึ้นไปบนเตียงและนั่งซ้อนหลังให้แจจุงพิง และจับมือไว้ ก่อนจะเริ่มการคลอดที่ค้างคาต่อ
"เอาหล่ะ พระชายา ทรงเบ่งนะพะย่ะค่ะ ออกแรงสุดแรงเกิดเลยนะพระองค์ เพื่อพระองค์เอง เพื่อองค์ชาย เพื่อพวกเรา เอาหละ ทรงเบ่งเลยนะพะย่ะค่ะ"
"อึก!" แจจุงออกแรงเบ่งเต็มแรง มีอนั้นบีบมือยุนโฮไว้แน่น ก่อนจะพักหายใจและพิงยุนโฮสักพัก และเริ่มเบ่งใหม่
"ใกล้แล้วเพคะ! อีกนิดเดียว!" หมอตำแยเอ่ย แจจุงได้ยินดังนั้นและเริ่มเบ่งอีกครั้งหนึ่ง
"เด็กจะออกมาแล้ว!" หมอตำแยเอ่ยอย่างดีใจ แจจุงไม่ได้ยินเสียงอะไรอีกแล้ว ได้ยินแต่เสียงของตนเองที่แผดร้องออกมาครั้งสุดท้าย ก่อนทุกอย่างจะมืดสนิท..
"อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!"
ผ่านไปสามวันแจจุง ไม่ยอมตื่นมาเสียที หมอตรวจดูอาการก็ปกติดี อาจจะเพราะร่างกายกำลังอ่อนแอจึงต้องพักผ่อนและหลับนานแบบนี้
ยุนโฮนั่งเฝ้าแจจุงตั้งแ่ต่วันนั้น เขาคอยเฝ้าดูรอการตื่นขึ้นมาของแจจุงอยู่ตลอดเวลา คืนนี้ก็เช่นกัน แต่เขาก็กลัว.. ถ้าแจจุงตื่นขึ้นมา..เขาจะทำยังไง
'พระองค์ พระโอรสประสูติแล้ว!!' หมอหลวงเอ่ย ก่อนจะอุ้มเด็กมา ยุนโฮยิ้มออกมาอย่างดีใจ หมอหลวงตบที่ก้นของเด็กแต่ไม่นานสีหน้าของหมอหลวงก็เปลี่ยนไป
'ทำไมรึ.. ลูกข้าเป็นอะไร'
'...เด็ก..ไม่หายใจ'
"...ยุนโฮ" จู่ๆเสียงแจจุงก็เอ่ยขึ้น ยุนโฮหันกลับมามองแจจุง ในที่สุด! เขาก็ฟื้น ยุนโฮจับมือแจจุงและบีบอย่างดีใจ ก่อนจะยิ้มออกมาให้กว้างและมีความสุขที่สุด
"เจ้าฟื้นแล้ว" ยุนโฮเอ่ย แจจุงยิ้มให้บางๆ และสายตาก็มองหาบางสิ่งบางอย่าง
".....แล้วลูกหล่ะพะย่ะค่ะ..ลูกของกระหม่อม..อยู่ที่ใด" ยุนโฮอึ้งเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะยิ้มและลูบผมที่ปรกหน้าของแจจุงขึั้้นไป
"หมอหลวงพาไปพักที่ห้องเด็กน่ะ เขากำลังตรวจลูกเราอยู่ เขาเป็นเด็กที่แข็งแรงและน่าเกลียดน่าชังนัก เหมือนเจ้าเลยนะ" ยุนโฮเอ่ย สายตาเขามีแวบนึงที่แสดงอาการเศร้าออกมา แต่ก็เก็บไว้และทำให้มีความสุขที่สุด
"..งั้นหรือ ข้าอยากเห็นหน้าเขาจัง..ข้าไปได้รึไม่" แจจุงเอ่ยถาม ยุนโฮส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะห่มผ้าให้มิดคอกว่าเดิม
"เจ้าจะต้องพักผ่อนอีกนะ เจ้ายังไม่แข็งแรง...เอาไว้เจ้าแข็งแรงเมื่อไหร่..ข้าจะพาเขามาหาเจ้า"
"..สัญญานะเพคะ"
"..ข้าสัญญา" ยุนโฮเอ่ย และแจจุงก็หลับไป และน้ำตาของยุนโฮก็ไหลออกมาอย่างพรั่งพรู
ถ้าข้าผิดสัญญากับเจ้า.....เจ้าจะเกลียดข้ารึไม่..แจจุง
หลายอาทิตย์ต่อมาแจจุงฟื้นร่างกายอย่างรวดเร็ว ยุนโฮคอยตามดูแลอยู่ไม่ห่าง จนหมอหลวงออกปากว่า
‘เห็นทีคนที่จะป่วยคงเป็นองค์ชายกระมัง’
แจจุงเฝ้ารอการพบหน้าลูกของตน ตั้งแต่วันคลอดเขายังไม่เห็นหน้าลูกของตัวเองเลย ไม่รู้ว่าจะเป็นเด็กที่น่าเกลียดน่าชังแค่ไหน เขาจะแข็งแรงดีมั้ย คิดแล้วก็อยากรู้จริงๆ ทุกคืนแจจุงมักจะถามยุนโฮว่า ลูกเป็นยังไงบ้าง ลูกหน้าเหมือนตนมั้ย หรือลูกงอแงบ้างรึเปล่า ยุนโฮมักจะยิ้มให้แล้วตอบว่า ลูกแข็งแรงดี หน้าเหมือนมาก หรือ ไม่งอแงหรอก ..
แต่แจจุงไม่รู้เลยภายใต้ใบหน้าอันยิ้มแย้มและแววตานั่น ซ่อนความเจ็บปวดมากมายแค่ไหนไว้ภายใต้รอยยิ้มนั่น ความเจ็บปวดของพ่อที่ไม่สามารถปกป้องหรือแม้แต่ช่วยลูกของตนได้ สามีที่หลอกลวงภรรยาของตน..หรือแม้แต่หลอกตัวเอง
ยุนโฮเฝ้าดูแลแจจุงเกือบทั้งวันก็จริง แต่เวลาที่แจจุงพักผ่อนเขามักจะแอบไปหาลูกของเขาเสมอ หลังจากวันคลอดหมอได้ช่วยให้ลูกเขาหายใจได้แล้ว แต่เด็กก็ยังไม่แข็งแรงพออยู่ดี อาการต้องอยู่ในสายตาของหมอตลอดเวลา เด็กคนนี้ร่างกายอ่อนแอ สุขภาพไม่สู้ดีนัก แต่เขาก็แอบมีความหวังว่าลูกของเขาจะต้องอยู่รอดปลอดภัยเป็นแน่ ...ต้องเป็นเช่นนั้นอย่างแน่นนอน
“ฮองเฮาเจ้าอย่าได้วิตกไปเลย หลานของเราจะต้องแข็งแรงปลอดภัย เจ้าไม่เชื่อมือหมอหลวงรึ”ฮ่องเต้หันถามชายาของตน พระองค์เห็นนางนั่งหน้าเครียดมาหลายวันเพราะตั้งแต่นางไม่ได้ยินเสียงหลานตอนคลอดออกมา นางก็หวั่นวิตกมากพอแล้ว ไหนจะไม่หายใจ สุขภาพไม่ดีอีก
“ฝ่าบาท ..หม่อมฉันเชื่อ แต่ว่า หม่อมฉันเป็นห่วงหลานนี่เพคะ หม่อมฉัแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว แจจุงเองก็ยังไม่รู้เรื่องยุนโฮอยากเก็บไว้เป็นความลับจนกว่าหลานจะหายดีเป็นปกติ แต่เขากลับดูเศร้าหมองเหลือเกิน หม่อมฉันแทบจะทนไม่ไหวแล้วนะเพคะฝ่าบาท ”
ฮองเฮาทูลต่อพระสวามีอย่างสุดจะทน นางไม่ต้องการเห็นลูกชายของนางทนทุกข์ทรมานเช่นนี้ แจจุงเอง..ถ้ารู้เรื่องนี้คงแทบขาดใจเป็นแน่
“อืม.. เราคงได้แค่ภาวนาให้มันผ่านพ้นไปเท่านั้น จะช่วยก็คงทำได้แค่นี้” ฝ่าบาทเอ่ยอย่างตัดตรอน พระองค์ก็หวังเช่นกัน
... ว่าอุปสรรคครั้งนี้ ทั้งสองจะต้องผ่านไปได้ด้วยดี
ในคืนนั้นยุนโฮส่งแจจุงเข้านอนตามปกติ เขารอเวลาจนกว่าแจจุงจะหลับสนิทเพื่อไปดูอาการของลูกชายของตน ยุนโฮชะโงกหน้ามองแจจุงที่นอนหันหลังให้ว่าหลับสนิทรึยัง เสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอบอกได้ว่าหลับลึกเป็นแน่ ยุนโฮยันตัวขึ้นลุกลงจากเตียงช้าๆ .ก่อนจะคว้าเสื้อคลุมและเดินออกจากห้องอย่างแผ่วเบา
แจจุงลืมตาตื่นขึ้นมาก่อนจะลุกขึ้นและลงจากเตียงและเดินตามออกไปอย่างรวดเร็ว เขาสงสัยมานานเหลือเกินว่าทุกคืนทำไมยุนโฮต้องออกไปนอกตำหนักเสมอ ช่วงแรกๆไม่ได้เอะใจแต่อย่างใด แต่มันบ่อยเสียจนน่าสงสัย แจจุงแอบตามยุนโฮไปอย่างระวัง ยุนโฮเดินตรงไปตามทางเดินเข้าไปในอุทยาน ก่อนจะเลี้ยวหายไปในกระโจมพุ่มไม้ข้างๆศาลาริมทะเลสาบ
แจจุงเดินตามไปติดๆ ก่อนจะมาหยุดหน้ากระโจมทางเข้า เมื่อมองเข้าไปมีแต่ความมืดเพราะเถาวัลเต็มไปหมด จะมีก็เพียงแสงริบหรี่ที่สว่างลอดออกมาจากด้านในเท่านั้น แจจุงรู้สึกหนาววบอย่างบอกไม่ถูก ใจนั้นลังเลว่าจะเข้าไปดีรึไม่ หรือจะกลับไปที่ตำหนักดังเดิม ความรู้สึกกลัวที่เข้ากัดกินหัวใจของแจจุง..ตัวเขาเองไม่เข้าใจมันเลย
ความคิดเห็น