ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    - the fact and fake []'yunjae

    ลำดับตอนที่ #4 : บทสี่: ชายาผู้บอบบาง

    • อัปเดตล่าสุด 18 เม.ย. 54


      

    ความงามภายใต้แสงตะวัน
    ความงามนั้นคงเลือนหายไม่คงอยู่
    ความงามนั้นคงไม่อาจให้ใครรู้
    ผู้คนรู้ข้านั้นอายเกินจะทน
    บทสี่: ชายาไร้หน้า
    "องค์ชาย พระชายาทรงอยู่ที่ตำหนักฮองเฮา ฮองเฮาสั่งให้หม่อมฉันทูลว่า พระนางจะทรงพักที่ตำหนักฮองเฮาอีกสักพักเพคะ"
    นางกำนัลเอ่ยรายงาน ยุนโฮไม่ตอบอะไร นางก็ไม่รู้จะทำยังไง นอกจากทูลลาและกลับไปตำหนักฮองเฮา

    ยุนโฮสับสนอย่างมาก เหตุใดชายาของเขาถึงไม่ยอมอยู่กับเขาในคืนเข้าหอ เหตุใดต้องอยู่กับเสด็จแม่ รึว่านางไม่ยอมรับในตัวเขา 
    เขาคิดไปต่างๆนานา แต่ก็พยายามคิดเสมอว่า นางอาจต้องการเวลา เขาต้องให้เวลากับนางกระมัง
    ยุนโฮถอดชุดเจ้าบ่าวสีแดงสดออก ก่อนจะเตรียมตัวบรรทม ในห้องหอเพียงผู้เดียว..


    เช้าวันต่อมา ร่างที่หลับไหลของยุนโฮตื่นขึ้นมาด้วยกลิ่นหอมของเครื่องหอมบางอย่าง ตาของเขากระพริบปรับสภาพแสงสายตา ก่อนจะลุกนั่งและมองดูเห็นว่ามีใครอยู่ในห้อง ..แจจุง
    "พระองค์ตื่นบรรทมแล้วหรือเพคะ" แจจุงยิ้มให้กับยุนโฮเล็กน้อย นางถืออ่างน้ำร้อนเล็กมาและนั่งลงที่เตียงบรรทมข้างๆยุนโฮ 
    "ทรงล้างหน้าก่อนนะเพคะ แล้วค่อยไปชำระพระวรกาย" แจจุงยังยิ้มอยู่เล็กน้อย ยุนโฮมองหน้านางอย่างไม่เข้าใจ แจจุงรู้ดีว่าทรงรู้สึกยังไง แต่ในเมื่อทรงไม่รู้..ก็คงต้องปล่อยไปแบบนี้
    แจจุงหยิบผ้ามาชุบน้ำ ก่อนจะใช้มืออีกข้างรวบชายแขนเสื้อตนไว้และซับผ้าลงที่พระพักตร์ของยุนโฮ ยุนโฮมองนางตลอดเวลา แจจุงทำเป็นไม่สนใจสายตานั้น ก่อนจะวางผ้าลงในอ่างและลุกขึ้นถืออ่างไว้ในมือ ก่อนจะเดินไป
    "หม่อมฉันจะไปเตรียมน้ำไว้ให้นะเพคะ" แจจุงพูดขณะที่เก็บของทุกอย่างให้เรียบร้อย จู่ๆมีแขนใครบางคนกอดนางจากด้านหลัง
    "ทำไมเจ้าไม่อยู่กับข้าเมื่อคืนนี้เล่า" ยุนโฮเอ่ยถาม ก่อนจะเกยคางที่ไหล่ของแจจุง นางไม่ตอบอะไรนอกจากจับแขนของเขาไว้ 
    "..หม่อมฉันแค่คิดถึงบ้าน หม่อมฉันกลัวเพคะ พระองค์อย่าำได้ทรงกริ้วหรือน้อยพระทัยหม่อมฉันเลยนะเพคะ" แจจุงพูด ยุนโฮจูบลงที่ลำคอของนาง แจจุงรับรู้ถึงสัมผัสนั้นและรู้สึกถึงความร้อนในร่างกายที่ร้อนขึ้นเอง
    "..อย่าให้ข้าต้องรอเจ้านานนัก ข้าจะขาดใจตายเอาได้นะพระชายาของข้า"
    "..เพคะ หม่อมฉัน..จะพยายามเพื่อพระองค์ ทรงรอหม่อมฉันด้วยนะเพคะ" แจจุงเอ่ยอย่างเศร้าๆ แต่พยายามไม่ให้ยุนโฮรู้ทัน ยุนโฮยิ้มรับ ก่อนจะปล่อยมือออกและจับแจจุงหันมาหาเขา
    "ข้าจะรอเจ้า ไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็ตาม" แจจุงยิ้มรับเช่นกัน ยุนโฮนึกอยากแกล้งชายาของเขานัก เขาช้อนตัวแจจุงขึ้นมาอุ้มไว้ แจจุงตกใจจึงใช้แขนคล้องคอยุนโฮไว้เพราะกลัวจะหล่นลงพื้น
    "พระองค์! จะทรงทำอะไรน่ะเพคะ ปล่อยหม่อมฉันลงเถิดเพคะ" แจจุงเอ่ยอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ใจของนางกำลังรู้สึกวูบวาบ ยุนโฮยิ้มให้ก่อนจะเดินไปที่ห้องอาบน้ำ แจจุงเห็นดังนั้นจึงทุบยุนโฮเชิงให้หยุด
    "พระองค์ ไม่เอานะเพคะ ปล่อยหม่อมฉันลง!" 
    "เรื่องอะไรหล่ะ มาอาบด้วยกันเถอะ" ยุนโฮก้าวขาลงไปในอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ แจจุงเกาะเขาแน่นมากทีเดียว 55555. เมื่อตัวแจจุงถูกน้ำ เขาก็ค่อยๆปล่อยนางลง เครื่องแต่งกายของนางเปียกหมดแนบเนื้อ ผมก็เปียกเล็กน้อย ยุนโฮเอื้อมมือไปถอดเครื่องประดับผมพวกนั้นออกจนหมด ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ๆนาง แจจุงทำท่าจะก้าวหนี ยุนโฮจึงรวบตัวนางไว้อย่างรวดเร็ว
    "พระองค์ อย่าเล่นแบบนี้สิเพคะ ใครมาเห็นจะทำยังไง" แจจุงเอ่ยเตือน ยุนโฮคิดเล็กน้อยก่อนจะยักไหล่
    "ใครจะว่าอะไร เจ้าเป็นชายาข้า เหตุใดต้องกลัวเขาเห็นกันด้วยหล่ะ และอีกอย่าง เขาไม่เข้ามาถ้าข้าไม่เรียก" ยุนโฮยิ้ม
    "แต่ว่า.." แจจุงทำท่าจะเถียง ยุนโฮก้มลงจูบที่ริมฝีปากอิ่มของนาง แจจุงตาโต ก่อนจะรับรู้สัมผัสทีหล่ะน้อยและจูบตอบอย่างแผ่วเบา


    ....ถ้ากลางคืนไม่ได้อยู่ด้วยกัน กลางวันเจ้าจะต้องอยู่ภายใต้ร่างของข้า...แจจุง



    "อือ.." แจจุงตื่นขึ้น ตอนนี้ท้องฟ้ากำลังจะมืดสนิทแล้ว ถ้าเขาไม่ลุกตอนนี้ถ้าทางคงจะไม่ดีแน่ แจจุงพยายามลุกออกจากเตียงทั้งที่ลำบาก เพราะร่างกายส่วนล่างเจ็บเหลือเกิน แจจุงหันไปมองใบหน้าของยุนโฮ ก่อนจะพยายามลุกขึ้นและแต่งตัวให้เรียบร้อยและเดินออกไป 

    แจจุงเดินมาเรื่อยๆ เขาใช้ความพยายามมากทีเดียว ฟ้ากำลังจะมืดแล้ว แจจุงเร่งฝีเท้าเดินให้เร็ว เมื่อถึงเขาก็เข้าไปหาฮองเฮาอย่างไม่รีรอ 
    ฮองเฮาทรงนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่เก้าอี้ นางกำนัลทูลว่าแจจุงมา นางก็อนุญาตเช่นเคย เมื่อแจจุงเข้ามา นางตกใจกับสภาพที่เห็นมาก แจจุงที่ใส่ชุดขาว ตอนนี้ผ้าส่วนล่างมีรอยเลือด ใบหน้าแจจุงดูเหนื่อยอ่อนมากทีเดียว นางปรี่เข้าไปหาแจจุงและจับแขนตรวจดูว่าแจจุงบาดเจ็บตรงไหน
    "นี่เจ้าไปทำอะไรมา ทำไมเป็นแบบนี้หล่ะ" ฮองเฮาถามอย่างเป็นห่วง แจจุงอ้าปากจะตอบ แต่แรงของเขาหมดเสียแล้ว แจจุงเป็นลมล้มลงไปกองกับพื้น ฮองเฮาร้องตกใจเสียงดัง
    "แจจุง! เม่ยเหนียง ! เจ้ามาช่วยข้าที เร็วเข้า!" ฮองเฮา เรียกนางกำนัลคนสนิทนางเข้ามาพร้อมกับทหารอีกคน นางช่วยประคองแจจุงให้นั่งขึ้นและให้ทหารอุ้มแจจุงไปวางบนเตียงทีบรรทม
    "นี่มันอะไรกัน ยุนโฮนี่เจ้าทำขนาดนี้เลยเรอะ" ฮองเฮาพูดอย่างเหนื่อยใจ ลูกชายนางนี่ก็ทำซะอย่างกับเสือหิว ร่างกายแจจุงบอบบางนัก ยุนโฮไม่น่าจะทำรุนแรง(?)แบบนี้ นางคิดก่อนจะหันไปหานางกำนัลคนสนิทอีกครั้ง

    "ตามหมอหลวงมา เร็ว! " 


    ฮองเฮายืนดูตลอดเวลาที่หมอตรวจแจจุง เขาบอกนางว่า แค่บอบช้ำไปเล็กน้อยเท่านั้น และเขาจะจัดยาบำรุงให้อีกสาม-ห้าชุด
    พอหมอกลับไป ฮองเฮาก็นั่งเฝ้าแจจุงอยู่ข้างเตียง ไม่นานร่างกายของแจจุงก็มีแสงเล็กน้อย และเปลี่ยนเป็นบุรุษใบหน้างดงามอีกครั้ง


    ....ฟ้ามืดแล้วสินะ ...


     

    ร่างบางที่นอนหลับไหลอยู่บนเตีัยงบรรทมเริ่้มสะลึมสะลือตากระพริบและค่อยๆรู้สึกตัว เขาไม่สามารถลุกได้เพราะมันเจ็บ (ขอโทษนะแจ
    -_-;) แจจุงยังลืมตาไม่เต็มที่เพราะยังง่วงอยู่นิดหน่อย นางกำนัลคนหนึ่งเดินเข้ามา เมื่อเห็นแจจุงนางก็วิ่งไปรายงานฮองเฮา 
    ไม่นานนัก ฮองเฮาก็ก้าวฉับๆ มาหาแจจุงและนั่งลงข้างๆจับมือไว้ 
    "เจ้าตื่นแล้วหรือแจจุง เดี๋ยวเจ้ากินโอสถบำรุงที่หมอหลวงให้มาก่อนนะ แล้วค่อยคุยกัน ดีมั้ย" ฮองเฮาพูดรวดเดียว แจจุงฟังไม่ค่อยทันแต่ก็พยักหน้าตอบไป นางกำนัลถือโอสถมาถวายฮองเฮาหยิบถ้วยโอสถและช้อนมา ตักโอสถมาเป่าก่อนจะป้อนให้แจจุง
    เพียงแค่อึกเดียวแจจุงก็เบือนหน้าหนี และยกมือปิดปากตน
    "ขมมากเลยพะย่ะค่ะ" แจจุงแสดงออกทางสีหน้า ฮองเฮายิ้มให้เขา ก่อนจะพูดขึ้นมาอีก
    "โอสถก็ต้องขมถึงจะหาย หวานเป็นลมขมเป็นยายังไงเล่าแจจุง"
    "แต่ว่า.."แจจุงจะขัดขึ้น ฮองเฮาใช้จังหวะนี้ ป้อนยาอีกช้อนให้แจจุง
    "ไม่มีแต่ เจ้าจะต้องกินมันให้หมด เพื่อตัวเจ้าเองนะ" แจจุงแทบจะสำลักยาออกมา แต่ก็ต้องฝืนทนกลืนมันลงไปถึงแม้จะขมมากก็ตามทีเถอะ
    "ฮองเฮา ฟ้าจะสว่างแล้วเพคะ" นางกำนัลนอกตำหนักพูดขึ้น แจจุงแอบคิดเหมือนกันว่าฮองเฮาทรงพักผ่อนรึเปล่านะ ฮองเฮาทรงเรียกนางกำนัลคนสนิทเข้ามา ก่อนจะสั่งให้นางพาแจจุงไปชำระกายและแต่งตัวเสียก่อน 
    นางกำนัล ขันทีทุกคนที่ติดตามแจจุง ฮองเฮาย่อมสั่งให้พวกนางเก็บเรื่องคำสาปนี้ไว้เป็นความลับ พวกนางจึงรู้เรื่องและปฏิบัติตนอย่างปกติ ไม่มีใครตกใจหรืออะไรทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นนางจึงไม่ห่วงเรื่องนี้มากนัก เพราะข้าราชบริภาลพวกนี้ภักดีกับนางและราชวงศ์ตลอดมา


    ฮองเฮาทรงจิบน้ำชากลิ่นมะลิ รอแจจุง ไม่นานนักแจจุงก็ออกมาในรูปสตรีพร้อมกับนางกำนัลคนเดิมที่ให้แจจุงจับแขนพยุงมา
    "เจ้าดีขึ้นแล้วใช่มั้ย" ฮองเฮาเอ่ยถาม แจจุงโค้งศีรษะเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยขอบคุณนาง
    "เพคะ ขอบพระทัยที่ทรงกรุณาหม่อมฉัน" ฮองเฮาพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะลุกขึ้นและไปอยู่ข้างๆแจจุง
    "วันนี้อากาศดี ข้าว่าเราไปชมอุทยานกันดีมั้ยแจจุง" นางเอ่ยชวน แจจุงยิ้มรับก่อนจะตอบตกลงไป นางเองก็อยากเห็นอุทยานหลวงมานานแล้ว
    ตลอดทางที่เดินมาอุทยาน ฮองเฮา แจจุง คุยกันอย่างถูกคอ ข้าราชบริภาลก็ต่างชอบแจจุงกันทั้งสิ้น นางเป็นคนดี ไร้เดียงสาเสียด้วยซ้ำ ฉลาด และงดงามมากกว่าหญิงใดในแผ่นดิน ทุกคนต่างเคารพและภักดีต่อนางโดยไม่มีเงืื่อนไขหรือผลประโยชน์ทั้งสิ้น
    เมื่อถึงอุทยาน ฮองเฮากับแจจุงก็หยุดดูปลาในทะเลสาป แจจุงเอ่ยถามนางมากมาย ไม่ว่าจะเรื่องกฏเกณฑ์ หรือการอยู่ร่วมกับคนในวัง
    แจจุงค่อนข้างจะกังวล เพราะนางมาอยู่ได้ไม่นาน ถ้าทำอะไรผิดขึ้นมานางจะเดือดร้อนมีใครรึไม่ เพราะแบบนี้แจจุงถึงไม่ค่อยจะตอบโต้หรือเถียงอะำไรกับใคร นอกจากอยู่ในตำหนักเท่านั้น
    "อุ้ย วันนี้ฮองเฮาทรงออกมาอุทยานด้วยหรือนี่" เสียงๆหนึ่งดังขึ้นมา ฟังดูแล้วไม่ได้ดูมีมารยาทเท่าไหร่ -_-
    แจจุงกับฮองเฮาหันไปทางต้นเสียงพร้อมกัน ผู้มาใหม่ในที่แห่งนี้ไม่ใช่ใคร นอกจากบุตรสาวของขุนนางท่านนึงที่ถวายนางให้ยุนโฮ เมื่อนานมาแล้ว แต่ยุนโฮก็หาได้พิศวาทหรือสนใจนางมากมาย
    "ถวายบังคมเพคะ ฮองเฮา พระชายา" นางถอนสายบัวให้พวกเรา ฮองเฮาดูไม่ชอบนางสักเท่าไหร่ แจจุงสังเกตได้ แต่นางก็ไม่ได้รู้สึกไม่ชอบแต่อย่างใด 
    "สนมจอง วันนี้เจ้ามิได้เย็บปักถักร้อยอยู่ที่ตำหนักรึ" ฮองเฮาเอ่ยถาม ผู้ถูกถามขำเล็กน้อยก่อนจะตอบออกมาด้วยน้ำเสียงยียวน
    "ฮะๆ ฮองเฮา.หม่อมฉันก็ต้องออกมาสูดอากาศบ้างสิเพคะ จะให้อุดอู้อยู่แต่ในตำหนักมันก็ยังไงอยู่ หม่อมฉันอยากจะเข้าเฝ้าองค์ชายเช่นกันนะเพคะ.. พระชายาเองก็เช่นกันสินะเพคะ หม่อมฉันได้ยินมาว่าพระองค์อยู่แต่ตำหนักฮองเฮา หาได้อยู่กับองค์ชาย" นางเอ่ยถามแจจุง
    แจจุงไม่รู้จะตอบยังไงดี แต่มันไม่ได้เป็นความจริงไปซะทั้งหมด ถ้าจะให้ตอบตรงๆนางคงเขินอายมากเป็นแน่
    "หึ. เหมือนเจ้าจะยังไม่รู้นะสนมจอง" ฮองเฮาพูดขึ้นมาพลางยิ้มเยาะ สนมจองเลิกคิ้วสงสัยแต่ใบหน้าก็ยังยิ้มอยู่นั่นแหละ
    "หม่อมฉันยังไม่รู้อะไรรึเพคะ" นางถาม ฮองเฮายื่นมืออีกข้างที่ไม่ได้ควงแขนแจจุง วางที่ไหล่นาง ก่อนจะพูดอย่างผู้ืถือไพ่เหนือกว่า
    "พระชายาหน่ะ ทรงอยู่กับองค์ชายเมื่อวานนี้ ข้านี่เป็นห่วงแทบแย่เชียว เลยตามหมอหลวงมาดูอาการหมอจัดโอสถบำรุงมาให้เยอะทีเดียว แหม อีกไม่นาน ข้าคงได้อุ้มพระโอรสน้อยๆของนางกับองค์ชายเสียแล้วกระมัง" นางเอ่ยเยาะ แจจุงใบหน้าแดง นางเขินกับสิ่งที่ฮองเฮาพูดไป สนมจองจ้องแจจุงเขม็งด้วยสายตาริษยาแวบหนึ่ง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสายตาเช่นเดิม
    "แหม ถ้างั้นคงน่ายินดีทีเดียวเพคะ ถ้าทรงมีพระสูติกาลเมื่อไหร ก็ขอให้ทรงบอกหม่อมฉัน หม่อมฉันจะได้ตัดเย็บชุดให้พระโอรสของพระองค์ นี่ก็สายแล้ว หม่อมฉันทูลลา" สนมจองโค้งเล็กน้อยก่อนจะหันเดินกลับทางกลับตำหนัก
    "ฮองเฮาทรงพูดแบบนั้นมันจะดู...ไม่ค่อยดีนะเพคะ เดี๋ยวนางจะน้อยใจเอาได้" แจจุงเอ่ยขึ้น ฮองเฮาส่ายหน้าเชิงว่าอย่าสนใจ แจจุงมองไล่หลังตามนาง ก่อนจะเดินไปพร้อมกับฮองเฮาเพื่อเฝ้าฮ่องเต้

    สนมจองเดินมาเรื่อยๆ ก่อนจะหยุดตรงทางเดินและหันมองแจจุงกับฮองเฮาที่กำลังจะเดินไปด้วยสายตาริษยาเหมือนเมื่อกี้
    "นางจะมีโอรสให้ฮองเฮาก่อนข้าไม่ได้ ไม่มีวัน.. ผู้ให้กำเหนิดโอรสขององค์ชาย จะต้องเป็นข้า..ข้าเท่้านั้น"
    ไม่มีใครรู้ว่านางจะทำอะไร แต่ว่าคงไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก..

    หลังจากทีเข้าเฝ้าเสร็จ แจจุงก็ขอตัวจากฮองเฮาเพื่อไปหายุนโฮ แต่พอไปที่ตำหนักก็ไ่ม่เจอซะนี่
    "ไปไหนกันนะ.." แจจุงมองหาแต่ก็ไม่พบ นางกำนัลคนหนึั่งเดินเข้ามาและบอกว่า องค์ชายออกไปเยี่ยมยูชอนที่จวนอ๋องแปดและจะกลับมาในอีกไม่ช้านี้
    แจจุงพยักหน้ารับ  ก่อนจะโบกมือไล่นางออกไปเล็กน้อย แจจุงนั่งรออยู่ในตำหนักก็ไม่รู้จะทำอะไร จึงสั่งให้นางกำนัลไปเอาพิณมาให้นาง
    แจจุงเริ่มบรรเลงเพลงนี่นางชอบเล่น มันเป็นเพลงที่เศร้ามากทีเดียว ขณะที่เล่นอยู่แจจุงก็นึกถึงตอนที่ตนอยู่กับยุนโฮ เมื่อนึกถึงก็หน้าแดงขึ้นมาซะดื้อๆ นางกำนัลที่อยู่ด้านนอกฟังเพลงที่แจจุงเล่นอย่างเพลิดเพลิน พลางชมในใจว่าพระชายาทรงเล่นดนตรีได้เพราะยิ่งนัก


    ด้านนอก ยุนโฮได้กลับมาถึงวังแล้ว เขากำลังจะเดินผ่านตำหนักของแจจุงไปเพื่อเฝ้าฮ่องเต้แต่ก็ชะงัก เสียงพิณดังออกมาเบาๆจากในตำหนัก ยุนโฮหยุดยืนฟังอยู่สักพัก ก่อนจะเดินเข้าไปในตำหนักแทนที่จะไปเฝ้าฮ่องเต้. ยุนโฮแอบเข้าไปข้างในอย่างเงียบๆ เมื่อเข้ามาแล้ว ยุนโฮก็เดินเข้าไปในห้องด้านใน ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับห้องบรรทม แจจุงนั่งดีดพิณอยู่ตรงนั้น เขายืนมองโดยไม่พูดอะไร จนแจจุงเล่นพิณจบ เขาจึงเอ่ยขึ้นมา
    "พระชายาของข้า ช่างเล่นพิณได้เพราะเกินใครในต้หล้าจริงๆ"แจจุงเงยหน้ามอง นางตกใจทีเดียว ก่อนจะเดินมาหาและถอนสายบัว
    "ไม่ต้องหรอก" ยุนโฮยื่นมือทั้งสองจับนางไว้ แจจุงมองเขา และยืนตรง
    "พระองค์เสด็จกลับมาถึงนานแล้วหรือเพคะ"
    "ข้าพึ่งเข้ามาเมื่อครู่ ทันเจ้าเล่นจบพอดีเลย"
    "พระองค์หน้าจะทรงบอกกันบ้างนะเพคะ หม่อมฉันตกใจเป็นลมไปขึ้นมาจะทำอย่างไร" แจจุงเอ่ยดุ ยุนโฮเอื้อมมือโอบไหล่นางไว้ก่อนจะใช้มือข้างขวาจับมือนางมากุมไว้
    "พระชายาผู้บอบบางดังดอกไม้ของข้า เจ้าอย่าได้ดุข้าเลยนะ ไว้คราวหลังข้าจะไม่ทำแบบนี้อีก" เขาเอ่ยยิ้ม แจจุงยิ้มรับเช่นกัน
    "เพคะพระองค์ แล้ว..ทรงไปเยี่ยมพระสหายมาเป็นอย่างไรบ้าง เขาสบายดีใช่มั้ยเพคะ" แจจุงเอ่ยถาม ยุนโฮพยักหน้าตอบ เขาเล่าเรื่องของยูชอนที่เขาไปหามาเมื่อเช้านี้ให้แจจุงฟัง ยุนโฮเล่าว่า ยูชอนกับจุนซูกำลังจะอภิเษกกัน แจจุงฟังดังนั้น นางจึงคิดว่าจะให้อะไรเป็นของขวัญแต่งงานกับทั้งสองดี ยุนโฮฟังในสิ่งที่แจจุงคิดและบอกกับเขามาอย่างยิ้มแย้ม แจจุงตื่นเต้นมากทีเดียว ถึงแม้จะไม่เคยคุยกันก็ตาม
    "แจจุง เจ้าเลิกคิดเถอะ คิดไปคิดมาเจ้าจะให้ของทุกอย่างที่เจ้าคิดกับยูชอนแล้วนะ"ยุนโฮเอ่ยเตือน แจจุงก็ยิ้มอย่างรู้สึกอาย ก่อนจะพูดเหตุผลขึ้นมาอีก
    "พวกเขากำลังจะใช้ชีวิตร่วมกัน หม่อมฉันก็อยากให้ของดีๆเพื่อยินดีกับพวกเขาทั้งสองไงหล่ะเพคะ" ยุนโฮหน้ามุ่ย ก่อนจะดึงมือแจจุงมาหอม
    "แล้วทำไมไม่ให้กับข้าบ้างหล่ะแจจุง~" เขาเอ่ยอย่างน้อยใจ แจจุงหลบตาก่อนจะตอบแบบติดๆขัดๆ
    "พระองค์..มีของตั้งมากมาย..หม่อมฉันจะให้อะไรได้หล่ะเพคะ" ยุนโฮยิ้ม ก่อนจะก้มลงกระซิบที่หูแจจุง
    "พระโอรสยังไงหล่ะ." แจจุงหน้าแดงทันที ก่อนจะมองหน้ายุนโฮอย่างอายจัดมาก
    "ไปกันเถอะ~" ยุนโฮพูดก่อนจะดึงแจจุงให้เดินตาม
    "ไปไหนเพคะ ?" แจจุงเอ่ยถาม ยุนโฮยิ้มกว้าง ก่อนจะช้อนตัวแจจุงอุ้มขึ้นเหมือนเคย 
    "ไปทำให้พระโอรสมาอยู่กับเจ้าและข้าอย่างไรเล่าแจจุง 55555555555."
    "พระองค์ปล่อยหม่อมฉันเดี๋ยวนี้นะเพคะ" แจจุงเอ่ยอย่างขัดขืนใบหน้าของนางตอนนี้ร้อนไปทั้งหน้าแล้วกระมัง
    "ไม่ปล่อย"
    "ปล่อยหม่อมฉัน"
    "ไม่"
    "พระองค์!"
    ยุนโฮยิ้มกว้าง ก่อนจะพาแจจุงเข้าไปในห้องบรรทมและวางนางนอนลงกับเตียง แจจุงทำท่าจะลุกหนี แต่ยุนโฮไวกว่าเขาจับแจจุงนอนลงอีกครั้งพร้อมกับขึ้นคร่อมกันไว้
    ยุนโฮมองไปที่แจจุง ทั้งสองมองกันอยู่นาน ยุนโฮใช้มือข้างนึง ค่อยๆเกี่ยวผ้ารัดเอวของแจจุงออก จนผ้าหลุดลุ่ยออกจากกัน 
    "เป็นของข้านะ แจจุง"


    ...เห็นทีวันนี้ แจจุงคงขาดใจเป็นแน่ แต่ความสุขนี้ ช่างดีเหลือเกิน แจจุงคิด ยุนโฮก็คิดคล้ายกับนาง ทั้งสองอยู่ด้วยกันต้องแต่ เที่ยงจนบ่าย
    "ฮ่ะ..ยุนโฮ.ท่านจะไม่ให้..อ้ะ ข้าพักหายใจบ้างหรือ" แจจุงเอ่ยถาม ยุนโฮก็หาได้สนใจ ก็จัดเต็มไปให้หายคิดถึง แจจุงแทบจะขาดใจตรงนั้น มือกำหมอนไว้แน่น จากที่เคยเจ็บก็เปลี่ยนเป็นเสียวซ่านแทน ยุนโฮเองก็เหมือนไม่เคยพอจริงๆ (กอบโกยได้กอบโกยดีเลยนะ -_-)
    "..ข้ารักเจ้า แจจุง"



    [ยุนโฮ]
    ....ความสุขนี้ ถ้ายืนยาว เขาก็ยอมแลก แม้กระทั่ง...ชีวิต 
























     "ฮองเฮา ข้าว่าวันนี้ข้าอยากจะร่วมโต๊ะอาหารกับเจ้า ไม่ได้ทำแบบนั้นมานานมากแล้ว" ฮ่องเต้เอ่ยขึ้น ฮองเฮายิ้มรับ วันๆฮ่องเต้เอาแต่ว่าราชการ ไม่ได้พักผ่อนเลย นางเกรงว่าสุขภาพของพระองค์จะเสื่อมถอยลง
    บ่ายสามกว่า ฮ่องเต้โปรดให้จัดโต๊ะอาหารในห้องทรงงาน ทรงร่วมเสวยคู่กับฮองเฮา อาหารมื้อนี้ดูอร่อยขึ้นทันตาทีเดียว
    นางกำนัลคนสนิทของฮองเฮา เข้ามากระซิบบอกรายงานข่าวที่ได้มาให้นางรู้ ก่อนจะถอยกลับไปยืนที่เดิม
    "ฮ่องเต้ ทรงลองเสวยรังนกนี่สิเพคะ หม่อมฉันได้ยินมาว่ามันช่วยบำรุงได้ดีทีเดียว" ฮองเฮาตักรังนกใส่ชามให้ฮ่องเต้ พระองค์ทรงยิ้มให้ ก่อนจะตักมันเข้าปาก
    "อืม อร่อยดีนะ ข้าไม่ค่อยดูแลตัวเอง ทำให้ฮองเฮาต้องเป็นห่วงอยู่เรื่อย" พระองค์เอ่ย ฮองเฮายิ้มให้เชิงว่า เข้าใจดี
    "อืม แล้วพระชายากับยุนโฮเป็นอย่างไรบ้างหล่ะ" ฮ่องเต้เอ่ยถามขณะัตักอาหารกิน
    "ทั้งสองคนรักกันและเข้ากันได้ดีเพคะ ช่วงนี้ก็อยู่ด้วยกันบ่อย ไม่ค่อยได้มาเฝ้าพระองค์พร้อมกันสินะเพคะ" ฮองเฮาพูด ฮ่องเต้คิดว่า สักวันจะให้ยุนโฮขึ้นครองราชย์ต่อจากเขา ถ้ายุนโฮมีโอรสได้คงจะช่วยได้มากทีเดียว
    "อืม ช่างเถอะ พวกเขาอยู่ได้ด้วยกัน เราก็เริ่มแก่กันแล้ว หวังว่าคงจะได้หลานชายมาให้ข้าอุ้มก็เท่านั้น"
    "เพคะฝ่าบาท : )"

    ....คืนวันอันสุขสม อยู่เพียงครู่และจากไป ..หาใช่สิ่งที่ยืนยาว มีสุขมีทุกข์ปนกัน ร่วมแรงร่วมใจ ผ่านไปได้อย่างงดงาม..

    ถ้ายุนโฮกับแจจุงร่วมใจกัน อนาคตบ้านเมืองคงสงบสุขไร้ทุกข์ภัย ดั่งตัวฮ่องเต้ที่ฮองเฮาเคียงคู่เชิดชูบารมี



    ทางด้านตำหนักสนมจอง นางเอาแต่ปักผ้า และปักผ้า แต่ผืนนี้นางเอาแต่จิ้มเข้มลงไปไม่ได้ดูลวดลายของมัน ก่อนจะขว้างทิ้งอย่างโมโห
    "ข้าจะแพ้ไม่ได้ ไม่ได้ โอรสจะต้องเกิดกับข้า! ต้องไม่ใช่นาง!"





    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -  - - - - - - - -


    มาฉบับเต็มแล้วนะครับ ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์
    อ่านแ้ล้วไม่เม้นท์ผมเสียใจนะ ' '



     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×