ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทสาม: ท่านรักข้ารึไม่
ร่วมเรือนหอรอรักอันเลือนลาง
ยากสะสางเรื่องแท้จริงเรือนร่างน้อย
รอรักแท้ที่เจ้านั้นฝันเฝ้าคอย
หาใช่รอยความรักที่จะได้มา
บทสาม: ท่านรักข้ารึไม่
ยามเช้าของวันต่อมา ยุนโฮเตรียมตัวแต่งฉลองพระองค์ด้วยผ้าไหมสีแดงเลือด เขาค่อนข้างกังวลมากทีเดียว ฮองเฮาเองก็เช่นกัน
..หากรักนี้ แค่ครอบครอง แจจุงนางน้อยเสนาบดีจักเป็นเยี่ยงไรหนอ ฮองเฮาทรงคิด แต่ก็จะคิดไปก่อนไม่ได้ อนาคตไปสิ่งไม่แน่นอน
ยุนโฮอาจจะรักนางจริงๆ แต่ถ้าไม่..นางคงแหละสลายเป็นแน่
ณ จวนเสนาบดีคิม ขบวนสู่ขอมาถึงที่หน้าจวน เสนาบดีคิมฮยอนจุง ออกมาต้อนรับ ยุนโฮลงจากม้าและเดินมายื่นมือใ้ห้ฮองเฮาที่ออกขากเกี้ยวเช่นกัน
"ขอถวายพระพรฮองเฮาและองค์ชายน้อยพะย่ะค่ะ" ฮยอนจุงเอ่ยอย่างนอบน้อม ใบหน้าของเขายิ้มน้อยๆ ฮองเฮาหันไปหายุนโฮ และทั้งสามก็เดินเข้าไปในจวนพร้อมกัน
ฮองเฮา กับ ฮยอนจุง นั่งหารือกันเรื่องการแต่งงาน ซึ่งยุนโฮถูกสั่งให้ไปรอในอุทยาน ทำให้เขาไม่รู้ว่าทั้งสองคุยอะไรกัน
"ท่านเสนาบิดี ลูกข้านั้น เขาต้องการจะสู่ขอลูกสาวคนโตของท่าน เืพื่อไปเป็นพระชายาของเขาต่อไป" ฮองเฮาพูดไม่อ้อมค้อม ฮยอนจุงสีหน้านิ่ง เขารู้ดีว่าบุตรเขาเป็นอย่างไร นางไ่ม่เหมือนคนอื่น ฮองเฮาก็ทราบเช่นกัน
"ถ้าจะค์ทรงกรุณาลูกสาวของกระหม่อม ก็มิขัดแต่อย่างใดพะย่ะค่ะ แต่ว่า.."
"ข้ารู้ดี เรื่องนี้มีข้ากับตระกูลของเราที่รู้ ท่านอย่าได้กังวลไปเลย มันกำหนดไว้แล้ว" ฮองเฮาพูดหนักแน่น ตระกูลของนางสืบทอดมาหลายร้อยปี ตำนานเล่าขานไว้ว่า จะมีลูกหลานตระกูลคิม ต้องคำสาปสวรรค์ ว่ากันว่านางเป็นนางฟ้าใบหน้างดงาม แต่ถูกใ่ส่ร้ายทำให้ต้องคำสาป คำทำนายนี้ถูกทำนายไว้นานแล้ว ซึ่งเราก็รอคอยการมาเกิดของนางมาช้านาน
"พะย่ะค่ะ หม่อมฉันทราบแล้ว" ฮยอนจุงเอ่ย
ฮองเฮาจิบชารสเลิศ ก่อนจะนึกถึงใบหน้าของแจจุง ...นางจะงามสักแค่ไหนกันนะ
ยุนโฮเดินเข้าไปในอุทยาน เขาคิดถึงใบหน้าของแจจุงตลอดเวลา นางจะยอมรับเขารึไม่ ไม่มีใครรู้ แต่ถึงไม่รับก็ต้องยอมเพราะเขาบังคับ
(นิสัยไม่ดี -_-)
"ยุนโฮ" ฮองเฮาเอ่ยเรียก ยุนโฮถึงกับสะดุ้งเพราะฮองเฮาเข้ามาโดนไม่บอกไม่กล่าว นางบอกกับเขาว่า ได้เวลากลับวังแล้ว
ฮยอนจุงเดินมาส่งทั้งสองพระองค์ที่หน้าประตูจวน ก่อนจะคำนับและบอกลาทั้งสอง เมื่อทั้งสองเดินทางออกไปพ้นสายตาแล้ว
แจจุงก็เดินออกมาและยืนรอบิดาตนข้างๆประตู ฮยอนจุงปิดประตูจวน และมายืนข้างๆลูกสาวของตน
นางบอบบางเหมือนดอกไม้ เขากลัวเหลือเกินว่านางจะแตกหักสลายไป แจจุงมองบิดาของตน นางรู้สึกท้อใจเหลือเิกิน เขาเป็นคนอย่างไรนางก็ไม่รู้ ฮยอนจุงลูบผมปลอบโยนนาง และทั้งสองก็เข้าจวนไป เพื่อเตรียมการ....สำหรับการแต่งงานในอีกสองวัน
สองวันมานี้ ยุนโฮลงมือเตรียมสั่งการจัดงานด้วยตนเอง ยูชอนกับจุนซูก็มาช่วยด้วยเช่นกัน ฮองเฮาทรงส่งชุดเจ้าสาวไปให้ที่จวนเสนาบดีคิม เป็นชุดและเครื่องประดับที่งดงามมากทีเดียว ยุนโฮตระเตรียมงานข้ามวันข้ามคืน จุนซูที่มาช่วยก็ตกใจกับความตั้งใจเกินตนของยุนโฮที่เคยเป็น แถมยังบ่นอยากเห็นเจ้าสาวเร็วๆเสียด้วย
ผ่านไปวันหนึ่งแล้ว ที่จวนเสนาบดีก็ไม่มีอะไรตื่นเต้น นอกจากเตรียมขัดตัวและดูแลเจ้าสาวเท่านั้น
คืนก่อนวันแต่งงาน แจจุงตอนนี้เป็นชาย เขานอนแทบไม่หลับ เขาคิดว่า องค์ชายจะแต่งงายกับผู้ชายด้วยกันหรือ
เขาจะยอมรับในตัวแจจุงรึไม่ ทั้งๆที่เขาเป็นแบบนี้
"....ข้าอยากจะรู้จริงๆ ถ้า่่ท่านรู้ว่าข้าเป็นแบบนี้ ท่านจะยังแต่งงานกับข้าอยู่มั้ย."
วันรุ่งขึ้น ยุนโฮก็ยังไม่ตื่นสักที เขา่ค่อนข้างเหนื่อยกับการเตรียมงานเมื่อวาน เป็นเพราะใจร้อนอยากแต่งเร็วๆเลยต้องเหนื่อยแบบนี้
(โทษใครไม่ได้ต้องโทษตัวเอง - -) ยูชอนโวยวายเสียงดังตั้งแต่้เช้ามืด เอาแต่บ่นๆ 'พระอาทิตย์จะเผาก้นเจ้าอยู่แล้ว ยังไม่ตื่นอีกเรอะ!!'
ยุนโฮตื่นมาเพราะคำบ่นมากมายนั่น ยูชอนสั่งนางกำนัลให้เเต่งตัวเขาเร็วๆ เพราะต้องไปรับเจ้าสาวที่จวนและกว่าพิธีจะเสร็จ นาน - -
ยุนโฮวิ่งไปที่ลานพิธี ก่อนจะโดดขึ้นมาและควบมันไป โดยไม่รอขบวนที่ต้องตามไปด้วยเลย เมื่อถึงจวนยุนโฮก็เข้าไปนั่งรอแจจุงข้างในห้องรับรอง ผ่านไปสักพักขบวนก็มาพร้อมถึงพอดี
"มาแล้วเพคะ" สาวใช้คนนึงเข้ามาในห้อง ยุนโฮมองไปที่ประตู แจจุงเดินมาด้วยชุดเจ้าสาวสีแดง สวมเครื่องประดับผมสวยงาม ผิวของนางขาวมาก ตัดกับปากทีทาด้วยชาตสีแดง
ใบหน้าของแจจุง ไม่แสดงสีหน้าอะไรทั้งสิ้น ยุนโฮยิ้มไม่หยุดก่อนจะลุกขึ้นและเดินไปหานาง
"ไปกันเถอะ" แจจุงพยักหน้าเบาๆ ถ้าแรงกว่านี้ผมและเครื่องประดับพวกนี้อาจจะร่วงลงมา เพราะมันหนักมาก
ยุนโฮและแจจุงเดินไปหน้าจวน แจจุงหันกลับมาที่จวนและโค้งคำนับก่อนจะขึ้นเกี้ยวพร้อมกับยุนโฮที่ขึ้นม้าเพื่อมุ่งหน้าสู่วังหลวง..
พิธีผ่านไปด้วยดี และเสร็จสิ้นก็เย็นแล้ว ในวังจัดงานเลี้ยงทั้งคืืน แจจุงออกไปไหนไม่ได้ เขาต้องอยู่แต่ในตำหนักเท่านั้น
ตอนนี้เขายังเป็นสตรีสินะ แจจุงเงยหน้ามองฟ้ายกมือขึ้นเหมือนจะหยิบดวงจันทร์ไว้ในมือ พอฟ้ามืดลงมือนั้นก็เปลี่ยนไป
...บุรุษเพศ แล้วงั้นเหรอ
เขามองร่างกายตัวเองยามบุรุษที่ใส่ชุดของสตรี นึกขำตัวเองเหมือนกัน คืนเข้าหอจะผ่านไปอย่างไรหนอ ถ้าข้าเป็นบุรุษเช่นนี้
แจจุงเข้าไปในตำหนัก นึกดีใจเหมือนกันที่ไม่มีนางกำนัลอยู่ แจจุงเปลี่ยนชุดตัวเองเป็นชุดที่พวกคุณชายใส่กัน ผ้าสีม่วงเข้มตัดกับหน้าขาวๆของเขาได้ดีทีเดียว เขาจัดการเอาเครื่องประดับออก ลบหน้าลบตาที่แต่งแต้มออก ก่อนจะเปิดประตูแง้มออกไป เพื่อดูว่าไม่มีใครอยู่แถวนี้ แจจุงปิดประตู และวิ่งออกจากตำหนักไป จุดหมายของเขาคือ
...ตำหนักฮองเฮา
เมื่อมาถึงแจจุงก็ต้องแอบหลังกำแพงอีก หน้าตำหนักมีทหารเฝ้าอยู่ นางกำนัลยืนหน้าประตู ถ้าจะเข้าไปแล้วบอกว่าแจจุงมาเฝ้าคงไม่งามแน่ ....แจจุงคิดอยู่สักพักก็คิดออก เขาจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนจะเดินไปหน้าตำหนักและองค์รักษ์ก็ห้ามไว้
"ท่านเป็นใคร มีธุระอะไรกับฮองเฮา" แจจุงยิ้มให้เขา ก่อนจะพูดประโยคที่คิดไว้นานมาก
"ข้าเป็นพระสหายขององค์ชายยุนโฮ ข้าอยากจะขอเข้าเฝ้า เพื่อปรึกษาเรื่องขององค์ชาย" แจจุงพูด
"ท่านมีนามว่าอะไร"
" คิมชินฮยอง" ทหารฟังดังนั้นวิ่งไปบอกนางกำนัลหน้าตำหนักและนางก็เข้าไปแจ้งกับฮองเฮา
สักพักนางกำนัลก็ออกมา พร้อมกับเชิญให้แจจุงเข้าไปข้างใน เมื่อเข้ามาในตำหนัก แจจุงก็มองหาฮองเฮาทันที
"พวกเจ้าออกไปก่อน" ฮองเฮาเอ่ยไล่ นางกำนัลทั้งหมดออกไปจากตำหนักและออกจากเขตที่จะได้ยินทันที
"ข้ารู้ว่าเจ้าคือแจจุง เจ้าต้องการให้ข้าช่วยอะไรรึ" ฮองเฮาิยิ้มให้เขา แจจุงเข้าไปกอดนางไว้ และบอกจุดประสงค์ของตน
"หม่อมฉัน..หม่อมฉันขอพักกับพระองค์ได้รึไม่พะย่ะค่ะ"
"แต่เจ้าต้องเข้าหอมิใช่หรือ"
"แต่ว่าข้าเป็นอย่างนี้ ข้าจะเข้าหอกับองค์ชายได้อย่างไร" แจจุงสะอื้น น้ำตาไหลพราก เขานึกสมเพชตัวเองที่เกิดเป็นแบบนี้ ใครที่ไหนอยากจะเข้าหอกับผู้ชายด้วยกัน มีใครบ้างที่จะไม่รังเกียจเขา
"แจจุง.." ฮองเฮาไม่รู้จะปรอบอย่างไร นางลูบผมของเขาเบาๆเป็นการปลอบโยน ความทุกข์นี้นางเข้าใจ ถ้าเป็นนาง นางคงทนไม่ได้เช่นกัน
"แต่ยุนโฮของต้องการเจ้านะแจจุง..เจ้าน่าจะพูดกับเขา" ฮองเฮาผละกอดจากแจจุง นางมองดูใบหน้ายามทุกข์ของเขาอย่างสงสาร
"เขาคงไม่เชื่อข้า ..เป็นใครใครจะเชื่อ ถ้าเป็นท่าน ท่านก็ไม่เชื่อ ชีวิตนี้จะมีใครรักข้าจริง มีแต่คนอยากจะครอบครองร่างกายยามสตรีของข้า พวกเขาหาได้รักข้า อย่างที่ท่านพ่อหรือคนในตระกูลรักข้า! องค์ชายก็เช่นกัน ไม่มีใครรักข้าด้วยใจจริงหรอกพะย่ะค่ะ"
ฮองเฮาไม่รู้จะพูดโต้ตอบยังไง สิ่งที่เขาพูดเป็นความจริงทุกอย่าง จู่ๆเสียงนางกำนัลก็ดังขึ้น
"ฮองเฮา องค์ชายตามหาพระชายาแต่หาไม่เจอเพคะ" ฮองเฮามองหน้าแจจุงอีกครั้ง เขาส่ายหัวเป็นเชิงว่าไม่กลับ
"บอกเขา ว่านางอยู่กับข้า ให้เขาพักผ่อนก่อน นางยังปรับตัวไม่ได้คงต้องอยู่กับข้าสักพัก"
"เพคะ"
"เจ้าเลือกทางนี้แล้ว ถึงไม่ได้เลือกแต่ก็ถูกกำหนดแล้วนะ..แจจุง"
......... ไม่ได้เลือกแต่ถูกกำหนด ..........
... ไม่ได้อยากเกิดมาเป็นแบบนี้ ทำไมถึงกำหนดแบบนี้ ....
สวรรค์ที่ใครๆต่างเคารพ ทำไมถึงทำร้ายข้าหละ่............
สิ่งที่ท่านกำหนด มันถูกแล้วหรือ....
ยามเช้าของวันต่อมา ยุนโฮเตรียมตัวแต่งฉลองพระองค์ด้วยผ้าไหมสีแดงเลือด เขาค่อนข้างกังวลมากทีเดียว ฮองเฮาเองก็เช่นกัน
..หากรักนี้ แค่ครอบครอง แจจุงนางน้อยเสนาบดีจักเป็นเยี่ยงไรหนอ ฮองเฮาทรงคิด แต่ก็จะคิดไปก่อนไม่ได้ อนาคตไปสิ่งไม่แน่นอน
ยุนโฮอาจจะรักนางจริงๆ แต่ถ้าไม่..นางคงแหละสลายเป็นแน่
ณ จวนเสนาบดีคิม ขบวนสู่ขอมาถึงที่หน้าจวน เสนาบดีคิมฮยอนจุง ออกมาต้อนรับ ยุนโฮลงจากม้าและเดินมายื่นมือใ้ห้ฮองเฮาที่ออกขากเกี้ยวเช่นกัน
"ขอถวายพระพรฮองเฮาและองค์ชายน้อยพะย่ะค่ะ" ฮยอนจุงเอ่ยอย่างนอบน้อม ใบหน้าของเขายิ้มน้อยๆ ฮองเฮาหันไปหายุนโฮ และทั้งสามก็เดินเข้าไปในจวนพร้อมกัน
ฮองเฮา กับ ฮยอนจุง นั่งหารือกันเรื่องการแต่งงาน ซึ่งยุนโฮถูกสั่งให้ไปรอในอุทยาน ทำให้เขาไม่รู้ว่าทั้งสองคุยอะไรกัน
"ท่านเสนาบิดี ลูกข้านั้น เขาต้องการจะสู่ขอลูกสาวคนโตของท่าน เืพื่อไปเป็นพระชายาของเขาต่อไป" ฮองเฮาพูดไม่อ้อมค้อม ฮยอนจุงสีหน้านิ่ง เขารู้ดีว่าบุตรเขาเป็นอย่างไร นางไ่ม่เหมือนคนอื่น ฮองเฮาก็ทราบเช่นกัน
"ถ้าจะค์ทรงกรุณาลูกสาวของกระหม่อม ก็มิขัดแต่อย่างใดพะย่ะค่ะ แต่ว่า.."
"ข้ารู้ดี เรื่องนี้มีข้ากับตระกูลของเราที่รู้ ท่านอย่าได้กังวลไปเลย มันกำหนดไว้แล้ว" ฮองเฮาพูดหนักแน่น ตระกูลของนางสืบทอดมาหลายร้อยปี ตำนานเล่าขานไว้ว่า จะมีลูกหลานตระกูลคิม ต้องคำสาปสวรรค์ ว่ากันว่านางเป็นนางฟ้าใบหน้างดงาม แต่ถูกใ่ส่ร้ายทำให้ต้องคำสาป คำทำนายนี้ถูกทำนายไว้นานแล้ว ซึ่งเราก็รอคอยการมาเกิดของนางมาช้านาน
"พะย่ะค่ะ หม่อมฉันทราบแล้ว" ฮยอนจุงเอ่ย
ฮองเฮาจิบชารสเลิศ ก่อนจะนึกถึงใบหน้าของแจจุง ...นางจะงามสักแค่ไหนกันนะ
ยุนโฮเดินเข้าไปในอุทยาน เขาคิดถึงใบหน้าของแจจุงตลอดเวลา นางจะยอมรับเขารึไม่ ไม่มีใครรู้ แต่ถึงไม่รับก็ต้องยอมเพราะเขาบังคับ
(นิสัยไม่ดี -_-)
"ยุนโฮ" ฮองเฮาเอ่ยเรียก ยุนโฮถึงกับสะดุ้งเพราะฮองเฮาเข้ามาโดนไม่บอกไม่กล่าว นางบอกกับเขาว่า ได้เวลากลับวังแล้ว
ฮยอนจุงเดินมาส่งทั้งสองพระองค์ที่หน้าประตูจวน ก่อนจะคำนับและบอกลาทั้งสอง เมื่อทั้งสองเดินทางออกไปพ้นสายตาแล้ว
แจจุงก็เดินออกมาและยืนรอบิดาตนข้างๆประตู ฮยอนจุงปิดประตูจวน และมายืนข้างๆลูกสาวของตน
นางบอบบางเหมือนดอกไม้ เขากลัวเหลือเกินว่านางจะแตกหักสลายไป แจจุงมองบิดาของตน นางรู้สึกท้อใจเหลือเิกิน เขาเป็นคนอย่างไรนางก็ไม่รู้ ฮยอนจุงลูบผมปลอบโยนนาง และทั้งสองก็เข้าจวนไป เพื่อเตรียมการ....สำหรับการแต่งงานในอีกสองวัน
สองวันมานี้ ยุนโฮลงมือเตรียมสั่งการจัดงานด้วยตนเอง ยูชอนกับจุนซูก็มาช่วยด้วยเช่นกัน ฮองเฮาทรงส่งชุดเจ้าสาวไปให้ที่จวนเสนาบดีคิม เป็นชุดและเครื่องประดับที่งดงามมากทีเดียว ยุนโฮตระเตรียมงานข้ามวันข้ามคืน จุนซูที่มาช่วยก็ตกใจกับความตั้งใจเกินตนของยุนโฮที่เคยเป็น แถมยังบ่นอยากเห็นเจ้าสาวเร็วๆเสียด้วย
ผ่านไปวันหนึ่งแล้ว ที่จวนเสนาบดีก็ไม่มีอะไรตื่นเต้น นอกจากเตรียมขัดตัวและดูแลเจ้าสาวเท่านั้น
คืนก่อนวันแต่งงาน แจจุงตอนนี้เป็นชาย เขานอนแทบไม่หลับ เขาคิดว่า องค์ชายจะแต่งงายกับผู้ชายด้วยกันหรือ
เขาจะยอมรับในตัวแจจุงรึไม่ ทั้งๆที่เขาเป็นแบบนี้
"....ข้าอยากจะรู้จริงๆ ถ้า่่ท่านรู้ว่าข้าเป็นแบบนี้ ท่านจะยังแต่งงานกับข้าอยู่มั้ย."
วันรุ่งขึ้น ยุนโฮก็ยังไม่ตื่นสักที เขา่ค่อนข้างเหนื่อยกับการเตรียมงานเมื่อวาน เป็นเพราะใจร้อนอยากแต่งเร็วๆเลยต้องเหนื่อยแบบนี้
(โทษใครไม่ได้ต้องโทษตัวเอง - -) ยูชอนโวยวายเสียงดังตั้งแต่้เช้ามืด เอาแต่บ่นๆ 'พระอาทิตย์จะเผาก้นเจ้าอยู่แล้ว ยังไม่ตื่นอีกเรอะ!!'
ยุนโฮตื่นมาเพราะคำบ่นมากมายนั่น ยูชอนสั่งนางกำนัลให้เเต่งตัวเขาเร็วๆ เพราะต้องไปรับเจ้าสาวที่จวนและกว่าพิธีจะเสร็จ นาน - -
ยุนโฮวิ่งไปที่ลานพิธี ก่อนจะโดดขึ้นมาและควบมันไป โดยไม่รอขบวนที่ต้องตามไปด้วยเลย เมื่อถึงจวนยุนโฮก็เข้าไปนั่งรอแจจุงข้างในห้องรับรอง ผ่านไปสักพักขบวนก็มาพร้อมถึงพอดี
"มาแล้วเพคะ" สาวใช้คนนึงเข้ามาในห้อง ยุนโฮมองไปที่ประตู แจจุงเดินมาด้วยชุดเจ้าสาวสีแดง สวมเครื่องประดับผมสวยงาม ผิวของนางขาวมาก ตัดกับปากทีทาด้วยชาตสีแดง
ใบหน้าของแจจุง ไม่แสดงสีหน้าอะไรทั้งสิ้น ยุนโฮยิ้มไม่หยุดก่อนจะลุกขึ้นและเดินไปหานาง
"ไปกันเถอะ" แจจุงพยักหน้าเบาๆ ถ้าแรงกว่านี้ผมและเครื่องประดับพวกนี้อาจจะร่วงลงมา เพราะมันหนักมาก
ยุนโฮและแจจุงเดินไปหน้าจวน แจจุงหันกลับมาที่จวนและโค้งคำนับก่อนจะขึ้นเกี้ยวพร้อมกับยุนโฮที่ขึ้นม้าเพื่อมุ่งหน้าสู่วังหลวง..
พิธีผ่านไปด้วยดี และเสร็จสิ้นก็เย็นแล้ว ในวังจัดงานเลี้ยงทั้งคืืน แจจุงออกไปไหนไม่ได้ เขาต้องอยู่แต่ในตำหนักเท่านั้น
ตอนนี้เขายังเป็นสตรีสินะ แจจุงเงยหน้ามองฟ้ายกมือขึ้นเหมือนจะหยิบดวงจันทร์ไว้ในมือ พอฟ้ามืดลงมือนั้นก็เปลี่ยนไป
...บุรุษเพศ แล้วงั้นเหรอ
เขามองร่างกายตัวเองยามบุรุษที่ใส่ชุดของสตรี นึกขำตัวเองเหมือนกัน คืนเข้าหอจะผ่านไปอย่างไรหนอ ถ้าข้าเป็นบุรุษเช่นนี้
แจจุงเข้าไปในตำหนัก นึกดีใจเหมือนกันที่ไม่มีนางกำนัลอยู่ แจจุงเปลี่ยนชุดตัวเองเป็นชุดที่พวกคุณชายใส่กัน ผ้าสีม่วงเข้มตัดกับหน้าขาวๆของเขาได้ดีทีเดียว เขาจัดการเอาเครื่องประดับออก ลบหน้าลบตาที่แต่งแต้มออก ก่อนจะเปิดประตูแง้มออกไป เพื่อดูว่าไม่มีใครอยู่แถวนี้ แจจุงปิดประตู และวิ่งออกจากตำหนักไป จุดหมายของเขาคือ
...ตำหนักฮองเฮา
เมื่อมาถึงแจจุงก็ต้องแอบหลังกำแพงอีก หน้าตำหนักมีทหารเฝ้าอยู่ นางกำนัลยืนหน้าประตู ถ้าจะเข้าไปแล้วบอกว่าแจจุงมาเฝ้าคงไม่งามแน่ ....แจจุงคิดอยู่สักพักก็คิดออก เขาจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนจะเดินไปหน้าตำหนักและองค์รักษ์ก็ห้ามไว้
"ท่านเป็นใคร มีธุระอะไรกับฮองเฮา" แจจุงยิ้มให้เขา ก่อนจะพูดประโยคที่คิดไว้นานมาก
"ข้าเป็นพระสหายขององค์ชายยุนโฮ ข้าอยากจะขอเข้าเฝ้า เพื่อปรึกษาเรื่องขององค์ชาย" แจจุงพูด
"ท่านมีนามว่าอะไร"
" คิมชินฮยอง" ทหารฟังดังนั้นวิ่งไปบอกนางกำนัลหน้าตำหนักและนางก็เข้าไปแจ้งกับฮองเฮา
สักพักนางกำนัลก็ออกมา พร้อมกับเชิญให้แจจุงเข้าไปข้างใน เมื่อเข้ามาในตำหนัก แจจุงก็มองหาฮองเฮาทันที
"พวกเจ้าออกไปก่อน" ฮองเฮาเอ่ยไล่ นางกำนัลทั้งหมดออกไปจากตำหนักและออกจากเขตที่จะได้ยินทันที
"ข้ารู้ว่าเจ้าคือแจจุง เจ้าต้องการให้ข้าช่วยอะไรรึ" ฮองเฮาิยิ้มให้เขา แจจุงเข้าไปกอดนางไว้ และบอกจุดประสงค์ของตน
"หม่อมฉัน..หม่อมฉันขอพักกับพระองค์ได้รึไม่พะย่ะค่ะ"
"แต่เจ้าต้องเข้าหอมิใช่หรือ"
"แต่ว่าข้าเป็นอย่างนี้ ข้าจะเข้าหอกับองค์ชายได้อย่างไร" แจจุงสะอื้น น้ำตาไหลพราก เขานึกสมเพชตัวเองที่เกิดเป็นแบบนี้ ใครที่ไหนอยากจะเข้าหอกับผู้ชายด้วยกัน มีใครบ้างที่จะไม่รังเกียจเขา
"แจจุง.." ฮองเฮาไม่รู้จะปรอบอย่างไร นางลูบผมของเขาเบาๆเป็นการปลอบโยน ความทุกข์นี้นางเข้าใจ ถ้าเป็นนาง นางคงทนไม่ได้เช่นกัน
"แต่ยุนโฮของต้องการเจ้านะแจจุง..เจ้าน่าจะพูดกับเขา" ฮองเฮาผละกอดจากแจจุง นางมองดูใบหน้ายามทุกข์ของเขาอย่างสงสาร
"เขาคงไม่เชื่อข้า ..เป็นใครใครจะเชื่อ ถ้าเป็นท่าน ท่านก็ไม่เชื่อ ชีวิตนี้จะมีใครรักข้าจริง มีแต่คนอยากจะครอบครองร่างกายยามสตรีของข้า พวกเขาหาได้รักข้า อย่างที่ท่านพ่อหรือคนในตระกูลรักข้า! องค์ชายก็เช่นกัน ไม่มีใครรักข้าด้วยใจจริงหรอกพะย่ะค่ะ"
ฮองเฮาไม่รู้จะพูดโต้ตอบยังไง สิ่งที่เขาพูดเป็นความจริงทุกอย่าง จู่ๆเสียงนางกำนัลก็ดังขึ้น
"ฮองเฮา องค์ชายตามหาพระชายาแต่หาไม่เจอเพคะ" ฮองเฮามองหน้าแจจุงอีกครั้ง เขาส่ายหัวเป็นเชิงว่าไม่กลับ
"บอกเขา ว่านางอยู่กับข้า ให้เขาพักผ่อนก่อน นางยังปรับตัวไม่ได้คงต้องอยู่กับข้าสักพัก"
"เพคะ"
"เจ้าเลือกทางนี้แล้ว ถึงไม่ได้เลือกแต่ก็ถูกกำหนดแล้วนะ..แจจุง"
......... ไม่ได้เลือกแต่ถูกกำหนด ..........
... ไม่ได้อยากเกิดมาเป็นแบบนี้ ทำไมถึงกำหนดแบบนี้ ....
สวรรค์ที่ใครๆต่างเคารพ ทำไมถึงทำร้ายข้าหละ่............
สิ่งที่ท่านกำหนด มันถูกแล้วหรือ....
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น