ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : วันเกิดที่ไม่มีเจ้าของงาน
เป้ยเงยหน้าขึ้นช้าๆ เธอสะดุ้งโหยงก่อนจะเสมองไปทางอื่น 'ทำไมเพิ่งมาเขินตอน
นี้ฟ่ะเรา' เขาอมยิ้มน้อยๆมองคนข้างๆ
"เดี๋ยวฉันมาน่ะ" เขาลุกขึ้นเดินไปอีกทางหนึ่งก่อนจะกลับมาพร้อมกับน้ำเปล่าขวด
หนึ่ง เขายื่นมันมาให้เธอ
"เอ้า หิวน้ำอ่ะดิ ร้องซะนานเลย อย่าลืมล้างหน้าด้วยล่ะ" เขาบอกยิ้มๆ
"ไม่เอา" เป้ยปัดน้ำออก
"คนเขามีน้ำใจ ก็รับไว้เถอะ น่ะครับคนสวย" เขานั่งลงข้างๆเปิดฝาขวดน้ำก่อนจะยื่น
ไปให้เป้ยที่นั่งหน้าเบ้อยู่
เป้ยมีแววกังวลแต่ไหนๆมันก็เป็นของฟรีแล้วตอนนี้เธอก็อยากกินน้ำจริงๆนั้นแหละ
เอาก็ได้(เชอะๆ)
เขาอมยิ้มหลังจากที่เป้ยรับขวดน้ำไปจากเขาแล้ว
"เธอไม่ไปเรียนหรอ นี่มันเกือบ10โมงแล้วน่ะ" เขาหันมามองเป้ยที่ชะงักมือทันทีที่
เขาพูดจบ
"ฉันโดนไล่ออกแล้ว" เป้ยตอบห้วนๆ
"ทำไมอ่ะ เกิดไรขึ้น" เขาทำตาโตมองเป้ยตาไม่กระพริบ
"ไม่เกี่ยวกับนาย" อีกครั้งที่เป้ยตอบเสียงรำคาญ เขานั่งก้มหน้านิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะ
พูดขึ้นมาว่า
"ฉันก็โดนไล่ออกจากโรงเรียนเหมือนกัน เพราะว่าฉันฆ่าคนตาย" พูดจบเป้ยก็หันมา
มองเขาอย่างตกใจ เขาสาเหตุหนักกว่าเธอมาก
"ฉันถูกส่งไปศานเด็กถูกควบคุมความประพฤติ 4ปีเต็ม ที่จริงมันมากกว่านั้นน่ะ แต่
พ่อฉันมาประกันตัว ฉันก็ไม่แน่ใจหรอกน่ะว่าเขาให้ประกันได้ยังไงแต่เห็นมีคนรือกัน
ว่านายตำรวจที่จับฉันนะ เขาติดสินบนพ่ออยู่ประมาณนี้อ่ะ แฮะๆ"
เป้ยมองคนข้างๆอย่างไม่เข้าใจ ทั้งๆเรื่องที่เขาเล่านั้นมันเป็นเรื่องน่าเสียใจแต่เขา
กลับหัวเราะออกมาได้ ไม่เหมือนเธอที่สาเหตุเบากว่าเขากลับมานั่งร้องไห้งอแงอยู่
ได้
"เธอฆ่าใครตาย" เป้ยถามออกมาอย่างสนใจ
"อาจารย์ที่โรงเรียนนะ ทะเลาะกันแล้วแกเกิดโมโหมาบีบคอฉัน ฉัน..ก็เลย..หยิบมีดที่
พกในกระเป๋าแทงแกตรงหน้าอกไปอ่ะ ตอนนั้นฉันตกใจมากเลยน่ะ ไม่คิดเลยว่าตัว
เองจะทำแบบนั้นได้ แต่ก็ดีแล้วไม่ใช่หรอ ถ้าวันนั้นอาจารย์ไม่ตาย ฉันนี้แหละที่ต้อง
ตายแทน...เนอะ" เขาหันมาอมยิ้มน้อยให้เป้ย แต่นัยต์ตาแฝงความเจ็บปวดไว้เต็มไป
หมด เขาก็เจ็บเหมือนฉันนี้แหละ อาจจะเจ็บกว่าฉันซะด้วยซ้ำ
"นี่นาย" เป้ยเรียกเขาเบาๆ
"หือ" เขาหันมาสบตาเป้ยอย่างตั้งใจ
"นายชื่อไรหรอ" เป้ยถามยิ้มๆ
"หา..เออ ฉันชื่อ เต้ นะ" เขาตอบเสียงเรียบๆก่อนจะหันมายิ้มให้
"แล้วเธอล่ะ ชื่ออะไร"
"ฉันชื่อเป้ย" เป้ยตอบพลางเงยหน้าขึ้นไปมองบนท้องฟ้าและยิ้มออกมา
หลังจากที่เป้ยวิ่งหนีออกไปนอกโรงเรียน ทางอาจารย์ก็ช่วยกันออกค้นหา ทางฝ่าย
ผู้อำนวยการของโรงเรียนก็กำลังโทรติดต่อไปทางผู้ปกครองของเป้ย
"ฮาโหล..ครับ" เสียงจากปลายสายพูดขึ้นเบาๆ
"เออ คุณคือผู้ปกครองของ นางสาวเป้ยนิรัตร หรือเปล่าค่ะ" ผู้อำนวยการพูดเสียง
เครียด
"ครับ มีอะไรหรือเปล่าครับ" ฟังจากเสียงผู้อำนวยการแล้ว ผู้เป็นพ่อรู้ทันทีว่าคงมี
เรื่องไม่ดีเกิดขึ้นแล้วแน่นอน
"คือว่า ตอนนี้นางสาวเป้ยนิรัตร หนีออกจากโรงเรียนค่ะ แล้วก็อีกเรื่องหนึ่งคือ เธอ
ก่อเรื่องเอาไว้ค่ะ มีผู้ปกครองมาฟ้องว่าเธอทำร้ายร่างกายของเพื่อนรุ่นเดียวกันถึง5
คนจนบาดเจ็บสาหัส ทางโรงเรียนอยากจะบอกท่านว่านางสาวเป้ยนิวัตร โดนไล่
ออกจากโรงเรียนค่ะ แล้วทางเราจะแจ้งไปอย่างเป็นทางการอีกทีน่ะค่ะ"
ผู้เป็นพ่อเงียบกริบพูดอะไรไม่ออก เขารีบวางสายแล้ววิ่งออกไปขึ้นรถทันที
"นี่คุณค่ะ จะไปไหนนะ" ภรรยาเรียกเสียงเครียด
"เรื่องลูก คุณจะไปด้วยเปล่าล่ะ เดี๋ยวผมจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้คุณฟังระหว่างทางน่ะ"
ไม่ต้องคอยให้สามีพูดจบ ภรรยาก็วิ่งขึ้นรถมานั่งอยู่แล้ว
"รีบไปเถอะค่ะ" เธอบอก ก่อนที่รถจะค่อยๆเคลื่อนตัวออกไป
ชายหาดสีครามเปล่งประกายเมื่อกระทบกับแสงอาทิตย์ยามเที่ยง ชายหญิง 2 คน
เดินคุยกันริมหาด เสียงหัวเราะคิกคักของคนทั้งคู่ทำให้ผู้คนรอบข้างที่ได้ยินต่างพา
กันอมยิ้มกับท่าทางของเขาทั้ง 2 คน
"นี่ แล้วพ่อนายอยู่ไหนอ่ะ เขาไม่ให้นายเรียนต่อหรอ" เป้ยหันไปถาม เต้ชะงักไปเขา
ก้มหน้าเงียบไปสักพัก
"พ่อฉันตายแล้ว..." เต้ตอบเสียงเรียบๆ
เป้ยเงียบ เธอได้ถามเรื่องที่ไม่ควรถามไปซะแล้ว
"ไปหาอะไรกินกันเถอะ" เต้บอก เขาส่งยิ้มน้อยๆมาให้ก่อนจะยื่นมือไปลูบหัวเป้ยที่ยัง
ทำท่าทางไม่ถูกอยู่ข้างๆ
"ฉันมีเงินอยู่แค่ 60 น่ะ คงจ่ายอะไรมากไม่ได้ ..และฉันคิดว่า..ฉันจะหนีออกจากบ้าน"
ทันทีที่เป้ยพูดจบ น้ำตาก็เริ่มเอ่อล้นมาเป็นรอบที่ 2 เป้ยเงยหน้าขึ้นมองบนท้องฟ้า
เช็ดคราบน้ำตา ฉันอยากเข้มแข็งซะที ต่อไปนี้ฉันจะอยู่คนเดียวให้ได้
"เธอจะหนีออกจากบ้านจริงๆหรอ มันลำบากมากเลยน่ะ" เต้บอก
"ฉันจะอยู่ให้ได้" เป้ยบอกก่อนจะเดินนำไปนอกชายหาด
เต้อมยิ้มน้อยๆ เหมือนที่เขาคิดไม่มีผิด ผู้หญิงคนนี้แปลกจริงๆ
"ฉันก็หนีออกจากบ้านเหมือนกัน ไม่ใช่สิ ฉันไม่มีที่ไปเหมือนกันน่ะ" เต้บอกพลางวิ่ง
ขึ้นมารัดคอเป้ยเบาๆ
หลังจากที่เป้ยกับเต้เดินดูร้านอาหารอยู่หลายที่ เต้ก็ถามขึ้นมาว่า
"ไม่เข้าไปกินร้านนั้นหรอ" เต้ชี้ไปทางร้านหรูใกล้ๆ มีพนักงานเสื้อขาว 2 คนคอยยืน
รับลูกค้าอยู่ด้านหน้าอย่างสุภาพ
เป้ยหันมามองเต้ งงๆ ก็เธอมีเงินไม่พอจะให้มานั่งร้านแพงๆแบบนี้ เขาก็รู้นี้นา
"แต่ฉันมีเงินไม่พอ" เป้ยบอกห้วนๆ
เต้อมยิ้ม เขาจับมือลากเป้ยไปยังร้านนั้นทันทีโดยที่เป้ยไม่ทันได้ตอบโต้อะไรเลย
"สวัสดีครับ กี่ที่ครับ" พนักงานหนุ่มชุดขาวถามอย่างสุภาพ
"2ที่ครับ" เต้บอก
พนักงานเดินนำเป้ยกับเต้เข้าไปภายในร้าน ทำเอาเป้ยอึ้งไปเลย ในร้านมีแต่พวกไฮ
โซ พวกลูกคุณหนู แล้วเธอล่ะ มีเงินอยู่แค่ 60 มันจะพอดื่มน้ำสักแก้วหรือเปล่าก็ไม่รู้
"เชิญครับ" พนักงานหนุ่มบอกพลางยื่นเมนู 2 เล่มให้เป้ยกับเต้คนละชุด
"คะ คือ" เป้ยอ้ำๆอึ้งๆ
"เอาสเต็กเนื้อแบบพิเศษ 2 ที่น่ะครับ แล้วก็ขอน้ำส้มคั้น 2 ที่ด้วยครับ" เต้บอก
พนักงานแทนให้โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาหันมาถามเป้ยที่นั่งอ้าปากค้างอยู่อย่าง
ประหลาดใจ
"เต้ นายจะบ้าหรือไงนะ ฉันไม่มีเงินมากขนาดนั้นหรอกน่ะ หรือว่านายจะเลี้ยงฉัน" เป้
ย ถามออกมาเบาๆหลังจากที่พนักงานเดินจากไปแล้ว
"ฉันบอกแล้วไงว่าถ้าจะหนีออกจากบ้านมันจะลำบาก นี่ก็เหมือนกัน ฮึฮึ แล้วก็ฉันไม่
มีเงินมากนักหรอกน่ะ เพระฉันก็ไม่มีที่อยู่ไม่มีงานทำ ตอนนี้เธอกับฉันก็เหมือนกันล่ะ
อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ เอาเป็นว่าผมมีวิธีโดยที่เราไม่ต้องเสียเงินสักบาท"
เต้บอกยิ้มๆอย่างเคยแต่เป้ยรู้สึกได้เลยว่าวิธีที่เต้จะใช้ต้องเลวร้ายอย่างแน่นอน
"ขอโทษน่ะครับ" พนักงานเดินถือถาดพร้อมสเต็ก2จานใหญ่วางลงบนโต๊ะของเป้ย
กับเต้
"กินให้อร่อยน่ะ" เต้บอกก่อนจะลงมือหม่ำ
เป้ยมีสายตากังวลและเริ่มหม่ำตามเต้ที่ดูท่าทางจะมีความสุขกับอาหารมากเหลือ
เกิน
จนเวลาผ่านไปไม่นาน เป้ยกับเต้ก็กินสเต็กจนเรียบ เป้ยเริ่มมีอาการกระสับกระส่าย
เต้เห็นอย่างนั้นก็แอบหัวเราะเบาๆก่อนจะบอกเป้ยว่า
"กินอิ่มหรือยัง ได้เวลาไปกันแล้ว" เต้ลากเป้ยไปทางห้องน้ำที่ไม่มีใครเห็น ด้านในมี
ประตูอยู่3ด้าน ด้านหนึ่งเป็นห้องน้ำชาย ประตูที่2เป็นห้องน้ำหญิง อีกด้านหนึ่งเป็น
ประตูเก็บของ เต้พาเธอเข้ามาในห้องเก็บของเล็กๆ มีแสงพระอาทิตย์เล็ดลอดออก
มาจากทางหน้าต่างและจากทาง...ใต้ประตูที่อยู่ตรงกันข้ามประตูทางเข้า
"นี่ไงล่ะ เราจะออกไปทางนั้นกัน" เต้บอกอย่างร่าเริง เขาตรงเข้าไปเปิดประตูนั้นออก
เผยให้เห็นหมู่บ้านเก่าๆที่มีผู้คนเดินไปมาไม่มากนัก
"นายรู้ทางออกได้ไงอ่ะ" เป้ยยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ และหันไปถามเต้ที่พยายามปิด
ประตูทางออกให้เบาที่สุด
"นานแล้วนะ ตอนนั้นฉันอยู่ ป.6 พ่อพามากินข้าวแล้วฉันก็พบทางนี้เข้า" เต้บอกสรุป
สั้นๆ เป้ยพยักหน้าหงึกหงัก
"เฮ๊ย มีสาวเดินมาในนี้ด้วยโว๊ยพวกเรา ไม่อดอยากแล้วโว๊ย" ชายร่างเตี้ยขี้ยามองมา
ทางเป้ยสายตาเยิ้ม
เป้ยกับเต้พยายามทำไม่สนใจ เดินเลี่ยงไปอีกทางหนึ่งแต่ก็ถูกผู้ชายตัวสูงโย่งใน
มือถือเหล้ามาขวางเอาไว้
พวกนี้เป็นคนงานหรือเปล่าน่ะ เห็นยืนอยู่ตรงสิ่งก่อสร้างคล้ายๆกับบ้านแต่มันมี
เพียงเสาเข็มปักอยู่ไม่กี่ต้น ส่วนข้างๆก็มีลวดเหล็กกลมๆเล็กแต่หนาและยาวตั้ง
เรียงรายอยู่บนพื้น
พวกของมันค่อยๆเพิ่มขึ้นมาเป็น6คน แต่ละคนก็มีอาวุธอยู่ในมือกันครบ
"เธอหลบไป เดี๋ยวฉันจัดการเอง" เต้บอกพลางก้าวขามาด้านหน้า
"นายคนเดียวไม่ไหวหรอก" เป้ยค้าน
"เธอเป็นผู้หญิงน่ะ จะถูกทำร้ายซะเปล่าๆ" พูดจบ ไอ้เตี้ยขี้ยาก็กระโดดเข้ามาพร้อม
กับพวกอีก5คนตามมาทีหลัง เต้ชกต่อยได้อย่างคล่องแคล้ว แต่ไม่ทันระวังร่างสูง
ของนายขี้เมาเข้ามาพร้อมกับขวดเหล้าที่ยกขึ้นสูง
ฉึก! ลวดเหล็กแท่งยาวถูกปักเข้ากลางหลังทะลุหน้าอกของไอ้ขี้เมาออกมาอย่างน่า
สยดสยอง เต้มองคนที่ช่วยเหลือตาข้าง นี่เป้ยเป็นคนช่วยเขาหรือเนี่ย
"ฉันลืมบอกนายไปว่า ฉันโดนไล่ออกจากโรงเรียนเพราะทำร้ายนักเรียนหญิง5คน
พิการ...ฉัน คน เดียว ทำ ร้าย คน 5 คน พิ การ" เป้ยหยักคิ้วให้เต้
"เฮ๊ย ไข่ดำตายแล้ว ถอยเถอะ" เตี้ยขี้ยาบอกอย่างหวาดๆก่อนออกวิ่งนำลูกน้องหาย
ไป
เป้ยกับเต้เดินมาหยุดนั่งที่สวนสาธารณะใกล้ๆ
"เฮ้อ จุกชะมัด เพิ่งกินอิ่มๆแล้วมาบู๊ต่อ จุกเป็นบ้า" เต้นั่งบ่นอุบอิบ
"นายบู๊เก่งเนอะ แต่ไม่ค่อยระวังหลังเลยนะ ที่หลังหัดระวังบ้างสิ" เป้ยแกล้งทำเป็น
โมโห
"อืมคร๊าบ..เป้ยก็เก่งใช่ย่อยน่ะ คิดยังไงเอาเหล็กนั้นมาแทงมันล่ะ" เต้ถามพลางนึก
ภาพตอนนั้นแล้วก็ขนลุกขึ้นมา
"มีของตั้งไว้ให้แล้ว ก็นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สิ" เป้ยยิ้มยิงฟังก่อนจะพูดขึ้นมาต่อว่า
"ก็เหมือนตอนที่ฉันทำร้ายพวกนั้นทั้ง5คนแหละ ฉันเอาช้อนพรวนดินหรือไม่ก็ซ่อม
พรวนดินที่อยู่แถวนั้นแทงพวกมันซะเดี้ยงเลย" เป้ยบอกเรียบๆ
"หัวคิดดีนี่นา" เต้หัวเราะก๊ากออกมาอย่างอดไม่อยู่
"นั่น! พ่อกับแม่นิ" เป้ยยืนขึ้นรีบลากเต้ออกมาจากตรงนั้นวิ่งไปที่อื่น
เป้ยกับเต้ยืนหอบอยู่ในมุมตึกที่ไม่ค่อยมีผู้คนเดินผ่าน
"ตกลงเธอจะไม่กลับบ้านจริงๆใช่ไหมเนี่ย" เต้หันมาถามพร้อม
"อื้ม" เป้ยตอบเสียงเบา
"ไม่ไปแอบลาท่านหน่อยหรอ เออ..ไม่อยากรู้หรอว่าท่านเป็นยังไงเวลาหาลูกสาวไม่
เจอนะ" เต้หันไปมองเป้ยก่อนจะหันไปมองรอบๆ
"....ก็ได้" เป้ยตอบ
พระจันทร์ทอแสงส่องสว่างมากระทบหลังคาบ้านเล็กๆที่เงียบเชียบเหมือนบ้านร้าง
ไม่มีผิด เป้ยกับเต้แอบย่องเข้ามามองดูอยู่ทางหน้าต่างบานเล็กๆ ในบ้านมีแสงไฟ
สว่างเต็มไปหมด บนโต๊ะมีกล่องของขวัญชิ้นใหญ่2ชิ้นประดับตกแต่งอย่างสวยงาม
รอบๆมีสายรุ้งห้อยลงมา บนโซฟามีหญิงวัยกลางคนนั่งร้องไห้เอาเป็นเอาตาย ต่าง
จากชายวัยกลางคนอีกคนที่กำลังจุดเทียนบนเค้กหน้าชื่น
"คุณจัดงานทำไมค่ะ ลูกไม่อยู่น่ะค่ะ เขาคงไปอยู่ที่ไหนสักแห่ง" ภรรยาสาวบอก
"ก็วันนี้วันเกิดลูกน่ะคุณ ผมก็อยากจัดให้ลูกบ้างนานๆครั้งนะ" คนเป็นพ่อตอบยิ้มๆ
"แต่มันเป็นวันเกิดที่ไม่มีเจ้าของงานน่ะค่ะ แล้วคุณจะจัดมันขึ้นมาเพื่ออะไร" ภรรยา
ขึ้นเสียงก่อนจะร้องไห้หนักขึ้นกว่าเดิม
"เพื่อลูกไง"
เต้หันมามองเป้ยที่ตอนนี้น้ำตาเธอไหลไม่หยุด
"ลาก่อนค่ะพ่อ แม่" พูดจบเป้ยกับเต้ก็เดินจากไป ทิ้งให้ผู้มีพระคุณทั้ง2จมอยู่กับ
ความเศร้า
นี้ฟ่ะเรา' เขาอมยิ้มน้อยๆมองคนข้างๆ
"เดี๋ยวฉันมาน่ะ" เขาลุกขึ้นเดินไปอีกทางหนึ่งก่อนจะกลับมาพร้อมกับน้ำเปล่าขวด
หนึ่ง เขายื่นมันมาให้เธอ
"เอ้า หิวน้ำอ่ะดิ ร้องซะนานเลย อย่าลืมล้างหน้าด้วยล่ะ" เขาบอกยิ้มๆ
"ไม่เอา" เป้ยปัดน้ำออก
"คนเขามีน้ำใจ ก็รับไว้เถอะ น่ะครับคนสวย" เขานั่งลงข้างๆเปิดฝาขวดน้ำก่อนจะยื่น
ไปให้เป้ยที่นั่งหน้าเบ้อยู่
เป้ยมีแววกังวลแต่ไหนๆมันก็เป็นของฟรีแล้วตอนนี้เธอก็อยากกินน้ำจริงๆนั้นแหละ
เอาก็ได้(เชอะๆ)
เขาอมยิ้มหลังจากที่เป้ยรับขวดน้ำไปจากเขาแล้ว
"เธอไม่ไปเรียนหรอ นี่มันเกือบ10โมงแล้วน่ะ" เขาหันมามองเป้ยที่ชะงักมือทันทีที่
เขาพูดจบ
"ฉันโดนไล่ออกแล้ว" เป้ยตอบห้วนๆ
"ทำไมอ่ะ เกิดไรขึ้น" เขาทำตาโตมองเป้ยตาไม่กระพริบ
"ไม่เกี่ยวกับนาย" อีกครั้งที่เป้ยตอบเสียงรำคาญ เขานั่งก้มหน้านิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะ
พูดขึ้นมาว่า
"ฉันก็โดนไล่ออกจากโรงเรียนเหมือนกัน เพราะว่าฉันฆ่าคนตาย" พูดจบเป้ยก็หันมา
มองเขาอย่างตกใจ เขาสาเหตุหนักกว่าเธอมาก
"ฉันถูกส่งไปศานเด็กถูกควบคุมความประพฤติ 4ปีเต็ม ที่จริงมันมากกว่านั้นน่ะ แต่
พ่อฉันมาประกันตัว ฉันก็ไม่แน่ใจหรอกน่ะว่าเขาให้ประกันได้ยังไงแต่เห็นมีคนรือกัน
ว่านายตำรวจที่จับฉันนะ เขาติดสินบนพ่ออยู่ประมาณนี้อ่ะ แฮะๆ"
เป้ยมองคนข้างๆอย่างไม่เข้าใจ ทั้งๆเรื่องที่เขาเล่านั้นมันเป็นเรื่องน่าเสียใจแต่เขา
กลับหัวเราะออกมาได้ ไม่เหมือนเธอที่สาเหตุเบากว่าเขากลับมานั่งร้องไห้งอแงอยู่
ได้
"เธอฆ่าใครตาย" เป้ยถามออกมาอย่างสนใจ
"อาจารย์ที่โรงเรียนนะ ทะเลาะกันแล้วแกเกิดโมโหมาบีบคอฉัน ฉัน..ก็เลย..หยิบมีดที่
พกในกระเป๋าแทงแกตรงหน้าอกไปอ่ะ ตอนนั้นฉันตกใจมากเลยน่ะ ไม่คิดเลยว่าตัว
เองจะทำแบบนั้นได้ แต่ก็ดีแล้วไม่ใช่หรอ ถ้าวันนั้นอาจารย์ไม่ตาย ฉันนี้แหละที่ต้อง
ตายแทน...เนอะ" เขาหันมาอมยิ้มน้อยให้เป้ย แต่นัยต์ตาแฝงความเจ็บปวดไว้เต็มไป
หมด เขาก็เจ็บเหมือนฉันนี้แหละ อาจจะเจ็บกว่าฉันซะด้วยซ้ำ
"นี่นาย" เป้ยเรียกเขาเบาๆ
"หือ" เขาหันมาสบตาเป้ยอย่างตั้งใจ
"นายชื่อไรหรอ" เป้ยถามยิ้มๆ
"หา..เออ ฉันชื่อ เต้ นะ" เขาตอบเสียงเรียบๆก่อนจะหันมายิ้มให้
"แล้วเธอล่ะ ชื่ออะไร"
"ฉันชื่อเป้ย" เป้ยตอบพลางเงยหน้าขึ้นไปมองบนท้องฟ้าและยิ้มออกมา
หลังจากที่เป้ยวิ่งหนีออกไปนอกโรงเรียน ทางอาจารย์ก็ช่วยกันออกค้นหา ทางฝ่าย
ผู้อำนวยการของโรงเรียนก็กำลังโทรติดต่อไปทางผู้ปกครองของเป้ย
"ฮาโหล..ครับ" เสียงจากปลายสายพูดขึ้นเบาๆ
"เออ คุณคือผู้ปกครองของ นางสาวเป้ยนิรัตร หรือเปล่าค่ะ" ผู้อำนวยการพูดเสียง
เครียด
"ครับ มีอะไรหรือเปล่าครับ" ฟังจากเสียงผู้อำนวยการแล้ว ผู้เป็นพ่อรู้ทันทีว่าคงมี
เรื่องไม่ดีเกิดขึ้นแล้วแน่นอน
"คือว่า ตอนนี้นางสาวเป้ยนิรัตร หนีออกจากโรงเรียนค่ะ แล้วก็อีกเรื่องหนึ่งคือ เธอ
ก่อเรื่องเอาไว้ค่ะ มีผู้ปกครองมาฟ้องว่าเธอทำร้ายร่างกายของเพื่อนรุ่นเดียวกันถึง5
คนจนบาดเจ็บสาหัส ทางโรงเรียนอยากจะบอกท่านว่านางสาวเป้ยนิวัตร โดนไล่
ออกจากโรงเรียนค่ะ แล้วทางเราจะแจ้งไปอย่างเป็นทางการอีกทีน่ะค่ะ"
ผู้เป็นพ่อเงียบกริบพูดอะไรไม่ออก เขารีบวางสายแล้ววิ่งออกไปขึ้นรถทันที
"นี่คุณค่ะ จะไปไหนนะ" ภรรยาเรียกเสียงเครียด
"เรื่องลูก คุณจะไปด้วยเปล่าล่ะ เดี๋ยวผมจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้คุณฟังระหว่างทางน่ะ"
ไม่ต้องคอยให้สามีพูดจบ ภรรยาก็วิ่งขึ้นรถมานั่งอยู่แล้ว
"รีบไปเถอะค่ะ" เธอบอก ก่อนที่รถจะค่อยๆเคลื่อนตัวออกไป
ชายหาดสีครามเปล่งประกายเมื่อกระทบกับแสงอาทิตย์ยามเที่ยง ชายหญิง 2 คน
เดินคุยกันริมหาด เสียงหัวเราะคิกคักของคนทั้งคู่ทำให้ผู้คนรอบข้างที่ได้ยินต่างพา
กันอมยิ้มกับท่าทางของเขาทั้ง 2 คน
"นี่ แล้วพ่อนายอยู่ไหนอ่ะ เขาไม่ให้นายเรียนต่อหรอ" เป้ยหันไปถาม เต้ชะงักไปเขา
ก้มหน้าเงียบไปสักพัก
"พ่อฉันตายแล้ว..." เต้ตอบเสียงเรียบๆ
เป้ยเงียบ เธอได้ถามเรื่องที่ไม่ควรถามไปซะแล้ว
"ไปหาอะไรกินกันเถอะ" เต้บอก เขาส่งยิ้มน้อยๆมาให้ก่อนจะยื่นมือไปลูบหัวเป้ยที่ยัง
ทำท่าทางไม่ถูกอยู่ข้างๆ
"ฉันมีเงินอยู่แค่ 60 น่ะ คงจ่ายอะไรมากไม่ได้ ..และฉันคิดว่า..ฉันจะหนีออกจากบ้าน"
ทันทีที่เป้ยพูดจบ น้ำตาก็เริ่มเอ่อล้นมาเป็นรอบที่ 2 เป้ยเงยหน้าขึ้นมองบนท้องฟ้า
เช็ดคราบน้ำตา ฉันอยากเข้มแข็งซะที ต่อไปนี้ฉันจะอยู่คนเดียวให้ได้
"เธอจะหนีออกจากบ้านจริงๆหรอ มันลำบากมากเลยน่ะ" เต้บอก
"ฉันจะอยู่ให้ได้" เป้ยบอกก่อนจะเดินนำไปนอกชายหาด
เต้อมยิ้มน้อยๆ เหมือนที่เขาคิดไม่มีผิด ผู้หญิงคนนี้แปลกจริงๆ
"ฉันก็หนีออกจากบ้านเหมือนกัน ไม่ใช่สิ ฉันไม่มีที่ไปเหมือนกันน่ะ" เต้บอกพลางวิ่ง
ขึ้นมารัดคอเป้ยเบาๆ
หลังจากที่เป้ยกับเต้เดินดูร้านอาหารอยู่หลายที่ เต้ก็ถามขึ้นมาว่า
"ไม่เข้าไปกินร้านนั้นหรอ" เต้ชี้ไปทางร้านหรูใกล้ๆ มีพนักงานเสื้อขาว 2 คนคอยยืน
รับลูกค้าอยู่ด้านหน้าอย่างสุภาพ
เป้ยหันมามองเต้ งงๆ ก็เธอมีเงินไม่พอจะให้มานั่งร้านแพงๆแบบนี้ เขาก็รู้นี้นา
"แต่ฉันมีเงินไม่พอ" เป้ยบอกห้วนๆ
เต้อมยิ้ม เขาจับมือลากเป้ยไปยังร้านนั้นทันทีโดยที่เป้ยไม่ทันได้ตอบโต้อะไรเลย
"สวัสดีครับ กี่ที่ครับ" พนักงานหนุ่มชุดขาวถามอย่างสุภาพ
"2ที่ครับ" เต้บอก
พนักงานเดินนำเป้ยกับเต้เข้าไปภายในร้าน ทำเอาเป้ยอึ้งไปเลย ในร้านมีแต่พวกไฮ
โซ พวกลูกคุณหนู แล้วเธอล่ะ มีเงินอยู่แค่ 60 มันจะพอดื่มน้ำสักแก้วหรือเปล่าก็ไม่รู้
"เชิญครับ" พนักงานหนุ่มบอกพลางยื่นเมนู 2 เล่มให้เป้ยกับเต้คนละชุด
"คะ คือ" เป้ยอ้ำๆอึ้งๆ
"เอาสเต็กเนื้อแบบพิเศษ 2 ที่น่ะครับ แล้วก็ขอน้ำส้มคั้น 2 ที่ด้วยครับ" เต้บอก
พนักงานแทนให้โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาหันมาถามเป้ยที่นั่งอ้าปากค้างอยู่อย่าง
ประหลาดใจ
"เต้ นายจะบ้าหรือไงนะ ฉันไม่มีเงินมากขนาดนั้นหรอกน่ะ หรือว่านายจะเลี้ยงฉัน" เป้
ย ถามออกมาเบาๆหลังจากที่พนักงานเดินจากไปแล้ว
"ฉันบอกแล้วไงว่าถ้าจะหนีออกจากบ้านมันจะลำบาก นี่ก็เหมือนกัน ฮึฮึ แล้วก็ฉันไม่
มีเงินมากนักหรอกน่ะ เพระฉันก็ไม่มีที่อยู่ไม่มีงานทำ ตอนนี้เธอกับฉันก็เหมือนกันล่ะ
อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ เอาเป็นว่าผมมีวิธีโดยที่เราไม่ต้องเสียเงินสักบาท"
เต้บอกยิ้มๆอย่างเคยแต่เป้ยรู้สึกได้เลยว่าวิธีที่เต้จะใช้ต้องเลวร้ายอย่างแน่นอน
"ขอโทษน่ะครับ" พนักงานเดินถือถาดพร้อมสเต็ก2จานใหญ่วางลงบนโต๊ะของเป้ย
กับเต้
"กินให้อร่อยน่ะ" เต้บอกก่อนจะลงมือหม่ำ
เป้ยมีสายตากังวลและเริ่มหม่ำตามเต้ที่ดูท่าทางจะมีความสุขกับอาหารมากเหลือ
เกิน
จนเวลาผ่านไปไม่นาน เป้ยกับเต้ก็กินสเต็กจนเรียบ เป้ยเริ่มมีอาการกระสับกระส่าย
เต้เห็นอย่างนั้นก็แอบหัวเราะเบาๆก่อนจะบอกเป้ยว่า
"กินอิ่มหรือยัง ได้เวลาไปกันแล้ว" เต้ลากเป้ยไปทางห้องน้ำที่ไม่มีใครเห็น ด้านในมี
ประตูอยู่3ด้าน ด้านหนึ่งเป็นห้องน้ำชาย ประตูที่2เป็นห้องน้ำหญิง อีกด้านหนึ่งเป็น
ประตูเก็บของ เต้พาเธอเข้ามาในห้องเก็บของเล็กๆ มีแสงพระอาทิตย์เล็ดลอดออก
มาจากทางหน้าต่างและจากทาง...ใต้ประตูที่อยู่ตรงกันข้ามประตูทางเข้า
"นี่ไงล่ะ เราจะออกไปทางนั้นกัน" เต้บอกอย่างร่าเริง เขาตรงเข้าไปเปิดประตูนั้นออก
เผยให้เห็นหมู่บ้านเก่าๆที่มีผู้คนเดินไปมาไม่มากนัก
"นายรู้ทางออกได้ไงอ่ะ" เป้ยยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ และหันไปถามเต้ที่พยายามปิด
ประตูทางออกให้เบาที่สุด
"นานแล้วนะ ตอนนั้นฉันอยู่ ป.6 พ่อพามากินข้าวแล้วฉันก็พบทางนี้เข้า" เต้บอกสรุป
สั้นๆ เป้ยพยักหน้าหงึกหงัก
"เฮ๊ย มีสาวเดินมาในนี้ด้วยโว๊ยพวกเรา ไม่อดอยากแล้วโว๊ย" ชายร่างเตี้ยขี้ยามองมา
ทางเป้ยสายตาเยิ้ม
เป้ยกับเต้พยายามทำไม่สนใจ เดินเลี่ยงไปอีกทางหนึ่งแต่ก็ถูกผู้ชายตัวสูงโย่งใน
มือถือเหล้ามาขวางเอาไว้
พวกนี้เป็นคนงานหรือเปล่าน่ะ เห็นยืนอยู่ตรงสิ่งก่อสร้างคล้ายๆกับบ้านแต่มันมี
เพียงเสาเข็มปักอยู่ไม่กี่ต้น ส่วนข้างๆก็มีลวดเหล็กกลมๆเล็กแต่หนาและยาวตั้ง
เรียงรายอยู่บนพื้น
พวกของมันค่อยๆเพิ่มขึ้นมาเป็น6คน แต่ละคนก็มีอาวุธอยู่ในมือกันครบ
"เธอหลบไป เดี๋ยวฉันจัดการเอง" เต้บอกพลางก้าวขามาด้านหน้า
"นายคนเดียวไม่ไหวหรอก" เป้ยค้าน
"เธอเป็นผู้หญิงน่ะ จะถูกทำร้ายซะเปล่าๆ" พูดจบ ไอ้เตี้ยขี้ยาก็กระโดดเข้ามาพร้อม
กับพวกอีก5คนตามมาทีหลัง เต้ชกต่อยได้อย่างคล่องแคล้ว แต่ไม่ทันระวังร่างสูง
ของนายขี้เมาเข้ามาพร้อมกับขวดเหล้าที่ยกขึ้นสูง
ฉึก! ลวดเหล็กแท่งยาวถูกปักเข้ากลางหลังทะลุหน้าอกของไอ้ขี้เมาออกมาอย่างน่า
สยดสยอง เต้มองคนที่ช่วยเหลือตาข้าง นี่เป้ยเป็นคนช่วยเขาหรือเนี่ย
"ฉันลืมบอกนายไปว่า ฉันโดนไล่ออกจากโรงเรียนเพราะทำร้ายนักเรียนหญิง5คน
พิการ...ฉัน คน เดียว ทำ ร้าย คน 5 คน พิ การ" เป้ยหยักคิ้วให้เต้
"เฮ๊ย ไข่ดำตายแล้ว ถอยเถอะ" เตี้ยขี้ยาบอกอย่างหวาดๆก่อนออกวิ่งนำลูกน้องหาย
ไป
เป้ยกับเต้เดินมาหยุดนั่งที่สวนสาธารณะใกล้ๆ
"เฮ้อ จุกชะมัด เพิ่งกินอิ่มๆแล้วมาบู๊ต่อ จุกเป็นบ้า" เต้นั่งบ่นอุบอิบ
"นายบู๊เก่งเนอะ แต่ไม่ค่อยระวังหลังเลยนะ ที่หลังหัดระวังบ้างสิ" เป้ยแกล้งทำเป็น
โมโห
"อืมคร๊าบ..เป้ยก็เก่งใช่ย่อยน่ะ คิดยังไงเอาเหล็กนั้นมาแทงมันล่ะ" เต้ถามพลางนึก
ภาพตอนนั้นแล้วก็ขนลุกขึ้นมา
"มีของตั้งไว้ให้แล้ว ก็นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สิ" เป้ยยิ้มยิงฟังก่อนจะพูดขึ้นมาต่อว่า
"ก็เหมือนตอนที่ฉันทำร้ายพวกนั้นทั้ง5คนแหละ ฉันเอาช้อนพรวนดินหรือไม่ก็ซ่อม
พรวนดินที่อยู่แถวนั้นแทงพวกมันซะเดี้ยงเลย" เป้ยบอกเรียบๆ
"หัวคิดดีนี่นา" เต้หัวเราะก๊ากออกมาอย่างอดไม่อยู่
"นั่น! พ่อกับแม่นิ" เป้ยยืนขึ้นรีบลากเต้ออกมาจากตรงนั้นวิ่งไปที่อื่น
เป้ยกับเต้ยืนหอบอยู่ในมุมตึกที่ไม่ค่อยมีผู้คนเดินผ่าน
"ตกลงเธอจะไม่กลับบ้านจริงๆใช่ไหมเนี่ย" เต้หันมาถามพร้อม
"อื้ม" เป้ยตอบเสียงเบา
"ไม่ไปแอบลาท่านหน่อยหรอ เออ..ไม่อยากรู้หรอว่าท่านเป็นยังไงเวลาหาลูกสาวไม่
เจอนะ" เต้หันไปมองเป้ยก่อนจะหันไปมองรอบๆ
"....ก็ได้" เป้ยตอบ
พระจันทร์ทอแสงส่องสว่างมากระทบหลังคาบ้านเล็กๆที่เงียบเชียบเหมือนบ้านร้าง
ไม่มีผิด เป้ยกับเต้แอบย่องเข้ามามองดูอยู่ทางหน้าต่างบานเล็กๆ ในบ้านมีแสงไฟ
สว่างเต็มไปหมด บนโต๊ะมีกล่องของขวัญชิ้นใหญ่2ชิ้นประดับตกแต่งอย่างสวยงาม
รอบๆมีสายรุ้งห้อยลงมา บนโซฟามีหญิงวัยกลางคนนั่งร้องไห้เอาเป็นเอาตาย ต่าง
จากชายวัยกลางคนอีกคนที่กำลังจุดเทียนบนเค้กหน้าชื่น
"คุณจัดงานทำไมค่ะ ลูกไม่อยู่น่ะค่ะ เขาคงไปอยู่ที่ไหนสักแห่ง" ภรรยาสาวบอก
"ก็วันนี้วันเกิดลูกน่ะคุณ ผมก็อยากจัดให้ลูกบ้างนานๆครั้งนะ" คนเป็นพ่อตอบยิ้มๆ
"แต่มันเป็นวันเกิดที่ไม่มีเจ้าของงานน่ะค่ะ แล้วคุณจะจัดมันขึ้นมาเพื่ออะไร" ภรรยา
ขึ้นเสียงก่อนจะร้องไห้หนักขึ้นกว่าเดิม
"เพื่อลูกไง"
เต้หันมามองเป้ยที่ตอนนี้น้ำตาเธอไหลไม่หยุด
"ลาก่อนค่ะพ่อ แม่" พูดจบเป้ยกับเต้ก็เดินจากไป ทิ้งให้ผู้มีพระคุณทั้ง2จมอยู่กับ
ความเศร้า
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น