ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO-SF-SUDO] ร้อยเรื่องเล่า

    ลำดับตอนที่ #4 : OS-SUDO : ครูครับ ช่วยสอนให้ผมรู้จัก...

    • อัปเดตล่าสุด 20 ต.ค. 56


    SUDO : ครูครับ ช่วยสอนให้ผมรู้จัก...


     

    มันมีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นมากมายในชีวิตคนเรา

    ทั้งเรื่องที่เข้าใจได้ง่าย

    ทั้งเรื่องที่เข้าใจได้ยาก

    ทั้งเรื่องที่ควรจะเข้าใจ แต่...ก็ไม่อาจจะเข้าใจได้

     

    ทุกสิ่งบนโลกนี้ล้วนรอการค้นหาคำตอบ ...และคำตอบที่ผมอยากรู้นั้น ผมต้องค้นหามันได้ยังไงกัน 

     

    ผมก็แค่เด็กชายม.ปลายธรรมดา คนหนึ่งที่เรียนหนังสือไม่เอาไหน ชอบโดนเพื่อน ๆ ในห้องแกล้งอยู่เป็นประจำ  ที่ผมยอมให้เพื่อน ๆ คอยแกล้งอยู่เสมอนั้น ไม่ใช่ว่าผมไม่สู้คน แต่เพียงแค่ผมต้องการเป็นที่ยอมรับของใครสักคนหนึ่งเท่านั้น

     

    วันนี้ก็เหมือนเช่นทุกวัน  อากาศร้อนอบอ้าวในฤดูฝน  เมฆหนาก่อตัวครึมดำมาแต่ไกล  เมฆสีขาวแสนสวยไม่มีให้เห็นในตอนนี้  ผมมองออกไปนอกหน้าต่าง  มองดูพวกนักฟุตบอลวิ่งรนรานเข้ามายังตัวอาคารเพื่อหาที่หลบฝน

    ..ตกจนได้สินะ..

    ผมยื่นมืออกไปนอกหน้าต่างเพื่อรับเม็ดฝนที่กำลังกระหน่ำตกลงมาอย่างบ้าคลั่ง เย็นจังเลยนะเจ้าเม็ดฝน  เม็ดฝนถึงจะรั่วลงสู่พื้นดิน แต่มันก็ยังสร้างประโยชน์ต่อไปได้ ต่างจากผมที่ไม่มีค่าอะไรเลย

     

     

     

    **OS SUDO : ครูครับช่วยสอนให้ผมรู้จัก..**

     

     

    “นักเรียนทำความเคารพ”  เสียงหัวหน้าห้องดังขึ้นเมื่ออาจารย์ประจำชั้นเดินเข้ามาในห้อง  ชายหนุ่มร่างเล็ก ลุกขึ้นทำความเคารพดังเช่นเพื่อน ๆ ในห้อง เช่นกัน

    “นั่งลงได้”

    “ขอบคุณครับ(ค่ะ)”

    “นี่ โด คยองซู ช่วยปิดหน้าต่างด้วย  นายคงไม่อยากให้ห้องเรียนของเราเต็มไปด้วยน้ำฝนหรอกนะ”  อาจารย์ประจำชั้นตะโกนบอกจากหน้าห้อง  เด็กหนุ่มโค้งรับแล้วเอื้อมมือไปปิดหน้าต่างตามที่อาจารย์สั่ง

    ลมเย็นที่พัดโชยมาพร้อมเม็ดฝนหายไป  บรรยากาศห้องเรียนที่แสนอึดอัดก็แทรกเข้ามาทั้งที  ถึงแม้จะปิดหน้าต่างไปแล้ว  แต่เด็กหนุ่มร่างเล็กก็ยังคงทอดสายตาออกไปด้านนอกเช่นเคย  ภาพเด็กชายที่อยู่ท้ายห้อง อยู่ในสายตาของชายหนุ่มที่เข้ามาใหม่ตลอดเวลา

     

    “แย่จังเลยนะ  มาวันแรกก็โดนเมินซะขนาดนี้แล้ว”  เสียงที่ดังขึ้นข้างหูทำให้คยองซูที่กำลังเหมอลอยอยู่ถึงกับสะดุ้ง 

    “โอ้ย!!”  ชายหนุ่มร้องออกมาเบา ๆ เมื่อโดนคนตัวเล็กกว่าสะดุ้งจนศีรษะโขกกับปลายคางของเขา

    “นอกจากจะทำเป็นเมินใส่แล้ว ยังคิดทำร้ายร่างกายกันอีกหรอ” คยองซูเงยหน้าชายแปลกหน้าตรงหน้าที่ส่งรอยยิ้มมาให้  ใบหน้าขาวใสเนียนละเอียดบ่งบอกให้รู้ว่าเป็นชายที่มาจากตระกูลดีมีฐานะ ริมฝีปากสีชมพูอิ่มที่บ่งบอกว่าเป็นชายมีสุขภาพดี  ผู้ชายที่สวยยิ่งกว่าผู้หญิง  เสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่มีเพียงเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว เข้าในกางเกงสเลคสีดำ รองเท้าขัดเงาวาววับแม้จะเป็นหน้าฝน

    “คุณเป็นใคร”  คยองซูเอ่ยถามออกมา  พรางเหลือบมองไปรอบ ๆ ห้อง  นี่เพื่อน ๆ ของเขาไปไหนกันหมดแล้วละ  ทำไมไม่มีใครเรียกเขาเลยนะ  คาบต่อไปเป็นวิชาพละ  เขาต้องไปเปลี่ยนชุดพละแล้วละสิ  แล้วผู้ชายคนนี้เป็นใคร ทำไมถึงเข้ามาในห้องเรียนของเขาได้

    “โดนเมินโดยสมบูรณ์แบบเลย”  เขาทำท่าทางเหมือนเสียใจมากที่ถูกเมินใส่ แล้วคยองซูจะไปเมินใส่คนที่เขาไม่เคยรู้จักได้ยังไง

    “นี่คุณ”  คยองซูรู้สึกว่าเขากำลังโดนคุกคามจากคนตรงหน้า

    “เรียกทำไมครับ”

    “ผมไม่รู้นะว่าคุณเป็นใคร ต้องการอะไร  แต่ผมต้องขอตัวก่อนนะครับ ผมมีเรียนวิชาต่อไป” คยองซูลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองชายแปลกหน้าอีก

    “เป็นเด็กที่น่าสนใจจริง ๆ ด้วย”  ชายแปลกหน้าที่ว่า  เดินออกจากห้องไปเช่นกัน

     

     

    “ฉันนึกว่านายจะโดดพละซะอีก เห็นไม่ยอมลุกจากที่” เสียงเพื่อนตัวเล็กของคยองซูร้องทัก

    “เรียนสิ ฉันยังไม่อยากโดดเรียนตั้งแต่คาบแรกหน่ะสิ”

    “นายว่า อาจารย์ผู้ช่วยสอนคนใหม่เป็นยังไงบ้าง หล่อนะว่าไหม”  คยองซูยืนอึ้งจ้องหน้าเพื่อนตัวเล็กนิ่งสนิท

    “อาจารย์จุนมยอน ทั้งขาว ทั้งหล่อ โปรไฟล์ก็ดี เสียอย่างเดียวตัวเตี้ยไปหน่อย”

    “อาจารย์จุนยอนหรอ”  คยองซูยังคงงงกับสิ่งที่เพื่อนพูด

    “คยองซู นี่นายเอาแต่เหมออีกแล้วสินะ”

    “ขอโทษทีแพคฮยอน ฉันเหมอจริง ๆ”

    “เอาหน่ะ ๆ เดี๋ยวยังไงก็ได้เจออาจารย์อีกอยู่ดี  เพราะอาจารย์ต้องตามพวกเราไปเรียนทุกวิชาอยู่แล้ว ตอนนี้นายรีบเปลี่ยนเป็นชุดพละก่อนดีว่า เดี๋ยวฉันไปรอที่โรงพละนะ”

    พยอน แพคฮยอน เพื่อนคนแรกในโรงเรียนของคยองซู หรือควรจะเรียกว่าเพื่อนคนเดียวของเขาเลยก็ว่าได้  เพราะคยองซูเป็นเด็กผู้ชายตัวเล็ก ๆ ขาว ๆ  รูปร่างบอกบาง  ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง ขี้โรค  แถมหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู  ดวงตากลมโตใสบริสุทธิ์ คู่คิ้วเรียวสวยราวจิตรกรชั้นเลิศวาดไว้  จมูกโด่งรั้นรับกับริมฝีปากอิ่มหนารูปหัวใจ  เขาควรเป็นที่รักของทุกคน  แต่ป่าวเลย  เขากลับโดนใครหลายคนกลั้นแกล้งเพียงเพื่อให้คยองซูดูแย่ลงสักนิดในสายตาคนอื่น  ด้วยความน่ารักน่าทะนุถนอม จึงเป็นที่หมายปองของชายหนุ่มมากกว่าหญิงสาว

    ใช่แล้ว...

    คยองซูมักโดนกลั้นแกล้งจากเพื่อนผู้หญิง เพราะเขาไปแย่งความสนใจจากชายหนุ่มที่พวกเธอหมายตาไว้ เพื่อน ๆ คนอื่นต่างไม่มีใครสนใจรึคิดจะให้ความช่วยเหลือคยองซูเลยสักนิด เพราะไม่อยากโดนลูกหลง  และไม่อยากหาความลำบากเข้าใส่ตัวเอง  พวกเขามักคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยของผู้หญิง แต่เขาคงลืมไปแล้วว่าคยองซูก็คือเด็กผู้ชาย

    ในปีแรกที่เขาเข้ามาเรียนในโรงเรียนแห่งนี้  เขาที่โดนกลั้นแกล้งเป็นประจำเริ่มทนไม่ได้ เผลอไปตอบโต้จนเป็นสาเหตุให้เด็กผู้หญิงคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บ  เขาโดนทัณฑ์บนโดยไม่ถามหาสาเหตุใด ๆ อาจารย์ในโรงเรียนไม่มีใครคิดถามสักนิดว่าทำไม เขาถึงได้มีเรื่องทะเลาะกับเด็กผู้หญิง

    เขาเริ่มโดนเรียน ทำตัวเกเร มีเรื่องชกต่อย และความเย็นชาก็เข้ามาเกาะกุมหัวใจของเขา  วันหนึ่งที่เขาคิดว่าไม่จำเป็นต้องมีชีวิตอยู่แล้ว  เขาเดินขึ้นไปบนดาดฟ้าของโรงเรียน  คิดจะจบชีวิตแสนบัดซบนี้ลงเสียที  แต่มีมือเล็ก ๆ คู่หนึ่งของเพื่อนใหม่ในห้องเรียนที่ยื่นมากุมเขาไว้  แล้วร้องออกมาอย่างบ้าคลั่งว่า หากเขาจะโดดลงไป ก็ขอให้ดึงมือเพื่อนใหม่คนนี้ลงไปด้วย  “พยอน แพคฮยอน”

    แพคฮยอนเข้ามามีบทบาทในชีวิตของเขามากขึ้น ทำให้ชีวิตที่อ้างว้างของเขาเริ่มสดใสขึ้นมาอีกครั้ง และแล้ววันที่เริ่มหวนคืนสู่ความเหงาป่าวเปลี่ยวก็กลับมาอีกครั้ง วันที่แพคฮยอนตัดสินใจคบกับชานยอลเพื่อนต่างห้อง

     

     

    “โดนแกล้งตั้งแต่วันแรกที่มาเรียนเลยสินะ”  คยองซูถอนหายใจออกทันทีที่เห็นชุดพละในตู้ของเขา  กางเกงพละ ถูกตัดออกจนสั้น  เขาคงไม่มีทางเลือกอื่นแล้วสินะ  ต้องใส่มันไปเรียนทั้งอย่างนี้

     

     

    **OS SUDO : ครูครับช่วยสอนให้ผมรู้จัก..**

     

     

    “นี่มันชุดบ้าอะไรของเธอ โด คยองซู” ทันทีที่เขาก้าวท้าวเข้าไปในโรงพละ  อาจารย์ก็ตะคอกออกมาเสียงดัง ทำให้เพื่อน ๆ ที่ยืนเข้าแถวอยู่กลางห้องหันมามองเขา  เสียงซุบซิบดังขึ้นทันทีหลังจากทุกคนเห็นสภาพชุดพละของคยองซู

    “ชุดพละครับ” คยองซูตอบออกมาอย่างเซ็ง ๆ ถึงแม้เขาจะพูดอะไรออกไป ก็คงโดนด่าอยู่ดี

    “เมื่อไหร่จะเลิกสักที ไอ้อาการเรียกร้องความสนใจนี่”  คยองซูดึงข้อมือแพคฮยอนไว้  ห้ามไม่ให้ตอบโต้ ไม่เช่นนั้นเขาคงโดนหนักกว่าเดิมแน่   

     

     

    “วันนี้เราจะเรียนการเลี้ยงลูกฟุตบอลกัน” สายตาของคยองซูเริ่มเหมอลอยทันทีที่อาจารย์เริ่มเข้าสู่บทเรียน แล้วเขาก็ชะงักเมื่อเห็นชายแปลกหน้าคนหนึ่งอยู่ตรงนั้น

     

    ..อ่า ชายแปลกหน้าคนนั้นเป็นอาจารย์ผู้ช่วยสอนสินะ นี่เราคงโดนหมั่นไส้ไปแล้ว ช่างเถอะยังไงก็ไม่มีใครชอบขี้หน้าคนอย่างเราอยู่แล้ว..

     

    อาจารย์ประจำวิชาอธิบายเทคนิควิธีการเลี้ยงลูกบอกแบบพื้นฐานให้นักเรียนฟัง แล้วปล่อยให้นักเรียนได้ลองเลี้ยงลูกกันตามอัธยาศัย  คยองซูเลี่ยงไปนั่งหลบมุมที่สแตนเชียร์  กางเกงที่โดนตัดออกจนสั้น  เวลานั่งขากางเกงก็กางออกโชว์เนื้อขาวด้านใน

    “จงใจตัดกางเกงตัวเองยั่วผู้ชายสินะ” หญิงสาวร่างเล็กขาวอวบ ผมยาวสลวยเดินเข้ามาทักทาย ไม่สิ เข้ามาพูดจาถากถางคยองซู

    “มินนา เธอก็รู้ว่าเขาชอบยั่วเรี่ยราด นี่คงตัดเองอย่างที่เธอว่าไม่ต้องสงสัยเลย”  สองสาวเข้ามาระรานคยองซูที่นั่งอยู่ 

    “พวกเธอก็รู้ว่า ฉันไม่ได้ทำ”  คยองซูตอบออกมาเสียงบางเบา

    “ใครจะไปเชื่อนายกันยะ”  มินนาจะดึงขากางเกงของคยองซูขึ้นเพื่อโชว์เนื้อด้านใน แต่เสื้อวอร์มแขนยาวตัวใหญ่ส่งมาคลุมขาวเนียนขาวของคยองซูไว้

    “นายจะนั่งอยู่ตรงนี้สินะ ฉันฝากเสื้อไว้หน่อยนะ มันร้อน”  อาจารย์หนุ่มเอามือโบกพัดไปมาราวกับว่าร้อนมาก  คยองซูมองหน้าอาจารย์จุนมยอนใบหน้าเต็มไปด้วยความสับสน

    “อ้าว พวกเธอไม่ไปเตะฟุตบอลกันหรอ”  เมื่อได้ยินเสียงฮึดฮัดจากเด็กสาว จุนมยอนก็ทำเป็นเหมือนว่าเพิ่งรู้ว่ามีเด็กสาวอีกสองคนอยู่ตรงนี้

    “กล้ามากเลยนะคะ อาจารย์ แล้วเราจะได้เห็นดีกัน” มินนาออกเสียงพอให้ได้ยิน ก่อนจะลากเพื่อนสาวของเธอจากไป

     

    “ขอบคุณครับ อาจารย์” คยองซูกล่าวออกมาเบา ๆ พอให้จุนมยอนได้รับรู้

    “ฉันนึกว่าจะไม่ได้ยินคำขอบคุณจากนายซะแล้ว”  จุนมยอนยิ้มกว้างให้คยองซู  ขยี้หัวคยองซูเล่นจนยุ่งไปหมด  คยองซูไม่ได้ยอมให้เล่นหัวง่าย ๆ เช่นเดียวกัน เขาพยายามหลบมืออันแสนอบอุ่นของจุนมยอน  ภาพของทั้งคู่อยู่ในสายตาของมินนาและเพื่อนสาวของเธอ และแพคฮยอนด้วยเช่นกัน

    “คอยดูนะ ฉันจะไม่ให้อภัยอาจารย์จุนมยอนแน่ ๆ ที่ให้ความช่วยเหลือเจ้าคยองซูนั้น”

     

    “ที่จริง  อาจารย์ไม่จำเป็นต้องมาช่วยผมหรอครับ”

    “ทำไมนายถึงพูดอย่างนั้นหละ”  จุนมยอนนั่งลงตรงที่วางข้าง ๆ คยองซู

    “ถ้าอาจารย์ยังอยากจะสอนที่นี้อย่างสงบสุขละก็  อย่ามายุ่งกับผมจะดีกว่าครับ”  ถึงแม้ว่าจะรู้สึกดีใจที่มีคนมาทำดีด้วย  แต่ถ้าการที่คน ๆ หนึ่งทำดีกับเขาแล้วต้องแลกกับความลำบากที่จะเกิดขึ้น เขาไม่ขอรับมันไว้จะดีกว่า  มินนาเป็นลูกสาวของรองผู้อำนวยการ  เขารู้ดีว่าจะต้องมีเรื่องแย่ ๆ   เกิดขึ้น  กับอาจารย์     จุนมยอนแน่นอน เขาไม่อยากโดนเกลียดมากกว่านี้อีกแล้ว

    “ฉันไม่แคร์หรอกนะ  ถ้าที่นี้ไม่รับฉันทำงาน ฉันก็แค่ไปหางานที่อื่นทำ  ฉันไม่ยอมให้ลูกศิษย์คนโปรดของฉันโดนรังแกแน่นอน”  คำพูดที่ดูเอาแต่ใจ  แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นซึมลึกผ่านขั้วหัวใจของคยองซู  เขารู้สึกว่าเขากำลังถูกให้ความสำคัญ  คำ ๆ  นี้มันหายไปจากชีวิตเขาไปนานแล้ว

    “แต่..”

    “ไม่ต้องมีแต่  ถ้านายอยากตอบแทนฉันละก็  นายต้องตั้งใจเรียน  แล้วก็คอยส่งรอยยิ้มให้ฉัน  เข้าใจไหม”  จุนมยอนตบบ่าคยองซูเบา ๆ  เขาควรจะไปช่วยอาจารย์ประจำวิชาดูแลนักเรียนคนอื่น ๆ ได้แล้ว

    “อาจารย์ครับ”  จุนมยอนหันหลังกลับมามองคยองซู  คยองซูค่อย ๆ ฉีกยิ้มขึ้นมาทีละนิด  กล้ามเนื้อที่ลืมวิธีการยิ้มไปแล้ว ถึงแม้มันจะดูฝืนแต่มันก็มาจากใจ

    “ขอบคุณครับ”  อาจารย์หนุ่มยิ้มให้  หันหลังกับ  ชูสองนิ้วเป็นตัววีแล้วเดินจากไป

     

     

    **OS SUDO : ครูครับช่วยสอนให้ผมรู้จัก..**

     

     

    “คยองซู  นายรู้จักกับอาจารย์จุนมยอนมาก่อนหน้านี้หรอ”  ในช่วงพักเที่ยงแพคฮยอนที่ทานข้าวเสร็จแล้วเดินขึ้นมาหาคยองซูที่ดาดฟ้าเอ่ยถามขึ้นมา

    “ป่าวหนิ  ทำไมหรอ”  คยองซูปิดสมุดวาดภาพลง  บิดซ้ายทีขวาทีไล่ความเมื่อยล้าออกจากร่างกาย

    “ก็เห็นพวกนายดูสนิทกัน”

    “อืม.. ไม่ได้สนิทอะไรขนาดนั้นหรอก”

    “ขื่นสนิทกับนาย ก็ต้องมีปัญหาแน่ ๆ”  คำพูดแสนจะธรรมดาของแพคฮยอน  ดูจะไม่ได้ธรรมดาสำหรับคยองซู

    “ฉันเตือนเขาแล้ว  ว่าอย่ามายุ่งกับฉัน”  น้ำเสียงคยองซูดูเศร้าขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

    “ก็ดีแล้วละ  นายมีแค่ฉันเป็นเพื่อนก็พอแล้ว”

    “..”  นั่นสินะ

    “นายนี่มีเสน่ห์กับคนเพศเดียวกันจริง ๆ เลย  ถ้านายคิดจะแย่งชานยอลไปจากฉันละก็ เราเห็นดีกันแน่”  อยู่ ๆ แพคฮยอนก็ทำเสียงแข็งใส่  จ้องหน้าคยองซูนิ่งบ่งให้รู้ว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นเป็นความจริง  คยองซูไม่เข้าใจความหมายที่แพคฮยอนต้องการสื่อให้รู้  ขมวดคิ้วขึ้นเป็นเครื่องหมายคำถาม  แล้ว...

    “นะ”  แพคฮยอนฉีกยิ้มกว้างให้เพื่อนพร้อมรอยยิ้มสดใสเช่นเคย

    ถึงแม้ว่า คยองซูจะไม่เข้าใจในสิ่งที่แพคฮยอนต้องการจะบอก  เขาเลิกสงสัยมันทันทีที่เห็นรอยยิ้มกว้างของเพื่อน  เขาหัวเราะประสานเสียงกับแพคฮยอน

    “พูดบ้า ๆ นายก็รู้ว่าฉันไม่ทำอย่างนั้นแน่นอน”

    “นั้นสินะ  ใกล้เวลาเรียนแล้ว เราไปที่ห้องเรียนกันเถอะ”

     

     

     

    **OS SUDO : ครูครับช่วยสอนให้ผมรู้จัก..**

     

     

     

    “นายมันน่ารักมากเลยรู้ไหมคยองซู  ฉันแอบมองนายมาตั้งนาน  แต่เจ้าแพคฮยอนก็ชิงนายตัดหน้าฉันไปซะได้”  ชานยอลเมาจนเพ้อออกมา  เขาว่าคนเมาจะไม่พูดโกหก ยกเว้นเรื่องที่บอกว่าตัวเองไม่เมา

    “นี่นายพูดบ้าอะไรของนายออกมา”  แพคฮยอนรู้สึกเจ็บปวดเป็นที่สุด  ถึงเขาจะรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว แต่เขาก็ไม่คิดว่าจะได้ยินถ้อยคำนี้เลยสักครั้ง

    “อ้าว! นี่ไม่ใช่คยองซูหนิ  นี่แพคฮยอนแฟนฉันเอง  นายรู้ไหมทำไมฉันถึงจีบนาย เพราะฉันอิจฉานายไงละ  ฉันอิจฉานายที่นายกล้าเข้าใกล้คยองซู  กล้าเป็นศัตรูของทุกคนเพื่อเป็นเพื่อนกับเขา  นายมันบ้า บ้า บ้า บ้า บ้าที่สุด”

    “นายต่างหากที่บ้า”  แพคฮยอนนั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้น  เขาเข้มแข็งพอที่จะเผชิญหน้ากับความจริง ความจริงที่ว่า ชานยอลไม่ได้สนใจอะไรในตัวเขา  เขามองร่างที่เมาจนไม่ได้สติของชานยอลที่หลับไปแล้ว

     

    ... ชอบมากเลยสินะ  ชานยอล  นายชอบคยองซูมากจนมันฝั่งไว้ในหัวใจนายตลอดมา...

     

     

    **OS SUDO : ครูครับช่วยสอนให้ผมรู้จัก..**

     

     

    “พวกเธอทำอะไร อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ” แพคฮยอนย่างสามขุมเข้าไปหามินนาและเพื่อน

    “พะ พูดเรื่องอะไรของนาย  ฉันไม่เห็นจะเข้าใจเลย”  มินนาตอบเสียงสั่นแต่ยังคงเชิดหน้าใส่

    “ฉันเห็นนะ  ว่าเธอเข้าไปในห้องแต่งตัวนักเรียนชาย”

    แล้วทำไมละ”  มินนาทำเสียงแข็งใส่

    “เธอทำอะไรกับชุดพละของคยองซู”  มินนากอดอกใส่

    “ถ้านายรู้ ทำไมไม่ห้ามละ  ทำไมนายถึงไม่อยู่เป็นเพื่อนคยองซู ทั้งที่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเขา  พวกนายเป็นเพื่อนกันไม่ใช่หรอ  เหอะ  นายเองก็อยากจะแกล้งคยองซูเหมือนกันสินะ ทำไมละ  นายกำลังจะโดนมันแย่งแฟนละสิ”  ทุกคำพูดมันบาดเข้าลึกถึงขั้วหัวใจ  คนมีปมอย่างเขาเจ็บลึกยิ่งนัก

    นี่เธอ!!

    “รึจะเถียง  ถ้านายจะฟ้องก็เชิญฟ้องไปเถอะ แล้วอย่าลืมคิดหาคำตอบละ  ว่าทำไมนายถึงไม่ห้ามฉันตั้งแต่แรก”  มินนาเดินเชิดหน้าจากไป

    มันน่าเจ็บใจนัก  เขาไม่สามารถคิดหาคำใด ๆ มาตอบโต้มินนาได้  มันเป็นเรื่องจริง เขามีความคิดชั่วๆ อย่างนั้นมาขณะหนึ่งว่า  คยองซูสมควรโดนแล้ว คยองซูก็แค่คนช่างยั่ว คยองซูกำลังจะแย่งคนรักไปจากเขา  ตอนที่คยองซูเดินเข้ามาที่โรงพละ เขายังรู้สึกสะใจที่คยองซูต้องรู้สึกอับอายเพื่อน ๆ ในห้อง  แต่ตอนนี้เขาตาสว่างแล้ว  เขารู้แล้วว่าเขากำลังทำผิดต่อเพื่อนรักของเขา

     

     

    **OS SUDO : ครูครับช่วยสอนให้ผมรู้จัก..**

     

     

    “นายมันแย่กว่าที่ฉันคิดนะ”  ชานยอลเดินเข้ามากระชากคอเสื้อแพคฮยอนดันร่างเล็กของแพคฮยอนไว้จนติดผนัง

    นี่นายเป็นบ้าอะไรของนาย”  แพคฮยอนร้องตะโกนออกมา

    “นายทำอย่างนี้กับคยองซูเพื่อนของนายได้ยังไงกัน” ตอนนี้นักเรียนคนอื่นๆ เริ่มเข้ามารายล้อมรอบๆ แล้ว

    “คยองซู คยองซูอะไรอีก”  เรื่องบ้าอะไรเนี่ย

    “ฉันได้ยินมาหมดแล้ว เรื่องที่นายไปทำอะไรกับชุดพละของคยองซู  เมื่อเช้านี้”

    “นี่นายคิดว่าฉันเป็นคนทำอย่างนั้นหรอ ชานยอล”  นี่คือผลกรรมที่เขาจะต้องชดใช้สินะ  แพคฮยอนน้ำตาคลอเบ้า  เขาสมควรได้รับบทลงโทษนี้จริงงั้นหรอ

    “พะ  แพคฮยอน”  ชานยอลเมื่อเห็นน้ำตาของแพคฮยอนก็เริ่มทำอะไรไม่ถูก

    “ชอบมากสินะ  คยองซูหน่ะ  ถ้าชอบมากขนาดนั้น  เราเลิกกันเถอะ

     

    คยองซูที่เดินเข้ามาทันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  เขายืนนิ่งอึ้งเหมือนโดนแช่แข็ง  สายตาประณามจากคนรอบข้าง สายตาที่บอกว่าแย่งแฟนเพื่อน  เขาตกใจมากที่เห็นป้ายประกาศที่ติดอยู่ที่บอร์ดตรงทางเดิน  บอกว่าพยอน แพคฮยอน  เพื่อนรักคนเดียวของเขาเป็นคนทำลายชุดพละของเขา  เขาไม่มีทางเชื่อว่าแพคฮยอนจะทำอะไรเลวร้ายอย่างนี้แน่นอน  แต่ตอนนี้ เขาเองก็กำลังสับสนและมึนงงกับข้อความที่บอกว่า ชานยอลนั้นชอบเขามากกว่าเรื่องที่ใครเป็นคนทำลายชุดพละของเขา

    เสียงซุบซิบดังขึ้น ทุกคนรู้สึกเห็นอกเห็นใจแพคฮยอนที่โดนแย่งแฟน  บอกว่าที่แพคฮยอนทำอย่างนั้นไปเพราะโดนคยองซูหักหลังแย่งคนรักของตนไปก่อน

    “นี่พวกเธอไม่เข้าเรียนกันหรอ”  เสียงหนึ่งดังขึ้นแทรกเสียงด่าทอต่อว่า  นักเรียนคนอื่น ๆ ต่างพากันแยกย้ายกันไปเข้าห้องเรียน เหลือเพียง แพคฮยอน ชานยอล คยองซู และอาจารย์จุนมยอนเจ้าของเสียงเท่านั้น

    แพคฮยอนยืนน้ำตาไหลอาบข้างแก้มเป็นทาง ดวงตาเรียวเล็กจ้องมองเพื่อนรัก  สายตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

    “แพคฮยอนอ่า” คยองซูร้องเรียกเพื่อนที่วิ่งหนีไป  เขาจะวิ่งตามแต่จุนมยอนดึงข้อมือเล็กไว้  คยองซูพยายามบิดข้อมือออกจากพันทนาการ

    “ใจเย็นก่อน”

    “อาจารย์ปล่อยผม ผมจะไปตามแพคฮยอน”

    “นี่นายโดนแกล้งขนาดนี้  ยังคิดจะไปตามเขาอีกหรอ” คยองซูหยุดดิ้นทันทีที่ได้ยินคำพูดนี้ออกจากปากของชานยอล  จุนมยอนเห็นคยองซูสงบลงแล้วจึงปล่อยมือ

     

    --ตุ๊บ—

    ทันทีที่ข้อมือบางถูกปล่อยให้เป็นอิสระ  คยองซูก็ชกลงบนหน้าชานยอลเต็มแรง

    “เลว”  คยองซูเค้นเสียงออกมาอย่างยากลำบาก

    “นายคิดว่าคนอย่างแพคฮยอนจะทำอะไรอย่างนั้นจริง ๆ หรอ”  คยองซูกำหมัดแน่นพร้อมจะตั๊นหน้าชานยอลอีกรอบ  จุนมยอนต้องพาคยองซูไปสงบสติอารมณ์ไกล ๆ

     

    ..นี่  ฉันเป็นบ้าไปแล้วใช่ไหมเนี่ย..

    คำพูดของคยองซูทำให้ชานยอลคิดได้  ตั้งแต่รู้จักกับแพคฮยอนมา  ไม่มีเลยสักครั้งที่แพคฮยอนจะคิดถึงตัวเองก่อน  เขามักจะคิดถึงคนอื่นเป็นอันดับแรกเสมอ  ไม่ว่าจะเรื่องเล็กเรื่องใหญ่  แม้แต่เรื่องที่เขาเอาแต่ใจเอาเปรียบแพคฮยอนทั้งที่ไม่พร้อม  แพคฮยอนก็เอนอ่อนยอมเขาเสมอมา  แล้วยิ่งเรื่องของเพื่อนตัวเล็กอย่าง คยองซูด้วยแล้วละก็  แพคฮยอนมักเป็นคนแรกที่ออกโรงปกป้อง

    เขากลับฟังคำพูดคนอื่นไม่ทันหยั้งคิด เขากลับใช้กำลังกับแพคฮยอนที่น่าจะเป็นฝ่ายถูกกล่าวหา แทนที่เขาจะเอ่ยถามเรื่องราวต่าง ๆ  จากแพคฮยอนเสียก่อน  ไม่ใช่ฟังความฝ่ายเดียวอย่างเช่นตอนนี้  เขามันเลว เลวเหมือนที่คยองซูว่าจริง ๆ 

    เขาหลงรักคยองซูตั้งแต่แรกเห็น  แต่เขามันคนขี้ขาด ไม่กล้าพอที่จะเข้าไปสารภาพรักกับคยองซู  เวลาคยองซูโดนกลั้นแกล้ง  โดนรังแก  เขามักแอบยืนดูอยู่ห่าง ๆ ไม่กล้าเข้าไปช่วย  แต่พอแพคฮยอนที่ย้ายเข้ามาเรียนที่นี่ตอนกลางเทอมแรกตอนปีหนึ่ง  เพราะครอบครัวย้ายเข้ามาทำงานที่ฮงอิก  แพคฮยอนที่ไม่รู้เรื่องราวอะไรเลย  เข้าปกป้องคยองซูที่กำลังโดนกลั้นแกล้ง จนตัวเองพลอยโดนแกล้งไปด้วย  แต่แพคฮยอนก็ยังคงอยู่ตรงนั้นเป็นเพื่อนคยองซู  เขารู้สึกอิจฉาความกล้าหาญนั้น  จนวันหนึ่ง  เขาก็เข้าไปขอคบแพคฮยอนเพียงเพื่ออยากใกล้ชิดกับคยองซู  ไม่คิดว่ามันจะง่าย  แต่แพคฮยอนกลับบอกเขาว่า  แพคฮยอนนั้นแอบชอบเขามานานแล้ว

    วันนี้เขาทำผิดยิ่งนัก

    ผิดที่ไม่น่าให้อภัย

    วันนี้ เขารู้แล้วว่าควรใส่ใจใครมากที่สุด

     

    แพคฮยอน ... นายจะให้โอกาสฉันอีกสักครั้งได้ไหม

     

     

    **OS SUDO : ครูครับช่วยสอนให้ผมรู้จัก..**

     

     

     

    “ฉันขอโทษ”  แพคฮยอนยืนร้องไห้อยู่บนดาดฟ้า

    “ฉัน แพ้แล้ว ฉันยอมแพ้แล้ว ฉัน .. ฮึก จะไม่รั้งนายไว้อีกแล้ว” แพคฮยอนเหนื่อยล้าเกินไปแล้ว

    “แพคฮยอนอ่า..”  ชานยอลแตะร่างเล็ก แต่ร่างเล็กก็ถดหนี

    “ฉันรู้  รู้มาตลอดเลยละ  ว่านายชอบคยองซู ไม่ใช่ฉัน  นายชอบเขาชอบมาตลอด  นายไม่สงสัยเลยหรอว่า ทำไมฉันถึงแอบชอบนาย ทำไมฉันถึงรู้จักนายอยู่แล้ว ทั้งที่เราไม่เคยคุยกัน  ตอนที่นายขอคบกับฉัน นายไม่เคยนึกสงสัยเลยสินะ”  แพคฮยอนรำพันออกมาพลางสะอื้น

    “ฉันทำทุกอย่างเพื่อให้นายรักฉัน ฉันยอมทน ทนให้นายทำกับฉันแล้วครางเรียกชื่อคยองซู นายรู้ไหมว่าฉันเจ็บปวดมากแค่ไหน”  ชานยอลทรุดตัวลงตรงหน้าแพคฮยอน นี่เขาทำร้ายคนตรงหน้าถึงเพียงนี้เชียวหรอ

    “ฉันขอโทษ” มันเป็นคำพูดเดียวที่เขาสามารถเอ่ยออกมาได้ แต่มันไม่ใช่คำที่ทำให้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นไปแล้วดีขึ้นมาได้  โดยเฉพาะความรู้สึกของอีกคนที่บาดเจ็บมาแสนนาน

    “แต่เรื่องทุกอย่าง มันยังไม่เจ็บปวดมากไปกว่า การที่นายบอกว่า ฉันเป็นคนทำร้าย เป็นคนกลั้นแกล้งเพื่อนของฉัน  ฉันว่า เราสองคนมาจบเรื่องทุกอย่างลงตรงนี้กันดีกว่า”

    “ไม่นะ  แพคฮยอน ไม่นะ  ฉันไม่มีทางเลิกกับนายเด็ดขาด”  ชานยอลกอดร่างเล็กไว้แน่น

    “นายจะเป็นฝ่ายรั้งฉันไว้อย่างนั้นหรอ  ฉันปล่อยนายไปแล้ว นายจะกลับมาหาฉันอีกทำไม ไปหาคนที่นายรักเถอะ”  แพคฮยอนทุบลงที่ลาดไหล่ของชานยอลที่คุกเข่าสวมกอดเขาอยู่

    “ฉันขอโทษ แพคฮยอนฉันขอโทษ”

    “ฉันเจ็บมากเกินพอแล้ว ชานยอล ฉันทนไม่ไหวแล้ว”  แพคฮยอนทรุดตัวลง  ชานยอลสวมกอดไว้แน่น  กลัวว่าร่างเล็กของคนตรงหน้าจะหายจากไป

    “ฉันขอโทษ  นายให้โอกาสฉันอีกสักครั้งได้ไหม  ให้ฉันมีโอกาสเป็นฝ่ายรั้งนายไว้บ้าง  ถึงแม้ตอนนี้ถ้าฉันบอกนายไปว่า ฉันรักนาย  นายคงเชื่อไม่สนิทใจว่าตอนนี้ ฉันรู้ตัวแล้วว่าฉันรัก และต้องการใคร  นายให้ฉันใช้โอกาสให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ความรักของฉันได้ไหม?  แพคฮยอนได้ไหม”  ร่างเล็กซุกเข้าหาอกกว้างต้องการความอบอุ่น เขารักชานยอลเสียจนแสร้งทำใจแข็งไม่ได้เชียวหรือ

    “แพคฮยอน  เรามาเริ่มกันใหม่อีกครั้งนะ”

    “อื้อ”

     

    เขาว่า...

    มีครั้งแรก ก็มักจะมีครั้งที่สองตามมา

    แต่ผมขอเลือกที่จะให้โอกาสคนตรงหน้านี้ไม่ได้ไหมครับ?

     

     

    **OS SUDO : ครูครับช่วยสอนให้ผมรู้จัก..**

     

     

    “อาจารย์ปล่อยผมนะ  ผมจะไปหาเพื่อนของผม”  คยองซูที่ถูกพามาสงบสติอารมณ์ที่ห้องพยาบาลยังคงดึงดันจะไปหาแพคฮยอนอยู่เหมือนเดิม

    “ช่วยใจเย็น ๆ  ก่อนได้ไหม  ถ้านายไปหาแพคฮยอนตอนนี้ มีแต่จะทำให้เรื่องทุกอย่างมันวุ่นวายมากกว่าเดิมนะ  เชื่อฉันเถอะ”

    “แต่ผมเป็นห่วงแพคฮยอนนิครับ”

    จุนมยอนส่งยิ้มอบอุ่นให้คนตัวเล็ก  มือหนายกขึ้นลูบหัวคยองซู  คยองซูมองหน้าอาจารย์ผู้ช่วยสอนใบหน้าเต็มไปด้วยคำถาม

    “แพคฮยอนมีคนปลอบแล้ว  นายไม่เห็นท่าทีร้อนรนของเจ้าตัวสูงนั้นตอนตามแพคฮยอนไปรึไง” 

    “..” คยองซูส่ายหน้าปฏิเสธ

    “คยองซู”

    จุนมยอนลากเก้าอี้ตรงมุมหน้ามานั่งข้างเตียงพยาบาลที่คยองซูนั่งอยู่  เขาคว้ามือคยองซูขึ้นมาประคองแนบหน้าของเขา  ทุกการกระทำสร้างคำถามมากมายให้แก่  คยองซู

     

    “อาจารย์...”

    “..”  จุนมยอนเงยหน้าขึ้นมอง

    “เป็นไรมากป่ะครับ”

    มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอกน่า ที่จะมีคนมาทำใจดีกับเขา โดยไม่หวังผลตอบแทน  อาจารย์คนนี้ เพิ่งจะเจอเขาวันแรก กลับมาทำท่าทีสนิทสนมอย่างนี้ มันคงมีบางอย่างแอบแฝงมาอย่างแน่นอน

     

    “นายจำฉันไม่ได้จริง ๆ สินะ”

    “เราเคยรู้จักกันหรอครับ”

    “นายจำพี่จุนคนนี้ของนายไม่ได้แล้วหรอ?”

    “พี่จุน?”  คยองซูเอียงหน้าถาม

    “พี่จุนลูกชายคุณครูคิมของนายไง”

    “พี่จุน!@! คราวนี้คยองซูถึงกับร้องเรียกเสียงดัง

     

    “ใช่แล้ว  จำได้แล้วสินะ”

     

    “คิดถึงจังเลย”  ร่างเล็กส่วนกอดอาจารย์หนุ่มแน่น

    “ไม่เจอกันแค่สิบปี ทำไมจำพี่ไม่ได้”

    “แค่สิบปีเองเนาะ”

     

    “ระหว่างพี่ไม่อยู่  คยองซูคนนี้กลายเป็นเด็กขี้แง่อย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่”

    “เรื่องมันเยอะ”

    “ไม่ต้องเล่าหรอก  พี่รู้ทุกอย่างแล้ว  แม่พี่เล่าให้ฟังหมดแล้ว”

    “ครูคิมนั้นหรอครับ ครูคิมรู้เรื่องของผมได้ยังไง ทำไมครูคิมจำผมได้”

    “ก็เพราะว่า...”  จุนมยอนเว้นระยะ  คยองซูเขย่าแขนแร่งเอาคำตอบ

    “เพราะว่าอะไรฮะ” พอรู้ว่าเป็นพี่ชายที่รู้จักกันมานาน คำลงท้ายจึงเปลี่ยนไป

    “เพราะนาย”

    หา!  เพราะผม  ผมไปทำอะไรอีกฮะ”

    “เพราะนายเป็นสาเหตุทำให้พี่ยอมเป็นครู  ตามที่พ่อกับแม่พี่ต้องการ  แม่พี่เขาเลยคอยดู  คอยตามข่าวนายอยู่ห่าง ๆ”

    “การที่พี่จะเป็นครูรึไม่เป็น มันมาเกี่ยวอะไรกับผมเนี่ย”

    เด็ก  ก็ยังคงเป็นเด็กอยู่วันยังค่ำ  คยองซูวัย 8 ปีของเขา รึคยองซูวัย 18 ปี  ไม่ได้แตกต่างไปเลยในสายตาของเขา

    “เพราะพี่รักนาย”

    “...”  คยองซูทำตาโต  ยกมือปิดปากไว้ด้วยความตกใจ

    “พี่รักนาย  แม่พี่ถึงส่งพี่ไปเรียนที่อื่นทันทีที่พี่บอกท่านไป  โดยมีข้อแลกเปลี่ยนไว้ว่า  ระหว่าง 10 ปีนับจากวันนั้นพี่ต้องไม่เจอนายอีก  พี่ต้องตั้งใจเรียนครู เพื่อมาบริหารโรงเรียนในเครือต่อจากพ่อ  ถ้าระหว่าง 10 ปีนั้น พี่ยังคงรู้สึกรักนาย  แม่พี่ก็จะยอมให้พี่เจอนาย  นายรู้ไหม พี่ทรมานมากแค่ไหน  พี่อยากเจอหน้านาย  อยากกอดนาย  พี่รักนายนะ พี่รักคยองซู”  จุนมยอนอธิบายทุกสิ่งให้คยองซูฟัง

     

    คิม จุนมยอน  พี่ชายที่แสนใจดีของเด็กน้อย  โด คยองซู  ตอนเขาเรียนอยู่เกรด 2 ก็โดนเพื่อน ๆ แกล้งเหมือนตอนนี้ แต่ไม่หนักหนาเท่าตอนนี้เท่านั้น  พี่จุนมยอนของเขาเป็นประธานนักเรียนลูกชายของคุณครูคิม ซูยอง  คุณครูคนสวย ครูประจำชั้นของเขา  มักจะเข้ามาปลอบเขาอยู่เสมอ  มักมานั่งเล่นเป็นเพื่อนในเวลาพักเที่ยง  นั่งรอรถคุณพ่อที่จะมารับในตอนเลิกเรียน  แต่อยู่ ๆ พี่จุนมยอนก็หายไปจากชีวิตของเขา ตอนกลางเทอม  โดยไม่ได้บอกกล่าว 

    การที่ได้รับรู้ว่า พี่ชายใจดีของเขากลับมาแล้ว  เป็นเรื่องมหัศจรรย์สำหรับเขาจริงๆ แต่ครั้นได้รับรู้ความรู้สึกของพี่จุนมยอนแล้ว  เขากลับรู้สึกลังเล  ลังเลว่า เขาสมควรได้รับความรักครั้งนี้มารึไม่

     

     

     

    “พี่ไม่น่าทำลายความฝันของพี่เพื่อผมเลย”  คำตอบที่ออกจากปากคนตัวเล็กสร้างความเจ็บปวดให้จุนมยอน

    “คยองซู นายมองดูหน้าพี่สิ พี่เสียใจรึป่าวที่พี่ตัดสินใจอย่างนั้น”  ดวงตากลมโตจ้องมองไปในดวงตาสีน้ำตาลเข้มของอีกคน  รอยยิ้มรูปหัวใจค่อย ๆ ปรากฎขึ้นบนในหน้าคยองซู

    “ขอบคุณครับที่รักผม”

    “คำตอบละ”

    “ตอบอะไรละฮะ”  คยองซูก้มหน้างุดลงทันที  ใบหน้าเริ่มร้อนผ่าว

    “จะตอบรับหรือปฏิเสธ”

     

    “..”คยองซูพยักหน้าน้อย ๆ

     

     

    “ว่าไง”  จุนมยอนยิ้มกว้าง

     

    “รักฮะ” 

     

    ร่างเล็กถูกสวมกอดแน่น  ทั้งสองต่างคิดถึงกันและกัน  เรื่องร้าย ๆ คงผ่านไปแล้วสินะ

     

    ชานยอล และ แพคฮยอน กับมาคบกันเหมือนเดิม  ชานยอลใส่ใจแพคฮยอนมากขึ้น  ตอนนี้เขารู้แล้วว่าคนที่เขารัก  แท้จริงแล้วคือใคร

    แพคฮยอนและคยองซูปรับความเข้าใจกัน  เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ทั้งสองยิ่งผูกพันกันมากขึ้น  

    มินนาและเพื่อน โดนทัณฑ์บน  จุนมยอนไปหาหลักฐานจากกล้องวงจรปิดที่ทางเดินมา  ทำให้ทั้งสองรับสารภาพ จึงโดนพักการเรียนไป 1 อาทิตย์

    ผู้อำนวยการโรงเรียนคนใหม่ คิม จุนมยอน

    เหตุผลที่แท้จริงที่จุนมยอนมาที่โรงเรียนนี้  เพื่อเทคโอเวอร์โรงเรียนเอกชนแห่งนี้

     

    ส่วนคู่รักพี่จุนน้องคยอง ยังไม่ใช่เรื่องของตอนนี้  แค่รับความรู้สึกของกันและกัน  พร้อมทำหน้าที่ให้ดีที่สุดสำหรับตอนนี้ก็พ่อ

     

     

     

    **End**

     

     

     

    “นี่ คยองซู”

    “ฮ่ะ”

     

    “พอนายเรียนจบ  นายต้องเป็นแฟนกับพี่นะ”

    “บังคับอ่ะ”

    “จะเป็นไม่เป็น”

    “เป็นฮะ  ตอนนี้พี่จุน  ต้องเป็นอาจารย์จุนมยองของผมไปก่อนนะครับ”

     

     

    ...รักเด็กนี่เหนื่อยนะครับ  คุณว่าไหม...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    โปรยไว้ก่อน เผื่ออยากแต่งต่อ

    มันคือ OS ป่วง ๆ เช่นเคยค่ะ

     

    ชอบไม่ชอบ เม้นต์บอกด้วยนะ

    รู้ตัวว่าป่วงได้ใจมาก

    แต่งฟิคไปปั่นเปเปอร์ไป ดราม่ากับอาจารย์ไป เหนื่อยสุด

    แต่งสนองนี๊ดตัวเอง หาคู่นี้อ่านยาก คู่นี้น่ารักดี พี่จุนจะหลอกกินตับเด็ก

    แต่เด็กคยองมันร้ายยยยย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×