ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (SF)sj,dbsk,ss501, etc (yaoi)รับได้ทุกคู่555

    ลำดับตอนที่ #3 : Fool Love... อย่าให้ความหวัง...(kyuYe? OR kangYe?)อัพเรื่อยๆ

    • อัปเดตล่าสุด 4 ก.พ. 52


    Title:                     Fool Love... อย่าให้ความหวัง...

    Author:                Akazuki   Yumeko 

    Category:             เศร้า...รึเปล่าไม่รู้???

    Pairing:                 เอิ่ม... คยูเย่คัง?   คังเย่คยู??  คยูคังเย่???  ไม่รู้ คนต่งเมา เอิ้กๆ

    Rating:                 PG-15   (มันแปลว่าอะไร ตั้งเอง 555)

    Author notes:  ฟิคที่เกิดได้พล็อตมาจากการฟังเพลงอย่าให้ความหวังของ FFK(อ๊ะ... ยูเมะไม่สนับสนุนให้มีการแอนตี้กันนะคะ ^^"")   ออกแนวเด็กน้อยที่กำลังแอบรักใครสักคน...   ยอมรับว่าฟิคนี้น้องคยูเป็นเหยื่อค่ะ  555  เพราะว่าไปเห็นน้องคยูในคอนอะไรสักอย่างที่ทำท่ายืนด้วยมือแล้วพลาดลงมานั่งขัดสมาธิยิ้มแหะๆแล้วแบบ... กรี๊ดดดดด น่าร๊ากกกกกก(วินาทีนั่นยอมเป็นเด็กโง่ให้น้องเลยค่ะ  ไม่ไหวแล้ววววว)   บทนี้น้องคยูเอาไปเลยค่ะ  ไม่สามารถจิ้นเป็นคนอื่นได้แล้ว   ส่วนเย่กับคังมาจากไหน...  ก็มาจากคอนที่พี่แกปล้ำกันกอดกันเล่นกันทั้งงานนั่นแหละค่ะ   หมีคัง... แกทำอย่างเง้ ไม่ต้องร้องมันละล่ะเพลงน่ะ...  ฉุดซาลาเปาไปหลังเวทีเลยดีกว่า - -//   สุดท้าย...  ฟิคนี้จะถูกใจคนอ่านหรือไม่...  แต่มันสนองนี๊ดคนแต่งม๊ากมากค่ะ 555   อ่านกันดีกว่าเนอะ ^^

    ....การกระทำบางอย่างที่คุณเห็นว่าไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญ....  

     ....สำหรับบางคน...คุณอาจไม่รู้ว่ามันมีความหมายขนาดไหน....

    ....มีความหมายมากเสียจน...คนคนนั้น...   ไม่อาจห้ามใจ....

     

    Fool Love... อย่าให้ความหวัง...

     

     

    "โอ๊ย...  เหนื่อยๆ   คอแห้งด้วย   ใครมีขวดน้ำอยู่กับตัวส่งมาเลย ณ บัดนาว"   เสียงแหบๆร้องโวยวายทันทีที่พวกเขาทั้งสิบสามคนเดินเข้ามาในห้องแต่งตัวหลังจากจบคอนเสิร์ต Super Junior Super show คนแก้มป่องกวาดตามองรอบทิศก่อนจะกระโจนคว้าเอาขวดน้ำโพลาริสสีใสในมือคุณหัวหน้าวงแล้วยกกรอกปากอย่างไม่สนใจสีหน้าตกใจของคนที่เมื่อกี้ยังเป็นเจ้าของขวดน้ำนั้นแม้แต่น้อย

                "เฮ้ย!!!  ไอ้เย่...   นั่นน้ำของฉันนะ  ทำงี้ได้ไง"   อีทึกร้องลั่น หากแต่ซาลาเปาทำเพียงยักคิ้วใส่กวนๆ  แล้วตั้งหน้าตั้งตาดื่มน้ำต่อไป  ปล่อยให้คนตาสวยมองซ้ายมองขวาหาเหยื่อที่จะยอมเสียสละน้ำให้บ้าง   และแน่นอน...  น้องๆทุกคนพร้อมใจกันขยับหลีกหนีถอยห่างในทันที...   ผมรักพี่... แต่ตอนนี้น้ำดื่มมีค่ายิ่งกว่าชีวิตนะครับ...   เป็นสิ่งที่ทุกคนพร้อมใจกันคิดอย่างมิได้นัดหมาย   

                    "อ้าว... คยู...   หิวน้ำรึเปล่า?   กินมั้ยเรา"   ขวดน้ำเย็นๆแนบข้างแก้มจนร่างสูงที่กำลังยืนงงๆสะดุ้ง   หันไปก็พบกับคนที่เมื่อกี้เพิ่งไปตบตีแย่งชิงน้ำกับคุณหัวหน้าวงกำลังฉีกยิ้มแก้มแตกให้เขา   คยูฮยอนรับขวดน้ำมา  สีหน้านิ่งจนไม่อาจตีความหมาย

                    "เหงื่อออกเต็มตัวเลย  ทำไมไม่เช็ดหน้าหน่อยล่ะ"   ไม่พูดเปล่า...  คุณพี่ชายที่แสนดียังอุตส่าห์สละเอาผ้าขนหนูที่ไปหยิบมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เอื้อมแขนขึ้นซับเหงื่อให้เด็กหนุ่มเบาๆ   แววตาทอประกายแสงอ่อนโยนจนหัวใจคนบางคนชักจะอยู่ไม่สุข

                    "พี่เยซองเช็ดตัวเองก่อนเถอะครับ   พี่น่ะเหงื่อออกจนเสื้อเปียกชุ่มแล้ว"   คยูฮยอนพยายามพูดโดยไม่มองคนตรงหน้า...  แล้วนี่เจ้าตัวจะรู้ไหมว่า   เสื้อบางๆที่ใส่อยู่ปกติก็เว้าหน้าผ่าหลังจนคนมองหายใจไม่ค่อยจะทั่วท้องเท่าไหร่   ยิ่งตอนเปียกน้ำจนแนบเนื้อจนเห็นทะลุไปถึงไหนต่อไหนแล้วเนี่ย....   เซ็กซี่ที่สุดเลย...

                    ....พี่เยซอง...   อย่ามาทำให้ผมใจสั่น.....

                    "พี่มันไม่หล่อ  ไม่เป็นไรหรอก"   เยซองพูดพลางหัวเราะ   "แต่ถ้ามักเน่คยูสุดเท่ห์ของพวกเราโทรมเนี่ย เดี๋ยวเอลฟ์จะมาวางระเบิดบ้านเอสเจกัน"   ว่าพลางยกผ้าขึ้นเช็ดแก้มคยูฮยอนพร้อมกันทั้งสองข้าง   คนบางคนเลยเผลอขยับมือโอบเอวบางโดยอัตโนมัติ(เอ่อ... ไวจริงๆ - -//)

                    แน่ล่ะว่าเยซองไม่ได้คิดอะไรกับมือปลาหมึกของเจ้าน้องชายที่ใครๆพากันยกตำแหน่งคุณชายเนียนเลยแม้แต่น้อย   เจ้าตัวยังคงมองหน้าคยูฮยอนด้วยสีหน้าห่วงใยโดยไม่ปิดบัง และไม่ได้รู้ตัวเลยว่าใบหน้าคนบางคนก้มลงมาชิดจนแทบจะชนหน้าตัวเองอยู่รอมร่อ

                    "ทำไมดูหน้าแดงๆ ตาโรยๆ"  เยซองตั้งคำถาม(ตาโรยหรอ? เย่แยกตาหื่นกับตาโรยออกเปล่า?) "ไม่สบายรึเปล่าเนี่ย   งั้นคืนนี้กลับบ้านเถอะ   อย่าไปต่อเลย"   คำพูดที่ทำให้คนฟังโวยวายขึ้นมาทันที

                    "อะไรกันฮะ  ไม่เอานะ   วันนี้เราจะไปฉลองกันไม่ใช่หรอฮะ   พวกพี่จะทิ้งผมไว้คนเดียวไม่ได้นะฮะ"   เด็กหนุ่มร้องเสียงหลง

                    "อ้าว...   ก็นายดูเหนื่อยๆ  ไม่ค่อยมีแรงอ่ะ"   เยซองว่าเสียงอ่อย   "พี่ก็แค่เป็นห่วง"  

                    ....คำบางคำที่ทำให้ตื้นตันขึ้นมาได้อย่างน่าประหลาด....

                    "เอางี้...   พี่ไปบ้านกับนายก็ได้   แล้วไว้วันหลังเราไปฉลองกันสองคนเนอะ"   คนแก้มป่องเอียงหัวน้อยๆ พลางส่งยิ้มให้อย่างน่าเอ็นดู   เล่นเอาคนมองแทบหัวใจหยุดเต้น....   ไม่ใช่แค่เพียงใบหน้าเนียนใสที่มองเท่าไหร่ก็ไม่รู้สึกเบื่อ   ความแสนดีที่อีกฝ่ายมีให้อย่างล้นเหลือก็ทำให้คนบางคนไม่อยากปฏิเสธหัวใจตนเองอีกต่อไป....

                    .....พี่พูดอย่างนี้...  พี่ทำอย่างนี้....   เพราะหัวใจพี่มีผม.....   ใช่ไหม?....

                "พี่ทึก..."   เยซองหันหน้าไปหาพี่ชายตาหวาน   "วันนี้ผมไม่ไปแล้วนะพี่  จะกลับบ้านกับคยูฮยอนน่ะ"

                    "ไม่ได้นะเยเย่~~~~"   เสียงทุ้มตะโกนลั่นข้ามห้องมาในทันที   แล้วร่างสูงใหญ่ก็กระโจนเข้ามาคว้าตัวซาลาเปาไปกอดแน่น   มือนึงหยิกแก้มคนในอ้อมกอดอย่างหมั่นเขี้ยวสุดๆ

                    "วันนี้นายต้องไปดื่มกับฉันสิ   ผิดสัญญามาหลายครั้งแล้วนะ   นายไม่ไปฉันงอนนะ"

                    เยซองดิ้นเล็กน้อยพอเป็นพิธีก่อนที่จะนิ่งลงเมื่อแน่ใจว่าคนตัวใหญ่จะไม่ยอมปล่อยตนง่ายๆ   มือเรียวตีหน้าอกอีกฝ่ายเบาๆ

                    "ก็คยูไม่สบายนี่นา... ฉันเป็นห่วงน้อง....   วันนี้นายไปกินกับคนอื่นก่อนไม่ได้หรอ"   ทอดเสียงอ้อนออดอย่างน่ารักแต่คนที่ถูกพาดพิงถึงกลับรู้สึกเจ็บแปลบ....

                    ....ฉันเป็นห่วง... "น้อง"....   นั่นสิ...  ก็แค่... "น้อง"....

                    ลืมไป...  เป็นได้แค่นั้น...

                    "ก็ฉันอยากไปกับนายนี่นา....   ฉันไม่เคยดวลโซจูแข่งกับนายเลยสักที"   คนฟังตาโตแล้วรีบตอบทันควัน

                    "ไม่ต้องมาดวลกับฉัน   นายก็รู้ฉันกินโซจูได้ที่ไหน  นายชนะไปเลยเหอะ"

                    "ใครว่าคังอินอยากแข่งกับนายเล่า เยซอง...  หมอนี่มันอยากมอมเหล้านายต่างหาก  ฮ่าฮ่าฮ่า"   เสียงปริศนาดังขึ้นทันที   หนุ่มร่างใหญ่หันไปแยกเขี้ยวใส่คุณราชินีที่บังอาจรู้ทันในขณะที่คนกำลังจะถูกมอมแก้มขึ้นสีแดงเรื่อทันที

                    "หนอย...  คิดจะหลอกให้ฉันกินเหล้าแล้วเมาไม่รู้เรื่องหรอ"   เยซองพูดเสียงแหลมเล่นเอาหมีคังหน้าเหวอทำตัวไม่ถูกทันที

                    "ไม่ต้องลงทุนขนาดนั้นหรอกน่า...   ฉันง่ายกว่านั้นเยอะ... คิก~~~"   พูดเองก็อายเอง  คนบางคนเลยซุกหน้าหนีเข้ากับอกกว้างปล่อยให้ร่างสูงยิ้มแก้มปริ   ส่งสายตาแห่งผู้ชนะไปรอบห้อง   เหล่าลิงพากันเบือนหน้าหนีบรรยากาศสีชมพูแหววที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ในสถานการณ์เยี่ยงนี้

                    "ตกลงเย่... เอาไง...   เดี๋ยวฉันจะโทรไปคอนเฟิร์มที่แล้วนะ  จะไปไม่ไป"   ลีทึกเอ่ยถาม

                    "ไป....  ไปอยู่แล้วเนอะที่รัก"   เป็นคังอินที่ยื่นหน้ายื่นตาเข้ามาตอบแบบคนที่หน้าไม่บางเลยสักนิด

                    "เดี๋ยวสิคังอิน...  ใครบอกว่าฉันจะไป..."

                    "เย่จะไม่ไปหรอ?"   ร่างหนาใช้กลยุทธ์หน้าหมีเหงา...เดี๋ยวเขาก็ใจอ่อน   "เย่จะปล่อยให้คังไปคนเดียวหรอ"

                    "แต่ฉันจะกลับกับคยูอ่ะ..."   ใจอ่อนยวบไปแล้วเกินครึ่ง   แต่ที่เหลืออีกนิดหนึ่งคือความรู้สึกเป็นห่วงน้อง

                    "เย่จะทิ้งคังจริงๆด้วย"

                    "ก็คยูไม่สบาย...."   

                    "พี่เยซองไปเถอะครับ...   ผมอยู่คนเดียวได้"

                    คยูฮยอนรู้สึกเหมือนเขาถูกบังคับให้ต้องเอ่ยออกไปเช่นนั้น

                    "ไม่เอาอ่ะ คยู...   พี่ไม่สบายใจ"

                    พี่ทำอย่างนี้ผมลำบากใจกว่านะ....   

                    .....ถ้าไม่มีใจ...  ก็อย่ามาห่วงใยกันเลย....

                    "ไม่เป็นไรฮะ   ผมจะรีบกลับ รีบนอน  ไม่เถลไถล ไม่แอบเล่นเกมส์"   เด็กหนุ่มยิ้มให้   แม้ว่ายิ้มนั้นจะดูฝืดเฝื่อนเท่าใดก็ตาม

                    "ไม่ดีเลย..."   เยซองยังคงทำหน้ารู้สึกผิด   "งั้นพี่ไปส่งที่บ้านเอามั้ย?"

                    "ไม่เอาฮะ...   พี่รีบไปกันเถอะ   เดี๋ยวดึกแล้วจะได้กินกันไม่นาน"   ข่มใจอย่างถึงที่สุดก่อนจะหันไปพูดกับคังอินด้วยน้ำเสียงที่ไม่สดชื่นเลยสักนิด

                    "พี่คังอินรีบพาพี่เยซองไปเถอะฮะ   ตามใจมากๆระวังพี่เยซองเสียคนนะฮะ"

                "ไม่ต้องห่วง  ยังไงคืนนี้พี่ชายนายต้องเป็นซาลาเปาในอุ้งตีนหมีอยู่แล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า"

                    "อ๊ะ... คังอิน ฉันเจ็บนะ...  นี่คยู  รีบเข้านอนล่ะ  เดี๋ยวคืนนี้พี่จะรีบกลับ"

                    ....กลับมาทำไม...  กลับมาแต่ไม่มีใจ....

                    ....ไม่เอา...

    .....................................................................

    ห่วงฉันก็พอ  แต่เธอไม่ต้องส่ง   

    กลับเองไม่ลำบาก...เท่าไหร่  

    แล้วคืนนี้  ขอร้องได้ไหมไม่ต้องโทรมา   

    ไม่ต้องแสดงอาการ...ใส่ใจ  

    เพราะฉันไม่ชอบให้ใจสั่น  

    ....................................................................

    คา ซึม มี มอม ชุน ดา นุน มู รี ชัน ดา   ชวี มอบ ชี นัล อุท เก ฮา โก กือ ทอบ ชี นา รึล อุล ริน ดา   ซา รัง ชัม อู ซึบ ดา ชอง มัล ทู รยอบ ดา~~~

    (ผมห้ามหัวใจ และห้ามน้ำตาที่กำลังไหล   ผมพยายามจะหัวเราะแต่สุดท้ายก็ร้องไห้ออกมาอีก  ความรักช่างเป็นเรื่องน่าตลก น่ากลัวจริงๆ- Love is really pain. By : Yesung)

     

     

                เสียงครวญด้วยท่วงทำนองแสนเศร้าดังขึ้นซ้ำๆไม่ต่ำกว่าห้ารอบก่อนที่มันจะเงียบลงอีกครั้ง   ใบหน้าคมก้มลงมองโทรศัพท์มือถือสีดำสนิท   หน้าจอโชว์ภาพแก้มกลมของคนที่เขาไม่ได้รับสาย   คยูฮยอนทอดถอนหายใจ   รู้สึกผิดขึ้นมาน้อยๆที่ปล่อยให้คนโทรมาต้องรอเก้อ   แต่ครั้นจะให้เขาแสร้งยิ้มและพูดคุยเหมือนไม่มีอะไร....   เขาก็ทำใจไม่ได้จริงๆ....

     

                    รู้ดีว่าคนบางคนเป็นห่วง...   แต่คนคนนั้นจะรู้ไหม...  ความห่วงใยนั่นมันกำลังทำร้ายหัวใจของเขา.....

     

                    คยูฮยอนละสายตาขึ้นมองผนังห้องนอนตรงหน้า   โปสเตอร์วงซุปเปอร์จูเนียร์ของพวกเขาโชว์อยู่เด่นหรา   หากแต่สายตาไม่รักดีมันก็มัวแต่จะไปจับจ้องคนตาตี่แก้มซาลาเปาที่ไม่ได้โดดเด่นในภาพแม้สักนิด   หันไปอีกหน่อยก็ดันเห็นเนื้อเพลงที่คนคนนั้นเขียนทิ้งไว้ให้เขา   พอเปลี่ยนมุมไปอีกทาง...   อุปกรณ์ออกกำลังกายที่คนแก้มป่องชอบมาหยิบยืมใช้ก็ตั้งสงบนิ่งอยู่ริมห้อง  เด็กหนุ่มที่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรเลยล้มตัวลงนอนหลับตาหนีความเป็นจริงเอาเสียดื้อๆ

     

                    และแน่นอน....   ภาพคนที่คนพยายามจะลืมกลับปรากฏขึ้นมาในความทรงจำเด่นชัด...

     

                    คยูฮยอนถอนหายใจอีกครั้ง   ยอมแพ้ให้กับความรู้สึกที่เก็บอยู่ภายใน   ปล่อยให้คนคนนั้นเข้ามาวนเวียนอยู่ในความคิดโดยไม่อาจห้าม... อีกทั้งไม่รู้จะห้ามอย่างไร...

     

                    เขาชักจะเกลียดตัวเองที่อายุน้อยที่สุด...   แถมยังเข้ามาเป็นสมาชิกคนท้ายสุด   บรรดาพี่ๆทั้งหลายถึงได้มารุมดูแลเอาใจประหนึ่งเขาเป็นคุณชายตัวน้อยๆ   อารมณ์เห่อของใหม่ของพี่น่ะ  ใช่ว่าเขาจะไม่เข้าใจ   คยูฮยอนรู้ดี   บรรดาพี่ๆต้องการให้เขารู้สึกว่าตนเป็นสมาชิกคนหนึ่งของวงอย่างไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจ

     

                    แต่ที่เขาไม่เข้าใจก็คือการกระทำของพี่ชายตัวดีนี่แหละ

     

                    ก็คนบางคนชอบมายุ่งวุ่นวายกับเขา   มาวางมาดพี่ชายจอมเฮี๊ยบ ดุนู่นขู่นี่แต่สุดท้ายก็ตัวเองนั่นแหละที่เหวอได้ซะทุกอย่าง   มางอแงโวยวายว่าเขาชอบแกล้ง...ชอบปีนเกลียวคนที่อายุมากกว่า   ไม่ได้ดูเลยว่าตัวเองน่ะทำตัวเป็นพี่ที่สมควรให้ความเคารพเสียที่ไหน     ชอบมาทำเป็นเทคแคร์ห่วงใยทั้งๆที่น่าจะรู้ว่าตัวเองน่ะน่าห่วงน่าหวงยิ่งกว่าอะไร   หน้าหวานๆตาใสๆที่ชอบมองช้อนอย่างออดอ้อนเวลาที่อยากขอให้เขาทำอะไรให้   แล้วยังท่าทางของคนขาดความอบอุ่น...เดี๋ยวแตะ เดี๋ยวตีมือ  เดี๋ยวมาทำเป็นซุกหน้าอยู่กับตัวเขา....

     

                    คิม จงอุน...  บอกทีเถอะว่านี่มันสิ่งที่พี่เค้าทำกับน้องกันน่ะ!?!

     

                    คยูฮยอนส่ายหน้าช้าๆ  ไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าสิ่งที่พี่ชายหน้าหวานคนนี้พึงปฏิบัติกับเขาอยู่อย่างสม่ำเสมอนั่นมันหมายความว่าอย่างไร...   และทั้งๆที่ยังไม่เข้าใจอยู่แท้ๆ....

     

                    ความรู้สึกบางอย่างที่มีต่อเยซองกลับแน่วแน่เด่นชัดขึ้นมา....

     

                    ....ความรู้สึกดีๆ....   ที่ใครต่อใครเรียกมันว่า...   "ความรัก"

     

                    คยูฮยอนไม่ใช่ผู้ใหญ่ที่จะมีความอดทนอะไรกับเขานัก...   ถึงจะไม่พูดออกไป   แต่การกระทำของเด็กหนุ่ม  ก็เป็นที่เห็นได้ชัดว่าเจ้าเด็กโย่งคนนี้คิดเกินเลยกับพี่ชายตัวเล็ก(กว่า)ขนาดไหน   มือยาวๆที่เผลอเป็นเมื่อไหร่ต้องไปคว้าเอาตัวคนที่อยู่ใกล้เข้ามากอดมาหอมให้ชื่นฉ่ำทุกครั้งไป...   รอยยิ้มอุ่นๆสายตาหวานซึ้งที่คอยแต่จับจ้องไปที่คนแก้มป่อง...   ท่าทางกวนๆและการกระทำที่ไม่ได้คิดว่าอีกฝ่ายเป็น "พี่" เลยแม้แต่น้อย   แล้วยังความเพียรพยายามที่จะหาทางเข้าใกล้พี่ชายคนนี้   ขอแตะเนื้อ...ต้องหน้าทำเป็นว่าเผลอโพสต์ผิดท่า... ผมไม่ได้ตั้งใจ...   สารพัดสารพันสิ่งที่....

     

                    .....ไม่ได้ทำให้เจ้าคนที่ซื่อคนเซ่อคนนั้นรู้ตัวขึ้นมาซักนิด!!!

     

                    มักเน่หมาป่าของวงเม้มปากอย่างขัดใจ...  อาหารที่กินเข้าไป...มันเอาไปเลี้ยงแก้มแทนสมองรึไงพี่???

     

                    คยูฮยอนเคยคิด...   แม้จะช้า...   แต่เพื่อเยซองแล้ว...  เขาก็พร้อมจะรอ...

     

                    แต่วันเวลาทำให้เขาได้รู้....   ความอดทนของเขา...มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย....

     

                    แน่ล่ะ...   พี่เยซองยังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง...   รอยยิ้มหวานๆยังมีให้เขาทุกเมื่อ...   ความเป็นห่วงเป็นใยแบบเอาตัวเองไม่ค่อยจะรอดก็ไม่ได้ลดลงไปสักนิด...   แต่ที่เปลี่ยนไป...   ก็คงจะเป็นใครอีกคนที่เข้ามาวนเวียนเกาะแกะพี่ชายที่เขาแสนจะหวงคนนี้ต่างหาก    

     

                    คิม   ยองอุน....   นายเข้ามาทำไม...  นายมาแย่งพี่เยซองไปจากฉันทำไม?

     

                ดวงตาโตคมที่มักเปล่งประกายสดใสเสมอของคยูฮยอนหม่นหมองลงในทันที   และเมื่อสังเกตดูดีๆสิ่งที่ฉายชัดออกมากลับกลายเป็นความเจ็บปวด....   ทั้งเจ็บ...ทั้งไม่เข้าใจ....

     

                    ....รอยยิ้มนั่นไม่ใช่สำหรับผมคนเดียวหรอฮะ?...

     

                       ใครเล่าจะรู้ว่าคยูฮยอนที่พี่ๆต่างก็เอาใจคนนี้ต้องหันหน้าหนีทุกครั้งเมื่อเห็นคนบางคนกอดรัดฟัดเหวี่ยงอยู่กับพี่ชายแก้มป่องของเขา   มือที่จับแน่น...   แก้มที่แนบชิด....   ร่างกายนุ่มนิ่มที่ถูกโอบกอด....   เสียงหัวเราะที่มีให้กันอย่างสนุกสนาน...    สร้างโลกส่วนตัวที่มีเพียงเราสองโดยไม่สนใจสายตาของใคร

     

                    คนบางคนจึงทำได้เพียงแอบมองอย่างอิจฉา...   ทำไมถึงไม่ใช่ผม...   ไม่ใช่มักเน่คยูของพี่เยเย่ที่ยืนอยู่ตรงนั้น...

     

                    หัวใจของคยูฮยอนเหมือนถูกบีบรัด   ภาพเยซองที่จับมือเดินไปมากับคังอินตลอดทั้งคอนเสิร์ตผุดขึ้นมาให้ไหวหวั่น   ใช่ว่าจะไม่เห็น...   หมีตัวใหญ่ในชุดตัวตลกที่เดินไปคว้าตัวซาลาเปาในคราบผีจีนเหวี่ยงไปมาแล้วขึ้นคร่อมต่อหน้าสาธารณชน   เด็กหนุ่มตกใจจนแทบลืมเนื้อร้อง   และรู้สึกได้เลยว่าเสียงที่เปล่งจากลำคอไหวสั่น   ขอบตาที่ร้อนผ่าวก่อนที่หยดน้ำใสจะกลั่นตัวไหลรวมกับเหงื่อที่ชโลมทั่วกาย....

     

                    น่าขำสิ้นดี....   เห็นแบบนี้...   แล้วนายจะหวังอะไรอีก?  คยูฮยอน....

     

                    สุดท้ายแล้ว...  ในสายตาเยซอง...   คยูฮยอน...   ก็ไม่ได้เป็นอะไรเลย...   ไม่ได้มีความสำคัญอะไรเลย...

     

    ไม่เลย... จริง... จริง....

     

                    เด็กหนุ่มพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง   สายตายังคงเหม่อมองมือถือเครื่องเล็กที่โชว์ภาพพร้อมขึ้นชื่อของคนที่เขาคิดถึงอยู่เสมอ   อ่อนแอ...   ร่างสูงได้แต่ก่นด่าตัวเอง...   เยซองเป็นพี่ชาย...   เขาจะคิดอะไรเกินเลยกับพี่ชายได้ยังไง    

     

                    ถ้าไม่ได้มีใจให้กัน...   แล้วมาแกล้งให้ความหวังกันทำไม?...  

     

    ..........................................................................................................

    อย่าให้ความหวังทั้งทั้งที่เธอก็ยังต้องมีเค้า   

    เกิดฉันเหงา  และไม่ทันคิด  

    ไปเผลอนึกว่ามีสิทธิ์  ทำผิดโดยไม่ตั้งใจ  

    รับได้ใช่ไหม...ถ้ามีใครเจ็บเพราะเธอ

    ..........................................................................................................

     

    เสียงเปิดประตูเบาๆทำให้คนที่นอนอยู่ลืมตาขึ้นช้าๆ   แม้จะอยู่ในความมืด   แต่เด็กหนุ่มก็พอจะคาดเดาได้ว่าคนที่แอบเข้ามาในห้องของเขายามวิกาลนั้นเป็นใคร

     

                    อืมม์...    หลับแล้วหรอนี่   วันนี้เป็นเด็กดีจังแฮะ   เสียงแหบๆพึมพำกับตัวเองเบาๆ   แล้วดูสิ   ผ้าก็มีไม่รู้จักห่ม  ไม่สบายอยู่แท้ๆ   คยูฮยอนรู้สึกถึงบางคนที่ขยับเข้ามาใกล้   เยซองกางผ้าห่มเนื้อหนาก่อนที่จะสะดุดเข้ากับแววตาแป๋วๆไม่ได้มีความง่วงงุนเจืออยู่สักนิด

     

                    ยังไม่นอน...  ยังไม่นอนนี่...   ทำไมยังไม่นอนอีก  คนแก้มป่องพูดเสียงรัวเร็วจนอีกคนหลุดยิ้มขำ   รู้ว่าพยายามจะดุ   แต่ท่าทางอ่ะมันไม่ให้เลยนะพี่

     

                    นอนแล้วครับ   แต่ตื่นตอนที่พี่เยซองเปิดประตูเข้ามานั่นแหละ  

     

                    อ้าวหรอ?   เยซองเกาหัวเก้อๆ   โทษที   ไม่ได้ตั้งใจทำให้นายตื่น   แล้วก็ทำท่านึกขึ้นได้   แล้วนี่นอนไปทำไมไม่ห่มผ้า  แถมยังเปิดแอร์ซะหนาวอีกแน่ะ  เตือนตั้งหลายทีแล้วไม่รู้จักฟัง

     

                    คยูฮยอนหัวเราะเบาๆ

     

                    ก็ผมรอพี่มาห่มให้ไงฮะ

     

                    น้ำเสียงดูเหมือนล้อเล่น   หากแต่ใครจะรู้...  คยูฮยอนต้องใช้ความกล้าในการเอ่ยมันออกมาขนาดไหน

     

                    เออดี  ถ้าคืนนี้พี่ไม่กลับก็นอนหนาวตายไปเลยใช่มั้ย   นี่ถ้าเจ้าหมีไม่ไปบ้าพลังดวลเหล้ากับคิบอมจะได้ชิ่งกลับมารึเปล่าก็ไม่รู้   คำพูดที่ทำให้ดวงตาคมของบางคนหม่นแสง   จะพูดถึงคิม ยองอุนทำไม   โจว คยูฮยอนต่างหากที่อยู่ตรงหน้า...   โจว  คยูฮยอนที่อยู่ในสายตา...  คนที่พี่จะคิดถึงได้คนเดียว....

     

                    น่าเสียดายที่เด็กดื้อคนนี้ไม่สบายเลยอดไปเลี้ยงฉลองเลยเนอะ   เยซองยังคงพูดเรื่อยเปื่อย   ไม่ได้รู้สึกถึงแววตาขมขื่นของผู้เป็นน้อง   วันนี้น้า...   ซีวอนเมาแล้วโชว์เต้น nobody ใหญ่เลยล่ะ  ขำน่าดูเลย    เนี่ยๆ   แล้วทงเฮกับซองมินก็ทะเลาะกับเรื่องผ้าม่านสีชมพูซะยกใหญ่   แบบว่าตอนนี้พี่ว่าทงเฮคงเกลียดสีชมพูเข้าไส้ไปแล้ว   แบบว่าด๊องมันวีนแตกตั้งแต่ซองมินโวยวายจะเอาแก้วน้ำที่มีหลอดสีชมพูแล้วล่ะ  ฮ่าๆๆๆ  

     

                    ริมฝีปากเล็กๆแดงๆขยับไปมา   และเด็กหนุ่มก็ได้แต่มองอย่างเพลิดเพลิน

     

                    แล้วนายล่ะ...   อยู่บ้านคนเดียว...เหงารึเปล่า   ดวงตาใสมองมาอย่างเห็นใจ   มือนุ่มลูบหัวคนที่นอนอยู่เบาๆหากแต่ทำให้คนถูกกระทำใจสั่น

     

                    ก...  ก็นิดหน่อยครับ   ไม่รู้จะเสหลบไปทางไหน    ความรู้สึกบางอย่างเอ่อล้นเมื่อรู้ว่าคนบางคนให้ความสำคัญกับเขา

     

                    แย่จังนะ   เสียงหวานเอ่ย   คังอินก็มางอแงจะให้พี่ไปด้วยทำไมก็ไม่รู้   อยู่ด้วยกันทุกวันแท้ๆ   อมยิ้มน้อยๆเมื่อนึกถึงคนอีกคน   หากแต่ท่าทีนั้นกลับทำให้คยูฮยอนปวดใจนัก   ราวกับความสุขที่เพิ่งเกิดขึ้นชั่วครู่เป็นเพียงสิ่งหลอกลวงให้เขาดีใจ...  แต่สุดท้าย...  ความเป็นจริง...   ก็ยังคงเฝ้าตามติดหลอกลอนให้เขาต้องทนทรมานอยู่ดี

     

                ความจริงที่ว่า... เยซองไม่ได้รัก...  ไม่ได้รักเขาเลย.....

     

                    แล้วพี่เยซองไม่อยากไปเลี้ยงฉลองหรอครับ   คยูฮยอนมุดตัวลงไปใต้ผ้าห่มส่งเสียงอู้อี้เหมือนเด็กๆที่กำลังเรียกร้องความสนใจ

     

                    ร่างบางมองการกระทำตรงหน้าแล้วเผลอยกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้ม   เยซองทรุดตัวลงข้างเตียงแล้วยิ่งขยับเข้าใกล้   มือเรียวดึงชายผ้าห่มออกพอให้เห็นหน้าน้องรัก   หน้าผากมนชนเข้ากับหน้าผากคนที่นอนอยู่เบาๆ  ก่อนจะขยับออกมาแล้วยิ้มกว้าง

     

                    อย่าทำตัวเป็นเด็กขี้น้อยใจซี่   ใครๆเค้าก็บ่นที่นายไปไม่ได้ทั้งนั้นแหละ   เดี๋ยวเจ้าพวกนั้นก็หอบของกินมาเป็นกระบุงมาให้นายอยู่แล้วแหละนะ

     

                    คำพูดของคนบางคนไม่ได้เข้าไปในโสตประสาทแม้สักนิด   คยูฮยอนนิ่งมอง...   ลมหายใจเหมือนจะหยุดไปตั้งแต่เยซองแตะหน้าผากของตัวเองกับเขา   ใบหน้าขาวเนียนที่อยู่ใกล้   เนื้อแก้มที่มากเกินปกติจนน่าจะพิสูจน์ว่ามันนุ่มนิ่มขนาดไหน   ดวงตาหวานๆสาดประกายแสงซื่อใสจนลมหายใจสะดุด  แล้วยังกลิ่นหอมที่ไม่รู้ว่าลอยมาจากที่ใด...  แต่มันก็เย้ายวนให้คนบางคนช่างน่าเข้าใกล้เหลือเกิน

     

                ....เขากำลังอยากได้...   เขาอยากเป็นเป็นเจ้าของคนคนนี้....

     

                    แน่ะ...  ยังไม่พอใจอีกหรอ   คนน่ารักทำปากยื่น   นิ้วเล็กๆป้อมๆยกขึ้นจิ้มจมูกโด่งอีกฝ่ายอย่างหมั่นเขี้ยว   บอกแล้วไงว่าเดี๋ยวพี่พาไปเลี้ยง   ไหนบอกมาซิอยากกินอะไร  อยากได้อะ...   พูดไม่ทันจบก็ต้องชะงัก   เมื่ออีกฝ่ายคว้าจับมือของเขา   สายตาที่มองมาเต็มไปด้วยความหมาย....

     

                    ...พี่..   เสียงทุ้มแผ่วเล็ดรอด   ใบหน้าคมขยับเข้าชิดจนอีกฝ่ายผงะถอย

     

                    หา?... เอ่อ...   ยิ่งพยายามดึงมือออกเท่าไร  แรงของคนบางคนก็ยิ่งจับแน่นมากขึ้นเท่าทวี 

     

                    จะเอา...พี่...   เรียวปากหนาตรงเข้าประทับริมฝีปากระเรื่อ   ละเลียดเล็มขอบอย่างอ่อนโยน   ดวงตาเยซองเบิกกว้าง   และยิ่งตกใจมากขึ้นเมื่อคนข้างหน้าพยายามใช้ลิ้นรุกล้ำเข้ามา

     

                    หยะ....   ไม่เป็นการฉลาดเลยที่ร่างบางพยายามร้องห้าม   เพราะในทันทีที่เปิดปาก   ก็เป็นโอกาสให้ลิ้นนุ่มของคยูฮยอนสอดแทรก   เด็กหนุ่มกวาดต้อนความหวานจากปลายลิ้น ตะล่อมตวัดเลียทั้งจากกลีบปาก ไล่มาจนลึกถึงโพรงปากอุ่น    ลองลิ้มชิมความหวานฉ่ำจนเห็นว่าพี่ชายของเขาเริ่มหายใจไม่ทันจึงยอมละริมฝีปากออกมา   มือใหญ่ยังคงจับแขนทั้งสองข้างของอีกฝ่ายไม่ให้ขยับหนี   แก้มเนียนของเยซองฝาดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด   และมันก็ทำให้คนที่ไม่ค่อยจะอดทนเริ่มควบคุมตัวเองไม่ไหว   จมูกโด่งตรงเข้าฝังยังพวงแก้มอีกคนพร้อมกับเลิกคิ้วน้อยๆความรู้สึกแปลกใจยิ่ง...   นี่มันนิ่ม...   นิ่มกว่าที่เขาจินตนาการไว้เสียอีก...

     

                    นี่น่ะ...นายทำอะไรของนาย   เยซองยิ่งกว่าคำว่าอึ้ง   ถ้าไม่ใช่ความฝันแสดงว่าเขาโดนคยูฮยอน...

     

                    ผมหรอ?   ก็จูบ....   ดวงตาคมมองนิ่ง   จูบ...  แล้วก็หอมแก้ม....

     

                    ถ้าถามว่าจูบใคร   หอมแก้มใคร....   ผมจะตอบว่าพี่เยซอง...   ถ้าถามว่ารู้ตัวมั้ยว่าทำอะไรลงไปผมจะตอบว่าสติผมยังอยู่เต็มร้อย...    และถ้าถามว่าผมทำลงไปทำไม....   คยูฮยอนสูดลมหายใจเข้าลึก

     

                    ผมจะตอบว่าเพราะผมชอบพี่!!!”

     

                     คนแก้มป่องอ้าปากค้าง   เหมือนถูกไล่ต้อนจนไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้   และเมื่อเรียวปากอุ่นประทับทาบยังต้นคอขาวพร้อมกับเริ่มดูดเม้มจนตัวเขารู้สึกได้ชัดเจน   เมื่อนั้นที่ร่างบางเริ่มดิ้นรน  

     

                    หยุดนะ คยูฮยอน   เสียงหวานร้องด้วยความรู้สึกตกใจยิ่ง   นายทำอย่างนี้ไม่ได้นะ

     

                    ผมรักพี่   ดวงตาสีนิลทอประกายแสนเศร้า   ทำไมผมถึงแตะต้องคนที่ผมรักไม่ได้ล่ะฮะ

     

                    หัวใจเยซองกระตุกสั่น   ทั้งๆที่เขาเป็นฝ่ายถูกรังแก...   แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเขาถึงได้รู้สึกสงสารเด็กคนนี้   น้ำเสียงของคยูฮยอนฟังดูขมขื่นนัก   ฝ่ามือใหญ่ที่กุมรอบข้อมือของเขาไว้ก็ชื้นเหงื่อ   โจว  คยูฮยอน...  นี่นายบอกรักพี่ด้วยความรู้สึกอย่างไรกัน?

     

                    นายก็รู้   คนเป็นพี่นิ่งไปพักใหญ่   นายก็รู้ว่าพี่... คบกับคังอินอยู่...

     

                    ....รู้...   รู้อยู่แล้ว....   แต่ทำไมเหมือนน้ำตามันจะไหล....   ความเจ็บปวดประดังเข้ามารอบทิศจนร่างสูงงุนงงไปหมด....

     

                    ....ถ้าหัวใจของเขาทำมาจากแก้ว   ตอนนี้มันคงแหลกเป็นเสี่ยงๆจนไม่สามารถประกอบขึ้นมาใหม่ได้อีก.....

     

                    คยูฮยอน   อย่าทำหน้าอย่างนี้สิ   เยซองดูหน้าตาไม่ค่อยดีเท่าไหร่   ยังไงพี่ก็รักนายมากๆเหมือนกัน   เอ่อ...   พี่ขอโทษ

     

                     ....มาอีกแล้ว...  ความห่วงใยที่เฝ้าคอยทำร้ายจิตใจของเขา....

     

                    คยูฮยอนนายอย่าคิดมากนะ   นายใจเย็นๆก่อน   นี่...   เรากำลังคุยกันว่าจะไปฉลองไม่ใช่หรอ   ไปที่ไหนกันดี   นายอยากกินอะไรล่ะ

     

                .....รู้สึกเพียงความเจ็บช้ำ   พี่รู้ไหมว่าพี่กำลังย้ำมันที่รอยแผลเก่า-เก่า....

     

                    รึว่าเราจะแอบหนีไปร้านเกมส์กันดีล่ะคยู   แต่พี่เล่นเกมส์ไม่เก่งอ่ะ  งั้นไม่เล่นเกมส์สู้กันนะ   เอาเกมส์ที่ช่วยกันเล่นดีกว่า

     

                    .....ความเจ็บปวดแบบเดิมๆ...   ความเศร้าโศกเสียใจแบบเดิมๆ....

     

                    ....พอกันที!!!....

     

                    อ๊ะ!”   คนที่นั่งอยู่ข้างเตียงร้องเสียงหลงเมื่อตนถูกยกจนตัวลอย   แล้วถูกวางแทนที่เจ้าของเตียงที่เมื่อสักครู่ยังนอนอยู่ตรงนั้น   แต่ตอนนี้ได้เปลี่ยนตำแหน่งเป็นอยู่บนตัวเขา  สองแขนกางกั้นจนคนตัวเล็กไม่อาจขยับหนีไปไหน   ดวงตาคยูฮยอนวาบวับประหนึ่งหมาป่าจ้องจับตะครุบเหยื่อ  และไม่ทันที่เยซองจะได้เอื้อนเอ่ยอะไรออกไป...   ริมฝีปากร้อนก็กดแนบลงมาทันที...

     

                    มันไม่ใช่สัมผัสที่อ่อนโยนเหมือนในครั้งแรก   จูบที่เด็กหนุ่มมอบให้เป็นยิ่งกว่าจูบที่จาบจ้วงเอาแต่ใจ   ริมฝีปากอิ่มถูกดูดดึงจนตึงช้ำ   ลิ้นร้อนกวาดรับความหวานซ่านทั่วโพรงปากนุ่ม   ตวัดรัดเกี่ยวลิ้นเล็กอีกฝ่ายที่พยายามถอยหนี   แต่คยูฮยอนก็ใช้กำลังแรงจนอีกฝ่ายต้องยอมแพ้ในที่สุด

     

                    แววตาของเยซองสั่นระริกด้วยความหวาดกลัว   ไม่ได้ใสซื่อจนไม่รู้ว่าสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับตนคืออะไร   และเพราะรู้...ถึงได้กลัว...   

     

                    และยิ่งกลัวมากขึ้นเมื่อสิ่งที่ไม่รู้คือไม่รู้ว่าตนเองจะจัดการกับสถานการณ์ตรงหน้านี้อย่างไร

     

                    ก็คยูฮยอนเป็นน้องของเขา...  น้องชายที่น่ารักของเขา....

     

                    ร่างบางสะดุ้งเฮือกเมื่อรับรู้ถึงลมหายใจอุ่นและริมฝีปากนุ่มที่กำลังและเล็มใบหู   ลิ้นสากที่ไล้เลียวงหน้าหวาน   มือหนาเริ่มป่ายเปะปะเข้าไปใต้เสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดของผู้เป็นพี่ชาย   เยซองพลิกตัวหนีดิ้นรนที่จะหาทางหลุดพ้นจากวงแขนแกร่ง....   คยูฮยอนรู้   พี่ชายของเขาพยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว

     

                    แต่สำหรับเขา...  มันก็เป็นแค่การขัดขืนเล็กๆที่ยิ่งทำให้อารมณ์บางอย่างพุ่งสูงขึ้นอีก

     

                    อะ...อย่า....อา...

     

                  เสียงหวานร้องครวญเมื่อมือหนากระชากเสื้อผ้าเผยผิวขาว   โน้มลงพรมจูบตั้งแต่ซอกคอเนียนจนถึงแผ่นอกบางที่ได้ยินเสียงหัวใจเต้นแรงราวกลอง   ใบหน้าหล่อเหลาผุดยิ้มร้าย   แววตาพึงใจเมื่อได้เห็นร่างเบื้องใต้เครือครางและชักสีหน้าวาบหวามให้เห็น

     

                    ....น่ารัก...  น่ารักน่ากินอะไรอย่างนี้....

     

                     ฟันขาวขบกัดยอดอกระเรื่อที่เปล่งปลั่งขึ้นมา  มันแดงช้ำตัดกับร่างกายสีนมสดจนเด็กหนุ่มอดใจไม่ไหวต้องกดจูบเน้นย้ำให้รู้ว่าคนคนนี้มีเจ้าของ    มือข้างหนึ่งเลื่อนไล่ไปตามส่วนโค้งสะโพกจนถึงเอวบางที่หากเขาขยี้แรงก็แตกหักได้ง่ายดาย    ก่อนที่จะเคลื่อนใบหน้าลงจูบด้านในต้นขาไล้ไปอย่างแผ่วเบาจนถึงด้านในขาอ่อน

     

                    ร่างบางที่โดนรุกเร้าเบือนหน้าหนีอย่างเจ็บปวด    ความกดดันแล่นพล่านมาถึงลำคอ    ลมหายใจเบาบางติดขัด    กลัว...  กลัวเหลือเกิน....

     

                    มือที่กำลังเลื่อนลงต่ำเพื่อเข้ากอบกุมส่วนหวั่นไหวพลันชะงักเมื่อได้ยินเสียงสะอื้น   เมื่อละใบหน้าขึ้นมาก็ต้องใจหาย   ไม่รู้ว่าน้ำตาไหลมาจากไหนมากมายถึงได้เปรอะเปื้อนแก้มพี่ชายเต็มไปหมด   นัยน์ตาใสบัดนี้ขุ่นมัวที่เห็นเพียงความหวาดกลัวส่องสะท้อนตอบคนตรงหน้า   เสียงแหบพร่าดังรอดออกมาจากริมฝีปากที่กำลังสั่นระริก

     

    อ...อย่า...    ค...  คังอิน...  ช่วย...ด้วย

     

    คำพูดของเยซองบาดเข้าไปลึกนัก    คยูฮยอนข่มใจทำเป็นเมินเฉยต่อความเจ็บปวด   เอ่ยถามช้าๆด้วยเสียงแผ่วเบา...  เบาจนไม่อาจจับความรู้สึกผู้พูดได้

     

    พี่รักพี่คังอินหรอฮะ

     

    รักสิ   ฮือ...    ร่างบางสะอื้นไห้จนไหล่ไหวสั่น   คยู...  หยุดเถอะ... ฮือ...  พี่กลัว...น้นย้ำให้รู้ว่าคนคนนี้มีเจ้าของ

     

                    เยซองคงไม่รู้ว่าตนเองทำให้คยูฮยอนแทบจะขาดใจตายลงไปตรงนั้น   เมื่อมองผ่านม่านน้ำตาเยซองก็เห็นเพียงคนที่กำลังจะทำร้ายเขา...   ไม่ได้รู้เลยว่าอีกฝ่ายก็กำลังจ้องมองกลับด้วยดวงตาที่ชุ่มน้ำเหมือนกัน

     

                    ....เขาตอบมาชัดเจนขนาดนี้...  นายมันน่าสมเพชสิ้นดี...   คยูฮยอน....

     

                    ไปสิฮะ...   เด็กหนุ่มลุกขยับจากเตียงนุ่ม   ...ผม...  เบื่อแล้ว...

     

                    ห...หา?  

     

                    ผมให้โอกาสพี่อยู่นะ!”   ตวาดลั่นจนอีกคนตกใจ   คนตัวเล็กรีบคว้าเสื้อมาคลุมตัวเองลวกๆ  ก่อนที่รีบวิ่งออกจากห้องไป   คยูฮยอนแค่นยิ้ม  

     

                    .....พี่เยซองคงเกลียดผมแล้วสินะ....

     

                    หัวใจของเด็กหนุ่มกำลังบีบรัดตัวช้าๆ  ความปวดร้าวแล่นริ้วไปทั่วร่าง

     

                    .....ต่อไปก็คงไม่มีความหวัง...ความห่วงใยให้ผมอีกแล้ว....

     

                    สายตาใต้ไรผมสีดำส่องประกายแสงได้อย่างน่าเจ็บปวด   สีหน้าอ่อนล้า...ไม่อาจบรรยาย

     

                    ....พี่เยซอง...  

     

    หยาดน้ำไหลรินจากดวงตา  เรื่อยไหลมาด้วยเจ้าตัวไม่คิดจะหยุดมัน

     

    ....ผมขอโทษ...

     

    ....ผมก็แค่...รัก....

     

    ....ผมรักพี่....

     

    .......................................................................................

    The end.

     

    จบมันดื้อๆอย่างนี้แหละค่า 555  ไม่รู้ไม่ชี้   ฟิคนี้คนเจ็บก็ต้องเจ็บ    จะสงสารน้องคยูก็สงสารไม่ลง นั่นได้กำไรไปหลายแล้วนะนั่น   เฮ้อ...   จิ้นคยูเยนี่มันยากกว่าที่คิดนะเนี่ย   ต่อไปให้ใครมาเป็นเหยื่อดีล่ะ เหอๆๆ   ใครอ่านมาถึงตรงนี้แปลว่าทั่นเก่งและอดทนมากนะคะ  ยุเมะว่ามันย๊าวยาว....   คิดยังไง ก็เมนท์ก็บอกกันได้นะจ๊า...  อยากได้กำลังใจจัง ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×