ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (SF)sj,dbsk,ss501, etc (yaoi)รับได้ทุกคู่555

    ลำดับตอนที่ #1 : THE SNOW(วอนXซิน)

    • อัปเดตล่าสุด 29 ม.ค. 52


    อันนี้เป็นฟิคเก่า  แต่งมาได้เกินสองสามปีแล้วล่ะค่ะ  ลองอ่านกันดูน้า ^^

    Title:                The Snow
    Author:            Akazuki Yumeko
    Category:    Sweet(คิดว่านะ - -)
    Pairing:            Siwon x Heechul
    Rating:             ถ้ามีต่ำกว่า PG จะให้เรทนั้นแล้วแหละ   ใสจนไม่รู้จะใสยังไงแล้ว
    Author notes: ฟิคเอสเจอันแรก   เป็นฟิคที่เกิดจากการรีเควส(รึเปล่า)ของโยค่ะ   คู่ที่เจ๊แกต้องการ(ไม่รู้ว่าใช่มั้ยด้วย บอกแค่ให้แต่งฟิคSJที่มีฮีชอลเองนี่นา???)   น่าแปลกใจที่ยูเมะยอมตามเสียงเรียกร้อง   เอิ้กกกก ประมาณว่ามันคิดได้พอดีอ่ะค่า   พล๊อตมาจากการนั่งดู my girl นั่นเอง เพราะยูเมะเป็นพวกดูแล้วฟุ้งซ่านอ่ะ บทพูดเค้ามีกันนิดเดียวแต่คิดกันไปได้ยาวไกล อิอิ   นั่งจิ้มๆดีดๆในเวลาสามชั่วโมงได้ออกมาเป็นฟิคสั้นๆที่คาดหวังว่าทุกคนคงชอบกันนะค๊า...   ถ้าใครสนใจ อยากรีเควสคู่ไหนก็เชิญเลยค่า เผื่อจะปิ๊งปั๊งคิดได้ทั่นจะมีอ่านฟิคใหม่ๆที่เรื่องเก่าก็ดองๆลืมๆมันไปซะเถอะค่ะ ^^”””” 
     
     
    THE SNOW
     
                             “ซีวอน   ไง   กลับมาแล้วหรอ   เหนื่อยเป่า?   เพื่อนร่วมวงคนหนึ่งเอ่ยถามเมื่อเห็นคนตัวสูงเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น   คนถูกทักหยุดชะงักน้อยๆแล้วตอบด้วยท่าทางล้าๆ
                    นิดหน่อย   เยซองล่ะไม่ไปทำงานหรอ   ปกติแล้ววันนี้เป็นวันที่หนุ่มตาตี่แก้มป่องคนนี้ต้องไปจัดรายการวิทยุ miracle for you   เป็นดีเจภาคดึกที่แย่งเวลาในการเล่นซนกับฝูงลิงไปมากโข   หากแต่เจ้าตัวก็ไม่เคยนึกบ่น
                    เดี๋ยวไป   เยซองตอบเรื่อยๆดูไม่เร่งร้อนเท่าใดนัก   ซีวอนมานี่มา...   คนตัวเล็กกว่าตบปุๆไปยังโซฟาที่ว่างข้างตัว   รายการเนี่ยกำลังนินทาพวกเราอยู่เลยเนี่ย
                    หา?   คิ้วโก่งเลิกขึ้นอย่างสงสัย   ใบหน้าหล่อเหลาดูจะแปลกใจน้อยๆก่อนที่คนบางคนจะก้าวข้ามไปนั่งข้างกายคนชวน   หมายความว่าไงหรอเย?
                    คำตอบที่ได้รับกลายเป็นเสียงหัวเราะ   คนถูกถามตบมือถูกอกถูกใจด้วยยิ้มกว้างกับดวงตาที่หรี่เล็กจนเหลือแค่สองขีด   ซีวอนหันไปมอง เห็นภาพในทีวีเป็นใบหน้าฮยอกแจที่มีหน้าแหลมๆของไก่ตัวผู้กระพริบเข้าแทรกเป็นจังหวะ   พร้อมกับบทบรรยายเปรียบเทียบความแตกต่างของสิ่งมีชีวิตสองสายพันธุ์นี้
                    ฮะ ฮะ ฮะ   ร่างป้อมๆยังคงขำไม่เลิก   โคตรจะเหมือนเลย คิดได้ไงเนี่ย
                    ซีวอนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะตาม   แม้ว่าจะเหนื่อยล้าจะอยากพักอยากหลับขนาดไหน   หากแต่...   ไอ้รายการทีวีตรงหน้านี่มันจะเข้าใจหาเรื่องให้เขาสนใจได้ดีซะจริง
                    ภาพใบหน้าคนที่ปรากฏในจอทีวีคนต่อไปทำให้เด็กหนุ่มถึงกับแทบหยุดหายใจ   เมื่อคนที่เขาอยากจะเจอใจแทบขาดกำลังส่งยิ้มมาให้   ยิ้มมุมปากกับใบหน้าเชิดๆที่เขาเฝ้าฝันหา   นึกไม่ออกว่ารายการนี้จะสรรหาอะไรมาแกล้งคนคนนั้นของเขา   แต่แล้วร่างสูงก็ต้องตื่นตะลึงยิ่งกว่าเก่าเมื่อภาพนั้นถูกตัดต่อในอยู่ในชุดราตรีสุดหรูพร้อมกับขึ้นตัวอักษรคำพูดที่แสนจะเข้าท่า.... จงเรียกฉันว่าเจ้าหญิง
                              เสียงหัวเราะของเยซองดังขึ้นอีกครั้ง   เขายกมือขึ้นเช็ดน้ำหูน้ำตาที่พร้อมใจกันไหลอย่างสุดกลั้น   โอ๊ย...   จะบ้าตาย   ฮีชอลกลายเป็นเจ้าแม่ไปแล้วหรอเนี่ย   ฮะฮะฮะ   คำพูดชวนฮาในหน้าจอสี่เหลี่ยมบรรยายถึงท่าทางที่แสนจะเริ่ดเชิดหยิ่งของซินเดอเรล่าจอมโหด  ผู้ที่ทำให้คนมากมายตกอยู่ภายใต้มนต์เสน่ห์   โครงหน้าเรียวสวยจนดูคล้ายหญิงสาว   ดวงตากลมโตมุ่งมั่นดูไม่หวั่นกับสิ่งใด   เปรียบเสมือนคนที่อยู่บนฟ้า   ในขณะที่ใครต่อใครได้เพียงแต่แหงนมอง
                    ไม่ตลกหรอซีวอน   เฮ้... ซีวอน...   นายเป็นอะไรไป   ต่อท้ายด้วยความตกใจนิดๆเมื่อเห็นคนข้างกายทำหน้าเครียด   จ้องมองหน้าจอโทรศัทน์ด้วยดวงตาที่ดูเจ็บปวดลึกล้ำจนไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดใดๆได้   ซีวอน...   มีอะไรรึเปล่า   แม้ว่าไม่ได้คบกันในฐานะพี่ใหญ่กับน้องเล็กด้วยเขาเห็นว่าซีวอนมีความเป็นผู้ใหญ่และดูแลตัวเองได้มากกว่าพวกลิงตัวน้อยๆอย่างซองมินหรือเรียววุค   หากแต่เยซองก็ยังมีสำนึกของคนที่มีอายุมากกว่าอยู่เล็กๆว่าซีวอนคือน้องชายคนหนึ่งที่เขาควรดูแลด้วยเช่นกัน
                    เยซอง....   พี่ฮีชอลนี่ดูสูงส่งจังเลยนะ เด็กหนุ่มกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ   เหมือนกับอยู่ไกลจนเอื้อมไม่ถึงอย่างนั้นแหละ
                    เมื่อนั้นที่คนที่นึกอยากจะทำตัวเป็นพี่เข้าใจขึ้นมาเล็กๆว่าสาเหตุที่ซีวอนกลายเป็นแบบนี้เพราะอะไร   เยซองรู้ว่าระหว่างคนสองคนนี้มีความสัมพันธ์ที่พิเศษต่อกันมาได้สักพักแล้ว   หากแต่สิ่งนั้นยังดูไม่มั่นคงยิ่งนัก   ด้วยเจ้าเด็กตัวโตชอบคิดมาก กังวลในความห่างไกลกับท่าทีไว้ตัวเหมือนอยู่เหนือผู้อื่นอันเป็นนิสัยประจำตัวของฮีชอล
                    อย่าคิดแบบนั้นซี่   เสียงแหบเสน่ห์เอ่ยปลอบใจ   ยังไงฮีชอลเค้าก็เป็นฮีชอลของนายวันยังค่ำไม่ใช่หรอ   เอื้อมมือเรียวของตนไปตบบ่าเด็กตัวสูงน้อยๆเห็นสายตาคนฟังดูหวั่นไหวไม่มั่นใจแล้วรู้สึกแย่ขึ้นมานิดหน่อย   คำปลอบใจของเขาไม่ได้ช่วยอะไรเลยหรอ   นี่เขาเป็นพี่ประสาอะไรกัน
                    แต่ฉันกลัวนี่   พี่ฮีชอลก็งานยุ่งกับโปรเจ็ค trot ทำงานทุกวัน ตอนกลางคืนก็ไม่ได้นอนบ้านเราอีก   ซีวอนเอ่ยในสิ่งที่เขาคิดมากมานาน   พี่ฮีชอลจะเป็นยังไง   จะทำอะไรอยู่    ฉันไม่เคยรู้เลย
                    คนฟังถึงกับรู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมาเล็กๆ   อดไม่ได้ที่จะเขกมะเหงกใส่คนตัวสูงเบาๆสักสองสามที   ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนอยากบ่นออกมาเต็มทน
                    นายก็มัวแต่งี่เง่าอยู่อย่างนี้แล้วมันจะรู้เรื่องฮีชอลเค้ามั้ยเนี่ย   คิดถึงก็โทรไปหาสิ   โทรศัพท์ไม่มีหรอไง
                    แต่ถ้าพี่ฮีชอลไม่อยากคุยกับฉัน
                    โอ๊ย... งั้นนายบอกไปเลยว่า ฉัน... ฉัน...   เอามือจิ้มๆไปที่อกตัวเอง   ไอ้ซาลาเปาของยัยเชิดนั่นบังคับขู่เข็ญให้นายโทรไป   บอกว่าฉันอยากเจอ อยากจะให้ฮีชอลแวะมาที่บ้าน   หรือนายจะกุเรื่องอะไรไปก็ได้แล้วนายค่อยบอกสิ่งที่นายอยากบอก ดีมั้ย   ชายหนุ่มพองแก้มด้วยความรู้สึกขัดใจ   ทำไมเวลาคนมีความรักจะพร้อมใจกันไร้สมองไปหมดรึไงฟะ   เมื่อวานอีทึกก็พึ่งมาปรึกษาเรื่องไอ้หมีคังอิน   กะอีแค่อยากจะมีเวลาสวีทด้วยกัน   โธ่... ถ้าบอกไปตรงๆก็จบเรื่องแล้ว   คิดหรอว่าอย่างคังอินมันจะไม่ระริกระรี้อยากอยู่กับอีทึกสองต่อสองน่ะ
                    จะดีหรอเยซอง   เรียวปากได้รูปเอ่ยอย่างไม่แน่ใจ   หากแต่แววตาดูสบายใจกว่าเดิมมาก   ฉันเอาชื่อนายไปอ้างได้แน่นะ
                    เอาเลยๆ   เจ้าตัวรีบสนับสนุน   เคลียร์เรื่องของนายไปเหอะ   แล้วถ้าฮีชอลจะมาเม้งอะไรเดี๋ยวฉันจัดการเอง   รุนหลังซีวอนไปทางระเบียงข้างนอก   ไปคุยเงียบๆข้างนอกไป   ไอ้พวกลิงนั่งเล่นไพ่อยู่ในห้องนอน   ถ้านายเข้าไปจะยิ่งยุ่งไปกันใหญ่
                    เมื่อคนตัวสูงเดินออกไปพ้นห้องนั่งเล่นไปได้สักพัก   ดวงตาศิราณีจำเป็นเริ่มมีประกายวาววิบพริบพราว   ริมฝีปากเรียวเริ่มจะเม้มแน่นด้วยต้องการกลั้นเสียงหัวเราะที่ไม่ต้องการให้เล็ดรอดออกมาจนตัวสั่น   นึกถึงคำพูดของฮีชอลที่เคยกระซิบบ่นใส่เขาเมื่อครั้งไปเป็นแขกรับเชิญรายการ miracle for you
                    ซีวอนเค้าคิดถึงฉันบ้างรึเปล่านะ   ไม่เห็นจะโทรมาหาสักที’       
                ....โถ...    คนที่ว่าสูงส่งนักหนาก็มีความต้องการแบบลิงทั่วไปเหมือนกันแหละน่า......
    .............................................................................
                    เด็กหนุ่มหน้าตาดีเข้าขั้นมากๆกำลังยืนอยู่ที่ระเบียง   มือใหญ่แข็งแรงกดปุ่มโทรศัพท์ต่อสายไปยังคนที่เขาคิดถึง   หัวใจเต้นแรงรัวด้วยความตื่นเต้น   นี่จะเป็นครั้งแรกที่เขาโทรหาพี่ฮีชอลโดยไม่มีเรื่องงานเข้ามาเกี่ยวข้อง   หากแต่เป็นเพราะความรู้สึกข้างในล้วนๆ   
                    ซีวอนเริ่มรู้สึกแห้งเหี่ยวเมื่อโทรศัพท์ไปสองรอบแล้วยังไม่มีคนรับสาย   หิมะที่ตกโปรยปรายบางเบาทำให้เด็กหนุ่มหนาวสั่นขึ้นมาน้อยๆ   นึกโทษเยซองที่ไล่เขามาเผชิญหน้ากับบรรยากาศเย็นนอกบ้านแถมพี่ฮีชอลยังไม่ยอมรับโทรศัพท์เขาอีกต่างหาก   เด็กหนุ่มกดโทรออกเป็นรอบที่สามพลางคิดไปต่างๆนานาว่าเขากำลังทำให้คนบางคนรำคาญใจรึเปล่า
                    ฮัลโหล   ซีวอนหรอ?   เสียงคุ้นเคยดังขึ้นข้างหูพาเอาคนได้ยินสะดุ้งเฮือก   ตกใจที่อีกฝ่ายรับสายโดยไม่ทันตั้งตัว
                    ค.. ครับ...   พี่ฮีชอลใช่มั้ยครับ   เด็กหนุ่มพูดตะกุกตะกัก   ปลายสายหัวเราะเบาๆ
                    แล้วนายโทรมาหาใครกันล่ะ   โทษทีที่รับช้านะ   เมื่อกี้พี่ไปอาบน้ำมาน่ะ
                    อ่ะ...   ผมรบกวนพี่รึเปล่าฮะ
                    เปล่าๆ   ได้ยินอีกคนตอบอย่างรวดเร็ว   มีอะไรรึเปล่าซีวอน
                    คือ... คือ...   เกิดนึกอะไรไม่ออกขึ้นมากะทันหัน   อ้อ... เยซองบอกว่าให้พี่มาพักที่บ้านซุปเปอร์จูเนียร์บ้างน่ะครับ   เยซองบอกว่าคิดถึงพี่มากๆเลย
                    ฮีชอลเงียบไปสักพักก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงน้อยใจนิดๆ
                    แล้วนายล่ะ   ไม่คิดถึงพี่บ้างหรอ
                    เอะ... เอ๋...   ผม... ผมก็ต้องคิดถึงพี่อยู่แล้วสิฮะ
                    พี่ไม่เชื่อหรอก   คิดถึงแล้วทำไมไม่โทรมาบ้างเลย
                    ก็ผม...   ผม...   เด็กหนุ่มอ้ำอึ้ง   ผมโทรหาพี่ฮีชอลได้ด้วยหรอฮะ   ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเศร้า
                    หมายความว่าไงกัน
                “ไม่มีอะไรนี่ฮะ   ยังคงปากแข็ง
                    นายต้องมีอะไรแน่ๆ   บอกพี่มาสิ   ชายหนุ่มยังคงไล่ต้อน
                    ไม่มีอะไรจริงๆฮะ
                    บอกมา   น้ำเสียงตวัดห้วนที่ดูคล้ายชักจะอารมณ์เสียทำให้ดวงตาของซีวอนไหวสั่น   รู้สึกว่าสายใยระหว่างเขากับพี่ฮีชอลไม่คล้ายสิ่งที่เรียกว่าความรักแม้สักนิด   
                    ก็ผมกลัวพี่ไม่ว่าง   กลัวพี่จะรำคาญแล้วพี่ก็จะเบื่อผม   ไม่รักผม   พี่ฮีชอลน่ะเหมือนเจ้าหญิงสูงส่งในขณะที่ผมเป็นคนธรรมดา   ไขว่คว้าแค่ไหนก็ไม่เคยเอื้อมถึง   อ๊ะ...   ผม...   ซีวอนชะงักด้วยอาการตกใจยิ่ง   ผมพูดอะไรออกไป   พี่อย่าโกรธผมนะฮะ   ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ   ผมขอโทษ   คนตัวสูงละล่ำละลักแต่ปลายสายกลับกลายเป็นความเงียบจนเด็กหนุ่มเริ่มวิตกคิดว่าพี่ชายที่เขารักต้องไม่พอใจมากแน่ๆ   ครั้นจะเอ่ยทำลายความเงียบออกไป   ซีวอนก็ได้ยินเสียงถอนหายใจ... เสียงถอนหายใจที่ยาวมาก   ตามมาด้วยน้ำเสียงนุ่มๆของคนที่เขาหลงใหล
                    ซีวอน....   ทอดเสียงอ่อน   ที่นั่นก็มีหิมะตกใช่มั้ย
                    เอ่อ... ครับ...   คนถูกถามตอบงงๆไม่เข้าใจว่าคนบางคนต้องการอะไร   แต่การที่คนนั้นไม่ได้คุยด้วยน้ำเสียงโมโหโกรธาก็ทำให้เขาสบายใจขึ้นมาก
                    นายลองจับหิมะให้ได้สักยี่สิบสามสิบเกล็ดซิ   
                    หา?   แม้เจ้าตัวจะอุทานด้วยความประหลาดใจ หากแต่ฮีชอลก็ได้ยินเสียงเฟี้ยวฟ้าวเหมือนคนที่พยายามขยับมือคว้าอะไรสักอย่างด้วยความรวดเร็ว   สักพัก...ชายหนุ่มก็ได้ยินเสียงคู่สนทนาของเขา
                    ผมจับไม่ถนัดฮะพี่ฮีชอล   มือผมถือโทรศัพท์อยู่ข้างนึงอ่ะ   เดี๋ยวผมโทรไปหาพี่ใหม่ได้มั้ยครับ   คำพูดพาซื่อทำให้ฮีชอลต้องกลั้นยิ้มก่อนจะบอกให้เด็กตัวสูงเลิกกระทำ   ใบหน้าหล่อคมดูยุ่งเหยิงราวไม่เข้าใจก่อนจะเอ่ยถามด้วยความสงสัย
                    งั้นพี่ให้ผมทำทำไมล่ะครับ
                    นายว่าจับหิมะมันยากมั้ย   คนสวยตอบกลับด้วยคำถาม
                    ก็... ยากน่ะสิครับ   หิมะมันไม่ได้อยู่นิ่งๆให้ผมจับมันซะหน่อย
                    งั้น....ทำตามที่พี่บอกนะ   ฮีชอลพูดช้าๆ   ยื่นมือไปข้างหน้า
                    ครับ ยื่นมือไปข้างหน้า”   ทวนคำสั่งพร้อมทำตามอย่างตั้งอกตั้งใจ
                    แบมือ   แล้วหงายมันขึ้นมา
                    แบมือ... แล้ว....  ซีวอนนิ่งไปเมื่อเห็นหิมะที่โปรยปรายลอยละลิ่วปลิวตกลงบนมือเขาอย่างง่ายๆ
                    เห็นแล้วใช่มั้ย   ถ้านายอยากจะจับหิมะ   มันก็ง่ายนิดเดียว   แค่แบมือทิ้งไว้
                    ผมไม่ทันได้คิด   เด็กหนุ่มเถียงเสียงอ่อย
                    ก็เพราะนายไม่ทันได้คิดยังไงล่ะ   ความรู้สึกของพี่ก็เหมือนหิมะนั่นแหละ   ไม่จำเป็นที่นายต้องมาไขว่คว้าหรอก   เพราะมันพร้อมจะตกใส่ให้นายเก็บรักษาง่ายๆอยู่แล้ว”   น้ำเสียงคนที่ได้รับฉายาว่าจอมโหดเรียบเรื่อยออกจะฟังดูอ่อนโยนกว่าปกติอีกต่างหาก
                    พี่ฮีชอล...
                    ไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรสักนิด   พี่ก็เต็มใจจะมอบมันให้นายนะ
                    พี่ฮีชอล   ผมขอโทษ
                    ช่างเถอะ   นายก็เลิกคิดอะไรแบบนั้นซะนะ   พี่ไม่เคยคิดว่านายน่ารำคาญสักหน่อย   แล้วก็ไม่ได้ยุ่งจนรับ...”   ยังพูดไม่ทันจบประโยคก็มีเสียงทุ้มแทรกขึ้นทันควัน
                    ผมรักพี่
                    เอ๊ะ...   คนพูดโวยด้วยรู้สึกถึงความร้อนที่พุ่งมารวมกันที่ใบหน้า   พี่ยังพูดไม่....
                    ผมรักพี่ฮีชอล
                    นี่...   หัวใจคนมั่นเริ่มไหวเต้นไม่เป็นจังหวะ   อย่าพึ่งขัด...
                    ผมรักพี่ฮีชอลมากๆ
                    ผมรักพี่ฮีชอลที่สุด
                    ผมรักพี่ฮีชอลที่สุดในโลก
                    กับคำบอกรักมากมายที่ในที่สุดชายหนุ่มหน้าสวยต้องถอนหายใจอย่างยอมแพ้   เอ่ยวาจาที่เด็กหนุ่มเฝ้ารอคอยมานาน
                    โอเคๆ   ซีวอน...   รู้แล้วว่าพี่ต้องพูดอะไร   สูดลมหายใจรวบรวมความกล้าก่อนจะเปล่งเสียงช้าชัด
    ซีวอน   พี่ก็รักนายเหมือนกัน
    .....................................................................................................
    The end
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×