ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : THE SNOW(วอนXซิน)
อันนี้เป็นฟิคเก่า แต่งมาได้เกินสองสามปีแล้วล่ะค่ะ ลองอ่านกันดูน้า ^^
Title: The Snow
Title: The Snow
Author: Akazuki Yumeko
Category: Sweet(คิดว่านะ - -“)
Pairing: Siwon x Heechul
Rating: ถ้ามีต่ำกว่า PG จะให้เรทนั้นแล้วแหละ ใสจนไม่รู้จะใสยังไงแล้ว
Author notes: ฟิคเอสเจอันแรก เป็นฟิคที่เกิดจากการรีเควส(รึเปล่า)ของโยค่ะ คู่ที่เจ๊แกต้องการ(ไม่รู้ว่าใช่มั้ยด้วย บอกแค่ให้แต่งฟิคSJที่มีฮีชอลเองนี่นา???) น่าแปลกใจที่ยูเมะยอมตามเสียงเรียกร้อง เอิ้กกกก ประมาณว่ามันคิดได้พอดีอ่ะค่า พล๊อตมาจากการนั่งดู my girl นั่นเอง เพราะยูเมะเป็นพวกดูแล้วฟุ้งซ่านอ่ะ บทพูดเค้ามีกันนิดเดียวแต่คิดกันไปได้ยาวไกล อิอิ นั่งจิ้มๆดีดๆในเวลาสามชั่วโมงได้ออกมาเป็นฟิคสั้นๆที่คาดหวังว่าทุกคนคงชอบกันนะค๊า... ถ้าใครสนใจ อยากรีเควสคู่ไหนก็เชิญเลยค่า เผื่อจะปิ๊งปั๊งคิดได้ทั่นจะมีอ่านฟิคใหม่ๆที่เรื่องเก่าก็ดองๆลืมๆมันไปซะเถอะค่ะ ^^””””
THE SNOW
“ซีวอน ไง กลับมาแล้วหรอ เหนื่อยเป่า?” เพื่อนร่วมวงคนหนึ่งเอ่ยถามเมื่อเห็นคนตัวสูงเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น คนถูกทักหยุดชะงักน้อยๆแล้วตอบด้วยท่าทางล้าๆ
“นิดหน่อย เยซองล่ะไม่ไปทำงานหรอ” ปกติแล้ววันนี้เป็นวันที่หนุ่มตาตี่แก้มป่องคนนี้ต้องไปจัดรายการวิทยุ miracle for you เป็นดีเจภาคดึกที่แย่งเวลาในการเล่นซนกับฝูงลิงไปมากโข หากแต่เจ้าตัวก็ไม่เคยนึกบ่น
“เดี๋ยวไป” เยซองตอบเรื่อยๆดูไม่เร่งร้อนเท่าใดนัก “ซีวอนมานี่มา...” คนตัวเล็กกว่าตบปุๆไปยังโซฟาที่ว่างข้างตัว “รายการเนี่ยกำลังนินทาพวกเราอยู่เลยเนี่ย”
“หา?” คิ้วโก่งเลิกขึ้นอย่างสงสัย ใบหน้าหล่อเหลาดูจะแปลกใจน้อยๆก่อนที่คนบางคนจะก้าวข้ามไปนั่งข้างกายคนชวน “หมายความว่าไงหรอเย?”
คำตอบที่ได้รับกลายเป็นเสียงหัวเราะ คนถูกถามตบมือถูกอกถูกใจด้วยยิ้มกว้างกับดวงตาที่หรี่เล็กจนเหลือแค่สองขีด ซีวอนหันไปมอง เห็นภาพในทีวีเป็นใบหน้าฮยอกแจที่มีหน้าแหลมๆของไก่ตัวผู้กระพริบเข้าแทรกเป็นจังหวะ พร้อมกับบทบรรยายเปรียบเทียบความแตกต่างของสิ่งมีชีวิตสองสายพันธุ์นี้
“ฮะ ฮะ ฮะ” ร่างป้อมๆยังคงขำไม่เลิก “โคตรจะเหมือนเลย คิดได้ไงเนี่ย”
ซีวอนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะตาม แม้ว่าจะเหนื่อยล้าจะอยากพักอยากหลับขนาดไหน หากแต่... ไอ้รายการทีวีตรงหน้านี่มันจะเข้าใจหาเรื่องให้เขาสนใจได้ดีซะจริง
ภาพใบหน้าคนที่ปรากฏในจอทีวีคนต่อไปทำให้เด็กหนุ่มถึงกับแทบหยุดหายใจ เมื่อคนที่เขาอยากจะเจอใจแทบขาดกำลังส่งยิ้มมาให้ ยิ้มมุมปากกับใบหน้าเชิดๆที่เขาเฝ้าฝันหา นึกไม่ออกว่ารายการนี้จะสรรหาอะไรมาแกล้งคนคนนั้นของเขา แต่แล้วร่างสูงก็ต้องตื่นตะลึงยิ่งกว่าเก่าเมื่อภาพนั้นถูกตัดต่อในอยู่ในชุดราตรีสุดหรูพร้อมกับขึ้นตัวอักษรคำพูดที่แสนจะเข้าท่า.... ‘จงเรียกฉันว่าเจ้าหญิง’
เสียงหัวเราะของเยซองดังขึ้นอีกครั้ง เขายกมือขึ้นเช็ดน้ำหูน้ำตาที่พร้อมใจกันไหลอย่างสุดกลั้น “โอ๊ย... จะบ้าตาย ฮีชอลกลายเป็นเจ้าแม่ไปแล้วหรอเนี่ย ฮะฮะฮะ” คำพูดชวนฮาในหน้าจอสี่เหลี่ยมบรรยายถึงท่าทางที่แสนจะเริ่ดเชิดหยิ่งของซินเดอเรล่าจอมโหด ผู้ที่ทำให้คนมากมายตกอยู่ภายใต้มนต์เสน่ห์ โครงหน้าเรียวสวยจนดูคล้ายหญิงสาว ดวงตากลมโตมุ่งมั่นดูไม่หวั่นกับสิ่งใด เปรียบเสมือนคนที่อยู่บนฟ้า ในขณะที่ใครต่อใครได้เพียงแต่แหงนมอง
“ไม่ตลกหรอซีวอน เฮ้... ซีวอน... นายเป็นอะไรไป” ต่อท้ายด้วยความตกใจนิดๆเมื่อเห็นคนข้างกายทำหน้าเครียด จ้องมองหน้าจอโทรศัทน์ด้วยดวงตาที่ดูเจ็บปวดลึกล้ำจนไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดใดๆได้ “ซีวอน... มีอะไรรึเปล่า” แม้ว่าไม่ได้คบกันในฐานะพี่ใหญ่กับน้องเล็กด้วยเขาเห็นว่าซีวอนมีความเป็นผู้ใหญ่และดูแลตัวเองได้มากกว่าพวกลิงตัวน้อยๆอย่างซองมินหรือเรียววุค หากแต่เยซองก็ยังมีสำนึกของคนที่มีอายุมากกว่าอยู่เล็กๆว่าซีวอนคือน้องชายคนหนึ่งที่เขาควรดูแลด้วยเช่นกัน
“เยซอง.... พี่ฮีชอลนี่ดูสูงส่งจังเลยนะ” เด็กหนุ่มกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ “เหมือนกับอยู่ไกลจนเอื้อมไม่ถึงอย่างนั้นแหละ”
เมื่อนั้นที่คนที่นึกอยากจะทำตัวเป็นพี่เข้าใจขึ้นมาเล็กๆว่าสาเหตุที่ซีวอนกลายเป็นแบบนี้เพราะอะไร เยซองรู้ว่าระหว่างคนสองคนนี้มีความสัมพันธ์ที่พิเศษต่อกันมาได้สักพักแล้ว หากแต่สิ่งนั้นยังดูไม่มั่นคงยิ่งนัก ด้วยเจ้าเด็กตัวโตชอบคิดมาก กังวลในความห่างไกลกับท่าทีไว้ตัวเหมือนอยู่เหนือผู้อื่นอันเป็นนิสัยประจำตัวของฮีชอล
“อย่าคิดแบบนั้นซี่” เสียงแหบเสน่ห์เอ่ยปลอบใจ “ยังไงฮีชอลเค้าก็เป็นฮีชอลของนายวันยังค่ำไม่ใช่หรอ” เอื้อมมือเรียวของตนไปตบบ่าเด็กตัวสูงน้อยๆเห็นสายตาคนฟังดูหวั่นไหวไม่มั่นใจแล้วรู้สึกแย่ขึ้นมานิดหน่อย คำปลอบใจของเขาไม่ได้ช่วยอะไรเลยหรอ นี่เขาเป็นพี่ประสาอะไรกัน
“แต่ฉันกลัวนี่ พี่ฮีชอลก็งานยุ่งกับโปรเจ็ค trot ทำงานทุกวัน ตอนกลางคืนก็ไม่ได้นอนบ้านเราอีก” ซีวอนเอ่ยในสิ่งที่เขาคิดมากมานาน “พี่ฮีชอลจะเป็นยังไง จะทำอะไรอยู่ ฉันไม่เคยรู้เลย”
คนฟังถึงกับรู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมาเล็กๆ อดไม่ได้ที่จะเขกมะเหงกใส่คนตัวสูงเบาๆสักสองสามที ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนอยากบ่นออกมาเต็มทน
“นายก็มัวแต่งี่เง่าอยู่อย่างนี้แล้วมันจะรู้เรื่องฮีชอลเค้ามั้ยเนี่ย คิดถึงก็โทรไปหาสิ โทรศัพท์ไม่มีหรอไง”
“แต่ถ้าพี่ฮีชอลไม่อยากคุยกับฉัน”
“โอ๊ย... งั้นนายบอกไปเลยว่า ฉัน... ฉัน...” เอามือจิ้มๆไปที่อกตัวเอง “ไอ้ซาลาเปาของยัยเชิดนั่นบังคับขู่เข็ญให้นายโทรไป บอกว่าฉันอยากเจอ อยากจะให้ฮีชอลแวะมาที่บ้าน หรือนายจะกุเรื่องอะไรไปก็ได้แล้วนายค่อยบอกสิ่งที่นายอยากบอก ดีมั้ย” ชายหนุ่มพองแก้มด้วยความรู้สึกขัดใจ ทำไมเวลาคนมีความรักจะพร้อมใจกันไร้สมองไปหมดรึไงฟะ เมื่อวานอีทึกก็พึ่งมาปรึกษาเรื่องไอ้หมีคังอิน กะอีแค่อยากจะมีเวลาสวีทด้วยกัน โธ่... ถ้าบอกไปตรงๆก็จบเรื่องแล้ว คิดหรอว่าอย่างคังอินมันจะไม่ระริกระรี้อยากอยู่กับอีทึกสองต่อสองน่ะ
“จะดีหรอเยซอง” เรียวปากได้รูปเอ่ยอย่างไม่แน่ใจ หากแต่แววตาดูสบายใจกว่าเดิมมาก “ฉันเอาชื่อนายไปอ้างได้แน่นะ”
“เอาเลยๆ” เจ้าตัวรีบสนับสนุน “เคลียร์เรื่องของนายไปเหอะ แล้วถ้าฮีชอลจะมาเม้งอะไรเดี๋ยวฉันจัดการเอง” รุนหลังซีวอนไปทางระเบียงข้างนอก “ไปคุยเงียบๆข้างนอกไป ไอ้พวกลิงนั่งเล่นไพ่อยู่ในห้องนอน ถ้านายเข้าไปจะยิ่งยุ่งไปกันใหญ่”
เมื่อคนตัวสูงเดินออกไปพ้นห้องนั่งเล่นไปได้สักพัก ดวงตาศิราณีจำเป็นเริ่มมีประกายวาววิบพริบพราว ริมฝีปากเรียวเริ่มจะเม้มแน่นด้วยต้องการกลั้นเสียงหัวเราะที่ไม่ต้องการให้เล็ดรอดออกมาจนตัวสั่น นึกถึงคำพูดของฮีชอลที่เคยกระซิบบ่นใส่เขาเมื่อครั้งไปเป็นแขกรับเชิญรายการ miracle for you
‘ซีวอนเค้าคิดถึงฉันบ้างรึเปล่านะ ไม่เห็นจะโทรมาหาสักที’
....โถ... คนที่ว่าสูงส่งนักหนาก็มีความต้องการแบบลิงทั่วไปเหมือนกันแหละน่า......
.............................................................................
เด็กหนุ่มหน้าตาดีเข้าขั้นมากๆกำลังยืนอยู่ที่ระเบียง มือใหญ่แข็งแรงกดปุ่มโทรศัพท์ต่อสายไปยังคนที่เขาคิดถึง หัวใจเต้นแรงรัวด้วยความตื่นเต้น นี่จะเป็นครั้งแรกที่เขาโทรหาพี่ฮีชอลโดยไม่มีเรื่องงานเข้ามาเกี่ยวข้อง หากแต่เป็นเพราะความรู้สึกข้างในล้วนๆ
ซีวอนเริ่มรู้สึกแห้งเหี่ยวเมื่อโทรศัพท์ไปสองรอบแล้วยังไม่มีคนรับสาย หิมะที่ตกโปรยปรายบางเบาทำให้เด็กหนุ่มหนาวสั่นขึ้นมาน้อยๆ นึกโทษเยซองที่ไล่เขามาเผชิญหน้ากับบรรยากาศเย็นนอกบ้านแถมพี่ฮีชอลยังไม่ยอมรับโทรศัพท์เขาอีกต่างหาก เด็กหนุ่มกดโทรออกเป็นรอบที่สามพลางคิดไปต่างๆนานาว่าเขากำลังทำให้คนบางคนรำคาญใจรึเปล่า
“ฮัลโหล ซีวอนหรอ?” เสียงคุ้นเคยดังขึ้นข้างหูพาเอาคนได้ยินสะดุ้งเฮือก ตกใจที่อีกฝ่ายรับสายโดยไม่ทันตั้งตัว
“ค.. ครับ... พี่ฮีชอลใช่มั้ยครับ” เด็กหนุ่มพูดตะกุกตะกัก ปลายสายหัวเราะเบาๆ
“แล้วนายโทรมาหาใครกันล่ะ โทษทีที่รับช้านะ เมื่อกี้พี่ไปอาบน้ำมาน่ะ”
“อ่ะ... ผมรบกวนพี่รึเปล่าฮะ”
“เปล่าๆ” ได้ยินอีกคนตอบอย่างรวดเร็ว “มีอะไรรึเปล่าซีวอน”
“คือ... คือ...” เกิดนึกอะไรไม่ออกขึ้นมากะทันหัน “อ้อ... เยซองบอกว่าให้พี่มาพักที่บ้านซุปเปอร์จูเนียร์บ้างน่ะครับ เยซองบอกว่าคิดถึงพี่มากๆเลย”
ฮีชอลเงียบไปสักพักก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงน้อยใจนิดๆ
“แล้วนายล่ะ ไม่คิดถึงพี่บ้างหรอ”
“เอะ... เอ๋... ผม... ผมก็ต้องคิดถึงพี่อยู่แล้วสิฮะ”
“พี่ไม่เชื่อหรอก คิดถึงแล้วทำไมไม่โทรมาบ้างเลย”
“ก็ผม... ผม...” เด็กหนุ่มอ้ำอึ้ง “ผมโทรหาพี่ฮีชอลได้ด้วยหรอฮะ” ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเศร้า
“หมายความว่าไงกัน”
“ไม่มีอะไรนี่ฮะ” ยังคงปากแข็ง
“นายต้องมีอะไรแน่ๆ บอกพี่มาสิ” ชายหนุ่มยังคงไล่ต้อน
“ไม่มีอะไรจริงๆฮะ”
“บอกมา” น้ำเสียงตวัดห้วนที่ดูคล้ายชักจะอารมณ์เสียทำให้ดวงตาของซีวอนไหวสั่น รู้สึกว่าสายใยระหว่างเขากับพี่ฮีชอลไม่คล้ายสิ่งที่เรียกว่าความรักแม้สักนิด
“ก็ผมกลัวพี่ไม่ว่าง กลัวพี่จะรำคาญแล้วพี่ก็จะเบื่อผม ไม่รักผม พี่ฮีชอลน่ะเหมือนเจ้าหญิงสูงส่งในขณะที่ผมเป็นคนธรรมดา ไขว่คว้าแค่ไหนก็ไม่เคยเอื้อมถึง อ๊ะ... ผม...” ซีวอนชะงักด้วยอาการตกใจยิ่ง “ผมพูดอะไรออกไป พี่อย่าโกรธผมนะฮะ ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ผมขอโทษ” คนตัวสูงละล่ำละลักแต่ปลายสายกลับกลายเป็นความเงียบจนเด็กหนุ่มเริ่มวิตกคิดว่าพี่ชายที่เขารักต้องไม่พอใจมากแน่ๆ ครั้นจะเอ่ยทำลายความเงียบออกไป ซีวอนก็ได้ยินเสียงถอนหายใจ... เสียงถอนหายใจที่ยาวมาก ตามมาด้วยน้ำเสียงนุ่มๆของคนที่เขาหลงใหล
“ซีวอน....” ทอดเสียงอ่อน “ที่นั่นก็มีหิมะตกใช่มั้ย”
“เอ่อ... ครับ...” คนถูกถามตอบงงๆไม่เข้าใจว่าคนบางคนต้องการอะไร แต่การที่คนนั้นไม่ได้คุยด้วยน้ำเสียงโมโหโกรธาก็ทำให้เขาสบายใจขึ้นมาก
“นายลองจับหิมะให้ได้สักยี่สิบสามสิบเกล็ดซิ”
“หา?” แม้เจ้าตัวจะอุทานด้วยความประหลาดใจ หากแต่ฮีชอลก็ได้ยินเสียงเฟี้ยวฟ้าวเหมือนคนที่พยายามขยับมือคว้าอะไรสักอย่างด้วยความรวดเร็ว สักพัก...ชายหนุ่มก็ได้ยินเสียงคู่สนทนาของเขา
“ผมจับไม่ถนัดฮะพี่ฮีชอล มือผมถือโทรศัพท์อยู่ข้างนึงอ่ะ เดี๋ยวผมโทรไปหาพี่ใหม่ได้มั้ยครับ” คำพูดพาซื่อทำให้ฮีชอลต้องกลั้นยิ้มก่อนจะบอกให้เด็กตัวสูงเลิกกระทำ ใบหน้าหล่อคมดูยุ่งเหยิงราวไม่เข้าใจก่อนจะเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“งั้นพี่ให้ผมทำทำไมล่ะครับ”
“นายว่าจับหิมะมันยากมั้ย” คนสวยตอบกลับด้วยคำถาม
“ก็... ยากน่ะสิครับ หิมะมันไม่ได้อยู่นิ่งๆให้ผมจับมันซะหน่อย”
“งั้น....ทำตามที่พี่บอกนะ” ฮีชอลพูดช้าๆ “ยื่นมือไปข้างหน้า”
“ครับ ยื่นมือไปข้างหน้า” ทวนคำสั่งพร้อมทำตามอย่างตั้งอกตั้งใจ
“แบมือ แล้วหงายมันขึ้นมา”
“แบมือ... แล้ว....” ซีวอนนิ่งไปเมื่อเห็นหิมะที่โปรยปรายลอยละลิ่วปลิวตกลงบนมือเขาอย่างง่ายๆ
“เห็นแล้วใช่มั้ย ถ้านายอยากจะจับหิมะ มันก็ง่ายนิดเดียว แค่แบมือทิ้งไว้”
“ผมไม่ทันได้คิด” เด็กหนุ่มเถียงเสียงอ่อย
“ก็เพราะนายไม่ทันได้คิดยังไงล่ะ ความรู้สึกของพี่ก็เหมือนหิมะนั่นแหละ ไม่จำเป็นที่นายต้องมาไขว่คว้าหรอก เพราะมันพร้อมจะตกใส่ให้นายเก็บรักษาง่ายๆอยู่แล้ว” น้ำเสียงคนที่ได้รับฉายาว่าจอมโหดเรียบเรื่อยออกจะฟังดูอ่อนโยนกว่าปกติอีกต่างหาก
“พี่ฮีชอล...”
“ไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรสักนิด พี่ก็เต็มใจจะมอบมันให้นายนะ”
“พี่ฮีชอล ผมขอโทษ”
“ช่างเถอะ นายก็เลิกคิดอะไรแบบนั้นซะนะ พี่ไม่เคยคิดว่านายน่ารำคาญสักหน่อย แล้วก็ไม่ได้ยุ่งจนรับ...” ยังพูดไม่ทันจบประโยคก็มีเสียงทุ้มแทรกขึ้นทันควัน
“ผมรักพี่”
“เอ๊ะ...” คนพูดโวยด้วยรู้สึกถึงความร้อนที่พุ่งมารวมกันที่ใบหน้า “พี่ยังพูดไม่....”
“ผมรักพี่ฮีชอล”
“นี่...” หัวใจคนมั่นเริ่มไหวเต้นไม่เป็นจังหวะ “อย่าพึ่งขัด...”
“ผมรักพี่ฮีชอลมากๆ”
“ผมรักพี่ฮีชอลที่สุด”
“ผมรักพี่ฮีชอลที่สุดในโลก”
กับคำบอกรักมากมายที่ในที่สุดชายหนุ่มหน้าสวยต้องถอนหายใจอย่างยอมแพ้ เอ่ยวาจาที่เด็กหนุ่มเฝ้ารอคอยมานาน
“โอเคๆ ซีวอน... รู้แล้วว่าพี่ต้องพูดอะไร” สูดลมหายใจรวบรวมความกล้าก่อนจะเปล่งเสียงช้าชัด
“ซีวอน พี่ก็รักนายเหมือนกัน”
.....................................................................................................
The end
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น