ตอนที่ 3 : ตอนที่ 3...สานสัมพันธ์ ระหว่างพี่น้อง
ตอนที่ 3...สานสัมพันธ์ ระหว่างพี่น้อง
ยุนอาพายูริกับแทยอนเดินออกไปคุยกันที่หน้าบ้าน เด็กรับใช้เอาขนมและน้ำมาให้จนเต็มโต๊ะ ยุนอายิ้มให้ยูริกับแทยอน หน้าตาไม่มีการปิดบังเลยว่าดีใจแค่ไหน
“พี่ยูล ยุนเรียกพี่แบบนี้ถูกแล้วใช่มั้ย”ยุนอาถามพี่สาว
“อื้ม...แล้ว...”ยูริมองไปที่ยุนอา เธอไม่รู้ว่าจะเรียกคนตรงหน้าว่ายังไง
“ยุน เรียกฉันว่ายุน ชื่อจริง อิม ยุนอา”ยุนอายังคงยิ้มกว้างอยู่เหมือนเดิม
“ยุน นี่พี่แทยอน เรียกพี่แทก็ได้ เพื่อนรักพี่เอง”
“ค่ะ ยินดีต้อนรับสู่คฤหาสน์ควอนนะคะพี่แท”
“ยุนอายุเท่าไหร่แล้วเนี่ย”แทยอนถามยุนอา ร่างโปร่งมองหน้าแทยอนแล้วก็ตอบคำถาม
“ 16 ปีค่ะ เรียนมัธยมปลายปีสุดท้ายแล้ว”
“เหรอ งั้นพวกพี่ก็แก่กว่าปีนึงสิ ช่วงนี้ยังปิดเทอมอยู่เลยยุนพาพวกพี่เที่ยวหน่อยได้มั้ย”แทยอนยิ้มกว้าง
“ได้สิ พี่ยูลพูดน้อยจังเลยนะคะ”ยุนอาหันไปมองคนที่นั่งนิ่งๆ
“โอ๊ย...ไอ้ยูลมันไม่ค่อยพูดหรอก หากมันพูดเก่งแบบพี่นะ ป่านนี้สาวๆทั้งโรงเรียนคงเสร็จมันหมด”แทยอนพูดแล้วมองเพื่อนตัวสูง
“ฮ้า...พี่ชอบผู้หญิงเหมือนกันเหรอ ยุนก็ชอบผู้หญิงนะ ยิ่งคนข้างบ้านเรานี่นะ ยุนยิ่งชอบ”ยุนอามองไปทางคฤหาสน์หลังถัดไป
“ใครเหรอยุน สวยมั้ย”แทยอนทำท่าทางอยากรู้ ยูริมองหน้าเพื่อนตัวเล็กแล้วส่ายหน้าไปมา นิสัยเจ้าชู้แบบนี้คงเลิกไม่ได้สินะ
“งั้นเดี๋ยวฉันจะพาไปรู้จัก ไปกันเถอะ”ยุนอาลุกขึ้นยืน แทยอนลุกตามอย่างรวดเร็วแต่ยูริกลับนั่งอยู่กับที่
“พี่ยูล ลุกขึ้นสิ ไม่ไปเหรอพี่”ยุนอาฉุดแขนยูริให้ยืนขึ้น
“ไม่ดีกว่า พี่ว่าเราอย่าไปกวนเค้าเลยนะ”ยูริเกรงใจเจ้าของบ้านข้างๆเพราะจะยกพลไปแบบนี้คงไม่ดีเท่าไหร่
“อะไรว่ะ ฉันอยากเห็นคนที่ยุนชอบอ่ะว่าจะสวยแค่ไหน”แทยอนทำท่าเหมือนเด็กโดนขัดใจ
“งั้นแกก็ไปกับยุนสองคนแล้วกัน ฉันจะรอพ่อ”ยูริตอบเสียงเรียบ แทยอนเลิกตื้อทันทีหากร่างสูงพูดด้วน้ำเสียงแบบนี้เอาช้างมาลากก็ไม่มีทางไป
“เออๆไม่ไปก็ไม่ไป ยุนเอาไว้วันหลังนะ”แทยอนนั่งลงข้างยูริเหมือนเดิม
“พี่ยูลเวลาพูดด้วยน้ำเสียงแบบนี้น่ากลัวจังเลยนะ”ยุนอายิ้มแหย่ๆให้พี่สาว ยูริได้แต่เลิกคิ้วมองเท่านั้น
ทั้งสามคุยกันไปเรื่อยๆ ถามเรื่องราวต่างๆของแต่ละคน ยูริแทบไม่ต้องเล่าอะไรเกี่ยวกับตัวเองเลยเพราะแทยอนเป็นคนเล่าเองแทบทั้งหมด
..........................................................
ในห้องรับแขก ซังวูก้มลงคำนับพ่อกับแม่ เขานั่งร้องไห้กอดขาผู้เป็นพ่อและแม่ พร่ำบอกแต่ว่า ‘ขอโทษครับพ่อ ขอโทษครับแม่’
ทั้งห้องกำลังร้องไห้ ความดีใจที่ครอบครัวได้พบหน้ากันอีกครั้ง ลีทึกกอดลูกชายคนเดียวของเขาเอาไว้ในอ้อมกอด กาอินกอดลูกสาวเอาไว้ และทั้งสี่คนก็มองหน้ากันแล้วยิ้มให้กันอย่างมีความสุข
“ต่อไปลูกก็มาทำงานที่บริษัทเราได้แล้วนะ ตำแหน่งประธานบริษัทมันว่างมานานแล้ว”ลีทึกตบไหล่ลูกชายเบาๆ
“อ้าว...แล้วพี่จีวูล่ะครับ พี่ไม่ได้เป็นประธานเหรอ”ซังวูหันไปถามพี่สาว
“พี่ดำรงตำแหน่งรองประธานจ๊ะ พี่รอเธอมารับตำแหน่งอยู่นะท่านประธาน”จีวูยิ้มให้น้องชายสุดที่รัก
“ครับพี่ อ่อ...ช่วงนี้ยูลยังไม่เปิดเรียน ผมจะให้ลูกไปเรียนรู้งานที่บริษัทนะครับ”ซังวูยิ้มให้พ่อกับแม่ ทั้งสองดูแปลกใจมากก็ยูริเพิ่งอายุได้ 17 ปีเอง
“ยูล เค้ายังเด็กอยู่นะลูก”กาอินมองหน้าลูกชาย
“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ยูลเค้าทำได้”ซังวูยิ้มกว้างให้ผู้เป็นแม่
“งั้นพ่อขอทดสอบก่อนได้มั้ย”ลีทึกมองหน้าซังวู
“ได้สิครับพ่อ ตามสบายเลยครับ”ซังวูมั่นใจว่ายูริมีพรสวรรค์ด้านนี้
“จีวูลูกไปเอาเอกสารที่เรามีปัญหากันตอนนี้มาสิ และให้คนไปเรียกยูลมาด้วย”ลีทึกสั่งลูกสาวคนโต
“ค่ะ คุณพ่อ”จีวูเดินหายออกไป
“ดูเรามั่นใจจังเลยนะ”กาอินยิ้มให้ลูกชาย
“ครับ เพราะยูลเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ครับ เค้าจะประสบผลสำเร็จตอนอายุยังน้อยแน่ๆ เพราะผมให้ลูกอ่านหนังสือเกี่ยวกับการบริหารตั้งแต่เด็ก เห็นอายุเท่านี้แต่ความคิดเค้โตมากเลยนะครับ”ซังวูพูดอย่างภูมิใจ
“ลูกเลี้ยงลูกสาวคนนี้ได้ดีมากเลยนะ แม้โซฮีจะไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว แต่หากเธอรับรู้ เธอคงดีใจมากๆ”กาอินยิ้มอ่อนโยนให้ลูกชาย
ยูริเดินมานั่งข้าซังวู ยุนอากับแทยอนตามเข้ามาด้วย ทั้งหมดนั่งเงียบอยู่ในห้องรับแขก
“ยูล ดูเอกสารนี่ให้ปู่หน่อยสิ แล้วบอกหน่อยว่าปู่จะแก้ปัญหานี่ยังไง”ลีทึกยื่นแฟ้มเอกสารให้ยูริ ร่างสูงรับมาและเริ่มอ่านทำความเข้าใจเนื้อหาในเอกสาร
ยูริอ่านอยู่สักพักก็ปิดแฟ้มแล้วเงยหน้ามองลีทึก ก่อนจะหันไปหาซังวู ซังวูยิ้มและพยักหน้าให้เป็นเชิงอนุญาต
“ยูลคิดว่าปัญหาที่เกิดกับบริษัทของคุณปู่นั้นเกิดจากพนักงาน ยิ่งพนักงานเยอะเท่าไหร่เราจะดูแลลำบาก จากที่ยูลอ่านงบประมาณแต่ละปี ทางบริษัทได้กำไรมหาศาล แต่พนักงานกลับไม่มีสวัสดิการที่ดีพอ หากบริษัทไม่มีพนักงานมันก็ล้มค่ะ หากเราดูแลพนักงานมากกว่านี้เอาใจใส่เขามากกว่านี้ ยูลคิดว่าพนักงานจะให้ใจกับเราและยิ่งฝ่ายบัญชี ยูลว่าตอนนี้ที่บริษัทกำลังมีคนยักยอกทรัพย์ของทางบริษัทอยู่ ดูจากตัวเลขมีการแต่งให้สวยเกินไป พ่อดูสิค่ะ”ยูริยื่นแฟ้มให้ซังวู ซังวูดูรายระเอียดก็เป็นจริงอย่างที่ลูกสาวพูด
“จริงด้วยครับพ่อ ใครดูแลฝ่ายบัญชีอยู่ครับ”ซังวูเงยหน้าถามผู้เป็นพ่อ
“อาแดซองดูแลอยู่ลูก แต่ว่าแดซองเป็นน้องชายพ่อนะ เค้าจะทำแบบนั้นทำไมล่ะ”ลีทึกขมวดคิ้วไม่เข้าใจ
“งั้นเรื่องนี้ปล่อยให้ผมกับลูกจัดการเองนะ พรุ่งนี้คุณพ่อไปแนะนำผมกับผู้ถือหุ้นทุกคนนะครับ แต่ไม่ต้องแนะนำยูลให้ใครรู้จัก ผมจะให้ยูลไปอยู่ฝ่ายบัญชี”
“ได้สิลูก แหม...หลานปู่นี่ฉลาดจริงๆ โชคดีของตระกูลควอนที่ทายาทซะที”ลีทึกยิ้มกว้าง
“อ้าว...คุณพ่อพูดแบบนี้เดี๋ยวหลานยุนก็น้อยใจหรอกครับ”ซังวูรีบพูดขึ้นมาและหันไปมองยุนอาที่ยิ้มกว้าง
“ยุนไม่เป็นหรอกค่ะผู้บริหาร ยุนจะเป็นหมอ”ยุนอาพูดและยิ้มกว้างกว่าเดิม
“ยุนมีความฝันเดี๋ยวกับพี่เลย จับมือหน่อย”แทยอนทำตาโตและขอจับมือผู้ร่วมอุดมการณ์
“ทำไมถึงอยากเป็นหมอล่ะ”ยูริเอ่ยออกมา เพราะท่าทางของยุนอาไม่น่าอยากเป็นหมอ
“มันเป็นความฝันของยุนกับพี่เจส เราสองคนจะเป็นหมอที่เก่งที่สุด”ยุนอาทำท่าจริงจัง
“ใครเหรอพี่เจส”แทยอนถามเมื่อไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน
“ก็พี่สาวข้างบ้านที่จะพาไปให้รู้จักไง”
“อ๋อ...”แทยอนพยักหน้างึกๆ
“เอาล่ะ เด็กๆแม่ว่าไปพักผ่อนก่อนดีกว่านะ ยุนพาพี่แทไปที่ห้องก่อนนะลูก เดี๋ยวแม่จะคุยกับพี่ยูลก่อน”จีวูยิ้มให้เด็กๆ
ยูรินั่งมองยุนอากับแทยอนที่เดินขึ้นบันไดไป เธอสงสัยจังว่าคุณป้ามีอะไรจะคุยกับเธอ
“ยูล ป้าจะพูดเรื่องที่ยูลตอบไปอยู่ฝ่ายบัญชีนั่นแหละ ป้ารู้มาว่าอาแดซองให้คนเฝ้าที่ห้องเก็บเอกสาร ทำยังไงก็ได้ให้อาแดซองไว้ใจ แม้จะทำอะไรที่ฝืนความรู้สึกก็ต้องทำนะลูก”จีวูพายูริมาพูดกันสองคน
“ได้ค่ะคุณป้า ยูลจะพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อตระกูลควอน”ยูริจ้องจีวูนิ่ง จีวูยิ้มให้หลานสาว หลานคนนี้เหมือนลีทึกตอนเด็กมาก พ่อของเธอเป็นคนที่เก่ง และสามารถควบคุมอารมณ์สีหน้าได้ดีเหมือนยูริตอนนี้ไม่มีผิด
“ยูลไปพักผ่อนเถอะจ๊ะ ป้าแค่ไม่อยากให้ซังวูเป็นห่วงยูลมากเกินไปจนเป็นพิรุธให้ใครจับได้น่ะ เพราะป้าเองก็แอบให้คนสืบเรื่องคุณอาเหมือนกัน ตอนนี้ท่านเป็นหนี้แก๊งยากูซ่าจากญี่ปุ่นอยู่หลายล้าน ไม่ต้องบอกคงรู้นะ การพนันน่ะ”จีวูยิ้มอ่อนๆให้หลานสาว
“ยูลรู้ค่ะ ว่าต้องทำยังไง อย่าห่วงไปเลยนะค่ะ ยูลขอตัวนะคะ”ร่างสูงโค้งให้จีวู และเดินออกไปเดินเล่นแถวหน้าบ้าน
*********************************
ยูริเดินไปยังหน้าบ้าน เธอเดินมองไปรอบๆบ้าน คฤหาสน์หลังนี้ใหญ่จริงๆ ยูริเดินไปเรื่อยๆก็เห็นหญิงสาวกำลังพยายามลุกขึ้น เหมือนขาเธอจะแพลง ยูริเดินออกไปหาเธอคนนั้น
“คุณคะ เป็นอะไรมากหรือเปล่าค่ะ”ยูริถามอย่างอ่อนโยน หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมา
สองสายตาประสานกันอย่างมิได้นัดหมาย สาวผมทองมองสาวหน้าคมอย่างหลงใหล ร่างสูงมองหน้าสาวผมทองนิ่งก่อนจะเอ่ยออกมาอีกครั้ง
“เจ็บตรงไหนเหรอคะ”ยูริเลิกคิ้วมองคนที่นั่งจ้องหน้าเธออยู่
“ฉันเจ็บข้อเท้า พอดีออกไปวิ่งแล้วบังเอิญเหยียบก้อนหิน เลยเป็นแบบที่เห็น...”สาวผมทองยิ้มแหย่ๆให้ร่างสูง
“ฉันช่วยนะ เธอ...เอ่อ...”ยูริอยากจะถามชื่อคนตรงหน้าแต่ก็ไม่ค่อยจะกล้า ทำไมหัวใจกับปากมันสั่นแบบนี้ล่ะ ฉันกำลังป่วยหรือไงเนี่ย
“ฉันเจสสิก้า จองค่ะ เรียกเจสก็ได้”เจสสิก้ายื่นมือให้ยูริ เพื่อให้ร่างสูงพยุงเธอให้ลุกขึ้น
จังหวะที่ยูริดึงร่างบางให้ยืนขึ้น เจสสก้าเกิดเสียหลักขึ้นมาอีกครั้ง เลยล้มใส่ตัวของยูริ ตอนนี้ไม่รู้เสียงหัวใจของใครดังกว่ากัน เจสสิก้าหน้าแดงจัด เธอได้ยินเสียงหัวใจของยูริกำลังเต้นเร็วขึ้น ร่างบางยกยิ้มก่อนจะขยับตัวให้ยืนตรงและเอ่ยขอโทษยูริ
“เธอชื่ออะไรเหรอ”เจสสิก้าถามร่างสูง
“ฉันชื่อควอน ยูริ เรียกยูลก็ได้ ว่าแต่บ้านเธออยู่ไหนล่ะ”ยูริมองหน้าร่างบางนิ่ง
“หลังถัดไปนี่เอง เธอเป็นอะไรกับคุณปู่ควอน ลีทึกเหรอ”
“ฉันเป็นหลานของคุณปู่”
“คุณปู่คุณย่ามียุนเป็นหลานคนเดียวไม่ใช่เหรอ โอ๊ะ!จริงสิ ยุนเคยบอกว่ามีพี่สาวที่พลัดพรากจากกัน ชีวิตคนเรานี่เหมือนนิยายจังเนอะ”เจสสิก้ายิ้มให้ยูริ ร่างสูงหน้าแดงขึ้นมาอยากปิดไม่มิด เจสสิก้ายิ้มขำร่างสูงแต่ก็ต้องหุบยิ้มอย่างเร็วเมื่อร่างสูงขมวดคิ้วสงสัย
“ยูลเข้าไปส่งเจสในบ้านหน่อยสิคะ เจสเดินไม่ไหวจริงๆ”ร่างบางอมยิ้มนิดๆ
“ก็ได้ ฉันว่าฉันอุ้มเธอจะดีกว่านะ ขอโทษนะ”ยูริอุ้มร่างบางอย่างสบายๆ
“ว๊าย...”ร่างบางร้องเสียงหลงและรีบกอดคอยูริเอาไว้
“ไม่ต้องกลัวหรอก ฉันไม่ปล่อยเธอตกลงไปหรอก”ยูริกระตุกยิ้ม
‘คนอะไรอ่ะหล่อ สวย น่าหลงใหลที่สุด’ เจสสิก้าก้มหน้านิ่งเธอแอบอมยิ้มด้วยอาการเขิน
ยูริพาเจสสิก้าเข้ามาส่งข้างในบ้าน ร่างบางสั่งเด็กในบ้านให้เอายามาทาข้อเท้าให้เธอ ยูรินั่งมองร่างบางที่ก้มลงไปนวดขาตัวเองอย่างยากลำบาก
“ให้ฉันช่วยนะ”ยูริหยิบหลอดยาที่สาวใช้นำมาให้และบีบใส่อุ้งมือตัวเอง
“เอ่อ...ขอบคุณค่ะ”เจสสิก้าจะชักเท้าออกแต่ร่างสูงก็จับข้อเท้าเอาไว้ก่อน ร่างบางจึงเอ่ยขอบคุณแทน
“เสร็จแล้วค่ะ ช่วงนี้คงต้องอยู่นิ่งๆสักพักนะคะ”ยูริบอกคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเธอ
“ขอบคุณอีกครั้งนะค่ะ ตอนนี้ก็ได้เวลาอาหารเย็นแล้ว ทานข้าวด้วยกันนะ ถือว่าเจสขอบคุณยูลแล้วกัน”เจสสิก้ายิ้มหวานให้ร่างสูง ยูริตลึงกับร้อยยิ้มสวยนั่น
“เอ่อ...เอาไว้วันหลังแล้วกันนะ พอดีฉันเพิ่งเจอคุณปู่คุณย่าวันนี้เป็นวันแรก ฉันคิดว่ามันคงไม่เหมาะเท่าไหร่”ยูริพูดก่อนจะยิ้มบางๆให้เจสสิก้า
“งั้นยูลติดมื้อเย็นกับเจสนะคะ ห้ามลืมเด็ดขาด ไว้เจสหายดีแล้วจะไปหายูลที่บ้านนะ”เจสสิก้าแจกยิ้มให้ร่างสูงอีกแล้ว
“ค่ะ ฉันขอตัวก่อนนะ แล้วเจอกัน”ยูริยิ้มให้เจสสิก้า ร่างบางมองแล้วยิ้มตอบ
“แล้วเจอกันค่ะ”เจสสิก้าตอบก่อนจะโบกมือลาร่างสูง
เจสสิก้ามองตามร่างสูง เธอไม่เข้าใจหัวใจดวงน้อยๆของเธอทำไมถึงเต้นแรงเมื่อยามอยู่ใกล้ยูริ เธอกำลังเรียนหมอเปิดเทอมหน้าก็อยู่ปี 2 แล้วเธอแก่กว่ายูริ 1 ปี
“ยินดีที่ได้รู้จักนะควอน ยูริ”เจสสิก้าทำหน้าเพ้อฝัน เธอไม่เคยชอบใครเลย แม้จะมีใครต่อใครมาจีบเธอมากมาย
*****************************
ขอโทษนะเนื้อหาตกหล่นแต่แก้ไขใหม่แล้วนะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

แล้วคุณควอนก็ยิ่งแบบ ซึนๆ ไม่ค่อยพูด พูดน้อยอีก ใครจะไปเข้าใจ
คงจะไม่กล้าทำร้ายน้อง แต่กล้าทำสิก้าเจ็บช้ำน้ำใจแหงๆ
โอ้ๆๆ
ยูลเก่งเมพไปไหน
เมื่อไรยูลสิกเค้าจะได้เจอกัน