ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : บทที่ 8 ความรู้สึกที่มิอาจให้ได้
“ยูจัง!!!” เสียงใสๆ ของเมลานี่ที่บ่งบอกถึงความเป็นห่วงอย่างยิ่งต่อหญิงสาวในชุดนักบวชหนุ่ม “โธ่!! แล้วอย่างนี้ยูจังจะทำยังไงล่ะ”
“เอ่อ ข้าจะปกป้องยูคิเองขอรับ” คริสบอกเมลานี่ที่กำลังเป็นห่วงเด็กที่เธอให้ความสำคัญว่าเป็นน้องสาวคนหนึ่ง “การที่รู้ว่ายูคิไปหา Dop. ก็ทำให้ผมได้รู้ว่าผมรักยูคิแค่ไหน ผมต้องปกป้องคนที่ผมรัก” คริสพูดอย่างเต็มปากเต็มคำ
“ข้าเข้าใจ แต่ว่าไนท์เก่งๆ ก็เสียชีวิตเพราะมันไปมากแค่ไหนแล้ว ข้าพอรู้ความรู้สึกของท่านแม้ท่านคิดว่ายูคิเป็นผู้ชาย ” เมจังครวญ
“ข้าเก่งเทียบเท่าไนท์คนนึง แต่ว่าข้าไม่สามารถเปลี่ยนอาชีพได้เท่านั้น” คริสพูดอย่างเจ็บใจในชาติตระ+++ลตนที่เป็นสายเลือดกษัตริย์ แต่เก่งสู้ศัตรูไม่ได้
ความสามารถเขานั้นก็เท่าสามัญชนคนนึงที่มีความตั้งใจกับการซ้อม การเป็นกษัตริย์ต้องเก่งกว่าทุกคนแต่เขากลับ ถึงดีสำหรับเด็กอายุ 16 แต่ความรู้สึกที่ว่าตนอาจไม่สามารถปกป้องคนที่รักได้นั้นมันฝังไปได้ลึกเหลือหลาย
เมลานี่เข้าใจความรู้สึกของเด็กหนุ่มจึงนั่งลงข้างพลางจับไหล่ให้สัญญาณเชิงว่า เจ้าทำดีที่สุดก็พอ
ส่วนบุคคลที่ทั้ง 2 กำลังเป็นห่วงมากที่สุดก็นั่งอย่างเหม่อลอย ทุกคนก็คิดว่าเธอนั้นเหม่อลอยอย่างไร้จุดหมาย ไม่มีใครรู้เลยว่าเธอนั้นกำลังเตรียมรับมือและชะตากรรมหลังจากที่ได้พบ Dop. แล้วถูกเลือกให้เป็นรายต่อไป
ตอนนี้อากาศเย็นพอควรเพราะหิมะได้ปกคลุมทั่วเมืองกีฟเฟ่นแล้ว และสาวน้อยวัย 14 คนนี้ก็นั่งต่อไปมิได้เกรงกลัวต่อสภาพอากาศ
“ยูคิ ” คริสเอ่ยเบา ยูคิค่อยๆ หันไปหาต้นเสียง
“มีอะไรหรือคะ..?” ยูคิพูดด้วยน้ำเสียงที่ไร้ชีวิตชีวา ไม่เหมือนเดิม นั่นก็ทำให้เจ้าชายเจ็บใจมากเหมือนกัน
“อากาศเย็นมากแล้ว ไปหาอะไรอุ่นๆ ในบ้านเมจังทานดีกว่านะ” คริสพยายามใช้น้ำเสียงที่อ่อนโยนที่สุด ยูคิยิ้มเซื่องๆ แล้วให้คริสประคองอย่างง่ายดาย
“กาแฟอุ่นๆ หรือชาร้อนๆ ดีจ๊ะ” เมลานี่ถามพลางทำใจว่าอาจไม่ได้พบหน้าหญิงสาวที่ตนรักดั่งน้องแท้ๆ อีกต่อไปในเร็ววันนี้
“ขอชาร้อนๆ ดีกว่าค่ะ” ยูคิพูดช้าๆ และยังคงยิ้มเซื่องๆ
“ข้าขอกาแฟ น้ำตาล 2 ช้อนนะขอรับ” คริสพูดกับเมจัง บรรยากาศในห้องช่างกดดันมาก
เพราะทุกคนกำลังฝืนมิให้ใครเห็นน้ำตา เกรงว่าอีกฝ่ายจะเป็นห่วง แต่ยูคินั้น ถ้าไม่ได้เหม่อก็มักจะกอดไม้กางเขนอันนั้น ที่สลักชื่อของเธอไว้
“เจ้านั่นให้ไว้ตั้งนานแล้วนี่นา ” เมจังเอ่ย ยูคิยิ้มอย่างร่าเริงขึ้นมาระดับนึง
“ตอนนี้กลายเป็นของดูต่างหน้าแล้วค่ะ เจ้าเปี๊ยกนั่นตายไปแล้วทั้งๆ ที่ข้ายังไม่ได้สารภาพความในใจเลย” ยูคิเริ่มสลดลงเล็กน้อย
“คนรักของเจ้าชื่ออะไรหรือ ยูคิ” คริสเอ่ยถาม ยูคิไม่พูดอะไร พลางนั่งยิ้มแล้วมองไม้กางเขนนั่น ลายสลักของมันช่างตรึงใจ
“เมจังขอรับ..” เมื่อถามเจ้าตัวไม่ได้จึงหันไปถามอีกคน
“ข้าอยากให้เจ้ารู้จากปากของยูคิเองมากกว่า ” เมจังหันหน้าหนี “เดี๋ยวข้าเข้าใจผิดยูจังก็เอาข้าตายซิ”
“ว้าา แล้วอย่างนี้ข้าน้อยจะรู้ได้ยังไงขอรับ” คริสพูดเชิงน้อยใจทำให้ยูคิหัวเราะได้อีกครั้ง
“ท่านไม่รู้ก็ดีแล้วค่ะ เรื่องแค่นี้อย่าใส่ใจเลย” ยูคิยิ้มขึ้นมาอีกครั้งแล้วใส่สร้อยไม้กางเขนนั้นอีกครั้ง
“ข้าขอออกไปชมวิวข้างนอกแปบนึงนะคะ” ยูคิลุกขึ้น
“เอ้า จะได้อุ่น” เมลานี่หาผ้าคลุมมาคลุมให้ยูคิอย่างอ่อนโยน
“เมจัง ขอบคุณค่ะ” ยูคิกอดเมลานี่ เมลานี่เองก็กอดตอบช่างเป็นภาพที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง
“ขอร่วมวงด้วยได้มั้ยขอรับ” คริสแซว สาวๆ หัวเราะ “ข้าไปด้วยนะ”
“ขออภัย ข้าอยากไปคนเดียวค่ะ” ยูคิยิ้มให้คริส คริสเองก็เข้าใจ “ฝากดูเจ้าโพริ่งด้วยนะ ข้าขอตัว ” ว่าแล้วยูคิก็เดินออกไป .
ข้างนอกนั้น พอยูคิเดินไปซักพักก็เห็นเด็กๆ กลุ่มหนึ่งเล่นปาหิมะอย่างร่าเริง ทำให้ยูคินึกถึงวันเก่าๆ ขึ้นมา
“นานแล้วซินะที่ไม่ได้เล่นปาหิมะ..” เด็กสาวพูดเบาๆ เพราะปีที่แล้วยูคิป่วยไม่สามารถออกมาเล่นได้ 2 ปีที่แล้วยูคิก็มัวแต่ทำของขวัญให้คนรักของเธอ
“เด็กๆ จ๊ะ ” ยูคิเรียกเด็กๆ ซึ่งเด็กคนนึงก็หันมา
“มีอะไรขอรับพี่สาว” เด็กคนนั้นขานอย่างร่าเริง
“ท่าทางน่าสนุกแล้วพี่ไม่มีเพื่อนเล่นปาหิมะด้วยซิ ขอพี่เล่นด้วยคนได้มั้ยจ๊ะ??” ยูคิทำท่าอ้อนอย่างน่าชัง
“ทุกคนๆ พี่สาวคนสวยคนนี้อยากเล่นด้วยน่ะ” เด็กคนนั้นตะโกนถามพรรคพวก แล้วเด็กทุกคนก็ปาหิมะใส่ยูคิ ยูคิหัวเราะแล้วเริ่มแก้แค้น
“นี่แน่ะ” ยูคิปาหิมะใส่เด็กคนนึงอย่างร่าเริง เด็กคนนั้นก็ปากลับ ทุกคนวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน
คริส ที่แอบตามมามองอย่างไม่กังวลแล้วก็กลับเข้าบ้านของเมลานี่ไป
เวลาล่วงเลยไปจนถึงเวลาอาหารเที่ยง ท้องน้อยๆ ทำให้เด็กๆ แยกกันไปหาอะไรทานที่บ้านของตน ยูคิจึงกล่าวลาเด็กๆ แล้วเดินจากมา แต่ทว่า
“อ๊ะ!!” ยูคิเห็นเงาดำๆ ที่ตรอกหนึ่ง เธอเดินเข้าไปดู “ไม่มีอะไร นี่นา .” ยูคิบ่นอุบอิบก่อนจะหันมาเห็น
“Dop. ทำไมถึงมาตอนนี้ล่ะ ” ยูคิตกใจ
“ยูคิใช่มั้ย ” Dop. พูดพลางโผเข้ากอดยูคิที่กำลังอึ้ง “คืนพรุ่งนี้ข้าจะตามไปฆ่าเจ้า ข้ามาเพื่อบอกให้รู้ ”
“ท ..ทำไมไม่ฆ่าซะตรงนี้เลยล่ะ ” ยูคิถามเสียงสั่นๆ
“เจ้าไม่มีผู้คุ้มกันเลย ข้าฆ่าเจ้าตอนนี้มันง่ายไป ” Dop. แสยะยิ้มอย่างน่ารังเกียจ
“ขอบคุณ” ยูคิกล่าวทำให้มันตกใจเล็กน้อย “ขอบคุณมากที่ยืดเวลาให้ข้านะ” ยูคิพูดเศร้าๆ แล้วก็ยิ้มให้กับ Dop.
Dop. ยิ้มตอบ คราวนี้อ่อนโยนมาก “ข้าก็แค่ คิดว่าฆ่าเจ้าวันพรุ่งนี้คงจะสนุกกว่าแค่นั้น” แล้วมันก็จากไป
ยูคิมองพินิจพิเคราะห์ท่าทางการเดินของ Dop. แล้วอุทานชื่อที่ตนชอบใช้เรียกคนรักของตนเบาๆ “เจ้าเปี๊ยก ”
-----------------------------------------
“หา!!!” คริสตะโกนเมื่อยูคิเล่าให้ฟัง “ทำไมถึงเดินเข้าไปล่ะ ทำไมไม่ระวังตัว” ยูคิกลัวจึงหลับตาหากองค์รัชทายาทต้องการจะสำเร็จโทษ
“แต่ว่า เจ้าไม่เป็นไรก็ดีแล้ว .” คริสยิ้มแล้วโอบกอดสาวน้อยตรงหน้า
“ท่านคริส .” ยูคิกอดตอบ สาวน้อยหายจากอาการสั่นแล้ว
“สำหรับข้า ท่านช่างแสนดี ท่านเป็นเยียงพี่ชายที่ข้าถวิลหา ขอให้ท่านยอมรับข้าเป็นน้องสาวคนนึงด้วยเถอะ”
“เอ๋!!” คริสอุทาน “ยูคิ คนรักเข้าก็ตายไปแล้ว ให้โอกาสข้าบ้างไม่ได้หรือ ”
“ท่านนั้นแสนดี สำหรับข้า ขอมีท่านเป็นพี่ชายก็พอแล้ว ” ยูคิยืนกรานความรู้สึกตน
“อีกอย่าง ท่านพี่คริส ข้าขอให้ท่านกลับไปอยู่ที่วังได้หรือไม่ ข้าไม่ต้องการให้ท่านเอาชีวิตมาทิ้งไว้กับเจ้า Dop.” ยูคิกล่าว “ข้าห่วงอนาคตของประเทศ..”
“แต่ข้าเองก็ห่วงเจ้า!!!” คริสแย้ง “เจ้าจะต้องมีชีวิตต่อ หากเจ้าตาย ข้าก็จะตายตาม ”
“แล้วทำไมท่านต้องตายตามข้า ” ยูคิเอ่ยถามเสียงเรียบ
“หากไม่มีเจ้า ข้าเองก็คงอยู่ไม่ได้ ข้ารักเจ้านะยูคิ ถ้าเจ้าตาย ”
“แล้วที่ข้าจะตายตามคนรักข้าล่ะ” ยูคิได้ที “ข้าต้องการตายตามคนรัก ท่านมิใช่หรือที่บอกว่าไร้สติ ท่านเองก็ไร้สติเช่นกัน!!”
“ย ยูคิ” คริสได้สติ
“ทำไมท่านเตือนข้า แล้วท่านเองก็ไม่สามารถทำได้ หากจะสั่งสอนใครท่านเองก็ต้องทำได้ก่อนแล้วค่อยมาสั่งสอน” ยูคิพูดอย่างเย็นชา
“ข้า .. เข้าใจแล้ว ” คริสพูดอย่างสำนึก
“องค์ชายจะเสด็จกลับซินะคะ ” ยูคิยิ้มอย่างดีใจที่คนที่ตนนับถือเยียงพี่เข้าใจตน
“ข้าไม่กลับ” คริสยิ้มพลางขยี้หัวยูคิเบาๆ “ข้าเข้าใจแต่ข้าไม่กลับ ข้าจะไม่ตายตามเจ้าแต่ข้าจะปกป้องเจ้าด้วยชีวิต ”
“ท่าน..” ยูคิเจ็บใจที่ทำให้คนๆ นี้ไปจากอันตรายที่มาจากตน
“คิดซะว่า พี่ชายย่อมปกป้องน้องสาวแล้วกันนะ” คริสยิ้มแฉ่ง ยูคิทำหน้ามุ่ย
“เก่งซักแค่ไหนเชียว” ยูคิวิ่งหนีพลางตะโกนหยอก “จะมาปกป้องคนอื่น เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ”
“อื้ม!” องค์ชายรับคำจากคนที่ตนรัก
ยูคิทำให้ตนได้รู้ว่า แม้ตัวเขามิอาจจะเปลี่ยนใจสาวน้อยได้ แต่ว่าหากแค่ได้อยู่เคียงใกล้ สำหรับเขานั้นก็พอใจแล้ว
---จบตอน---
“เอ่อ ข้าจะปกป้องยูคิเองขอรับ” คริสบอกเมลานี่ที่กำลังเป็นห่วงเด็กที่เธอให้ความสำคัญว่าเป็นน้องสาวคนหนึ่ง “การที่รู้ว่ายูคิไปหา Dop. ก็ทำให้ผมได้รู้ว่าผมรักยูคิแค่ไหน ผมต้องปกป้องคนที่ผมรัก” คริสพูดอย่างเต็มปากเต็มคำ
“ข้าเข้าใจ แต่ว่าไนท์เก่งๆ ก็เสียชีวิตเพราะมันไปมากแค่ไหนแล้ว ข้าพอรู้ความรู้สึกของท่านแม้ท่านคิดว่ายูคิเป็นผู้ชาย ” เมจังครวญ
“ข้าเก่งเทียบเท่าไนท์คนนึง แต่ว่าข้าไม่สามารถเปลี่ยนอาชีพได้เท่านั้น” คริสพูดอย่างเจ็บใจในชาติตระ+++ลตนที่เป็นสายเลือดกษัตริย์ แต่เก่งสู้ศัตรูไม่ได้
ความสามารถเขานั้นก็เท่าสามัญชนคนนึงที่มีความตั้งใจกับการซ้อม การเป็นกษัตริย์ต้องเก่งกว่าทุกคนแต่เขากลับ ถึงดีสำหรับเด็กอายุ 16 แต่ความรู้สึกที่ว่าตนอาจไม่สามารถปกป้องคนที่รักได้นั้นมันฝังไปได้ลึกเหลือหลาย
เมลานี่เข้าใจความรู้สึกของเด็กหนุ่มจึงนั่งลงข้างพลางจับไหล่ให้สัญญาณเชิงว่า เจ้าทำดีที่สุดก็พอ
ส่วนบุคคลที่ทั้ง 2 กำลังเป็นห่วงมากที่สุดก็นั่งอย่างเหม่อลอย ทุกคนก็คิดว่าเธอนั้นเหม่อลอยอย่างไร้จุดหมาย ไม่มีใครรู้เลยว่าเธอนั้นกำลังเตรียมรับมือและชะตากรรมหลังจากที่ได้พบ Dop. แล้วถูกเลือกให้เป็นรายต่อไป
ตอนนี้อากาศเย็นพอควรเพราะหิมะได้ปกคลุมทั่วเมืองกีฟเฟ่นแล้ว และสาวน้อยวัย 14 คนนี้ก็นั่งต่อไปมิได้เกรงกลัวต่อสภาพอากาศ
“ยูคิ ” คริสเอ่ยเบา ยูคิค่อยๆ หันไปหาต้นเสียง
“มีอะไรหรือคะ..?” ยูคิพูดด้วยน้ำเสียงที่ไร้ชีวิตชีวา ไม่เหมือนเดิม นั่นก็ทำให้เจ้าชายเจ็บใจมากเหมือนกัน
“อากาศเย็นมากแล้ว ไปหาอะไรอุ่นๆ ในบ้านเมจังทานดีกว่านะ” คริสพยายามใช้น้ำเสียงที่อ่อนโยนที่สุด ยูคิยิ้มเซื่องๆ แล้วให้คริสประคองอย่างง่ายดาย
“กาแฟอุ่นๆ หรือชาร้อนๆ ดีจ๊ะ” เมลานี่ถามพลางทำใจว่าอาจไม่ได้พบหน้าหญิงสาวที่ตนรักดั่งน้องแท้ๆ อีกต่อไปในเร็ววันนี้
“ขอชาร้อนๆ ดีกว่าค่ะ” ยูคิพูดช้าๆ และยังคงยิ้มเซื่องๆ
“ข้าขอกาแฟ น้ำตาล 2 ช้อนนะขอรับ” คริสพูดกับเมจัง บรรยากาศในห้องช่างกดดันมาก
เพราะทุกคนกำลังฝืนมิให้ใครเห็นน้ำตา เกรงว่าอีกฝ่ายจะเป็นห่วง แต่ยูคินั้น ถ้าไม่ได้เหม่อก็มักจะกอดไม้กางเขนอันนั้น ที่สลักชื่อของเธอไว้
“เจ้านั่นให้ไว้ตั้งนานแล้วนี่นา ” เมจังเอ่ย ยูคิยิ้มอย่างร่าเริงขึ้นมาระดับนึง
“ตอนนี้กลายเป็นของดูต่างหน้าแล้วค่ะ เจ้าเปี๊ยกนั่นตายไปแล้วทั้งๆ ที่ข้ายังไม่ได้สารภาพความในใจเลย” ยูคิเริ่มสลดลงเล็กน้อย
“คนรักของเจ้าชื่ออะไรหรือ ยูคิ” คริสเอ่ยถาม ยูคิไม่พูดอะไร พลางนั่งยิ้มแล้วมองไม้กางเขนนั่น ลายสลักของมันช่างตรึงใจ
“เมจังขอรับ..” เมื่อถามเจ้าตัวไม่ได้จึงหันไปถามอีกคน
“ข้าอยากให้เจ้ารู้จากปากของยูคิเองมากกว่า ” เมจังหันหน้าหนี “เดี๋ยวข้าเข้าใจผิดยูจังก็เอาข้าตายซิ”
“ว้าา แล้วอย่างนี้ข้าน้อยจะรู้ได้ยังไงขอรับ” คริสพูดเชิงน้อยใจทำให้ยูคิหัวเราะได้อีกครั้ง
“ท่านไม่รู้ก็ดีแล้วค่ะ เรื่องแค่นี้อย่าใส่ใจเลย” ยูคิยิ้มขึ้นมาอีกครั้งแล้วใส่สร้อยไม้กางเขนนั้นอีกครั้ง
“ข้าขอออกไปชมวิวข้างนอกแปบนึงนะคะ” ยูคิลุกขึ้น
“เอ้า จะได้อุ่น” เมลานี่หาผ้าคลุมมาคลุมให้ยูคิอย่างอ่อนโยน
“เมจัง ขอบคุณค่ะ” ยูคิกอดเมลานี่ เมลานี่เองก็กอดตอบช่างเป็นภาพที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง
“ขอร่วมวงด้วยได้มั้ยขอรับ” คริสแซว สาวๆ หัวเราะ “ข้าไปด้วยนะ”
“ขออภัย ข้าอยากไปคนเดียวค่ะ” ยูคิยิ้มให้คริส คริสเองก็เข้าใจ “ฝากดูเจ้าโพริ่งด้วยนะ ข้าขอตัว ” ว่าแล้วยูคิก็เดินออกไป .
ข้างนอกนั้น พอยูคิเดินไปซักพักก็เห็นเด็กๆ กลุ่มหนึ่งเล่นปาหิมะอย่างร่าเริง ทำให้ยูคินึกถึงวันเก่าๆ ขึ้นมา
“นานแล้วซินะที่ไม่ได้เล่นปาหิมะ..” เด็กสาวพูดเบาๆ เพราะปีที่แล้วยูคิป่วยไม่สามารถออกมาเล่นได้ 2 ปีที่แล้วยูคิก็มัวแต่ทำของขวัญให้คนรักของเธอ
“เด็กๆ จ๊ะ ” ยูคิเรียกเด็กๆ ซึ่งเด็กคนนึงก็หันมา
“มีอะไรขอรับพี่สาว” เด็กคนนั้นขานอย่างร่าเริง
“ท่าทางน่าสนุกแล้วพี่ไม่มีเพื่อนเล่นปาหิมะด้วยซิ ขอพี่เล่นด้วยคนได้มั้ยจ๊ะ??” ยูคิทำท่าอ้อนอย่างน่าชัง
“ทุกคนๆ พี่สาวคนสวยคนนี้อยากเล่นด้วยน่ะ” เด็กคนนั้นตะโกนถามพรรคพวก แล้วเด็กทุกคนก็ปาหิมะใส่ยูคิ ยูคิหัวเราะแล้วเริ่มแก้แค้น
“นี่แน่ะ” ยูคิปาหิมะใส่เด็กคนนึงอย่างร่าเริง เด็กคนนั้นก็ปากลับ ทุกคนวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน
คริส ที่แอบตามมามองอย่างไม่กังวลแล้วก็กลับเข้าบ้านของเมลานี่ไป
เวลาล่วงเลยไปจนถึงเวลาอาหารเที่ยง ท้องน้อยๆ ทำให้เด็กๆ แยกกันไปหาอะไรทานที่บ้านของตน ยูคิจึงกล่าวลาเด็กๆ แล้วเดินจากมา แต่ทว่า
“อ๊ะ!!” ยูคิเห็นเงาดำๆ ที่ตรอกหนึ่ง เธอเดินเข้าไปดู “ไม่มีอะไร นี่นา .” ยูคิบ่นอุบอิบก่อนจะหันมาเห็น
“Dop. ทำไมถึงมาตอนนี้ล่ะ ” ยูคิตกใจ
“ยูคิใช่มั้ย ” Dop. พูดพลางโผเข้ากอดยูคิที่กำลังอึ้ง “คืนพรุ่งนี้ข้าจะตามไปฆ่าเจ้า ข้ามาเพื่อบอกให้รู้ ”
“ท ..ทำไมไม่ฆ่าซะตรงนี้เลยล่ะ ” ยูคิถามเสียงสั่นๆ
“เจ้าไม่มีผู้คุ้มกันเลย ข้าฆ่าเจ้าตอนนี้มันง่ายไป ” Dop. แสยะยิ้มอย่างน่ารังเกียจ
“ขอบคุณ” ยูคิกล่าวทำให้มันตกใจเล็กน้อย “ขอบคุณมากที่ยืดเวลาให้ข้านะ” ยูคิพูดเศร้าๆ แล้วก็ยิ้มให้กับ Dop.
Dop. ยิ้มตอบ คราวนี้อ่อนโยนมาก “ข้าก็แค่ คิดว่าฆ่าเจ้าวันพรุ่งนี้คงจะสนุกกว่าแค่นั้น” แล้วมันก็จากไป
ยูคิมองพินิจพิเคราะห์ท่าทางการเดินของ Dop. แล้วอุทานชื่อที่ตนชอบใช้เรียกคนรักของตนเบาๆ “เจ้าเปี๊ยก ”
-----------------------------------------
“หา!!!” คริสตะโกนเมื่อยูคิเล่าให้ฟัง “ทำไมถึงเดินเข้าไปล่ะ ทำไมไม่ระวังตัว” ยูคิกลัวจึงหลับตาหากองค์รัชทายาทต้องการจะสำเร็จโทษ
“แต่ว่า เจ้าไม่เป็นไรก็ดีแล้ว .” คริสยิ้มแล้วโอบกอดสาวน้อยตรงหน้า
“ท่านคริส .” ยูคิกอดตอบ สาวน้อยหายจากอาการสั่นแล้ว
“สำหรับข้า ท่านช่างแสนดี ท่านเป็นเยียงพี่ชายที่ข้าถวิลหา ขอให้ท่านยอมรับข้าเป็นน้องสาวคนนึงด้วยเถอะ”
“เอ๋!!” คริสอุทาน “ยูคิ คนรักเข้าก็ตายไปแล้ว ให้โอกาสข้าบ้างไม่ได้หรือ ”
“ท่านนั้นแสนดี สำหรับข้า ขอมีท่านเป็นพี่ชายก็พอแล้ว ” ยูคิยืนกรานความรู้สึกตน
“อีกอย่าง ท่านพี่คริส ข้าขอให้ท่านกลับไปอยู่ที่วังได้หรือไม่ ข้าไม่ต้องการให้ท่านเอาชีวิตมาทิ้งไว้กับเจ้า Dop.” ยูคิกล่าว “ข้าห่วงอนาคตของประเทศ..”
“แต่ข้าเองก็ห่วงเจ้า!!!” คริสแย้ง “เจ้าจะต้องมีชีวิตต่อ หากเจ้าตาย ข้าก็จะตายตาม ”
“แล้วทำไมท่านต้องตายตามข้า ” ยูคิเอ่ยถามเสียงเรียบ
“หากไม่มีเจ้า ข้าเองก็คงอยู่ไม่ได้ ข้ารักเจ้านะยูคิ ถ้าเจ้าตาย ”
“แล้วที่ข้าจะตายตามคนรักข้าล่ะ” ยูคิได้ที “ข้าต้องการตายตามคนรัก ท่านมิใช่หรือที่บอกว่าไร้สติ ท่านเองก็ไร้สติเช่นกัน!!”
“ย ยูคิ” คริสได้สติ
“ทำไมท่านเตือนข้า แล้วท่านเองก็ไม่สามารถทำได้ หากจะสั่งสอนใครท่านเองก็ต้องทำได้ก่อนแล้วค่อยมาสั่งสอน” ยูคิพูดอย่างเย็นชา
“ข้า .. เข้าใจแล้ว ” คริสพูดอย่างสำนึก
“องค์ชายจะเสด็จกลับซินะคะ ” ยูคิยิ้มอย่างดีใจที่คนที่ตนนับถือเยียงพี่เข้าใจตน
“ข้าไม่กลับ” คริสยิ้มพลางขยี้หัวยูคิเบาๆ “ข้าเข้าใจแต่ข้าไม่กลับ ข้าจะไม่ตายตามเจ้าแต่ข้าจะปกป้องเจ้าด้วยชีวิต ”
“ท่าน..” ยูคิเจ็บใจที่ทำให้คนๆ นี้ไปจากอันตรายที่มาจากตน
“คิดซะว่า พี่ชายย่อมปกป้องน้องสาวแล้วกันนะ” คริสยิ้มแฉ่ง ยูคิทำหน้ามุ่ย
“เก่งซักแค่ไหนเชียว” ยูคิวิ่งหนีพลางตะโกนหยอก “จะมาปกป้องคนอื่น เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ”
“อื้ม!” องค์ชายรับคำจากคนที่ตนรัก
ยูคิทำให้ตนได้รู้ว่า แม้ตัวเขามิอาจจะเปลี่ยนใจสาวน้อยได้ แต่ว่าหากแค่ได้อยู่เคียงใกล้ สำหรับเขานั้นก็พอใจแล้ว
---จบตอน---
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น