ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 5 ฝ่าด่านหมาป่ามหาภัย
“คุณคริสขอรับ อีกไม่นานเราก็จะไปแถบเขตของพวก Horn กับ Wolf ระวังหน่อยนะขอรับ หากเราเผลอเหยียบหางหมาป่าแม้ตัวเดียว ทุกตัวจะรุมเราทันทีนะขอรับ” ยูคิอธิบายหนทางที่ต้องเผชิญ
“ทำไมเจ้าถึงรู้เส้นทางไปกีฟเฟ่นดีจริงๆ เลยน่ะ” คริสถาม
“ไว้ผ่านจุดนี้ก่อน แล้วข้าพร้อมเมื่อไหร่ ข้าน้อยจะเล่าให้ฟังทันทีขอรับ” ยูคิเดินต่อไปอย่างไม่สนใจคริส
“ขอรับๆ” คริสแหย่เมื่อเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไป
“จ๊อก~กกกก~~!!!” “อ๋า~” คริสอายมากที่ท้องร้องต่อหน้าคนที่ตนรัก(?) เพื่อนที่สำคัญของเขาในตอนนี้ แต่พอมองที่ยูคิ ร่างบางกลับเดินไปเรื่อยๆ โดยไม่สนใจเขา เขาจึงเดินก้มหน้าและสงสัยว่าที่กีฟเฟ่นสำคัญต่อยูคิยังไง เพราะดูท่ายูคิเองก็คงไม่เคยไปแต่อยากไปมากๆ พอคิดไปมา ก็มองหายูคิไม่เจอซะแล้ว
“ว้า โดนทิ้งซะแล้วเรา ” คริสพูดเศร้าๆ “ทิ้งกันได้นะ เฮ้อ!” คริสเริ่มบ่นแล้วมีคนจะจับไหล่จากข้าหลัง “ทหารรึ” คริสคิดแล้วดึงมีดออกปัด แต่มือนั้นมิใช่มือใคร มือของยูคินั่นเอง ยูคิตกใจมาก แต่ว่าเค้าได้สติแล้ว
“ข้าน้อยเองขอรับ คิดว่าเป็นทหารหรือ?” ยูคิหัวเราะ
“ยูคิ.. เจ้าหายหัวไปไหนมา” คริสถามอย่างหัวเสียเล็กน้อย
“ว้า~.. พูดกับนักบวชแบบนี้เวลาโดนอะไรเดี๋ยวข้าน้อยไม่รักษา(ฮีล)ให้น้า..” ยูคิยิ้มแป้นก่อนจะเริ่มสารธยายถึงผลไม้ที่ตนหอบมาระหว่างเดิน “ข้าน้อยลืมไปน่ะขอรับว่าคุณคริสยังไม่ได้ทานอาหารเช้า เพราะข้าน้อยมัวแต่ตื่นกับแผนออกมาจากประตูเมืองจึงไม่ได้เตรียมอาหารไว้ อาหารที่มีอยู่ก็มีจำกัด พอท้องคุณคริสร้อง ข้าน้อยก็เห็นว่าแถวนี้มีผลไม้กำลังน่ากิน จึงเดินไปเก็บมาให้คุณคริสและเก็บเป็นเสบียงด้วยขอรับ” ว่าแล้วก็โยนแอ๊ปเปิ้ลให้องค์รัชทายาท คริสรับอย่างสวยงามแล้วจ้องผลแอ็ปเปิ้ลอย่างพินิจพิจารณา
“ท ทำไมหรือขอรับ?” นักบวชฉงน
“ทำไมมันสดและน่ากินเหมือนถูกปลูกอย่างดี” องค์ชายสงสัย
“ตอนแรกข้าน้อยก็สงสัยเช่นกันขอรับ แต่เจอคุณลุงคนสวน คุณลุงบอกว่าสวนนี้เป็นสวนของพระราชาที่ต้องการให้ชาวบ้านได้ทานผลไม้สดๆ อร่อยๆ แล้วคุณลุงก็ช่วยข้าน้อยเก็บ หันมาอีกทีคุณคริสก็เดินไปไกลแล้วขอรับ” อโคช่างจ้อเริ่มพูด “กลัวถูกวางยาพิษหรือขอรับ งั้นให้ข้าน้อยกัดคำนึงก่อนก็ได้ เป็นอะไรก็จะได้เป็นด้วยกันไง” พูดจบยูคิก็กัดผลแอ็ปเปิ้ลในมือของชายหนุ่ม
“เฮ้ย!” ชายหนุ่มหน้าแดง “เราจะหน้าแดงทำไมนะ??” คริสคิด
ยูคิหัวเราะ “เท่านี้ถ้าถูกวางยา เราก็ตายด้วยกันแล้วนะขอรับ”
*****************************************************************
หลังจากเดินมาซักพัก ยูคิก็จัดการเก็บผลไม้ใส่กระเป๋าใบน้อยที่แบกมาได้ ดูท่าว่าคริสจะทานแอ๊ปเปิ้ลผลที่ 6 เสร็จแล้วและถือไว้ในมือ
“เฮ้อ ไหนเจ้าบอกว่า แถวนี้มีหมาป่าเยอะล่ะ เดินตั้งนานยังไม่เจอซักตัว” คริสพูดอย่างสบายใจ
“ง่า ^^ คงหลับอยู่มั้งขอรับ ออกล่าเหยื่อตอนกลางคืนนี่นากลางวันเลยง่วง คุณคริสอยากเจอหรือขอรับ” ยูคิหัวเราะ “ท่านโรคจิตหรือ ถึงอยากสู้นัก??” ยูคิล้อ
“จะดูไงว่าเราสามัคคีแค่ไหนไง” คริสหัวเราะ (โดนอโคหลอกด่าป่าวเนี่ย)
“ข้าว่าเรารีบเดินไปละกัน จะได้ถึงกีฟเฟ่นเร็วๆตามที่เจ้าต้องการ” ยูคิฟังแล้วยิ้ม คริสหน้าแดงกับใบหน้าหวานๆ ของคนๆ นี้ (เย็นไว้ ชายด้วยกันๆ ๆ ๆ ๆ) แล้วคริสก็โยนซากแอ๊ปเปิ้ลไปในพงหญ้าเพื่อกลบความอาย (คนแต่ง:ทิ้งขยะไม่เป็นที่ไม่ดีนะ ระวังไว้นะจ๊ะ)
“ป๊อก!!”
“เอ๋ !! ป๊อก!?!” คริสงงว่าตนโยนผลแอ็ปเปิ้ลทิ้งไปโดนอะไร (คนแต่ง:เราเตือนคุณแล้ว -- --!i!)
“ข้าน้อยคิดว่า คุณคริสคงจะเจอสิ่งที่ถามถึงแล้วกระมังขอรับ” ยูคิพูดติดตลก แต่ก็หัวเราะไม่ออก
หมาป่าที่หลับไหลตอนนี้หัวก็แดงๆ เพราะซากแอ๊ปเปิ้ลของคริส บัดนี้ได้หลุดจากห้วงนิทรา แล้วเดินตรงมาหาคนทั้ง 2 มันเดินมาหยุดที่หน้าคริส หมาป่าเดรัชฉานกับองค์ชายจ้องกันอยู่นานด้วยความรู้สึกที่แตกต่างกัน
องค์ชายคริส : ง่าาา มันจะทำอะไรข้าเนี่ย ลางไม่ดี -- --!i!
Wolf : โฮ่ง!! โฮ่งๆๆ?? แง่ง ~! เอ๊ง. โฮ่งๆๆ (เจ้านี่ซินะ! กลิ่นแอ๊ปเปิ้ลที่มือมัน ไม่ผิดแน่ แต่เอ๊ะ! ทำไมมันมองอย่างงั้น ต้องสั่งสอน)
“บรู้ววววว~~!!!~~~!!!!!!!” เจ้าหมาป่าหอนข้างหน้าคริส คริสกำลังงง
“มันไม่กัดข้าหรอ ยูคิ” คริสหันไปหาเพื่อนร่วมทาง
“ข้าน้อยว่า . เจ้านี่กำลังเรียกพวกพ้องนะขอรับ” ยูคิออกความคิดพลางถอยห่าง “ข้าน้อยไม่เกี่ยว ข้าน้อยขอลา” ว่าแล้วนักบวชน้อยก็ Hiding ไป Hidingเป็นความสามารถที่จะมุดดินหลบพวกสัตว์ประหลาด
“เฮ้ย!! ท่านั้นมันของพวกโจรไม่ใช่เรอะ!!!” คริสท้วง
“คือ .ข้าน้อยเคยช่วยชีวิตโจรท่านหนึ่งไว้ ท่านก็เลยสอนข้าน้อยน่ะขอรับ แหะๆ” ยูคิอธิบายทั้งที่ยัง Hiding อยู่
“กรรม เฮ้อ!!” คริสเหงื่อตกและยิ่งตกไปใหญ่ เพราะตอนนี้หมาป่าทั้งฝูงโผล่หน้ามาแล้วจ้องอย่างเคืองต่อคริส
“ข้าน้อยเป็นแค่อโคตัวน้อยๆ ขอหลบดีกว่าขอรับ ^^!i!” ยูคิพูดทำให้คริสรู้ว่า เค้าย้ายจากที่เดิมไปแล้ว
คริสเองก็มีดาบติดตัวมา เพราะเขาตอนอยู่ในวังก็มีความสามารถเทียบเท่าไนท์ตำแหน่งใหญ่ๆ แต่ด้วยความเป็นองค์ชายรัชทายาท จึงมิอาจเปลี่ยนอาชีพได้ ตอนนี้สิ่งที่เขาเรียนมา ถ้านำมาใช้คงจะทำให้พวกหมาป่าตายเป็นจำนวนมากก็ได้ พวกมันแค่ รักพวกพ้องที่ถูกตนทำร้าย (โดยไม่ได้ตั้งใจ) แต่ถ้าเขาเอาแต่ยืนนิ่งอย่างนี้ ตัวเขาเองคงไม่รอดแน่
“ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงคุ้มครองสอดส่องดูแลเรา ด้วยความรักและเมตตาอย่างยิ่ง โปรดประทานพละกำลัง ความสว่างและสติปัญญา บลา บลา บลา ” ยูคิเริ่มท่องอะไรซักอย่าง
“ยูคิ เจ้ากำลังสวดพรอะไรให้ข้า” คริสได้ยินแล้วนึกซึ้งใจ
“บทสวดมนต์ขอรับ ข้าเรียนมาตอนเด็กๆ ไม่มีอะไรมากหรอกขอรับ” ยูคิหัวเราะ
“เฮ้ย!! ตอนนี้ไม่มาสู้ก็สวดอะไรให้ข้าหน่อยซิ(โว้ย)” คริสตะโกนดังขึ้นเมื่อหมาป่าเริ่มขยับตัว
“ฮะๆ ” ยูคิหัวเราะก่อนจะสวดพรอย่างจริงจัง “อัตตาหิอัตตาโนนาโถ ช่วยตัวเองนะขอรับ (คริส: ง่าาา ) ฮะๆ พลังทั้งมวลที่สถิทในคนผู้นี้ โปรดรับพลังจากข้าที่รับต่อมาจากท่านพระผู้เป็นเจ้า แล้วเพิ่มความรวดเร็วแก่คนผู้นี้ด้วย Increase Agility!!!!” ยูคิใช้สมาธิอยู่ไม่นาน ความเร็วทั้งมวลก็สถิตในร่างคริส
“คุณคริสวิ่งตรงไปจนกว่าจะหาพวกด้วงไม่เจอนะขอรับ แล้วแถบนั้นจะอยู่นอกเขตพวกหมาป่า แล้วผมจะตามไป!!!” ยูคิตะโกนสุดเสียงให้คริสได้ยินระหว่างที่เขาวิ่งหนี เหล่าหมาป่าก็วิ่งตามไป หากแต่ตามไม่ทันนักเพราะพลังที่ยูคิมอบให้คริส
“พระผู้เป็นเจ้า ข้าทำถูกแล้วใช่มั้ย.. หากวิ่งหนีเช่นนี้ ก็ไม่ต้องทำร้ายและปลิดชีพของสรรพสัตว์ใช่มั้ยขอรับ .” ยูคิที่ตอนนี้ยกเลิก Hiding มองตามคริสไป
คริสนั้นทั้งวิ่งหลบต้นไม้ กิ่งไม้ และรากไม้ เขาก็ต้องคอยสังเกตุว่าสุดเขตพวกด้วงหรือยัง
ด้วงนั้นไม่ทำทำอะไรเลยนอกจากเกาะต้นไม้ แล้วส่งเสียงร้อง คริสจึงใช้ตามอง ใช้ขาวิ่ง และใช้หูคอยฟังเสียงด้วง แต่หมาป่าเหล่านี้ยังคงไม่ลดละความพยายาม มันยังคงวิ่งตามชายหนุ่มไป
“เฮ้ย~!~~!!!” คริสร้องอย่างตกใจเมื่อมีหมาป่าตัวนึงออกมาดักข้างหน้า คริสเบรกไม่อยู่จึงกระโดดตีลังกาข้ามหมาป่าไปอย่างสวยงาม
“ฟรุ๊คด้วย(โว้ย)!!! ขอบคุณพระผู้เป็นเจ้า..^^” คริสดีใจที่กระโดดผ่านมาได้ แต่คริสก็ต้องเสียฟอร์มที่มัวแต่ดีใจ เพราะเมื่อเขาวิ่งไปซักพักก็สะดุดก้อนหินล้ม
“เฮ้ย! ..(ซีด ..)” คริสคิดอย่างรวดเร็ว น่าแปลกที่หมาป่ายังไม่ทำร้ายเขา เขามองไปรอบๆ ตอนนี้รอบๆเขามีแต่พวกโพริ่ง เจลลี่น้อยดึ๋ยๆ ที่กินไม่ได้ กระต่ายน้อยลูนาติก ครีมมี่ผีเสื้อที่กำลังเก็บน้ำหวานอยู่
“พ้นเขตอันตรายแล้วซินะ แล้วเราก็ไม่ได้ฆ่าสิ่งมีชีวิตใดๆ เลย ” คริสกล่าวอย่างดีใจ
ตอนนี้มีโพริ่งตัวหนึ่งกระโดดดึ๋งๆ อยู่แถวนั้น คริสเองก็ไม่มีอะไรทำใช้นิ้วจิ้มโพริ่งตัวนั้นเล่นก่อนจะหาทำเลตั้งเต็นท์ หมายจะได้พักในยามคำคืน เขาหากิ่งไม้แห้งแล้วจุดไฟ
เปลวไฟสีเหลืองแกมส้มนั้น ทำให้เขาอดเป็นห่วงยูคินัก
~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~
“เปรี๊ยะ !” เสียงของกินบางอย่างเข้าสู่กองไฟทำให้คริสตื่น
“ตื่นแล้วหรือขอรับ ” ยูคิเอ่ย
“จ เจ้า ข้าหลับไปเมื่อไหร่เนี่ย แล้วเจ้า ..มาตั้งแต่เมื่อไหร่” คริสเมื่อตื่นนอนมาก็ประโคมคำถามใส่ยูคิ
“ข้าน้อยมาถึงก็เห็นว่าคุณนอนหลับไปแล้วละขอรับ รู้สึกว่าจะใช้โพริ่งตัวนึงแทนหมอนหนุนด้วย ข้าเองก็มาซักพักเองขอรับ” ยูคิยิ้ม
คริสยืนขึ้นแล้วยืดเส้นยืดสาย จากนั้นเขาก็บิดไปๆ มาๆ “แล้วนี่เจ้าใส่อะไรไปในกองไฟน่ะ” คริสสงสัย
“มาชมาโรล์ขอรับ สินค้าใหม่ที่ข้าน้อยไปเจอมาตอนออกไปซื้ออาหารให้นก” ยูคิกล่าว “พอรู้วิธีก็เกิดนึกสนุกอยากลองเลยซื้อมาเล่นขอรับ”
“แล้วรสชาติล่ะ” คริสถามพลางมองตาลอยๆ ไปในกองไฟ
“นิ่มๆ เหนียวนิดๆ หวานใช้ได้ ขอรับ” ยูคิหัวเราะ “มันไม่ใช่อาหารหลักนีขอรับ รสมันถึงเป็นแบบนี้ ลองดูซิขอรับ” ว่าแล้วยูคิก็ส่งกิ่งไม้ที่มีมาชมาโรล์เสียบไว้ 3 อัน คริสรับมาอย่างอายๆ แล้วบรรจงกิน
“อืม รสชาติอร่อยพิกล” คริสหัวเราะบ้าง โพริ่งกับลูนาติก 2-3 ตัว มองพวกเขาแล้วน้ำลายไหล
“ฮะ ฮะ ฮะๆๆ” ยูคิหัวเราะร่าก่อนจะโยนผลแอ๊ปเปิ้ลและแครอทให้เจ้าพวกนี้ “ข้าน้อยให้ได้แค่นี้นะ”
“เจ้าทำอย่างกับว่า เจ้าพวกนั้นจะฟังเจ้ารู้เรื่องนะ” คริสแซว
“แหมๆ อย่าถือสาข้าน้อยเลยขอรับ” ยูคิหน้าแดงเล็กน้อย ทำให้คริสหน้าแดงตาม เขาแก้อายด้วยการค้นเสบียงแล้วหยิบเนื้อแห้งมากิน หมับๆๆๆ..
“จริงซิ..” คริสนึกบางอย่างได้ พลางจ้องหน้ายูคิ
“???” ยูคิงง
“เจ้าบอกข้าได้หรือยัง ว่าทำไมเจ้าถึงรู้เส้นทางไปกีฟเฟ่นอย่างดี ทั้งๆที่เจ้า ดูแล้วข้าว่าเจ้ายังไม่เคยไป” คริสถามทำให้ยูคินิ่งไป และสีหน้าเปลี่ยน
“ข้าน้อย ” ยูคิเรียบเรียงคำพูด “การไปอยู่กีฟเฟ่นเป็นความฝันของข้าน้อยกับเพื่อนข้าน้อย ” ยูคิเอ่ย
“ข้าน้อยเกิดมาในพาย่อน และมีเพื่อนที่แสนดีและสนิทกันมากเป็นนักดาบ แล้วอยู่มาวันนึงข้าน้อยกับท่านพ่อทะเลาะกัน ข้าน้อยขอร้องให้เขาพาหนี เขาตอบตกลง เราเลยเตรียมวางแผนไว้ขอรับ” ยูคิกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นๆ “วันที่เรานัดออกเดินทาง ข้าน้อยป่วยหนัก แรงจะลุกจากเตียงยังไม่มี ข้าน้อยจึงบอกเขาไปว่านำไปก่อน หากอาการดีขึ้นเมื่อไร จะตามไปทันที” คริสตั้งใจฟังขณะเดิน
“แต่ทว่าโชคชะตากลั่นแกล้งหรืออย่างไรมิทราบ ข้าน้อยป่วยหนักขึ้นและหนักขึ้น ข้าน้อยจึงพักอีกยาวนานและไม่สามารถไปพร้อมกัน หลังจากข้าน้อยก็หายดี แล้วข้าน้อยก็ทราบข่าวว่าเพื่อนของข้าได้ถึงเมืองกีฟเฟ่นอย่างปลอดภัย”
“ปลอดภัยก็ดีแล้วนี่นา” คริสปลอบ
“ ต แต่ว่า มีสิ่งชั่วร้ายอาละวาด..ท..ที่ นั่..น ..” ยูคิเอ่ยแล้วหันไปหาเพื่อนร่วมทาง ใบหน้าของยูคิเอ่อล้นไปด้วย .. น้ำตา . “จนบัดนี้ข้าน้อย .ข้าน้อย ..”
“ไม่เอาน่า อย่าคิดมาก” คริสจับไหล่เพื่อนร่วมทาง ใจเขาเต้นรัว (ไม่เอาน่าคริส เจ้าคงไม่ชอบเพศเดียวกันหรอกนะ ) “จ..เจ้าตอนนี้ ก็พยายามเดินทางไปหาเขาอยู่นี้นา แล้วเจ้าจะเศร้าไปทำไม” คริสเอ่ยเบาขึ้น “เป็นผู้ชาย ร้องไห้ไม่ดีหรอกนะ..” ช่วงนั้นคริสก็ลูบหลังยูคิเบาๆ ดั่งพี่ชายกล่อมน้องที่กำลังเศร้า พระจันทร์ในคืนนี้ก็ส่องแสงนวลงามอย่างยิ่ง ..เหมือนกับตอกย้ำถึงวันนั้น ..เพราะวันนั้นพระจันทร์ก็งาม ..เฉกเช่นนี้ ..
~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~
จบตอนที่เราเขียนได้แย่ที่สุดในชีวิต ขออภัยที่ไม่ค่อยสนุกนักนะคะ TT^TT
“ทำไมเจ้าถึงรู้เส้นทางไปกีฟเฟ่นดีจริงๆ เลยน่ะ” คริสถาม
“ไว้ผ่านจุดนี้ก่อน แล้วข้าพร้อมเมื่อไหร่ ข้าน้อยจะเล่าให้ฟังทันทีขอรับ” ยูคิเดินต่อไปอย่างไม่สนใจคริส
“ขอรับๆ” คริสแหย่เมื่อเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไป
“จ๊อก~กกกก~~!!!” “อ๋า~” คริสอายมากที่ท้องร้องต่อหน้าคนที่ตนรัก(?) เพื่อนที่สำคัญของเขาในตอนนี้ แต่พอมองที่ยูคิ ร่างบางกลับเดินไปเรื่อยๆ โดยไม่สนใจเขา เขาจึงเดินก้มหน้าและสงสัยว่าที่กีฟเฟ่นสำคัญต่อยูคิยังไง เพราะดูท่ายูคิเองก็คงไม่เคยไปแต่อยากไปมากๆ พอคิดไปมา ก็มองหายูคิไม่เจอซะแล้ว
“ว้า โดนทิ้งซะแล้วเรา ” คริสพูดเศร้าๆ “ทิ้งกันได้นะ เฮ้อ!” คริสเริ่มบ่นแล้วมีคนจะจับไหล่จากข้าหลัง “ทหารรึ” คริสคิดแล้วดึงมีดออกปัด แต่มือนั้นมิใช่มือใคร มือของยูคินั่นเอง ยูคิตกใจมาก แต่ว่าเค้าได้สติแล้ว
“ข้าน้อยเองขอรับ คิดว่าเป็นทหารหรือ?” ยูคิหัวเราะ
“ยูคิ.. เจ้าหายหัวไปไหนมา” คริสถามอย่างหัวเสียเล็กน้อย
“ว้า~.. พูดกับนักบวชแบบนี้เวลาโดนอะไรเดี๋ยวข้าน้อยไม่รักษา(ฮีล)ให้น้า..” ยูคิยิ้มแป้นก่อนจะเริ่มสารธยายถึงผลไม้ที่ตนหอบมาระหว่างเดิน “ข้าน้อยลืมไปน่ะขอรับว่าคุณคริสยังไม่ได้ทานอาหารเช้า เพราะข้าน้อยมัวแต่ตื่นกับแผนออกมาจากประตูเมืองจึงไม่ได้เตรียมอาหารไว้ อาหารที่มีอยู่ก็มีจำกัด พอท้องคุณคริสร้อง ข้าน้อยก็เห็นว่าแถวนี้มีผลไม้กำลังน่ากิน จึงเดินไปเก็บมาให้คุณคริสและเก็บเป็นเสบียงด้วยขอรับ” ว่าแล้วก็โยนแอ๊ปเปิ้ลให้องค์รัชทายาท คริสรับอย่างสวยงามแล้วจ้องผลแอ็ปเปิ้ลอย่างพินิจพิจารณา
“ท ทำไมหรือขอรับ?” นักบวชฉงน
“ทำไมมันสดและน่ากินเหมือนถูกปลูกอย่างดี” องค์ชายสงสัย
“ตอนแรกข้าน้อยก็สงสัยเช่นกันขอรับ แต่เจอคุณลุงคนสวน คุณลุงบอกว่าสวนนี้เป็นสวนของพระราชาที่ต้องการให้ชาวบ้านได้ทานผลไม้สดๆ อร่อยๆ แล้วคุณลุงก็ช่วยข้าน้อยเก็บ หันมาอีกทีคุณคริสก็เดินไปไกลแล้วขอรับ” อโคช่างจ้อเริ่มพูด “กลัวถูกวางยาพิษหรือขอรับ งั้นให้ข้าน้อยกัดคำนึงก่อนก็ได้ เป็นอะไรก็จะได้เป็นด้วยกันไง” พูดจบยูคิก็กัดผลแอ็ปเปิ้ลในมือของชายหนุ่ม
“เฮ้ย!” ชายหนุ่มหน้าแดง “เราจะหน้าแดงทำไมนะ??” คริสคิด
ยูคิหัวเราะ “เท่านี้ถ้าถูกวางยา เราก็ตายด้วยกันแล้วนะขอรับ”
*****************************************************************
หลังจากเดินมาซักพัก ยูคิก็จัดการเก็บผลไม้ใส่กระเป๋าใบน้อยที่แบกมาได้ ดูท่าว่าคริสจะทานแอ๊ปเปิ้ลผลที่ 6 เสร็จแล้วและถือไว้ในมือ
“เฮ้อ ไหนเจ้าบอกว่า แถวนี้มีหมาป่าเยอะล่ะ เดินตั้งนานยังไม่เจอซักตัว” คริสพูดอย่างสบายใจ
“ง่า ^^ คงหลับอยู่มั้งขอรับ ออกล่าเหยื่อตอนกลางคืนนี่นากลางวันเลยง่วง คุณคริสอยากเจอหรือขอรับ” ยูคิหัวเราะ “ท่านโรคจิตหรือ ถึงอยากสู้นัก??” ยูคิล้อ
“จะดูไงว่าเราสามัคคีแค่ไหนไง” คริสหัวเราะ (โดนอโคหลอกด่าป่าวเนี่ย)
“ข้าว่าเรารีบเดินไปละกัน จะได้ถึงกีฟเฟ่นเร็วๆตามที่เจ้าต้องการ” ยูคิฟังแล้วยิ้ม คริสหน้าแดงกับใบหน้าหวานๆ ของคนๆ นี้ (เย็นไว้ ชายด้วยกันๆ ๆ ๆ ๆ) แล้วคริสก็โยนซากแอ๊ปเปิ้ลไปในพงหญ้าเพื่อกลบความอาย (คนแต่ง:ทิ้งขยะไม่เป็นที่ไม่ดีนะ ระวังไว้นะจ๊ะ)
“ป๊อก!!”
“เอ๋ !! ป๊อก!?!” คริสงงว่าตนโยนผลแอ็ปเปิ้ลทิ้งไปโดนอะไร (คนแต่ง:เราเตือนคุณแล้ว -- --!i!)
“ข้าน้อยคิดว่า คุณคริสคงจะเจอสิ่งที่ถามถึงแล้วกระมังขอรับ” ยูคิพูดติดตลก แต่ก็หัวเราะไม่ออก
หมาป่าที่หลับไหลตอนนี้หัวก็แดงๆ เพราะซากแอ๊ปเปิ้ลของคริส บัดนี้ได้หลุดจากห้วงนิทรา แล้วเดินตรงมาหาคนทั้ง 2 มันเดินมาหยุดที่หน้าคริส หมาป่าเดรัชฉานกับองค์ชายจ้องกันอยู่นานด้วยความรู้สึกที่แตกต่างกัน
องค์ชายคริส : ง่าาา มันจะทำอะไรข้าเนี่ย ลางไม่ดี -- --!i!
Wolf : โฮ่ง!! โฮ่งๆๆ?? แง่ง ~! เอ๊ง. โฮ่งๆๆ (เจ้านี่ซินะ! กลิ่นแอ๊ปเปิ้ลที่มือมัน ไม่ผิดแน่ แต่เอ๊ะ! ทำไมมันมองอย่างงั้น ต้องสั่งสอน)
“บรู้ววววว~~!!!~~~!!!!!!!” เจ้าหมาป่าหอนข้างหน้าคริส คริสกำลังงง
“มันไม่กัดข้าหรอ ยูคิ” คริสหันไปหาเพื่อนร่วมทาง
“ข้าน้อยว่า . เจ้านี่กำลังเรียกพวกพ้องนะขอรับ” ยูคิออกความคิดพลางถอยห่าง “ข้าน้อยไม่เกี่ยว ข้าน้อยขอลา” ว่าแล้วนักบวชน้อยก็ Hiding ไป Hidingเป็นความสามารถที่จะมุดดินหลบพวกสัตว์ประหลาด
“เฮ้ย!! ท่านั้นมันของพวกโจรไม่ใช่เรอะ!!!” คริสท้วง
“คือ .ข้าน้อยเคยช่วยชีวิตโจรท่านหนึ่งไว้ ท่านก็เลยสอนข้าน้อยน่ะขอรับ แหะๆ” ยูคิอธิบายทั้งที่ยัง Hiding อยู่
“กรรม เฮ้อ!!” คริสเหงื่อตกและยิ่งตกไปใหญ่ เพราะตอนนี้หมาป่าทั้งฝูงโผล่หน้ามาแล้วจ้องอย่างเคืองต่อคริส
“ข้าน้อยเป็นแค่อโคตัวน้อยๆ ขอหลบดีกว่าขอรับ ^^!i!” ยูคิพูดทำให้คริสรู้ว่า เค้าย้ายจากที่เดิมไปแล้ว
คริสเองก็มีดาบติดตัวมา เพราะเขาตอนอยู่ในวังก็มีความสามารถเทียบเท่าไนท์ตำแหน่งใหญ่ๆ แต่ด้วยความเป็นองค์ชายรัชทายาท จึงมิอาจเปลี่ยนอาชีพได้ ตอนนี้สิ่งที่เขาเรียนมา ถ้านำมาใช้คงจะทำให้พวกหมาป่าตายเป็นจำนวนมากก็ได้ พวกมันแค่ รักพวกพ้องที่ถูกตนทำร้าย (โดยไม่ได้ตั้งใจ) แต่ถ้าเขาเอาแต่ยืนนิ่งอย่างนี้ ตัวเขาเองคงไม่รอดแน่
“ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงคุ้มครองสอดส่องดูแลเรา ด้วยความรักและเมตตาอย่างยิ่ง โปรดประทานพละกำลัง ความสว่างและสติปัญญา บลา บลา บลา ” ยูคิเริ่มท่องอะไรซักอย่าง
“ยูคิ เจ้ากำลังสวดพรอะไรให้ข้า” คริสได้ยินแล้วนึกซึ้งใจ
“บทสวดมนต์ขอรับ ข้าเรียนมาตอนเด็กๆ ไม่มีอะไรมากหรอกขอรับ” ยูคิหัวเราะ
“เฮ้ย!! ตอนนี้ไม่มาสู้ก็สวดอะไรให้ข้าหน่อยซิ(โว้ย)” คริสตะโกนดังขึ้นเมื่อหมาป่าเริ่มขยับตัว
“ฮะๆ ” ยูคิหัวเราะก่อนจะสวดพรอย่างจริงจัง “อัตตาหิอัตตาโนนาโถ ช่วยตัวเองนะขอรับ (คริส: ง่าาา ) ฮะๆ พลังทั้งมวลที่สถิทในคนผู้นี้ โปรดรับพลังจากข้าที่รับต่อมาจากท่านพระผู้เป็นเจ้า แล้วเพิ่มความรวดเร็วแก่คนผู้นี้ด้วย Increase Agility!!!!” ยูคิใช้สมาธิอยู่ไม่นาน ความเร็วทั้งมวลก็สถิตในร่างคริส
“คุณคริสวิ่งตรงไปจนกว่าจะหาพวกด้วงไม่เจอนะขอรับ แล้วแถบนั้นจะอยู่นอกเขตพวกหมาป่า แล้วผมจะตามไป!!!” ยูคิตะโกนสุดเสียงให้คริสได้ยินระหว่างที่เขาวิ่งหนี เหล่าหมาป่าก็วิ่งตามไป หากแต่ตามไม่ทันนักเพราะพลังที่ยูคิมอบให้คริส
“พระผู้เป็นเจ้า ข้าทำถูกแล้วใช่มั้ย.. หากวิ่งหนีเช่นนี้ ก็ไม่ต้องทำร้ายและปลิดชีพของสรรพสัตว์ใช่มั้ยขอรับ .” ยูคิที่ตอนนี้ยกเลิก Hiding มองตามคริสไป
คริสนั้นทั้งวิ่งหลบต้นไม้ กิ่งไม้ และรากไม้ เขาก็ต้องคอยสังเกตุว่าสุดเขตพวกด้วงหรือยัง
ด้วงนั้นไม่ทำทำอะไรเลยนอกจากเกาะต้นไม้ แล้วส่งเสียงร้อง คริสจึงใช้ตามอง ใช้ขาวิ่ง และใช้หูคอยฟังเสียงด้วง แต่หมาป่าเหล่านี้ยังคงไม่ลดละความพยายาม มันยังคงวิ่งตามชายหนุ่มไป
“เฮ้ย~!~~!!!” คริสร้องอย่างตกใจเมื่อมีหมาป่าตัวนึงออกมาดักข้างหน้า คริสเบรกไม่อยู่จึงกระโดดตีลังกาข้ามหมาป่าไปอย่างสวยงาม
“ฟรุ๊คด้วย(โว้ย)!!! ขอบคุณพระผู้เป็นเจ้า..^^” คริสดีใจที่กระโดดผ่านมาได้ แต่คริสก็ต้องเสียฟอร์มที่มัวแต่ดีใจ เพราะเมื่อเขาวิ่งไปซักพักก็สะดุดก้อนหินล้ม
“เฮ้ย! ..(ซีด ..)” คริสคิดอย่างรวดเร็ว น่าแปลกที่หมาป่ายังไม่ทำร้ายเขา เขามองไปรอบๆ ตอนนี้รอบๆเขามีแต่พวกโพริ่ง เจลลี่น้อยดึ๋ยๆ ที่กินไม่ได้ กระต่ายน้อยลูนาติก ครีมมี่ผีเสื้อที่กำลังเก็บน้ำหวานอยู่
“พ้นเขตอันตรายแล้วซินะ แล้วเราก็ไม่ได้ฆ่าสิ่งมีชีวิตใดๆ เลย ” คริสกล่าวอย่างดีใจ
ตอนนี้มีโพริ่งตัวหนึ่งกระโดดดึ๋งๆ อยู่แถวนั้น คริสเองก็ไม่มีอะไรทำใช้นิ้วจิ้มโพริ่งตัวนั้นเล่นก่อนจะหาทำเลตั้งเต็นท์ หมายจะได้พักในยามคำคืน เขาหากิ่งไม้แห้งแล้วจุดไฟ
เปลวไฟสีเหลืองแกมส้มนั้น ทำให้เขาอดเป็นห่วงยูคินัก
~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~
“เปรี๊ยะ !” เสียงของกินบางอย่างเข้าสู่กองไฟทำให้คริสตื่น
“ตื่นแล้วหรือขอรับ ” ยูคิเอ่ย
“จ เจ้า ข้าหลับไปเมื่อไหร่เนี่ย แล้วเจ้า ..มาตั้งแต่เมื่อไหร่” คริสเมื่อตื่นนอนมาก็ประโคมคำถามใส่ยูคิ
“ข้าน้อยมาถึงก็เห็นว่าคุณนอนหลับไปแล้วละขอรับ รู้สึกว่าจะใช้โพริ่งตัวนึงแทนหมอนหนุนด้วย ข้าเองก็มาซักพักเองขอรับ” ยูคิยิ้ม
คริสยืนขึ้นแล้วยืดเส้นยืดสาย จากนั้นเขาก็บิดไปๆ มาๆ “แล้วนี่เจ้าใส่อะไรไปในกองไฟน่ะ” คริสสงสัย
“มาชมาโรล์ขอรับ สินค้าใหม่ที่ข้าน้อยไปเจอมาตอนออกไปซื้ออาหารให้นก” ยูคิกล่าว “พอรู้วิธีก็เกิดนึกสนุกอยากลองเลยซื้อมาเล่นขอรับ”
“แล้วรสชาติล่ะ” คริสถามพลางมองตาลอยๆ ไปในกองไฟ
“นิ่มๆ เหนียวนิดๆ หวานใช้ได้ ขอรับ” ยูคิหัวเราะ “มันไม่ใช่อาหารหลักนีขอรับ รสมันถึงเป็นแบบนี้ ลองดูซิขอรับ” ว่าแล้วยูคิก็ส่งกิ่งไม้ที่มีมาชมาโรล์เสียบไว้ 3 อัน คริสรับมาอย่างอายๆ แล้วบรรจงกิน
“อืม รสชาติอร่อยพิกล” คริสหัวเราะบ้าง โพริ่งกับลูนาติก 2-3 ตัว มองพวกเขาแล้วน้ำลายไหล
“ฮะ ฮะ ฮะๆๆ” ยูคิหัวเราะร่าก่อนจะโยนผลแอ๊ปเปิ้ลและแครอทให้เจ้าพวกนี้ “ข้าน้อยให้ได้แค่นี้นะ”
“เจ้าทำอย่างกับว่า เจ้าพวกนั้นจะฟังเจ้ารู้เรื่องนะ” คริสแซว
“แหมๆ อย่าถือสาข้าน้อยเลยขอรับ” ยูคิหน้าแดงเล็กน้อย ทำให้คริสหน้าแดงตาม เขาแก้อายด้วยการค้นเสบียงแล้วหยิบเนื้อแห้งมากิน หมับๆๆๆ..
“จริงซิ..” คริสนึกบางอย่างได้ พลางจ้องหน้ายูคิ
“???” ยูคิงง
“เจ้าบอกข้าได้หรือยัง ว่าทำไมเจ้าถึงรู้เส้นทางไปกีฟเฟ่นอย่างดี ทั้งๆที่เจ้า ดูแล้วข้าว่าเจ้ายังไม่เคยไป” คริสถามทำให้ยูคินิ่งไป และสีหน้าเปลี่ยน
“ข้าน้อย ” ยูคิเรียบเรียงคำพูด “การไปอยู่กีฟเฟ่นเป็นความฝันของข้าน้อยกับเพื่อนข้าน้อย ” ยูคิเอ่ย
“ข้าน้อยเกิดมาในพาย่อน และมีเพื่อนที่แสนดีและสนิทกันมากเป็นนักดาบ แล้วอยู่มาวันนึงข้าน้อยกับท่านพ่อทะเลาะกัน ข้าน้อยขอร้องให้เขาพาหนี เขาตอบตกลง เราเลยเตรียมวางแผนไว้ขอรับ” ยูคิกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นๆ “วันที่เรานัดออกเดินทาง ข้าน้อยป่วยหนัก แรงจะลุกจากเตียงยังไม่มี ข้าน้อยจึงบอกเขาไปว่านำไปก่อน หากอาการดีขึ้นเมื่อไร จะตามไปทันที” คริสตั้งใจฟังขณะเดิน
“แต่ทว่าโชคชะตากลั่นแกล้งหรืออย่างไรมิทราบ ข้าน้อยป่วยหนักขึ้นและหนักขึ้น ข้าน้อยจึงพักอีกยาวนานและไม่สามารถไปพร้อมกัน หลังจากข้าน้อยก็หายดี แล้วข้าน้อยก็ทราบข่าวว่าเพื่อนของข้าได้ถึงเมืองกีฟเฟ่นอย่างปลอดภัย”
“ปลอดภัยก็ดีแล้วนี่นา” คริสปลอบ
“ ต แต่ว่า มีสิ่งชั่วร้ายอาละวาด..ท..ที่ นั่..น ..” ยูคิเอ่ยแล้วหันไปหาเพื่อนร่วมทาง ใบหน้าของยูคิเอ่อล้นไปด้วย .. น้ำตา . “จนบัดนี้ข้าน้อย .ข้าน้อย ..”
“ไม่เอาน่า อย่าคิดมาก” คริสจับไหล่เพื่อนร่วมทาง ใจเขาเต้นรัว (ไม่เอาน่าคริส เจ้าคงไม่ชอบเพศเดียวกันหรอกนะ ) “จ..เจ้าตอนนี้ ก็พยายามเดินทางไปหาเขาอยู่นี้นา แล้วเจ้าจะเศร้าไปทำไม” คริสเอ่ยเบาขึ้น “เป็นผู้ชาย ร้องไห้ไม่ดีหรอกนะ..” ช่วงนั้นคริสก็ลูบหลังยูคิเบาๆ ดั่งพี่ชายกล่อมน้องที่กำลังเศร้า พระจันทร์ในคืนนี้ก็ส่องแสงนวลงามอย่างยิ่ง ..เหมือนกับตอกย้ำถึงวันนั้น ..เพราะวันนั้นพระจันทร์ก็งาม ..เฉกเช่นนี้ ..
~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~
จบตอนที่เราเขียนได้แย่ที่สุดในชีวิต ขออภัยที่ไม่ค่อยสนุกนักนะคะ TT^TT
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น