โชคชะตาที่พลิกผัน - โชคชะตาที่พลิกผัน นิยาย โชคชะตาที่พลิกผัน : Dek-D.com - Writer

    โชคชะตาที่พลิกผัน

    ความรักของทั้งสองที่แสนราบรื่นได้มีจุดหักเห การพบ รัก พัดพราก และสัญญาที่มิอาจรักษาไว้ได้ มาดูกันค่ะ^^

    ผู้เข้าชมรวม

    512

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    8

    ผู้เข้าชมรวม


    512

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  16 ธ.ค. 46 / 19:02 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ในชานเมืองของประเทศเล็กๆ ประเทศหนึ่ง มีร้านCoffee shop เล็กๆที่ทุกคนชอบไปแวะดื่มและทานขนมเพื่อบรรเทาความหิว บ้างก็มาเพื่อคุยงานธุรกิจกับเพื่อน เป็นร้านที่คนละแวกนั้นนิยมเข้าไป
      เจ้าของร้านเป็นคนอารมณ์ร้อน หงุดหงิดง่าย ส่วนลูกน้องเขาก็ซุ่มซ่าม แต่ว่าน่ารัก
      เจ้าของร้านนั้นชื่อ มาริค เขาไม่ค่อยพูดกับใครนักเพราะเขาอารมณ์ไม่แน่ไม่นอน แต่ว่าพวกสาวๆก็ชอบชวนคุยเพราะหน้าตาที่คมสัน โดยเฉพาะที่ดวงตาสีม่วงอมิทิสคู่งามคู่นั้น และผมสีทองแสนงาม มาริคมักจะจัดอาหารอยู่ในร้านส่วนลูกน้องเขาเป็นคนคอยรับออเดอร์ และเสิร์ฟอาหาร
      ลูกน้องเพียงคนเดียวคนนี้ชื่อ เจฟ เป็นเด็กหนุ่มที่ร่าเริงผิดกับมาริค ใบหน้าที่ออกหวานๆก็เรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆได้เช่นกัน ทั้งมาริคและเจฟถูกหมายตาจากสาวหลายคนนัก แต่พวกเขาก็ไม่มีทีท่าจะชอบใครที่เข้ามาจีบเลย
      เวลาผ่านไป เจฟได้จดหมายจากพี่สาวว่าแม่ได้ล้มป่วย ใกล้จะสิ้นแล้ว เขาลังเลเพราะไม่อยากทิ้งร้านเอาไว้ แต่มาริคให้เขาลาไปหาแม่ เขารับปากว่าจะไม่ระเบิดใส่ลูกค้าแบบที่ระเบิดใส่เจฟ และจะจัดการร้านคนเดียวให้ดู
      เช้าต่อมาเจฟก็บอกลามาริค มาริคลาเจฟอย่างดี แต่ว่าเปิดร้านได้ไม่นานเขาก็รู้ว่าเขาจัดการคนเดียวไม่ไหว
      เย็นนั้นขณะที่เขาใกล้จะปิดร้าน มีเด็กผู้หญิงวัย18เดินเข้ามาในร้าน เธอเป็นคนที่สวยและยิ้มเสมอ ผมสีน้ำตาลเข้มประบ่ากับดวงตาสีมรกตสวยจับใจมาริคอย่างน่าประหลาด เธอเดินอย่างเก้ๆกังๆแล้วมองรอบๆร้านด้วยท่าทีที่แล้วน่ารัก ดูจากสภาพเธอตอนนี้ก็รู้ว่าคงกำลังเดินทางอยู่ และเธอก็หิ้วกระเป๋าเดินทางมาด้วย เธอนั่งโต๊ะริมหน้าต่าง ตอนนี้ในร้านมีแค่เขากับเธอ
      “รับอะไรดีครับ” มาริคถาม
      “เอ่อ…” เธอมองดูเมนูก่อนหันมาตอบมาริคอย่างนอบน้อม “ขอคาฟูชิโน่ร้อนๆ ที่นึงน่ะค่ะ”
      “ครับ รอซักครู่นะครับ” มาริคเดินจากไป เด็กสาวมองตามเขาก่อนละสายตาไปมองวิวนอกหน้าต่าง
      มาริคเดินกลับมาพร้อมถ้วกาแฟลายน่ารักๆถ้วยหนึ่ง “ได้แล้วครับ”
      เด็กสาวหันมายิ้ม “ขอบคุณค่ะ ถ้าไม่รังเกียจก็นั่งคุยกันหน่อยได้มั้ยคะ” มาริคพยักหน้าแล้วนั่งลงตรงข้ามกับเธอ
      “ไม่ทราบว่าคุณทำงานที่นี่คนเดียวหรอคะ??” เด็กสาวเอ่ยถามก่อนก้มลงจิบกาแฟ
      “ลูกน้องผมลาป่วยอยู่ครับ ตอนนี้ผมเลยต้องทำงานคนเดียว” มาริคกล่าวตอบพลางจ้องเด็กสาว
      “ไม่เหนื่อยหรอคะ” เด็กสาววางมือจากกาแฟ
      “เหนื่อยซิครับ ถามได้” มาริคกล่าวตอบพลางมองเหม่อออกไปนอกหน้าต่าง “ถ้าตอนนี้มีคนมาช่วยก็คงจะดีไม่น้อย”
      “พอดีเลยค่ะ ชั้นเพิ่งจะมาอยู่ที่เมืองนี้กำลังหางานทำอยู่พอดีเลย ขอสมัครงานได้มั้ยคะ” เธอยิ้มก่อนจิบกาแฟอีกครั้งแล้วมองหน้ามาริค
      มาริคยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยก่อนจะตอบ “ดีเลยครับ ตอนนี้เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว” เด็กสาวยิ้ม “แล้วนี่คุณมีที่พักรึยังครับ”
      เด็กสาวส่ายหน้า “ยังเลยค่ะ นี่ก็เพิ่งเดินทางมาถึงเมืองนี้เอง”
      “ถ้างั้นก็พักที่นี่แล้วกันครับ เดี๋ยวผมไปดูห้องให้นะครับ” มาริคเดินไปพลิกป้ายหน้าร้านให้เป็นคำว่า “ปินร้านแล้วจ้า” จากนั้นก็ล็อกประตูก่อนหันไปหาเด็กสาว “คุณชื่ออะไรหรอครับ”
      เด็กสาวยิ้มตามแบบของเธอ “ชาลอนค่ะ ชาลอน ไวท์ฮาท”
      “ผมมาริคครับ” มาริคกล่าวก่อนเดินขึ้นไปชั้นบนของร้าน เด็กสาวมองตามเขาไปก่อนที่จะดื่มกาแฟให้หมดแล้วยกไปล้าง
      วันรุ่งขึ้นมาริคและชาลอนช่วยงานกันอย่างแข็งขัน ชาลอนนั้นจริงๆแล้วซุ่มซ่ามยิ่งกว่าเจฟซะอีก แต่เธอนั้นมามาดที่นิ่งมากกว่า ทำให้เวลาเธอซุ่มซ่ามมาริคจะหัวเราะเบาๆ และเริ่มยิ้มบ่อยขึ้น จากที่เป็นคนยิ้มไม่เก่ง อารมณ์ร้อน เขาก็ยิ้มบ่อยขึ้น หัวเราะมากขึ้นและใจเย็นมากขึ้นด้วย ทั้งสองค่อยๆสนิทกันไปเรื่อยๆจนกระทั่งเกิดเป็นความรัก
      วันเสาร์ต่อมาเจฟก็กลับมาที่ร้านเพราะได้ทำพิธีฝังแม่เขาแล้ว เจฟดีใจที่ได้อยู่กับแม่เขาจนวินาทีสุดท้ายของชีวิตของแม่เขา มาริคลูบหัวเจฟก่อนจะแนะนำให้รู้จักกับชาลอน ชาลอนกับเจฟสนิทกันอย่างรวดเร็ว
      ครึ่งปีผ่านไป ในวันเกิดของมาริค ชาลอนได้ทำเค้กวันเกิดให้อย่างสุดฝีมือ พอเจฟขอตัวไปนอนแล้ว มาริคก็เริ่มสนทนากับชาลอน
      “ชาลอนครับ รู้มั้ยว่าตั้งแต่คุณมาทำงานที่นี่ ผมยิ้มบ่อยขึ้นและมีความสุขมากขึ้นตั้งเยอะ” มาริคกล่าวพลางจับมือเด็กสาว
      “ชั้นก็เหมือนกันค่ะ” เด็กสาวเจ้าของดวงตามรกตยิ้มให้อย่างจริงใจ
      “ผม..” มาริคก้มหยิบแหวนขึ้นมาหนึ่งวงแล้วกล่าวต่อ “ผมรักคุณนะครับ ชาลอน แต่งงานกับผมได้มั้ย”
      ชาลอนยิ้มกว้าง ก่อนก้มหน้าอย่างอายๆ “ชั้นก็..รักคุณค่ะ มาริค” มาริคดีใจกับคำตอบ “แต่ว่าคงแต่งงานกับคุณไม่ได้” เด็กสาวเงยหน้ามา
      “…” มาริคจ้องตาของชาลอนแต่มิได้พูดอะไร
      “แต่ถ้าขอหมั้นก่อนก็ได้นะคะ ตอนนี้ยังไม่พร้อม แต่ไม่นานเมื่อชั้นบรรลุนิติภาวะ ชั้นจะแต่งงานกับคุณแน่ๆค่ะ” เธอยิ้ม ประโยคนี้ทำให้มาริคหัวใจพองโต แล้วจากนั้นเขาก็สวมแหวนให้กับชาลอน แล้วจูบที่หน้าผากเด็กสาวเบาๆ
      วันรุ่งขึ้นชาลอนหายไปจากร้านแต่เช้า มาริคกระวนกระวายใจมาก ในตอนเย็นเธอก็กลับมาที่ร้านแล้วเข้านอนทันที วันต่อๆมาเธอก็เป็นแบบนี้อยู่ซัก5วัน แล้วคืนวันศุกร์ เธอก็ส่งจดหมายให้มาริคมาพบเธอที่ระเบียงกัน2คน
      “ชั้นมีเรื่องจะสารภาพค่ะ มาริค” เธอเริ่มพูดเมื่อมาริคมาถึง “ชั้นมาทำงานที่นี่เพราะต้องการเงินสำหรับตั้งตัว ทุกๆวันจะอ่านหนังสือจนดึก แล้วสัปดาห์ที่ผ่านมา ชั้นไปสอบชิงทุนไปเรียนมหาลัยต่อที่อเมริกามาค่ะ”
      “อืม” มาริคยิ้มให้เธอก่อนจะมองไปบนท้องฟ้า “แล้วยังไงต่อครับ”
      “ผลออกมาค่ะว่าชั้นสอบติด จะออกเดินทางมะรืนนี้” ชาลอนเอนหัวไปซบบ่าของมาริค
      “ขอให้โชคดีนะครับ แล้วเรียนจบถ้าไม่รังเกียจก็กลับมาแต่งงานกับผมนะ” เขายิ้มให้เด็กสาวที่ซบอย่างอ่อนโยน
      “ค่ะ ชั้นก็ตั้งใจว่าจะเรียนให้เก่งๆ กลับมาจะได้แต่งงานแล้วช่วยงานร้านด้วย ชั้นจะอยู่กับคุณตลอดไปหลังจากที่เรียนจบแล้วค่ะ ชั้นสัญญา” เธอให้คำมั่นสัญญา ทำให้มาริคยิ้มกว้างกว่าเดิม
      “ชั้น รัก คุณ และจะรักตลอดไป” ชาลอนกล่าวพลางเงยหน้ามองดาวบนฟ้า มาริคก้มจูบเธอที่หน้าผากอย่างอ่อนโยน
      “ผมก็รัก และจะรอคุณนะครับ…”
      วันต่อมาเจฟกับมาริคก็เลี้ยงส่งชาลอนอย่างสนุกสนาน เธอประทับใจมากแล้วจากนั้นเธอก็เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทางไปเรียนต่อ
      วันเดินทาง มาริคและเจฟไปส่งชาลอนที่สนามบิน ชาลอนหัวเราะร่าก่อนที่จะย้ำว่าเธอจะรักษา สัญญา ที่ให้กับมาริคไว้ แล้วเธอก็หันหลังเดินไปทางขึ้นเครื่องของผู้โดยสารขาออกโดยไม่เหลียวหลังอีกเลย
      เที่ยงวันนั้นมาริคกับเจฟเปิดร้านตามปกติ แล้วลูกค้าคนหนึ่งขอให้เปิดทีวีดู รายการที่ฉายนั้นตลกมาก มาริคมองผ่านๆก่อนจะก้มไปหยิบจานมาจัดเค้กใส่ แต่ทว่า
      “มีข่าวด่วนแทรกเข้ามาค่ะ” นักข่าวในทีวีประกาศทำให้ทุกคนหันไปให้ความสนใจ “เที่ยวบิน TG-065 ที่เดินทางจากเมืองxxxไปนิวยอร์ก อเมริกาได้ตกลงที่มหาสมุทรแอตแลนติก ไม่พบผู้รอดชีวิตค่ะ” ข่าวนั้นทำให้มาริคสะดุ้งโหยงแล้วรีบวิ่งมาดูข่าว “ไม่จริง..” เขาอุทาน
      “ต่อไปเป็นรายชื่อผู้โดยสารนะคะ”
      1.เซดริก โรบินสัน
      2.มาคราฟ มาเรว
      …..
      42. ชาลอน ไวท์ฮาท
      “ช…ชาลอน ไวท์ฮาท…” มาริคกล่าวเบาๆก่อนจะทรุดฮวบแล้วเป็นลมไป เจฟตกใจทันทีไม่นึกว่าภาพชาลอนที่เดินจากไปอย่างช้าๆจะเป็นภาพสุดท้ายที่พวกเขาเห็นเธอ เจฟรีบปิดร้านแล้วพามาริคส่งโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว
      มาริคที่ฟื้นมาก็นั่งเหม่อลอยคิดถึงแต่ภาพของชาลอน แววตาสีอมิทิสงามนั้นเลื่อนลอยอย่างน่าใจหาย เขาหลั่งน้ำตาออกมาแล้วนั่งเงียบๆ พลางบ่นพึมพำซ้ำไปซ้ำมาว่า ทำไมเธอไม่รักษาสัญญา.. ไม่นานเขาก็กล่าวมอบร้านให้กับเจฟ ให้เจฟดูแลร้านต่อไป เจฟไม่เข้าใจว่าทำไมมาริคถึงพูดแบบนี้กับเขา แต่เขาก็รับปาก มาริคยิ้มให้เขาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะก้มลงนอนในห้องคนไข้
      วันรุ่งขึ้นเจฟก็เข้าใจความหมายของมาริคทันทีเมื่ออ่านหนังสือพิมพ์
      “ฉีดยาฆ่าตัวตายปริศนา อ่านต่อหน้า15”
      “คนไข้ในโรงพยาบาลนามว่า มาริค แอบลักลอบเข้าคลังเก็บยา
      แล้วฉีดตัวยาบางอย่างที่ทางโรงพยาบาลขอสงวนในการลงชื่อ
      ตัวยาดังกล่าว เขานอนสิ้นใจอยู่ในห้องนั้นด้วยรอยยิ้มและคราบ
      น้ำตา ดูท่าว่าจะเกี่ยวกับที่คนรักเสียชีวิตในเที่ยวบินที่ตกไม่เมื่อ
      ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ขอให้ทั้งสองได้พบกันที่ยมโลกและไปสู่สุขติทั้ง
      คู่ด้วย…”
      เจฟน้ำตาคลอหลังจากอ่านข่าว เขาเสียแม่ผู้ให้กำเนิด 1ปีต่อมาเขาก็เสียเพื่อนร่วมงานที่แสนสนิท แล้วต่อมาก็เสียเจ้านายที่แสนจะเฮฮาในเวลาที่ติดกัน เขาสร้างหลุมศพของชาลอนแล้วมาริคให้อยู่คู่กัน เขาจะระลึกทั้งสองคนนี้ และคำสัญญาบางอย่างที่ชาลอนให้ไว้กับมาริคแต่เขาไม่รู้ที่มิอาจรักษาได้ตลอดไป…
      _จบ_ ขอโทษนะคะ ที่อาจไม่ค่อยสนุกนัก แง้ว

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×