ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Hormones] NonThee/PhuThee : Can you feel the love?

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1: ผมนนท์นะพี่ ;) [NON's PART]

    • อัปเดตล่าสุด 18 ส.ค. 57


    ตอนที่ 1: ผมนนท์นะพี่ ;)

     

    ครั้งแรกที่เราเจอกันเป็นกลางดึกคืนหนึ่ง

    เฮ้ย ไอ้นนท์ ยืนเหม่อมองอะไรอยู่ได้ ไหนบ่นว่าหิวไง”

    “อ๊ะ ครับๆพี่ ไปละ” เสียงเรียกของรุ่นพี่ข้างห้องที่ชวนกับมากินข้าวเย็นเอ่ยเร่งทำให้ผมต้องละสายตาจากเด็กหนุ่มที่เดินอย่างหมดแรงราวกับไร้วิญญาณกลับเข้าไปทางหอที่ผมเพิ่งจะเดินออก

    ...ท่าทางแบบนั้น จะเป็นอะไรรึเปล่านะ?...

     

     

     

    “ผมชื่อ นนท์ ณัฐชนน เกษมชาญชัย อายุ 16 ราศีเมถุน เลือดกรุ๊ปโอ เป็นเด็กต่างจังหวัดแถมยังอยู่ไกลถึงสงขลาแต่กลับมีโอกาสได้มาเรียนในโรงเรียนลูกคุณหนูสุดไฮโซอย่างนาดาวบางกอกทั้งหมดนี้ก็เพราะคุณพ่อกับคุณแม่นั่นแหละ

     

    อ๊ะ บอกไว้ก่อนนะว่าไม่ใช่เหตุผลประเภทที่ว่าเพราะอยากให้ลูกมีอนาคตที่ดีสภาพแวดล้อมดีๆเลยลงทุนส่งลูกชายคนเดียวมาเรียนถึงในเมืองกรุงแบบนี้น่ะ

    ที่ผมบอกว่าสาเหตุมาจากคุณพ่อคุณแม่นั่นก็เพราะว่าท่านทั้งสองคนเป็นคนให้ยีนส์ดีๆที่ทำให้ผมฉลาดจนสอบได้ทุนมาเรียนที่นี่แบบฟรีๆตลอดสามปี แถมยังให้หน้าตาหล่อๆที่ใครเห็นเป็นต้องรักใคร่เอ็นดูแบบนี้มาอีกด้วย ทำให้สุดท้ายเมื่อผ่านการปรึกษาแล้วคุยกันในครอบครัว ผมก็ได้ตอบรับแล้วเข้ามาเริ่มต้นชีวิตม.ปลายและชีวิตเด็กหอไปพร้อมๆกัน

     

    เรื่องราวก่อนที่ผมจะได้มายืนอยู่ตรงนี้โดยสรุปก็มีเท่านี้แหละครับ”

    ผมสรุปปิดบทแนะนำตัวก่อนที่จะฉีกยิ้มกว้างอย่างเป็นเอกลักษณ์ให้กับรุ่นพี่ที่ทำหน้าพิลึกอยู่ตรงข้าม

     

    “นี่มึงจะแนะนำตัวหรือเล่าอัตชีวประวัติตัวเองอย่างย่อวะ เล่นซะยาวเลย” ชายหนุ่มรุ่นพี่หัวเราะอย่างขบขันก่อนจ้วงตักผัดกระเพราตรงหน้า “เออ กูชื่อบอสนะ เป็นรุ่นพี่มึงปีนึง ถ้ามีปัญหาอะไรสงสัยก็ปรึกษากูได้ ยกเว้นเรื่องเรียน”

    พี่บอสแนะนำตัวอย่างเป็นกันเองและสั้นกระชับเสียจนผมอ้าปากเหวอไปนิดหน่อย

    “ทำหน้าตกใจอะไร แถวนี้เค้าแนะนำตัวกันแค่นี้แหละ เอ้า กินข้าวได้แล้วเย็นหมด” ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองผมอย่างอบอุ่มแกมขบขันมันทำให้ผมนึกถึงใครอีกคนที่มีดวงตาสีเดียวกันแต่กลับให้บรรยากาศที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

     

    “เออพี่ พี่คนตะกี๊ที่เดินสวนไปเค้าชื่อไรอ่ะ อยู่โรงเรียนเดียวกับเราป่ะ?” ผมเอ่ยถามเพื่อเปลี่ยนเรื่องจากการแนะนำตัวที่น่าขันและหาข้อมูลในสิ่งที่อยากรู้ไปพร้อมๆกัน

    “อ้อ นั่นน่ะพี่ธีร์ เด็กนาดาวน่ะใครๆก็รู้จักเป็นรุ่นพี่ที่วงโย ว่าแต่ถามทำไมวะ” พี่บอสตอบเรื่อยๆพลางยกน้ำขึ้นดื่มก่อนมองมาที่ผมด้วยสายตาแปลกๆ

    “อื้อ ก็แบบ พี่เค้าดูแบบว่าเศร้าๆไรงี้อ่ะพี่ ไม่รู้เค้ามีปัญหาอะไรรึเปล่าเนอะ” ผมตอบกลับไปอย่างซื่อๆตามที่คิด พี่บอสยักไหล่ก่อนจะกลับไปก้มหน้าก้มตาจัดการกับข้าวเย็นตรงหน้า

    “ก็คงมีน่ะแหละ แต่มึงอย่าไปยุ่งเรื่องเค้าเลย คนกรุงเทพเค้าไม่ค่อยแฮปปี้กับการเข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวหรอกนะถึงมึงอยากจะช่วยเค้าก็เถอะ”

     

    แม้จะด้วยท่าทีสบายๆแต่น้ำเสียงที่จริงจังทำให้ผมต้องกลับมาคิด

    ..คงจะจริงที่คนกรุงไม่เหมือนคนต่างจังหวัดที่เห็นอะไรก็มีน้ำใจช่วยเหลือกัน..

    “เอางั้นเหรอพี่ ว่าไงว่าตามกัน เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามใช่ป่ะ” ผมยักคิ้วให้ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุยนู่นนี่เกี่ยวกับโรงเรียน ที่เที่ยวและอื่นๆจนกินอิ่มแล้วแยกย้ายกันกลับโดยที่ตลอดเวลาผมก็ยังคงคิดเรื่องรุ่นพี่คนดังที่เหมือนกำลังมีปัญหาคนนั้น

     

    พี่ธีร์......

     

     

    /////////////////////////////////////////////////////////////

     

    เมืองกรุงมีอะไรมากมายให้ตื่นตาตื่นใจมากมาย ห้องเรียนสวยๆ ห้างหรูๆ อาหารอร่อย ขนมแปลกตา และอื่นๆอีกมากมาย แต่ไม่ว่าจะมีอะไรอีกมากมายแค่ไหน สุดท้ายแล้วความคิดผมก็วนเวียนกลับมาที่เดิม

     

    ......พี่ธีร์

    ธีร์ ทัศนกำจร.........

     

    “ถึงพี่บอสจะพูดแบบนั้นก็เถอะ แต่จะให้ปล่อยไว้เฉยๆแบบนี้จริงๆเหรอ?”

    นิ้วเรียววางปากกาในมือก่อนจะละสายตาจากการบ้านที่กำลังทำอยู่ก่อนจะย้ายเป้าหมายไปที่โน๊ตบุ๊คข้างตัวเพื่อหาคำตอบที่ข้องใจชวนให้เสียสมาธิของตน

     

    พี่บอสพูดเอาไว้ถูกเผง พี่ธีร์เป็นคนดังจริงๆไม่ว่ารุ่นพี่คนไหนต่างก็รู้จัก ทำให้ใช้เวลาแค่ไม่นานผมก็เสิร์ชหาเฟซบุ๊คของพี่เค้าเจอ

     

    แต่ละสตัสที่ผมนั่งไล่อ่านเพื่อทำให้ผมรู้จักตัวตนของพี่เค้ามากขึ้นเรื่อยๆยิ่งทำให้รู้สึกเศร้า รูปถ่ายที่ยิ้มอย่างมีความสุขนั้นช่างต่างกับพี่ธีร์ตอนนี้ที่แม้พี่ธีร์หัวเราะต่อหน้าเพื่อนฝูงมากมาย แต่กลับมานั่งเหม่อหรือนั่งทำหน้าเศร้าอยู่คนเดียวอยู่ดี

     

    “ถ้าพี่ไม่มีความสุขทำไมถึงต้องยิ้มให้กับใครต่อใครแบบนั้นด้วยนะ?.........”

     

    ........ผมคงจะปล่อยไปเฉยๆอย่างที่ได้รับคำแนะนำมา ถ้าพี่เค้าจะมีเพื่อนสักคนที่สามารถคอยรับฟังได้....

     

     

     

     

    //////////////////////////////////////////////////////

     

    หลังจากที่ตัดสินใจได้อย่างนั้น ผมก็เลยเดินหน้าเข้าทำความรู้จักกับพี่ธีร์ทันที ทำไงได้ ก็ในเมื่อผู้รู้จักพี่เค้าแต่พี่เค้ายังไม่เคยรู้จักผมเลยนี่นา

    และโอกาสก็มาถึงในตอนที่ผมกำลังหนักใจเลยลงมาจะไปหากินไรกินเติมพลังซะหน่อยเพราะคิดไม่ออกว่าจู่ๆจะเดินเข้าไปขอทำความรู้จักพี่เค้าได้ยังไงเพราะว่าพี่ธีร์ค่อนข้างเป็นคนเก็บตัวแถมเราสองคนไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกันเลยที่สายที่เรียนหรือชมรม

     

    พี่ธีร์กำลังนั่งกินข้าวไปพร้อมกับดูละครรักกรุ้มกริ่มอยู่กับคนอื่นๆในหอพัก

     

    “ถามแบบนี้แสดงว่าไม่เคยดูมาก่อนใช่ป่ะ” เสียงของพี่ผู้ชายด้านข้างเอ่ยคุยกับพี่ธีร์ทำให้ผมปิ๊งขึ้นมาทันที

    ละครไง!!!  ชวนคุยเรื่องละคร!!......

     

     

    “ไม่เป็นไรนะพี่ มีคนที่ยังไม่ได้ดูเหมือนกัน” ผมพูดพร้อมกับยิ้มให้พี่ธีร์ที่กำลังเงยหน้าขึ้นมามองอย่างแปลกใจและตอบผมก่อนจะละความสนใจกลับไปที่ละครตรงหน้า

    “แต่ก็น่าสนุกดีนะ เดี๋ยวคงต้องไปตามดูอ่ะ”

     

    ...เฮ้ย เดี๋ยวดิ ไอ้นนท์มึงอยากเป็นเพื่อนพี่เค้าไม่ใช่เหรอแบบนี้ก็ไม่มีอะไรคืบหน้าเลยน่ะสิ อุตส่าห์มีโอกาสแล้วแท้ๆ...

     

    “นี่พี่ ข้าวกล่องพี่ซื้อร้านไหนอ่ะ”

    ...ถามเรื่องข้าวกล่องจะใช้ได้มั๊ยนะ...แต่มันนึกอะไรไม่ออกแล้วนี่หว่า..

    “ข้างหอ”

    “ข้างตรงข้านั่นป่ะพี่”

    “อือ”

    “อร่อยป่ะพี่?”

    “อื้อ”

    สายตางงๆของพี่ธีร์ที่มองกลับมายิ่งทำให้ผมอายจนอยากหายวับไปตรงนั้นเลยแต่ความอยากคุยมันก็มีมากกว่า

    ...นี่ผมทำอะไรแปลกๆไปอีกแล้วใช้มั๊ย โธ่เอ๊ยยย....

    ด้วยความตื่นเต้นผมเลยถามต่อไปอีกโดยไม่ทันคิด

     

     

    “งั้นผมขอชิมได้ป่ะ?”

    ถึงเมื่อก่อนผมจะเคยขอชิมข้าวของเพื่อนหรือครอบครัวมาบ้างอย่างไม่คิดอะไรมากแต่มันคงไม่ใช่อะไรที่จะมีทำกับคนแปลกหน้าแน่ๆ พี่ธีร์เองก็เงียบไปนานด้วยสีหน้าอึ้งๆเหมือนทำอะไรไม่ถูกก่อนจะพยักหน้าหงึกๆ

    “เอาดิ”

     

    ในเมื่อพี่ธีร์ดันตอบตกลงมาแบบนั้นผมเลยได้แต่รับข้าวกล่องที่พี่เค้ายื่นให้มาตักกินทั้งที่จริงๆไม่ได้ตั้งใจจะขอชิมเลยด้วยใจตุ๊มๆต่อมๆเพราะสายตาที่มองตามข้าวกล่องของตัวเองเหมือนเจออะไรแปลกๆ

    “อร่อยดีพี่ งั้นผมไปซื้อเลยนะ”

    ผมรีบคืนกล่องข้าวกลับไปก่อนจะเดินออกจากตรงนั้นด้วยความเขินที่ตัวเองทำอะไรเปิ่นๆแบบนั้นไป

     

     

    ...นี่ผมทำอะไรลงไปวะเนี่ย....

    จู่ๆไปกินข้าวเค้าฟรีๆมันคงไม่ดีแน่เลย งั้นเอางี้แล้วกัน

     

    ผมเดินกลับไปอีกครั้งก่อนวางน้ำหวานไว้ให้ที่ข้างตัวพี่ธีร์เพราะเห็นว่าพี่เค้ากำลังกินข้าวแต่ยังไม่มีน้ำเลย

    “อันนี้แลกกับที่ผมกินไปตะกี๊นะพี่ ผมไปล่ะ”

     

    ...ค่อยยังชั่วหน่อย พี่ธีร์จะได้ไม่นึกว่าผมมาขอข้าวกินฟรีๆ...

    ผมเดินยิ้มอย่างสบายใจแล้วเดินออกมาโดยไม่ทันได้รู้เลยว่าคนที่ผมอยากให้ยิ้มกำลังยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดูกับเทคนิคการเข้าทำความรู้จักที่แปลกประหลาดจนสุดฤทธิ์ของตัวผมเอง

     

    TBC.

    Talks: โอยยย เพิ่งได้มาดูละครไทยกับเค้าบ้าง เห็นเรื่องนี้ค่อนข้างดังมากในทิวตพอดูแล้วก็รู้สึกติดใจความสดใสของน้องนนท์ตั้งแต่แรกพบตอน EP.1 เลย แบบไอ้ฉากขอชิมข้าวกล่องนี่มันหยั่งกะจูบทางอ้อมเลยนะวึ้ยยย แกทำได้ไงให้ดูมุ้งมิ้งใสๆไม่คิดไรมากแบบนั้น ฮาา เลยเก็บไปจิ้นกันต่อว่ามันน่าจะมีสาเหตุอะไรรึเปล่าที่ทำให้นนท์เกิดอยากรู้จักกับธีร์ขึ้นมาสุดท้ายก็เลยคลอดออกมาเป็นเรื่องยาวอย่างที่เห็นนี่ล่ะ คิดว่าเรื่องไม่น่าจะยาวมากเกินสิบตอนหรอกมั้ง ยังไงก็ฝากเรื่องนี้ไว้ด้วยนะคะ

    YuHankunG

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×