ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วิธีการเอาตัวรอดเมื่ออยู่ในดงศัตร

    ลำดับตอนที่ #8 : หญิงงามอันดับหนึ่ง

    • อัปเดตล่าสุด 23 ต.ค. 64


    “ช่วยด้วยยยย” เสียงเด็กคนหนึ่งร้องขึ้นมา

                “คุณหนู คิดว่าจะหนีไปได้หรือ” เสียงชายชุดดำคนหนึ่งดังขึ้นมา

                “ช่วยด้วย ใครก็ได้ ช่วยข้าด้วยยยยยยย อุ๊บบบ” เธอยังร้องไม่จบก็มีผ้ามาอุดปาก แล้วโจรก็ลากเธอเข้าไปในตรอก 

                “ข้าเริ่มก่อนละกันนะ” ชายชุดดำร่างใหญ่ที่มีหนวดเฟ้ม คนหนึ่งกล่าว มือของเธอถูกมัดไว้ด้วยเชือก เธอกำลังถอยหนีไปข้างหลัง เมื่อเธอดันเท้าเข้าไปหลังเธอก็สัมผัสกับกำแพงเย็นๆ ‘ทางตัน’

                “ฮ้อยด้อยยยย” เธอร้องว่า ช่วยด้วย แต่ไม่มีใครผ่านมา ชายร่างใหญ่นั้น เข้ามากระชากกิโมโนสีชมพูของเธอออก กระชากเสื้อตัวกลางของเธอออก เผยให้เห็นสัดส่วนเค้าโว้งอย่างรางๆ และเมื่อชายร่างใหญ่นั้น เอื้อมมาจับคอของเสื้อตัวในของเธอออก เธอหลับตา ทำให้น้ำตาของเธอไหลไปเป็นทาง ‘ไม่มีใครเลย ข้าคงต้องจบชีวิตอย่างนี้สินะ’

                “โอ๊ยย” เสียงชายร่างใหญ่ดังขึ้น เธอจึงลืมตา 

                “ใครกัน พวกข้ามานี่” เสียงชายคนเดิมกล่าว

                “ตอนนี้เหลือเจ้าคนเดียวแล้วหล่ะ” ชายรูปร่างสูงโปร่งคนหนึ่งเดินเข้ามา 

                “หยุดอยู่ตรงนั้นนะ ฮึกกก” ชายร่างใหญ่กล่าว แล้วอยู่ๆ ชายคนนั้น ก็มีเลือดพุ่งออกมาและตาย

                ชายร่างสูงโปร่งถอดเสื้อคลุมสีเทาตัวนอก แล้วคลุมรอบตัวเธอ หน้าตาของชายคนหนึ่งหล่อเหลา หมดจด งดงาม “ไม่เป็นไรนะ” พร้อมแก้เชือกที่มัดข้อมือ และเอาผ้าอุดปากของเธอออก แล้วเธอก็สลบไป 

                “ฮิเมะ...ซาโอะฮิเมะ ซาโอะฮิเมะ ท่านเป็นอย่างไรเจ้าค่ะ” สาวใช้ประจำตัวเธอร้องขึ้นมา

                “ข้าเพียงแค่ฝันร้าย ไม่มีอะไรแล้วเจ้าออกไปเถอะ” ซาโอะฮิเมะกล่าว ใช่แล้วหลังจากเธอสลบไป นินจาประจำตัวเธอก็มารับเธอกลับบ้าน เมื่อเธอสอบถามดู เธอจึงรู้ว่าชายคนนั้นที่ช่วยเธอ คือเท็ตซึยะ ฟูจิวาระ

                “เท็ตซึยะซามะ...เกิดมาเพื่อเป็นของข้าคนเดียวเท่านั้น” ซาโอะฮิเมะกล่าว

    ***

    “นี่ เจ้าเป็นอะไร เมื่อวานไม่ได้นอนเหรอ” อายูมิถาม เมื่อเห็นยูเอะเดินมากินข้าวด้วยตาที่บวมคล้ำ

     ยูเอะมองไปที่เท็ตซึยะ พบว่า ชายหนุ่มยิ้ม “เมื่อวานข้านอนไม่หลับนะ”  ‘จะหลับได้อย่างไร กลัวว่าจะถูกลักหลับทั้งคืน’

    “เอ๊ะ คอเจ้าเป็นอะไร รอยแดงๆ” อายูมิถาม 

    สมองของยูเอะคิดไปถึงเรื่องเมื่อคืน หน้ายูเอะจึงแดงไปหมด แต่เพื่อไม่ให้ชายหนุ่มได้ใจ เธอจึงตอบว่า “ออ ยุงนะ เมื่อวานกลัวยุงทั้งคืน เลยนอนไม่หลับเลย” 

    “บ้านข้ามียุงด้วยเหรอ ข้าต้องระวังแล้ว” อายุมิกล่าว โดยไม่สนเท็ตซึยะที่ยิ้มกรุ่มกริ่ม และยูเอะที่อายจนหน้าแดง...

     

    ***

    “เท็ตซึยะซามะ ท่านว่าแผนการนี้จะสำเร็จหรือไม่” ทาคุมิกล่าว เมื่อเห็นเท็ตซึยะยิ้ม 

    “หากว่าชุบเลี้ยงแล้ว แต่ไม่สามารถช่วงใช้ได้ 

    รักอย่างสุดใจ แต่ไม่อยู่ในบังคับบัญชา 

    กระทำผิดระเบียบวินัย ก็ไม่อาจลงโทษทัณฑ์ 

    เช่นนี้ก็เปรียบเหมือนบุตรที่กำเริบเสิบสาน ใช้ทำศึกไม่ได้*” เท็ตซึยะกล่าว

    *คำกล่าวของซุนจื่อ = ซุนวู นักการทหารและนักปกครองประมาณ 2400-2500 ปีก่อนพุทธศักราช หรือก่อนคริสตกาล

                “ท่านหมายความว่า พวกข้าอาจต้องระวังในการเลือกคนสินะ” เคียวเฮซึ่งตอนนี้ทำหน้าที่เป็นเสนาบดีกล่าว 

                “เคียวเฮซามะพูดได้ตรงใจข้ายิ่ง แม้ว่ามีความสามัคคี ดินฟ้าอากาศสถานที่เอื้ออำนวย แต่หากมีแต่ขุนพลชั้นเลว กับขาดระเบียบวินัยไซร้ แผนการนี้คงมิอาจสำเร็จได้ ฝากท่านแม่ทัพพิจารณาให้ดี” เท็ตซึยะกล่าว

                “ได้นั้นข้าควรจะเปลี่ยนจาก เฮบิ เป็น โคมุ พลทหารที่ข้าสนิทที่สุดสินะ” เอบิ ที่ทำหน้าที่เป็นขุนพลของรองแม่ทัพกล่าว

                “หามิได้ เฮบิแต่เดิมถูกต้องแล้ว แต่ควรเป็นใช้ตัวลวง ตามหลักเมื่อข้ามีความสามารถแต่พึงให้ฝ่ายศัตรูเห็นว่า ข้าหามีความสามารถไม่ แลวให้โคมุสั่งการอย่างลับๆ เล่า” ทาคุมิกล่าวในที่สุด

                “ที่สำคัญ จงอย่าแย้มพรายให้ศัตรูล่วงรู้ เจตนาที่แท้จริงของข้าเป็นอันขาด” เท็ตซึยะกล่าวในที่สุด แล้วทั้งหมดก็หารือแผนการอื่นๆ ต่อไป

                “หากไม่มีอะไรแล้ว ประชุมวันนี้จบลงได้ ขอบคุณทุกท่าน” เท็ตซึยะกล่าว 

                “เคียวเฮซามะ ข้ามีเรื่องปรึกษาท่านสักครู่ หากท่านไม่รังเกียจ” เท็ตซึยะกล่าวต่อ 

                เมื่อทั้งหมดออกไปแล้ว คงเหลือแค่เคียวเฮ เท็ตซึยะจึงกล่าวต่อว่า “ท่านได้ข่าว อาโออิฮิเมะหรือไม่” ที่เท็ตซึยะถามเพราะอยากรู้ว่า จริงๆ แล้วที่วันนั้นซาอิกลับมาคนเดียว เกิดจากเคียวเฮหรือไม่ เมื่อลอบดูสีหน้าของเคียวเฮ กลับไม่พบพิรุธใดๆ 

    “ข้าให้คนของข้าตามหาหมดแล้ว แต่ยังไม่พบ” เคียวเฮตอบ พลางส่ายศีรษะ...เคียวเฮยิ้มเย็น ที่พบหน่ะ เป็นยูเอะ ไม่ใช่อาโออิฮิเมะนี่หน่า

    “อย่างนั้นหรอกหรือ วันมะรืน ท่านสะดวกหรือไม่ ข้ายังไม่ได้เลี้ยงต้อนรับการมาเป็นเสนาบดีให้เฮอันของข้าเลย” เท็ตซึยะกล่าว 

    “ขอขอบคุณเท็ตซึยะซามะอย่างยิ่ง ข้าจะไปพบท่านอย่างแน่นอน ดูเหมือนฝนใกล้จะตกแล้ว หากเท็ตซึยะซามะไม่มีอันใดแล้ว ข้าขอลา” เคียวเฮกล่าว

    “เชิญ ท่านเสนาบดี” เท็ตซึยะกล่าว

    ‘หรือว่า เท็ตซึยะสงสัยเรื่องข้า...’ แม้สีหน้าเคียวเฮจะไม่แสดงออกอะไร แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยคำถาม...

    ***

     “เป็นอย่างไรบ้าง” ขณะกำลังจะเดินออกไป ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา

    “ลูก สบายดีท่านพ่อ” เท็ตซึยะกล่าว

    “เจ้าแอบซ่อนอะไรไม่ให้พ่อรู้หรือเปล่า เท็ตซึยะ” ฟุจิวาระ โนะ โมโตะทสึเนะกล่าวและยิ้มจนเห็นฟัน          

    เท็ตซึยะรู้ดีว่า การโกหกไปจะทำให้บิดาของเขาโกรธยิ่งขึ้น เมื่อพ่อเขายิ้มแบบนี้แสดงว่า กำลังโกรธ หากเขายังโกหกต่อไป ชีวิตของอาโออิฮิเมะคง... “ลูกรู้ว่าปิดท่านพ่อไม่ได้ ลูกได้นำ คนที่ต้องสงสัยว่าเป็นอาโออิฮิเมะ มาไว้ที่จวนของลูกจริงๆ แต่เท่าที่ได้ให้นินจาประจำเครือไปสืบมา คนที่อยู่กับลูกนั้น มีบุคลิกเหมือนองค์หญิงเพียงบางส่วน...” พูดจบเท็ตซึยะก็ยังสงสัย ข้อมูลจากนินจาของเขาไม่เคยผิดพลาด...

    “แปลก หรือ คนที่อยู่กับเจ้า จะไม่ใช่ นาง” โมโตะทสึเนะกล่าว

    “ลูกยังไม่แน่ใจ จึงลองเชิญเสนาบดีเก่านะระ ไปพิสูจน์ดูในวันมะรืน” เท็ตซึยะกล่าว

    “เจ้าไม่ใช่มีใจให้นางหรอกนะ” โมโตะทสึเนะกล่าว

    เท็ตซึยะกล่าว “ท่านพ่อรู้ดีว่า ลูกชอบ การชนะแบบเบ็ดเสร็จ ขอท่านพ่อโปรดวางใจ การใดทำไปเพื่อเครือฟุจิวาระทั้งสิ้น หากมีความคืบหน้าอย่างไร ลูกจักแจ้งให้ท่านพ่อทราบ” 

    “ใช่แล้วอย่างไร ไม่ใช่แล้วอย่างไร” โมโตะทสึเนะกล่าว

    “หากใช่ ลูกจะขออภิเษกกับนาง เพื่อเป็นรากฐานความมั่นคงของเครือข้า รวมถึงเป็นการคานอำนาจกับจักรพรรดิ์ หากไม่ใช่...อาจปล่อยนางไปให้กับบ่าวไพร่” เท็ตซึยะกล่าว

    หลังจากเงียบไปนาน “อย่างนั้นหรือ ลูกรัก เจ้ารู้หรือไม่ ตอนข้าพูดถึงเรื่องนาง สายตาเจ้าหวั่นไหว นางงดงามอย่างยิ่งใช่หรือไม่” โมโตะทสึเนะกล่าว “อาโออิฮิเมะ จำได้ว่า นางงดงามมาก”

                “เมื่อวานลูกนอนไม่หลับ ขอท่านพ่อโปรดอย่าจำใส่ใจ” เท็ตซึยะกล่าว 

                “อย่างนั้นหรอกหรือ...หากคนคล้ายฮิเมะ เจ้าก็ตบแต่งเป็นภรรยาเก็บเป็นอย่างไร” โมโตะทสึเนะกล่าว ลูกชายสุดที่รัก มักไม่ชอบตอบคำถามที่ตัวเองไม่แน่ใจ ‘เท็ตซึยะก็หลงใหลในสตรีด้วยหรือ’ เขารู้สึกสนุกกับลูกชายหินผาของเขาซะแล้ว ตั้งแต่สตรีน้อยใหญ่เที่ยวฝากบอกรักลูกชายเขา ขุนนางใหญ่น้อย นำบุตรสาวมาให้ดูตัว เท็ตซึยะก็ไม่ได้สนใจ เขาจึงนึกสนุกอยากแกล้งลูกชายสุดที่รัก

                “ไม่มีอะไรแล้ว เจ้าไปพักผ่อนเถอะ” โมโตะทสึเนะกล่าว 

    ***

                “ฮิเมะ ข้าได้ทำตามแผนการที่ท่านวางไว้เรียบร้อยแล้ว” ชายชุดดำกล่าว

                “หมดจดใช่หรือไม่” หญิงสาวหน้าตาสะสวยคนหนึ่งกล่าว

                “ท่านหญิงวางใจ หากผิดพลาดประการใด ไม่มีทางสาวมาถึงท่านอย่างแน่นอน” ชายชุดดำกล่าว

                “ดีมาก เจ้าไปได้” หญิงสาวกล่าว

                ชายชุดดำรับถุงเงินแล้วจากไป

                “เจ้าไม่มีทางแย่งเท็ตซึยะซามะไปจากข้าได้ คอยดูสิ หากเจ้าเป็นของชายอื่น เท็ตซึยะจะรับเจ้าเป็นภรรยาอยู่หรือไม่” หญิงสาวกล่าว เมื่อมองไปในกระจกจะพบว่า หญิงสาวในกระจก คือซาโอะนั่นเอง...

    ***

     

                “นี่ อุด้งร้านนี้อร่อยจริงๆ ซาอิ ขอบคุณเจ้ามากที่พาข้ามา อายูมิต้องชอบด้วยแน่ๆ ” ยูเอะกล่าวระหว่างทางเดินกลับบ้าน เธอไม่ค่อยชอบขี่ม้าในเมือง* เพราะเธอไม่ชอบเป็นจุดสนใจ

    *ขี่ม้าได้แสดงว่ามีฐานะในสมัยก่อน

                “ร้านนี้ก็เป็นร้านที่เท็ตซึยะซามะชอบพามาเลี้ยงพวกข้าขอรับ” ซาอิกล่าวพร้อมทำสายตาชื่นชม

                “นายของพวกเจ้า เป็นอย่างไรหรือ” ยูเอะถาม

                “รูปโฉมงดงาม สุขุมรอบคอบ ฉลาดหลักแหลม ไม่ว่าสาวหรือหนุ่มใด เมื่อเห็นเท็ตซึยะซามะแล้วเหมือนโดนมนตร์สะกด แต่หากท่านเท็ตซึยะยิ้มจนแก้มบุ๋มให้ใครแล้วละก็...แสดงว่า ท่านกำลังโกรธ” ซาอิบอกพร้อมทำท่าขนลุก

                “แล้วอะไรบ้างหล่ะ ที่ทำให้นายของเจ้าโกรธ” ยูเอะถาม

                “การที่เจ้าไม่ยอมแต่งกับข้าสักทีไง พธูยอดรัก” อยู่ๆ ก็มีเสียงหนึ่งกระซิบมาที่หูของเธอ

                

                “ท่าน...มาได้อย่างไรเนี่ย” ยูเอะกล่าว

                “แผ่นดินนี้ มีที่ใดข้าเหยียบไมได้บ้างหรือ” เท็ตซึยะกล่าว

                “ใครจะกล้าเจ้าคะ” ยูเอะกล่าว แล้วอยู่ๆ ซาอิก็ไปไหนไม่รู้เหลือแค่เธอกับเท็ตซึยะ

                “ฝนจะตกแล้ว มานั่งรถม้ากับข้าเถอะ” พูดจบเท็ตซึยะก็จูงมือเธอ โดยไม่รอแม้แต่คำตอบตกลง

                “ร้อนจัง ท่านว่าไหม” ยูเอะกล่าวเมื่อนั่งรถม้าไปสักพัก

                “อบอ้าวอยู่บ้าง ท่านร้อนหรือ” เท็ตซึยะกล่าว พร้อมนำพัดมาพัดให้เธอ

                “สงสัยกินของร้อนมาก รสดียิ่ง ท่านก็ชอบอุด้งสินะ ข้าซื้อมาฝากท่านกับอายูมิด้วย” ยูเอะกล่าวพร้อมยื่นอุด้งให้เท็ตซึยะ 

    นั่งไปสักพัก เหงื่อเธอก็ไหล เธอรู้สึกอึดอันจน หายใจไม่ออก จึงพยายามคลายกิโมโนที่ใส่อยู่ พร้อมกล่าว

    “ข้ารู้สึกร้อนจนหายใจไม่ออก ท่านว่ามันไม่อบไปเหรอรถม้านี่นะ” 

    “ท่านจะทำอะไรนะ” เท็ตซียะกล่าว 

    “ข้าร้อน ร้อนเหมือนอยู่บนกองไฟเลย ท่าน...ท่านทำอะไรข้าหรือเปล่า” ยูเอะเริ่มสงสัย หนุ่มตรงหน้านับว่าเจ้าแผนการเป็นที่หนึ่ง ลมหายใจของเธอเริ่มติดขัด เธอพยายามแก้สายรัดเอว จนหลวมทั้งหมด หน้าของเธอเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ 

    “ข้าเพิ่งมาจะทำอะไรท่านได้อย่างไร” เท็ตซึยะยังสงสัยอาการของหญิงสาวตรงหน้า 

    “ช่วย...ช่วย...ข้าด้วย เท็ต...ซึ...ยะ” พูดจบยูเอะก็เบียดเสียดเข้าไปนั่งบนตักเท็ตซึยะ

    “แผนใหม่ท่านหรือ” เท็ตซึยะกล่าว ‘หรือว่า...’

    “ข้า...ข้า..ห้ามตัวเอง...ไม่ได้ เท็ต.....ช่วย...ช่วย...ข้าด้วย” พูดจบยูเอะก็กอดรัดแน่น และเริ่มจูบ

                แม้ว่าเท็ตซึยะจะสันนิษฐานว่า หญิงสาวตรงหน้า โดน ‘ยาปลุกกำหนัด’ แต่ ‘อาวุธ’ ของเขาก็เริ่มเกร็งตัว มือของเขาอยู่ที่สะโพกของหญิงสาว หญิงสาวนั่งคร่อมเท็ตซึยะไว้ แล้วอยู่ๆ ก็มีน้ำหยดลงบนหน้าของเท็ตซึยะ เมื่อเขาลืมตาขึ้นพบว่า น้ำตานั้น มาจากยูเอะ 

                “ช่วย...ข้า...ด้วย” ยูเอะกล่าว

                เท็ตซึยะ แต่ไหนแต่ไรมา ได้ขึ้นชื่อว่า อัจฉริยะ คิดถึงประโยชน์ระยะยาวมากกว่าประโยชน์สั้น แต่ไฟพิศวาสจากหญิงสาวตรงหน้าเกือบทำให้เขาหมดสติ ‘คนที่ได้ประโยชน์จากเรื่องนี้คือใคร...’ เขาคิดในใจ ‘หากข้าทำลงไป...มิใช่ข่มขืนนางหรอกหรือ นางไม่ได้เต็มใจแต่ฤทธิ์ยาพาไป...’ เมื่อคิดได้ดังนั้น จึงพูดว่า “ข้าขอโทษ” แล้วสกัดจุดสลบหญิงสาวตรงหน้า

                “ถึงแล้วขอรับ” คนขับรถม้ากล่าว ทำให้เท็ตซึยะได้สติ ‘อาวุธ’ ของเขาหดตัวแล้ว เหลือแค่จัดเสื้อผ้าหญิงสาวเท่านั้น เขาจึงอุ้มยูเอะออกมา และด้วยกลัวว่า ตอนกลางคืน นางอาจตื่นมาแล้วสำเร็จอารมณ์ใคร่อีก เขาจึงนำนางมาไว้ที่ห้อง

                “อาบน้ำให้นางด้วย” เท็ตซึยะกล่าวกับสาวรับใช้ก่อนเดินออกไป

                “อิจิ เจ้าไปตรวจสอบดู อุด้งพวกนี้ มีส่วนประกอบผิดแปลกจากอุด้งทั่วไปหรือไม่หรือไม่ แล้วหากมี ใครเป็นคนวางแผนทั้งหมดนี้” เท็ตซึยะกล่าวกับอิจิ อิจิไม่เคยเห็นนายของเขาสั่งด้วยอารมณ์โกรธอย่างนี้มาก่อน ใบหน้าของนายน้อยที่เคลือบด้วยยิ้มบางๆ บัดนี้เปลี่ยนเป็นเรียบยิ่งกว่าเส้นตรง เขามั่นใจว่า หากนายน้อยรู้ว่าใคร คนนั้นอาจตายได้ แค่คิดก็เสียวแล้ว จึงรีบออกไป

                ผ่านไปชั่วอึดใจ อิจิกลับมาพร้อมบอกเขาว่า “ในอุด้งไม่มีส่วนประกอบแปลกปลอมใดๆ แต่ซาอิมีอาการร้อนวูบ หายใจไม่ออก เหมือนโดนยากำหนัดและได้ไปสำเร็จความใคร่กับสาวในหอนางโลมเรียบร้อยแล้ว เมื่อได้ลองดูคนที่ร้านพบว่ามีคนงานใหม่หนึ่งคน ได้รับยาจากชายคนหนึ่ง บอกว่า ให้ไปส่งอาหารที่ใส่ยากับโต๊ะที่ยูเอะฮิเมะนั่ง และบอกว่ามาจากเครือฟุจิวาระ คนงานจึงปฏิบัติตาม ข้าได้สั่งให้คนตามหาคนที่มีลักษณะคล้ายชายดังกล่าว ข้าเห็นว่าชายที่ใส่ยาคงเปลี่ยนรูปโฉมมาก่อนเป็นแน่ แต่เพื่อความไม่ประมาท หากพบเจออย่างไร จะเรียนท่านขอรับ”

                “ขอบใจเจ้ามาก” นินจาคนสนิทของเขา ไม่เคยทำให้เขาผิดหวัง แม้ว่าเขาถามไม่กี่ประโยคแต่ได้รับข้อมูลเต็มเปี่ยม ดูท่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังจะวางแผนมาเป็นอย่างดี

                หลังจากแช่น้ำร้อนให้สบายแล้ว เท็ตซึยะก็มาที่เตียงของเขา เตียงเขาใหญ่นอนได้เกือบ 4 คน บัดนี้ มีหญิงสาวหนึ่งนอนอยู่ เขาใช้นิ้วไล้ปอยผมออกเพื่อให้เห็นหน้าหญิงสาวชัดเจนขึ้น

    หญิงสาวตรงหน้า สามารถทำให้ผู้พบเห็นประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่พบเลยทีเดียว แต่ไม่ใช่เขา หากเปรียบเทียบกับซาโอะที่เรียกว่า งามที่สุดในแผ่นดินแล้ว 

    หญิงสาวตรงหน้ามีความต่างกับที่ ซาโอะงดงาม อ่อนโยนดั่งดวงจันทร์ แต่หญิงสาวตรงหน้า ให้ความรู้สึกที่หลากหลายแปลกประหลาด นางบางครั้งก็เหมือนตะวันที่ร้อนแรง บางครั้งก็เหมือนภูเขาหิมะที่ไม่อาจก้าวล่วง แต่เมื่อลองรู้จักแล้วพบว่า หญิงสาวตรงหน้ามีหลากหลายอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นการโกรธที่ปิดบังไม่มิด จริงจัง และพยศ เขาไม่เข้าใจว่า เขาจะสามารถจดจำสตรีนางหนึ่งได้อย่างไร ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เขาจะเห็นนางเป็นคนแรก 

    ‘สะกดใจ’ อาจเป็นคำเดียวที่อาจแทนสิ่งที่หญิงสาวตรงหน้ามอบให้เขาได้ อย่างไรก็ดี เขาได้ถูกสอนมาตั้งแต่เด็ก ว่า ความรักไม่มีประโยชน์ใดๆ แต่ความมั่นคงต่างหากที่เป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตสุขสบาย และมีตำแหน่งใหญ่โตให้กับเครือฯ ต่อไปได้

    “เบียคุยะ” อยู่ๆ หญิงสาวตรงหน้าก็เอามือมาจับมือของเขาที่ไล้แก้มนวลเนียนของนางอยู่

    “...” เขาเพิ่งนึกออกว่า ระหว่างเดินทางกลับมา นางก็พูดคำนี้มา

    “เบียคุยะ ข้ารักท่าน” หญิงสาวกล่าว 

    แม้ว่า หญิงสาวตรงหน้าเขาท่าจะโดนยากำหนัดไม่หาย แต่เท็ตซึยะก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

    “เบียคุยะ ที่หมายความว่า ร้อยราตรีหรอกหรือ เขาเป็นชายที่ท่านรักหรือ” เท็ตซึยะกล่าว

    “อืมม” ยูเอะหลับตากล่าว 

    “ท่านจะต้องกล่าวแต่เพียงชื่อข้าเท่านั้น” เท็ตซึยะกล่าวและบดริมฝีปากของยูเอะอย่างบ้าคลั่ง

    “เบียคุยะ” ยูเอะกล่าวต่อ จนทำให้เท็ตซึยะได้สติ

    “เท็ตซึยะ ก็หมายความว่า ราตรี ข้าขอกล่าวว่า นับแต่นี้อีก 100 ราตรี เบียคุยะจะถูกลบออกไปจากใจท่านอย่างแน่นอน” เท็ตซึยะกล่าวแล้วนอนลงข้างๆ หญิงสาว

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×