ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วิธีการเอาตัวรอดเมื่ออยู่ในดงศัตร

    ลำดับตอนที่ #16 : ปกป้องชายงาม

    • อัปเดตล่าสุด 24 ต.ค. 64


    “พี่จะออกจากบ้านไปปฏิบัติราชการสักพักนะ” เท็ตซึยะกล่าวขึ้นมาระหว่างที่กำลังทานข้าวเช้ากันอยู่

    “ท่านพี่จะไปทำอันใดเจ้าค่ะ” อายูมิถามขึ้นมา

    “ไปสำรวจภูมิประเทศนะ” เท็ตซึยะกล่าวแล้วคืบนัตโตะต่อ ราวกับว่าไม่มีเรื่องใดในโลกสามารถทำให้เขาละสายตาและทุกการกระทำจากอาหารตรงหน้าได้เลย

    “เมื่อไรจะกลับเจ้าค่ะ” อายูมิสีหน้าเป็นกังวล 

    “ยังไม่แน่” เท็ตซึยะกล่าวและคืบข้าวต่อ 

    “หากท่านพี่ไปนานนัก ท่านพ่อคง...” อายูมิกล่าว หากพี่ชายสุดที่รักของเธอไม่อยู่ ท่านพ่อคงให้เธอไปอยู่ในปราสาทแน่ๆ

    เท็ตซึยะได้ยินคำพูดของอายูมิจึงเงยหน้าขึ้น มองไปที่หญิงสาวอีกคนหนึ่งซึ่งอยู่ในห้อง หลังจากวันนั้น...เขาก็ไม่ได้คุยกับเธออีกเลย ทุกวัน เขาพยายามคิดว่า เขาทำอันใดผิดไป ดำเนินแผนพลาดไปจุดไหน แต่ดูเหมือนแผนทั้งหมดจะสมบูรณ์แบบ ‘มันเกิดอันใดขึ้น’ 

    ยูเอะรู้สึกถึงการจ้องมอง เธอจึงละสายตาจากอาหารที่ดูเหมือนเทมปุระ แล้วสบตากับสายตาคู่นั้น ที่เธอพยายามหลีกเลี่ยงมาตลอด วันนี้เท็ตซึยะใส่ชุดคาริงินุ* ชั้นในสีขาวและตัวนอกสีน้ำเงินเข้ม เป็นชุดที่เธอรู้สึกว่า เหมาะ กับผู้ชายแบบเขามาก เธอจึงยิ้มขึ้นมา

    *ชุดข้าราชการที่นิยมใส่กันทั่วไปเนื่องจากสวมใส่ง่ายกว่า 

    เท็ตซึยะทำเป็นไม่เห็นรอยยิ้มของหญิงสาวตรงหน้า ก่อนกล่าวว่า “ท่านอยากลองออกนอกเมือง หรืออยู่ที่นี่กับอายูมิต้อนรับท่านผู้นำตระกูลฟุจิวาระหรือ” 

    ยูเอะเบ้ปาก ‘เท็ตซึยะทำเหมือนถามแต่จริงๆ คือบังคับให้เธอไปด้วย ใครจะโง่อยู่เจอศัตรูที่ฆ่าพ่อตัวเองเล่า’ แม้ว่าคิดในใจอย่างนั้น แต่ยูเอะก็กล่าวว่า “ออกนอกเมือง” 

    “เก็บของ ก่อนพระอาทิตย์ตกดินข้าจะออกเดินทาง” เท็ตซึยะกล่าวแกมสั่ง

    “ข้าต้องแต่งกายอย่างไร” ยูเอะเริ่มสนุก

    “อย่างไรก็แล้วแต่ท่านเถอะ” เท็ตซึยะกล่าวแล้วไม่สนใจเรื่องใดๆ อีก 

    “น้องขอไปด้วยได้หรือไม่” อายูมิกังวล เธอไม่อยากเจอหน้าพ่อที่โหดร้าย

    “เจ้ารู้อยู่แล้วว่า ต้องดีดพิณให้ราชฑูตจากแผ่นดินใหญ่มิใช่หรือ” เท็ตซึยะตอบอายูมิไป

     

    “เหตุใดมีแต่เจ้าได้ไปละ” อายูมิกล่าวหลังจากเท็ตซึยะออกไปปราสาทเฮอัง

    “เพราะข้าอยู่ที่นี่ไม่ได้นะสิ ท่านพ่อของท่านไม่ชอบหน้าข้า” ยูเอะกล่าว จริงๆ เธอก็ไม่รู้หรอกว่า ฟุจิวาระ โนะ โมโตะทสิเนะเคยเห็นหน้าเธอหรือเปล่า แต่เป็นการดีที่เธอจะไม่ต้องเจอ เพราะเธอไม่รู้ว่าต้องตอบอย่างไรถึงจะไม่เป็นผลร้ายแก่ตัวเธอเองและเท็ตซึยะ

    “เจ้าน่าสงสารยิ่งหนัก จะแต่งกับพี่ข้า ก็ต้องเป็น...รอง” อายูมิรู้สึกเศร้าแทนหญิงสาวตรงหน้า

     “ท่านแม่ของท่านไปไหนหรือ” ยูเอะกล่าว   

    “ท่านแม่ของข้าทิ้งท่านพ่อไป ก่อนที่ท่านพ่อจะมีอำนาจเป็นใหญ่ในเครือฟุจิวาระนะ  เจ้าคงไม่รู้สินะ เครือข้ามีนานเกะ , ฮอกเกะ , ซิกิเกะ และ เคียวเกะ โดยตระกูลฮอกเกะ เพิ่งมามีอำนาจตอนเปลี่ยนราชวงศ์มาเป็นเฮอันนี่ละ” อายูมิกล่าว

    “ทิ้งไปไหนหรือ” ยูเอะกล่าว

    “ไปหาขุนนางระดับสูงผู้หนึ่ง ซึ่งภายหลังท่านพ่อได้ทำการสังหาร...ทั้งตระกูลหมดแล้ว” อายูมิกล่าว

    ยูเอะรู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ ดีที่เธอบอกว่าจะไปกับเท็ตซึยะ หากต้องเจอคนหน้ากลัวอย่างนี้ เธอคงตายแน่ๆ “ท่านแม่ท่านจากไปตั้งแต่เมื่อใดหรือ” ยูเอะกล่าว

    “เมื่อสิบปีที่แล้ว ตอนข้า 5 ขวบ ข้าจำความไม่ได้แล้วหล่ะ แต่ท่านพี่บอกว่า จะไม่มีความรักเป็นอันขาด จะไม่ให้เกิดความผูกพัน และทำลายการมุ่งสู่ตำแหน่งสูงสุดของฟุจิวาระ” อายูมิกล่าวด้วยสีหน้าเศร้า

    “นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ท่านต้องการเป็นภรรยาของเท็ตซึยะหรือ” ยูเอะกล่าว

    “ใช่ ข้าอยากดูแลเขา ข้าอยากปกป้องเขา” อายูมิกล่าว

    “อย่างนั้นหรือ แล้วตั้งแต่อายุ 15 มา เท็ตซึยะไม่มีความรักเลยหรือ” ยูเอะกล่าวขึ้นมา

    “มีแต่คนมาชมชอบท่านพี่นะ ได้ข่าวว่า อาโออิฮิเมะ ก็ประสงค์ที่จะแต่งงานกับท่านพี่ด้วย แต่ท่านพ่อไม่เห็นด้วย จึงเกิดนองเลือดขึ้น” อายูมิกล่าว

    ‘ไม่ใช่ละ ไม่เพียงแค่ประวัติศาสตร์เท่านั้น แต่ยังเป็นคำพูดของทั้งอายูมิ เคียวเฮ เท็ตซึยะที่ทำเธอสับสัน’ ยูเอะคิดในใจ

    “เอาหล่ะ เจ้าก็ไม่ต้องคิดมาก อยู่กับท่านพี่ดูแลเขาแทนข้าให้ดีละ” อายูมิกล่าว

     

    ยูเอะกำลังนั่งรอเท็ตซึยะอยู่ที่สวน แล้วรู้สึกมีสายตาคู่นึงจ้องมา เธอจึงสบตาดวงตาคู่นั้น

                “ข้าพร้อมแล้ว” ยูเอะกล่าวขึ้น            

    เท็ตซึยะได้ยินเสียงดั่งระฆังแก้วของหญิงสาวจึงได้สติและกล่าวว่า “ออกเดินทางได้” 

     

                “ข้าจะช่วยท่านอย่างไรได้บ้าง” ยูเอะถามขึ้นมา ระหว่างหยุดพัก

                “ไม่เป็นภาระก็พอ” เท็ตซึยะกล่าวแล้วขึ้นม้าไปต่อ

    ยูเอะจำไม่ได้ว่า...สมัยเฮอันมันมีเหตุการณ์อะไรที่สำคัญบ้าง

    เธอจำได้เพียงว่า...เป็นยุคที่ศิลปะ วัฒนธรรม ศาสนารุ่งเรืองที่สุด 

    เธอยังไม่เข้าใจด้วยว่า...เหตุใดต้องเดินทางกลางดึก หากมีคนมาตามฆ่าเธออีก เธอจะรอดปลอดภัยไหม เธอยังกลัวไม่หายว่า จะมีใครลอบทำร้ายเธออีกหรือไม่... 

    “ข้าจะไปพักกันที่นั่น” เท็ตซึยะกล่าวขึ้นมา

     

     “เท็ตซึยะซามะ ขอเชิญท่านพักผ่อน” เสียงหนึ่งดังขึ้นมา

    ยูเอะมองไปพบว่า คนกล่าว เป็นชายร่างสูงใหญ่ ผิวสีทองแดง สำเนียงเหมือนแถบคันไซ เมื่อเขาจ้องเธอกลับมา เธอพบว่า สายตาเขาคมกริบ คล้ายเป็นแววตาเชิงสำรวจ 

    เท็ตซึยะเห็นสายตาของบ่าวคนสนิท จึงกล่าวขึ้นว่า “สหายข้าเอง นำทาง”

                

                เมื่อถึงเรือนพัก ยูเอะก็เดินสำรวจรอบๆ เรือนพักนี้ แม้ไม่โอ่อ่า แต่ให้ความรู้สึกสบายน่าอยู่ การตกแต่งเรียบง่าย ให้ความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ เมื่อมองออกไปเห็นเท็ตซึยะดื่มสาเกอยู่ในเรือนข้างๆ เธอจึงเดินเข้าไปหา

                เท็ตซึยะเงยหน้ามาก็พบคนที่เขากำลังคิดถึงอยู่ ‘หากควบคุมไม่ได้ ก็จงตัดทิ้งเสีย*’ เป็นคำที่เขาถูกสอนตั้งแต่เด็ก

    *ทากาอิโกะ ซาดาอะกิระได้กล่าวไว้ 

                ยูเอะไม่กล่าวอะไร แล้วนั่งลงข้างเขา แล้วเธอก็ยิ้มขึ้นมา เท็ตซึยะมองขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วพบว่า วันนี้พระจันทร์เป็นรูปครึ่งเสี้ยว 

    “ยิ้มอันใดหรือ” เท็ตซึยะกล่าว

    “ดูสิ มีดาวสองดวงอยู่เหนือพระจันทร์นั้น เหมือนกับว่า ท้องฟ้ากำลังยิ้มให้ข้าอยู่ ข้าจึงยิ้มกลับ” ยูเอะกล่าว

    เมื่อเห็นชายข้างหน้าไม่ว่าอะไร เธอจึงถือวิสาสะ ดื่มสาเกจากถ้วยของเท็ตซึยะ “อา...รสชาติหนักแต่ไม่บาดคอ ข้าเคยได้ยินมาว่าท่านเชี่ยวชาญเรื่องบทกลอน แต่ที่มารู้วันนี้คือ เก่งกาจในเรื่องคัดสรรสาเกด้วยเหรอเนี่ย” ยูเอะเปิดด้วยการชมก่อน

    “บ่าวไพร่ล้วนคัดสรร ข้าหาได้เลือกเองไม่ การที่ท่านชมข้านี้ หมายสิ่งใดหรือท่านหญิง” เท็ตซึยะกล่าว 

    “เป็นท่านที่รู้ใจข้า วันก่อน...ข้าพูดไม่ดีกับท่าน ขอโทษด้วย” ยูเอะกล่าว 

    เมื่อเห็นเท็ตซึยะนิ่งไป เธอจึงไม่กล่าวอะไร 

    “เช้ง” อยู่ๆ ซาอิก็ไม่รู้มาจากไหนเอาดาวกระจายเขามาปัดวัตถุลอยได้ที่อยู่หน้าเธอ แล้วกล่าวขึ้น “ใครส่งพวกเจ้ามา” 

    “คงไม่ต้องบอกไปหรอก วันนี้ของปีหน้าจะเป็นวันครบรอบวันตายของพวกท่าน” มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาข้างหลัง แล้วเจ้าของเสียงก็มาปรากฏตัวอยู่ข้างหน้าพวกเธอ 

    “ปึก” อยู่ๆ ก็มีดาวกระจายตรงมาเข้ามาเธอ แต่ซาอิเข้ามาปัดได้ทันจนทำให้ดาวกระจายนั้น ไปอยู่บนกำแพง แล้วชายชุดดำอีก 20 คนก็กรูเข้ามาดูเหมือนรัศมีการทำลายของพวกนี้ มันกินมาถึงเธอด้วย

    เพื่อป้องกันตัวและไม่เป็นตัวถ่วง สิ่งที่เธอทำได้คือ ‘อะไรหล่ะ?’ ยูเอะมองเท็ตซึยะที่ยังนั่งจิบสาเกอยู่ และดูเหตุการณ์ปัจจุบันราวกับว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้น 

    ยูเอะคิดในใจ ‘หมอนี่ นอกจากจะมีฉายาบุรุษกระชากใจ แล้วยังเป็นหนุ่มแห่งความชิวที่สุดในเฮอันใช่ไหม 

    ชายชุดดำเหวี่ยงดาวกระจายมาที่เท็ตซึยะ “เช้ง” ยูเอะหยิบดาบออกมาบ้างปัดบ้าง เธอไม่รู้ว่าเท็ตซึยะใช้ดาบเป็นหรือเปล่า เท่าที่เธอรู้ชายผู้สูงศักดิ์มักทำได้แค่ขับบทกลอน บรรเลงบทเพลง นั่งชมจันทร์...และเธอคิดว่าน่าจะปกป้องเขาเพราะหากเขาเป็นอะไรไป เธอคงไม่มีที่อยู่... 

    แววตาของเท็ตซึยะวูบหนึ่งเกิดสั่นไหว เขาแปลกใจว่า หญิงสาวตรงหน้าเรียนดาบไม่กี่วัน กลับสามารถปัดดาวกระจายจากยอดฝีมือได้แล้วหรือ และที่สำคัญยังปกป้องเขาด้วย !!!

    ขณะที่ชายชุดดำกำลังจะโถมเข้ามาโจมตีพร้อมกัน ‘นี่เธอต้องมาตายตรงนี้เหรอเนี่ย ยังไม่ได้บอกรักกับทาคุมิเลย...’ ยูเอะคิดในใจ

    “ป็อก” เสียงดีดนิ้วจากเท็ตซึยะ แล้วก็มีเหล่าเงาสีดำเข้ามา แค่พริบตาเดียว พริบตาเดียวจริงๆ ยูเอะเห็นว่า ชายชุดดำทั้งหมด 21 คนตายหมดแล้ว

    “ท่านไม่สอบสวนก่อนหรือว่าใคร แล้วมาเหตุใด” ยูเอะตะโกนด้วยเสียงเกรี้ยวกราด จริงๆ ที่เธอหงุดหงิดไม่เพียงแค่ฆ่าคน แต่เป็นที่ เหตุใดไม่เรียกนินจาเงามาตั้งแต่แรก...

    “นินจาที่มีฝีมือเช่นนี้ ไม่มีทางเปิดเผยความลับ” เท็ตซึยะกล่าว

    “อดีตอาจเป็นเรื่องที่ท่านเคยรู้ แต่ปัจจุบันอาจต่างไปได้มิใช่หรือ” ยูเอะเชื่อว่า มนุษย์เราเปลี่ยนแปลงได้อยู่เสมอ รวมถึงตัวเธอเองด้วย

    “หากไม่ฆ่า แล้วปาระเบิดพิษมา จักทำอย่างไรเล่า” เท็ตซึยะกล่าว

    “ขอบคุณฟุจิวาระ โนะ เท็ตซึยะที่สั่งสอน” ยูเอะไม่ได้คิดขนาดนั้น จากตอนแรกที่จะมาขอโทษ กลับกลายเป็นว่า ทะเลาะกันอีกแล้วสินะ...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×