ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วิธีการเอาตัวรอดเมื่ออยู่ในดงศัตร

    ลำดับตอนที่ #13 : แลกตัว..ประกัน

    • อัปเดตล่าสุด 23 ต.ค. 64


    “เคร้ง” เสียงถ้วยตกลงบนพื้น หญิงสาวผู้มีใบหน้างดงามนางหนึ่ง เป็นคนปัดมันลง

    “พวกไร้สมอง ทำงานล้มเหลว ยังกล้ากลับมาอีกนะ” นางยังคงกล่าวต่อด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราด

    “ท่านหญิง ครั้งนี้ไม่พลาดอย่างแน่นอน” ชายชุดดำกล่าว

    “ไหนลองว่ามาสิ หากไม่เข้าหูข้า พวกเจ้าโดนลงโทษแน่” หญิงสาวคนเดิมกล่าว

    “อย่างนี้ขอรับ....” ชายชุดดำก็เล่าแผนการให้หญิงสาวฟัง

    “ดีมาก อย่างนี้คนก็จะได้เข้าใจผิด...ไปได้” หญิงสาวกล่าวแล้วเธอก็หัวเราะต่ออย่างบ้าคลั่ง

    ***

    “แตร้ง ผ่าง” เสียงบิวะดังขึ้นมา

    “นี่เจ้ามือเจ้าเลือดออกแล้ว เหม่ออะไรอยู่” อายูมิดึงมือของยูเอะมาเพื่อดูแผล

    “ข้าคิดอะไรเพลินนะ” ยูเอะกล่าว เมื่อกี้เธอกำลังคิดว่าจะทำอย่างไรให้ซาอิและเคียวเฮสมหวัง

    “คิดอะไร ไม่ใช่ว่า คิดว่าจะจับพี่ข้าแต่งงานอย่างไรนะ” อายูมิสะบัดมือยูเอะออก

    ‘เฮ้อ น้องที่หวงพี่สาว’ “สมมุติว่า ทาคุมิมีความสัมพันธ์แบบชายหญิงกับเท็ตซึยะ จะมีใครลงโทษพวกเขาไหม” ยูเอะกล่าว

    “ท่านเสียสติไปแล้วหรือ ท่านพี่ออกจากอ่อนโยน สุภาพ ฉลาด หล่อเหลางามสง่า ไม่ว่า สตรีใดที่ได้พบเห็นก็เข่าอ่อนระทวย แม้แต่นางกำนัล รวมถึงสนมของท่านจักรพรรดิ์ก็เคยขอร่วมเตียงกับท่านพี่มาแล้ว ไหนเลยชายรักชายได้ อีกอย่างทาคุมิซามะ เป็นถึงยอดชายชาตรี องอาจดุจภูผา แล้วจะเข้ากันได้อย่างไร” อายูมิเอ่ยรวดเดียวอย่างไม่หายใจ

    “ข้าหมายถึง สมมุตินะ เอาเป็นเคียวเฮกับซาอิก็ได้” ยูเอะกล่าว

    “ท่านนี่กระไร เคียวเฮซามะเป็นถึงเสนาบดีของเฮอัน รอยยิ้มที่ทำให้แม้แต่ข้าก็โดนกระชากวิญญาณ ฐานะร่ำรวย การศึกษาดี ชาติตระกูลสูงส่งกับ ซาอิ องครักษ์ในเครือฟุจิวาระเนี่ยนะ ไม่เข้ากันเลย เอาเป็นว่า ข้าจะเล่นกับท่าน หากมีชายรักชายอย่างที่ท่านว่าเกิดขึ้น ทั้งสองคนต้องถูกไฟเผาตายทั้งเป็น” อายูมิกล่าว 

    ‘ไฟเผาตายทั้งเป็น’ แค่คิดเธอก็หนาวแล้ว ทำเอายูเอะหน้าซีดไปทีเดียว

    “ทำไมหรือ” อายูมิเมื่อเห็นหญิงสาวเงียบไป

    “ข้าแค่อยากรู้นะ” ยูเอะกล่าวแล้วดูดนิ้วที่มีเลือดออก

    “เจ้านี่อะไร ทำไมสกปรกจัง เนมิมาดูแลเจ้านายเจ้าหน่อย” อายูมิสั่ง

    “เจ้าค่ะ” แล้วเนมิก็เดินมาพร้อมพายูเอะไปล้างแผล

     

    เมื่อยูเอะกลับมาก็ไม่พบอายูมิแล้ว เธอจึงคิดว่า อายูมิคงไปหาสหายตามประสาเด็กสาว เธอจึงออกไปเดินเล่นบ้าง จนพระอาทิตย์ตกดิน ขณะเดินกลับมาที่เครือฟุจิวาระ ก็มีนินจากลุ่มใหญ่เข้ามาจับตัวเธอ 

    “ยูเอะฮิเมะ โปรดตามพวกข้าที่เครือฟุจิวาระด้วยขอรับ” พูดจบชายชุดดำก็ใช้วิชานินจาแล้วคุมตัวเธอไป

                เมื่อเธอกลับถึงเครือฟุจิวาระ เธอก็เห็นเท็ตซึยะนั่งหน้าเครียดอยู่

                “เกิดอะไรขึ้นหรือ” ยูเอะกล่าว

                “อายูมิหายตัวไป” เท็ตซึยะจับจ้องใบหน้าของหญิงสาว

                “นางไปเที่ยวเล่นหรือเปล่า ตอนกลางวันข้ายังเล่นบิวะกับนางอยู่เลย” ยูเอะกล่าว

                “มีปิ่นปักผมของนางอยู่ที่พื้นที่พวกท่านเล่นบิวะกัน หญิงสาวที่ไหนเดินออกจากบ้านแล้วไม่มีปิ่นได้เล่า” เท็ตซึยะกล่าวด้วยเสียงเรียบเฉย สายตายังจับจ้องที่ใบหน้าของหญิงสาวตรงหน้า

                “นางหายไปตั้งแต่เมื่อไร แล้วท่านคิดว่าใครเป็นคนนำนางไป แล้วเหตุผลคืออะไร” ยูเอะก็เริ่มร้อนรนขึ้นมาแล้ว อายูมิที่ตอนไม่คุยเรื่องเท็ตซึยะเป็นเด็กสาวน่ารักคนหนึ่งเลย 

                “นางหายไปหลังจากท่านไปทำแผลที่เรือนชมจันทร์ ตอนนี้กำลังสืบหาอยู่ว่าใครนำนางไป เหตุผลยังมิอาจรู้” เท็ตซึยะกล่าว 

                “นายท่าน พบแล้วขอรับ ตอนนี้ อายูมิฮิเมะอยู่ที่วัดร้าง แต่ว่า มีกลุ่มโจรจับนางแล้วเรียกค่าไถ่ขอรับ หากท่านไม่ส่งยูเอะฮิเมะให้พวกเขา พวกเขาจะฆ่าอายูมิฮิเมะครับ” อิจิกล่าว 

                “คนของท่านหรือ” เท็ตซึยะหรี่ตาลงแล้วกล่าว

    “บอกท่านตามตรง ข้าไม่รู้ว่า ข้ามีสหายคนอื่นที่ รอด นอกจากเคียวเฮด้วยหรือ แล้วถามจริงเถอะใครรู้บ้างว่าข้าเป็นใคร แล้วข้ายังมีประโยชน์อันใดหรือ?” ยูเอะคิดไม่ตก เธอไม่รู้สาเหตุจริงๆ แต่เธอก็ไม่อยากให้อายูมิต้องมาตายเพราะเธอ “เอาเถอะลองไปดูก็ไม่เสียหาย อิจินำทาง” 

    ขณะจะเดินออกไป เท็ตซึยะก็จับแขนเธอเอาไว้ แล้วกล่าวว่า “กลุ่มชายชุดดำไม่ได้บอกว่า ให้ไปได้กี่คน รวมถึงไม่ได้ห้ามว่าใครห้ามไป เฉพาะฉะนั้น ข้าไปด้วย อิจิเรียกนินจาเงาทั้งหมดมา” เขาไม่รู้ว่าเป็นแผนการของหญิงสาวตรงหน้าหรือไม่

    ***

    ณ วัดร้าง...

    “โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง โฮ้ง” เสียงเห่าหอนที่ดังขึ้นทำเอายูเอะตกใจ สัตว์ที่เธอกลัวที่สุด คือสุนัข

    “กลัวหรือ” เท็ตซึยะจับข้อมือยูเอะไว้ ‘ชีพจรขึ้นสูงคล้ายตกใจ แต่ตอนนี้ปกติ สีหน้าตั้งแต่นั่งรถม้ามาไม่มีพิรุธ หากคนตรงหน้าไม่เสแสร้งจริงๆ ก็คงมีคนอื่นอยู่เบื้องหลัง แล้วใครกันหล่ะที่อยู่เบื้องหลัง ใครได้ประโยชน์จากเหตุการณ์นี้กัน เคียวเฮ? ท่านพ่อ? หรือผู้รอดชีวิตจากนะระ’

    “ตกใจน่ะ ท่านว่าใครเป็นผู้ได้ประโยชน์จากเรื่องนี้” ยูเอะเหมือนรู้ว่าเท็ตซึยะคิดอะไรอยู่ 

    “ท่านว่าเคียวเฮยังรักท่านหรือไม่ ได้ข่าวว่าเคยเป็นคู่หมั้นของท่าน” เท็ตซึยะกล่าว

    “เคียวเฮมีคนรักใหม่แล้ว ท่านอย่าห่วงไป เสนาบดีนะระ กลายมาเป็นเสนาบดีเฮอันอย่างเขา การชิงตัวอย่างคิดน้อยอย่างนี้ ไม่น่าจะใช่เขาแน่นอน” ยูเอะกล่าวพร้อมมีสีหน้าครุ่นคิด

    ‘การที่พรางแผนการ ก็เป็นหลักการหนึ่งในซุนวูมิใช่หรือ ซึ่งวันก่อนเขาเพิ่งใช้แผนนี้กับโจรกบฏเอง...’ เท็ตซึยะยังครุ่นคิดต่อ จนเสียงของยูเอะดังขึ้นมา

    “ข้ามาแล้ว ไหนว่าแลกเปลี่ยนตัวประกัน พวกโจรอยู่ไหนเล่า” ยูเอะตะโกน

    ‘คิดน้อยเสียจริง...’ เท็ตซึยะนึกไม่ถึงว่าหญิงสาวตรงหน้าจะตะโกนออกไปอย่างไม่มีแผนการอย่างนี้ ใจหนึ่งเขาก็ไม่อยากให้น้องสาวตาย อีกใจหนึ่งก็ไม่อยากปล่อยหญิงสาวตรงหน้าไป

    “หากข้าดีดนิ้ว ขอให้คนของท่านช่วยจับชายชุดดำได้หรือไม่” ยูเอะกระซิบ

    เท็ตซึยะพยักหน้า

     

    “ท่านคือยูเอะฮิเมะหรือ” เสียงหนึ่งดังขึ้นมา

    “ข้าเอง” ยูเอะกล่าวฝั่งเธอตอนนี้มีเท็ตซึยะ อิจิ เธอแต่เธอไม่รู้ว่า นินจาเงาที่เท็ตซึยะดูเชื่อมั่นหนักหนามีกี่คน 

    “ช่วยด้วย” เสียงอายูมิดังขึ้นมา พร้อมกับชายชุดดำที่นำมีดมาจ่อคอเธอเดินเข้ามาใกล้จุดที่ยูเอะอยู่เรื่อยๆ 

    “ยูเอะฮิเมะ ท่านเดินมา ข้าจะปล่อยอายูมิฮิเมะไป” แล้วก็ปรากฎชายชุดดำซึ่งมีกันทั้งสิ้น 10 คน แต่เธอก็ไม่รู้อีกล่ะ ว่ามีอีกหรือไม่

    “ข้าขอทราบเหตุผลก่อนได้หรือไม่” เท็ตซึยะกล่าวขึ้นมา

    “ฮิเมะ ของข้า ข้าควรจะดูแลเองต่างหาก คงไม่อาจลำบากให้ฟุจิวาระมาดูแลแทนหรอก” ชายชุดดำกล่าว

    “อย่างนั้นหรือ” เท็ตซึยะมองไปที่ยูเอะ ซึ่งนิ่งเงียบอยู่

    ‘บ้าไปแล้ว หากจะจับเธอ มีวิธีตั้งเยอะ ทำไมต้องทำโจ่งแจ้งขนาดนี้เล่า เธอมั่นใจว่ากลุ่มชายชุดดำตรงหน้า ไม่ใช่คนของเธออย่างแน่นอน’ ยูเอะคิดในใจ แต่ตามน้ำไป “ท่านเป็นคนของใคร” 

    ชายชุดดำนิ่งเงียบไป แล้วกล่าวอย่างตะกุกตะกัก ว่า “ท่าน...” 

    ดวงตายูเอะพลันกระจ่างใส กล่าวว่า “ท่านพูดไม่ได้สินะ ปล่อยอายูมิก่อนเถอะ หากมีดบาดคออายูมิ ข้าคงช่วยท่านชดใช้ไม่ไหว เพื่อความสบายใจของฟุจิวาระ ให้อายุมิและข้าเดินออกมาพร้อมกัน ตกลงไหม” เสียงของยูเอะราบเรียบ แต่แฝงด้วยการสั่งที่ชายชุดดำรู้สึกว่า ปฏิเสธไม่ได้

    “เดี๋ยวก่อน ข้าจะได้เจอท่านอีกหรือไม่” เท็ตซึยะกล่าวแล้วจับแขนยูเอะไว้

    ยูเอะหันกลับมากล่าวว่า “น้ำเคลื่อนไหวตลอดเวลา แต่พระจันทร์ยังคงสงบนิ่ง ใจที่เคลื่อนไหวตอบสนองต่อสถานการณ์หมื่นครั้ง แต่ยังคงเหมือนเดิม*” แล้วขยิบตาให้

    *ไดเซทซึ ซูซูกิกล่าวไว้ ซึ่งตามสถานการณ์นี้ ยูเอะกำลังบอกเท็ตซึยะว่า แม้ว่าจะมีเหตุการณ์อะไรผันเปลี่ยนแปลงไป แต่แผนการที่ได้เคยวางไว้ยังเหมือนเดิม

                เมื่อเห็นดังนั้น เท็ตซึยะจึงปล่อยมือแล้วกล่าวว่า “ดวงจันทรา จักสว่างก็ต่อเมื่อในยามราตรี ข้าขอเป็นพื้นฟ้าในยามค่ำคืนให้ท่านฉายเด่นตลอดกาล”

                ‘แหม หล่อ... ตีได้บทแตกยอดเยี่ยม’ ยูเอะเกือบควบคุมสติไม่อยู่ แล้วเริ่มเดิน

                “เพี๋ยะ เสียแรงที่ข้าไว้ใจเจ้า” อายูมิตบหน้ายูเอะกล่าว แล้วสลบไป

                “...” ยูเอะไม่ตอบกระไร แล้วยังเดินต่อ

     

                “ปล๊อก” เสียงดีดนิ้วจากยูเอะดังขึ้น เมื่อเธอเดินมาเกือบถึงชายชุดดำ 

                ขณะที่อิจิและกลุ่มนินจาเงากำลังจัดการกับชายชุดดำคนอื่นๆ หนึ่งในชายชุดดำเข้ามาพยายามเข้ามาจับตัวเธอ 

                “หยุด” ชายชุดดำที่จับตัวยูเอะไว้ทำให้ทุกสายตามาอยู่ที่ยูเอะซึ่งกำลังโดนจับอยู่

                ‘จบสิ้นกัน’ เท็ตซึยะมาไม่ทันหญิงสาว 

    แต่ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น !!!

    “ต่อเลย ย้ากกส์” ยูเอะทุ่มชายชุดดำที่หมายจะจับตัวเธอ ไม่เสียแรงที่ลงเรียนวิชายูโดตอนอยู่มหาวิทยาลัย เธอได้ทำตามหลักอย่างครบถ้วนทั้ง 5 ข้อของยูโด* 

    * จิโกะโระ คะนโนะก่อตั้งยูโดประมาณปี พ.ศ. 2435 ได้กล่าวกฏ 5 ข้อของยูโด ดังนี้

    1. สังเกตตนเองและสถานการณ์อย่างถี่ถ้วน จงสังเกตผู้อื่นและสังเกตสภาพแวดล้อมอย่างถี่ถ้วน
    2. จะทำอะไรให้คิดถึงคนอื่นก่อนเสมอ
    3. พิจารณาอย่างรอบคอบ ลงมือทำอย่างแน่วแน่
    4. ทราบว่าเมื่อใดควรหยุด
    5. ยึดทางสายกลาง

     

    ตอนนี้สิ่งที่เท็ตซึยะรู้คือเข้าใกล้หญิงสาวให้เร็วที่สุด แล้วเอาเธอเขามากอด

    ผ่านไปไม่ถึงสามลมหายใจ ยูเอะมองลอดแขนของชายหนุ่มพบว่า...ชายชุดดำตายหมด เหลือเพียงคนเดียว

    “ต้องฆ่ากันเลยเหรอ” ยูเอะตัวสั่น หวาดกลัวความป่าเถื่อนของความจริงตรงหน้าจับใจ 

    “การหมิ่นคนในเครือฟุจิวาระ คือหมิ่นฟุจิวาระ เจ้าบอกมาใครจ้างวานเจ้า” เท็ตซึยะกล่าวแล้วจ้องไปที่ชายชุดดำผู้รอดชีวิต

    “ยูเอะฮิเมะขอรับ” ชายชุดดำกล่าว

    “จี้จุดเขาไม่ให้ขยับ” ยูเอะสั่ง แล้วซาอิก็เข้ามาจี้จุดให้

    “เจ้าชื่ออะไรหรือ เผยหน้ามาให้ข้าเห็นหน่อยว่า เจ้าเคยอยู่กับข้าจริงๆ “ ยูเอะกล่าวแล้วผลักตัวเองจากอ้อมอกเท็ตซึยะ

    “นามของข้าน้อย ไม่สมควรกล่าว หากฮิเมะประสงค์จะให้ข้าน้อยฆ่าตัวตาย ข้าน้อยจะกลืนยาพิษเดี๋ยวนี้” ชายชุดดำกล่าว

    “ช้าก่อน เจ้ายังตายไม่ได้” ยูเอะกล่าว แล้วพยักหน้าให้ซาอิจี้จุดต่อที่ปากของชายชุดดำดังกล่าว

    “นั้นเจ้ากลอกตาละกัน หากใช่หรือเข้าใจให้กลอกตาทางขวา หากไม่ใช่ให้กลอกตาทางซ้าย หากไม่ทั้งใช่ ไม่ใช่และไม่เข้าใจไม่ต้องกรอกตา เข้าใจหรือไม่” ยูเอะกล่าวดึงผ้าคลุมหน้าออกแล้วจ้องไปที่ตาของชายชุดดำ

    ชายชุดดำกลอกตาไปทางขวา

    “เคียวเฮเป็นคนจ้างวานเข้าหรือ” ยูเอะกล่าว

    ชายชุดดำกลอกตาไปทางซ้าย แล้วกลอกมาทางขวา ‘โกหก สัญชาตญาณแรกเมื่อเกิดความกลัวจะถูกเสมอ’

    “ข้าจ้างวานเจ้าหรือ” ยูเอะกล่าว

    ชายชุดดำกลอกตาไปทางซ้าย แล้วกลอกมาทางขวา ‘โกหก’

    แม้ว่าจี้จุดให้ปากกับร่างกายขยับไม่ได้ แต่อาการกระตุกของใบหน้ายังคงอยู่ ซึ่งเท็ตซึยะก็มองว่า ชายชุดดำนี้ โกหก

    “หากงานนี้ไม่สำเร็จ ครอบครัวเจ้าตายหรือไม่” ยูเอะกล่าวต่อ

    ชายชุดดำกลอกตามาทางขวาอย่างรวดเร็ว

    “ข้าจะปกป้องครอบครัวเจ้าเอง บอกความจริงกับข้ามาเถอะ มีคนจ้างวานเจ้ามาใช่หรือไม่” ยูเอะกล่าวต่อ

    ชายชุดดำกลอกตาไปทางขวา

    “มีคนจ้างวานเจ้าอยู่ในนี้ใช่หรือไม่” ยูเอะกล่าว

    ชายชุดดำกลอกตาไปทางซ้าย

    “ข้ากับเจ้าเคยรู้จักกันหรือไม่” ยูเอะกล่าว

    ชายชุดดำกลอกตาไปทางซ้าย

    “ข้าจะให้คนเผยการสกัดจุด ครอบครัวของท่านจะปลอดภัย หากท่านจะบอกความจริงมาแต่โดยดี ตกลงหรือไม่” ยูเอะกล่าว

    ชายชุดดำกลอกตาไปทางขวา

    “พรึ่บ” อยู่ๆ ก็มีดาวกระจายมาปักที่คอของชายชุดดำ

    “ปกป้องครอบครัวข้าด้วย” ชายชุดดำกล่าวก่อนสิ้นใจ

    “วางใจเถอะ” แล้วยูเอะก็ปิดตาให้ชายชุดดำ

     

    ระหว่างทางนั่งรถม้ากลับ ยูเอะก็เอ่ยขึ้น “ท่านช่วยตรวจหาครอบครัวของชายผู้นั้น แล้วเลี้ยงดูได้หรือไม่ ข้าจะนำเงินจากเคียวเฮมาให้”

    “เป็นหน้าที่ข้าเอง ไม่ต้องถึงท่านเสนาบดีหรอก” เท็ตซึยะกล่าว

    ‘หากสังหารง่ายขนาดนี้ ทำไมไม่ฆ่าข้าไปเลยหล่ะ หรือข้ายังมีความสำคัญอยู่’ ยูเอะคิดในใจ

    ‘การต่อรอง การสู้ประชิดตัว รวมถึงการสอบสวนแบบนี้ เหมือนกับเคยทำอย่างช่ำชอง องค์หญิงท่านมีอะไรที่ข้ายังไม่รู้อีกบ้าง’ เท็ตซึยะครุ่นคิด

    ต่างคนต่างมองออกไปหน้าต่าง แล้วไม่กล่าวอะไรจนกลับถึงที่พักของเครือฟุจิวาระ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×