ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วิธีการเอาตัวรอดเมื่ออยู่ในดงศัตร

    ลำดับตอนที่ #10 : เพียงสัมผัส ข้าก็รู้ว่าเป็นเจ้า

    • อัปเดตล่าสุด 23 ต.ค. 64


                เท็ตซึยะกำลังนั่งอยู่ในห้องหนังสือ ทุกวันเขาจะรับมือได้ทุกสถานการณ์ แต่วันนี้ เขากลับไม่มีความมั่นใจเยี่ยงนั้นเลย ตอนนี้เขากำลังครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไร หากเคียวเฮบอกว่า หญิงสาวที่อยู่กับเขา ไม่ใช่ อาโออิฮิเมะ ‘เป็นไปไม่ได้ นางมีปานนั่น ไหนจะการเล่นบิวะ และหมากล้อมอีกหล่ะ’ 

    เท็ตซึยะเดินวนไปวนมา จนอิจิ นินจาคนสนิทสงสัย 

    ‘แต่ถึงอย่างไร หากนางไม่ใช่อาโออิฮิเมะ การเก็บนางไว้จักได้ประโยชน์อะไร อ่า ใช่เป็นตัวกีดกันซาโอะฮิเมะ และพวกสาวๆ ที่ชอบมาตามติดเขาแจ’ เมื่อคิดเหตุผลได้เช่นนี้ อิจิก็เห็นเจ้านายของเขาหยุดเดินแล้วนั่งจิบชาด้วยท่าทีสง่างามดังเดิม

                “เท็ตซึยะซามะ เตรียมงานเรียบร้อยแล้วขอรับ” พ่อบ้านเนโอะกล่าว

                “ลำบากพ่อบ้านแล้ว ขอบคุณท่านมาก ท่านไปทำงานของท่านเถอะ” เท็ตซึยะกล่าว

                

                เมื่อตะวันฉายแสงเจิดจ้า ทาคุมิ เคียวเฮและผู้ร่วมงานคนอื่นๆ ก็ทยอยเข้ามา งานนี้เท็ตซึยะเชิญแต่คนสนิทที่ไว้ใจได้เท่านั้น เพราะเขาต้องการสืบบางอย่าง ‘ยูเอะ ข้าต้องรู้ให้ได้ ว่าท่านโกหกข้าหรือไม่’

     

                “ทำไมคนเยอะจัง” ยูเอะถามกับสาวรับใช้

                “วันนี้จัดงานต้อนรับเสนาบดีที่มาจากนะระเจ้าค่ะ บ่าวไปแอบมองมาแล้ว รูปงามมากเจ้าค่ะ แต่สู้เท็ตซึยะซามะไม่ได้” เนมิกล่าว

                “เขาเป็นคนอย่างไรหรือ เล่าให้ข้าฟังได้หรือไม่” ยูเอะกล่าว เธอต้องการรู้รายละเอียดมากกว่านี้ เกี่ยวกับเคียวเฮ เมื่อวานเธอไม่อาจหักใจ ใช้การสะกดจิตต่อ เพราะมันผิดจรรยาบรรณนักจิตวิทยาการปรึกษาอย่างร้ายแรงในข้อที่ว่า การกระทำการใดๆ ต้องให้ผู้รับการบำบัดทราบทุกครั้ง

                “ท่านเสนาบดี ทาจิบานะ เคียวเฮ เป็นเสนาบดีมากจากราชสำนักนะระ แล้วถวายการรับใช้องค์จักรพรรดิ์ แห่งราชสำนักเฮอันเจ้าค่ะ ท่านนอกจากจะมีองคาพยศ หมดจด งดงามแล้ว ยังฉลาดปราดเปรื่อง โดยเฉพาะด้านหมากล้อม

    เป็นชายที่ยังไม่มีภรรยาที่สตรีในเฮอันตอนนี้กำลังจับตามอง อันดับที่ 3 รองจากท่านเท็ตซึยะซามะ และทาคุมิซามะเจ้าค่ะ” เนมิกล่าว

                ‘อะไรนะ ทาคุมิแป็นหนึ่งที่ถูกจัดอันดับ เธอเข้าใจ แต่เท็ตซึยะเป็นอันดับหนึ่ง ชายงาม เธอจะบ้า แต่นี่ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องนี้’ “ว่ากันว่า อาโออิฮิเมะ หมากล้อมเป็นที่หนึ่ง แล้วเคียวเฮซามะหมากล้อมสู้ได้หรือไม่” ยูเอะกล่าว

                เนมิทำท่ากระซิบ แล้วกล่าวว่า “เขาลือกันทั่ว ว่าอาโออิฮิเมะ เพียงแค่มีรูปโฉมงดงามเท่านั้นละเจ้าค่ะ นอกนั้น ไม่ว่าจะเป็นเย็บปัก ถักร้อย จัดดอกไม้ เล่นบิวะ การใช้สมองหรือหมากล้อมนั้นไม่ได้เรื่อง แต่จักรพรรดิ์องค์ก่อนทรงรักและทะนุถนอม องค์หญิงมาก จึงปล่อยข่าวออกมาว่า องค์หญิงเล่นบิวะและหมากล้อมเป็นเลิศ และเคียวเฮซามะ เคยเป็นพระคู่หมั้นขององค์หญิงด้วยเจ้าค่ะ”

                ‘เวรละ เผลอเล่นบิวะ และหมากล้อม แต่อาโออิฮิเมะโง่ขนาดนี้เลยเหรอ เธอเผลอไปออกความคิดเห็นต่างๆ กับเท็ตซึยะ ทาคุมิ และเคียวเฮแล้ว จะทำอย่างไรดี...อา ใช่สิ เธอบอกกับทุกคนไปแล้ว ว่าอดีตให้ลืมไปให้หมด เธอจะเป็นคนใหม่ ใช่แล้ว ใช่แล้ว’ ยูเอะก็ยังคงสามารถหาเหตุผลในการหลอกตัวเองต่อไป

                “ความสัมพันธ์ระหว่างเคียวเฮซามะกับองค์หญิงเป็นอย่างไร” ยูเอะถาม

    “ว่ากันว่า ทั้งสองรักใคร่กันดีเจ้าค่ะ ท่านหญิงสนใจ...เคียวเฮซามะหรือเจ้าค่ะ” เนมิเห็นว่ายูเอะเงียบไปนานจึงถาม

                “ข้าสนใจการเล่นหมากล้อมของเคียวเฮซามะมากกว่า” ยูเอะตอบ

     

                ผ่านไปชั่วอึดใจ ก็มีเสียงเคาะประตูดังเข้ามา

                “ข้าขอพบยูเอะฮิเมะจะได้หรือไม่” เสียงเท็ตซึยะดังเข้ามา

                “เจ้าไปเปิดประตูเถอะ” ยูเอะกล่าว แล้ววางหนังสือที่อ่านอยู่ลง

                “เนมิเจ้าออกไปก่อน” เท็ตซึยะกล่าว ยูเอะจึงเห็นคนที่มาด้วยด้านหลังของเท็ตซึยะเป็นเคียวเฮจริงๆ 

                เมื่อเห็นเนมิออกไป เคียวเฮก็เข้ามาคุกเข่าตรงหน้าเธอ “องค์หญิง องค์หญิงจริงๆ ด้วย” 

                “...” เธอเริ่มงง นี่คือการปรับตามสถานการณ์ใช่ไหม แล้วตอนนี้เธอควรทำเป็นโอบกอดเคียวเฮหรือไม่ หรือแกล้งเป็นไม่สนใจ...ทำอย่างไรดี เธอจึงเชื่อสัญชาตญาณแรกโดยกล่าวว่า “ลุกขึ้นเถอะ ข้าไม่ใช่องค์หญิงของท่านแล้ว” 

                “องค์หญิง ไฉนกล่าวเช่นนี้ พะยะค่ะ” เคียวเฮกล่าว

                “ท่านคิดว่า ตำแหน่งองค์หญิงคืออะไร หญิงสาวผู้สูงศักดิ์ที่ใช้ชีวิตในวัง? สตรีผู้ไม่รู้ว่าต้องแต่งงานกับใครในวันข้างหน้า? สตรีผู้ต้องยอมตายแทนบ้านเมือง? อย่างนั้นหรือ ตอนนี้ สตรีที่อยู่ตรงหน้าท่าน หาใช่ไม่ ต่อไปนี้ เรียกข้าว่า ยูเอะ ข้าเป็นเพียงหญิงสาวธรรมดา ธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น” ยูเอะกล่าวได้อย่างลื่นไหล ไร้การสะดุด ‘เล่นบทนี้แล้วกัน องค์หญิงหยิ่งๆ’

                “อาโออิฮิเมะ ข้า...ข้า..” เคียวเฮกล่าว ทำหน้าตาเลิกลั่ก

                “หวังว่าท่านคงไม่ต้องให้ข้าพูดเป็นครั้งที่สาม เรียกข้าว่า ยูเอะ” ยูเอะกล่าวแล้วทำสีหน้าเย็นชา

                “ช้าก่อน ท่านมั่นใจได้อย่างไรว่า สตรีตรงหน้าคือ อาโออิฮิเมะจริงๆ” เท็ตซึยะกล่าว

                “ข้ามีการพิสูจน์ หนึ่งคือ ผม เพราะข้าชอบเล่นผมองค์หญิงมาก สองคือ ปานรูปพระจันทร์เสี้ยว สามคือหมากล้อม ข้าขอทำการพิสูจน์ ณ บัดนี้ เท็ตซึยะซามะ ขอเชิญท่านออกไปก่อนได้หรือไม่” เคียวเฮกล่าว

                “ท่านเป็นบุรุษ  การเปิดชุดให้ดู คงไม่เหมาะสม ขอท่านอย่าหมิ่นศักดิ์ศรีนางเลย” แล้วเท็ตซึยะก็ออกไปอย่างง่ายดาย เมื่อเห็นเท็ตซึยะออกไปแล้ว 

                ยูเอะลอบหวาดเสียวในใจ เท็ตซึยะที่ทำเป็นสุภาพบุรุษกับเธอขนาดนี้ต้องวางแผนอะไรอยู่เป็นแน่... จึงเขียนถามเคียวเฮว่า ‘เอาอย่างไรดี’ 

                “ผมท่านสวยมาก แต่ไม่เหมาะกับทรงนี้อย่างยิ่ง ข้าขอลองเกล้าผมให้ท่านดูได้หรือไม่” เคียวเฮกล่าว

                ยูเอะทำสายตาตกใจ ‘นี่มันเรื่องบ้าอะไร’ แต่เธอก็ตอบไปว่า “แล้วแต่เจ้า” 

                ผ่านไปสักครู่ เคียวเฮก็ทำให้หญิงสาวที่อยู่ตรงกระจก งดงามขึ้นทันตาเห็น ผมที่ปรกใบหน้า ก็ถูกรวบขึ้นไป เผยให้เห็นความกระจ่างใสของใบหน้าทั้งหมด ยูเอะจ้องหญิงสาวในกระจกอย่างตะลึง แล้วก็เก็บสายตาพลันเมื่อรู้ว่า เคียวเฮมองอยู่

                ‘เท็ตซึยะไม่สงสัยเหรอ ?’ ยูเอะเขียนมือเคียวเฮถาม

                ‘เขาปล่อยให้ข้ามาสำรวจว่า ท่านใช่องค์หญิงหรือไม่’ เคียวเฮเขียนตอบ ยูเอะจึงถอดชุดออกมาทีละชิ้น

                “ท่านทำอะไรนะ” เคียวเฮถาม 

                “ให้ท่านดู ท่านก็ไม่เชื่อข้าจริงๆ ไม่ใช่หรือ” ยูเอะกล่าว แล้วเผยให้เห็นปานรูปพระจันทร์เสี้ยวจริงๆ 

                “ข้าเชื่อท่านตั้งแต่จับเส้นผมแล้ว ข้าเล่นผมท่าน เกล้าผมให้ท่านตั้งแต่เด็กจนโต หากจำทุกสัมผัสไม่ได้ ก็ไม่ใช่เคียวเฮแล้ว” เคียวเฮกล่าวแล้วช่วยยูเอะใส่เสื้อผ้า

                ที่ยูเอะลองถอดเสื้อดู เพื่อที่จะหนึ่ง ยืนยันกับเคียวเฮ และสองดูว่าเคียวเฮเป็นชายที่ไม่ได้ชอบหญิงหรือไม่ สรุปได้ผลทั้งสองข้อ

                “เท็ตซึยะซามะคงไม่เชื่อง่ายๆ อย่างไรท่าน ข้ามาเล่นหมากล้อมกันดู” ยูเอะพูดจบก็เดินออกไปจึงเห็นเท็ตซึยะนั่งอยู่ที่ม้าหิน

                “ข้าขอประลองหมากล้อมกับท่านเสนาบดีหน่อยได้หรือไม่” ยูเอะกล่าว

                “ข้าเตรียมไว้แล้ว เชิญ” แล้วเท็ตซึยะก็เผยให้เห็นกระดานหมากล้อม

                “เสี่ยงทาย แล้ว ท่านเริ่มก่อนเคียวเฮซามะ” ยูเอะกล่าว

                เคียวเฮเริ่มเดินหมากดำ ยูเอะก็วางหมากขาวเปิด เดินสลับกันไป

                ‘แม้ว่า ลักษณะภายนอก ไม่ว่าจะเป็นเส้นผม ปานจะเหมือนเดิม แต่การพูดจาพาที รวมถึงการเดินหมากล้อมต่างกันอย่างสิ้นเชิง ปกติอาโออิฮิเมะไม่ได้เดินหมากเร็ว ดุดัน อย่างนี้ หมากที่นางเดินตอนนี้ แฝงไว้ด้วยอันตรายทุกจุด หากเขาพลาดพลั้งแค่ครั้งเดียว จะแพ้ได้อย่างง่ายๆ หรือที่ผ่านมาองค์หญิงเก็บประกายไว้ตลอดเลย’ แล้วเคียวเฮก็มองหน้าองค์หญิง

                “อาตาริ*” ยูเอะกล่าว ‘ประมาทไม่ได้เลย เคียวเฮนี่เรียกได้ว่าเก่งมาก’

                “อาตาริ” เคียวเฮกล่าว ‘เดินหมากแบบซับซ้อนอย่างนี้ เขาไม่เคยเห็นมาก่อน อาโออิฮิเมะไปฝึกมาจากไหน ’

    *“เรียกกิน” เป็นการเตือนฝ่ายตรงข้ามให้รู้ตัวก่อน เพราะทัศนคติที่ดีในการเล่นหมากล้อมนี้ ควรจะเกิดจากการวางแผนที่ดี และการวางนโยบายที่ดีเท่านั้น

                แล้วอยู่ๆ เคียวเฮก็เดินหมากดำที่ไม่ควรจะเดิน ‘ปกติ อ่อนข้อให้อาโออิตลอดเลยเหรอ เคียวเฮผู้น่าสงสาร แต่นี้ต่อไป เธอไม่ต้องแล้วนะ ฉันจะจบเอง’ “พอเถอะ ท่านใจดีถึงเพียงนี้ ข้าไหนเลยรับได้” ยูเอะกล่าว

                “หามิได้ การได้ประลองหมากล้อมกับท่าน นับว่าเป็นวาสนา หากมีครั้งหน้า ข้าขอ มาเล่นหมากล้อมกับคนของท่านอีกได้หรือไม่ เท็ตซึยะซามะ” เคียวเฮกล่าว

                “ท่านคงเหนื่อยมากแล้ว ข้าขอน้อมส่ง เชิญ” เท็ตซึยะไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ 

    ‘เท็ตซึยะมักไม่ตอบคำถามคนอื่น แต่ชอบถามด้วยคำถามกลับ แต่ว่า คนของเท็ตซึยะ แค่ฟังก็เขินละ’ ยูเอะคิดในใจ

    ***

    “ท่านเคยได้ยินชื่อเบียคุยะ หรือไม่” เท็ตซึยะถาม

    “หาไม่ เขาคือผู้ใดงั้นหรือ” เคียวเฮตอบ แล้วมองชายหนุ่มที่หล่อราวเทพบุตรข้างๆ 

    “ว่ากันว่า เป็นนักปราชญผู้ประกอบด้วยสติปัญญาในนะระ” เท็ตซียะด้นสด

    “ข้าหาเคยได้ยินไม่ ท่านได้รับข่าวสารนี้จากใครหรือ” เคียวเฮตอบ เบียคุยะ เป็นชื่อที่สะดุดมาก แต่ตั้งแต่เขาจำความได้ เขาไม่เคยได้ยิน

    “อย่างนั้นหรือ รถม้าของท่านพร้อมแล้ว วันนี้ขอบคุณท่านมาก” เท็ตซึยะกล่าว

    เคียวเฮเหยียดยิ้มเอ่ย “ขอบคุณท่าน” แล้วขึ้นรถม้ากลับไป 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×