ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ไอ้หนูป้ายเหลือง กับคุณชายป้ายแดง

    ลำดับตอนที่ #1 : บทที่หนึ่ง ลูกค้าขี้แง

    • อัปเดตล่าสุด 22 ก.ค. 51


    บทที่หนึ่ง ลูกค้าขี้แง

     

    "อ้าว ปิง ไหนมานั่งนี่คนเดียวหระ อายุถึงแล้วหรือ"

    เพื่อนของแฟนเก่าผมชื่อ โจ้ มาทักถาม

    เขาแอบสนใจผมตั้งแต่ตอนที่ผมเป็นแฟนกับเพื่อนของเขา ผมรู้ได้ไงหรือ เพราะหมอนี้มันชอบแอบโทรหาผม ชวนผมไปกินข้าวสองคน เวลา(กันย์)แฟนผมไม่อยู่ แน่นอนว่า ผมก็ปฏิเสธ ทุกครั้งไป

    "มานั่งขายน้ำครับพี่"ผมตอบ

    พี่โจ้เขา ตกใจ เพราะผมมีภาพลักษ์ เป็นคนเรียบร้อยมาตลอดเวลาออกงานกับแฟนผม ซึ่งหมายความว่า ต่อมา เลิกกับแฟนผมก็เปลี่ยนกลับมาเป็นคนตรงไปตรงมาแบบนี้ ไม่ใช่เพราะประชดชีวิต แต่มันเป็นความสุข ที่ได้กระทำมัน

    "แล้วนี่ กันย์ เขารู้เรื่องไม"

    "จะไม่รู้ได้ไง กันย์เขาก็ใช้เงิน ซื้อผม ตอนที่เราคบกัน"

    ผมโกหก เพราะผมต้องการ แก้แค้น กันย์ ที่รักและหวงศักดิ์ศรีนักหนา ถ้าผมบอกว่าผมขายตัวให้กันย์ หรือกันย์ใช้เงินซื้อผม กับเพื่อนเขาแล้ว รับรองว่า เรื่องนี่อีกยาวไกล

    "มาคนเดียวหรอ?"โจ้มานั่งข้างๆผม

    "มากับเพื่อน แต่เพื่อน ออกไปทำธุระ"ผมโกหกอีกรอบ(ผมมาคนเดียว)

    "ดื่นไรไม พี่เลี้ยง"
    "
    จะจ่ายผมหรอ?"

    เลี้ยงเครื่องดื่ม แปลว่าจะตกลง ธุระกิจกับเรา แต่ถ้าคุณรับมัน ก็แปลว่าคุณตกลงด้วย

    "อานะ"พี่โจ้ ทำท่าเหมือนโดนจับได้ในแผนชั่วๆของเขา
    "
    บอกมาตรงๆดีกว่าว่าพี่จะจ่ายผมเท่าไหร่"
    "
    แล้วเราอยากได้เท่าไหร่ล่ะ"พี่เขาถาม

    ผมจ้องหน้าพี่เขาโดยไม่มีคำตอบ
    "
    เอางี้ สองพัน"
    "
    ฮะ เห็นผมมีค่าแค่นี้หรอ? แฟนเก่าเพื่อนนะเนี้ย"ผมขำแบบเย็นเยือก

    "พี่กันย์เขาจ่ายเราเท่าไหร่ พี่จะจ่ายเหมือน พี่กันย์"หน้าแดง

    ผมเงยหน้าขึ้นแล้วถอนหายใจ

    "เฮอ! พี่โจ้ พี่กับกันย์ ต่างกันอยู่ตรงนี้แหระ"ผมกล่าวมารอยๆ

    พี่เขาทำหน้างง

    ผมทิ้งท้ายให้เขาคิดแล้วย้ายโต๊ะไปนั่งที่อื่น ซึ่งแปลว่า ธุระกิจครั้งนี้ผมไม่ตกลงด้วย แต่เจ้าโจ้ มันเข้าใจอะไรยากจริงๆ ตามตื้อ อยู่ได้ นั้นทำให้ผมต้องเสียงาน สำหรับค่ำคืนนี้ จริงๆแล้ว พี่เขาก็เป็นสเป็คผมนะ แต่ มีหลายเหตุผลที่ผมจะไม่นอนกับเขา หรือ ทำธุระกิจครั้งนี้กับเขา

    ผมเดินออกจากผับแล้วออกมานั่งกิน ก๋วยเดี๋ยวซอยข้างๆผับ เจ้าโจ้ก็ตามมาไม่เลิก นั้นทำให้ผมอารมณ์เสีย ความอดทนของผมก็มีขีดจำกัดนะ

    "นี่พี่ ช่วยไปห่างๆผมได้ไม ผมบอกผมไม่ขายไง ไม่รู้เรื่องหรือไง คนจะกินข้าว"ผมขึ้นเสียงกับเขา

    "โห ปิงอย่าเล่นตัวเด ปิงที่เคยน่ารักของพี่หายไปไหนล่ะ"น้ำเสียงอ้อนวอน

    "กลับไปตอนนี้ดีกว่าก่อนที่ผมจะโทรไปฟ้อง แฟนพี่ที่นอน อยู่ห้องพี่นะ สงสารเขาบ้างเถอะ ทีเขานอกใจทำเป็นจะเป็นจะตาย ทีตัวเองก็มั่วสักไม่มี ฮะน่าขำจริงๆ"

    ใช่แล้วเหตุผลหนึ่งที่ไม่นอนกับเขาเพราะแฟนเขา ผมสงสาร แฟนเขา ที่ต้องอยู่กับชายชั่วแบบนี้จริงๆ

    "นะ งั้นพี่จ้างน้องไปเป็นแบบให้พี่ถ่ายที่สตูดีโอพี่ได้ไม พี่อยากถ่ายรูปปิง มานานแล้วนะๆๆ"

    น้ำเสียงอ้อนวอน ของพี่แก มันน่ารำคาญยิ่งกว่าอะไรโจ้ชอบถ่ายรูปเด็กน่ารักๆ เก็บสะสม แน่นอน ถ่ายเส็จก็ ร่วมรักกันที่ สตูดีโอเขา เกือบ ทุกราย เพราะฉะนั้น เรื่องอะไรผมต้องไป ที่ๆสรกปก ยิ่งกว่า ซ่องแบบนั้น

    ผมเดินไปจ่ายตัง โดยที่ยังไม่ได้กินสักคำ จากนั้นก็ โบกมือเรียกเท็กซี่กลับบ้าน      ผมนอนอยู่ในห้อง ที่แสนจะเงียบเหงา คืนนี้ผมต้องร้องไห้โต้รุ่งอีกแล้ว เคยเชื่อว่าน้ำตาหมดไปแล้ว ไหนตอนนี้มันยังออกมาหระ ผมเช็ดน้ำตาของตัวเอง เปิดคอมขึ้นมาระบายใส่ไดอารี่เหมือนทุกครั้งที่ผมเสียใจ เพราะสำหรับผม เพื่อนที่ดีที่สุดก็คือไดอารี่ แต่ผมไม่แน่ใจว่า ไดอารี่ เห็นผมเป็นเพื่อนหรือเปล่า เพราะทุกครั้งเวลาผมมีความสุขผมจะลืมมันไปเลย มันเหมือนเป็นที่ระบายผมมากกว่า เพราะไดอารี่ของผมมีแต่ความทุกข์ ทุกๆเรื่อง ทุกๆครั้งของผม

    ตอนนั้นเองที่มีคนส่งอีเมล์มาในmailboxของผม ผมเปิดมันดู

    (ไงเพื่อน เที่ยงคืนแล้วนะ ฉันรู้ว่าเธอยังไม่นอนหรอก ไอ้ผีกลางคืน ออกไปเที่ยวอีกแล้วสิ เฮอเหงาจังเลย อยากให้เธอมาอยู่ใกล้ๆจัง คิดถึงเสมอนะ บะบาย)

    เพื่อนคนนี้ชื่อ เป้ เป็นเกย์ ดูจากข้อความก็รู้ว่าเขาเป็นคนอ่อนโยน แล้วก็ สาวแตกแค่ไหน ไม่รู้ว่า เรามาเป็นเพื่อนกันได้ไง ทั้งที่นิสัย ต่างกันคนละขั่ว ผมโทรหาเป้ ชวนเขาออกไปเที่ยว ซึ่ง เราไปผับในโรงแรมแห่งหนึ่ง แถวสุขุมวิท ราคาแพงเอาการ แต่นานๆที และที่นี้เปิดถึงตีสามด้วย

    เมื่อไปถึงผับ เจ้าเป้มัน นั่ง อ่อยผู้ชายสุดฤทธิ์ เห็นแล้วต้องอดขำไม่ได้ทุกที การแต่งตัวแบบเด็กมัธยมของเขาเนี้ย อายุก็ใช่น้อยๆ
    เรานั่งคุยกันสักพัก ก็มีผู้ชายเข้ามาขอเบอร์เป้ มีหรือจะรอด ทั้งคู่ก็ทิ้งผมไว้คนเดียว (เข้าใจความหมายไม สองคนนั้นไปหาจุดสุดยอดกันชั้นบนของโรงแรมนี้แหระ) ผมว่าผับกับโรงแรมมันช่างดูเข้ากันอะไรเช่นนี้

    และเขาก็เดินมา ชายวัย น่าจะราวๆ 27 28 (โอเค ผมชอบคนแก่สักอายุ30 แต่ไงก็ได้ คืนนี้กรณีพิเศษ ถือว่าแก้ขาดหระกัน)เขาสูงกว่าผมนิดๆ หุ่นดีใช้ได้ แต่งตัวเหมือน พนักงานงานออฟฟิส เสื้อเช็ดแขนยาว ดูไร้รสนิยม(เชยนะ) แต่สำหรับผมผมว่าดูภูมิฐานดี ชอบ เหอๆ

    "ขอบุหรี่ตัวหนึ่งสิครับ"เขาขอ เดินมานั่งใกล้ๆ(ผมนั่งดูดอยู่)
    ผมทิ้ง ซองบุหรี่ไปใกล้ๆตัวเขาบนโต๊ะเพื่อให้เขาหยิบเอง

    "มีไฟเช็ดไมครับ" เจ้านี้พูดจาสุภาพ สงสายทำงานบริการคน

    ผมล้วงออกจากกระเป๋าแล้ว โยนให้เขา จากนั้นผมก็หยิบเอาเครื่องดื่มผมขึ้นมาดื่มต่อ เขาก็จัดการนั่งดูดบุหรี่ข้างๆผม ชวนผมคุยโน้นคุยนี้ ขอบอกว่าเป็นการสนทนาที่แย่มากๆ เช่น นโยบายใหม่ที่ไม่ให้สุบบุหรี่ในผับเร็วๆนี้ และใช่! ผมทำหน้าที่เป็นผู้รับสารอย่างเดียว เจ้านี้คุยเก่งชะมัด
    ใกล้เวลาผับปิด เขาชวนผมไปเที่ยวห้อง ซึ่งเขาเป็นพนักงานโรงแรมนี้ เปิดห้องฟรี(แล้วมันใช่ห้องเขาที่ไหนหระ เปิดห้องออฟเด็ก ชัดๆ)


    เขาถามผมอายุเท่าไหร ผมตอบเขาไปว่า (23 จริงๆ18)
    "
    จะจ่ายผมหรอ?"
    "
    อือ....ผมไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน ขอโทษด้วยถ้าผมจะถามว่าเท่าไหร่"

    งี่เง่า แต่ก็น่ารักดี

    "โอเค แล้วแต่ศัทธรา ตกลงกันบนเตียนก็ได้"

    แก้ขาดๆ จริงๆ บริการฟรีก็ได้นะ ไม่ได้ขาดซน

    จากนั้นก็มาถึงที่ห้อง เจ้านี่ ถ้าจะเป็นเอามาก เริ่มจากประตูก็จับผมจูบแบบคนอดอยากมาเป็นชาติๆ (จูบได้ห่วยชะมัด มีกลิ่นปากนิดๆ หยี้)
    แล้วก็เหมือนคนเก็บกดทางเพศสัมพันธุ์ ค่อนข้างชอบความรุนแรง แต่พอเวลาผมจะขอเขาเข้าข้างหลังของเขา เขาไม่ยอนนะ แต่ก็ไม่ได้ขอผม

    สรุป เรามีเซ็กกันแบบ 69 แล้วก็ใช้มือนิดหน่อย แน้นการจูบ

    (ให้ตายสิ เล่นแบบนี้ผมช่วยตัวเองที่บ้านก็ได้)

    แล้วเวลาผ่านไป เราก็ เสร็จภารกิจ ผมเสร็จไปรอบเดียว เพราะผมไม่ชอบ การมีเพียง ภายนอกเชยๆ ไม่เร้าใจ ส่วนเขาเสร็จไปสาม หรือ สี่นี่แหระ จำไม่ได้ ผมนั่งดูดบุหรี่อยู่นอกระเบียน จากนั้นผมเห็นเขาเดินห้องห้องน้ำมานานพอสมควร ไม่ออกมาสักที ผมจึงเดินไปเปิดประตูห้องน้ำ

    ให้ตายเด หมอนี้นั่งกองกับพื้น กอดเข่าร้องไห้อยู่ในนั้น-_-!!
    ผมมองเขาด้วยความสงสัย ทั้ง เวทนา ค่อยนั่งลงมา กอดเขาไว้โดยไม่มีคำพูดปลอบใจใดๆ (ไม่รู้มัน ร้องไห้เรื่องอะไร) เพราะผมไม่รู้ว่าเกิดไรขึ้น ตอนนี้ที่ผมทำได้ แค่กอดเขาไว้อยู่อย่างนี้

    เขาลุกขึ้นมาล้างหน้า จากนั้นก็ เดินออกไปจากห้องน้ำ ส่วนผมหยิบบุหรี่ขึ้นมา นั่งดูดในห้องน้ำต่อ สักพักผมลุกขึ้นมาอาบน้ำใส่เสื้อ เตรียมกลับบ้าน

    "จะไปแล้วหรอ?"เขาถาม

    "อ้ออืม แล้วค่าจ้างผมหระ"ผมสวมเสื้อ

    เขาหยิบกระเป๋าขึ้นมา"เท่าไหรครับ"

    "นายมีเท่าไหร ตอนนี้"

    "ห้าพัน"

    "เอามาสอง"

    เขายื่นให้ผม ผมสวมกางแกง แล้วรับไว้

    "ผมอยากเจอคุณอีก"

    เขาบอกผม จากนั้นก็เอาธนบัตรใบละพันอีกสามพันยื่นให้ผม

    "ทำไม"

    ผมหันกลับไปที่ประตูแล้ว ยิ้ม โดยที่ไม่รับเงินที่มากไปกว่าค่าบริการของผม

    "ถ้าผมจะขอคุณเป็นแฟนผม ผ ผมต้องจ่ายเท่าไหร่"

    เจ้านี้เห็นผมเป็นเงินอีกคน แต่เอาเถอะ อภัยให้สำหรับคนงี่เง่าแต่น่ารัก ผมเดินไปหอมแก้มเขาเบาๆ

    "เป็นแฟนนะต้องรักกัน ใช้เงินซื้อไม่ได้หรอก จำไว้นะ ความรักมันเอาเงินซื้อไม่ได้"

    ผมหอมแก้มเขาอีกรอบ ใส่รองเท้า แล้วเดินออกไป
    ถามว่าผมสนไมหรอ? ไม่สน เพราะผม ไม่ชอบคนที่ เอาเงินมาซื้อความรักจากผมหรือจากใครก็ตาม ส่วนเรื่องที่ผมขายนั้นมันอีกเรื่อง เพราะมันคือความสุขของเด็กขายตัวคนหนึ่ง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×