ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทัณฑ์รัก.........เกอิชา

    ลำดับตอนที่ #15 : ตอนที่ 15

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 743
      0
      21 ก.พ. 54

    อัสมานรีบวางมือจากการย่างเนื้อแห้งชั้นดีที่เขานำติดตัวมาด้วยลงทันทีเมื่อเห็นซายูริเดินกะย่องกะแย่งออกมาจากห้องพักของเขา ท่าทางนั้นยังดูอิดโรยแต่สีหน้าดูแจ่มใสขึ้นมาก

    รีบลุกขึ้นมาทำไมกันเล่าชายหนุ่มบอกเสียงดุ

    ฉันนอนอุดอู้อยู่ในห้องมาหลายวันแล้วค่ะ ขืนอยู่ต่อไปฉันคงต้องเป็นบ้าแน่ๆซายูริบอกแล้วส่งรอยยิ้มซีดเซียวที่ฝืนเอาไว้ไปให้ หญิงสาวเดินลงบันไดบ้านพักลงมาอัสมานจึงได้รีบเข้าไปประคองเอาไว้อย่างห่วงใย

    ตาสองคู่สบกันนิ่งนานราวกับต้องมนต์สะกด ความรู้สึกอบอุ่นวาบลึกในจิตใจของคนทั้งคู่ อัสมานกระชับวงแขนของเขากับไหล่ผอมบางนั้นแล้วกระซิบบอก

    เธอผอมลงไปมากจริงๆ

    ก็ท่านให้ฉันทานอะไรบ้างล่ะคะ นอกจากขนมปังกับอินทผลัมแห้งหญิงสาวยื่นหน้าเข้าไปบอก อัสมานเสหัวเราะแก้เก้อแล้วชี้มือไปยังเนื้อที่ย่างเอาไว้

    กลิ่นของมันหอมตลบอบอวลไปทั่วบริเวณจนหญิงสาวชักเริ่มหิว น้ำย่อยในกระเพราะพร้อมใจกันหลั่งออกมา เพราะเมื่อตอนไม่สบายเธอไม่ยอมแตะต้องอาหารชนิดใดเลย

    จ๊อกๆ

    เสียงแห่งความหิวของเธอประท้วงออกมาให้เจ้าของของมันได้รับความอับอายอย่างที่สุด ซายูริหน้าม้าน อายอย่างบอกไม่ถูกโดยเฉพาะเมื่ออัสมานปล่อยเสียงหัวเราะออกมาดังลั่นอย่างขบขัน

    ฮ่ะๆ เจ้านี่ตลกจริงๆ หิวล่ะสิ

    ก็นิดหน่อยหญิงสาวบอกเสียงอ่อย จมูกสูดกลิ่นหอมชวนน้ำลายสอนั้นเป็นระยะ อัสมานดึงข้อมือของหญิงสาวให้มาหยุดอยู่หน้ากองไฟแล้วยื่นเนื้อย่างสุกนั้นให้ หญิงสาวยิ้มกว้างรีบรับมันมาถือเอาไว้

    เธอผอมเกินไปนะซายูริ

    ถ้าไม่อยากให้ฉันผอมก็ต้องหาอะไรอร่อยๆ แบบนี้มาให้ฉันกินสิคะซายูริยิ้มตอบแล้วแบ่งเนื้อออกเป็นสองชิ้น ยื่นให้เขาอันหนึ่ง อัสมานส่ายหน้าแล้วผลักมันกลับคืน

    เธอกินเถอะ

    ได้ยังไงกันคะ เราก็ต้องกินด้วยกันสิ หากท่านไม่กินฉันก็ไม่กินหญิงสาวร้องบอก ดังนั้นชายหนุ่มจึงต้องรับเนื้อจากมือเธอมา ซายูริพอใจแต่แทนที่จะลงมือทานส่วนที่เหลือเธอก็กลับแบ่งมันออกอีกเสียครึ่งหนึ่ง อัสมานมองการกระทำของหญิงสาวอย่างแปลกใจ แทนคำตอบซายูริกวาดสายตามองหาอะไรบางอย่างแล้วถามขึ้น

    ท่านน้าซาวานล่ะคะ

    นางเอาอูฐออกไปเลี้ยงทางด้านหลังโอเอซิส เจ้ากินให้หมดเถอะ ยังเหลืออาหารอีกมากพออัสมานเข้าใจในสิ่งที่หญิงสาวทำ รอยยิ้มพอใจผุดขึ้นในหน้าและเริ่มต้นทานเนื้อย่างนั้นกับเธอ

    ซายูริไม่รอช้าเช่นกัน เพราะร่างกายของเธอไม่ได้รับอาหารเลยมาเกือบสองวัน ประกอบกับร่างกายเพิ่งจะฟื้นไข้จึงได้รู้สึกหิวมากเป็นพิเศษ

    แต่หลังจากพรุ่งนี้ พวกเราก็ต้องกลับไปทานขนมปังกับอินทผลัมตามเดิม เพราะของที่ฉันเอามา สามารถเอามาได้แค่นี้อัสมานว่าขึ้น ซายูริเลยลุกออกไปสำรวจข้าวของที่ชายหนุ่มนำติดตัวมาด้วย

    ในถุงนั้นมีข้าวและถั่ว น้ำมันสำหรับหุงข้าว เนื้อสัตว์ตากแห้งหลายชิ้นซึ่งคงจะพอทานกันสามคนได้จนถึงเย็นพรุ่งนี้ นมกล่องหลายกล่องที่ชายหนุ่มอุตส่าห์แบกมันมาด้วยแถมยังมีขนมหวานหลายชิ้นอยู่ในนั้นด้วย

    ขนมนี่ทำแห้งและเก็บเอาไว้ได้นาน ฉันเอามาฝากอัสมานบอกเมื่อเห็นหญิงสาวยกขึ้นดมดูอย่างไม่แน่ใจ แต่ก็รับมันมาถือไว้ด้วยความรู้สึกขอบคุณ

    แล้วในห่อนั้นก็เนื้อแกะตากแห้ง

    เหม็นสาบจังค่ะ ฉันไม่เคยกินด้วยหญิงสาวย่นหน้า แล้วหยิบขนมที่เขาสู้อุตส่าห์นึกถึงเธอเข้าปาก เคี้ยวจนแก้มตุ๋ย อัสมานมองอย่างเอ็นดู

    เถอะ…..แล้วจะให้ลองเนื้ออย่างอื่น รับรองว่าอร่อยแน่ๆเขาบอกขึ้นเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเธอ ซึ่งก็ได้ผลเมื่อหยิงสาวหันมามองเขาอย่างสนใจ

    เนื้ออะไรหรือคะ

    เนื้อกระต่ายป่าหรือไม่ก็เนื้อนกแถวๆ นี้

    อี๋……ไม่เอาล่ะค่ะ ฉันคงทนกินมันไม่ได้หรอก

    หากจำเป็นก็ต้องกิน ร่างกายของคนเรามันขาดโปรตีนไม่ได้หรอกนะ หากเธอยืนยันจะให้ฉันช่วยตามหาแม่ของเธอ เธอก็ต้องอยู่ที่นี่ไปก่อน นอกเสียจากว่าเธออยากจะแต่งงานกับพ่อฉันเขาบอกขึ้น ประโยคสุดท้ายชักห้วนขึ้น หมู่นี้อารมณ์ที่เยือกเย็นของเขาไม่รู้ว่าหายไปไหนหมด ถึงได้เหลือแต่ความรู้สึกแปรปรวนง่ายอย่างนี้

    ฉันจะพยายามค่ะซายูริยอมจำนน

    ถึงอย่างไรการให้เขาช่วยตามหาแม่โดยมีข้อแลกเปลี่ยนให้เธอไปจากที่นี่มันก็คงจะดีกว่า การต้องทนเป็นภรรยาของท่านฮัสซาร์และที่สำคัญเธอจะได้ไม่ต้องทนรู้สึกผิดว่าตัวของเธอเองนั้นกำลังจะแย่งสามีและความรักไปจากใคร                                                                                         

    ว่าง่ายๆ อย่างนี้ค่อยเข้าท่าหน่อย หายป่วยแล้วจะพาไปเที่ยว

    คะ?หญิงสาวอุทานอย่างไม่เชื่อหู

    เมื่อครู่นี้ ผู้ชายเย็นชาอย่างเขา บอกว่ากำลังจะพาเธอไปเที่ยวเช่นนั้นหรือ!  

    หากเธอกินอาหารให้มากๆ แล้วร่างกายหายเป็นปกติเมื่อไหร่ ฉันจะพาไปเที่ยวอัสมานย้ำบอก รู้สึกพอใจที่เห็นประกายตาสุกใสราวกับเด็กได้ของเล่นเช่นชิ้นใหม่ของซายูริ

    ที่นี่มีที่เที่ยวด้วยหรือคะ

    ห่างไปทางด้านทิศตะวันตก มีโอเอซิสใหญ่ที่หนึ่ง เป็นแหล่งค้าขายของพวกคาราวาน ที่นั่นจะมีอาหาร เสื้อผ้าสวยๆและสัตว์ต่างๆมากมายให้เลือกซื้อ ขอเพียงแค่มีเงิน

    จริงหรือคะ แต่ฉันไม่มีเงินเลยหญิงสาวอุทานอย่างตื่นเต้นแต่แล้วกลับหงอยลงในประโยคสุดท้าย อัสมานเลยต้องหัวเราะขึ้นด้วยความขบขัน

    ดูเหมือนว่าซายูริจะทำให้อารมณ์ของเขาดีขึ้นอย่างประหลาด หากเป็นยามปกติแล้ว คนใกล้ชิดของเขาต่างรู้ว่า น้อยครั้งนักที่จะได้ยินเสียงหัวเราะจากอัสมาน หากพวกเขามาเห็นอัสมานในเวลานี้คงจะนึกแปลกใจไปตามๆกัน

    เธอลืมไปแล้วหรืออย่างไรว่าฉันเป็นใคร

    จริงสินะคะ ฉันลืมไปเสียสนิทว่าท่านน่ะคือท่านอัสมานผู้ร่ำรวย ถ้าอย่างนั้นฉันจะคว้านซื้อเอามาให้หมดเลย เผื่อท่านไม่พาฉันออกไปอีกหญิงสาวประชดขึ้น

    พูดถูกแล้ว โอเอซิสนั่นหากไกลจากที่นี่มาก ชั่วเดินทางถึงสองวันสองคืนกว่าเราจะไปได้ถึง ฉันคงไม่มีโอกาสพาเธอไปได้บ่อยนักหรอก ถ้าอยากไปก็รีบหายเสียไวๆชายหนุ่มเอาของเข้าล่อราวกับเธอเป็นเด็กๆ

    ตกลงค่ะ ฉันจะกินทุกอย่างให้เกลี้ยงเลยหญิงสาวยิ้มเผล่ให้อย่างเอาใจ มือบางคว้าขนมหวานที่เขายื่นให้กินเอาๆ ราวกับอดยากมาจากไหน เศษขนมเล็กๆติดตามมุมปากอย่างน่าขัน

    กินเป็นเด็กๆไปได้นี่ชายหนุ่มส่ายหน้าระอาก่อนจะเอื้อมมือไปบรรจงลูบเศษขนมปังออกจากมุมปากที่เปลี่ยนจากแห้งแตกกลับมาชุ่มชื่นเอิบอิ่มดังเดิม

    ฉันไม่ได้กินอะไรอร่อยๆ แบบนี้มานานแล้วนี่คะ กินแต่ขนมปังแข็งๆ อินทผลัมแห้งๆ แล้วก็ข้าวหุงกับถั่วผสมน้ำมันของซาวาน นี่ถ้าขืนให้กินต่ออย่างนี้อีกสักสามวัน ฉันคงฝืนกินต่อไปไม่ได้แน่ๆ

    ที่ตลาดมีอาหารขายมากมาย เพราะโอเอซิสที่นั่นใหญ่และอุดมสมบูรณ์กว่านี้มาก ที่สำคัญมันใกล้กับเขตเมืองท่า มันถึงได้เจริญมากกว่าโอเอซิสอื่น รับรองเลยว่าเธอจะต้องติดใจ เผลอๆ นะเธออาจจะหลงเสน่ห์ดินแดนอาหรับจนไม่อยากจะกลับบ้านเมืองของตัวเองเลยก็ได้เจ้าของประเทศพูดเป็นเชิงอวด

    พูดอย่างนี้ ฉันยิ่งอยากเห็น เราไปวันนี้เลยไม่ได้หรือคะซายูริเงยหน้าขึ้นถามด้วยสีหน้ากระตือรือร้น

    ไปได้อย่างไรกันเล่า ตัวเธอเองไม่สบายอยู่นะ เพิ่งจะฟื้นไข้

    ฉันหายดีแล้วค่ะ เกือบจะปกติดีทุกอย่างแล้วหญิงสาวรีบแย้ง ทั้งที่เธอเองนั้นยังรู้สึกอ่อนเพลียอยู่มาก พูดยังไม่ทันขาดคำคนอวดเก่งก็จามออกมาชุดใหญ่จนต้องส่งยิ้มแหยๆกลับไปให้อัสมานแทน

    ไปนอนเถอะ คนเป็นไข้ควรจะนอนพักให้มากๆ

    ขอนั่งรับลมหน่อยเถอะค่ะ อยู่ในบ้านแล้วอุดอู้ ยังกับอยู่ในเตาอบก็ไม่ปานหญิงสาวทำท่าอิดออดจนอัสมานต้องลุกขึ้นรั้งแขนผอมบางนั้นให้ลุกตามพร้อมส่งเสียงดุๆ

    บอกให้ไปนอน ดื้อจริงเธอนี่ ตาจะปิดอยู่แล้วยังจะทำมาอวดเก่ง ถ้าเธอไม่เดินไปดีๆ ล่ะก็ ฉันจะอุ้มไปเองชายหนุ่มกระซิบข่มขู่ทำให้ซายูริต้องยอมแต่โดยดี

    พอเดินมาถึงบนบ้านได้เท่านั้น หญิงสาวก็ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงของชายหนุ่ม ที่นับตั้งแต่เมื่อวานหญิงสาวก็ยึดเอามาเป็นกรรมสิทธิ์ในการถือครอง

    ซายูรินอนคุดคู้ภายใต้ผ้าห่มนุ่มหนาของเขาด้วยท่าทางสบาย เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียวเธอก็หลับสนิท สติสัมปชัญญะถูกตัดขายจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง

    อัสมานเองเมื่อเก็บข้าวของทุกอย่างจนเรียบร้อยดีแล้ว ใจนึกเป็นห่วงหญิงสาวจึงได้ตามขึ้นมาดู แล้วก็ต้องซ่อนยิ้มเอาไว้ในสีหน้า เมื่อเห็นคนป่วยหนักเมื่อวานนอนหลับตาพริ้มบนเตียงนอนของเขา

    ชายหนุ่มทรุดตัวลงนั่งข้างเตียง มือหนาแข็งแรงยกขึ้นปัดเม็ดทรายเล็กๆ ที่เกาะอยู่บนหน้าผากมนนั้นออกให้อย่างแผ่วเบา ทนุถนอม ใบหน้านวลเริ่มมีน้ำมีนวลขึ้นกว่าเมื่อวานมาก เพราะมันเริ่มมีสีแดงเรื่อจากเลือดแห่งวัยสาวสูบฉีด ใบหน้านวลถูกแสงแดดจากภายนอกตกกระทบ งดงามจับตาแม้ยามหลับ

    หายากนักผู้หญิงที่จะมีทุกสิ่งทุกอย่างรับกับใบหน้าได้อย่างพอเหมาะพอดีเช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นหน้าผากกลมมน จมูกโด่งพองามที่เชิดขึ้นอย่างถือดี ปากได้คางรับกันเหมาะเจาะ หากเธออยู่ในสภาพสุขสมบูรณ์ ไม่ได้อยู่อย่างยากลำบากเหมือนอยู่ที่นี่ หรืออยู่ในชุดเจ้าสาวของคหบดีฮัสซาร์ หญิงสาวผู้นี้จะงดงามมากสักเพียงใดหนอ

    มิหน่าเล่า……พ่อของเขาถึงได้ยอมแลกทุกสิ่งเพื่อเธอ แม่เกอิชาทรงเสน่ห์

    ซายูริยังคงหลับตาพริ้มอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว ลมหายใจยังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ผมสีดำสนิทยาวสลวยของเธอปลิวมาปลกหน้า เรือนผมที่นุ่มนวล น่าสัมผัส

    อัสมานขยับเข้าไปใกล้มากยิ่งขึ้นอย่างลืมตัว หัวใจของเขาเต้นแรงไม่เป็นส่ำอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ใบหน้าของชายหนุ่มเลื่อนเข้าไปใกล้และจุมพิตลงเบาๆ บนเปลือกตาคู่งามนั้น แต่ซายูริก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะรู้สึกตัว อัสมานถอนหายใจยาวด้วยความรู้สึกอัดอั้น หนักหน่วงไปทั่วร่างกายเมื่อต้องหักใจลุกขึ้นและเดินลงบันไดของบ้านพักไป

    เขาไม่อาจแตะต้องเธอมากไปกว่านี้ได้ ในเมื่อซายูริยังคงอยู่ในฐานะผู้หญิงของคหบดีฮัสซาร์ บิดาบังเกิดเกล้าของเขา ถึงแม้ร่างกายจะรู้สึกปวดร้าว จิตใจจะทุกข์ทรมานมากเพียงใดก็ตาม

    ชายหนุ่มเดินดุ่มๆ ออกไปถึงแหล่งโอเอซิสและเดินลุยลงไปแช่น้ำกลางแดดเปลี้ยงๆ เพื่อควบคุมอารมณ์ใคร่ของตัวเองที่มีต่อเชลยสาวแสนสวยผู้นี้

    โว้ย…..”อัสมานแหงนหน้าขึ้นตะโกนก้องแทนการระบายอารมณ์และความปรารถนาอันร้อนแรงตามธรรมชาติก่อนจะผุดลุกขึ้นมาจากน้ำเมื่อความรู้สึกหงุดหงิดค่อยบรรเทาเบาบางลง

    เขานึกถึงรสจูบเมื่อคืนกับซายูริขึ้นมาทำให้รอยยิ้มบางๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปาก ความรู้สึกอ่อนหวานซาบซ่านยังตามติดไม่เคยจาง ชายหนุ่มถอนหายใจเป็นครั้งที่ร้อยแล้วเหยียดตัวเองทอดยาวไปตามโขดหินทั้งที่ชุดยังเปียกปอนและพราวไปด้วยหยดน้ำ ความคิดล่องลอยไปไกลแต่แล้วก็กลับหยุดชะงักลง เมื่อใบหน้าของทานฮัสซาร์ผุดพลายขึ้นมา

    หากพ่อรู้ว่าเขาเป็นคนพาซายูริมาที่นี่จะว่าอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากรู้ว่าเวลานี้จิตใจของบุตรชายเพียงคนเดียวของเขากำลังสั่นคลอนและทุกข์ทรมานอย่างหนัก

    ทุกข์เพราะคิดว่าตัวเองก็กำลังตกหลุมรักผู้หญิงคนเดียวกับพ่อนั่นเอง…….

    แล้วมารดาของเขาเล่า ซายีน่าจะว่าอย่างไรหากรู้ว่าลูกชายกำลังตกหลุมรักศัตรูที่กำลังแย่งความรักจากสามีของนางไป ผู้หญิงคนเดียวแต่กลับสามารถกุมหัวใจลูกชายและสามีของเธอเอาไว้ได้อย่างอยู่หมัด

    ชายหนุ่มยิ้มหยันให้กับตัวเองในที่สุด เพราะแม้แต่ตัวเขาเองยังไม่เคยคาดคิดเลยว่า เขาจะต้องมาตกหลุมรักแม่เชลยสาวที่คิดว่าตัวเองเกลียดหล่อนนักหนาอย่างนี้

    น่าขำอะไรเช่นนี้…….

    ใครรู้เขาจะหัวเราะเขาสักแค่ไหนนะ โดยเฉพาะหล่อนที่เพียงแค่อยู่เฉยๆ ไม่ได้ทำอะไรเลยสักนิดแต่กลับทำให้เขาทุกข์ทรมานเสียยิ่งกว่าที่เขาจับตัวเธอมาเสียอีก

    *******************************************************************************************************************

    เมื่อผ่านพ้นไปอีกหนึ่งคืน การได้หลับสนิท ทานอาหารที่มีประโยชน์และได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอทำให้ร่างกายของหญิงสาวฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว วันนี้เธอจึงได้ตื่นแต่เช้าตรู่มาช่วยนางซาวานทำอาหารด้วยสีหน้าสดชื่น และประการสำคัญนั้นเธออยากจะเอาใจอัสมาน เขาจะได้พาเธอไปตลาดอย่างที่บอกเอาไว้

    ท่านอัสมาน อาหารเสร็จแล้วค่ะทันทีที่อัสมานตื่นนอนและลุกออกมาจากห้องหญิงสาวก็ถลาเข้ามาหาเขาแล้วบอกขึ้นอย่างเอาใจ สีหน้าท่าทางราวกับเด็กๆ ของเธอนั้นช่วยให้รอยยิ้มบางๆ แต้มอยู่บนใบหน้าเคร่งขรึมของเขาได้ไม่ยาก

    หายดีแล้วหรืองถึงได้ตื่นมาทำงานแต่เช้า

    หายดีแล้วค่ะ ดูสิ ฉันดูแข็งแรงเสียยิ่งกว่าท่านน้าซาวานอีกคนป่วยฉีกยิ้มอวด

    ท่านสัญญาอะไรกับมันไว้หรือเจ้าคะ มันถึงได้ทำท่าตื่นเต้นยังกะได้แก้วแหวนเงินทอง ลุกขึ้นมาทำอาหารไว้รอท่า อย่างเอาใจเช่นนี้นางซาวานเงยหน้าขึ้นมาถามผู้เป็นนายยิ้มๆ นึกโล่งใจราวกับยกภูเขาออกจากอก ที่เห็นสองคนที่ทำท่าจะตีกันตายทุกครั้งที่พบหน้ากัน คืนดีกันแล้วอย่างนี้

    ฉันจะพาซายูริไปตลาดเมืองท่าที่โอเอซิสกีบัง

    แต่มันไกลมากนะเจ้าค่ะ ต้องเดินทางถึงสองวันหนึ่งคืนเชียว แล้วนายท่านเองก็เพิ่งจะเคยขี่อูฐไปที่นั่นแค่ครั้งเดียว ฉันเกรงว่า……”นางซาวานอุทาน

    เจ้ากลัวว่าฉันจะหลงหรือไงซาวาน คิดว่าเราเป็นใครกันฮึ…..ถึงฉันจะไม่ใช่ชายเบดูอิน หรือคนในกองคาราวานแต่ก็ใช่ว่าฉันจะไม่เคยเดินทางรอนแรม เที่ยวเล่นในทะเลทราย

    ฉันไม่ได้ดูถูกอะไรท่านเลยนะเจ้าคะ เพียงแต่ว่าทะเลทรายมันไม่ใช่ทางราบ ภูมิประเทศมันเปลี่ยนแปลงไปได้ตลอดเวลาหากว่าเกิดพายุทรายเข้า โดยเฉพาะหากวันใดพระจันทร์มืดมิดขึ้นมา มองไม่เห็นทาง อาจจะหลงเอาได้ง่ายๆ แต่เหนือสิ่งอื่นใด พวกโจรทะเลทรายก็มีมากมายนักนางซาวานเอ่ยเตือนอย่างหวังดี

    ประสบการณ์ร้ายในชีวิตทำให้นางหวาดระแวงและไม่อยากจะเดินทางไปไหนในทะเลทรายอีก นางจะขอปักหลักอยู่ที่โอเอซิสแห่งนี้จนตาย

    พวกมันมีดาบแต่เรามีปืนในมือ เจ้าคิดว่าสิ่งไหนกันล่ะที่จะมีอำนาจเหนือกว่า

    เจ้าค่ะนางซาวานยอมจำนน

    แล้วท่านน้าไม่ไปด้วยหรือคะซายูริที่ยืนมองการโต้ตอบของทั้งสองคนอยู่นานแล้วเอ่ยแทรกขึ้น นางซาวานส่ายหน้าดิก ความทรงจำเลวร้ายนั้นยังไม่เคยลบเลือนไปง่ายๆ

    อูฐมีแค่ตัวเดียวซาวานกล่าวอ้าง

    เจ้ากลัวก็ว่ามาเถอะซาวานอัสมานหัวเราะเป็นเชิงล้อ นางซาวานมองค้อนให้ผู้เป็นนายแล้วเสหยิบคนโทน้ำขึ้นเทินศีรษะแล้วเดินจากไปทันที

    ท่านล่ะก็ไปว่านาง

    ฮ่ะๆ คนแก่นี่งอนแล้วตลกชะมัด

    ท่านนี่จริงๆ เลยนะ ปากร้ายเป็นที่สุด

    ขืนเจ้าว่าเราอีก เห็นทีคงจะไม่ได้ไปเสียแล้วล่ะ ตลาดเมืองท่าแต่ถ้าเจ้าอยากให้เราเปลี่ยนใจล่ะก็ ช่วยเอาผ้านั่นมาเช็ดเหงื่อให้ที เผื่อแดดร้อนน้อยกว่านี้เราจะได้พาไปอัสมานบอกขึ้นหน้าตาเฉย ดวงตาสีเหล็กของเขาเป็นประกายวาววับอย่างน่าหมั่นไส้ ชายหนุ่มไม่พูดเปล่าแต่เอื้อมใบหน้าลงมาใกล้แล้วอย่างนี้จะให้เธอปฏิเสธได้อย่างไร

    หญิงสาวใช้ผ้าเช็ดหน้าของตัวเองซับเบาๆ ไปที่หน้าและขมับทั้งสองข้าง ไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักคำเดียว เมื่อตาสองคู่มองสบกันนิ่งนาน ความเงียบเข้าปกคลุมอยู่ชั่วครู่ก่อนจะจบลงเมื่อหญิงสาวรีบเบี่ยงตัวหลบ

    รีบกินอาหารเถอะ แล้วจะรีบพาไป จากนี้ไปอีกหนึ่งชั่วโมงแดดคงจะร้อนมากอัสมานเสบอกขึ้นเก้เก้อแล้วตัวเขาเองก็ทรุดตัวลงนั่งขัดสมาธิทานอาหารที่หญิงสาวเตรียมเอาไว้ให้ ซายูริทำตามแต่ทานได้เพียงน้อยนิดเท่านั้น

    มันตื่นเต้นจนกินไม่ลงน่ะค่ะหญิงสาวให้เหตุผล

    ประเดี๋ยวเถอะจะเป็นลมเพราะความหิวเอาตอนยังไม่ถึงครึ่งทางชายหนุ่มปรามาส

    ฉันไม่อ่อนแอถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ ไม่เชื่อก็ลองไปตอนนี้ดูคนอวดเก่งยกแขนขึ้นชูอวดกำลังแล้วหันไปเก็บสัมภาระเตรียมออกเดินทางทั้งที่อัสมานยังไม่ได้รับปากดีนัก

    ชายหนุ่มส่ายหน้าให้กับวิธีการมัดมือชกของเธอแต่ก็ยอมตามใจเสียแต่โดยดี ในชีวิตเขาไม่เคยตามใจผู้หญิงมาก่อน ขอลองสักครั้งจะเป็นไรไป

    ไปก็ไป บางทีอาจจะต้องซื้อแพะมาให้ซาวานมันด้วย หากอยู่ที่นี่โดยไม่มีสัตว์พวกนี้ มันจะลำบากชายหนุ่มพูดถึงนางทาสผู้ซื่อสัตย์ของเขาอย่างเห็นใจ

     เขาพยายามชวนซาวานไปอยู่ในเมืองหลายครั้งแต่นางก็ไม่ยอมท่าเดียวแต่กลับขอใช้ชีวิตอยู่ตามทะเลทรายเพียงลำพังที่โอเอซิสแห่งหนึ่ง จนเมื่อเขามีแผนการในการปล้นเจ้าสาวของฮัสซาร์มาจึงได้ไปรับตัวนางซาวานมาที่นี่ และนางเองก็เต็มใจเป็นนักหนาเนื่องจากโอเอซิสแห่งนี้ถูกบดบังจากการรบกวนของผู้คนมาช้านาน

    ท่านห่วงคนอื่นก็เป็นหรือคะหญิงสาวประชดขึ้นขณะยกข้าวของในห่อผ้าขึ้นไปไว้บนแคร่ที่ติดไว้บนหลังอูฐ และรับผ้าผืนหนาจากนางซาวานมาพันหน้าเพื่อกันแดดและลม

    มีอีกหลายอย่างที่ตัวฉันมี แต่เธอไม่รู้ชายหนุ่มบอกเสียงขรึมก่อนจะลุกขึ้นไปนั่งบนที่ประจำในการบังคับอูฐ นางซาวานดึงมือซายูริเอาไว้แล้วกระซิบอวยพร

    ขออัลเลาะห์ประทานความปลอดภัยแก่ท่านทั้งสอง

    ขอบใจจ๊ะท่านน้า แล้วฉันจะซื้อของมาฝากนะคะซายูริบอกยิ้มๆ แล้วจึงขึ้นไปนั่งบนแคร่ด้านหลังตัวอูฐ สายตาของหญิงสาวทอดมองออกไปยังทะเลทรายเบื้องหน้าด้วยความรู้สึกตื่นเต้น ราวเด็กๆ ที่กำลังจะได้ของเล่นชิ้นใหม่ อัสมานหวดแส้ไปบนสะโพกของเจ้านาวาแห่งทะเลทราย ครู่เดียวมันก็ออกเยื้องย่างไปบนผืนทะเลทรายอย่างองอาจ

    ทะเลทรายยังคงถูกแสงแดดแผดเผา แต่คนบังคับอูฐอย่างอัสมานก็ไม่ได้ปริปากบ่น ความชุ่มชื้นของที่นี่แทบจะไม่มีเหลือเมื่อห่างไกลออกมาจากโอเอซิส ลมร้อนๆ พัดเข้ามาปะทะหน้าอยู่เป็นระยะ ผ้าโพกศีรษะของอัสมานปลิวล้อลมเบาๆ ใบหน้าของเขายังคงสงบนิ่งเฉยและครุ่นคิด

    ชุดเสื้อคลุมอาบายาที่เขาสวมอยู่นั้น บ่งบอกว่าตัดด้วยผ้าเนื้อดีเพียงแค่มองด้วยตาเปล่า สีของมันเป็นสีดำสนิทเป็นเงาขลิบดิ้นทองทางส่วนปลายทั่วทั้งตัว

    เธอเบื่อที่นี่หรือยังซายูริชายหนุ่มเอ่ยทะลุความเงียบขึ้นมา

    ก็…..ไม่นี่คะหญิงสาวยักไหล่

    ถ้าสมมุติว่าฉันพาเธอกลับไปส่งที่ดิลิยะห์ตามเดิม เธอจะทำอย่างไรต่อไป

    ท่านพูดจริงหรือแค่สมมุติล่ะคะ แต่หากท่านพูดจริงๆ ฉันก็จะตอบ ขอเพียงแต่ท่านปล่อยตัวฉันไปและฉันมั่นใจว่าไม่มีข่าวคราวอะไรจากแม่แล้ว ฉันจะกลับไปที่ญี่ปุ่นตามเดิมค่ะ

    เธอไม่คิดจะแต่งงานกับพ่อฉันแล้วหรืออัสมานหยั่งเชิง

    ท่านกับแม่จะยอมไหมล่ะคะ หากท่านยอมฉันก็คงไม่ต้องถูกจับตัวมาอย่างนี้แล้วยังจะต้องถามอะไรอีกกับคนที่ไม่มีทางเลือกอย่างฉันซายูนิบอกเสียงขื่น แล้วเมินหน้าหนีไปอีกทาง

    อัสมานทำท่าอึกอัก เขาไม่สามารถมองเห็นดวงตาที่คลอไปด้วยหยาดน้ำตาของเธอ ใบหน้างามที่โดดเด่นไปทั้งหน้า ต่อไปในภายภาคหน้าหากไม่เห็นใบหน้านี้อีกเขาจะทนได้อย่างนั้นหรือ

    ฉันจะให้เงินชดเชยกับเธอ มากมายที่เธอจะอยู่ได้อย่างไม่ลำบาก

    ไม่ต้องหรอกค่ะ ถึงอย่างไรฉันก็สามารถมองสิ่งที่ท่านทำในแง่ดีได้ ฉันไม่ใช่คนมองโลกในแง่ร้ายนักหรอกค่ะ อย่างน้อยในชีวิตไร้ค่าของเด็กกำพร้าอย่างฉันก็ได้มาร่วมผจญภัยกับท่านอย่างนี้ มันน่าตื่นเต้นพอดูกับชีวิตที่ต้องอยู่แต่สำนักเกอิชาอย่างฉันล่ะค่ะ ถึงท่านจะเคยโหดร้ายกับฉันแต่อย่างน้อยเมื่อสองวันก่อนฉันก็รอดตายมาได้เพราะท่านหญิงสาวกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา อย่างพยายามกล้ำกลืนความรู้สึกและก้อนสะอื้นที่แล่นเข้ามาเป็นระยะ

    ขอบคุณที่เธอเข้าใจ

    ค่ะ ฉันเข้าใจดี ผู้หญิงเราใครบ้างที่จะอยากถูกแบ่งปันความรักจากสามี ฉันเองก็ผิดที่ดั้นด้นมาที่นี่ซายูริยิ้มเศร้าๆ ให้กับเขา ลมร้อนๆจากภายนอกยังคงพัดเข้ามาไม่ขาดสาย

    เธอไม่เสียดายพ่อฉันหรือ บางที…..หากเธอต้องการฉันจะพยายามคุยกับท่านแม่เขาหยั่งเชิง หรี่ตามองหญิงสาวคล้ายจะจับผิดความต้องการที่แท้จริงของเธอ

    ไม่มีประโยชน์หรอกค่ะ เพราะฉันไม่ได้รักท่านฮัสซาร์ บางทีอาจจะต้องขอบคุณท่านเสียด้วยซ้ำที่ทำให้ฉันไม่ต้องเสียความตั้งใจของตัวเองที่เคยมี

    เธอตั้งใจอะไรไว้

    ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ ฉันแค่ตั้งใจเอาไว้ว่าจะมอบของที่มีค่าที่สุดในชีวิตฉันให้กับผู้ชายที่ฉันรักเท่านั้น แต่ฉันก็ล้มเลิกความตั้งใจนั้นเสียเพราะท่านฮัสซาร์บังคับให้ต้องเลือก

    งั้นหรือ…..”ชายหนุ่มพึมพำเพียงแค่นั้น ความรู้สึกลึกซึ้งบางอย่างเอ่อท้นในหัวใจ ความปรารถนาในส่วนลึกของเขาก็คือ อยากเป็นผู้ชายที่โชคดีคนนั้นอย่างที่สุด

    ใครกันหนอที่จะได้ครอบครองตัวและหัวใจของซายูริ หญิงสาวต่างเชื้อชาติ ต่างศาสนาแต่สามารถทำให้หัวใจของเขาสั่นคลอนได้อย่างง่ายดาย

    ความเงียบเข้าครอบงำผืนทรายร้อนแรงอีกครั้งจนกระทั่งดวงอาทิตย์ทอแสงอ่อนลงแปรเปลี่ยนเป็นลูกกลมโตสีแดงสุกปลั่งตัดกับสันทรายและขอบฟ้าดูงดงามน่าพิศวง

    ท่านเหนื่อยหรือเปล่าคะ เราหยุดพักหน่อยไม่ดีหรือซายูริร้องถามอย่างเห็นใจ เมื่อเริ่มออกเดินทางตั้งแต่ตอนเช้าจนเกือบจะพลบค่ำแต่ชายหนุ่มกลับส่ายหน้าแล้วบอกขึ้น

    การเดินทางในตอนกลางคืนจะยิ่งเร็วขึ้นกว่าตอนกลางวัน หากไม่ไหวจริงๆ เราอาจจะต้องพักกลางดึก เจ้าหนาวรึไม่ หากหนาวก็เอาเสื้อคลุมที่สอดอยู่ใต้แคร่นั่นมาห่มซะ หรือหิวก็กินขนมปังเสียก่อนเขายังมีแก่ใจเป็นห่วงเธอ ทั้งที่ตัวเขาเองนั้นถูกทั้งแดดและลมมานานหลายชั่วโมง

    อีกนานไหมคะกว่าจะถึง

    หากเราหยุดพักไม่นาน พรุ่งนี้สายๆ ก็น่าจะถึง

    ท่านลำบากเพราะฉันรึเปล่าคะซายูริเอ่ยถามอย่างลำบากใจ เพราะความอยากรู้อยากเห็นของเธอเองแท้ๆ ที่ทำให้เขาต้องพลอยลำบากพาเธอมาอย่างนี้

    ไม่เลย ปกติฉันก็ชอบเดินทางรอนแรมอย่างนี้อยู่แล้ว มันรู้สึกถึงความท้าทายดี ชีวิตลูกผู้ชายชาวทะเลทรายหากไม่เคยใช้ชีวิตยากลำบากอย่างนี้ก็เสียชาติเกิด

    ท่านนี่แปลกคนซายูริหยุดหัวเราะ แล้วแหงนมองพระจันทร์บนท้องฟ้าที่วันนี้ทอกระจ่างราวกับโคมทองที่คอยส่องนำทางให้กับมนุษย์ผู้เดินทางรอนแรมในทะเลทราย

    ใครๆ เขาก็บอกอย่างนั้น แต่ฉันไม่ค่อยชอบชีวิตความเป็นอยู่ที่วุ่นวายในเมืองหลวงนักหรอก เธอคงเคยไปเที่ยวชมในเมืองหลวงของเราแล้ว เมื่อเธอไปเห็นเมืองท่าที่โอเอซิสซากาน่า เธอจะเห็นว่ามันต่างกันอย่างลิบลับเลยทีเดียว โดยเฉพาะพวกเร่ร่อนในทะเลทรายยิ่งแล้วใหญ่ พวกเบดูอินน่ะยังคงใช้ชีวิตอยู่เหมือนเมื่อร้อยปีที่แล้วไม่มีผิด

    น่าแปลกนะคะ ทั้งที่ประเทศของท่านออกร่ำรวย

    ความรวยมันกระจุกตัวอยู่เฉพาะในเมืองเท่านั้นล่ะ จำนวนคนจนยังสูงลิบลิ่ว ทั้งๆ ที่ใต้ผืนทรายที่พวกเขาเหยียบย่ำอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันนั้นมันมีขุมทรัพย์มหาศาลอย่างน้ำมันซุกซ่อนอยู่

    เพราะอย่างนี้ท่านก็เลยพึงใจที่จะท่องเที่ยวชมชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขาซายูริคาดเดา

    จะว่าอย่างนั้นก็ไม่ผิด แล้วเธอล่ะจุดมุ่งหมายในชีวิตของเธอคืออะไร

    ฉันโตมาได้เพราะมีย่าเป็นผู้เลี้ยงดู ความทรงจำเกี่ยวกับพ่อแม่ช่างเลือนราง อ้อมกอดของแม่สำหรับฉันมันนานจนเกือบจะเรียกได้ว่าเป็นความฝัน ฉันเป็นเด็กกำพร้าที่ยากจนคนหนึ่ง ไม่มีที่ไปจนต้องขายตัวเองเพื่อเป็นเกอิชา คงไม่แปลกใช่ไหมคะ ที่ฉันอยากจะได้อ้อมกอดจากแม่อีกครั้ง มันเป็นความฝันของฉันแต่มันเป็นความฝันที่ไม่เคยได้เติมเต็ม

    บางทีความฝันของคนเราก็เหมือนกับขันน้ำที่มีรูรั่ว ที่พยายามตักยังไงมันก็ออกมาตามรูรั่วนั้นจนได้

    ถ้าอย่างนั้นฉันคงต้องนั่งเฝ้าขันน้ำเอาไว้ตลอดเวลา เพราะกลัวว่าจะมีใครมาแอบเจาะมันเพิ่มหญิงสาวบอกยิ้มๆ รอยยิ้มเศร้าหมองเมื่อนึกถึงอาโออิผู้เป็นแม่

    แล้วเธอก็คงจะหมดแรงตายไปก่อนที่จะได้วิ่งตามความฝัน

    คงจะอย่างนั้นล่ะมั้งคะ พวกเรามาจากหลายครอบครัวที่ต้องมาอยู่รวมกันค่ะ แต่ละคนมีปัญหามากมายมาเหมือนกันหมด แต่ส่วนใหญ่แล้วทุกคนที่เป็นเกอิชาล้วนมีความใฝ่ฝันอย่างหนึ่งที่เหมือนกันหมด นั่นก็คือการแต่งงานมีครอบครัวกับชายที่รัก และมอบสิ่งล้ำค่าอย่างพรมจารีให้กับเขา

    แล้วเธอล่ะ มีความฝันเช่นนั้นด้วยหรือ

    ฉันก็เป็นเกอิชาคนหนึ่งนี่คะ เกอิชาที่คนภายนอกมองพวกเราอย่างผิดๆ ว่าพวกเราขายเรือนร่างแต่ความจริงนั้นไม่ใช่เลย ฉันเองนอกจากความในเรื่องแม่แล้ว ก็อยากจะมีครอบครัวที่อบอุ่น อยากเป็นภรรยาที่ดีและเป็นแม่ที่ดีของลูกๆ และฉันจะไม่ยอมให้พวกเขาเป็นเด็กขาดความรักอย่างฉัน นั่นล่ะค่ะ คือความใฝ่ฝันที่ไม่มีวันเต็มของฉันเธอบอกเสียงเศร้า

    คุยกันเสียเพลิน ดึกมากพอดูแล้ว พักอูฐเสียหน่อยเถอะ มันคงอ่อนล้าเต็มทีชายหนุ่มบอกขึ้นแล้วหยุดเจ้านาวาแห่งทะเลทรายตัวโปรดเอาไว้ และจัดการกางกระโจมสำหรับนอนพักแรมคืนนี้

    พักค้างคืนกับหญิงสาวสวยท่ามกลางบรรยากาศเป็นใจ คืนนี้คงจะเป็นอีกคืนที่เขาทรมานใจเสียยิ่งกว่าคืนไหนๆ………

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×