คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : ตอนที่ 13
อัสมานถอนหายใจอย่างหนักหน่วง เขาเดินกลับไปกลับมาภายในห้องนอนหรูหราของตัวเอง พรุ่งนี้แล้วที่พ่อกับแม่ของเขาจะไปสู่ขอยะนีระห์เพื่อให้หมั้นหมายกับเขา เขาควรจะดีใจอย่างที่สุด ที่ได้ผู้หญิงเพียบพร้อมไปด้วยคุณสมบัติมากมายอย่างยะนีระห์แต่จิตใจของเขามันกลับหดหู่อย่างประหลาด ไม่ตื่นเต้นและดีใจเท่าที่มันควรจะเป็น
ชายหนุ่มล้มตัวลงนอนบนเตียงด้วยสีหน้าครุ่นคิด ในขณะที่เขาต้องนอนบนเตียงหนานุ่มและสะดวกสบายไปด้วยแอร์เย็นฉ่ำแต่หญิงสาวอีกคนกำลังอยู่ในกระโจมกลางทะเลทรายที่ยากลำบากและขาดแคลนอาหาร
ความคิดของเขาหมกมุ่นอยู่แต่กับใบหน้าของซายูริและรสจูบแสนหวานไร้เดียงสาที่เขาได้รับ รสจูบที่ทำให้เขาร้อนรุ่มไปทั่วร่างจนต้องใช้ความเย็นของสายน้ำยามค่ำคืนในการดับอารมณ์
ความคิดของเขาวกวนไปมาแต่ก็ผล็อยหลับได้ในที่สุด ในระหว่างกึ่งหลับกึ่งตื่นนั้น เขาเหมือนจะเห็นเงาร่างเลือนรางของใครคนหนึ่งอยู่เหนือโขดหิน
จากการมองในระยะไกลทำให้มองเห็นหน้าตาได้ไม่ชัดแต่เขารู้แน่ว่าจะต้องเป็นผู้หญิง อัสมานเดินเข้าไปใกล้ร่างนั้นเรื่อยๆแล้วก็ต้องตกใจเมื่อพบว่ามันเป็นใบหน้าขาวซีดของซายูริ
“ช่วยด้วย”หญิงสาวครางแผ่วๆ และร้องไห้ออกมาด้วยความหวาดกลัว
“ซายูริ เธอเป็นอะไรไป”ชายหนุ่มถลาเข้าไปใกล้ แต่ก็สัมผัสได้แต่เพียงความว่างเปล่า เขากวาดสายตามองหาไปรอบๆ ก็พบว่าหญิงสาวนั่งอยู่ในลักษณะเดิมบนโขดหินตัวใหม่แต่ก็เหมือนเดิม ในทันทีที่เขาคิดจะสัมผัส เงาร่างนั้นก็หายวับไป หญิงสาวร้องไห้อย่างทรมาน เนื้อตัวของซายูริเปียกโชกอย่างน่าเวทนา
“ช่วยด้วยค่ะ ฉันหนาวเหลือเกิน”
“ซายูริ ไม่นะ ซายูริ”ชายหนุ่มคว้าได้แต่เพียงความว่างเปล่าเท่านั้น ซายูริจ้องมองมาทางเขาด้วยสายตาตัดพ้อ หยาดน้ำตาไหลรินเป็นทางยาว
“ท่านใจร้ายนัก พาฉันมากักขังแต่ตัวเองกลับสุขสบายอยู่ที่นี่”
“ฉันขอโทษซายูริ”เขาจำได้ว่าตัวเองบอกกับหญิงสาวอย่างนั้นในความฝันอันเรือนลาง
“สายเกินไปแล้วล่ะค่ะ ฉันกำลังจะตาย
.”หญิงสาวบอกเสียงเย็น แผ่วเบาราวกับว่าเนื้อตัวและน้ำเสียงของเธอจะสูญสลายไปกับสายลมกระนั้น
“ไม่นะซายูริ อย่าไป อย่าไปนะ
.”อัสมานวิ่งตามไขว่คว้าเงาร่างนั้นในความมืดก่อนจะตะโกนออกมาสุดเสียงพร้อมๆกับที่ตัวเขาได้ตื่นขึ้น
“ซายูริ
”อัสมานครางลึกๆ ในลำคอ เหงื่อกาฬแตกพลั่กเต็มใบหน้าและขมับทั้งสองข้าง ชายหนุ่มหลับตาและสะบัดศีรษะเพื่อขับไล่ความฝันอันร้ายกาจเมื่อครู่
“เธอจะเป็นอะไรรึเปล่านะซายูริ ซาวานจะดูแลเธอได้แค่ไหนกัน”อัสมานผุดตัวลุกขึ้นจากที่นอนด้วยสีหน้าครุ่นคิด แม้เขาจะเคยโกรธเกลียดเธอ เพราะเป็นสาเหตุให้แม่ของเขาต้องอาการหนักขึ้นแต่เขาก็ไม่ใจร้ายถึงขนาดจะอยากให้เธอต้องจบชีวิตลงด้วยฝีมือของเขาหรือว่ามีเขาเป็นต้นเหตุ
เขาเพียงแต่รู้สึกผิดต่อเธอเท่านั้น ไม่ได้มีความรู้สึกลึกซึ้งไปกว่านี้
.
ทั้งที่พร่ำบอกกับตัวเองอย่างนั้นแต่ความฝันนั้นก็ทำให้เขาไม่อาจข่มตาให้หลับลงไปได้อีก ภาพใบหน้าซีดขาวเปียกโชกนั้นยังคงติดตาจนยากจะลบเลือน
“บ้าจริง!”ชายหนุ่มสบถกับตัวเองก่อนจะลงมือเก็บข้าวของจำเป็นที่ได้แอบเตรียมเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นอาหารและยารักษาโรค ชายหนุ่มแต่งกายด้วยชุดสำหรับการออกเดินทางและเสื้อคลุมสีดำสนิทเหมาะสำหรับการพรางตัว เมื่อสำรวจทุกอย่างจนพร้อมดีแล้ว เขาจึงได้ออกมานอกห้องพักในโรงแรมที่พักอยู่
เมื่อเห็นว่าไม่มีคนของท่านฮัสซาร์ออกมาคอยดักติดตามเขา ชายหนุ่มจึงได้เดินออกไปขึ้นรถของตัวเองขับออกไปด้วยท่าทางและสีหน้าปกติผ่านหน้ายามที่เฝ้าอยู่หน้าโรงแรมแต่ยามคนนั้นก็ไม่กล้าเอ่ยซักถามอะไร ทั้งที่เขาเองก็นึกแปลกใจที่ชายหนุ่มถือห่อผ้าใบเขื่องและแบกมาด้วยท่าทางหนักอึ้งโดยไม่ยอมเรียกใช้พนักงานของโรงแรม
อัสมานขับรถของเขาออกมานอกโรงแรมและโทรเรียกยูซุปออกมาพบทางด้านนอก ซึ่งลูกน้องคนสนิทก็รีบกระหืดกระหอบออกมาหาผู้เป็นเจ้านายทั้งที่เป็นเวลากลางดึก
“นายท่านจะออกไปไหนขอรับ”
“ฉันมีธุระด่วนที่ต้องจัดการ แกเอารถของฉันเข้าไปเก็บที่โรงแรมแต่ก่อนอื่นแกขับไปส่งฉันที่สถานีรถไฟเสียก่อน”อัสมานออกคำสั่ง ยูซุปตาโตมองเจ้านายอย่างคาดไม่ถึง
“นี่
.เจ้านายคิดจะทำอะไรขอรับ อย่าบอกนะว่าเรื่องคุณซายูริ
”
“อย่าพูดมากไปหน่อยเลยยูซุป คนที่พูดน้อยๆ มักจะเจริญก้าวหน้ามากกว่าคนที่พูดมากอย่างเจ้านะ”ชายหนุ่มบอกเสียงห้วน ยูซุปจึงจำต้องขับรถไปส่งเจ้านายหนุ่มตามคำสั่ง
“เจ้านายเป็นคนจับตัวคุณซายูริไปจริงๆ หรือขอรับ”ว่าจะไม่ถามแต่ก็อดไม่อยู่จนได้
“แล้วแกจะทำไมยูซุป หวังว่าเรื่องนี้แกคงรูดซิปเอาไว้ให้ดี”
“มันก็คงจะต้องเป็นอย่างนั้นล่ะขอรับ แต่ไม่รู้ว่าคนของท่านฮัสซาร์จะสงสัยอะไรหรือเปล่า โชคดีนะที่วันนี้พวกมันไม่ได้ตามมาเฝ้าเจ้านาย ไม่อย่างนั้นแย่แน่”
“ฉันก็คิดอย่างนั้น แต่ยามหน้าโรงแรมมันทำท่าจะสงสัย แกจัดการปิดปากมันให้ดี”
“ขอรับ”
“ดีมาก ส่งฉันที่หน้าสถานีรถไฟนั่นแหละ ฉันจะกลับไปเอาอูฐที่ฝากเอาไว้ แกกลับไปทำหน้าที่ให้ปกติ ปิดปากให้เงียบสนิทเหมือนเดิม เรื่องอื่นฉันจะจัดการเอง”อัสมานบอกแล้วมองหน้ามองหลังอย่างรอบคอบ
“แต่เจ้านายครับ
”ยูซุปมีสีหน้าลำบากใจว่าสมควรจะพูดขึ้นมาหรือไม่ แต่เขาก็รักและหวังดีกับผู้เป็นเจ้านายเท่ากับชีวิต จึงไม่อยากให้อัสมานต้องทำผิดไปมากกว่านี้
“มีอะไร
”
“ตอนเช้าท่านจะต้องไปสู่ขอคุณหนูยะนีระห์ไม่ใช่หรือครับ ผมเกรงว่าหากท่านไม่อยู่แล้วท่านฮัสซาร์จะสงสัย”ยูซุปลูกน้องคนสนิทเอ่ยเตือนด้วยความหวังดี
“จริงสิ”อัสมานเกาคางด้วยท่าทางคิดหนัก
เขาลืมยะนีระห์ไปเสียสนิท!
“ท่านยังจะไปอีกหรือครับ ผมว่ารอให้ผ่านการเจรจาเรื่องหมั้นไปก่อนไม่ดีหรือ”
“ไม่มีเวลาแล้ว ฉันสังหรณ์ใจว่าผู้หญิงคนนั้นอาจกำลังไม่สบาย ฉันจะต้องรีบไปก่อนที่มันจะสายเกินไป เรื่องของยะนีระห์เอาไว้ก่อนเถอะ”ชายหนุ่มบอกขึ้นอย่างตัดสินใจได้ในที่สุด
“ดูเหมือนท่านจะห่วงคุณซายูริมาก”ยูซุปตั้งข้อสังเกต
ปกติเขาจะเห็นแต่ร่องรอยของความเย็นชาจากสายตาสีเหล็กคู่นั้นแต่วันนี้ดูเหมือนกระแสแห่งความห่วงใยจะเด่นชัดมากจนออกมาทางแววตาของเขามากเกินธรรมดา
“ฉันทำให้เขาต้องไปอยู่อย่างนั้น หากหล่อนป่วยฉันก็รู้สึกผิด”อัสมานแก้ตัว นั่นยิ่งทำให้ยูซุปผิดสังเกตมากยิ่งขึ้น สีหน้าท่าทางของเจ้านายหนุ่มสร้างความหนักใจให้กับเขายิ่งนัก
ได้แต่หวังว่า ระหว่างอัสมานกับซายูริจะไม่มีความรู้สึกอะไรที่เกินเลยไปมากกว่าคำว่า
..เชลย
.
“หากท่านตัดสินใจไปแล้ว ผมก็คงจะทำอะไรไม่ได้ ท่านระวังตัวด้วยนะครับ”ยูซุปค้อมศีรษะลงทำความเคารพ อัสมานตบบ่าของคนสนิทเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไปด้วยท่าทางองอาจและมั่นคงในการตัดสินใจของตัวเอง แม้ว่าการกระทำของเขาในครั้งนี้อาจจะส่งผลร้ายต่อเขามากมายแค่ไหนก็ตาม
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขากำลังทำอยู่นี้ กระทำลงไปเพราะแค่รู้สึกผิดจริงหรือ
ยะนีระห์สะกดใจเอาไว้ด้วยความตื่นเต้น เมื่ออีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้ก็จะถึงเวลานัดหมายที่อัสมานและพ่อแม่ของเขาจะมาสู่ขอเธอ การหมั้นหมายและการแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในดิลิยะห์กำลังจะเกิดขึ้นจากการรวมตัวเป็นทองแผ่นเดียวกันของสองตระกูลใหญ่ที่ร่ำรวย หญิงสาวรีบตื่นขึ้นมานวดหน้าขัดตัวเสียตั้งแต่เช้าตรู่
หญิงสาวปล่อยผมยาวสลวยจนเต็มกลางแผ่นหลัง ทางด้านหน้ารวบขึ้นถักเปียเล็กๆ ละเอียดยิบ เสื้อผ้าที่สวมเป็นชุดที่สวยที่สุด หรูหราที่สุดซึ่งเธอสั่งตัดมาเป็นพิเศษเพื่อวันนี้โดยเฉพาะ
“สวยที่สุดเลยค่ะคุณหนู”สาวใช้คู่ใจรวบเสื้อคลุมตัวนอกและผูกด้านหลังให้เบาๆ แล้วหันมาเอ่ยชมนายสาวของตัวเองอย่างชื่นชม ยะนีระห์ยิ้มพอใจ
ดูเหมือนว่าวันนี้เธอจะอารมณ์ดีมากเป็นพิเศษและคิดว่ามันมากพอที่เธอจะละเว้นการหาเรื่องราริณีกับการีมเอาไว้ได้ วันนี้เป็นวันมงคล เว้นเอาไว้สักวัน
.
“แน่ล่ะ ไม่มีใครที่จะเหมาะกับพี่อัสมานมากไปกว่าฉัน”
“จริงด้วยค่ะ คนสวยๆ ฉลาด แถมยังร่ำรวยมากอย่างคุณหนู ใครมองข้ามไปได้ก็นับว่าโง่เต็มที ท่านอัสมานก็หล่อเหลา สง่า สมกันอย่างกับกิ่งทองใบหยกเลยล่ะค่ะ”นางสาวใช้ยกยอ
“เจ้านี่ปากหวานใช้ได้ เอ๊า
.ฉันให้”ยะนีระห์ยื่นแหวนเพชรเล็กๆ ที่สวมอยู่บนนิ้วก้อยที่เธอเริ่มจะนึกเบื่อมันแล้วออกโยนให้ แม่สาวใช้ตาโตรีบรับมันมาอย่างยินดี ขนาดแค่คำยกยอเพียงไม่กี่ประโยค ยังได้ข้าวของมีค่ามากมายขนาดนี้ ต่อไปเธอจะต้องเอาใจคุณหนูผู้แสนเอาแต่ใจแต่บ้ายอคนนี้เอาไว้ให้มากๆ
“ขอบคุณเจ้าค่ะ”
“อีกไม่กี่นาที ฉันก็จะได้แหวนเพชรเม็ดโตกว่านี้”ยะนีระห์เชิดหน้าขึ้นบอกแล้วเดินหลังตรงเป็นสง่าลงไปข้างล่างด้วยความตื่นเต้น สวนทางกับการีมที่เอาเอกสารเรื่องการประชุมมาให้ท่านโยฮานเซ็นพอดี
การีมมองใบหน้าหวานหยดย้อยในชุดสีมูลนกการะเวกนั้นอย่างตื่นตะลึง เขามองหญิงสาวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าอย่างนึกทึ่ง วันนี้ยะนีระห์ผู้แสนปากร้ายและเอาแต่ใจสวยสดงดงามมากจริงๆ
“มองอะไร ไร้มารยาทที่สุด”ยะนีระห์ตวาด การีมหัวเราะแก้เก้อก่อนจะเปลี่ยนสายตามาเป็นหมิ่นหยามแทน ชายหนุ่มเดินอ้อมตัวของหญิงสาวไปมาพร้อมกับยักไหล่
“แต่งตัวสวยดีนี่
คงจะตื่นเต้นมากสินะที่จะมีผู้ชายมาสู่ขอ”
“แน่ล่ะ เพราะอัสมานเป็นผู้ชายที่ดี มีอนาคต ไม่เหมือนแก เฮอะ
..คิดจะทำงานอย่างนั้นเหรอ คงทำให้บริษัทของท่านพ่อเจ๊งเข้าสักวัน”สายตาคมๆ ตวัดมองการีมอย่างเย้ยหยัน
“เธอ!”การีมกำมือแน่นอย่างเจ็บใจ
“โกรธเหรอ ดี
..เพราะฉันต้องการให้แกโกรธ โกรธมากๆ เลยยิ่งดี แล้วแกสองคนแม่ลูกจะได้ไปให้พ้นจากบ้านของฉันสักที หยาบด้านกันนัก ขนาดถูกขู่ขนาดนั้นยังไม่กลัว”ยะนีระห์เผลอตัวพูดออกไปแต่ยั้งไว้ก็ไม่ทันเสียแล้ว การีมขมวดคิ้วก่อนจะก้าวมาประชิดตัวของเธออย่างเอาเรื่อง
“เธอทำอะไรแม่ฉัน”
“เปล่า
..”ยะนีระห์ถอยหลังไปหลายก้าวจนชิดติดกับผนัง สายตาเอาเรื่องและแววตาดุดันนั้นอดทำให้เธอนึกกลัวขึ้นมาไม่ได้ แต่คนที่ไม่ยอมแพ้ใครง่ายๆ อย่างเธอหรือจะยอมอ่อนข้อ
“แต่เมื่อกี้ฉันได้ยิน บอกมาเดี๋ยวนี้นะ ว่าเธอทำอะไรแม่ฉัน”
“เรื่องของฉัน”ยะนีระห์เชิดหน้าขึ้นตอบด้วยสีหน้าท้าทาย
“แน่ใจหรือว่าจะไม่บอก”การีมบอกเสียงกร้าว ชายหนุ่มขยับเข้าไปชิดและวาดแขนทั้งสองข้างโอบล้อมเธอไว้ ยะนีระห์หน้าซีด เมื่อหลังของเธอชิดกับผนัง ไม่มีทางอื่นที่จะออกไปได้
“เอาตัวสกปรกของแกออกไปให้ไกลฉันเดี๋ยวนี้นะ ไอ้ลูกคนต่างชาติ”หญิงสาวตวาดกลับอย่างกราดเกรี้ยว การีมขบกรามแน่นจนเป็นสันนูน
ลูกผู้ชายอย่างเขาทนให้ผู้หญิงอย่างยะนีระห์ดูถูกครั้งแล้วครั้งเล่ามาได้อย่างไรกันตั้งหลายปี
และครั้งนี้เขาให้สัญญากับตัวเอง นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายจริงๆ
“สกปรกอย่างนั้นหรือ ถ้าอย่างนั้นมาลองเกลือกกลั้วกับคนอย่างฉันดูสักหน่อยเป็นไง เอาไปเปรียบเทียบกับอัสมานดูซิว่า มันใช้ได้หรือเปล่า”การีมไม่พูดเปล่าแต่ก้มลงจูบเรียวปากที่เผยอเตรียมจะด่าเขาทันที จูบของเขาหนักหน่วงรุนแรงอย่างไม่ปราณี ยะนีระห์ดิ้นรนเต็มแรงด้วยความรังเกียจ
แต่เพียงไม่นานการบดขยี้ที่รุนแรงของเขาก็เปลี่ยนมาเป็นอ่อนโยน อ่อนหวานและปลุกอารมณ์ของเธออย่างช่ำชอง ต้นขาของเขาเบียดชิดเข้ากับเรือนกายของเธอ ช่วยปลุกเร้าอารมณ์ปรารถนาอันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ให้ลุกโชน ยะนีระห์เผลอตัวสอดลิ้นตอบปลายลิ้นที่ตวัดมาอย่างช่ำชองของเขา
มือเรียวยาวของเธอจิกไปกลางแผ่นหลังของเขาด้วยความรัญจวนใจ การีมเห็นปฏิกิริยาตอบสนองอย่างเผลอไผลของหญิงสาว จึงได้ระดมจูบไปทั่วร่างนั้น มือหนาของเขาลูบไล้ไปทั่วระเรื่อยมาจนถึงหน้าอกอวบอิ่มนั้น ริมฝีปากที่เปียกชื้นของเขาลากมาตามใบหน้าและซอกคอจนยะนีระห์เผลอตัวครางด้วยความเสียวซ่าน
เวลานี้เธอลืมสิ้นถึงความรังเกียจที่ตั้งป้อมกันเขาเอาไว้ อารมณ์ปรารถนาคุโชนจนยากจะหยุด สัมผัสใกล้ชิดจากผู้ชายเป็นครั้งแรก การเรียนในโรงเรียนสตรีล้วนทำให้ไม่เคยได้รับสัมผัสอันเสียวซ่านอย่างนี้มาก่อน
หญิงสาวนึกโกรธตัวเองขึ้นมาครามครันที่จิตใจกับร่างกายมันช่างไม่สัมพันธ์กันเอาซะเลย ใจรังเกียจและอยากจะผลักร่างหนานั้นออกไปเสียให้ไกลแต่ร่างกายกลับเบียดชิดอกอวบอิ่มของตัวเองเข้ากับหน้าอกหนาแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อของเขาด้วยความลืมตัว รู้สึกโกรธตัวเองขึ้นมาครามครันที่ไม่ยอมผลักเขาออกอย่างที่ใจคิด
แต่ก่อนที่ความรู้สึกอันประหลาดล้ำที่ทำให้เธอรู้สึกวาบหวิวราวกับจะล่องลอยไปไกลแสนไกลจะเลยเถิดไปมากกว่านี้ การีมก็หยุดการกระทำของเขาซะเฉยๆพร้อมกับหรี่ตามองหญิงสาวอย่างดูถูก
“ว่ายังไงถึงกับครางเลยหรือสาวน้อย”
“เพลี๊ย!”
ยะนีระห์ฟาดฝ่ามือของเธอไปบนใบหน้านั้นเต็มแรงจนหน้าหัน ทั้งโกรธทั้งอาย ยิ่งเห็นสายตาหมิ่นหยามของชายหนุ่มที่มองมาอย่างรู้เท่าทันเธอยิ่งแค้น
“ร้อนแรงไม่เบาเลยนะ เสียดายที่เวลาของเรามันน้อย ถ้าเธอยังติดใจล่ะก็ ไปหาฉันที่บ้านได้ตลอดเวลา รับรองว่าฉันจะตอบสนองเธอได้ถึงพริกถึงขิงยิ่งกว่านี้”
“แก
”ยะนีระห์ตัวสั่นด้วยความโกรธระคนอับอาย
“ฮ่ะๆ แม่เสือสาวผู้ร้อนแรงซะยิ่งกว่าเกอิชา”การีมผิวปาก แล้วเดินหัวเราะอย่างอารมณ์ดีจากไป ท่ามกลางความแค้นเคืองของยะนีระห์ที่มองตามหลังเขาไปอย่างอาฆาต
สักวัน เธอจะฆ่าผู้ชายคนนี้ให้ตายคามือด้วยตัวเอง !
“ว๊าย
มีรอห์ มาแอบอะไรอยู่ตรงนี้”สาวใช้คนนึ่งที่เผลอเดินเข้ามาชนกับสาวใช้คนสนิทของยะนีระห์อุทานขึ้นอย่างตกใจทำให้มิรอห์รีบยกมือขึ้นปิดปากเพื่อนสาวใช้ด้วยกันเอาไว้
“จุ๊ๆ
.อย่าส่งเสียงดัง”
“อะไรของเธอ”ผู้มาใหม่เอ่ยถามอย่างสงสัยพลางมองตามสายตาของเพื่อนสาวก็พบว่ายะนีระห์ยืนกำมือแน่นตัวสั่นราวกับโกรธใครมาตั้งแต่ชาติปางไหนแต่อะไรเกิดขึ้นก่อนหน้านี้เธอไม่ทันได้เห็น
“อย่าเพิ่งเดินไปเลย ฉันว่าเราสองคนหลบก่อนดีกว่า”
“อะไรของเธอ ฉันจะไปดูความเรียบร้อยสำหรับรับแขกที่กำลังจะมา ถ้ามีอะไรผิดพลาดล่ะก็ ฉันตายแน่ๆ เธอก็รู้นี่ว่าฉันมีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องโต๊ะอาหาร ไม่ได้สบายเหมือนเธอนะแค่คอยรับใช้คุณยะนีระห์เล็กๆ น้อยๆ ก็ได้ของสวยๆ งามๆ มาใช้มากมาย”นางผู้มาใหม่มองค้อนอย่างอิจฉา
“มาก่อนเถอะน่า เวลานี้คุณหนูอารมณ์ไม่ดี ขืนทะเล่อทะล่าเข้าไป จะหาว่าไม่เตือน”
“เป็นอะไรอีกล่ะ วันนี้จะหมั้นไม่ใช่หรือน่าจะอารมณ์ดี”อีกฝ่ายถามขึ้นอย่างสงสัย มีรอห์อึดอัดใจ น้ำท่วมปากจะบอกใครในสิ่งที่ตัวเองเห็นก็ไม่ได้ เพราะหากนายสาวของเธอรู้
เธอไม่ตายดีแน่
.
“ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่รู้สึกว่าคุณหนูอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่านั้นเองแต่มันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้ ฉันคงคิดมากไปเอง เธออยากไปดูความเรียบร้อยอะไรก็ไปทำเถอะ ฉันก็จะไปเหมือนกัน”มีรอห์บอกขึ้นในที่สุดแต่ก่อนที่เธอทั้งสองจะทันได้ทำอะไรก็ได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวนของยะนีระห์ดังลั่นไปทั่วบ้าน
“อะไรกันลูกรัก”ท่านโยฮานลงบันไดมาอย่างเร่งรีบ เมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของลูกสาว เสียงนั้นดังบาดลึกไปถึงหัวอกของคนเป็นพ่ออย่างเขาจนแม้แต่กระดุมเสื้อยังไม่ทันติดเสร็จก็ต้องรีบวิ่งลงมา
“ท่านพ่อ”ยะนีระห์ตัวสั่นเทาไปด้วยความโกรธ มือเรียวกำแน่นจนเจ็บใจ
“เกิดอะไรขึ้นลูกรัก หน้าของเจ้าซีดมากเหลือเกิน พ่อจะให้คนไปตามหมอ”
“ไม่ค่ะ
ลูกไม่ไปไหนทั้งนั้น ท่านพ่อฮือ
..”หญิงสาวโผเข้ากอดผู้เป็นพ่อพลางร้องไห้สะอึกสะอื้น ท่านโยฮานกอดตอบแนบแน่นก่อนจะผลักร่างนั้นออกห่างเบาๆ แล้วเอ่ยถามขึ้น
“ร้องไห้เรื่องอะไรกัน บอกพ่อมา วันนี้อัสมานจะมาสู่ขอลูก ไม่ดีใจหรืออย่างไร”
“เขาไม่มาแล้ว”หญิงสาวบอกเสียงกร้าวจนเกือบจะเป็นตะโกนก้อง
“อะไรนะ!”
“เมื่อครู่นี้ท่านป้าโทรมา บอกว่าพี่อัสมานต้องบินไปดูงานที่อเมริกาด่วน ท่านพ่อ
อะไรมันจะสำคัญไปมากเท่าวันนี้ พี่อัสมานเห็นงานสำคัญกว่าลูกได้อย่างไร”
“อัสมาน
..ทำแบบนี้มันหยามน้ำหน้ากันชัดๆ”ท่านโยฮานคำรามลึกในลำคอ ก่อนจะผลุนผลันตั้งท่าจะออกไปข้างนอก ยะนีระห์รีบฉุดดึงเอาไว้
“ท่านพ่อจะไปไหนคะ”
“จะไปถามซายีน่ากับฮัสซาร์ให้รู้เรื่อง ทำแบบนี้ได้อย่างไร ลูกสาวของโยฮาน คิดจำทำอะไรล้อเล่นแบบนี้ได้หรือ”ท่านโยฮานบอกขึ้นอย่างหัวเสีย ทั้งหงุดหงิดและเจ็บใจที่ฝ่ายชายทำเหมือนไม่ให้เกียรติกันอย่างนี้
“ช่างเขาเถอะค่ะท่านพ่อ เรามีศักดิ์ศรีมากเกินกว่าจะทำอย่างนั้น”ยะนีระห์พยายามบังคับน้ำเสียงที่เริ่มสั่นสะท้านของตัวเองให้ดูราบเรียบที่สุด
“แต่มันหยามน้ำหน้าเรา”
“สักวันลูกจะทำให้อัสมาน มาคุกเข่าแทบเท้าลูกให้จงได้ ลูกอยากจะรู้นัก ว่างานอะไรกันสำหรับพี่อัสมานที่มันจะสำคัญไปกว่าการหมั้นกับลูก”น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความโกรธแค้น
“หรือว่ามันจะมีผู้หญิงอื่น”ท่านโยฮานออกความเห็น
“ไม่มีทาง! ลูกไม่เห็นใครพูดถึงข่าวคราวของพี่อัสมานกับผู้หญิงคนไหน นอกจากข่าวความเฉยชาของเขาจนไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้าเข้าใกล้ นอกจากลูกแล้ว เขาไม่มีใคร”ยะนีระห์ปฏิเสธอย่างเข้าข้างตัวเอง
“ลูกแน่ใจหรือ”
“แน่ใจอย่างที่สุด”
“เอาล่ะ ในเมื่อลูกยืนยันอย่างนั้นก็จงบอกให้มันมาพบพ่อในทันทีที่มันกลับมา หากมันบิดพลิ้วอีกล่ะก็ พ่อจะไม่มีทางยกเจ้าให้มันเด็ดขาด”ท่านโยฮานหัวเสียก่อนจะเดินผลุนผันกลับเข้าห้องไป ทิ้งให้ผู้เป็นลูกสาวต้องทรุดตัวลงนั่งร้องไห้ไปด้วยความอับอาย อับอายกับสายตาหมิ่นหยามของการีม
หากเขารู้เรื่องนี้ ไม่ช้าคงวิ้งแจ้นมาเยาะเย้ยเธอถึงที่
ความเจ็บใจของเธอที่มีต่ออัสมาน เวลานี้มันน้อยกว่าความเจ็บใจระคนอับอายที่มีต่อการีมเสียอีก
“มีรอห์!”หญิงสาวตะโกนเรียกสาวใช้
“ค่ะ”
“เอาอาหารที่เตรียมไว้ในวันนี้ไปเททิ้งให้หมด อย่าให้ฉันเห็นมันอีก รวมทั้งดอกไม้พวกนี้ด้วย”ผู้เป็นเจ้าของคำสั่งในการจัดการต้อนรับในวันนี้ออกคำสั่งด้วยอารมณ์กราดเกรี้ยวและขุ่นมัว
หญิงสาวผลุนผลันกลับขึ้นไปขังตัวเองบนห้องนอน ความเคียดแค้นที่มียังไม่ลดละ มันอัดแน่นอยู่ในอก มันมีมากเสียจนเธอแทบจะระงับมันเอาไว้ไม่ไหว
นึกถึงใบหน้าหล่อเหลาของอัสมาน กับถ้อยคำขอโทษขอโพยจากซายีน่าอย่างเจ็บใจ เนื้อตัวของหญิงสาวสั่นสะท้านไปทั่วร่าง ใบหน้าอ่อนเยาว์ซีดขาว มือเกร็ง
อย่าให้เธอรู้ว่าเขาผิดนัดสำคัญเพราะเรื่องผู้หญิงคนอื่น เธอเกลียดการทรยศมากที่สุด โดยเฉพาะการทรยศหักหลังที่มาจากผู้ชายที่เธอรัก เหมือนอย่างที่พ่อทำกับแม่
เธออยากจะกรีดร้องออกมาให้สาสมกับความชอกช้ำและอับอาย แต่จะทำอย่างนั้นได้อย่างไร ในเมื่อศักดิ์ศรีของธิดาคนเดียวของท่านโยฮานมันค้ำคอเธออยู่
ความคิดเห็น