ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รอยรักกลีบซากุระ ตีพิมพ์กับกรีนมายด์

    ลำดับตอนที่ #16 : ผู้หญิงแสนงอน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 370
      0
      13 ก.ย. 52

    เอ๊ะ……….ของใครมาลืมไว้ในรถเราติรณาขมวดคิ้วอย่างงงงันเมื่อเห็นกระถางพลาสติกสีน้ำตาลเล็กๆภายในบรรจุกล้วยไม้กำลังออกดอกสีม่วงอ่อนชูช่อสวยงาม

    กลีบดอกยังมีหยดน้ำเกาะพราวเหมือนพึ่งถูกรดน้ำมาได้ไม่นาน หญิงสาวหยิบมันขึ้นมาพิจารณาก่อนจะกวาดสายตามองหาเจ้าของมัน สงสัยคงจะมีคนลืมไว้

                ของเธอนั่นแหละ…….เราตั้งใจซื้อมาฝากเสียงคุ้นหูดังขึ้นจากเบื้องหลัง ติรณาใจเต้นแรงแต่ไม่ยอมหันกลับไปมอง ทรงรบใจแป้ว ก่อนจะเดินเข้าไปสะกิดเบาๆ

                นี่…….หันหน้ามาหน่อยสิ หันหลังอย่างนี้จะพูดกันรู้เรื่องได้ยังไงกันติรณาไม่ตอบแต่กลับจูงรถมอเตอร์ไซค์ไปอีกทาง

                เราขับไปส่งนะ ขับรถไม่เก่งไม่ใช่เหรอเขารีบบอกเมื่อเห็นอย่างนั้น

                ไม่ต้อง ฉันขับไปเองได้หญิงสาวเชิดหน้าตอบเสียงห้วน ยังโกรธเขาเรื่องเมื่อวานไม่หาย เธอขึ้นคร่อมรถแล้วสตาร์ทเต็มแรงตามอารมณ์โกรธ

                แคว๊กติรณาตะลึงก้มลงมองชายกระโปรงที่ขาดเป็นทางยาวผ่าขึ้นไปถึงต้นขาอย่างนึกไม่ถึง อายจนแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี

                เมื่อมีสายตาของคนที่เดินผ่านไปมาหันมามองอย่างสนใจ บางคนมองอย่างเห็นใจ บางคนก็กระซิบกระซาบกันพร้อมกับหัวเราะ

                โธ่เว้ย……….ทำไมซวยอย่างนี้นะ ทรงรบเองก็ตกใจไม่แพ้กัน เขารีบถอดเสื้อแจ็คเกตออกมาคลุมทับให้

                ไปเปลี่ยนกระโปรงเถอะ เราจะรออยู่ข้างล่าง เร็วสิ เดี๋ยวไปเรียนไม่ทันนะเขาเร่งเมื่อเห็นเธอทำท่าลังเล หญิงสาวจึงไม่มีทางเลือก รีบเดินจ้ำอ้าวกลับขึ้นไปเปลี่ยนกระโปรงทันที

                โอ้ย………ฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนละเนี่ย ต่อหน้าคนอื่นน่ะไม่เท่าไหร่แต่ต่อหน้านายทรงรบนี่สิซวยซ้ำซวยซ้อนจริงๆ

                ติรณาเดินไปเปลี่ยนกระโปรงลวกๆแล้วเดินหน้าจ๋อยมาที่ลานจอดรถ พบว่าเขายืนคอยอยู่อย่างที่พูดจริงๆด้วย

                ยังรออยู่อีกเหรอ วันนี้มีเรียนตอนเช้าไม่ใช่เหรอเธอเอ่ยถาม เพราะรู้ว่าวันอังคารเขาจะมีเรียนตอนเช้าและเขาไม่เคยไปเรียนสายเลยสักครั้ง

                ไม่เป็นไรหรอก แค่ครึ่งชั่วโมง มันคงจะไม่ทำให้เกียรตินิยมมันหายไปไหนหรอกเขาบอกยิ้มๆ เธอมองค้อนเขาอย่างหมั่นไส้

                ยืนยิ้มอะไร ขึ้นรถซะทีสิเสียงของเขาดังขึ้นขัดอารมณ์เธออีกรอบ หญิงสาวบ่นว่าเขาอยู่ในใจแล้วขึ้นรถนั่งซ้อนท้ายเขาออกไป

                เหมือนฝนจะตกเลยติรณาบอกพร้อมกับแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่เริ่มมืดครึ้มเข้ามาทุกที เขาไม่ตอบแต่เร่งความเร็วของรถขึ้น

                เน่……….จะขับเร็วอะไรขนาดนี้นะ เดี๋ยวก็ไปไม่ถึงคณะหรอกหญิงสาวร้องเสียงหลงทุบหลังเขาอั๊กๆไปหลายที

                โอ้ย……….ฉันเจ็บนะ ไม่เห็นเหรอว่าฝนกำลังจะตก อยากตากฝนไปเรียนรึไงเขาบอกอย่างหงุดหงิดจนพารถมาจอดอยู่หน้าคณะพยาบาล หญิงสาวหน้างอ ก้าวขาลงจากรถก็พอดีกับที่ฝนเทกระหน่ำลงมาอย่างหนัก

                เขารีบคว้ามือเธอไปหลบฝน โชคยังดีที่ลายจอดรถยังมีหลังคาเล็กๆบัง เธอพลิกข้อมือดูนาฬิกาอย่างกังวลเมื่อมันเลยเวลาไปเกือบ 40 นาทีแล้ว เธอจึงมองสายฝนด้วยใบหน้าเคร่งเครียด

                ไปเถอะ ขืนรอให้มันหยุดก็เข้าเรียนไม่ทันกันพอดีเขาบอกพร้อมกับดุนหลังเธอเบาๆ

                ขืนวิ่งฝ่าไปหน้าคณะก็เปียกหมดสิ

                มาเถอะน่า ใกล้ๆแค่นี้เปียกไม่มากหรอกเขาจูงมือเธอออกวิ่งโดยเอาตัวเขาบังด้านที่ฝนสาดเอาไว้พร้อมกับใช้สมุดแลกเช่อร์บังหน้าเธอไว้ให้

                จนมาถึงหน้าคณะ เธอกอดอกห่อตัวด้วยความหนาวหันมามองหน้าเขาอย่างขอบคุณ ตัวเธอเปียกไม่มากเพราะเขาเอาตัวมาบังไว้แต่เขากลับเปียกโชกไปทั้งตัวแถมยังต้องไปเรียนสายเพราะเธออีก

                ขอบใจนะเธอบอกเสียงเบา เขาส่ายหน้าพร้อมกับยื่นกุญแจรถคืนให้

                แล้วนายจะไปเรียนยังไง อย่าปฏิเสธเลยน่า นายเดินไปไม่ถึงหรอก ฝนตกหนักขนาดนี้เธอเอื้อมมือไปดึงมือเขาพร้อมกับยัดเยียดกุญแจให้ เขาก้มลงมองมือเธอนิ่งอย่างเขินๆ ใบหน้าแดงก่ำ ติรณารู้สึกตัวรีบชักมือกลับ

              ตาบ้า! คนที่ควรจะอายจนหน้าแดงมันคือฉันตะหากล่ะ ไม่ใช่นาย

                ก็ได้ งั้นเย็นนี้เลิกเรียนแล้วเรามารับนะเขาถือโอกาสรวบรัด ติรณาอมยิ้มพยักหน้าเขินๆแล้วรีบวิ่งเข้าหน้าคณะไป

                จะว่าไปนายก็เป็นสุภาพบุรุษเป็นเหมือนกันนะ นายหน้าปลากะโห้

                เธอยิ้มๆก่อนจะนึกได้ว่ามาเรียนสายรีบวิ่งเข้าชั้นเรียนไม่คิดชีวิต เพื่อนๆในห้องเรียนหันมามองเธอเป็นตาเดียวเมื่อเห็นสภาพเปียกมะลอกมะแลกของเธอ

                ฝนตกค่ะอาจารย์ หนูติดฝนเลยมาไม่ได้เธอบอกอ่อยๆ ก่อนจะเดินไปทรุดตัวลงนั่งด้านหน้าสุดไม่ใช่เพราะเธอขยันเรียนเลยอยากตั้งใจฟังอาจารย์สอนหรอกนะ

                แต่เป็นเพราะว่าด้านหลังเพื่อนที่มาก่อนนั่งกันเต็มหมดแล้วต่างหากล่ะ อาจารย์พยักหน้ารับไม่พูดอะไรตามแบบฉบับอาจารย์คณะนี้

                เอาล่ะติรณา เพื่อนๆเขากำลังเรียนกันถึงทฤษฏีการทำคลอด เดี๋ยวอีกหนึ่งชั่วโมงเราจะไปห้อง lab การทำคลอดกับหุ่นกัน

    อาจารย์สุภาวดี อาจารย์ที่สอนวิชาสูติที่สวยที่สุดในคณะบอกขึ้น ทุกคนตั้งใจฟังเต็มที่ ไม่มีใครมีทีท่าง่วงนอนเพราะการทำคลอดเป็นชั่วโมงที่ทุกคนรู้สึกตื่นเต้นและอยากจะเรียนมากที่สุด

                ตื่นเต้นจังเลยนะ เทอมหน้าเราก็จะได้หัดทำคลอดจริงๆแล้วอยากให้ถึงเร็วๆอฉวีวรรณเอ่ยขึ้น ขณะที่รอเรียนวิชานี้

                นั่นสิ ผู้หญิงนี่ทรมานนะ กว่าจะอุ้มท้องมาครบเก้าเดือน พอจะคลอดก็ยากอีก บางทีคลอดธรรมดาไม่ได้ก็ต้องผ่าหรือไม่ก็ดูดออกติรณาเห็นด้วย

                ลูกตัวเล็กไปก็ไม่ได้ ตัวใหญ่ไปก็คลอดลำบาก สาบานเลย ฉันไม่ยอมมีลูกเด็ดขาดปริศนาบอกขึ้นพร้อมกับส่ายหน้าดิก   

                ผิดกับฉันนะ ฉันว่าการได้คลอดลูกนี่แหละถือเป็นหน้าที่ที่น่าภูมิใจของผู้หญิงเลยล่ะติรณาบอกแล้วทำท่าเคลิ้มฝัน

                เว่อร์ไปแล้ว คำพูดกับหน้าตาไม่ได้ไปด้วยกันเลยนะแกนี่ปริศนาหันมามองเพื่อนอย่างหมั่นไส้

                ใช่…..ท่าทางยังกะทอม แค่นอยากจะเป็นแม่คน แหม…….เมื่อก่อนไม่เห็นเป็นงี้เลย พอมีผู้ชายเข้ามาจีบเข้าหน่อยเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือขึ้นมาเชียวฉวีวรรณแซวขึ้น

                บ้า……..พวกแกนี่ ไปเรียนได้แล้วติรณาบอกพร้อมกับลากเพื่อนเข้าห้องเรียนไป

                จนกระทั่งถึงเวลาเลิกเรียนทุกคนจึงทยอยกันออกมาจากห้องเรียนด้วยท่าทีที่แตกต่างกันไป บางคนสีหน้าตื่นเต้น บางคนทำท่าหวาดเสียว โดยเฉพาะกลุ่มของติรณา

                โหย………ฉันไม่คิดเลยนะว่าการทำคลอดมันจะยากเย็นขนาดนี้ บางทีเอาหัวเด็กออกมาได้ยังติดไหล่ออกมาไม่ได้อีก ขนาดแค่หุ่นไม่มีชีวิตยังน่ากลัวขนาดนี้แล้วถ้าเกิดเป็นเด็กจริงๆขึ้นมาจะทำยังๆไงฉวีวรรณบอกแล้วทำท่าขนลุก ติรณาหน้าเสีย

                จริงด้วย ฉันว่าฉันไม่อยากจะเป็นแม่คนแล้วล่ะ ฉันขอภาคภูมิใจเรื่องอื่นดีกว่าติรณาบอกพร้อมกับชะเง้อคอมองออกไปหน้าคณะ

                โธ่เอ้ย……..นึกว่าจะแน่ แค่เห็นเด็กคลอดติดไหล่แค่นี้ก็กลัวซะแล้ว แล้วนี่แกมองหาใครปริศนาหันมาถามเมื่อเห็นท่าทางลุกลี้ลุกลนของเพื่อน

                เปล๊า…..พวกแกกลับก่อนเถอะ ฉันขอไปค้นหนังสือในห้องสมุดก่อนติรณารีบปฏิเสธแล้วเดินเลยเข้าห้องสมุดของคณะไป ปล่อยให้เพื่อนมองตามงงๆ

                ติรณาค่อยๆ โผล่หน้าออกมาดูเมื่อเห็นเพื่อนๆออกไปหมดแล้วถึงได้ออกมา พบว่าทรงรบมานั่งรอเธออยู่ก่อนแล้ว

                ไหนบอกว่าเลิกเรียน 5 โมงไง นี่มันจะหกโมงแล้ว เพื่อนเธอกลับกันหมดแล้วทำไมพึ่งจะออกมาเขาถามเสียงห้วน ติรณาหน้าตึง

                ไม่พอใจจะรอ ทำไมไม่ฝากกุญแจเอาไว้กับน้ายามล่ะเธอแหวกลับเสียงแหลม เขาถอนหายใจยาวขี้เกียจเถียงด้วย

                ไม่ใช่อย่างนั้นแต่ฉันชอบคนตรงต่อเวลา เอาล่ะๆอย่าให้เรื่องเล็กๆแค่นี้ต้องกลายเป็นเรื่องใหญ่เลยน่า ว่าแต่เธอหายโกรธฉันรึยังเขาหันมาถาม ทำให้หญิงสาวพึ่งนึกได้ว่าเธอกำลังโกรธเขาอยู่แต่แกล้งทำเป็นปากแข็ง

                โกรธ? เรื่องอะไรที่ฉันจะต้องไปโกรธนาย นายไปทำอะไรมาให้ฉันโกรธงันเหรอติรณาเลิกคิ้วย้อนถามเสียงเรียบ

                ก็เรื่องโทรศัพท์เมื่อวานยังไงล่ะ พอดีว่าต้นอ้อเขาไม่สบายมาก เขาไม่มีใครเลยทรงรบบอกตามตรง ติรณาทำท่าคอแข็งเชิดหน้าขึ้นก่อนตอบด้วยเสียงที่พยายามทำให้ราบเรียบอย่างที่สุด

                เรื่องของนาย นายจะไปทำอะไรยังไงก็เชิญ ฉันไม่สนใจหรอกย่ะหญิงสาวบอกพร้อมกับสะบัดหน้าพรืดจนชายหนุ่มต้องหัวเราะชึ้นมากับท่าทางนั้น

                ปากบอกว่าไม่สนแต่ดูท่าทางเธอสิ หึงฉันชัดๆเขายั่วเย้า หญิงสาวหน้าแดงจัดทำท่าจะเงื้อมือจะฟาดไปที่หลังเขาแต่โทรศัพท์ของเขาดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน

                ฮัลโล……..รบเหรอจ้ะ อ้อกำลังจะออกจากโรงพยาบาลวันนี้ รบช่วยมารับอ้อหน่อยได้ไหมคะ อ้อไม่มีใครเลย

                แต่……..”ชายหนุ่มทำท่าอึกอักหันมาทางติรณาอย่างเกรงใจ เมื่อเห็นอีกฝ่ายเชิดหน้าคอแข็งขึ้นยิ่งกว่าเดิมเสียอีก

                นะคะรบ อ้อกลัว รบมาอยู่เป็นเพื่อนอ้อหน่อยนะคะ วินเขาโทรเข้ามาขู่ว่าจะทำร้ายอ้อ เขากลัวว่าอ้อจะเอาเรื่องของอ้อกับเขาไปบอกคนอื่นๆต้นอ้อบอกขึ้นพลางร้องไห้สะอึกสะอื้นจนทรงรบต้องรีบรับคำ หลังจากวางสายแล้วเขาก็หันมาทางติรณาอย่างหวาดๆ

                ฉันจะกลับเอง นายไม่ต้องไปส่งแล้วก็ไม่ต้องขึนรถไปกับฉันด้วย หาทางกลับเอาเองก็แล้วกันหญิงสาวบอกขึ้นแล้วก็ขับรถออกไปเลย

                ทิ้งให้ทรงรบยืนมองตามหลังเธอไปอย่างอึดอัด โน่นก็คนรักส่วนอีกคนก็แฟนเก่าที่หน้าสงสารจนทิ้งไม่ลง

               

                *************************************************************************************************

                เป็นอะไรอีกล่ะยัยติน นั่งหน้าหงิกเป็นม้าหมากรุกอีกแล้วนะฉวีวรรณถามขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนรักเดินหน้ามุ่ยเข้ามาในห้อง

                เซ็งคน………ฉันเปลี่ยนใจไม่อยากมีแฟนแล้วล่ะฉวีวรรณ ผู้ชายนี่มันเฮงซวยชะมัดเลยติรณาบอกขึ้น มือคว้าน้ำดื่มมาดื่มอักๆระบายอารมณ์

                พอได้แล้ว เดี๋ยวได้ท้องแตกตายกันพอดี เป็นบ้าอะไรอีกยะติรณาไม่ตอบคำถาม หากแต่โผเข้ากอดเพื่อนเต็มแรง พร้อมสะอื้นฮักๆ

                ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองเป็นอะไร รู้แต่ว่ามันผิดหวัง……..ผิดหวังที่เอานายทรงรบนั่นเป็นแฟนพูดมาแล้วอดน้ำตาร่วงอีกไม่ได้ ฉวีวรรณที่กำลังจะอ้าปากมาต่อว่าเลยต้องหันมาปลอบใจแทน

                ร้องไห้ไปทำไมล่ะ ถ้ามีแฟนแล้วมันไม่ดีก็อย่าไปมีมันสิ ฉันเองก็ไม่มีแฟนเหมือนกันไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยติรณาฟังแล้วนั่งคิดตามก่อนพยักหน้าเห็นด้วย

                จริงสินะ มีแฟนแล้วมันก็ไม่ได้ดีอย่างที่คิดเลย สงสัยฉันคงอ่านนิยายมากไป พอไม่ได้แบบนั้นเลยอดเสียใจไม่ได้น่ะบอกแล้วก็หัวเราะเบาๆขำให้กับความคิดไร้สาระของตัวเอง

                ต้องให้มันได้อย่างนี้สิ ถึงจะกลับมาเป็นติรณาคนเดิม เออนี่……มัวแต่ปลอบใจแก เห็นใบประกาศที่ติดอยู่หน้าหอไหม เขาจะให้พวกที่เรียนอยู่ปี 2-4 ย้ายออกเพื่อเอาน้องปี 1 มาอยู่แทนคำบอกเล่านั้นทำเอาติรณาตกใจมาก

                ว่าไงนะ………แล้วพวกเราจะไปอยู่ที่ไหนกันล่ะ

                คงต้องออกไปอยู่หอพักข้างนอกปริศนาเป็นฝ่ายบอกขึ้น ติรณาพยักหน้ารับอย่างเหนื่อยหน่ายใจกับเรื่องราวมากมายที่มาพร้อมๆกัน

                และในวันย้ายหอพักสามสาวจึงได้ช่วยกันขนย้ายข้าวของมากมายนั้นอย่างทุลักทุเล    

                ยัยติน ทำไมของห้องแกมันถึงได้เยอะแยะอย่างนี้นะ ฉันขนจนมือหงิกไปหมดแล้วฉวีวรรณบ่นกระปอดกระแปด เมื่อข้าวของของติรณามีมากมายกว่าของคนอื่นๆหลายเท่า

                เฮ้ย…….แล้วกล่องหนังสือใหญ่ๆพวกนี้ใครจะยก เกือบสิบกิโลได้มั้งเนี่ยปริศนายืนเท้าสะเอวมองกล่องหนังสืออย่างเหนื่อยใจ

                ฉันยกไปเองทรงรบที่มายืนฟังสามสาวตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้บอกขึ้น ติรณาหันขวับมามอง หน้าตึงเมื่อเห็นว่าเป็นใคร

                ไม่ต้อง! ของแค่นี้พวกเรายกไปกันเองได้

                เฮ้ย!”ปริศนากับฉวีวรรณอุทานขึ้นพร้อมกัน ติรณาหันมาถลึงตาใส่เพื่อน

                นี่…….อย่ามายุ่งนะติรณาถลาเข้าไปยื้อยุดกล่องหนังสือของตัวเองไว้เมื่อเห็นทรงรบทำท่าจะยกไปให้ เขาเงยหน้าขึ้นมองเธออย่างเหนื่อยใจ

                อย่าเล่นตัวได้ไหม ยกไปไม่ได้ก็บอกว่ายกไปไม่ได้ อย่าอวดเก่งติรณาหน้าตึงขยับปากจะกรี๊ดแต่ฉวีวรรณรู้ทันรีบยกมือปิดปากเพื่อนเอาไว้ทัน พร้อมกับกระซิบ

                อย่านะ……เขามาช่วยก็ดีแล้ว ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วรู้มั้ย หรือแกอยากจะขนคนเดียวฉวีวรรณขู่ ติรณานิ่งเงียบหุบปากทันที กลัวว่าจะต้องขนของหนักๆพวกนี้คนเดียว

                ก็ได้……ขนดีๆล่ะ อย่าให้ข้าวของฉันเสียหายติรณาบอกห้วนๆก่อนจะยอมให้เขาขนของเข้าไปในหอพักให้

                จะว่าไป ฉันว่าเขาก็น่ารักดีออกนะ ดูสิ…….มาช่วยขนของแต่เช้า แกยังจะว่าเขาไม่ดีอีกทรงรบกลายเป็นหัวข้อสนทนาของสามสาวอีกครั้ง เมื่อเขาขนของเดินห่างออกไปพอที่จะไม่ได้ยินเสียงพูดคุยของพวกเธอ

                นั่นสิ……ถ้าไม่ได้เขา เราแย่เลยนะ ดูสิของหนักขนาดนั้น ขืนยกเองมีหวังมดลูกหย่อนกันพอดีฉวีวรรณพูดเสริมอีกคน

                เฮอะ! หน้าไหว้หลังหลอก พวกแกไม่รู้หรอกว่าลับหลังพวกแกเขาทำอะไรกับฉันไว้บ้างติรณาบอกแววตาแค้นเคือง

                ติน! ฉันจะบอกอะไรแกอย่างหนึ่งนะ ชีวิตคนเรามันไม่เหมือนนิยาย ไม่เหมือนหนังเกาหลีที่แกชอบดู พระเอกจะได้ดีไปหมดทุกอย่าง แกนึกถึงแง่ดีของเขาบ้างสิ แล้วเอามาหักลบกันดูว่าสิ่งที่เขาทำไม่ดีกับแกมันเลวร้ายถึงขนาดคบไม่ได้เลยเหรอปริศนาสอนยืดยาว

                ติรณานิ่งคิดตาม ใจนึกถึงตอนที่เขาขับรถตากฝนขับมาส่งเธอถึงหน้าคณะแล้วยังช่วยเอาตัวมาบังให้อีกแถมวันนี้ก็มาช่วยขนของทั้งวัน

    แล้วที่สำคัญเขาเคยช่วยเธอจากการถูกมาวินข่มเหงอีกแล้วนี่เธอจะโกรธเขาจนไม่ยอมฟังเหตุผลของเขาเลยเชียวหรือคิดได้อย่างนั้นแล้วเธอจึงยืนมองตามหลังเขาเงียบๆ แววตาอ่อนลง

                นี่……เย็นแล้ว เราสองคนต้องไปเต้นแอโรบิกแกคงไม่ออกไปกับพวกเราตามเคยล่ะสิ ของในห้องแกจัดรอไปก่อนนะปริศนาหันมาบอกหลังจากขนของชิ้นสุดท้ายเสร็จแล้ว

                อืม……..พวกแกไปเถอะ ฉันไม่ชอบไปเต้นติรณาบอกเพื่อนพลางลงมือจัดของไปด้วย สองสาวโบกมือลาก่อนจะเดินไปขึ้นรถประจำทางออกไป แล้วหญิงสาวก็หันกลับมามองทรงรบเก้อๆ เมื่อเหลือเพียงเขากับเธอในห้อง

                ขอบใจนะ นายกลับไปได้แล้วล่ะ เย็นมากแล้วเธอบอกเสียงอ่อย

                ยังก่อน เดี๋ยวฉันจะช่วยเธอจัดของเขาไม่รอให้เธอปฏิเสธ รีบถือวิสาสะเข้าไปในห้องลงมือเก็บกวาดจัดห้องให้เธอใหม่อย่างคล่องแคล่ว

                ของอะไรที่ไม่ได้ใช้แล้ว อย่างกระดาษพวกนี้ กระปุกอะไรที่ไม่ใช้แล้วทิ้งๆมันไปซะแล้ว เก็บของยัดมาลวกๆแบบนี้ เป็นผู้หญิงประสาอะไรเขาบ่นไปแล้วก็จัดข้าวของให้ไปด้วย

                หญิงสาวแอบเบ้หน้าใส่เขาด้วยความหมั่นไส้ พลางมองเขานั่งพับเพียบพับเสื้อผ้าเธอใส่ในตู้เสื้อผ้าอย่างทึ่งจัด อดรู้สึกดีๆกับเขาขึ้นมาไม่ได้

                สายตาของเธอมองตามเขาอย่างชื่นชมก่อนที่มันจะแปรเปลี่ยนเป็นไม่ไว้ใจเมื่อที่ควานหาจะเอานิตยสารคลีโอที่เธอชอบอ่านมาเก็บบนชั้นวาง

                แต่พัดลมเจ้ากรรมดันพัดกระดาษให้เปิดไปที่คอลัมน์หนึ่งพอดิบพอดี ราวกับพระเจ้าตั้งใจดลบันดาลให้เธอเห็นหน้านั้นอย่างนั้นแหละ

                ระวัง! แฟนที่คุณคบอยู่จะเป็นเกย์หัวข้อนี้สะดุดสายตาเธอเข้าอย่างจัง รีบหยิบมันขึ้นมานั่งอ่านคร่าวๆ

                เฮ้ย……หนังสือเล่มนี้ซื้อมาตั้งนาน ทำไมหน้านี้ฉันไม่เคยอ่านมาก่อนเลยนะ หญิงสาวกวาดสายตาอ่านไปมาอีกหลายรอบ

                วิธีสังเกตอาการของพวกแกย์ ข้อ 1. นิ้วก้อยมักจะชี้ขึ้นเวลาหยิบสิ่งของ เวลาเผลอมักจะทำตัวเรียบร้อยบางทีอาจจะมีการแสดงความจุกจิกขี้บ่นเหมือนผู้หญิงทั้งที่เวลาปกติมักจะแสดงกิริยาก้าวร้าวบังหน้าติรณาอ่านขมุบขมิบกลัวว่าเขาจะได้ยิน

                ตายล่ะ……นี่แค่ข้อแรก นายนั่นก็เข้าเค้าหมดเลย

                ติรณาเหลือบตามองทรงรบที่กำลังนั่งพับเพียบพับผ้าอยู่อย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร เธอถอนหายใจอย่างกลัวๆ

    กวาดสายตามองไปยังนิ้วก้อยของเขาที่เธอเห็นว่ามันกระดกขึ้นนิดนึง ถ้าหากว่าคนมองไม่คิดระแวงจนเกินไปนัก

    เสื้อผ้าพวกนี้ก็เหมือนกันนะ ตัวไหนที่ไม่ใส่แล้วก็เอาออกไปซะมั่ง จะเอาไปบริจาคหรือเอาไปทำเป็นผ้าขี้ริ้วก็ได้ ไม่ใช่ปล่อยให้มันรกตู้แบบนี้เขาบ่นแล้วส่ายหน้าให้กับความไม่เป็นกุลสตรีของเธอต่อไปถ้าเขาพาเธอเข้าบ้าน มีหวังแม่เขาคงลมจับวันละสามสี่รอบ

    เป็นอะไรไปเขาหันมาถาม หญิงสาวสะดุ้งเฮือก รีบปฏิเสธอย่างร้อนตัว

    เปล่านะ ฉันแค่คิดว่าจะจัดห้องยังไงดี ไม่ได้ระแวงหรือสงสัยอะไรใครเลยนะเธอโบกไม้โบกมือปฏิเสธวุ่นวาย

    เป็นบ้าอะไรของเธอ รีบจัดของเร็วๆเข้าสิฉันหิวแล้วเขาบอกขึ้น ติรณารีบรับคำแต่กลับหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านต่อเมื่อเขาเผลอ

    ถ้าตกใจ เกย์จะเผลอแสดงอาการกรี๊ดกร๊าดออกมา เพราะลืมการควบคุมตัวเอง

    อืม……ข้อนี้ท่าจะดีนะ แต่จะทำยังไงเขาถึงจะตกใจล่ะ

    หญิงสาวกวาดสายตามองหาตัวช่วยก่อนจะยิ้มกริ่มเมื่อเจอเชือกรัดของสีดำสนิท ยาวขนาดพอเหมาะมองไปคล้ายๆงูตัวยาว

    เฮ้ย! งูเธอตะโกนเสียงดังลั่น พร้อมกับโยนงูปลอมออกไปตรงหน้าเขา

    เฮ้ยเขาตกใจ ถลาลุกขึ้น แต่แทนที่จะวิ่งหนีหรือกรี๊ดลั่นอย่างที่เธอคาดการณ์ เขากระโดขึ้นเหยียบงูปลอมของเธอซะบี้แบน

    เขาเงยหน้าขึ้นมองเธออย่างหงุดหงิดเมื่อเห็นว่างูที่เขาเหยียบไปเต็มแรงนั้นแท้ที่จริงแล้วมันคือเชือกรัดของดีๆนี่เอง

    เล่นอะไรของเธอ โตแล้วนะ เล่นอะไรเป็นเด็กๆไปได้เขาว่าเสียงดุ ติรณาหน้าเจื่อน ได้แต่ส่งยิ้มเก้อๆกลับไปให้

    แหม……ก็ฉันเห็นนายเครียดๆน่ะ ก็เลยอยากสร้างบรรยากาศ

    โธ่เอ้ย……ไม่เห็นจะได้ผลเลย เห็นที่จะต้องพึ่งพี่โป๊ ที่เรียนคณะเดียวกับเธอซะแล้ว เกย์มักจะดูเกย์ด้วยกันออก

    เฮ้อ……นี่ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยเดิมอีกแล้วเหรอเนี่ย แฟนคนแรกก็เป็นเกย์ คนนี้ก็ยังทำท่าจะเป็นเกย์อีกเหรอ

    ผู้ชายยิ่งมีน้อยๆอยู่แล้วยังจะมาเป็นตุ๊ดเป็นเกย์ซะอีก

    เอ้า…..เหม่ออยู่นั่นแหละ นี่ห้องเธอนะ ไม่ใช่ห้องฉัน ไม่เห็นจะช่วยอะไรเลย พอแค่นี้ก่อน ฉันหิวมากแล้วเขาบอกแล้วตรงเข้าฉุดแขนเธอลุก เธอเดินตามหลังเขาอย่างว่าง่าย

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×