คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : ปากแข็ง
“ติน
เร็วเข้าเถอะ วันนี้เขามีให้เลือกชมรม เดี๋ยวเต็ม”ฉวีวรรณกับปริศนาเร่งเร้าเมื่อเห็นติรณาแต่งตัวยังไม่เสร็จซะที
“เสร็จแล้วๆ”ติรณาถลาออกมา ฉวีวรรณมองเธออย่างแปลกใจกับการแต่งตัวที่ดูแปลกตากว่าทุกวันนั้น ติรณายิ้มเขิน
“นึกยังไงแต่งตัวซะสวยเชียว”
“สวยเหรอ? ไม่นะก็กระโปรงธรรมดาเพียงแต่เสื้อมันดูหวานๆหน่อยเท่านั้นเอง แม่ซื้อให้นานแล้วล่ะแต่ไม่เคยเอามาใส่ซะที”
บอกพร้อมกับก้มลงมองเสื้อลูกไม้สีชมพูนั้นกับกระโปรงบางเบาสีเดียวกัน ผมยาวสลวยของเธอปล่อยสยายเต็มแผ่นหลังพร้อมด้วยผ้าคาดผมสีขาวสลับดำดูแปลกตา
เนื่องจากทุกวันเธอจะมัดรวบเป็นหางม้าไม่เคยปล่อยยาวตรงแบบนี้และนอกจากกระโปรงนักศึกษาแล้วเธอแทบไม่เคยใส่กระโปรงตัวอื่นเลยวันนี้หญิงสาวจึงดูสวยอ่อนหวานจนแม้แต่เพื่อนร่วมห้องที่เห็นหน้ากันทุกวันยังอดทักขึ้นมาไม่ได้
“อืม
.คงเป็นเพราะทรงผมมั้ง แต่ก็ดูสวยขึ้นนะ”ฉวีวรรณชมตามความจริง ติรณายิ้มเขินมองตัวเองในกระจกเงาบานใหญ่ก่อนจะรีบเดินตามหลังเพื่อนเพื่อไปเลือกชมรม
“ติน เขามีการดูไพ่ยิปซีด้วย ไปดูกันเถอะ”ปริศนาหันมาลากแขนเธอไปอีกทางคนมุงดูไพ่กันเยอะมากจนเธอถอดใจไม่อยากรอแต่ปริศนาขอให้อยู่เป็นเพื่อน
พอถึงคิวติรณาเลือกไพ่ใบหนึ่งขึ้นมา คนที่ทำหน้าที่เป็นหมอดูเงยหน้าขึ้นมองเธอแวบหนึ่งก่อนจะอ่านคำทำนายตามความหมายของไพ่
“เจอเนื้อคู่แล้วนี่
.แต่ไม่แน่ใจว่าใช่คู่แท้รึเปล่าแต่จะได้คบกันนานและจะมีเข้ามาอีกคนหนึ่งมาทำให้เราตัดสินใจลำบาก”ติรณาส่ายหน้าขำๆให้กับคำทำนายนั้น
“ไม่มีหรอกค่ะ อย่าว่าแต่สองคนเลยแค่คนเดียวยังไม่มีเลย”
“แต่ไพ่มันบอกแบบนี้นี่ ไม่แน่นะเนื้อคู่อาจจะเดินเตร่อยู่แถวนี้ก็ได้ มองๆไปอาจจะเผลอสบตาเข้าแล้วก็ได้นะ”หมอดูบอกเสียงใส ติรณาขำๆก่อนจะแกล้งสอดสายตาหาเนื้อคู่
“ไหนน๊า
เนื้อคู่ อยู่ไหน”เธอแกล้งหาพร้อมกับส่งเสียงไปด้วย
แต่ต้องดึงสายตากลับแทบไม่ทัน เมื่อสายตาปะทะเข้ากับนายทรงรบ คนที่เธอบอกกับตัวเองว่าเกลียดขี้หน้าเขาเป็นที่สุด
“แต่ช่วงนี้จะมีเคราะห์เรื่องชู้สาวนะระวังตัวเองให้ดี พยายามอย่าอยู่กับผุ้ชายตามลำพัง”หมอดูยังคงบอกต่อ ทำให้ติรณามีสีหน้าครุ่นคิด
เพราะปกติเธอก็ไม่ค่อยจะได้ออกไปไหนมาไหนกับผู้ชายตามลำพังอยู่แล้วนอกจากมาวิน ซึ่งเขาก็เป็นสุภาพบุรุษออกจะตายไปเขาไม่มีวันคิดทำอะไรเธอแน่ๆ แล้วความคิดเพลินๆของเธอก็สะดุดลงเมื่อได้ยินเสียงฉวีวรรณดังขัดจังหวะขึ้น
“เอ๊ะ
ติน นั่นมันมาวินนี่นา ใช่หรือเปล่าแกดูดีๆสิ”ฉวีวรรณชี้มือไปทางด้านหลัง เธอมองตามก่อนที่จะอุทานขึ้นอย่างดีใจก่อนที่จะปลายตามองไปทางทรงรบพร้อมกับคิดวางแผนการร้ายอะไรบางอย่างในใจคนเดียว
“ใช่! ใช่จริงๆด้วย”ติรณาถลาเข้าไปหาเขาโดยไม่รอเพื่อนสาวอีกสองคนที่นั่งอ้าปากเหวออยู่
“วิน!”ติรณาเดินเข้าไปทัก ชายหนุ่มหันกลับมามองแล้วยิ้มอย่างยินดีพร้อมกับถือโอกาสดึงมือเธอมาเขย่าอย่างดีใจแถมไม่ยอมปล่อยมือเธอซะนาน เธอก้มหน้ามองมือนั้นเขินๆ
“เอ่อ
ขอโทษจ้ะ เราดีใจจนลืมตัว”แกล้งบอกเสียงอ่อย ติรณาหัวเราะเสียงใส
“ไม่เป็นไรจ้ะ ว่าแต่วินไปไหนมา ทำไมเมื่อวานถึงได้ปล่อยให้ตินรอตั้งนาน โทรไปก็ไม่ยอมรับสายแถมยังไม่ยอมโทรมาบอกเรา”เธอต่อว่าเขาแล้วก็ดึงมือกลับงอนๆ
“เอ๊ะ
..เราพึ่งมาถึงเมื่อวานเย็นๆนี่เองนะแล้วโทรศัพท์ก็เสียเลยไม่ได้โทรหาตินกะไว้ว่าหลังสมัครเข้าชมรมเสร็จแล้วจะไปหาตินอยู่พอดีเลย”มาวินบอกขึ้นอย่างนั้น ทำให้ติรณาต้องขมวดคิ้วมุ่นอย่างใช้ความคิดหนัก
ว่าถ้าเขาไม่ได้เป็นคนส่งข้อความมานัดเธอแล้วข้อความนั้นกับช่อดอกไม้เมื่อวานล่ะเป็นของใคร? แต่หญิงสาวก็หยุดความคิดสงสัยไว้แค่นั้นเมื่อมาวินดึงตัวเธอไปอีกทาง
“ไปดูทางชมรมบาสกันเถอะ แล้วนี่ตินเลือกชมรมได้รึยัง”
“ได้แล้ว
..เราเลือกชมรมแล้ว เทควันโด”บอกอย่างภูมิใจ มาวินตาโต มองหญิงสาวตัวเล็กๆตรงหน้าอย่างทึ่งจัด
“เทควันโด โห
..เรียนไปทำไมกัน หน้าตาหวานๆ ตัวเล็กๆแบบนี้จะไหวเร้อ”เขาขึ้นเสียงสูง มองเธออย่างประหลาดใจ
“อย่าดูถูกนะ ไม่เชื่อจะลองชิมหมัดดูไหมล่ะ”บอกท้าทายพร้อมกับแกล้งชูหมัดขึ้น เขาหัวเราะขำๆกับความติงต๊องของเธอ
“แต่ไม่เป็นไรเดี๋ยวเราไปเป็นเพื่อนเอง”
“ป่ะ
..เราจะพาทัวร์เอง”หญิงสาวบอกขึ้นพร้อมกับเดินนำหน้าแกล้งเดินควงแขนเขาโฉบไปโฉบมา โดยเฉพาะแถวชมรมของพวกวิศวะ แน่นอนว่า นายทรงรบนั่นกำลังยืนมองเธอยู่อยู่
ติรณาเดินควงแขนเขาเดินดูนั่นดูนี่อย่างอารมณ์ดีเป็นพิเศษจนไม่ทันสังเกตว่าคู่ควงเธอหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่
หายไปไหนของเขานะ
“อุ๊ย”หญิงสาวอุทานขึ้นอย่างตกใจ เมื่อหันหลังกลับมาเจอเข้ากับกระถางดอกไม้เล็กๆปลูกต้นผีเสื้อ ออกดอกสีม่วงอ่อนเต็มต้น กลีบของมันบานสะพรั่งมีหยดน้ำเกาะพราวส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ
“ดอกไม้นี่ มันน่ารักดีนะ ดูสดใส เหมือนตินไงล่ะ”มาวินบอกเสียงหวาน สบตาคนตรงหน้าด้วยสายตาหวานซึ้ง ติรณายิ้มอายๆ
“ให้เราเหรอ?”
“ใช่
ดูแลมันให้ดีๆนะ ให้มันเป็นตัวแทนของเรา ถ้าลืมให้น้ำให้ปุ๋ย วันนั้นก็ให้คิดว่าเรากำลังอดข้าวอยู่”
“มันเกี่ยวกันไหมนี่”ส่ายหน้าขำๆให้กับสำนวนลิเกของเขา มาวินยิ้มเขินๆ
“เราหิวจนแสบไส้แล้วล่ะ ข้างหน้านี่มีร้านนมกับกาแฟ เราไปทานกันนะ”เขาทำตาระห้อย ยกมือขึ้นลูบท้องอย่างน่าสงสาร ติรณาพยักหน้ารับ เดินตามเขาไปเงียบๆอย่างอารมณ์ดี
“เชิญจ้ะ”เขาเลื่อนเก้าอี้ให้ หญิงสาวหัวใจพองโต รู้สึกเหมือนกับตัวเองเป็นเจ้าหญิงขึ้นมาทันทีซะอย่างนั้น ช่างต่างกันกับเวลาอยู่กับนายทรงรบนั่นยังกะฟ้ากับดินแล้วอย่างนี้นะเหรอที่เขาบอกว่าจะแย่งเธอมาจากมาวินให้ได้
เชอะ
..ไม่มีทางซะล่ะ
“สั่งอะไรดีครับ เต็มที่เลยนะไม่ต้องเกรงใจ”เขาบอกขึ้นพร้อมกับหันไปสั่งคาปูชิโนสำหรับเขาและน้ำส้มคั้นสำหรับเธอ
ตลอดเวลาที่นั่งคุยกันเขาช่างสรรหาคำพูดมากมายมาเล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้มาให้เธอฟังได้ไม่หยุด ติรณานั่งเท้าคางฟังอย่างเพลิดเพลินจนทานเสร็จเขาถึงได้เดินมาส่งเธอถึงหน้าหอพัก
“ติน
.”ชายหนุ่มรีบเรียกเธอเอาไว้ทำให้ติรณาที่กำลังจะเดินหันหลังกลับเข้าหอพักต้องหันขวับกลับมามองอย่างแปลกใจ
คิ้วคู่งามเลิกขึ้นเล็กน้อยก่อนจะหน้าแดงจัดเป็นลูกตำลึงสุกเมื่อเขายื่นกล่องกำมะหยี่สีแดงเข้มให้เธอ หญิงสาวยื่นมือออกไปรับก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเขาเขินๆ
“เนื่องในโอกาสอะไรคะ”
“เนื่องในโอกาสที่เรารักตินน่ะสิ”เขาบอกขึ้นยิ้มๆ
“วิน
.”ติรณาอุทานอย่างตกใจระคนตื่นเต้น
“เปิดดูข้างในสิ”เขาบอกขึ้นเสียงหวานหญิงสาวจึงได้เปิดกล่องเล็กๆนั้นออกด๓พบว่าภายในนั้นเป็นสร้อยเพชรเล็กๆมีจี้เป็นทับทิมรูปหัวใจ เพชรเม็ดเล็กๆนั้นส่องแสงแวววาวสวยงามบ่งบอกได้ถึงราคาของมันเป็นอย่างดี
“วิน
..นี่มันแพงไปนะ”
“ไม่มีอะไรที่จะแพงไปกว่าความรักของเราหรอก เราใส่ให้นะ”มาวินบอกพร้อมกับหยิบสร้อยเส้นนั้นค่อยๆบรรจงใส่ที่คอให้เธอแผ่วเบา
“ขอบคุณนะ”
“หลับฝันดีนะครับ”ชายหนุ่มยอดคำหวานจนเธอเคลิ้มก่อนจะพยักหน้าอายๆแล้วเดินกลับเข้าไปในหอพัก
แต่ต้องตกใจแทบช็อคเมื่อมีมือแข็งๆมาคว้าเธอเอาไว้พร้อมกับลากร่างเธอไปยังพุ่มไม้ด้านข้างหอพัก หญิงสาวตัวแข็งทื่อขยับปากจะกรีดร้อง
ก็พอดีกับที่ชายคนนั้นยื่นมือออกมาตะปปปากเธอเอาไว้ ติรณาเบิกตากว้างอย่างตกใจก่อนจะเปลี่ยนเป็นกราดเกรี้ยวเมื่อพบว่าเขาคือทรงรบ
“ปล่อย! ปล่อยฉันนะ นายถือสิทธิอะไรมาจับมือฉัน”ติรณาตะโกนเสียงกราดเกรี้ยวไม่สนใจว่าคนที่เดินผ่านไปมาจะหันกลับมามองหรือไม่
“อย่าเล่นตัวไปหน่อยเลยน่ะ ที่กับนายนั่น เธอยังไปนั่งกินนมชมวิวกับมันเลย”เขาเสียงเข้มอย่างลืมตัว ติรณาหน้าตึง
“นี่
นี่นายแอบดูฉันเหรอ”ชี้หน้าด่าเขาอย่างโมโห
“ไม่เห็นจะต้องแอบ ในเมื่อควงกันออกโจ่งแจ้งขนาดนั้น”น้ำเสียงอดไม่ได้ที่จะประชดประชัน ไม่รู้ตัวว่าแสดงอาการหึงออกไป
“เรื่องของฉัน ฉันจะไปไหนมาไหนกับใครแล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายไม่ทราบ”ติรณาเชิดหน้าถามเย้ยหยัน เขาหรี่ตามองคนตรงหน้าอย่างหมั่นไส้ ติรณาสะบัดแขนเต็มแรงให้หลุดจากการเกาะกุมของเขาก่อนจะหมุนตัวหันหลังกลับ
“เดี๋ยว!”เขาตะโกนเรียก หญิงสาวหันหลังกลับมามอง
“อาทิตย์หน้าวันลอยกระทง มีคนลอยด้วยรึยัง”จู่ๆเขาก็ถามขึ้นมาลอยๆ ไม่บ่งบอกว่าต้องการอะไรกับคำถามนั้น
“นี่นายกำลังจะชวนฉันไปงานลอยกระทงงั้นเหรอ?”เธอถามเสียงสูงอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง สงสัยเราคงจะไม่ได้แคะหูมาหลายวัน
นี่คือวิธีการแย่งผู้หญิงมาจากศัตรูของเขาอย่างนั้นเหรอ ถ้าทำสำเร็จเธอคงจะเป็นผู้หญิงที่โง่งมและบ้าที่สุดในโลกเลย
“เปล๊า
..ฉันแค่ถามดูเผื่อเธอยังหาใครมาลอยด้วยไม่ได้ ฉันจะได้ให้เกียรติไปลอยด้วยสักชั่วโมงสองชั่วโมง”เขาบอกหน้าตาเฉย ติรณาเบ้ปากเซ็งๆ มองหน้าเขาอย่างหมั่นไส้
“เชอะ! ไม่มีทางหรอกย่ะ ถึงฉันจะไม่มีคู่ลอย ฉันก็ไม่มีวันลอยกับนายหรอก”เธอตอบชัดถ้อยชัดคำพร้อมกับสะบัดหน้าหันหลังกลับเดินหนีไปอีกทาง
“แต่ฉันรู้ว่าเธอไม่มีทางปฏิเสธฉันได้แน่ๆ”เขาตะโกนตามหลัง หญิงสาวไม่สนใจฟังรีบสาวเท้าเดินขึ้นหอพักไปก่อนที่อารมณ์ขุ่นมัวนั้นจะระเบิดขึ้น
ความคิดเห็น