ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มาเรียนภาษาญี่ปุ่นกันเถอะ!!

    ลำดับตอนที่ #4 : ひらがな (ฮิรางานะ) จบ + เรียนกับเพลงมั่งดิ๊

    • อัปเดตล่าสุด 7 ม.ค. 57


     

    สวัสดีสำหรับตอนที่3ซึ่งเป็นตอนสุดท้ายของฮิรางานะค่ะ>3<!!

    ถ้าใครจบส่วนนี้แล้วอิโยโย่รับรองว่าต้องอ่านเสียงทุกตัวของภาษาญี่ปุ่นได้แน่นอน (แต่ต้องจำตัวอักษรได้ด้วยนะคะ ไปจำกันเองนะ)


    แล้วก็ไม่ต้องห่วงนะคะ เพราะบทหน้าจะไม่ใช่ตัวอักษรแล้ว บทหน้าจะเป็นไวยกรณ์เบื้องต้นกับบทสนทนาอย่างง่ายๆแล้วค่ะ คราวหน้าคงจะสนุกขึ้นไปอีก ทนเรียนเอาหน่อยเน้อ


     
    มาๆๆ มาเข้าเรื่อง



    ในส่วนของตอนนี้ อิโยโย่จะนำเสนอเรื่องการอ่านเสียงควบต่างๆในภาษาญี่ปุ่น ซึ่งมี2วิธีดังนี้ค่ะ


    1.การอ่านเสียงควบวรรค や (ya) 

    สำหรับวรรค や นี้ มีสมาชิกอยู่ทั้งหมด3ตัวด้วยกัน

    คือ や ゆ よ (ya yu yo)

    ซึ่งทั้ง3ตัวนี้สามารถนำมาผสมกับตัวฮิรางานะบางตัวเพื่อให้มีเสียงในภาษาญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นมาอีกได้

    โดยการนำเอาวรรคやมารวมกับแถวい(i)แล้วเขียนや ゆ よให้ตัวเล็กลงเพียงครึ่งเดียว

    ยกตัวอย่างเช่น : きゃく (kyaku) ที่แปลว่าลูกค้า หรือ แขก เราจะอ่านว่า  เคียะคุ เราจะไม่อ่านว่า คิยะคุ เป็นต้น (สังเกตว่าตัวやขนาดเพียงครึ่งเดียว)


    หรือ りょこう (ryokou) ที่แปลว่าเดินทางท่องเที่ยว
    เราก็จะอ่านว่า เรียะโคว  ไม่อ่านว่าริโยะโคอุ

    (สำหรับการอ่านこうมีอยู่ในหัวข้อที่2ด้านล่างค่ะ เราจะไม่อ่านโคอุ)


    หรือ じゅんび (junbi) ที่แปลว่าเตรียม เราจะไม่อ่านว่า จิยุนบิ แต่เราจะอ่านว่า จุนบิค่ะ

    ลองดูตารางๆ



    ขอบคุณภาพจาก http://panjai-th-kr-jp.blogspot.com/2013_07_01_archive.html

    สังเกตุว่าจะมีการนำเอาวรรค や มาผสมกับแถว い เกือบทุกตัว
    ยกเว้น い และ ぢ เท่านั้น


    ปล. วรรคや ถ้าไม่ได้เขียนตัวครึ่งเดียวก็อ่านตามปกติเลยค่ะ เช่นคำว่า ゆき ก็อ่านว่า ยุคิ (ที่แปลว่าหิมะ) ตามปกติเลยค่ะ





    2.การอ่านเสียงควบวรรค あ




    การอ่านควบกับเสียงในวรรค あ จะไม่ได้ทำให้เสียงเปลี่ยนไปมากนัก แต่จะทำให้เสียงยาวขึ้น ซึ่งสามารถทำได้ง่ายมาก ดังภาพนี้เลย


    ขอบคุณภาพจาก http://panjai-th-kr-jp.blogspot.com/2013_07_01_archive.html



    จากภาพก็อธิบายง่ายๆเลยว่า

    แถวあ (a) เช่น か(ka) さ(sa) た(ta)และบลาๆๆ จะมีวิธีการทำให้เสียงยาวโดยการเติมあลงท้ายตัวพวกนั้น

    ยกตัวอย่าง : まあ まあ (maa-maa) อ่านว่ามาม้ะนะคะ
    ไม่ได้อ่านว่า มะอะ มะอะ แล้วก็ไม่ได้แปลว่าแม่หรือบะหมี่ถ้วยคัพแต่อย่างใด แต่เป็นคำเปรยที่แปลว่า เอาน่าๆ เอาเถอะๆ

    หรือ おかあさん (okaasan) อ่านว่า โอค้าซัง ที่แปลว่าคุณแม่ ไม่ได้อ่านว่าโอะคะอะซันนะคะ


    เช่นเดียวกันกับแถวอื่นๆดังตาราง

    แถวい(i)ก็เติมいเพิ่มเข้าไปให้เสียงยาวขึ้น

    เช่น いい (ii) อ่านว่า อี้ ที่แปลว่าดี


    แถวう(u)ก็เติมうเพิ่มเข้าไป เพื่อให้เสียงยาว

    เช่น ゆうき (yuuki) อ่านว่า ยูคิ ที่แปลว่าความกล้าหาญ

    แถว え(e)และแถวお(o)จะพิเศษหน่อย มีข้อยกเว้นตามตารางเลยค่ะ คือ แถวえจะใช้ตัวいในการเพิ่มให้เสียงยาว

    เช่น えいえん (eien) อ่านว่า เอเอ็น  ที่แปลว่าตลอดไป

    หรือ えいが (eiga) อ่านว่า เอ-กง่ะที่แปลว่า หนัง


    แต่ก็มีข้อยกเว้นเหมือนกันค่ะ

    เช่น ええ (ee) อ่านว่า เอ้ ที่แปลว่าดี เป็นต้น

    ส่วนแถวお(o) จะใช้ตัวうในการเพิ่มเสียงให้ยาว

    เช่น のう (nou) อ่านว่าโน่ ที่แปลว่า สมอง

    もう (mou) อ่านว่า โม่ ที่แปลว่า แล้ว

    りょこう(ryokou) ที่ยกตัวอย่างไปในหัวข้อที่1ก็เช่นกัน แปลว่าเดินทางท่องเที่ยว

    มีข้อยกเว้นเหมือนกันค่ะ

    เช่น おおきい (ookii) อ่านว่า โอ้คี่ ที่แปลว่าใหญ่ เป็นต้น




    และหัวข้อสุดท้าย


    การอ่านเสียงตัวつ(tsu)

    หัวข้อนี้น่าจะง่ายสุดแล้ว(มั้ง)คะ มาลองดูกันเลยดีกว่าว่ามีวีธีอ่านอย่างไร ทำไมต้องแยกวิธีอ่านมันมาต่างหากอีกแล้ว ?!

    การอ่านตัวつก็เหมือนกับการอ่านของวรรค や เลยค่ะ คือถ้าเกิดว่าเป็นตัวขนาดปกติ จะออกเสียงตามปกติเลย

    เช่น つき (tsuki) สึกิ ที่แปลว่า เดือน พระจันทร์ มีโชค

    つぎ (tsugi) สึ-กงิ ที่แปลว่า ต่อไป

    แต่ถ้ามันมีขนาดครึ่งเดียวเช่นเดียวกับวรรค や ก็จะอ่านออกเสียงเบิ้ลตัวสะกดตามตัวหลัง

    พูดงี้อาจมีงง มาดูตามตัวอย่างเลยดีกว่า

    เช่น しょっき (shyokki) อ่านว่า โช๊คคิ ที่แปลว่าภาชนะใส่อาหาร สังเกตุว่าจะมีการเพิ่มตัวkขึ้นมา ซึ่งตัวkนี้ก็มาจากการเบิ้ลkของตัวき(ki)นั่นเอง

    "อ่านออกเสียงเบิ้ลตัวสะกดตามตัวหลัง"

    หรือ しっぽ (shippo) อ่านว่า ชิ๊ปโปะ ที่แปลว่าหาง เห็นไหมคะว่ามีการเพิ่มตัวpขึ้นมา ซึ่งpตัวนี้ก็มาจากตัวぽ(po)นั่นเอง

    หรือ がっこう (gakkou) อ่านว่า กักโค ที่แปลว่าโรงเรียน เพิ่มต้วkขึ้นมา ซึ่งkตัวนี้ก็มาจากこ(ko) เป็นต้น





    จบแล้ววววววววววววววววว (สำหรับฮิรางาะนะ )


     ใครทนอ่านมาถึงนี่ได้ก็ยินดีด้วยนะคะ ^3^
    เท่านี้ทุกคนก็สามารถอ่านฮิรางานะได้100%แล้วจ้า

    ใครยังจำตัวอักษรไม่ได้ก็พยายามเข้าน้าาา ฝึกคัดวันละนิดวันละหน่อยเดี๋ยวก็จำได้เอง ^_^



    คราวนี้อิโยโย่มีเพลงมาฝากนะคะ

    ลองอ่านตัวฮิรางานะเท่าที่ตัวเองอ่านได้ดูนะคะ
    เห็นว่าเพลงไปช้าๆฟังสบายๆจะได้ค่อยๆอ่านกัน แถมยังเพราะดีด้วย


    ชื่อเพลง



    愛言葉 (あいことば) ai kotoba

     (あい)ai แปลว่า รัก
    言葉 (ことば) kotoba แปลว่า คำศัพท์ ถ้อยคำ

    ลองฟังนะคะ


    ขอบคุณผู้ทำซับไทยด้วยนะคะ

    แอบฝากคำศัพท์ง่ายๆที่น่าจะเจอบ่อยๆจากเพลง

     (きみ) kimi แปลว่าเธอ คือสุภาพในระดับหนึ่งแต่ไม่เท่า あなた anata ที่แปลว่าคุณ

     (ぼく) boku แปลว่า ผม ใช้แทนตัวเองที่เป็นผู้ชาย แต่เดี๋ยวนี้ผู้หญิงก็เริ่มใช้บ้างแล้ว แต่จะถูกมองว่าเป็นผู้หญิงห้าวๆ จัดว่าสุภาพ ใช้ได้ทั่วไป

    いつも itsumo แปลว่า ตลอดเวลา

     
    ありがとう(ございます) arigatou(gozaimasu) อาริง่ะโตว แปลว่า ขอบคุณ ถ้าเติม
    โกะไซมัส  เข้าไปจะเป็นคำสุภาพค่ะ 
    (masu เราจะไม่อ่านว่ามะสึค่ะ จะอ่านมัสเลย)

    子供 (こども) kodomo แปลว่า เด็ก ลูก

    感謝 (かんしゃ) kansha แปลว่ารู้สึกขอบคุณค่ะ

    好き (すき) suki แปลว่า ชอบ

    嫌い (きらい) kirai แปลว่าเกลียด

    バカ (ばか) baka แปลว่า บ้า งี่เง่า

    忘れない (わすれない) wasurenai แปลว่า ไม่ลืม
    忘れる แปลว่าลืม ない แปลว่าไม่



    一生で (いっしょうで) isshoude แปลว่า ตลอดทั้งชีวิต

    足りない (たりない) tarinai แปลว่า ไม่พอ
    足りるแปลว่าเพียงพอ ないแปลว่าไม่





    มาส่วนของไวยากรณ์ที่ได้จากเรื่องนี้กันบ้าง
    ใครเพิ่งรู้ภาษาญี่ปุ่นข้ามไปก็ได้นะคะเพราะอาจจะงง ไวยากรณ์อยู่ในระดับสูงอยู่สำหรับคนเพิ่งเรียน (ปรมาณN4)
    เดี๋ยวจะมีในบทหลังๆ แต่อ่านผ่านๆไว้ก็ได้เนอะ



    ーとか -toka แปลว่า ไม่ว่าจะเป็น...หรือ...(หรือ...)ก็...
    ใช้ในกรณีบอกกลุ่มของคำนามหรือกิริยาที่มีทิศทางไปในทางเดียวกันค่ะ

    เช่น  コーヒーとか、ココアとか、飲むことができない。

    ko-hi- toka,kokoa toka, nomukoto ga dekinai.
    แปลว่า ไม่ว่าจะเป็นกาแฟ หรือ โกโก้ ก็ดื่มไม่ได้ทั้งนั้น


    แตกศัพท์ทีละตัว

    コーヒー   ko-hi-  โคฮี(ลากเสียงยาวที่ขีดด้วยนะ) แปลว่า กาแฟ
    ココア kokoa  แปลว่า โกโก้  
    飲む のむ nomu  แปลว่า ดื่ม
    できる   dekiru    แปลว่า  ทำได้
    ない nai แปลว่า ไม่




    ー(て)くれる -(te)kureru แปลว่า  (ทำ)ให้(ฉัน) 

    คำว่า くれる มีความหมายว่า ให้(สิ่งของ)แก่...    
    มักใช้ในรูปอดีต
    ผู้รับต้องเป็นฉัน หรือคนใกล้ตัวฉัน (เพื่อน ครอบครัว)

    รูปแบบของมันคือ


    ผู้ให้ ฉัน,คนใกล้ตัวฉัน สิ่งของ くれる。

    เช่น日本語の本くれました

    kare wa watashi ni nihongo no hon o kuremashita.
    แปลว่า เขาให้หนังสือภาษาญี่ปุ่นแก่ฉัน


    แตกศักท์ทีละตัว

     かれ kare แปลว่า เขา(ผู้ชาย)
     わたし watashi แปลว่า ฉัน
    日本 にほん nihon แปลว่า ญี่ปุุ่น
     ご go แปลว่า ภาษา
    本 
    ほん hon แปลว่า หนังสือ



    ส่วน
    ข้างหน้าใช้กรณีคำข้างหน้าเป็นคำกิริยา แปลว่า ทำ(กิริยา)ให้...

    เช่น 山下さん
    わたししんるい調べくれました。
    yamashita san wa watashi ni shinrui o shirabetekuremashita .
    แปลว่า คุณยามาชิตะได้ช่วยตรวจเอกสารให้ฉันแล้ว


    แตกศัพท์ทีละตัว

    しんるい shinrui แปลว่า เอกสาร
    調べる しらべる shiraberu แปลว่า ตรวจสอบ



    ตอนหน้าอิโยโย่จะพักเรื่องตัวอักษรไว้ก่อนนะคะ เดี๋ยวค่อยมาต่อคาตาคานะ กับคันจิวันหลัง เพราะแค่นี้ก็คงเต็มหัวกันแล้ว

    ครั้งหน้าจะเตรียมเรื่องสนุกๆมาค่ะ ไม่ต้องห่วงเน้อ >-<!!




    แล้วพบกันใหม่ตอนหน้าค้าาา




    ปล.ขอบคุณธีมจากhttp://writer.dek-d.com/Cute_Girl/story/viewlongc.php?id=856593&chapter=23

    ปล.ผิดพลาดตรงไหนบอกให้แก้ได้จ้า (แต่อย่าด่านา...T_T)


     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×