คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทเพลงเริ่มบรรเลง
กลีบสีชมพูขาวของซากุระโปรยปรายลงมาตามฤดูกาลของมัน หากแต่ก็ยังคงความงดงามอย่างไม่มีเปลี่ยนแปลง ร่างบางของหัวหน้าหน่วยที่หกที่บัดนี้เคลียรายงานและเอกสารต่างๆของตนเสร็จเรียบร้อยหมดแล้วกำลังมานั่งตากลมอยู่ภายใต้ต้นซากุระที่เจ้าตัวเหมาเอาเองว่านี่เป็นที่พักส่วนตัวของตน
เสื้อนอกของหัวหน้าหน่วยที่หกถูกถอดออกอย่างเรียบร้อยไว้ในที่เดียวกันกับปิ่นปักผมราคาแพง บัดนี้หัวหน้าใบหน้าเรียวมลติดจะหวานเพียงแต่สวมชุดยูคาตะสีขาวที่ถูกทาบทับด้วยผ้าริ้วกันหนาวสีชมพูอ่อนๆเท่านั้น
ใบหน้าที่เคยเย็นชาไม่แสดงออกถึงอารมณ์ใดๆ แต่ตอนนี้ถ้าหากสังเกตให้ดีๆหน่อยก็จะเห็นแววหม่นหมองนัยน์ตาสีเถ้าถ่านนั่น
‘ช่วยแกล้งคบกับข้าทีเถอะครับ !!’
‘ช่วยทำให้ลูเคียหึงท่านซักทีเถอะ’
‘ไม่ต้องรักกันจริงก็ได้ ขอแค่ ท่านแสดงให้เหมือนก็พอ’
คำพูดในอดีตที่คอยตามหลอกหลอนหมุนวนเข้ามาในหัว วงหน้าหวานยกยิ้มเศร้าๆขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะมองดูกลีบดอกซากุระที่ร่วงหล่นลงมาบนฝ่ามือของตนเอง ถ้าหากเขาตอบปฏิเสธไปล่ะก็เรื่องราวต่างแบบนี้ก็คงไม่เกิด
ไม่ต้องมารักเจ้า.....
แล้วก็ไม่ต้องมาเจ็บเพราะเจ้าเสียขนาดนี้ด้วย.......
“ดูเหมือนว่าข้าจะเริ่มรักเจ้าเสียแล้วนะ เร็นจิ”
ตั้งแต่ลูเคียบอกความในใจให้เร็นจิได้ฟังสำเร็จตามแผนที่เคยวางเอาไว้ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเร็นจิไม่เคยมาหาเขาอีกเลยถ้าไม่ใช่เรื่องงาน ไม่เคยมาดูแลเอาใจใส่เขาเหมือนดังที่เคยทำเมื่อตอนที่แกล้งคบกันในตลอดระยะเวลา 3 ก่อน
เจ้าไม่รู้สึกหวั่นไหวเหมือนข้าบ้างเลยรึไงนะ...............
เร็นจิ................
เจ้าไม่รู้สึกผูกพันเหมือนกับข้าบ้างเลยเหรอ
ดูเหมือนการมาเอาใจใส่เบียคุยะของเร็นจิจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันที่คุ้นเคยไปเสียแล้ว อาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆแต่ก็ขาดไม่ได้เช่นกัน
หากแต่ตอนนี้
กลับกลายเป็นความอ้างว้างและโดดเดี่ยวเข้ามาแทนที่
มันนานเท่าไหร่แล้วเธอที่เรา....ไม่เจอกัน
มันนานเท่าไหร่ใจฉันไม่เคยลืม.......
“ในหัวของข้ามีแต่เรื่องของเจ้าเต็มไปหมด ข้าไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน แม้แต่กับฮิซานะ เจ้าไม่คิดจะมารับผิดชอบบ้างเลยรึไงนะ”ร่างโปร่งบางพูดคนเดียวลอยๆราวกับต้องการระบายอารมณ์ของตนให้สายลมฟัง สีหน้าที่พวกลูกน้องหรือเพื่อนหัวหน้าหน่วยด้วยกันก็คงไม่เคยเห็นปรากฏขึ้นมาจนมองออกได้อย่างชัดเจนว่าทุกข์ทรมานแค่ไหน “ข้าคงคิดไปเองฝ่ายเดียวซินะ”
ว่าแล้วคนร่างบางก็เดินกลับเข้าห้องพักประจำหน่วยแบบส่วนตัวของตนแล้วเตรียมปูที่นอนสำหรับพักผ่อน หากแต่กลับอดนึกน้อยใจไม่ได้ว่าเมื่อก่อนตนยังไม่ต้องทำอะไรเลยแท้ๆ ก็จะมีเจ้าตัวยุ่งคอยมาจัดการเรื่องราวต่างๆให้ทุกอย่าง
แน่นอน เรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้ก็เหมือนกัน
‘หัวหน้าครับ ผมกับลูเคียตกลงคบเป็นแฟนกันแล้วครับ’
‘ข้าว่า เราเลิกเล่นกันแค่นี้เถอะครับ เพราะเท่านี้ก็เท่ากับว่าสำเร็จไปตามแผนแล้ว’
‘ต่อไปนี้ข้าคงไม่มาดูแลหัวหน้าเหมือนเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมาแล้วนะครับ’
‘ที่ผ่านมาข้าสนุกมาก แต่คงต้องบอกลากันแล้วนะครับ’
“เร็นจิ” น้ำเสียงสั่นเคลือเล็กน้อยหากแต่ก็พอจับได้ แม้ใบหน้าจะไม่แสดงอารมณ์ใดๆออกมาเลยก็ตาม แต่น้ำเสียงและแววตากลับฉายชัดจนเจ้าตัวแน่ใจ ว่าตนอ่อนแอลงมากแค่ไหนเมื่อไม่มีครึ่งหนึ่งของหัวใจมายืนอยู่เคียงข้างกาย “น่าสมเพชเหลือเกิน ข้าน่ะ”
“กลับกลายเป็นว่าข้าไปลุ่มหลงในตัวเจ้าเสียได้”
‘ขอบคุณหัวหน้ามากเลยนะครับ’
‘ข้าจะใช้เวลาที่มีอยู่ดูแลลูเคียให้ดีที่สุด เพราะงั้นไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ’
นิ้วเรียวยาวกำจิกแน่นบนชัดยูคาตะของตนเมื่อนึกถึงสิ่งที่เคยเกิดขึ้นราวกับมันเป็นฝันร้ายที่ไม่ได้ต้องการให้เกิดขึ้นมาก่อน เขาอาจจะตีค่าตัวเองสูงเกินไปก็ได้ แต่ถ้าแค่คิดว่าคนอย่าง คุจิกิ เบียคุยะ ก็สามารถทำให้เร็นจิมาคบกับตนได้ แม้ว่าจะเป็นแค่การแสดงก็ตามมันก็ไม่เลวนักหรอก จริงไหมล่ะ ที่ได้อยู่ใกล้ชิดกันคนรักแบบนั้นมาตั้ง 3 ปี
เบียคุยะล้มตัวลงนอนสับส่ายไปมาหวังจะได้พักความเหนื่อยล้าทางกายและใจที่สะสมกันมาหลายคืน แต่มันกลับหลับตาไม่ลง เพราะถ้าหลับตาลงเมื่อไหร่ ภาพของคนที่ฉันไม่สามารถจะรักได้จะลอยขึ้นมาในหัว ภาพของคนที่ฉันเฝ้าถวิลหา
“ข้าคิดถึงเจ้านะ เร็นจิ”
จากวันที่เราเลิกกัน ยังจำ....แต่ภาพเธอ
เป็นความทรงจำ เป็นภาพอดีตยังฝังใจ............
เสียงหายใจสม่ำเสมอที่มาจากบุคคลเพียงคนเดียวที่อยู่ในห้องนี้บ่งบอกได้ชัดว่าเจ้าตัวได้เข้าสู่ห้วงแห่งนิทราไปเรียบร้อยแล้ว
หากแต่ ทั้งๆที่เข้าสู่ห้วงนิทราไปแล้ว ทำไมหยาดน้ำใสๆจากดวงตานั่นมันยังคงไหลไปตามโครงหน้ากลมมลได้อยู่กันอีกล่ะ
--------------------------------------------------------
TBC
แต่งสดจริงๆคะเรื่องนี้ พอฟังเพลงปุ๊ปฟิคก็แล่นเข้าหัวปั๊บเลยคะ ^ ^ ฝากคอมเม้นต์ด้วยนะคะ
ปล. ยังไม่จบนะ
ความคิดเห็น