คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #32 : Encounter
Chapter 32
Encounter
เลมอสยืนคว้างอยู่ที่หน้าตำหนักอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี พลันก็นึกขึ้นได้ว่าควรรีบไปแจ้งเรื่องนี้ให้อาเคเดียนทราบก่อน เขาจึงรีบกระโจนขึ้นม้าซึ่งผูกไว้ใกล้ๆ มุ่งตรงไปยังตำหนักรับรองของลูคาเชียสทันที
คล้อยหลังเลมอสไปไม่นาน ปรากฏเงาตะคุ่มของชายสองคนในสวนข้างตำหนัก หนึ่งในนั้นคืออิคารัส เจ้าเมืองพาราไดซ์นั่นเอง
“เอาล่ะ ข้าจะร่ายเวทย์เพื่อสร้างหมอกยาสลบ เสร็จแล้วหากมีใครขัดขวางเจ้าจงกำจัดให้หมด” ว่าแล้วอิคารัสก็ตั้งต้นร่ายคาถาทันที
เมื่อสิ้นเสียงของอิคารัส ตำหนักที่ประทับของเจ้าเมืองเฮปตากอนถูกปกคลุมด้วยหมอกหนาอีกครั้ง ซึ่งทำให้ไม่สามารถมองเห็นอะไรได้ถนัดนัก เมื่อคิดว่าหมอกยาสลบเริ่มออกฤทธิ์แล้ว อิคารัสจึงออกจากที่กำบัง เร้นกายในสายหมอก ตรงไปยังตำหนักทันที
“ฮ่าๆๆๆ ดูทหารพวกนี้สิ ข้าร่ายเวทย์แป๊ปเดียวก็สลบไสลไม่ได้สติกันแล้ว ไม่ต้องเปลืองแรงเลย” อิคารัสเอ่ยขึ้นกับลูกสมุนอย่างย่ามใจ พลางใช้เท้าเขี่ยเหล่าทหารที่นอนระเกะระกะอยู่ตามพื้น “รีบเข้าไปกันเถอะก่อนที่เจ้าอาเคเดียนมันจะกลับมา”
ว่าแล้วทั้งคู่ก็ลอบเข้าไปยังห้องบรรทมซึ่งหมายใจว่าอเมเลียคงจะนอนสลบไสลอยู่
หากแต่การณ์กลับไม่เป็นดังคาด เพราะบนแท่นบรรทมนั้นว่างเปล่า!”
อิคารัสสบถออกมาอย่างเสียเส้น พร้อมระเบิดออกมาอย่างเกรี้ยวกราด
“อะไรกัน พวกมันรู้ทันแผนการข้าหรือยังไง ทำไมพระชายาของมันถึงหายตัวไปได้”
ฝ่ายลูกสมุนซึ่งคอยเฝ้าระแวดระวังเตือนอิคารัสอย่างเป็นห่วง
“เรารีบถอยกันเถิดท่าน หากพวกมันซุ่มอยู่เราอาจถูกจับตัวได้”
“ไม่จริง พวกมันจะรู้เท่าทันเราได้อย่างไร ในเมื่อเราไม่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้าหรือแพร่งพรายเรื่องนี้ให้ใครรู้ ข้าจะหาตัวนางให้พบ เพราะข้าจะไม่ยอมกลับไปมือเปล่าเด็ดขาด”
ว่าแล้วอิคารัสก็ตรงเข้าไปตลบมุ้งพลิกที่นอนหรือแม้กระทั่งเปิดค้นตามตู้เสื้อผ้า แต่จนแล้วจนรอดก็หาได้พบอเมเลียไม่
เสียงลูกสมุนยังคงเร่งเตือนมาอีกครั้ง
“เรารีบไปกันก่อนเถิดท่าน หากอาเคเดียนคุยธุระกับลูคาเชียสเสร็จแล้วกลับมาพบเราเข้าจะเป็นเรื่องใหญ่นะท่าน”
แต่อิคารัสก็มิได้ฟัง
หลังจากค้นจนทั่วแล้ว ในที่สุดอิคารัสจึงยอมตัดใจ หากแต่ก่อนที่จะได้ถอนตัวออกมา พลันประตูตำหนักก็ถูกถีบเปิดอย่างแรงก่อนที่ร่างสูงสง่าของอาเคเดียนจะถลันตามเข้ามา
“แกนี่เองที่เล่นสกปรกอย่างนี้ นำชายาข้าไปไว้ที่ไหน จงรีบนำมาคืนก่อนที่ข้าจะเอาเรื่องเจ้า” อาเคเดียนคำรามอย่างดุดันทันทีที่เห็นอิคารัสและคนติดตามเข้ามาเดินทะเล่อทะล่าอยู่ในตำหนักรับรองของเขา
“ข้าไม่รู้เรื่องเว้ย เมียเจ้าเองทำไมไม่รู้จักดูแล มาถามข้าได้ไง” อิคารัสตอบ ท่าทางหงุดหงิดไม่แพ้กัน
“แล้วการที่เจ้าเข้ามาอยู่ในตำหนักข้า ขณะที่ชายาของข้าหายไปนั้นจะให้หมายความว่าอย่างไร” อาเคเดียนเอ่ยถามอย่างอดกลั้น
“ไม่รู้ หลีกไป ข้าจะกลับ!” อิคารัสตะคอกใส่อย่างควบคุมอารมณ์ไม่ได้
“เจ้าคิดว่าจะสามารถกลับออกไปได้ง่าย ๆ อย่างนั้นหรือหากข้าไม่ได้ตัวชายาคืนน่ะหา!” อาเคเดียนเอ่ยพลางชักดาบขึ้นถือไว้มั่น
“หนอย นึกว่าข้ากลัวงั้นหรือ เจ้ามันก็แค่รัชทายาทไร้บัลลังก์ อย่ามาคิดต่อกรกับข้าดีกว่า”
สิ้นเสียงอันโอหังของอิคารัส ปลายดาบคมของอาเคเดียนก็จ่อเข้าที่คอหอย อิคารัสยืนตัวแข็งในขณะที่ทหารผู้ติดตามได้แต่ยืนพะวักพะวง ไม่กล้าจู่โจมด้วยกลัวฝีมือและเกรงว่าอาเคเดียนจะพลั้งมือฆ่านายตน
“จะบอกข้ามาได้หรือยังว่าชายาของข้าอยู่ที่ไหน” อาเคเดียนถามเสียงเย็นฟังแล้วสะท้านไปถึงขั้วหัวใจ
“ม..ไม่รู้”
คมดาบของอาเคเดียนสะกิดปลายผิวของอิคารัสเลือดไหลซึมออกมา
“ข้าไม่รู้จริง ๆ โว้ย.ย.ย” แม้จะยังมีท่าทางโอหัง แต่ปลายเสียงของอิคารัสก็เริ่มสั่น
“นายข้าไม่รู้เรื่องจริงๆขอรับองค์ชาย ได้โปรดเมตตาด้วย ตอนที่เราเข้ามาถึง พระชายาก็หายตัวไปแล้วกระหม่อม”
ขณะเดียวกันนั้น ลูคาเชียสก็ตามมาสมทบอาเคเดียนพร้อมกับเลมอส
“หลานชาย เจ้าใจเย็นก่อนดีกว่า วางดาบลงก่อน แล้วค่อยๆคุยกัน” ลูคาชียสกล่าวเตือน
“ไม่ได้หรอกท่านลุง หากมันหนีรอดไปได้ ชายาข้าจะเป็นเช่นไร”
“ข้าเชื่อว่าอิคารัสไม่ได้เป็นผู้ลงมือแม้ว่าเขาจะมีเจตนาเช่นนั้นก็ตาม” ลูคาเชียสออกความเห็น
“ใช่แล้ว ท่านผู้เฒ่าเป็นผู้มีปัญญา จึงสามารถแยกแยะได้ถูกต้อง” อิคารัสรีบกล่าวสนับสนุน น้ำเสียงเย้ยหยันอาเคเดียนอยู่ในที
“หุบปาก ข้าไม่ต้องการความเห็นจากคนสารเลวอย่างเจ้า! ท่านลุงขอรับ ทำไมท่านจึงคิดเช่นนั้น” อาเคเตียนตวาดก่อนหันกลับมาถามลูคาเชียส
“ระหว่างที่เลมอสไปแจ้งข่าวแก่เจ้านั้น ชายาของเจ้าก็ได้หายตัวไปแล้ว ฉะนั้น ช่วงเวลานั้นคนร้ายตัวจริงจะต้องพยายามหนีไปให้ไกลที่สุด ในขณะที่อิคารัสซึ่งเข้ามาในจังหวะที่ไม่เหมาะเลย แม้นจะมีเจตนาร้ายเหมือนกัน ย่อมไม่น่าจะมีส่วนรู้เห็นในเหตุการณ์นี้ ไม่เช่นนั้นจะเอาตัวเข้ามารับผิดโดยไม่จำเป็นทำไม” ลูคาเชียสอธิบาย
อาเคเดียนคล้อยตามเหตุผลนั้น หากแต่ความแค้นเคืองในตัวอิคารัสก็หาได้ลดน้อยลงไปไม่
“ในฐานะที่เจ้าเป็นเจ้าบ้าน เจ้าต้องเป็นผู้รับผิดชอบเหตุการณ์ครั้งนี้ อีกอย่าง เจ้าเองก็มีส่วนผิดฐานที่มีเจตนาชั่ว ฉะนั้น อย่าหวังว่าข้าจะปล่อยเจ้าไปง่ายๆเลย” อาเคเดียนประกาศกร้าว
“ถ้าเช่นนั้นจะให้ข้าทำยังไงล่ะ “ อิคารัสถามอย่างเสียมิได้
“จงเกณฑ์ไพร่พลของเจ้าออกตามหาชายาข้าให้ทั่วทั้งเมือง ตั้งด่านสกัดตามจุดต่างๆ อย่าให้เล็ดลอดสายตาไปได้ ข้าให้เวลาเจ้าถึงเช้าวันพรุ่งนี้ หากชายาข้าได้รับอันตรายใดๆ โทษของเจ้าคือตายสถานเดียว” ว่าแล้วอาเคเดียนก็ลดดาบลงจากคอของอิคารัส พร้อมกันนั้นก็ตวัดปลายดาบตัดเอาตราประจำตัวของอิคารัสซึ่งคาดอยู่ที่เอวออกมาด้วย
“นั้นเจ้าจะทำอะไรน่ะ” อิคารัสแย้งขึ้น ทำท่าจะคว้าตรานั้นคืน
“หลักฐานว่าเจ้าเป็นเจ้าบ้านที่เลวมาก บุกตำหนักของข้าในคืนนี้ ข้ารู้ดีว่าคนเลวอย่างเจ้ากลับคำได้ง่ายดายเพียงใด หากไม่มีหลักฐานค้ำประกัน เจ้าคงไม่มีทางรักษาคำพูดของตัวเองหรอก เจ้าคนถ่อย” อาเคเดียนปรามาสอิคารัสอย่างไม่ไว้หน้า
“หนอยยย เจ้ามัน” อิคารัสสะกดคำพูดของตัวเองไว้ได้ทันก่อนที่เรื่องจะบานปลายไปมากกว่านี้ “แล้วเจ้าจะคืนให้ข้าเมื่อไหร่”
“ทันทีที่ได้ตัวชายาข้าคืนอย่างปลอดภัยทุกประการ มิเช่นนั้นเจ้าก็เตรียมตัวขุดหลุมศพของตัวเองไว้ได้เลย” อาเคเดียนกล่าวต่อ “รีบไสหัวไปซะ เวลาของเจ้ามีถึงพรุ่งนี้เช้าเท่านั้น”
อิคารัสจับจ้องอาเคเดียนอย่างแค้นเคืองก่อนเดินกระทืบเท้าจากไปพร้อมคนสนิท เขามีเวลาอีกเจ็ดชั่วยามเท่านั้นก่อนที่วันใหม่จะมาถึง
ความคิดเห็น