ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Rose of the Underworld

    ลำดับตอนที่ #27 : Puzzle

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 130
      0
      7 พ.ค. 48

    ………………………………………………



    ท่ามกลางงานเลี้ยงซึ่งพลุกพล่านไปด้วยผู้คน เหล่าปีศาจยืนเด่นอยู่กลางห้องโดยไม่ใครเข้าไปยุ่มย่ามใกล้ ๆ  ต่างปรึกษากันอย่างเงียบ ๆ ไม่สนใจใคร



    “ทำไมองค์หญิงไปอยู่กับเจ้าชายอาเคเดียนได้” เฮเธลเอ่ยขึ้น



    “อาจถูกจับตัวไปก็ได้” เดมอนเอ่ยขึ้น “ถึงจะไม่รู้ว่าองค์หญิงเป็นใคร แต่ด้วยพระสิริโฉมอาจทำให้เจ้าชายอาเคเดียนหลงใหล”



    “แต่ทำไมท่าทางเหมือนจำพวกเราไม่ได้เลยล่ะ” เฮเธลเอ่ยต่อ “หรือว่าองค์หญิงพยายามเล่นละครตบตาคนอื่น ๆ อยู่”



    “ก็เป็นไปได้ แต่ข้าว่าไม่ใช่หรอก” เฟกเก้เอ่ยขึ้น “เท่าที่เราได้สัมผัสมา ข้าไม่คิดว่าองค์หญิงจะเล่นละครได้ดีถึงเพียงนี้ สีหน้าองค์หญิงไม่เปลี่ยนเลยแม้สักนิดในตอนที่เห็นพวกเรา”



    “แล้วเจ้าว่าเป็นเพราะสาเหตุอะไรล่ะ” เฮเธลถามอย่างร้อนใจ



    “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่คิดว่าน่าจะสูญเสียความทรงจำด้วยสาเหตุบางอย่าง ไม่เช่นนั้นสายตาที่มองพวกเราคงจะไม่ว่างเปล่าเช่นนี้หรอก”



    “ข้าจะชิงตัวองค์หญิงกลับมา” เฮเธลเอ่ยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว



    “อย่าเพิ่งวู่วาม” เดมอนเอ่ยปราม “ตอนนี้องค์หญิงอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว เรายังพอมีเวลาวางแผนอีกมาก ถ้ารีบร้อน พลั้งพลาดไปจะลำบาก ยังไงเสียองค์หญิงก็ยังอยู่ที่นี่อีกหลายวันจนกว่าการประชุมจะเสร็จสิ้น เรายังมีภาระที่ต้องติดตามหาคทาอีกมิใช่หรือ” เขาเตือนสติเฮเธล



    “จริงของท่าน” เฟกเก้เสริม “ข้าคิดว่าเป็นการดีแล้วที่เราพบตัวองค์หญิงเสียก่อน ก็หมดห่วงไปเปลาะหนึ่ง แต่เรื่องคทาเรายังไม่ได้เบาะแสคืบหน้าเลย ไม่รู้ว่าเจ้าอิคารัสเอาไปซ่อนอยู่ที่ไหน”



    “เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง” เดมอนเอ่ยขึ้นสีหน้ายิ้ม ๆ  “ตอนนี้ข้ามีแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้แล้วล่ะ เชื่อว่าอย่างน้อยพรุ่งนี้น่าจะมีความเคลื่อนไหว แต่ยังไงคืนนี้ข้าขอปรึกษากับเฟกเก้เป็นการส่วนตัวก่อน คนอื่น ๆ จะเล่าให้ฟังทีหลัง”





    ............................................



    “ทางที่ดีอย่าไปแสดงท่าทางสนอกสนใจนางให้มากนักจะดีกว่า” ลูคาเชียสเอ่ยขึ้นเบา ๆ ในโต๊ะอาหารขณะยกเครื่องดื่มขึ้นจิบ เป็นผลให้เฮเธลซึ่งนั่งกระสับกระส่ายคอยมองไปยังอเมเลียต้องหันขวับมาทันที



    เฮเธลนั่งด้านขวามือของลูคาเชียส ถัดไปทางซ้ายมือเป็นอเมเลียและอาเคเดียน ที่นั่งสำหรับเจ้าเมืองจัดเตรียมไว้เมืองละสองที่ ลูคาเชียสมาคนเดียวที่นั่งด้านข้างจึงว่างสำหรับเฮเธลซึ่งไม่มีที่นั่งสำรองไว้ให้



    “ช่างเถอะ ไม่ใช่เรื่องของท่าน” เฮเธลโต้ตอบทันควัน ในใจรู้สึกไม่ชอบขี้หน้าชายเคราสีเงินผู้นี้ ความรู้สึกบอกกับตัวเองว่าชายผู้นี้น้ำเสียงและการพูดจาล้วนมีเลศนัย



    “การที่จักรพรรดินีแห่งโลกปีศาจให้ความสนใจพระชายาของเจ้าเมืองแห่งอาณาจักรเทพธรรมดา ๆ คนหนึ่ง คนอื่นจะคิดยังไง มันไม่แปลกไปหน่อยรึ หรือว่าท่านทั้งสองเคยรู้จักกันมาก่อน ท่านทำท่าทางเหมือนเป็นเพื่อนเก่ากันไม่มีผิด”



    “ปะ ปล่าว ก็แค่เห็นว่าสวยดีเท่านั้นแหละ” เฮเธลตอบ พยายามฝืนสีหน้าให้เป็นปรกติ พลางคิดในใจว่าชายชราผู้นี้พูดถูกราวกับรู้เรื่องราวทุกอย่างเป็นอย่างดี



    เฮเธลพยายามสะกดใจไม่หันไปทางอเมเลียอีก เพราะเห็นจริงตามที่ลูคาเชียสเตือน หากคนอื่น ๆ สงสัยว่าอเมเลียมีความเกี่ยวข้องกับพวกปีศาจ องค์หญิงจะตกอยู่ในอันตรายอย่างแน่นอน



    “ทำไมท่านถึงมาคนเดียวล่ะ” เฮเธลเอ่ยถามลูคาเชียส



    “ก็แล้วทำไมต้องมากันหลายคนด้วยล่ะ” ลูคาเชียสย้อนถาม



    “ก็ข้าเห็นว่างานแบบนี้ไม่ว่าใคร ๆ ก็ต้องมีคู่หรือผู้ติดตามมาด้วยบ้าง จึงได้แปลกใจที่เห็นท่านมาคนเดียว”



    “มาหลายคนใช่จะอุ่นใจได้ ยิ่งมากคนก็ยิ่งต้องห่วงหน้าพะวงหลัง สู้มาคนเดียวไม่ได้ มาคนเดียวย่อมมีความปลอดภัยสูงกว่า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามาคนเดียวแล้วจะไร้ซึ่งพรรคพวกไปเสียทีเดียวหรอก ถ้าเรารู้จักสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์ที่ดี อยู่ที่ไหนก็ไม่ลำบาก” ลูคาเชียสตอบ คำตอบของเขาทำให้เฮเธลนึกชื่นชมอยู่ในใจ



    เมื่อมื้ออาหารผ่านพ้นไปแล้ว แขกเหรื่อต่างทยอยกันไปเต้นรำที่กลางฟลอร์คู่แล้วคู่เล่า เฮเธลนั่งมองอย่างเบื่อ ๆ พลางเหลือบไปเห็นอาเคเดียนเต้นรำกับอเมเลีย ภาพของทั้งสองดูจะโดดเด่นขึ้นมาจากคู่เต้นรำอื่น ๆ ในฟลอร์ เฮเธลได้แต่มองตามอย่างชื่นชมพลางคิดในใจ ถ้าไม่มีเรื่องชาติพันธุ์เข้ามาเกี่ยวข้อง คู่นี้คงเป็นคู่ที่เหมาะสมกันไม่น้อย



    อเมเลียเต้นรำกับอาเคเดียนได้ไม่กี่เพลงก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นข้าง ๆ เมื่อดนตรีจบลง



    “ไม่ทราบว่าพระชายาจะให้เกียรติเต้นรำกับหม่อมฉันได้หรือไม่”



    ทั้งสองหันไปมอง อิคารัสนั่นเอง ยืนยิ้มกรุ้มกริ่มอยู่ข้าง ๆ



    อาเคเดียนยิ้มมุมปากก่อนตอบกลับไป



    “ท่านลองเชิญแขกของท่านก่อนดีหรือไม่ องค์หญิงอเมเลียยังไม่มีคู่เต้น นางเป็นแขกของท่าน คงไม่เหมาะที่จะทิ้งนางไว้คนเดียว ข้าเตือนเพราะหวังดี เกรงว่าท่านจะถูกตำหนิเอาได้ เห็นทีเราสองคนต้องขอตัวก่อนเพราะชายาของข้าเหนื่อยแล้ว”



    กล่าวจบก็นำอเมเลียจากไปโดยไม่สนใจอิคารัสซึ่งมองตามอย่างขุ่นเคือง หากแต่ก็ต้องทำตามที่อาเคเดียนแนะนำ เพราะไม่อาจทิ้งหน้าที่การเป็นเจ้าบ้านที่ดี จึงจำต้องไปเชิญเฮเธลเต้นรำด้วยท่ามกลางสายตาของเจ้าเมืองอาณาจักรเทพ นับเป็นการเต้นรำที่ฝืนใจทั้งสองฝ่ายเป็นอย่างยิ่ง ทั้งอิคารัสและเฮเธล



    “เจ้าอยากกลับหรือยัง” อาเคเดียนเอ่ยถามอเมเลียเมื่อเดินห่างออกมา



    “แล้วแต่ท่านเถอะ ข้ายังไงก็ได้” อเมเลียโยนให้เขาเป็นคนตัดสินใจ แต่เมื่อสังเกตสีหน้าของหญิงสาวแล้ว อาเคเดียนเห็นว่าคืนนี้อเมเลียเหนื่อยมากแล้ว จึงตั้งใจจะพาหญิงสาวกลับที่พัก หากแต่เขาก็ต้องเปลี่ยนความตั้งใจเมื่อได้คุยกับลูคาเชียส



    “อาเคเดียน คืนนี้ลุงมีเรื่องจะปรึกษาเจ้าเสียหน่อย ยังไงให้เลมอสพาชายาของเจ้ากลับไปก่อนได้ไหม แล้วค่อยไปคุยกันที่ตำหนักของข้า”



    “เรื่องสำคัญหรือขอรับท่านลุง” อาเคเดียนเอ่ยถามลูคาเชียส เขามีสีหน้าไม่ค่อยสบายใจเมื่อรู้ว่าจะต้องทิ้งอเมเลียไว้ตามลำพังคนเดียว



    “สำคัญมาก และข้าจำเป็นต้องอาศัยความช่วยเหลือของเจ้าด้วย” ลูคาเชียสตอบ



    “อย่างไรเสีย อยู่ในเขตพระราชฐานคงไม่มีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้นหรอก หรือถ้าเจ้าไม่วางใจก็ให้เลมอสกั้นเขตอาคมไว้ก็ได้นี่” ผู้อาวุโสกว่าเสนอแนะ



    “ก็ได้ขอรับท่านลุง ถ้าเช่นนั้นกระหม่อมขอตัวไปสั่งการกับเลมอสสักครู่” ว่าแล้วอาเคเดียนก็เดินจากไปยังอีกมุมหนึ่งของห้องซึ่งผู้ติดตามนั่งกันอยู่



    อาเคเดียนเดินกลับมาโดยมีเลมอสเดินตามกลับมาด้วย ระหว่างนั้นลูคาเชียสหันไปคุยกับอเมเลีย



    “เหนื่อยไหมล่ะ อเมเลีย” เขาถามอย่างใจดี



    “นิดหน่อยค่ะ แต่ก็สนุกดี” อเมเลียตอบอย่างร่าเริง



    “คืนนี้เห็นทีเจ้าต้องอยู่คนเดียวแล้วล่ะ ข้ามีเรื่องต้องหารือกับอาเคเดียนนิดหน่อย คงต้องขอรบกวนแล้วล่ะ”



    “ตามสบายเถอะค่ะ ท่านลุง ข้าอยู่คนเดียวได้ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง”



    “ได้ยินอย่างนี้ค่อยสบายใจหน่อย แต่ยังไงก็ยังมีเลมอสเฝ้าอยู่หน้าตำหนักจนกว่าอาเคเดียนจะกลับล่ะนะ”



    พอดีกับที่อาเคเดียนเดินใกล้เข้ามา



    “เรียบร้อยขอรับท่านลุง” อาเคเดียนกล่าวกับผู้สูงวัยก่อนหันมาทางอเมเลีย



    “คืนนี้เจ้าต้องอยู่คนเดียวนะ อยู่ได้ใช่ไหม จะให้ใครมาอยู่เป็นเพื่อนไหม ข้าจะได้ขอให้นางกำนัลเมื่อเย็นอยู่เป็นเพื่อนเจ้าจนกว่าข้าจะกลับ”



    “ไม่ต้องหรอก ข้าอยู่ได้ เลมอสก็อยู่เฝ้าทั้งคน”



    “ถ้าอย่างนั้น เราแยกกันตรงนี้ เดี๋ยวข้าจะไปที่ตำหนักของท่านลุง จะให้เลมอสนำทางเจ้ากลับตำหนัก”



    ก่อนที่จะจากกันเขายังไม่ลืมกำชับอเมเลีย



    “ถ้ามีอะไรก็เรียกข้าก็แล้วกัน ระวังตัวด้วยล่ะ อย่าเที่ยวเดินเพ่นพ่านไปไหนนะ”



    “เพค้า” อเมเลียแสร้งลากเสียงยานคางอย่างประชด



    “แฮ่ม เอ่อ...ฝ่าบาท ท่าทางท่านลูคาเชียสจะรอนานแล้ว ท่านไปเถอะ ไม่ต้องห่วงทางนี้ เดี๋ยวหม่อมฉันจะดูแลให้เอง” เมื่อเลมอสขัดขึ้นด้วยสีหน้ายิ้ม ๆ อาเคเดียนจึงรู้สึกตัว เดินจากไปพร้อมกับลูคาเชียสอย่างไม่ค่อยจะวางใจนัก



    “เจ้าชายนะ เจ้าชาย ทำท่าไม่สนใจ แต่จริง ๆ แล้วห่วงอย่างกะอะไรดี” เลมอสโคลงศีรษะพูดกับตัวเอง



    “อะไรนะ” อเมเลียถามขึ้นเนื่องจากได้ยินไม่ถนัด



    “เปล่าหรอกขอรับ ข้าเพียงแต่พูดว่าพวกเราไปกันได้แล้ว”



    ว่าแล้วเลมอสและผู้ติดตามแห่งเมืองเฮปตากอนก็พากันนำขบวนพระชายากลับไปยังพระตำหนักเพียงลำพัง











    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×