ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Rose of the Underworld

    ลำดับตอนที่ #8 : Venomous Attack

    • อัปเดตล่าสุด 8 พ.ย. 47


    เฟกเก้ยืนอยู่อย่างสงบที่หัวเรือ เขาสำเหนียกถึงความผิดปรกติบางประการของป่าอาถรรพ์ ซึ่งยิ่งทำให้ความน่าสะพรึงกลัวของป่าแห่งนี้ทวีคูณยิ่งขึ้นไปอีก



    ขณะนี้เป็นเวลาเย็นมากแล้ว แต่ไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืนก็ไม่ต่างกันมากนัก เพราะใจกลางของป่าแห่งนี้มืดครึ้มทั้งวัน

    เฟกเก้รู้ดีว่าการเดินทางคราวนี้ต่างจากที่ผ่านมา เพราะคราวนี้มีองค์หญิงผู้ซึ่งกำลังจะได้ครองตำแหน่งจักรพรรดินีแห่งโลกปีศาจถ้าหากได้คทามหาเวทย์คืนเดินทางมาด้วย



    ไม่ว่าจะฝ่ายใดต่างก็ต้องการตัวหล่อนทั้งนั้น โดยเฉพาะเมื่อความลับภายในรั่วไหลเช่นนี้! เขาคิดไม่ออกว่าข่าวเรื่องการเดินทางครั้งนี้และคทาที่หายไปจะรั่วจากใคร  แต่ที่แน่ ๆ พวกเขาน่าจะต้องถูกโจมตีในเขตป่าอาถรรพ์เพราะปกติป่านี้ก็มีอันตรายรอบด้านอยู่แล้ว หากถูกโจมตีในป่านี้ก็ยากจะติดตามได้ว่าเป็นฝีมือใคร บางทีอาจป้ายความผิดไปให้กับเหล่าสัตว์ประหลาดในป่านี้ได้อย่างสบาย



    ไอหมอกบาง ๆ เริ่มครอบคลุมพื้นที่ขณะที่เรือค่อย ๆ ลอยไปตามกระแสน้ำ สรรพสำเนียงของทั้งราวป่าเงียบสงัด ความพร่ามัวของท้องที่ซึ่งเกิดจากความอึมครึมของบรรยากาศถูกทับถมด้วยละอองหมอกซึ่งหนาขึ้นเรื่อย ๆ ประสาทสัมผัสที่ไวเป็นพิเศษของเฟกเก้รับรู้ได้ถึงบางสิ่งซึ่งกำลังเคลื่อนตัวใกล้เข้ามา



    อากาศข้นหนักและอับชื้นของป่าหมอกเริ่มมีการเคลื่อนตัวเล็กน้อย กระแสหมอกลอยอ้อยอิ่งผ่านเรือไปราวกับเป็นภาพในห้วงฝัน เรือไหวพะเยิบพะยาบเมื่อกระแสน้ำหมุนวนราวกับมีบางอย่างทวนกระแสน้ำขึ้นมา



    ทหารยามยืนประจำแต่ละจุดบนเรือ เหล่านักรบฝีมือฉกาจล้วนเก็บตัวอยู่ในห้อง ซึ่งเฟกเก้ก็คิดว่าเป็นการดีหากเขาจะได้รับมือกับบางสิ่งที่กำลังเคลื่อนตัวใกล้เข้ามาตามลำพัง เพราะเขาจะได้จัดการได้ด้วยวิธีของเขาเอง



    ป่าทั้งป่าเงียบสงัด ไม่มีแม้เสียงแมลง เรือที่กำลังลอยไปตามสายน้ำกลับนิ่งสนิทในขณะที่กระแสน้ำดูเชี่ยวกรากขึ้น เฟกเก้ไล่ทหารยามทั้งหมดให้เข้าไปในเรือ  แม้จะมีท่าทีอิดออดอยากอยู่เป็นเพื่อนเขา แต่ก็ต้องจำใจกลับเข้าเรือไปทั้งหมดเมื่อเขาสั่งอย่างเฉียบขาด



    เฟกเก้ยืนนิ่งอยู่ที่หัวเรือตามลำพังด้วยท่าทางระมัดระวังและเตรียมพร้อม เขาได้ยินเสียงบางอย่างเคลื่อนไหวครูดกับท้องเรือ เขาชักดาบที่คาดกับเอวออกมากุมไว้มั่น เขาหันกลับไปทางท้ายเรือเมื่อความรู้สึกบอกเขาว่ามีบางอย่างจับจ้องเขามาจากทิศทางนั้น



    เขานิ่งงันไปด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นอสรพิษขนาดยักษ์ดวงตาโปนสีแดงสดราวกับเลือดกำลังจับจ้องมาที่เขาอย่างกระหายเหยื่อ ปากของมันแสยะฉีกออกราวกับรอยยิ้มอันชั่วร้าย



    เขาไม่ได้นิ่งงันไปเพราะตกตะลึงต่อขนาดอันใหญ่โตของมัน หากแต่เป็นเพราะสัตว์ชนิดนี้หรือที่เรียกกันว่าเวโนมัสโดยปกติจะมีขนาดเล็กเพียงวาเศษ ลำตัวใหญ่เพียงลำแขน



    แต่ตัวที่เขาเห็นอยู่ในขณะนี้ มันสามารถใช้ตัวมันเลื้อยพันเรือทั้งลำได้อย่างสบาย มันเป็นสัตว์สายพันธุ์เดียวกับงู แต่มีพิษร้ายแรงกว่า และตามลำตัวมีครีบสีแดงตัดกับเกล็ดสีเขียวแลดูคล้ายกับปลาไหลยักษ์



    เฟกเก้เริ่มรู้สึกไม่สบายใจ ไม่ใช่เพราะหนักใจในการต่อสู้กับเจ้าสัตว์ชนิดนี้ แต่เป็นเพราะเขาไม่รู้ว่าอำนาจประหลาดที่ทำให้สัตว์ขนาดเล็กกลายพันธ์เป็นสัตว์ยักษ์เช่นนี้ มีผลต่อเจ้าตัวนี้เพียงตัวเดียวหรือทุกตัวในป่าอาถรรพ์



    และแล้วความคิดของเขาก็ได้รับการยืนยันเมื่อมีมีเสียงขู่ฟ่อดังมาจากด้านหลังของเขาอีกทาง แน่แล้วว่า พวกมันมากันเป็นฝูง ลำพังเขาคนเดียวอาจหลบหนีไปได้ แต่ในเมื่อต้องรับภาระดูแลคนทั้งหลายที่ร่วมเดินทางมาในคราวนี้ ก็สร้างความหนักใจให้แก่เขาไม่น้อย  เฟกเก้จึงตัดสินใจแก้ปัญหาโดยรวบรัดที่สุด เพราะการเดินทางในครั้งนี้ไม่อาจล่าช้าได้



    ยังไม่ทันที่เขาจะทำอย่างไร เฮเธล เดมอน และคนอื่น ๆ ก็วิ่งมาสมทบ ต่างก็ตะลึงไปในอาการเดียวกับเขาเมื่อเห็นสัตว์ซึ่งปกติมีขนาดเล็กและไม่เป็นพิษภัยจู่ ๆ ก็มีขนาดมโหฬารเช่นนี้และมากันเป็นฝูงและมีท่าทีคุกคามเช่นนี้



    “อย่าเพิ่งเคลื่อนไหวหรือโจมตีอะไรทั้งนั้น” เฟกเก้เตือนทุกคนด้วยน้ำเสียงราบเรียบ



    “เรายังไม่รู้ว่าพิษสงของมันจะร้ายแรงสักแค่ไหน มันมากันเยอะมาก เราอาจรับมือไม่ไหว”



    ทันใดนั้นรอบ ๆ เรือก็เต็มไปด้วยเสียงขู่ฟ่อจากเวโนมัสจำนวนมากที่ชูคอสลอน เฮเธลและเดมอนมีสีหน้าเคร่งเครียดไปในทันทีในขณะที่จิลล์และลูอิกส์ทำท่าขนลุก



    “ข้าจะลองใช้เวทย์เรียกสัตว์อื่นมาปราบพวกมัน” เฟกเก้เอ่ย “พวกท่านเข้าไปด้านในกันก่อนเถอะ”



    “ท่านจะเรียกสัตว์อะไรมาปราบพวกมันล่ะ มันมาเป็นฝูงและมีพิษร้ายเช่นนี้ ตัวอะไรก็คงปราบไม่อยู่” เดมอนขัดขึ้น



    “ท่านวางใจเถอะ” เฟกเก้ยิ้มนิด ๆ “ข้าว่าท่านคงเคยได้ยินถึงความร้ายกาจของสัตว์ประจำเผ่าในตำนานปีศาจมาบ้างนะ” รอยยิ้มในยามนี้ของเขาดูสวยงามอย่างน่าประหลาด



    “เป็นไปไม่ได้ เจ้าจะเรียกออกมาได้อย่างไรในเมื่อสัตว์ในตำนานนั้นมีอำนาจเกินกว่าที่จะถูกกำกับด้วยเวทย์ใด ๆ ทั้งสิ้น” เฮเธลแย้ง



    “ไม่มีเวลาแล้ว พวกท่านเข้าไปกันก่อน ข้าจะเริ่มร่ายเวทย์แล้ว” เฟกเก้บอกเป็นครั้งสุดท้ายก่อนหลับตาตั้งสมาธิ



    งูยักษ์เวโนมัสคืบคลานขึ้นมาพันรอบเรือ บางตัวจด ๆ จ้อง ๆ อยู่ที่กลุ่มคนซึ่งยืนออกันอยู่ เดมอนไม่เชื่อที่เฟกเก้กล่าวเตือน เขาชักดาบออกมาถลาไปฟันตัวที่อยู่ใกล้ที่สุด ดาบกระทบเกล็ดมันดังเคร้ง แต่ก็เด้งกลับโดยไม่มีทีท่าระคายผิวมันแต่อย่างใด



    “อ..อะไรกันนี่” เดมอนประหลาดใจที่ดาบซึ่งมากด้วยอานุภาพของตนฟันไม่เข้า



    เฟกเก้ซึ่งทำสมาธิอยู่ไม่สนใจกับสิ่งใดรอบตัว รอบตัวเขาเริ่มมีรัศมีเรืองรองฉายออกมาทำให้เขาดูมีสีทองไปทั้งร่าง ลำแสงสว่างวาบและพุ่งตรงขึ้นไปยังท้องฟ้าเบื้องบน



    เวโนมัสตัวที่โดนเดมอนพุ่งเข้าโจมตีเมื่อสักครู่เริ่มขยับตัว มันขู่ฟ่ออย่างดูร้ายก่อนที่จะฉกวูบไปที่เดมอน เดมอนกระโดดหลบอย่างรวดเร็วทำให้เขี้ยวมันพลาดไปโดนพื้นเรือ พื้นไม้บริเวณนั้นทะลุ เสียงกระดานไม้แข็งแตกดังสนั่น ท่ามกลางความหวาดเสียวของทุกคน เฮเธลใช้ดาบสายฟ้าของตนปล่อยพลังเข้าโจมตีตัวที่กำลังเล่นงานเดมอนอยู่ มันผละจากเดมอนหันมาทางเฮเธลทันที



    ด้วยความว่องไวของเฮเธล เจ้าสัตว์ร้ายไม่อาจโจมตีได้ถนัดนัก มันจึงเลิกฉกเข้าใส่แต่กลับใช้วิธีพ่นพิษซึ่งมีอำนาจกัดกร่อนสูงเข้าใส่ บริเวณเรือที่โดนกรดพิษนั้นละลายไปอย่างน่าสยอง



    ทุกคนวิ่งแตกฮือ ไม่อยากคิดว่าถ้าโดนกรดพิษนี้เข้าไปจะเป็นอย่างไร



    เมื่อเกิดการตะลุมบอนกันขึ้น เวโนมัสตัวอื่น ๆ ที่คอยท่าอยู่ก็เริ่มเคลื่อนตัวเข้าโจมตี ตอนนี้สถานการณ์ของเหล่าปีศาจอยู่ในภาวะคับขันเสียแล้ว!















    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×