ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] XOXO : พี่สาวครับ... รับรักผมที!

    ลำดับตอนที่ #6 : XOXO :: e‘X’traordinary

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 280
      0
      29 ก.ย. 56


    XOXO :: e‘X’traordinary

     

    “อ้าว! นี่สรุปไม่ได้แกล้งป่วยหรอกเหรอ?”

    ชานยอลเอ่ยทักผมขึ้นมาทันทีที่ก้าวพ้นประตูห้องเรียน เพื่อนๆนั่งสลอนรอที่โต๊ะของผมกับซูจีกันครบแก๊งค์ ห้องเรียนตัวเองก็ไม่ใช่แถมมากันซะเช้าตรู่... เหตุเกิดเพราะความอยากรู้ล้านเปอร์เซ็นต์

    ผมถอนหายใจแบบปลงๆแล้วก็เดินไปนั่งลงตรงโต๊ะของตัวเอง มือก็ดึงเจลลดไข้ที่แปะบนหน้าผากออก อันที่จริงก็ไม่ได้ตัวร้อนเท่าไหร่แล้วล่ะ

    ก็หลังจากที่ผมรู้ตัวตนของหมอคริสแล้วก็ช็อคตาตั้ง จับไข้ไปอย่างที่เห็นแหละครับ เดือดร้อนพี่ซันนี่ต้องโทรตามพี่ชายกลับมารักษาจริงๆ วันหยุดที่เหลืออีกหนึ่งวัน ซึ่งก็คือเมื่อวาน กลายเป็นว่าบยอนแบคฮยอนนอนซม และไม่ได้มีนางฟ้านางสวรรค์ที่ไหนมาป้อนข้าวป้อนน้ำให้ทั้งนั้น

    เล่าให้เพื่อนๆฟังแล้วแต่ละคนก็ขำก๊าก คยองซูร้อยวันพันปีไม่เคยจะแสดงท่าทางอะไรขนาดนี้ก็ยังถึงขั้นลงไปขำจนตัวงอ ไม่ต้องพูดถึงคิงออฟรีแอ๊คชั่นอย่างปาร์คชานยอลเลย รายนั้นขำตกหน้าต่างตายได้มันคงทำไปแล้ว -*-

    “แล้วนี่วันนี้นายไม่ได้มาพร้อมกับซูจีหรอกเหรอ?” คริสตัลเอ่ยถามหันซ้ายหันขวา เออแฮะ... จู่ๆก็ไม่เห็นยัยซื่อบื้อโผล่หน้ามารอหน้าบ้านเหมือนทุกวันอย่างเคยเลย อย่าว่างั้นงี้เลยนะฮะ คือซูจีอ่ะไม่ได้อยากจะไปโรงเรียนพร้อมผมหรอก ไอ้ที่มารอหน้าบ้านทุกวันน่ะเพราะคอยชะเง้อส่งยิ้มหวานอ่อยพี่ชายตะหาก

    ใสมากกกกกกก =___=

    ไม่ทันที่ผมจะได้ตอบคำถาม ใครบางคนที่คริสตัลถามถึงก็เปิดประตูห้องเรียนเข้ามา พอพวกเราหันไปเห็นสภาพของแม่ดาวโรงเรียนเท่านั้นแหละ พวกเราก็หัวเราะก๊ากกันขึ้นมาอีกรอบใหญ่ๆ

    ก็จะไม่ให้หัวเราะได้ไงในเมื่อกลางหัวแบซูจีมีมะนาวปูดขึ้นมาลูกเบ้อเร่อ!

    อย่าว่าแต่พวกผมขำเลยนะ เพื่อนคนอื่นในห้องยังขำเลยอ่ะ คิดดู

    “ใครไม่อยากตายก็หุบปากไปซะ!” เสียงตวาดดังขึ้นจากคิมจงอินที่ไม่พูดเปล่า แต่พี่แกดันเอาเท้าฟาดโต๊ะดังโครมประกอบด้วย เท่านั้นแหละ ทั้งห้องเงียบเป็นป่าช้าครับ... นี่ไม่นับที่โอเซฮุนหักข้อนิ้วกรอบแกรบอยู่ข้างๆ กับหวงจื้อเทาที่จู่ๆก็ลุกขึ้นมารำกังฟูให้ดูเป็นบุญตาซะยังงั้นด้วยนะ

    ...ผมลืมบอกไปใช่มั้ยครับว่าเทอมนี้ผมกับซูจีเรียนห้องเดียวกับพวกมัน... ช่วยไม่ได้ พวกตัวประกอบก็งี้แหละ เพิ่งมีบทเมื่อตอนที่ผ่านมา แถมยังโผล่มาอัดพระเอกของเรื่องอีก นี่ไม่ตัดค่าตัวก็ดีเท่าไหร่แล้วนะ

    “เอ่อ ใกล้ชั่วโมงโฮมรูมแล้วพวกเรากลับห้องกันดีกว่าเนอะ” ซอลลี่พูดแล้วก็ลากคนอื่นๆในกลุ่มสลายโต๋ ตัดช่องน้อยแต่พอตัวกันนี่นา T__T กลายเป็นว่าผมรับสายตาคาดโทษจากไอ้สามตัววิปริตนั่นอยู่คนเดียว ทั้งๆที่คนขำซูจีกันเต็มห้อง

    ยัยเอ๋อถอนหายใจก่อนจะเดินกระโผลกกระเผลกมานั่งข้างผมเหมือนอย่างทุกที แถมไม่นั่งเปล่า เจ้าตัวคงเคืองอะไรมาไม่ใช่น้อยถึงได้ฟาดกระเป๋าโครมลงบนโต๊ะอย่างแรงจนผมสะดุ้ง

    งานนี้คนหล่อก็ได้แต่ถอนหายใจครับ ผมล้วงหยิบของบางอย่างในกระเป๋าเป้ก่อนจะสะกิดๆให้ซูจีหันหน้ามาหา

    “มีอะไร?” ยัยเอ๋อ พูดเสียงห้วน ท่าทางจะเคืองที่โดนหัวเราะเยาะไปไม่ใช่น้อย

    แทนที่จะตอบอะไรกลับไปแล้วเจอยัยตัวแสบเหวี่ยงกลับมา ผมกลับแกะแผ่นเจลลดไข้ที่เป็นของตัวเองแปะบนหน้าผากโนๆของยัยซื่อบื้อที่ทำตาโตเป็นไข่ห่านบ่งบอกว่างงสุดๆกับการกระทำของผม

    แหม... ถึงบยอนแบคฮยอนจะไม่ฉลาด แต่ก็ไม่ได้โง่ถึงขนาดจะไม่รู้นะครับว่าแบซูจีเจ็บตัวเพราะอะไร...

    ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะตกต้นไม้จากการช่วยผมเมื่อวานซืนล่ะก็นะ ทั้งเดี้ยงทั้งโนแบบนี้พ่อจะหัวเราะเยาะให้ฟันร่วงหมดปาก

    “รู้น่าว่าไม่ได้เป็นไข้ แต่ก็แปะไว้เหอะ คนอื่นจะได้ไม่ขำ แล้วก็เผื่อเจลเย็นๆมันจะลดอาการปวดได้บ้าง” ผมบอกยัยเอ๋อที่เอาแต่กะพริบตาปริบๆ หลังจากนั้นซูจีไม่ได้ขอบคุณอะไร เพียงแค่สะบัดหน้ากลับไปหยิบหนังสือเรียนขึ้นมากางก่อนจะส่งยิ้มชวนจิตหลอนมาให้

    “ทางที่ดีเย็นนี้ช่วยนัดคิวพี่ชายนายให้มารักษาฉันเป็นการส่วนตัวดีกว่านะ รับรองว่าหายเร็วเชียวล่ะ”

    “ฮึ้ย! เธอนี่มัน!

    ยังไม่ทันจะได้เปิดสงครามน้ำลายกันต่อ จู่ๆมือถือของผมก็สั่นครืดคราดจนสะดุ้งโหยง พอหยิบขึ้นมาดูก็เห็นเหมือนคริสตัลจะแชทมา

    อะไรกัน เพิ่งจะแยกกลับห้องกันไปตะกี้นี้เองนะ =__=

    ซูจีหันมามองผมด้วยสายตาสนอกสนใจ ผมก็เลยวางมือถือไว้ตรงขอบโต๊ะให้ยัยนั่นชะโงกหน้าเข้ามาดูด้วย

    << นี่ ถ้านายยังไม่ยอมแพ้ฉันยังมีไอเดียดีๆอยู่นะ >>

    ผมสบตากับซูจีหลังเห็นข้อความนั้นก่อนจะพิมพ์ตอบกลับไป

    << ไอเดียอะไร? >>

    << ดับเบิ้ลเดทที่สวนสนุกไงล่ะ ไปด้วยกันทั้งหมดนี่เลย แล้วแกล้งทำเป็นพลัดหลงกัน พวกฉันจะทำให้นายได้จับคู่กับพี่ซันนี่เอง ส่วนซูจีก็จะได้ดึงพี่คยูฮยอนไปอีกทาง โอเคไหม? >>

    ผมอ่านข้อความด้วยใจที่เต้นรัว ไม่อยากจะบอกเลยว่าแผนนี้...

    ...มันแหล่มมาก!!!

    แหล่มสุดๆ! เยี่ยมยอด! สมกับที่เป็นนักเรียนดีเด่น ไอคิวสูงฉลาดล้ำเลิศที่สุดทั้งในกลุ่มและในโรงเรียนของเราจริงๆ

    ผมเบนหน้ามาสบตากับซูจี แล้วเราสองคนก็ยกยิ้มที่มุมปากขึ้นพร้อมกันอย่างรู้ทันความคิดของอีกฝ่าย ก่อนที่ยัยเอ๋อจะคว้ามือถือผมไปพิมพ์ข้อความตอบซะเอง

    << แผนดับเบิ้ลเดทที่สวนสนุก จัดไปอย่าให้เสีย! >>


    นี่! ทำหน้าให้มันดีๆหน่อยสิยะ

    ยัยเอ๋อซูจีกระทุ้งศอกใส่สีข้างของผม ก่อนจะส่งค้อนวงเบ้อเร่อมาให้ ฮึ!... ก็ใครมันจะไปมีอารมณ์ยิ้มลอยหน้าลอยตาอยู่ได้กันล่ะ ในเมื่อมีพี่ซันนี่กับพี่คยูฮยอนเดินควงกันกะหนุงกะหนิงให้เห็นตำตาอยู่ตรงหน้าน่ะ!

    ผมได้แต่แยกเขี้ยวใส่ยัยซื่อบื้อแล้วชะลอฝีเท้าลงมาตีคู่กับคริสตัลที่เดินควงแขนซอลลี่กินไอติมอย่างอารมณ์ดีตั้งแต่ก้าวเข้ามาในสวนสนุก นี่ตกลงไม่รู้ตามมาช่วยหรือแค่เพราะอยากมาเที่ยวกันแน่ -*-

    นี่คริสตัล~ ไหนว่าจะสร้างโมเมนท์ให้ฉันไง แล้วทำไมถึงได้ปล่อยให้พวกพี่เค้าสวีทกันยังงี้อ่ะ

    โหย แกก็ช่วยใจเย็นก่อนได้ป่ะวะ? มันก็ต้องทำเนียนๆปล่อยให้เค้าได้มีโมเมนท์กันไปก่อนสักแป๊ปแล้วค่อยหาโอกาสเสียบดิเฟ่ยคำตอบที่ได้กลับออกมาจากปากจงแดที่เดินต้อยๆตามหลังมา ผมหันไปมองหน้ามันอย่างเซ็งๆ แล้วดูมันทำเข้า น่ารักนักเหรอเอาที่คาดผมหูกระต่ายมาใส่น่ะ? แถมยังเดินควงแขนตัวติดกับชานยอลยังกะคู่เกย์ อี๋!... แค่คิดก็รับไม่ได้แล้ว!

    ตั้งแต่คดีพี่หมอคริสนี่ผมยังสยองไม่หายเลยนะครับ T__T...

    อดทนหน่อยแล้วกันนะแบคฮยอน เดี๋ยวอีกสักพักฉันกับคยองซูจะหาเรื่องโดดกลับไปก่อน พอถึงตอนนั้นนายก็ลากพี่ซันนี่ชิ่งแล้วกันผมพยักหน้ารับคำอธิบายของคริสตัลแต่ก็อดตงิดใจไม่ได้ว่าทำไมต้องชิ่งไปกันสองคนล่ะ? เหมือนคยองซูจะรู้ทัน หมอนั่นเลยชิงตอบออกมาดักคอเอาไว้ก่อน

    คริสตัลให้ฉันสอนเปียโนให้ แล้วพวกเราก็คุยกันว่าน่าจะมีมือคีย์บอร์ดสำรองไว้อีกสักคน เพราะไอ้นักร้องนำมันดันโดดซ้อมบ่อย เกิดถ้าฉันต้องสลับไปร้องจะได้มีคนเล่นแทน

    ชะอุ้ย... เหมือนจะงานเข้าที่ผมแฮะ... แหะๆ

    จริงๆแล้วแรกเริ่มเดิมที วงดนตรีเรานี่มีแค่ ผม ชานยอล แล้วก็จงแดครับ สมัยนั้นผมรับควบสองตำแหน่งเป็นทั้งมือคีย์บอร์ดและร้องนำด้วย อะไรครับ?.... ไม่ต้องแปลกใจขนาดนั้นก็ได้ คุณอ่านไม่ผิดหรอกว่าคนอย่างบยอนแบคฮยอนนี่แหละ เกิดมาหน้าตาก็ดี ร้องเพลงก็เพราะ แถมยังเล่นเปียโนได้อีกต่างหาก ยอดมนุษย์อุลตร้าแมนยังชิดซ้ายนะครับ! แต่ก็นั่นแหละ... พอจงแดไปชวนคยองซูมาแจมวงด้วย ผมก็ต้องสละตำแหน่งคีย์บอร์ดให้มันไป เนื่องจากแม้คยองซูจะเสียงดี (แต่ก็สู้ผมไม่ได้หรอกนะ) แต่เขาพูดไม่เก่ง แถมยังออกแนวตื่นคนหมู่มาก เพราะงั้นเจ้าตัวก็เลยขอสลับตำแหน่ง ให้ผมเป็นนักร้องนำไปยาวๆคนเดียวเลย

    งั้นเดี๋ยวฉันไปให้คริสตัลสอนเล่นเบสบ้างดีมะ? จะได้มีคนเล่นแทนไงจงแดเสนอหน้าเข้ามาร่วมวงเมาท์ แต่ไอ้ความคิดของมันน่ะ เล่นเอาทั้งผม ชานยอล คยองซู และคริสตัลต้องประสานเสียงออกไปพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายทันที

    ไม่ต้อง! นายน่ะตีกลองให้รอดก่อนเถอะ!

    ดูท่าเสียงพวกผมคงจะดังไปหน่อย คนรอบข้างถึงได้หันมามองเราเป็นตาเดียว จะยังไงได้ล่ะครับนอกจากยืนตัวแข็ง อยากจะก้มหน้างุดๆลงดินด้วยความอายเหลือเกิน ติดตรงที่ชานยอลมันดันหัวเราะลั่นแล้วปรบมือกระโดดไปมาเหมือนแมวน้ำเสียสติ เท่านั้นแหละครับ ฮาแตกกันทั้งแก็งค์... ขำไอ้ชานยอลมันนั่นแหละ ไม่ใช่อะไร

    ยิ่งคบไอ้ตัวป่วนพวกนี้นานเท่าไหร่ สติปัญญาของผมก็ดูจะเสื่อมถอยลงไปเรื่อยๆ จริงๆนะ =__=

    เด็กๆคุยอะไรกันน่ะ ท่าทางน่าสนุกจังเลย ^^” พี่ซันนี่นางฟ้าของผมควงแขนพี่คยูฮยอนให้เดินช้าลงจนมารวมกลุ่มกับพวกเรา พี่อย่ายิ้มแบบนั้นสิครับ เห็นแล้วมันหวั่นไหวนะ

    ไม่มีอะไรหรอกค่ะ พวกนี้ก็ไร้สาระไปเรื่อยน่ะซูจีหันกลับไปตอบห้วนๆ ก่อนจะทำตัวเนียนเข้าไปควงแขนอีกข้างของพี่ชายที่ว่างอยู่ ไม่ได้จะแคร์เลยนะว่าเค้ามีแฟนเป็นตัวเป็นตนยืนอยู่ข้างๆ -*-

    พี่คยูฮยอนคะ~ เราหาอะไรเล่นกันเถอะค่ะ นี่ก็เข้ามาตั้งนานแล้วนะ

    อืม... จริงสินะ งั้นเริ่มด้วยไอ้นั่นเป็นไง?”

    ผมหันหลังกลับไปมองไอ้นั่นที่พี่ชายชี้แล้วก็รู้สึกหนาวยะเยือกขึ้นมาถึงไขสันหลัง...

    ...ไวกิ้ง 360 องศา...

    นี่ผมเคยบอกรึเปล่าครับว่าตัวเองกลัวความสูง?

    ถ้ายังก็ขอบอกไว้ตรงนี้เลยนะครับ ว่าบยอนแบคฮยอนกลัวความสูง! กลัวมากอ่ะครับ ไม่งั้นคงไม่เตี้ยอยู่อย่างทุกวันนี้ T__T

    แล้วไม่ใช่พี่ชายไม่รู้นะครับ... แต่ผมว่ารายนั้นอยากเอาใจแฟน เพราะพี่ซันนี่ดูดี๊ด๊าลากเราไปเข้าคิวต่อแถวรอขึ้นเครื่องเล่นทันทีแบบไม่มีถามความเห็นอะไรอีก ซวยแล้วไงครับ งานนี้ผมเห็นเค้าลางความหายนะมาแต่ไกล...

    แบคฮยอน รออยู่ข้างล่างมั้ย?” พี่ชายอุตส่าห์หันมาถามผมด้วยความเป็นห่วง แต่งานนี้ให้ป๊อดโชว์สาวนี่ไม่เอานะครับ มันเสียฟอร์ม!

    ไม่อ่ะครับ ผมเล่นได้ตอบไปแบบนั้นแต่แขนซ้ายแขนขวาก็ล็อคตัวจงแดกับชานยอลไว้แน่น แอบเห็นสายตาเยาะเย้ยของซูจีส่งมาด้วยอ่ะ งื้ออออ~ T^T แต่ก็ขอปล่อยให้ยัยซื่อบื้อทำหน้าที่ กขค ไปชั่วคราวแล้วกันนะครับ อย่างที่บอก ให้ไปร้องกรี๊ดๆกอดพี่ชายโชว์พี่ซันนี่เนี่ยมันเสียฟอร์มอย่างรุนแรงเลย ผมยอมติดแหง็กอยู่กับไอ้สองคนนี้ดีกว่า จะกรี๊ดก็กรี๊ดได้ไม่อายปาก ไม่ต้องกลัวมาดหลุด

    แล้วไอ้ที่สองคนข้างๆผมนี่เงียบไป ไม่ใช่อะไรนะครับ มันเองก็กลัวเหมือนกัน คบกันมานานนี่นะ อะไรที่ผมกลัวเพื่อนก็กลัว อย่าได้หวังว่าจะพึ่งพาอะไรพวกมันได้ T__T

    น่าซึ้งน้ำใจที่สุดในสามโลก....

    ตอนนี้แถวขยับร่นเข้ามาเรื่อยๆ ด้วยความที่เครื่องเล่นมันนั่งได้แถวละสามคนอ่ะครับ เราเลยแบ่งออกเป็นสามทีมคือพี่คยูฮยอน พี่ซันนี่กับซูจีนั่งแถวหน้าท้านรก ถัดมาเป็นคริสตัล คยองซูและซอลลี่ ส่วนสามหนุ่มใจป๊อดอันได้แก่ผม จงแดและชานยอลนั่งท้ายปิดขบวนครับ อันที่จริงผมจะไม่กลัวมากนะถ้ามันไม่ห้อยหัวตีลังกา แต่เหลือบเห็นว่าชานยอลแค่ก้าวขึ้นขาก็สั่นพั่บๆแล้วอ่ะ

    วางเงินพนันกันเลยดีมั้ยฮะว่าใครจะสติแตกก่อนคนแรก? T__T

    อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!เสียงแปดล้านเดซิเบลของคิมจงแดดังขึ้นทันทีที่เครื่องเล่นเริ่มเทคออฟ เสียงมันนี่แหลมทะลุทะลวงแก้วหูมากครับ ถ้าจะกรี๊ดใส่กันขนาดนี้เอามีดมาแทงกันเลยดีกว่า เจอจงแดเข้าไป ผมแทบอยากกลืนเสียงตัวเองลงคอไปเลยครับ แล้วยิ่งเห็นสภาพ... โหย โคตรตุ๊ดอ่ะ ไม่ได้ๆต้องอึ๊บเอาไว้ อย่ากลัวลูก อย่ากลัว...

    ถึงจะพูดเอาไว้แบบนั้น แต่พอเรือไวกิ้งเหวี่ยงตัวกลับหัวตีลังกาเท่านั้นแหละ...

    ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!ผมกับจงแดกอดกันกลมพร้อมใจกันไต่เสียงประสานสูงขึ้นไปอีกแปดออคเตฟครับ T__T งื้อออ~ เอาหนูลงป๊าย!!! ผมพยายามรวบรวมสติสตังหันกลับไปมองชานยอลที่อยู่อีกข้าง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเสียงกรี๊ดเหลือจะรับของผมกับจงแดหรือเพราะแรงเหวี่ยงกระชากวิญญาณเมื่อตะกี้ แต่เอาเป็นว่าตอนนี้ชานยอลตาลอยประหนึ่งส่งจิตไปโคจรรอบดวงจันทร์แล้วเรียบร้อย

    ลงท้ายผมก็ต้องเป็นคนลากถูกลู่กังเพื่อนทั้งสองคนลงมาจากเรือไวกิ้ง แค่เท้าเหยียบพื้นก็เหมือนฟื้นคืนชีวิตใหม่สำหรับบยอนแบคฮยอน แต่ไอ้สองคนข้างๆนี่สิ ท่าทางยังโดนอาฟเตอร์ช็อคเล่นงานอยู่ จงแดหน้าเขียวจนจะม่วงดูไม่น่ารอด ส่วนชานยอลเดินโซซัดโซเซและยังหาลิ้นตัวเองไม่เจอครับ =__=

    พี่ชาย ผมว่านั่งพักสักหน่อยมั้ย? สองคนนี้จะไม่ไหวแล้ววอ้ะ T__T คนเริ่มเยอะแล้วด้วย

    อื้อๆ ได้สิพี่คยูฮยอนหันมาตอบก่อนจะวิ่งเข้ามาช่วยพยุงไอ้เสาไฟฟ้าไปจากผม แล้วพวกเราก็ลากถูลู่กังตัวปัญหาสองตัวมานั่งพักบนม้านั่งใกล้ๆ เฮ้อ~

    ยังไม่ทันจะได้หย่อนก้นลงนั่ง คริสตัลก็เดินเข้ามาเตะหน้าแข้งผม พลางยกนิ้วชี้แตะปากเป็นเชิงห้ามโวยวาย แต่ที่เตะมาน่ะ เจ็บจริงอะไรจริงนะ! คุณมือเบสสุดสวยส่งสายตาข้ามไปหาซูจีที่ยกนิ้วโป้งตอบกลับมา ก่อนจะเดินลั้ลลาไปหาพี่ชายผมแล้วเกาะแขนด้วยท่าทีออดอ้อน

    พี่คยูฮยอนคะ เราไปซื้อน้ำมาให้คนอื่นๆกันดีกว่านะคะ นะค้า~” ชิส์ ทำมาเป็นลากเสียงยาวแอ๊บแบ๊วนะยัยแม่มด ถ้าไม่ติดว่ามีผลประโยชน์ร่วมกันอยู่ล่ะก็ ผมจะเดินเข้าไปแซะแล้วขุดหลุมฝังแบซูจีมันตรงนั้นแหละ!

    ไปเถอะค่ะ เดี๋ยวฉันอยู่ดูแลเด็กๆทางนี้เองพี่ซันนี่พูดขึ้นหลังจากที่เห็นพี่ชายมีท่าทีลังเล พี่คยูฮยอนยิ้มรับแล้วก็ออกเดินไปตามแรงลากของซูจี ยังไม่ทันจะคลาดสายตาดี คยองซูกับคริสตัลก็หิ้วปีกจงแดขึ้นมาคนละข้าง

    พี่ครับ ผมลืมไปว่าจงแดเมาเรือเป็นโรคประจำตัว ถ้าปล่อยทิ้งไว้นานอาจจผื่นขึ้น เป็นลมพิษ หลอดลมอักเสบจนถึงตายได้ ยังไงต้องขอตัวพาเพื่อนไปโรงพยาบาลก่อนนะครับมันพูดรวดเดียวจบซึ่งเป็นอะไรที่ผมไม่เคยพานพบมาก่อน ระหว่างที่กำลังอึ้งกะพริบตาอีกทีมันก็หายไปแล้ว แต่เดี๋ยวนะ... เมาเรือไวกิ้งมันจะทำให้ผื่นขึ้นเป็นลมพิษกับหลอดลมอักเสบถึงตายได้ด้วยเหรอ? จะโกหกอะไรก็ให้มันอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงโลกหน่อยเหอะ โดคยองซู! T__T

    อ่า... งั้นหนูขอตัวไปเข้าห้องน้ำแป๊บนึงนะคะคราวนี้ถึงคิวของซอลลี่แล้วฮะ สาวน้อยน่ารักหัวหน้าแฟนคลับเราดูลุกลี้ลุกลนชวนความแตกซะเหลือเกิน แถมยังตีไอ้เอ๋อชานยอลเพื่อนผมให้ฟื้นมาช่วยทำมาหากินด้วย แต่ท่าจะยากอ่ะครับ ตอนนี้สติสตังมันคงยังโคจรอยู่ที่ไหนสักแห่งในระบบสุริยจักรวาลนี่แหละ

    งั้นให้พี่ไปเป็นเพื่อนมั้ย?” พี่ซันนี่เสนอตัวด้วยความหวังดีแต่ซอลลี่ก็ปฏิเสธด้วยเสียงแหลมปรี๊ด

    ม...ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวหนูไปกับชานยอลลี่ก็ได้ เนอะ เนอะ ชานยอลอ่า นี่! ลุกสิ!ท้ายที่สุด ปาร์คชานยอลก็ลุกขึ้นเดินโต๋เต๋ตามหลังซอลลี่ไปจนได้ ยังนึกเป็นห่วงอยู่ในใจว่ามันจะรอดรึเปล่านั่น... แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขอเป็นห่วงตัวเองก่อนนะครับ T__T ไม่รู้จะเอาหน้าไถพื้นอีท่าไหนดีแล้วเนี่ย! ไหนมันบอกมันจะสลายโต๋เนียนๆ นี่มันเนียนพรรคดาวอังคารรึยังไง? เด็กสามขวบยังจับไต๋ได้เลย คิดแล้วก็เครียด

    ผมได้แน่นั่งนิ่งๆมองคู่รักหลายสิบคู่เดินผ่านไปผ่านมาอยู่บนบ้านั่งตัวเดียวกับพี่ซันนี่ที่ดูจะไม่ได้ติดใจอะไรกับการหายตัวไปอย่างน่าสงสัยของคนอื่นๆ คงต้องขอบคุณดินฟ้าอากาศ ขอบคุณเรือไวกิ้ง หรืออะไรก็ตามแต่ที่สามารถทำให้โมเมนท์นี้เกิดขึ้นได้ในที่สุด

    เหลือแค่เราสองคนแล้วสินะ ^^” พี่เค้าพูดออกมาพร้อมกับยิ้มกว้างย่นจมูกส่งมาให้ผม น่ารักและทำผมฟินจนอยากจะลงไปนอนกลิ้งๆรอบโลกซักหกรอบครึ่ง

    งั้น... เราหาอะไรทำฆ่าเวลาดีไหมครับ? คนเยอะขนาดนี้ กว่าคนอื่นๆจะกลับมาคงนาน

    อื้ม ดีเหมือนกัน ทำอะไรดีล่ะ?” นางฟ้าของผมหันมาสบตา รอฟังคำตอบที่ผมเองก็ยังคิดไม่ออก ได้แต่บ่นกับตัวเองง้องแง้งในความคิด

    นี่...คุณหัวใจ ช่วยเต้นด้วยจังหวะปกติหน่อยได้มั้ยอ่ะ รู้มั้ยว่ามันรบกวนการทำงานของสมองและการสูบฉีดเลือดด้วยนะ

    ผมเป็นเอามากแล้วนะเนี่ย บอกไว้ตรงนี้เลย...

    ตรงนั้นมีร้านสายไหมด้วยล่ะ ไปซื้อกันเถอะ ถ้าเป็นตรงนั้นล่ะก็ถึงใครจะกลับมาก็คงมองเห็นพวกเรา ได้แน่ๆ

    ค...ครับผมตอบกลับไปอ้อมแอ้ม รู้สึกฟินเล็กๆอีกรอบที่พี่ซันนี่จูงมือพาเดินไปซื้อสายไหมราวกับผมเป็นเด็กน้อยยังไงยังงั้น

    เอ๊ะนี่ไม่ใช่เวลามาทำตัวมุ้งมิ้งเป็นลูกแหง่นะ! ผมต้องมาดแมนไว้ลายให้สมเป็นชายอกสามศอกสิ! คิดได้แบบนั้นแล้วผมก็ควักกระเป๋าตังค์ออกมา บอกพี่ซันนี่ว่าเดี๋ยวท่านแบคฮยอนสุดหล่อคนนี้จะเลี้ยงสายไหมเอง พี่เค้าหัวเราะก่อนจะขยี้หัวผมอย่างเอ็นดู เล่นซะผมเขินจนจะม้วนเป็นกิ้งกือได้อยู่แล้ว

    สองพันวอนครับคุณลุงคนขายสายไหมหันมามองผม และในจังหวะที่ผมหยิบเหรียญพันวอนสองเหรียญออกมายื่นให้นั้นเอง ใครบางคนก็กระแทกผมเข้าที่ไหล่ ส่งผลให้หนึ่งในสองเหรียญนั้นหล่นลงไปกับพื้น

    เฮ้ย!ผมร้องเสียงดัง แล้วออกวิ่งตามเหรียญพันวอนที่กลิ้งหลุนๆเข้าไปท่ามกลางฝูงชนทันที อย่าหาว่างกเลยนะครับ แต่ผมเป็นคนรู้จักค่าของเงินอ่ะ พ่อแม่ผมอุตส่าห์ถ่อไปทำงานที่จีนส่งเงินข้ามน้ำข้ามทะเลมาให้ขนาดนี้ จะให้ผมปล่อยเงินพันวอนจากน้ำพักน้ำแรงของพวกท่านให้สูญหายไปโดยเปล่าประโยชน์ไม่ได้เด็ดขาด!

    ผมพุ่งตัวผ่านขาหลายคู่จนกระทั่งก้าวเท้าไปเหยียบไอ้เจ้าเหรียญไม่รักดีให้มันหยุดกลิ้งหนีผมได้สำเร็จ ถอนหายใจยาวด้วยความเหนื่อยทีนึงก็จะยกเท้าขึ้น อ่ะเด๊ะ? พันวอนหายไปไหนวะ =__= นี่ไม่ได้มุกนะ ไม่ตลกด้วย!

    ด้วยความสังหรณ์ใจอะไรบางอย่าง ผมเลยหงายฝ่าเท้าขึ้น... นั่น ชัดเป๊ะ พันวอนของผมติดแหงกอยู่กับพื้นรองเท้าด้วยยางหมากฝรั่งเหนียวหนึบที่ไม่รู้ผมไปเหยียบเข้าตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมทำใจใช้ปลายนิ้วแงะเอาเงินออกมา ยี๋... ยังมีเศษสีชมพูๆติดอยู่เลยอ่ะ T__T ทำไมชีวิตมันบัดซบยังงี้วะ? แต่ก็ช่างมันพี่ซันนี่คนสวยกำลังรออยู่นี่เนอะ

    ผมวิ่งห้อกลับไปยังร้านสายไหม แต่ก็อย่างที่ทุกคนคิดแหละครับ... นางฟ้าของผมหายไปแล้ว...

    อยากจะทึ้งหัวให้กับความโง่เง่าของตัวเอง บยอนแบคฮยอนเอ๊ย!!! เห็นแก่เงินจนได้เรื่อง... เอาวะ... โทรตามพี่ชายก็ได้ คิดได้ยังงั้นแล้วผมก็ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง...แต่...

    ไม่มี!!!

    เฮ้ย! นี่ไม่ขำนะ! ไม่มีมือถือจริงๆอ่ะ!

    เครียดดิครับทีนี้ T__T จะหาเพื่อนให้เจอได้ยังไง จะตามหาพี่ขายได้ที่ไหนก็ไม่รู้ ผมจำเบอร์ใครไม่ได้เลยสักคน เบอร์บ้านตัวเองก็ไม่รู้ ชักจะเห็นข้อเสียของเทคโนโลยีก็วันนี้แหละ...

    แต่เหนือสิ่งอื่นใดนั้น... เงินที่มีติดตัวผมตอนนี้มันไม่พอนั่งแท็กซี่กลับบ้านนะครับ!

    พระผู้เป็นเจ้า โปรดเห็นใจลูกด้วย อย่าให้บยอนแบคฮยอนเฉาตายอยู่ในสวนสนุกคนเดียวเลย! TT__TT

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×