คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : 6th Tale ~ Thumbelina Finding a Fairy Prince
6th Tale ~ Thumbelina Finding a Fairy Prince
30 พฤษภาคม...
“เดินทางดีๆนะคะพี่ แค่นี้ก่อนนะคะ พี่ฮโยยอนจะลากฉันไปเมาต่อแล้ว >_<” ยุนอา เจ้าของวันเกิดทำเสียงน่ารักใส่โทรศัพท์ ยังไม่วายทำภาพพจน์ฉันเสียอีกนะ =_= คนที่ดิ้นเร่าๆบอกไม่เมาไม่กลับน่ะคือยัยน้องรองต่างหาก ไม่ใช่ฉัน
“เสียดายเนอะที่สิก้าไม่มา” ซันนี่ทำเสียงจิ๊จ๊ะน่าหมั่นไส้ แหงล่ะ ใครพลาดงานนี้นี่น่าเสียดายสุดๆ พวกเราจัดการตอกหน้าแฟนเก่าจอมปลอมของทิฟฟานี่ได้ทั้งที แถมซูยองกับชีวอนยังแจกการ์ดงานแต่ง ใครไม่มานี่พลาดไปอีกสามชาติ
“นี่พวกเราไม่ไปต่อแล้วนะ พรุ่งนี้มีงานให้เคลียร์แต่เช้า” ยูริกับพี่ฮีชอลโบกมือขอบาย =__= แหม... เคลียร์งานหรือเคลียร์การบ้าน สายตาพี่ฮีชอลออกจะเยิ้มขนาดนั้น
“ควอนยูล! พี่ห้ามชิ่งเด็ดขาดเลย นี่วันเกิดฉันนะ!”
“แหกตาดูปฏิทินซะบ้างเถอะย่ะ พรุ่งนี้วันสิ้นเดือน ฉันต้องตื่นไปเคลียร์กะโรงพิมพ์ตั้งแต่ตีห้า ถ้าอยากให้อยู่ต่อพรุ่งนี้เธอตื่นไปกับพี่เลย -*-“ เจอมุกนี้น้องรองของเราถึงกับเหวอ ยอมโบกมือบ๊ายบายยูริกับพี่ฮีชอลแต่โดยดี
“ฉันก็จะกลับแล้วเหมือนกันค่ะ” มักเน่หันมาพูดแต่ว่างานนี้มีเหรอที่ฉันจะยอมปล่อยไปง่ายๆ
“ปล่อยพวกคนมีคู่ไปเถอะซอฮยอน คืนนี้สาวโสดอย่างพวกเราต้องมันส์ให้เต็มที่!”
ฉันไม่รอให้น้องเล็กตอบตกลง เพราะแทยอนจัดการเรียกเท็กซี่ แล้วฉันกับผู้กองอิมก็ล็อกแขนซอฮยอนคนละข้าง มัดมือชกให้ไปด้วยกันสุดๆ
แค่ประมาณไม่ถึงสิบนาทีแท็กซี่ก็พาเรามาถึงผับร้านที่สองของคืนนี้ เดอะไนน์น่ะบรรยากาศดีแล้วก็เป็นร้านประจำ แต่ไหนๆวันนี้ก็พิเศษ มันต้องมีออกท่องราตรีกันบ้างอะไรบ้าง
ทันทีที่พวกเราก้าวเข้าไปในร้าน สายตาทุกคู่ก็หยุดลง
แน่นอน... สวยซะอย่าง ใครจะทำไม?
ฉันชายตามองผู้ชายกลุ่มนึงที่มองเราอ้าปากค้างน้ำลายแทบจะไหลเยิ้ม ก่อนจะหันไปหัวเราะคิกทักกับแทยอนและยุนอา มีแค่มักแน่คนเดียวที่ทำสีหน้าไม่ค่อยสบายใจ
“ไม่เอาน่าซอฮยอน เธอเป็นเด็กดีมาตลอดชีวิต แอบเกเรเป็นของขวัญวันเกิดให้ยุนอาสักหน่อยไม่เป็นไรหรอก” ฉันแกล้งหยอกน้องเล็กใส่ซื่อที่ทำหน้าหงิกกลับมา แต่แล้วเธอก็ถอนหายใจแบบยอมแพ้
“แค่เต้นนะคะ ฉันไม่อยากดื่ม”
“รออะไรอยู่! ลงไปร็อคฟลอร์เลยยัยหนู!” ฉันลากตัวซอฮยอนที่หัวเราะลั่นลงไปด้วยกัน พวกเราสี่คนยึดพื้นที่กลางฟลอร์ได้อย่างไม่ยากเย็น ทุกๆครั้งที่ฉันขยับ แค่มูฟเมนท์เล็กๆกับรอยยิ้มหน่อยๆก็ทำเอาหนุ่มๆ แทบอยากจะเป็นฟลอร์ให้ฉัน ถึงเรื่องความสวยฉันจะแพ้ยุนอาแต่ถ้าเรื่องเต้นเนี่ย... ขอบอกว่าฉันน่ะมืออาชีพ - -+
“นี่ ฮโยยอน เธอโดนหมายหัวแล้วล่ะ” แทยอนหันพูดใส่หูฉันแล้วพยักเพยิดขึ้นไปทางเวที แสงไฟดิสโก้วิบวับทำให้ฉันตาพร่าไปครู่หนึ่ง แล้วฉันก็เห็นเขา
ดวงตาคมๆกรีดด้วยอายไลเนอร์ของเขามองตรงมาที่ฉันอย่างชัดเจน รอยยิ้มร้ายๆแบบนั้นทำเอาฉันใจสั่นขึ้นมาแปลกๆ เขาหยิบหูฟังขึ้นสวมก่อนจะขยิบตาส่งให้ฉัน
“แทยอน ฉันคงขอลามีทติ้งกลุ่มที่เดอะไนน์ซักระยะนะ” ฉันตะโกนแข่งเสียงเพลงใส่หูยัยเพื่อนเตี้ยที่เลิกคิ้วตอบกลับมา
“ทำไมล่ะ?”
“พอดีร้านนี้บรรยากาศถูกใจ” ฉันตอบ แล้วแทบจะในทันที รอยยิ้มรู้ทันก็ฉาบขึ้นบนเรียวปากของเพื่อนรัก
“ไม่ใช่แค่ร้านมั้ง?”
ฉันแกล้งทำเป็นไม่สน แล้วเต้นต่อแบบไม่แคร์โลก
บรรยากาศถูกใจก็จริง... แต่ที่ถูกใจกว่าน่ะ คือพ่อดีเจวายร้ายนั่นเลย
เพื่อนๆคะ ขอโทษนะ คราวนี้ถึงเวลาที่คิมฮโยยอนจะสละโสดบ้างแล้วล่ะ!
เสียงดนตรีเร้าใจดังขึ้นเหมือนเมื่อวาน ติดแค่วันนี้คนที่มากับฉันไม่ใช่ผู้กองอิม แต่กลับเป็นแก๊งค์เตี้ยอย่างซันนี่และแทยอน
ถึงแม้ว่าเมื่อคืนสภาพฉันจะเมาเละขนาดต้องให้สามีสุดที่รักของซันนี่ขับรถมารับกลับไปค้างที่คอนโดแทยอน แต่วันนี้ฉันก็พร้อมมามันส์ต่อ แหม... ก็มีเป้าหมายเป็นผู้ชายนี่เนอะ ต้องแอคทีฟนิดนึง ไม่งั้นโดนสอยตัดหน้ากันพอดี
“นั่นน่ะเหรอพ่อดีเจตาคมของเธอ” ซันนี่ถามพยักเพยิดไปทางบูธดีเจ อร๊ายยยย~ เค้าส่งสายตาอ่อยฉันด้วยอ่ะ > <
“ดูไปดูมาฉันชักคิดว่าหมอนี่อันตรายยังไงไม่รู้แฮะ เธอเปลี่ยนเป้าหมายดีกว่า” แทยอนบอกฉัน พลางส่งสายตาหาซันนี่ที่ทำหน้าบอกบุญไม่รับพอๆกัน ใช่ซี้ เธอมันแต่งงานแล้วนี่ยะ! ถึงแม้ว่าวันนี้สามีจะไม่มาด้วยก็เถอะ!
“ฉันยี่สิบสี่แล้วนะยะ จริงๆฉันตั้งเป้าไว้ว่าจะแต่งตั้งแต่สี่ปีที่แล้วด้วยซ้ำ แถมโดนใครบางคนสละโสดตัดหน้าไปอีก ฉันเซ็งความโสดจะตายอยู่แล้ว” ฉันมองค้อนไปทางยัยเตี้ยที่เปลี่ยนเป็นทำท่าน่ารักแอ๊บแบ๊วใส่ เฮอะ! ไม่ใช่พี่คยูฮยอนนะยะ ถึงจะได้หลงเธอหัวปักหัวปำน่ะ
“จำทำอะไรก็ระวังแล้วกัน” ซันนี่พูด แล้วพวกเราสามคนก็จูงมือกันเดินสะบัดความสวยลงฟลอร์ ซึงแน่นอนว่าทุกคนหลีกทางให้ โอเค... ทีนี้วิธีอ่อยผู้ชายอย่างมีระดับฉบับคิมฮโยยอน
ข้อแรก... ทิ้งระยะห่าง ให้อยู่ประมาณปลายมือเอื้อมถึงแต่คว้าไม่ได้ เราจะได้ดูมีคุณค่า ไม่ใช่ของราคาถูก เพราะยังงั้นฉันเลยเลือกเต้นตรงกลางฟลอร์—ในจุดที่เขาจะมองเห็นทุกการเคลื่อนไหว แต่ก็ไกลพอที่จะตัดขาดการสนทนา แถมยังแสดงท่าทางชัดเจนเลยด้วยว่าฉันจะไม่เดินเข้าไปใกล้กว่านั้น แม้เขาจะส่งสายตาเรียกร้องยังไงก็ตาม
ฉันน่าจะเขียนคู่มือสอนการอ่อยผู้ชายนะเนี่ย - -+
สายตาร้อนแรงนั้นยังคงมองมาทางฉันไม่หยุด แต่ฉันก็ยังคงสนุกกับเพื่อนๆ มีส่งสายตากลับบ้างเป็นครั้งเป็นคราว นี่เป็นกฏข้อที่สอง—ห้ามส่งยิ้มหวานหยาดเยิ้มหรือสายตาหยดย้อยให้ นอกจากจะดูโง่งี่เง่าแล้วมันยังง่ายเกินไป เชื่อเถอะค่ะว่าผู้ชายร้อยทั้งร้อยชอบให้พี่หญิงเชิดใส่นิดๆมากกว่าทำหน้าฝันละเมอเพ้อพกใส่
นั่นล่ะสิ่งที่ฉันกำลังทำ
สายตาของเราประสานกันตรงๆ ฉันมองเลิกคิ้วนิดๆ เป็นเชิงถามเหมือนว่ามีปัญหาอะไรมั้ย? พ่อดีเจยิ้มมุมปากเป็นคำตอบก่อนจะยกมือทำท่าเป็นรูปปืนเล็งตรงมาที่ฉัน—แล้วยิง
กรี๊ดดดดดดดดดดดด โดนใจเข้าไปเต็มๆ > <~
ฉันสะบัดบ๊อบหันหลังกลับ ยิ้มกว้าง อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยย เขินอ้ะ
“ให้มันน้อยๆหน่อยเถอะย่ะ” แทยอนย่นจมูกใส่ฉันอย่างหมั่นไส้ แล้วยัยเตี้ยสองคนก็หันไปจิกตาใส่พ่อดีเจที่ก้มสแครชแผ่นต่อไป ซันนี่อ้าปากเหมือนจะพูดอะไรต่อแต่แล้วแรงผลักจากข้างหลังก็ดันฉันให้เซเข้าไปหาเธอ ดีนะที่ซันนี่ถึก ไม่งั้นได้ลงไปนอนวัดพื้นกันทั้งคู่ แต่ไอ้แรงผลักนี่มันดูจงใจยังไงชอบกล
“ขอโทษนะ คุณเป็นใครไม่ทราบ?” แทยอนพูดขึ้นมาก่อนจะมองแก็งสาวสามคนที่ยืนประจันหน้ากับเรากลางฟลอร์ หน้าตาท่าทางก็รู้แล้วว่าหาเรื่อง แต่ถึงงั้นก็เหอะ พวกเธอจัดว่าสวยใช้ได้เลยเหมือนกัน แต่น้อยกว่าฉันกับเพื่อนๆนะ
“ฉันต่างหากที่ต้องถามว่าพวกเธอเป็นใคร และมีสิทธิ์อะไรมาเกะกะที่นี่ ในเมื่อนี่มันเป็นร้านประจำของพวกฉัน?” คนที่ยืนหน้าสุดสวนขึ้นมา เฮ้ยๆ ให้มันน้อยๆหน่อยเหอะเจ๊ -*-
“เหรอคะ? งั้นทำไมไม่ปิดผับฉลองเลยล่ะ? หรือว่าไม่มีเงินมากขนาดนั้น?” ฉันตอกกลับไปบ้าง ยัยนั่นหรี่ตาลงแล้วกัดริมฝีปาก ตอนนี้คนรอบข้างเริ่มหยุดยืนดูพวกเราแล้ว จะมีมวยมั้ยนะงานนี้?
“ฉันว่าคนไม่มีเงินน่ะพวกเธอมากกว่ามั้ง? ถึงได้ออกมาร่อนหาเหยื่อแถวนี้ ขอโทษนะ ที่นี่ไม่มีผู้ชายที่ไหนสนใจผู้หญิงขายบริการหรอก” คำสบประมาทของยัยบ้านี่ทำเอาฉันเลือดขึ้นหน้า สาบานได้เลยว่าถ้าอิมยุนอายืนอยู่ตรงนี้ ยัยนี่ได้อมลูกปืนแล้วแน่ๆ กล้าดียังไงมาว่าคนสวยมีระดับอย่างพวกเราเป็นผู้หญิงอย่างนั้น!
“อย่างน้อยถ้าพวกฉันเป็นคนขาย ลูกค้าคงได้ต่อคิวยาวเท่ากำแพงเมืองจีน ไม่เหมือนเธอนะ ท่าทางดูแล้วแจกฟรีก็คงไม่มีใครเอา” ซันนี่เชือดกลับนิ่มๆแต่เรียกเอาเสียงกรี๊ดแปดสิบหลอดของแม่เจ้าประคุณดังขึ้นลั่นร้าน โอ๊ย! นี่หล่อนไปกินนกหวีดมารึไงยะ! เดี๋ยวก็โทรตามเจสสิก้าให้มากรี๊ดแข่งซะเลยนี่!
“เถียงไม่ได้แล้วนี่นี่โคตรไร้สมองเลยนะคุณ หุบปากไปซะเถอะ น่ารำคาญ” ฉันยกนิ้วขึ้นอุดหูแล้วบอกยัยเจ๊นั่นเซ็งๆ แต่เธอกลับกระทืบเท้าเหมือนเด็กสี่ขวบแล้วเงื้อมือขึ้น—
“หยุดนะโบรา” เสียงทุ้มๆดังขึ้นข้างหลัง แล้วร่างสูงๆของดีเจสุดฮอตก็เดินเข้ามาขวางไว้
“ท็อป! คุณก็เห็นนี่ว่ายัยพวกนี้มันว่าฉัน!!!” ผู้หญิงที่ชื่อโบราดูท่าทางสะดีดสะดิ้งทันทีที่เห็นคุณดีเจตาคม หืม? เขาชื่อท็อปเหรอเนี่ย แหม... แค่ชื่อก็เร้าใจแล้วอ่ะ
“ก็ถ้าเธอไม่ไปว่าเค้าก่อน คงไม่โดนสวนกลับหรอก คนพวกนี้เป็นแขกของฉัน เลือกเอาว่าจะเลือกพฤติกรรมแย่ๆหรือจะออกไปแล้วไม่ต้องกลับมาเหยียบที่นี่อีก”
เจอไม้นี้เข้าไปยัยโบราหน้าเบี้ยวถึงกับอึ้ง ยัยนั่นมองพวกเราตาเขียวปั้ดก่อนจะกระแทกส้นสูงนำเพื่อนๆออกไปอีกทาง
เฮอะ... ไม่แน่จริงนี่นา
“ขอโทษนะครับที่เกิดเรื่องวุ่นวาย ขอผมเลี้ยงค็อกเทลพวกคุณเป็นการไถ่โทษแล้วกัน” ดีเจท็อปหันมาพูดกับพวกเราก่อนจะกวักมือเรียกเด็กในร้านมาเปิดห้องสุดพิเศษให้พวกเรา ว้าว! เจ๋งชะมัด ท่าทางเขาจะใหญ่กว่าเป็นแค่ดีเจล่ะมั้ง ดูจากท่าทางเด็กเสิร์ฟแล้วคล้ายๆว่าหมอนี่จะเป็นเจ้าของผับยังไงยังงั้นเลย
ถ้าใช่ก็ดีสิ T^T จะได้รูปหล่อ ฐานะดีครบหลักสูตรมาตรฐานว่าทีสามีของแก็งค์เรา
“คีปลุคหน่อยเถอะย่ะ น้ำลายยืดแล้วเธอน่ะ” ซันนี่เอาข้อศอกกระทุ้งฉัน ฮึ! คนกะลังจิ้นเพลินๆ แต่ก็พอดีพวกเราเดินมาถึงห้องไพรเวทบริเวณชั้นสอง ด้านหน้าของห้องนี้เป็นกระจกใส สามารถมองเห็นฟลอร์ข้างล่างได้ แต่ก็ดูมีความเป็นส่วนตัวมากกว่านั่งตรงนั้น
“ผมชื่อ ทีโอพี เรียกท็อปก็ได้ครับ เป็นเจ้าของร้านนี้ แล้วพวกคุณ...?”
“ฉันชื่อแทยอนค่ะ ส่วนนี่ซันนี่แล้วก็ฮโยยอน” แทยอนเพื่อนรักจัดการแนะนำให้อย่างรู้หน้าที่เพราะฉันกำลังคีปลุคสวย เริ่ด เชิด หยิ่งอยู่ แต่อ๊ายยยย เจ้าของร้านด้วยอ่ะ พ่อขา แม่ขา หนูต้องได้ผู้ชายคนนี้มาควงค่ะ! ขอคอนเฟิร์ม!
“ขอโทษด้วยนะครับ สำหรับเรื่องเมื่อกี้” สายตาเซ็กซี่บาดใจของเขามองตรงมาทางฉันเหมือนต้องการสื่ออะไรบางอย่างมากกว่าที่พูด
“ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณนี่คะ? ก็อีโก้ตามประสาผู้หญิง” ฉันตอบกลับไป
“เกี่ยวสิครับ โบราคงไม่ทำตัวร้ายกาจแบบนั้นถ้าหากว่าผมไม่ได้สนใจคุณ”
เฮ้ย! แรง! เค้าเล่นตรงๆแบบนี้เลยอ่ะ!
“พูดแบบนั้น ไม่หลงตัวเองไปหน่อยเหรอคะ?” ฉันพูดขึ้นมาพลางยกแก้วค็อกเทลขึ้นจิบ ดีนะที่มันมืด ไม่งั้นมีหวังหน้าฉันแดงแปร๊ดแน่เลย
“จะหลงตัวเองได้ยังไงครับ... ผมหลงคุณต่างหาก”
โอ้ พ่อแก้วแม่แก้ว คนสวยอยากจะกรี๊ดให้บ้านพังในระนาบสามกิโล!
ผู้ชายคนนี้แรงโดนใจหนูมากค่ะ!
“ปล่อยสาวๆคุยกันดีกว่า ผมขอตัวไปทำงานต่อ หวังว่าจะได้เจอคุณอีกนะครับ คุณฮโยยอน”
ฉันพยักหน้ารับ แต่ในใจตกปากรับคำเป็นล้านรอบแล้วว่าต่อให้กระเสือกกระสนแค่ไหน ฉันก็จะกลับมาหาดีเจท็อปให้ได้
“ฮโยยอน ไม่ใช่เล่นๆแล้วนะ ฉันว่าหมอนี่น่ะอันตราย เพลย์บอกขั้นเทพเลยล่ะ” ซันนี่หันมาพูดกับฉันทันทีที่พ่อหนุ่มตาคมเดินคล้อยหลังไป แทยอนเองก็ดูจะคิดเหมือนกัน โหย ยัยคู่เตี้ยนี่จะขัดกันไปถึงไหนเนี่ย
“เพลย์บอยแล้วไง? เขาเล่นได้ฉันก็เล่นได้เหมือนกัน” แทยอนกับซันนี่ถึงกับเหวอหลังจากได้ยินคำตอบฉัน
ไม่รู้ล่ะ... ยังไงก็แล้วแต่ ฉันจะทำให้ผู้ชายคนนี้เป็นของฉันให้ได้ คอยดู!
สาบานได้ว่าโลกกำลังจะแตก ไม่งั้นก็สมองฉันนี่แหละที่กำลังจะระเบิด มันต้องมีอะไรสักอย่างสิน่าที่ทำให้ฉันปวดหัวได้มากขนาดนี้!
อ้อ...รู้ละว่าอะไร สงสัยเมื่อคืนจะดื่มมากไปหน่อย =__=
“ตื่นแล้วก็อย่าทำสำออย รีบๆลุกกลับห้องตัวเองไปได้แล้วไป๊” เสียงคุ้นๆหูนั่นทำเอาสมองฉันทำงานหนักกว่าเดิมสามล้านเท่า ให้ตาย... คนยิ่งรู้สึกเมาค้างอยู่ เจอมาไล่แบบนี้อีกไม่อยากจะเซ็ง
“อูยองอ่า ฉันปวดหัว T_T”
“สมน้ำหน้า -*- เมื่อคืนสภาพเธอเมาเละยังกับหมา นี่ถ้าไม่เวทนาเห็นว่าเป็นเพื่อนล่ะก็ฉันปล่อยเธอนอนบนถนนหน้าร้านไปแล้ว... แต่ก็ไม่ได้อีกแหละ เดี๋ยวไม่มีลูกค้าเข้า”
ฉันลืมตาขึ้นมองจิกไปทางไอ้คางคกปากจัดที่ยืนกอดอกมองอยู่ตรงประตู แถมทำหน้ากวนนิ้วโป้งเท้าใส่
“สำเหนียกไว้บ้างสิยะว่าคอนโดที่นายซุกหัวนอนกับเปิดร้านเนี่ย มันเป็นของฉัน”
“แน่นอน รู้ซึ้งเลยแหละ ค่าเช่านี่ยังกับจะสูบเลือดสูบเนื้อ”
“ไอ้คางคก -*- อย่ามาทำหือนะเฟ่ย!” ฉันขึ้นเสียงใส่ไอ้เพื่อนไม่รักดีที่นอกจากจะไม่ห่วงกันแล้วยังมาด่าซ้ำเติมอีก คนยิ่งปวดหัวอยู่ เคือง!
“วุ้ย! ฉันไม่ทะเลาะกับเธอแล้ว เสียเวลาทำมาหากิน กลับห้องไปได้แล้วไป๊”
“ยังกับฉันอยากจะอยู่นักแหละ ชิส์!” ฉันสะบัดบ๊อบใส่ตานั่นทีนึงก่อนจะลุกขึ้นยืน แล้วโลกก็เอียงกะเท่เร่ ฉันคงร่วงลงไปหน้าทิ่มพื้นแล้วถ้าไม่ติดวาอีตาเพื่อนปากร้ายแต่นิสัยดีอย่างจางอูยอง วิ่งเข้ามารับตัวฉันไว้ได้ทัน แต่มันดูเหมือนหนังน้ำเน่าหลังข่าวที่นางเอกอยู่ในอ้อมกอดพระเอก
มู้ดกำลังดูดี แต่ติดตรงที่ฉัน...
“เฮ้ย! คิมฮโยยอน!!!”
หมอนั่นร้องลั่นเพราะฉันเล่นขย้อนเอาของที่กินมาเมื่อคืนรดลงบนเสื้อเขาเต็มๆ จะให้เรียกภาษาชาวบ้านก็อ้วกนั่นแหละ...
“ย่าห์! เธอนี่มัน!” อูยองกัดฟันกรอดอย่างเคียดแค้น แต่แล้วก็เปลี่ยนเป็นทำหน้าเหวอเมื่อฉันทำท่าจะอ้วกใส่อีกรอบ เห็นแบบนั้นแล้วฉันเลยหลุดหัวเราะก๊ากออกมา
“ไม่ตลกนะเฟ่ย! ดูดิ๊ ฉันจะทำงานยังไง เลอะเทอะไปหมดแล้ว!?”
“เอาน่าๆ นายก็เห็นว่าฉันอาการแย่ขนาดไหน พาเพื่อนสุดสวยกลับไปนอนต่อที่ห้องแล้วเดี๋ยวฉันจัดการเรื่องเสื้อผ้าให้นายนะ โอเค๊?”
“ชิส์ ทำมามารยา เธอไม่เห็นจะอาการหนักตรงไหนสักหน่อย” ไอ้คางคกยังคงบ่นอุบแต่ก็ยอมช่วยหิ้วปีกฉันเดินหลบออกไปหลังร้านเพื่อพาฉันกลับห้องอยู่ดี หมอนี่ก็ปากร้ายไปงั้นๆแหละ เอาเข้าจริงก็ยอมฉันทุกเรื่องตั้งแต่เล็กจนโต ถึงจะโดนล้อ โดนกดขี่ข่มเหง แต่ก็เห็นไม่ได้จะไปไหนไกลจากฉัน
แต่ถ้าลองหาแฟนได้นี่คงอีกเรื่อง
แต่ก่อนอื่น ฉันต้องชิงตัดหน้าคั่วพอ่หนุ่มดีเจนั่นให้ได้ซะก่อน จะยอมให้ไอ้คางคกนี่แซงหน้าทิ้งฉันไว้บนคานได้ยังไงล่ะ!
“เธอน่ะ นอนพักแล้วก็ไม่ต้องไปไหนแล้ว เข้าใจไหม?”
อูยองหย่อนฉันลงบนเตียงก่อนจะถอดเสื้อเหม็นอ้วกโยนลงกองบนพื้นแบบไม่แคร์สายตาโลก ว่ามีฉันนอนอยู่ในห้อง... อันที่จริงนี่มันห้องฉันนะ มีสิทธิ์อะไรเนี่ย! แต่พอเห็นซิกแพ็คกับหุ่นขาวๆนั่นแล้วไอ้ที่ว่าจะเอ่ยปากไล่ก็เลยกลายเป็นสงสัยแทน... อาชีพจัดดอกไม้นี่ทำแล้วกล้ามขึ้นเหรอ =__=? ไม่ยักรู้แฮะ
“มองอะไร นอนไปเลยไป!” ตานั่นหันมาดุ ชิส์นอนก็ได้ อีตาคางคกเปิดคุ้ยตู้เสื้อผ้าของฉันแบบไม่เกรงใจ ด้วยความที่เราเป็นเพื่อนสนิทกันมากแบบมากๆ บางทีอูยองก็มาดูซีรีย์โต้รุ่งกับฉันบ่อยๆ แล้วก็มีอันจะต้องมาดูแลคนเมาค้างเป็นระยะ หมอนี่เลยทิ้งเสื้อผ้าสองสามชุดไว้ในห้องฉันซะเลยแบบว่าเผื่อฉุกเฉิน
“นี่ ไปหายามาให้หน่อยดิ ปวดหัว” ฉันสั่งหมอนั่นที่กำลังสวมเสื้ออยู่ อูยองหันมามองฉันตาตี่
“ตลก! ฉันจะลงไปทำงานต่อข้างล่าง”
“น้า~ อูยองที่รัก~ เค้าไม่ฉบายทั้งคนตัวจะทิ้งเค้าได้ลงคอเหยอ~” ฉันทำน้ำเสียงแอ๊บแบ๊วที่หัดยังไง๊ยังไงก็ฟังไม่น่ารักเหมือนซันนี่
“ยัยบ้องตื้นเอ๊ย =__= ฉันล่ะเกลียดเธอจริงๆ” อูยองส่ายหน้าแต่ก็ยอมเดินเข้าครัวไปหายามาให้ฉันแต่โดยดี มีเพื่อนน่ารักก็งี้ล่ะนะ ฉันนอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียง
~I can tell you’re looking at me I know what you see, any closer and you’ll feel the heat~
เสียงริงโทนสุดแสนจะไพเราะของฉันดังขึ้น... หึ เพลงนี้ขึ้นมาไม่ต้องบอกเลยว่าเป็นใคร หนึ่งในแปดคนนั้นแหละ =__=
“โหล ว่าไงยุนอา”
“ได้ข่าวว่าสภาพเมาเละเป็นหมาเลยเหรอ?” ยัยน้องรองปีนเกลียวถึงขั้นเทียบฉันเป็นหมาเลยเหรอเนี่ย
“เรื่องนั้นช่างพี่เหอะ เธอโทรมามีอะไร?”
“ฉันมีเรื่องพี่เจสสิก้าอยากอัพเดทน่ะค่ะ นัดประชุมหน่อยกันหน่อยได้มั้ย?” น้ำเสียงผู้กองอิมเปลี่ยนเข้าโหมดจริงจังได้ในพริบตา เรื่องอะไรของยัยสิก้ากันนะ? นี่พักนี้กลุ่มเรารู้สึกจะงานเข้ากันตลอดๆ ว่างๆ นัดยัยพวกนี้ไปทำงานการกุศลมั่งดีกว่า เผื่อชีวิตจะดีขึ้น
“นัดน่ะนัดได้ แต่เวลาและสถานที่ขอพี่เลือกได้ป่ะ?”
“โธ่! พี่ฮโยยอน ไม่เอาที่ผับนั่นได้มั้ยอ่ะ แบบนั้นคุยไม่รู้เรื่องกันพอดี” ยุนอางอแงขึ้นมาทันที แหม ขัดลาภกันเชียวนะยัยน้องคนนี้
“ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวพี่เปิดห้องวีไอพีให้ เผื่อคุณเจ้าของร้านเค้ามีอะไรสมนาคุณ”
“นั่นแน่... แสดงว่าเมื่อคืนฉันพลาดที่เลือกไปเดอะไนน์ใช่ไหมคะ? มีอะไรเล่ามาเลยนะ พ่อหนุ่มตาคมคนนั้นฟาดพี่ไปเรียบร้อยยัง?”
ดูมันค่ะท่านผู้ชม =__= ยัยน้องประเสริฐ
“มีอะไรไว้ไปเล่าคืนนี้ โอเค๊?” ฉันพูดแล้วก็รีบกดวางไปโดยไม่รอเสียงประท้วงของยุนอา ใครจะรอให้ยัยเด็กนี่มาสอบปากคำในตอนเมาค้างล่ะ แค่นี้ก็ปวดหัวจะแย่
“แฮงค์แล้วยังจะทำซ่าอีกนะเธอน่ะ ให้มันเพลาๆหน่อยสิ เธอไปเที่ยวทุกคืนไม่เบื่อบ้างรึไง?” จางอูยองเดินเข้ามาพร้อมกับชามซีเรียลใส่นมอุ่นๆแล้วก็ยาแก้เมาค้าง ถ้านับแค่บริการเนี่ยจะให้แปดดาวเลย แต่ดันเล่นมาพร้อมคำบ่น เพราะงั้นหักคะแนน - -+
“เรื่องของฉันน่า นายจะลงไปจัดดอกไม้จัดอะไรก็ไปได้แล้ว เสื้อเน่าๆนั่นทิ้งไว้นี่แหละ เดี๋ยวฉันซื้อให้ใหม่” ฉันตอบพร้อมคว้าชามอาหารเช้าขึ้นมาโซ้ยเอาๆ ไม่สนใจเพื่อนบื้อที่ยืนนิ่งอยู่ยังงั้น
“...ถ้าเกิดเธอจำได้บ้างล่ะก็นะ เสื้อตัวนั้นเธอก็ซื้อให้ฉันเหมือนกัน”
คำพูดของหมอนั่นทำเอาฉันแทบสำลักนมตาย ฉันเงยหน้าขึ้นจ้องอูยองที่ไม่ได้แสดงออกเลยว่ารู้สึกอะไร หรืออาจจะเป็นฉันเองที่อ่านไม่ออก แต่เขาเดินเข้ามาก้มเก็บเสื้อเน่าๆแล้วก็เดินออกจากห้องฉัน ไม่วายทิ้งคำพูดตามหลังเอาไว้ให้ฉันจุกอย่างกับโดนน็อค
“ถ้าเธอคิดจะแต่งงานกับใครซักคน... ก็ขอให้หาผู้ชายที่ดูแลเธอได้อย่างที่ฉันทำแล้วกัน”
“ฮโยยอน? เป็นอะไรไปน่ะ จิตหลุดรึไง?” เสียงใสๆของแทยอนทักยัยเพื่อนตัวดีที่นั่งเหม่อมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว นี่เป็นครั้งแรกในรอบสองอาทิตย์ที่เราสามารถนัดรวมหัวกันได้มากที่สุด คือสาวๆทุกคนมาครบ รวมทั้งพี่คยูฮยอน พี่ฮีชอล พี่ชีวอน แล้วก็พี่ยุนโฮของฉันด้วย ขาดก็แต่สองตัวปัญหาที่เป็นประเด็นในวันนี้คือเจสสิก้าและน้องเล็กซอฮยอน
แต่ท่าทางวันนี้คิมฮโยยอนก็ดูจะมีประเด็นเหมือนกัน
“ฉันก็แค่คิดอยู่ว่าวันนี้จะอ่อยคุณท๊อปเค้ายังไงดีน่ะ” ฮโยยอนยิ้มสวยๆแล้วยักคิ้วส่งให้พวกเรา ยัยนั่นส่งสายตาอ่อยสุดทธิ์ผ่านกระจกห้องวีไอพีลงไปหาพ่อดีเจตาคมที่มองทางนี้ไม่วางตาเหมือนกัน
สปาร์คกันเร็วจริงนะ =__=
“ฉันไม่ชอบที่นี่เลยอ่ะ เสียงเอะอะโวยวาย คนที่มาดื่มก็ดูไม่ค่อยมีคลาส ไม่เหมือนที่เดอะไนน์” ยัยน้องรองของเราโอดครวญแถมยังนั่งเท้าคางทำหน้าเซ็งจัดอยู่ไม่ห่าง
“เห็นด้วยนะหมวด ไหนใครมีเรื่องอะไรก็รีบว่ามา ฉันกับยูริจะกลับไปจู๋จี๋กันที่บ้าน” พี่ฮีชอลประกาศอย่างเป็นทางก๊ารทางการจนยูริเขินหน้าเขียว ก่อนจะลงไม้ลงมือไปหนึ่งชุด
“ก็...จริงๆฉันก็เล่าให้ทุกคนฟังทางโทรศัพท์แล้วล่ะนะ เรื่องซอฮยอน ส่วนเรื่องสิก้า ฟานี่ก็โทรเล่าแล้วใช่มั้ย?” ซูยองหันมาหาฉันที่พยักหน้าหงึกหงัก
“ก็เลยว่าจะเรียกประชุมหาทางออก ไม่รู้จะช่วยมักเน่กับสิก้ายังไงดี ใครมีไอเดียบ้าง?” ฉันหันไปถามสาวๆกับหนุ่มๆที่เหลือในห้อง แต่ยังไม่ทันจะได้มีใครเสนอความคิด ประตูห้องวีไอพีของเราก็เปิดขึ้นซะก่อน
คนที่บุกรุกเข้ามาเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ข้างหลังเธอมีกลุ่มสาวๆอีกห้าหกคนที่แต่งตัวชะเวิ้บชะว้าบแถมยังส่งสายตาเยิ้มๆมาทางบรรดาหนุ่มๆ ฉันหันไปมองชองยุนโฮที่ยิ้มหวานส่งกลับหาทางนั้น... ชิ ฉันเลยแก้เกมด้วยการยกแขนเขาขึ้นมาโอบรอบบ่าก่อนจะส่งยิ้มเชือดเฉือนให้ผู้บุกรุก... ขอประกาศหน่อยเหอะว่าผู้ชายตรงนี้มีเจ้าของ!
“ว่าไง... เธอชื่ออะไรนะ? โบรารึเปล่า? ขอโทษที พอดีท็อปเค้าเปิดห้องนี้ให้พวกเราใช้เป็นการส่วนตัว ไม่มีธุระอะไรก็ไสหัวออกไปซะ” ฮโยยอนยกขาขึ้นไขว่ห้างพร้อมพูดแบบเชือดนิ่มๆ ว้าว! วันนี้แรงแฮะคิมโชดิง
“หึ... ธุระน่ะฉันมี ถ้าเธอกับเพื่อนๆไฮโซกล้าพอที่จะสู้กับเราล่ะก็นะ...”
ยัยนั่นพูดออกมา แล้วพวกเราก็หันขวับไปมองหมวดยุนทันที ว่าแล้วไง... หมวดจะควักปืนพร้อมยิงอยู่แล้ว ดีว่าพี่ฮีชอลกับพี่คยูฮยอนที่นั่งขนาบข้างล็อกแขนเอาไว้ซะก่อนยุนอาเลยได้แต่ฮึดฮัดขัดใจอยู่ตรงนั้น
“โทษทีนะคะ พอดีเรายังไม่อยากเห็นใครตาย” ซูยองพูดออกไปตรงๆ ไม่ได้ประชดนะ แต่ถ้าหาเรื่องกันนานกว่านี้ฉันว่ามีคนได้อมลูกปืนชัวร์
“ก็เอาสิ? สู้อะไร ยังไง แล้วถ้าฉันชนะจะได้อะไร?”
พวกเราได้แต่กะพริบตาปริบๆ แล้วหันหน้ามองต้นเสียง
คิมฮโยยอน!
ฝ่ายตรงข้ามยิ้มเหยียดขึ้นมานิดๆ ก่อนจะสะบัดผมทำสวย แล้วชายตามองไปทางดีเจท็อปที่ยืนสอดส่องสถานการณ์อยู่เงียบๆตั้งแต่เมื่อกี้ อ้อ... นั่นสินะของพนัน...
“เจอกันสักตั้ง ดูซิว่าเธอกับฉัน ใครจะทำให้ฟลอร์ร้อนได้มากกว่ากัน...”
“งั้นก็จัดไป” ฮโยยอนลุกขึ้นยืดเส้นยืดสาย ท้าใครไม่ท้า... ท้าราชินีนักเต้นอย่างฮโยยอนเนี่ยนะ ไม่ได้ตายดีแน่ๆผู้หญิงคนนี้...
พวกเราทั้งสองกลุ่มเดินลงมาข้างล่าง ดีเจท็อปให้สัญญาณเคลียร์ฟลอร์ ผู้คนถอยออกเป็นวงเว้นพื้นที่ตรงกลางเอาไว้ พื้นไฟนีออนกระพริบสลับสีแล้วอินโทรบีตหนักๆของเพลงแดนซ์สไตล์เซ็กซี่ก็ค่อยๆดังขึ้น--ฝีมือพ่อดีเจของพนันนั่นแหละ
โบราตวัดสายตามองพวกเราอย่างไม่เป็นมิตร สาวๆทุกคนมองฮโยยอน... สถานการณ์แบบนี้ยกให้เธอเป็นหัวหน้าทีมชั่วคราว ฮโยยอนยิ้มขึ้นที่มุมปากแล้วเชิดคางส่งให้ฝ่ายตรงข้ามเป็นสัญญาณบอกให้เริ่มก่อน โบราเลยผลักเพื่อนคนหนึ่งมาข้างหน้าแทน
“หืม? เก็บตัวเองไว้เป็นไม้ตายงั้นเหรอ?” พี่ยุนโฮกระซิบเข้าที่ข้างหู
“They say to save the queen the last, so do we (ว่ากันว่าให้เก็บควีนไว้เป็นไพ่ตาย ทางเราก็เหมือนกัน)” ฉันพูดตอบเค้าพร้อมรอยยิ้มแล้วมองผู้หญิงบนฟลอร์อย่างประเมิน
เธอก็ดูดีในระดับนึงนะ เสื้อผ้าก็ชะเวิบชะวาบเรียกเสียงผิวปากจากผู้ชายรอบๆได้พอตัวอยู่ แต่ดูไม่มีคลาสชะมัด
“เห็นแล้วขัดลูกกะตา ขอลงไปโชว์หน่อยนะว่าเซ็กซี่แบบผู้ดีเค้าทำกันยังไง...” ควอนยูลพูดขึ้นมาก่อนจะเหยียบรองเท้าสีแดงลงไปบนฟลอร์ แค่นี้ก็เซ็กซี่สุดใจขาดดิ้นแล้ว!
ทั้งสองคนโชว์สเต็ปตามบีตแรงๆของเพลง อีกฝ่ายดูพยายามสุดฤทธิ์ที่จะส่งยิ้มยั่วยวนให้ผู้ชายที่ยืนเป็นผู้ชม แถมยังเน้นโชว์เนื้อนมไข่ แต่ยูริกลับแค่บิดตัวอย่างมีสไตล์แค่นั้นผู้ชายแทบทุกคนก็แทบจะลงไปดิ้นเร่าๆกองกับพื้น พวกเรามองพี่ฮีชอลอย่างเป็นห่วงแต่ที่ไหนได้พี่แกยืนขำซะงั้น =__=
“เธอเซ็กซี่ได้แค่นี้เองเหรอควอนยูล?”
เจอคำพูดของพี่ฮีชอลเข้าไปยูริเหมือนจะน็อตหลุด เพื่อนสุดที่รักของฉันยิ้มขึ้นมานิดหนึ่งก่อนจะก้มลงแล้วสะบัดผมด้วยท่าทางแบบที่เซ็กซี่ตัวแม่เท่านั้นจะทำได้!
โอ๊ย... สาบานเลยว่าผู้ชายตายไปครึ่งผับ
เสียงเพลงแผ่วลงเป็นสัญญาณว่ายกแรก เราชนะ...
“เอาไง? ใครต่อล่ะ?” ซันนี่หันไปถามขาแดนซ์ตัวแม่ที่ตาลุกวาวท่าทางอยากลงไปดิ้นเต็มแก่ แต่คนที่ก้าวมาข้างหน้ากลับเป็นยุนอาพร้อมเพลงจังหวะออกแนวป็อปร๊อคหน่อยๆ เสียงกีตาร์ไฟฟ้าลีดขึ้นมา ตัวแทนจากฝั่งนู้นก็ยังไม่ใช่ยูนโบราอยู่ดี...
“ใช้ปืนไม่ได้ งั้นขอลงไปเต้นยืดเส้นยืดสายหน่อยแล้วกัน...” อูย หมวดมาโหดอีกแล้ว... ยุนอาหักข้อนิ้วแล้วเหลือบตาขึ้นมองฝ่ายตรงข้าม ไม่อยากจะบอกว่ายัยน้องคนนี้ห้าวตลอดทั้งๆที่สวยสุดแท้ๆ แต่ถึงยังงั้น รูปร่างสุดเพอร์เฟกต์ของยุนอาในกางเกงยีนรัดรูป เสื้อสีขาว และแจ็กเกตหนังกลับดูน่ามองกว่าสาวผิวแทนในเกาะอกสีม่วงนั่นเป็นกอง รองเท้าบูตหนังสีดำของยัยน้องรองเราตัดกับแสงไฟบนฟลอร์ชะมัด ท่าเต้นหนักๆของเธอดูออกเป็นแนวสปอร์ต แต่ก็เซ็กซี่แบบดุๆสมกับนิสัยเจ้าตัวเค้าล่ะ
“เห็นยังงี้แล้วฉันอยากลงไปเต้นมั่งจัง” ฉันเปรยขึ้นมาแต่พี่ยุนโฮกลับคว้าข้อมือฉันไว้แทนคำตอบ
“ผมรู้ว่าคุณเต้นไม่เก่ง”
ฉันหัวเราะกับคำพูดของเขา ก่อนจะหันไปตามเสียงเฮของบรรดาผู้ชม ว้าว! เกมเริ่มดุเดือดแฮะ ฝ่ายนู้นลากผู้ชายลงมาคลอเคลียบนฟลอร์แล้ว ขืนเป็นงี้น้องรองพ่ายแหงๆ
และโดยที่ไม่คาดคิด ยุนอาก็สะบัดเจ็กเกตสีดำทิ้ง ผิวขาวเนียนในเสื้อสายเดี่ยวที่เจ้าตัวชอบใส่ทำเอาบรรดาหนุ่มๆตาค้างกันไปเป็นแถว แต่เหมือนยุนอาจะยังไม่พอใจ เธอหันหลังกลับแล้วกระดิกนิ้วเรียกหนึ่งในผู้โชคดีออกมา
ถึงตรงนี้หนุ่มๆในกลุ่มตัวแข็งทื่อกันไปหมด พี่คยูฮยอน กับพี่ชีวอนมองหน้ากันแล้วคว้าตัวซูยองกับซันนี่มาไว้ข้างหลังโดยอัตโนมัติ มีก็แต่พี่ฮีชอลที่ทำเสียงฮึดฮัดอยู่ข้างๆ นี่ถ้าควอนยูลทำแบบเดียวกันมีหวังพี่แกอาละวาดร้านพังแหงๆ...
ยุนอาคว้าเนคไทหนุ่มน้อยผู้โชคดีคนนั้นให้เดินเข้าไปใกล้เธอก่อนจะลูบตั้งแต่ไหล่ไล่ลงมาจนถึงแผ่นอก เธอยิ้มก่อนจะหมุนตัวไปยืนข้างหลังแล้วใช้ปลายเท้ากระแทกข้อพับเขาเบาๆทำให้หมอนั่นทรุดลงไปชันเข่ากับพื้น ยุนอาเดินอ้อมมาข้างหน้าเชยคางเขาขึ้นนิดก้มตัวลงไปคล้ายจะจูบแต่ก็ผละออกแล้วเธอก็ยกขาขึ้นเหยียบเข่าที่ชันขึ้นของผู้ชายคนนั้นก่อนจะจิกสายตามองทุกคนแบบดุๆ
ชนะเลิศไปเลยค่ะหมวด!
เสียงเพลงแผ่วลงอีกรอบ ชนะอีกแล้ว >_<!
ท่าทางตัวแม่ของฝั่งนู้นดูจะขัดใจกับผลคะแนน รอบนี้เธอเลยเดินลงมาเองก่อนที่เพลงจะเริ่มซะอีก โบราเงยหน้าขึ้นมองดีเจรูปหล่อบนบูธ แล้วเขาก็พยักหน้าตอบ... หึ คงเป็นเพลงประจำสินะ
เพลงป็อปอเมริกันฟีเจอร์ด้วยซาวด์เซ็กซี่ๆแบบอินเดียหน่อยๆ ก็ดูเหมาะกันดีกับผิวสีน้ำผึ้งของเธอ โบราช้อนตามองผู้ชายหลายๆคนที่ดันตัวเองขึ้นมาอยู่แถวหน้า... ท่าทางผู้หญิงคนนี้ดูจะฮอตไม่เบา แถมดูเธอไม่โลว์คลาสเหมือนกับสองคนก่อนหน้านี้ แหม... ต้องยังงี้สิถึงจะมันส์หน่อย!
โดยที่ไม่รอให้โบราเรียกคะแนนไปมากกว่านั้น ฮโยยอนก็ก้าวลงมาบนฟลอร์ แค่เธอพลิกตัวสะบัดผมทีนึงความเซ็กซี่ก็พุ่งเต็มทะลุปรอทแล้ว จะแข่งอะไรก็แข่งได้นะ แต่แข่งเรื่องเต้นเนี่ย อย่ามาแข่งกับคิมฮโยยอนซะให้ยากเลย!
ท่าทางคู่ต่อสู้ของเราจะรู้ว่าตัวเองเสียเปรียบ เธอก้าวขึ้นไปบนบูธแล้วเริ่มเต้นยั่วยวนพ่อดีเจตาคมที่ท่าทางจะคล้อยตามไปกับเค้าด้วย
ขี้โกงนี่นา!
ฮโยยอนเสยผมอย่างหงุดหงิดก่อนจะสลัดรองเท้าส้นสูงออกแล้วปีนขึ้นไปบนขอบเวที แล้วยัยนั่นก็ทำสิ่งที่พวกเราไม่คาดคิด เธอปีนขึ้นไปเต้นบนบูธ!
“อันนี้ฉันว่าเริ่มจะกู่ไม่กลับแล้วแหละ” แทยอนพูดออกมาอย่างอึ้งๆ ขณะมองตัวแม่ขาแดนซ์ประจำกลุ่มใช้ปลายเท้ากดเปลี่ยนเพลงให้เป็นแนวดิสโก้ ดีเจผู้ช่วยของตาท็อปนั่นรีบยกแม็คบุ๊คออกเคลียร์พื้นที่ให้ฮโยยอนอย่างรวดเร็ว กลุ่มผู้ชมดูเหมือนจะบ้าไปแล้ว ฉันหันไปมองยูนโบราที่ได้แต่ยืนอึ้ง ถึงกับไปไม่เป็น ส่วนดีเจท็อปแค่ยืนหัวเราะอยู่ข้างๆ
จริงๆนะ... ฉันไม่ชอบขี้หน้าหมอนี่เอาซะเลย...
ฮโยยอนจบเสต็ปเทพของเธอด้วยการเหวี่ยงตัวลงนั่งไขว่ห้างบนบูธแบบเซ็กซี่สุดฤทธิ์ พวกผู้ชายโห่ร้องผิวปากใส่เธอกันเป็นแถว แต่พวกเรากลับยืนนิ่งพูดอะไรไม่ถูกกันอยู่ตรงนั้น โดยเฉพาะเมื่อพ่อดีเจหนุ่มคนนั้นเดินเข้ามาโอบเอวเธอแล้วฮโยยอนก็เอี้ยวตัวกลับไป--ดึงเขาเข้ามาจูบ
จูบ! จูบแบบดูดดื่มด้วย!
“มันจะมากเกินไปแล้วนะ!” ฉันได้ยินเสียงยุนอาพูดขึ้นมาแล้วก่อนที่ใครจะทันห้าม หมวดก็ก้าวขึ้นไปบนบูธดีเจแล้วกระชากคอผู้ชายที่ชื่อท็อปออกก่อนจะชกเขาลงไปนอนกองกับพื้น
เอิ่ม... ฉันไม่ใช่แค่คนเดียวใช่มั้ยที่ไม่ถูกชะตากับหมอนี่น่ะ
พี่ชีวอนกับพี่ยุนโฮที่ได้สติสองคนแรกรีบวิ่งเข้าไปดึงแขนยุนอาไว้คนละข้าง ส่วนแทยอนกับซันนี่วิ่งปรู๊ดขึ้นไปลากยัยคิมโชดิงของเราลงมา บรรยากาศในผับตอนนี้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว
“ฟานี่!” ซูยองหันมาเรียกก่อนจะคว้าข้อมือให้ฉันรีบเดินออกไปพร้อมเธอ ถ้าขืนอยู่ต่อมีแต่คำว่าซวยกับซวยแหงๆ สาวๆคนอื่นๆพากันแยกย้าย แล้วนี่จะไปรวมตัวที่ไหนต่อล่ะ? ฉันว่าคืนนี้เราต้องมีเรื่องต้องเคลียร์กันต่อนะ...
ระหว่างที่เราสองคนกำลังสงสัยอยู่นั่นพี่ฮีชอลก็เดินเข้ามา
“ไปบ้านฉัน งานนี้คิมฮโยยอนเละแน่!”
ความคิดเห็น