ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SM Town] Singin' In The Rain : หัวใจในละอองฝน

    ลำดับตอนที่ #5 : SINGIN' IN THE RAIN | 5

    • อัปเดตล่าสุด 25 มิ.ย. 57





    ในสถานการณ์ย่ำแย่ที่สุด ความรักก็กระหน่ำลงมาเหมือนสายฝน 
    ทำให้หัวใจทั้งสองดวงชุ่มฉ่ำและเปียกปอนไปพร้อมๆกัน




     

     

    หลังจากเหตุการณ์ในห้องประชุมผ่านมาสองวัน ทุกสิ่งทุกอย่างยังคงเงียบเชียบ ข่าวถูกเลื่อนออกไปเป็นสัปดาห์หน้าเพื่อให้มีเวลาเตรียมใจ อีกอย่างแบคฮยอนเป็นคนเดียวที่ยังไม่รู้เรื่องนี้ เพราะวันที่ดิสแพชยื่นข้อเสนอมา น้องกำลังทัวร์คอนเสิร์ตอยู่ที่จีน พี่ซึงฮวานบอกว่าจะรอให้น้องกลับมาที่เกาหลีก่อนแล้วค่อยเรียกตัวมาคุย

    ซึ่งก็ดูเหมือนว่าจะเป็นวันนี้...

    ฉันนั่งอืดกินขนมอยู่บนโซฟากับยัยเตี้ยคู่หู ทิฟฟานี่กำลังนั่งเล่นกับปรินซ์อยู่ไม่ไกล พวกเราในวงทุกคนรู้เรื่องนี้แล้ว อย่างที่บอกค่ะ ไม่มีความลับในโซนยอชีแด แต่พวกเราก็แค่ทำตัวไปตามปกติ มันเหมือนช่วงคลื่นลมสงบก่อนพายุซัดยังไงยังงั้น ตอนนี้ฉันคิดว่าแทยอนกำลังตั้งหลักพร้อมรับมือมรสุมที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า และพวกเราที่เหลืออีกแปดคนก็พร้อมจะอยู่ข้างๆ เธอ ไม่ว่าจะดีจะร้ายยังไงก็ตาม

    ฝนตกหนักจัง ทิฟฟานี่เปรยพลางเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง นี่กำลังเข้าสู่ช่วงหน้าร้อนแล้ว แต่ฝนหลงฤดูมาจากไหนก็ไม่รู้ ตกหนักขนาดนี้หวังว่าพรุ่งนี้อากาศน่าจะดีกว่าวันที่ผ่านๆ มานะ

    ฉันส่งมันฝรั่งทอดให้แทยอนที่กำลังนั่งเล่นอินสตาแกรมแก้เบื่อ ยัยเตี้ยกำลังจะส่งชิ้นมันฝรั่งเข้าปากพอดีกับที่เสียงออดหน้าประตูดังขึ้น

    ใครมาอ่ะ? ควอนยูลรึเปล่า?” ฉันกดเปลี่ยนช่อง หันไปพูดกับฟานี่

    ยัยนั่นจะกดกริ่งทำไม มีกุญแจสำรองอยู่แล้ว อีกอย่างวันนี้ยูลไม่ว่างนี่ ซอฮยอนมากกว่ามั้ง มักเน่งอแงบ่นคิดถึงหลายวันแล้ว แทยอนหันมาตอบ แล้วเราสองคนก็หันไปทางทิฟฟานี่ที่ ณ ตอนนี้ดำรงตำแหน่งมักเน่ในหอเราหลังจากสาวๆ คนอื่นย้ายกลับไปอยู่กับครอบครัวของตัวเอง

    ชิ รู้แล้วน่า ฉันไปเปิดก็ได้ ฟานี่แลบลิ้นใส่ฉันกับแทยอนก่อนจะเดินไปเปิดประตูห้อง ฉันกำลังจะเปลี่ยนกลับไปดูละครที่แฟนของน้องรองเล่น แต่แล้วเสียงกรี๊ดของฟานี่ก็ทำเอารีโมทแทบหลุดมือ

    หรือจะเป็นสโตลก์เกอร์!

    ไวเท่าความคิด ฉันกับแทยอนลุกพรวด วิ่งตรงไปหน้าประตูทันที

    แต่คนที่ยืนเปียกโชกอยู่ตรงหน้าทิฟฟานี่ไม่ใช่ซาแซง ไม่ใช่แฟนคลับ หรือแม้แต่ผู้จัดการของพวกเราด้วยซ้ำ...

    เขาคือบยอนแบคฮยอน

     



     

    ขอบคุณครับ น้องหันมาส่งยิ้มจางๆ ให้ทิฟฟานี่ที่วางแก้วนมอุ่นลงบนโต๊ะ ผมสีดำสนิทเปียกปอนแนบกับใบหน้าขาว ปลายจมูกรั้นเป็นสีแดงนิดๆ คงเพราะความเย็น ถ้าน้องไม่ป่วยก็คงจะดี...

    ทำไมตากฝนมาล่ะ? แล้วนี่มีใครรู้รึเปล่าว่านายมาที่นี่ ฉันเอ่ยถามน้อง

    ทราบครับ ผมติดรถพี่ซึงฮวานมาลงใกล้ๆ แล้วเดินมา

    พี่ซึงฮวานนะพี่ซึงฮวาน! จะมาส่งน้องหน้าหอสักหน่อยก็ไม่ได้!

    เหมือนแบคฮยอนจะอ่านสายตาฉันออก เขาถึงได้ขยายความ

    ผมเดินมาเองดีกว่าครับ นักข่าวจำทะเบียนรถพี่เค้าได้ ไม่อยากให้เลี้ยวมาทางนี้ อีกอย่างเพราะฝนตกหนัก เลยไม่มีทั้งซาแซง ทั้งปาปารัสซี่ ขนาดเดินสวนกันยังไม่มีใครมองออกเลยว่าผมเป็นไอดอล แบคฮยอนยิ้มน้อยๆ แต่มันเป็นรอยยิ้มที่ดูเศร้ายังไงชอบกล ฉันมองเห็นปลายนิ้วกับริมฝีปากซีดขาวนั่นแล้วก็สงสารจับใจ จนต้องเดินไปเปิดฮีทเตอร์ทำให้ห้องอุ่นขึ้นอีกนิด

    แล้วมีอะไรรึเปล่าถึงได้มาที่นี่?” ทิฟฟานี่เปิดประเด็น นั่งลงบนเก้าอี้หัวโต๊ะ แทยอนที่นั่งตรงข้ามกับน้องยังคงนิ่งเงียบ

    ผมว่าพวกพี่รู้อยู่แล้วครับว่าผมมาทำไม... แทยอนอ่า...

    ยัยตัวเล็กของฉันสะดุ้งเฮือก หลบสายตาไม่กล้ามองน้องตรงๆ ถ้าสถานการณ์ปกติฉันกับฟานี่คงกรี๊ดกร๊าดหาจังหวะแซวหรือไม่ก็ถ่ายคลิปอัดเก็บไว้ให้ลูกหลานดูว่าแทยอนเขินเด็ก แต่ประเด็นคือแทงกูของเราไม่ได้กำลังเขิน แล้วสถานการณ์มันก็ไม่ได้ดีเลยสักนิด

    ทำไมไม่บอกผม ทำไมถึงตัดสินใจไปก่อน... น้ำเสียงของแบคฮยอนไม่ได้คาดคั้น โกรธขึ้ง หรือแม้แต่ผิดหวัง เขาเพียงแต่พูดมันออกมาเรียบๆ

    ...พี่ซึงฮวานบอกว่าจะคุยกับนายเอง

    แต่ในเมื่อมันเป็นเรื่องของเราผมก็อยากได้ยินจากปากพี่มากกว่า

    ฉันฟังคำพูดของน้องแล้วก็เจ็บจนจุก เข้าใจดีเลยว่าน้องกำลังรู้สึกเจ็บปวดแค่ไหน แบคฮยอนเอื้อมมือมากุมมือแทยอนที่วางอยู่บนโต๊ะ

    แทยอน มองผมสิ... จำได้มั้ย? ผมเคยบอกพี่ตั้งแต่ครั้งแรกที่เราออกไปเจอกัน ผมคบกับพี่ไม่ใช่เพราะเห็นพี่เป็นไอดอล แต่พี่เป็นผู้หญิงของผม เป็นคนที่ผมอยากปกป้องดูแล ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม...

    แทยอนนิ่งเงียบ ดวงตาของเธอเริ่มเอ่อคลอไปด้วยหยดน้ำ

    ถ้าเลือกได้ผมก็ไม่อยากตกหลุมรัก ไม่อยากรู้สึกพิเศษกับใคร...

    “.........”

    แต่ผมห้ามตัวเองไม่ให้รักพี่ไม่ได้

    “.........”

    ผมอยากเป็นเมมเบอร์ที่ดีของเพื่อนๆ อยากเป็นคนรักที่ดีของพี่ อยากเป็นไอดอลที่ดีของแฟนๆ อยากปกป้องทั้งเอ็กโซ ทั้งคิมแทยอน และทุกคนที่รักผม แต่ผมทำไม่ได้เลยสักอย่าง ผมทำพังไปหมดทุกอย่าง

    พอแล้ว... แบคฮยอน

    สุดท้ายแล้วผมก็เป็นแค่ตัวปัญหา ทั้งสำหรับพี่ สำหรับเอ็กโซ

    ไม่ใช่... ไม่ใช่นะแบคยอน แทยอนพยายามปลอบน้องด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ทิฟฟานี่หมุนตัวเดินกลับออกไปทั้งน้ำตา คงเพราะทนมองภาพที่แสนเจ็บปวดไม่ได้อีกต่อไป ฉันมองเด็กน้อยที่ฟุบหน้าลงกับโต๊ะ ร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างไม่คิดจะปิดบัง

    ฉันเคยสงสัยมาตลอดว่าบยอนแบคฮยอนคู่ควรกับความรักมากมายที่คิมแทยอนมอบให้หรือเปล่า แต่วันนี้ฉันได้คำตอบแล้ว... มันไม่มีคำว่าคู่ควรสำหรับพวกเขา มันมีแค่ความรักที่ห้ามไม่ได้ หยุดไม่ได้และคาดเดาไม่ได้ ไม่ต่างอะไรกับสายฝนหลงฤดู ฉันรู้ว่าพวกเขาเฝ้ามองกันและกันมาเป็นปี พยายามแล้วที่จะหักห้ามอารมณ์ไม่ให้เกินเลยมากกว่าคำว่าพี่น้อง แต่ความรักก็ไม่เคยละเว้นใคร ในสถานการณ์ย่ำแย่ที่สุด ความรักก็กระหน่ำลงมาเหมือนลายฝน ทำให้หัวใจทั้งสองดวงชุ่มฉ่ำและเปียกปอนไปพร้อมๆกัน

    แทยอนยังคงนั่งกุมมือน้องอยู่อย่างนั้น กระซิบปลอบโยนว่าไม่เป็นไรซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกระทั่งแขกอีกชุดหนึ่งโผล่หน้าเข้ามาเยี่ยมเรา... ซูโฮ ดีโอ และลู่หาน ทิฟฟานี่เป็นคนโทรตามน้องให้มารับแบคฮยอนกลับไป ทันทีที่เมมเบอร์ก้าวเข้ามา แบคฮยอนก็ฉีกยิ้ม ปล่อยมือจากแทยอน กล่าวขอโทษพวกเราสองคนที่มารบกวน น้องบอกแทยอนว่าไม่ต้องเป็นห่วง และยังฝากให้พวกเราช่วยดูแลแทยอนด้วย ไม่ต่างจากพวกเราที่ฝากซูโฮให้ช่วยดูแลและเป็นกำลังใจให้น้อง

    หนุ่มๆทั้งสี่คนขอตัวกลับ แล้วประตูก็ปิดลง

    ...พร้อมกับคิมแทยอนที่ระเบิดเสียงร้องไห้ออกมาด้วยหัวใจที่ร้าวราน

     
     

    รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ เดี๋ยวจะเป็นหวัด คยองซูตบหลังผมเบาๆ ก่อนจะส่งยิ้มให้ระหว่างที่เรากำลังขึ้นลิฟท์กลับห้อง

    พอพี่ทิฟฟานี่โทรมาบอกพี่ซูโฮว่าผมอยู่ที่หอ พี่เค้ากับพี่ลู่หานก็เลยขอยืมรถพี่ผู้จัดการขับไปรับผมกลับมา อันที่จริงผมเองก็ตั้งใจจะโทรเรียกใครสักคนมารับอยู่แล้วเพราะไม่อยากให้แทยอนต้องขับรถกลับมาส่ง แต่ก็ไม่คิดว่าเมมเบอร์จะมารับผมด้วยตัวเอง

    ผมก้าวเข้าไปในหอพักแล้วก็เจอเมมเบอร์ที่เหลือในวงนั่งกันเงียบๆ เหมือนกับรอการกลับมาของผมอยู่ มันอาจจะเป็นสัญชาตญาณไปแล้ว แต่ผมก็แย้มรอยยิ้มกว้างส่งให้พี่ๆ น้องๆ ที่มองมา

    ไอ้ลูกหมา! ทำไมเปียกขนาดนั้น? จะไม่สบายรึเปล่าเนี่ย? ทำไมไม่ดูแลตัวเองเลยวะ จงแดถลาเข้ามาจับเนื้อจับตัวผมด้วยความเป็นห่วง ชานยอลลุกพรวดผลุบหายไปแล้วสักพักก็กลับมาพร้อมกับผ้าขนหนูผืนใหม่ เขาคลุมมันลงบนไหล่ของผมทับผืนเก่าเปียกโชกที่พี่ซันนี่ยื่นให้ตั้งแต่ตอนผมไปปรากฎตัวตรงหน้าประตู

    มักเน่ทั้งสามคน เทา เซฮุน และจงอินมองผมไม่วางตาอย่างกับกลัวว่าผมจะละลายหายไป พี่เลย์รื้อกล่องยา ทำหน้ายุ่งอ่านฉลากที่เป็นภาษาเกาหลี โดยมีพี่มินซอกช่วยแปลอยู่ข้างๆ

    แบคฮยอน ไปเปลี่ยนชุดก่อนเถอะ เดี๋ยวพี่หาอะไรให้กิน พี่ซูโฮหันมาหาผมพร้อมกับคำพูดอ่อนโยน แล้วทันใดนั้นความรู้สึกผิดทั้งหมดก็กดทับลงบนไหล่ผม หนักอึ้งจนต้องทรุดตัวลงนั่งคุกเข่ากับพื้น ถ้อยคำพรั่งพรูออกมาพร้อมกับน้ำตาที่หลั่งรินเหมือนเม็ดฝน

    ผมขอโทษ ขอโทษทุกๆ คน ผมผิดเอง มันเป็นเพราะผมคนเดียว ทุกคนต้องมาเดือดร้อนก็เพราะผม ฮึก... ผม... ผมไม่ควรจะเดบิวท์มาเลยจริงๆ

    พี่จะบ้าหรือไง!” เทาลุกขึ้นมากระชากคอเสื้อผม นี่พี่ไม่รู้ตัวเหรอ? ไม่รู้เหรอว่าก่อนหน้านี้มันยากขนาดไหน ช่วงก่อนคอนเสิร์ต... ถ้าไม่มีพี่ผมจะยิ้มได้ยังไง? พวกเราจะผ่านมันไปได้ยังไง! พี่ลืมแล้วเหรอว่าตัวเองเป็นแสงสว่างของเอ็กโซ มักเน่ฝั่งจีนร้องไห้น้ำตานองหน้าก่อนจะกอดผมไว้โดยไม่แคร์ว่าจะเปียกไปด้วย เมมเบอร์คนอื่นๆล้อมวงเข้ามา แล้วก็กอดพวกเราเอาไว้ ถ้อยคำมองมายล่องลอยอยู่ในอากาศ คำพูดของเมมเบอร์ทั้งสิบคน...

    ผมรักพี่นะพี่แบคฮยอน พี่คือเสียงหัวเราะของวง ฉันขาดนายไม่ได้ ฉันรักนายแบคฮยอน นายคือครอบครัว... ไม่มีนายก็ไม่มีเอ็กโซ

    ถ้อยคำเหล่านั้นทำให้น้ำตาผมพรั่งพรูราวกับสายฝน...

    แต่ผมรู้แล้ว... รู้ว่าพวกเขาจะไม่ปล่อยให้ผมเปียกปอนไปคนเดียว

    ต่อให้มีพายุ แต่พวกเราสิบเอ็ดคนก็พร้อมจะฝ่ามันไปด้วยกัน...






    ถ้าจะไม่รักกันแล้วก็อยากให้หันหลังจากกันไปดีๆ อย่าทำร้ายหัวใจของคนที่ยังยืนอยู่ตรงนี้เลย...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×