คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : CATCH ME IF YOU CAN : IV
CATCH ME IF YOU CAN : IV
ฉันย่องๆเข้าไปในห้องเก็บฉากที่มืดแถมมีกลิ่มเหม็นอับ แต่ก็พบกับความว่างเปล่า
อืม... งานนี้โกรธจริงอ่ะ =__= ทำไงดีหว่า
“พี่ มาทำอะไรแถวนี้ครับ?” เสียงที่ดังขึ้นจากข้างหลังเล่นเอาฉันสะดุ้งโหยงก่อนจะหันไปเจอคีย์กำลังยืนคาบอมยิ้มอยู่ตรงหน้า
“เปล่า พี่แค่สงสัยว่าห้องนี้มันมีอะไรน่ะ”
“พี่ทำท่าเหมือนหาคนอยู่เลย” ชะอุ้ย หรือว่าฉันมีพิรุธ ไม่รู้ล่ะ เอาเป็นว่าคนสวยอย่างฉันก็ทำเนียนๆตบเกรียนน้องรักไปหนึ่งที โทษฐานรู้ดีเกินไป
“เสียดายจัง ผมเล่นคู่พี่รอบเดียวเอง พี่เล่นกับพี่คยูฮยอนตั้งห้ารอบ” คีย์บ่นก่อนจะควงแขนฉันเดินไปทางห้องซ้อม ฉันพยักหน้ารับ ในใจคิดถึงไอ้คุณพระเอกที่ต้องเล่นคู่กับฉันห้ารอบแต่ดันหายหัวไปไหนก็ไม่รู้ คนอย่างอีซุนคยูง้อผู้ชายไม่เก่งซะด้วยสิ อย่างอนให้มันมากนักจะได้มั้ยยยยยย
“พี่ครับ ผมพานางเอกผมมาแล้ว” คีย์เปิดประตูห้องซ้อมเข้าไป แล้วก็...งานงอกสิคะซันนี่ T^T
โจคยูฮยอนยืนอยู่ตรงนั้น กำลังซ้อมอยู่หน้ากระจก คือแบบว่าวันนี้ฉันมาเร็วเพราะจะมาง้อหมอนี่เนี่ยแหละ ใครจะไปรู้ว่าเค้ายังซ้อมไม่เสร็จ แถมตอนนี้คีย์ก็ดันควงแขนซะแน่นเชียว
อยากจะเอาหัวโหม่งโลกสักสามล้านที T_T
ฉันโดนคีย์ลากไปนั่งดูการซ้อมอยู่หลังทีมงาน ไม่มีใครสนใจฉันหรอก ยกเว้น...ยกเว้นก็คุณพระเอกนั่นล่ะที่มองค้อนมาเป็นระยะๆ คนอื่นๆจะเห็นสายตาพี่แกมั้ยเนี่ย
ฉากที่พี่เค้ากำลังซ้อมอยู่ เป็นฉากที่แบรนด้ากับแฟรงค์เจอกันที่โรงพยาบาลค่ะ แฟรงค์ต้องอารมณ์เหมือนตกหลุมรักแรกพบทันทีที่เจอแบรนด้า แต่ไอ้ที่กำลังเล่นอยู่เนี่ย พี่แกทำหน้าเหมือนอยากจะฆ่ากันให้ตายด้วยสายตา
“ท่ามกลางสาวสวยมากมาย มีแค่เธอคนเดียวเท่านั้นที่ส่องประกายเจิดจ้า แค่แรกเห็น เธอก็ทำให้ผมรู้สึกว่า ผมกำลังยืนอยู่บนหนทางที่พรหมลิขิตเขียนมา” พี่แกพูดบทพร้อมเดินไปตามบล็อกกิ้งแบบชิลๆ
“ย่าห์! คยูฮยอนอา นั่นเป็นน้ำเสียงที่ใช้พูดเวลาตกหลุมรักงั้นเรอะ? =__=” พี่ผู้กำกับตะโกนถามลั่นห้อง
“ไม่นี่ครับ” พี่แกตอบหน้าตาเฉย เล่นเอาฮากันทั้งกอง
“แล้วไอ้ที่ถ่ายรายการแต่งงานนั่นไม่ได้ช่วยอะไรเลยรึไง”
“ก็ออกจะไปได้สวยนะครับ แบบว่า เค้าตัดต่อเอาน่ะ =__=a”
ดูมัน ดูความเกรียนของแฟนฉัน -*- พี่ผู้กำกับไม่รู้จะขำหรือจะถอดรองเท้าเขวี้ยงใส่พี่แกดี แต่อย่างน้อยได้ยินว่ารายการนั่นดูหวานเยิ้มเพราะเค้าตัดต่อ มันก็ทำให้ฉันแอบดีใจนิดๆ > <
“คือเล่นกับรุ่นพี่อูริแล้วผมตื่นๆน่ะครับ แบบว่า...ผมเพิ่งเคยซ้อมกับพี่เค้าแค่ไม่กี่ครั้ง” พี่ชเวอูริ ดับเบิ้ลแคสของฉันมองหน้าโจคยูที่พูดเสริมขึ้นมาอย่างหมั่นไส้
“อยากเปลี่ยนตัวนางเอกก็ไม่บอก” พี่คิมจงฮุนกับคีย์ผลักฉันออกไป โอ๊ยยยย ไม่ได้เสนอตัวเลย ไม่ต้องงงงงง ฉันไม่อยากเป็นประเด็น
“ไหนลองเล่นกับซันนี่ดูซิ”
เขามองหน้าฉันที่คงจะดูแตกตื่นเอามากๆ แล้วก็หันหลังกลับไปตั้งสมาธิ
โกรธจริงจังอ่ะ T^T ทำไงดี
“ผมว่าเราเบรกกองสักสิบนาทีได้มั้ยครับ? ผมลืมบท” ว่าเสร็จแล้วเจ้าตัวก็เดินลิ่วๆเข้าห้องพักนักแสดงไปเลย ทิ้งให้ทุกคนยืนงงค้างอยู่ว่าพี่แกเป็นอะไร
“ขอโทษด้วยนะคะ ฉันว่าพี่เค้าคงกดดันน่ะค่ะ” ฉันหันไปโค้งให้กับพี่อูริที่ยืนอยู่ข้างๆ ไม่อยากให้ทุกคนเข้าใจผิดว่าเขาเป็นไอดอลขี้เหวี่ยงขี้วีน จริงๆส่วนนี้น่าจะโทษพี่ฮีชอลว่าทำตัวเป็นแบบอย่างที่ไม่ดี ถ้าไม่อยู่ในกรมนะ แม่จะกระโดดงับหัว
“ไม่เป็นไรหรอก พี่รู้ว่าเค้าตั้งใจ แล้วทุกคนก็เข้าใจ ปกติคยูฮยอนเป็นคนน่ารัก แต่ว่าวันนี้เหมือนเค้าจะหงุดหงิดอะไรมาแต่เช้าแล้วล่ะ”
หงุดหงิดฉันเนี่ยแหละ T^T เครียด
“งั้นเดี๋ยวฉันไปดูให้นะคะ” ฉันอาสาแบบเนียนๆ แล้วย่องตามหลังพี่แกเข้าห้องซ้อมไป ฉันเคาะประตูสองสามทีแต่ไม่มีเสียงตอบเลยค่อยๆแง้มประตูออก พี่คยูฮยอนนั่งอยู่บนโซฟา ไม่หันมามองฉันเลยซักนิด
“พี่คะ~” ฉันเรียก พยายามทำเสียงหวานแอ๊บแบ๊วแบบที่เขาจะชอบหันมาดีดหน้าผากฉันทุกครั้ง แต่คราวนี้ไม่ได้ผล ฉันเลยต้องระเห็จตัวเองไปนั่งข้างๆคนอารมณ์ไม่ดี
“ทำหน้ามุ่ยเดี๋ยวก็แก่เร็วหรอก ยิ้มหน่อยน้า~” ฉันยกมือขึ้นหยิกแก้มเค้าบังคับให้หน้าหล่อๆนั่นยิ้ม แต่เขาจับมือฉันออกแล้วทำท่าเหมือนจะลุกหนี ฉันรีบคว้าชายเสื้อเขาไว้
“ขอโทษนะคะ จากนี้จะไม่ทำอีกแล้ว”
“ทำอะไร?” เขาถามกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ก็...เลิฟไลน์กับคนอื่น ไม่มีแล้วจริงๆ ครั้งนี้ครั้งสุดท้าย หรือถ้าพีดีรายการไหนขอมา รับรองเลยว่าจะโทรขออนุญาตก่อน” ฉันยกนิ้วก้อยขึ้นตรงหน้าพี่คยูฮยอนที่ตอนนี้เริ่มทำแก้มป่องเหมือนเด็กๆ
“ดีกันน้า~” ฉันใส่ลูกอ้อนเข้าไปอีกที คราวนี้คนตัวสูงแต่ทำตัวเหมือนเด็กที่ยืนตรงหน้าฉันยอมยกมือขึ้นมาเกี่ยวก้อยด้วย
ให้ตายเถอะ ดีใจจนบอกไม่ถูก ทำไมนิสัยเดกๆของผู้ชายคนนี้ถึงได้ทำให้ฉันใจเต้นทุกที เขาชอบบอกว่าฉันน่ารัก แต่ในสายตาฉัน ตัวเขานั่นแหละที่น่ารักกว่าเป็นร้อยเท่า น่ารักโดยที่ไม่ต้องแอ๊บแบ๊วเลย ฉันรักผู้ชายคนนี้จัง
“แค่สัญญาอย่างเดียวไม่พอหรอกนะ”
“หืม? งั้นจะเอาอะไรอีกล่ะคะ?” ฉันกุมมือเขาแกว่งไปแกว่งมาอย่างอารมณ์ดี
“จูบ”
-*- ได้ทีก็ออกลายเลยนะ
“อ่ะ ลดให้แค่หอมแก้มก็ได้” ฉันมองใบหน้าเจ้าเล่ห์ของเขาแล้วก็รู้ว่าไม่มีทางเอาชนะผู้ชายคนนี้ไปได้ง่ายๆแน่ ยิ่งตอนนี้เจ้าตัวยื่นแก้มมาให้ตรงหน้า จริงๆแล้วเขาน่าหมั่นเขี้ยวออกขนาดนี้ ไม่ต้องบังคับฉันก็อยากดึงเขามาฟัดใจจะขาด
“เร็วๆซี่ เดี๋ยวมาคนเข้ามาไม่รู้ด้วยนะ”
“ก็ได้ค่ะ” ฉันหัวเราะกับความเอาแต่ใจของเขาก่อนจะยื่นหน้าเข้าไป
แชะ!
แสงแฟลชสว่างวาบทันทีที่จมูกของฉันสัมผัสกับแก้มนุ่มๆนั่น ฉันยืนงงอยู่พักหนึ่งแล้วตัวการก็รูดม่านออกมาจากห้องเปลี่ยนเสื้อ
“ขอบคุณนะพี่ซองมิน ถ่ายติดชัดเลยใช่มั้ย?”
เฮ้ยยยยยย!!! โดนตลบหลัง!!
“โจคยูฮยอน คิดทำบ้าอะไรของนายยะ!” ฉันหันไปแว้ดใส่ตัวการที่รู้ว่าหมอนี้ต้องติดสิยบนพี่ซองมินด้วยอะไรซักอย่างแน่ๆ ไม่งั้นพี่แกไม่มาซ่อนตัวอยู่ในห้องเปลี่ยนเสื้อรอชอตเด็ดแบบนี้ได้เป็นชั่วโมงหรอก
“นี่มันแค่เด็กๆครับที่รัก ว่าแต่... รูปนี้เอาไปเผยแพร่ที่สำนักข่าวไหนดีน้า”
“อย่าได้คิดเชียวนะ!” ฉันแทบจะกรี๊ดออกมาในขณะที่ถลาเข้าไปแย่งกล้องจากมือพี่ซองมิน
“โอ๊ย! ซันนี่! อย่าเล่นแบบนี้นะ พี่เจ็บ! มักเน่! จับแฟนแกไว้สิเฟ่ย!!”
กว่าที่ไอ้คุณแฟนบ้าจะแงะฉันออกจากตัวพี่ซองมินได้ สภาพเราทั้งคู่ก็ยับเยิน ลงท้ายพอเห็นว่าฉันเอาจริง ไอ้พี่คยูฮยอนเลยจับฉันโยนออกไปนอกห้องพักแล้วล็อกประตู จะเตะ จะถีบเท่าไหร่ก็ไม่ยอมเปิด
เอาไงดีฟระ ขืนปล่อยไปแบบนี้ได้เป็นข่าวแน่ๆ
สุดท้าย ฉันก็ตัดสินใจโทรตามผู้ช่วย คนที่มั่นใจมากว่าต้องจัดการกับพี่ซองมินได้ ส่วนไอ้คุณแฟนน่ะเหรอ... หึ หึ ฉันจะเอาให้อ่วมเลย
โทษฐานที่กล้ามาลองดีกับอีซุนคยู!
ความคิดเห็น