ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SNSD] Feminine Club : คลับลับฉบับสาวๆ!

    ลำดับตอนที่ #4 : Profile No.3 & No.4 : ซูยอง & ซอฮยอน [Part 1]

    • อัปเดตล่าสุด 9 ต.ค. 54


    GUESTS INTRODUCTION

    Yonghwa CN Blue  Jungshin CN Blue SeungAh Rainbow Lee Joon MBLAQ

     
     Nana After School       Key SHINee       Jinwoon 2AM      Gayoon 4Minute


    Profile No.3 & No.4 : ซูยอง & ซอฮยอน

     

      ตำแหน่งในคลับ : ผู้จัดการคลับ
     อายุ : 17 ปี (ม.ปลาย ปี 2) 
    โรงเรียน : ร.ร.มัธยมโชซอน
    ความสามารถ : ภาษาญี่ปุ่น

    ตำแหน่งในคลับ : สมาชิกคลับ
    อายุ : 15 ปี (ม.ต้น ปี 3)
    โรงเรียน : ร.ร.มัธยมโชซอน
    ชื่อจริง : ซอจูฮยอน

                    “นั่นไงๆ คนนั้นไง!

                    “ไหนๆ... ว้าย! ใช่จริงๆด้วย หล่อชะมัดเลย!

                    “กรี๊ดดด รุ่นพี่ยงฮวาคะ!

                    เสียงกรี๊ดกร๊าดของสาวๆที่ดังมาตามระเบียงทางเดินทำให้ฉันรู้สึกรำคาญ ฉันปิดหนังสือในมือก่อนจะหันไปมองที่มาของเสียงนั้นแล้วหัวใจฉันก็เต้นแรงขึ้นมาซะเฉยๆ... จองยงฮวา ประธานสภานักเรียนม.ปลายปีสอง รุ่นพี่ยงฮวา...

                    รอยยิ้มของเขาทำให้ทุกอย่างสว่างไสว ทำให้หัวใจของสาวๆครึ่งโรงเรียนแทบจะหยุดเต้น

                    ที่เดินตามมาข้างหลังเขาคือรองประธานสภานักเรียน พี่ซูยอง และเพื่อนสนิทในกลุ่มของฉันที่ดำรงตำแหน่งเป็นประธานสภานักเรียนม.ต้น จินอุน

                    จินอุนโบกมือทักทายฉัน ขณะที่พี่ซูยองยิ้มกว้างแล้วขยิบตาให้ ก่อนที่คณะกรรมการสภานักเรียนจะเดินไปทางห้องประชุมพร้อมกับเสียงกรี๊ดกร๊าดของบรรดาแฟนคลับ

                    “เปิดเทอมมาก็ป๊อปปูลาร์เชียวนะเนี่ย” เสียงของใครคนหนึ่งดังขึ้นข้างๆ ถึงไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าใคร... อีจองชินหนึ่งในกลุ่มเพื่อนของฉันเองค่ะ

                    “นี่! ไอ้เตี้ยคิมคิบอม! หยุดฟังเพลงซะทีได้ไหม แล้วกรุณาหัดรับโทรศัพท์ฉันซะบ้าง!

                    “ใครคือคิมคิบอมครับ? ผมชื่อคีย์ หัดเรียกให้มันถูกๆหน่อยสิเจ๊”

                    “พอได้แล้วน่า พวกนายหยุดทะเลาะกันซักทีคนเขามองกันใหญ่แล้ว” จองชินหันไปพูดกับคีย์และนานะ เพื่อนในกลุ่มเราอีกสองคนที่ทะเลาะกันเป็นประจำทุกวัน ในขณะที่ฉันได้แต่ส่ายหน้า ก่อนจะหันไปเห็นอะไรบางอย่างบนหน้าของจองชิน

                    “จองชิน เธอไปมีเรื่องมาอีกแล้วใช่ไหม?”

                    “อา... เปล่านี่” จองชินตอบ ก่อนจะรีบยกหนังสือขึ้นปิดรอยช้ำบนหน้า

                    “นานะ คีย์... จะไปไหน” ฉันเรียกเพื่อนอีกสองคนที่ทำท่าเหมือนจะย่องหนีไป ทั้งสองคนนั้นสะดุ้งนิดๆก่อนจะหันมายิ้มแห้งๆ ฉันได้แต่ถอนหายใจก่อนจะเดินนำเพื่อนทั้งสามคนไปทางห้องพยาบาล

                    จองชิน คีย์ นานะ จินอุน และฉันเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันค่ะ เราเรียนด้วยกันมาตั้งแต่ตอน ม.ต้นปีหนึ่งแล้วก็สนิทกันมากๆ แม้ว่าดูเหมือนจะไม่น่าสนิทกันได้เลยเพราะจองชินเป็นหัวหน้ากลุ่มอันธพาลของโรงเรียนเราซึ่งมีคีย์กับนานะเป็นมือซ้ายมือขวา ส่วนฉันกับจินอุนเป็นนักเรียนดีเด่นที่มีผลการเรียนยอดเยี่ยมมาตลอด

                    “เจ็บ...จูฮยอน” จองชินพูดขึ้นมา

                    “นี่นายยังไม่เลิกเรียกซอฮยอนว่าจูฮยอนอีกเหรอจองชิน ชื่อนั้นฟังยังกับป้าแก่ๆ ซอฮยอนต่อไปนี้ถ้าจองชินเรียกเธอว่าจูฮยอนอีกไม่ต้องหันนะ” นานะว่า จริงๆแล้วชื่อจริงของฉันคือซอจูฮยอนค่ะ แต่เพราะนานะนี่แหละชอบเรียกฉันว่าซอฮยอนจนเพื่อนๆทุกคนก็เรียกตามเธอไปหมด มีแต่จองชินคนเดียวที่ยังเรียกฉันด้วยชื่อจริงคือ จูฮยอน

                    “ฉันจะเรียกของฉันแบบนี้แหละ” จองชินตอบกลับเรียบๆ

                    “ไม่เป็นไรหรอกจ้ะนานะ” ฉันรีบพูดขัดขึ้นมาพอเห็นนานะทำท่าจะวีนอีก

                    “ว่าแต่เมื่อไหร่จินอุนมันจะประชุมเสร็จล่ะเนี่ย” คีย์พูดขึ้นมาพลางดึงหูฟังไอพอดออกข้างหนึ่ง

                    “คงตอนเริ่มคาบแรกนั่นแหละมั้ง” นานะตอบ

                    “นี่มันก็จะเริ่มแล้วนะ = =

                    “พวกเธอสองคนไปเข้าเรียนก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันกับจองชินจะตามไปนะ ^^

                    “อื้อ ถ้างั้นก็ ขอบใจนะซอฮยอน” คีย์กระโดดลงจากเตียงส่วนนานะโบกมือให้ฉันก่อนที่ทั้งสองคนนั้นจะเดินออกไปจากห้องพยาบาล แล้วฉันก็หันกลับมาพันแผลที่แขนของจองชินต่อ เทียบกับสองคนนั้นแล้วจองชินเจ็บหนักกว่ากันเยอะเลย

                    “นี่เพิ่งเปิดเทอมวันแรกเอง ทำไมถึงได้ไปมีเรื่องเจ็บตัวหนักขนาดนี้ล่ะ?” ฉันถาม

                    “ก็ไม่มีอะไรมากหรอก พอดีออกไปเที่ยวกับสองคนนั้น มีผู้ชายเข้ามาลวนลามนานะน่ะ” จองชินอธิบายสั้นๆ เขาเป็นคนแบบนี้ล่ะค่ะ ถึงแม้จะดูเย็นชา มีโลกส่วนตัวสูง แต่ก็รักเพื่อนมากๆ อันที่จริงแล้วจองชินไม่ใช่คนชอบหาเรื่องชกต่อยกับใครก่อน แต่ด้วยความใจร้อนของนานะกับคีย์ ทำให้ส่วนมากเขาต้องออกรับหน้าเวลามีอะไรเกิดขึ้น แต่ถึงยังงั้นเขาก็ไม่เคยบ่นเลยซักครั้ง

                    “แล้ว...พี่ชายเธอไม่ว่าเหรอ?”

                    จองชินนิ่งไปทันทีเมื่อฉันพูดถึงเรื่องนี้

                    “ฉัน... ไม่เคยมีพี่ชาย” เขาตอบ “โดยเฉพาะพี่ชายอย่างจองยงฮวา...”

     

     

                    “ยงฮวา! ไอ้ท่านประธานซื่อบื้อ! จะช่วยตื่นมารับฟังการประชุมหน่อยได้ไหมคะ!” ฉันเขวี้ยงสมุดโน๊ตใส่หัวจองยงฮวาเต็มๆ โทษฐานที่มันหลับระหว่างที่ประชุม -*- ฮึ่ย ให้มันได้ยังงี้สิ!

                    “โทษทีนะซูยอง” หมอนั่นยกมือขึ้นโบกปัดๆก่อนจะฟุบลงไปนอนกับโต๊ะเลย เอากับเค้าสิคะ!

                    “ปล่อยพี่ยงฮวาไปเถอะพี่ นี่มันเพิ่งเปิดเทอมวันแรก ไม่ค่อยมีอะไรหรอก” จินอุนหัวเราะขำก่อนจะเอนหลังพิงพนักเก้าอี้สบายใจเฉิบ

                    “แล้วไอ้เรื่องรับสมัครสภานักเรียนเพิ่มล่ะยะ!

                    “เดี๋ยวเรื่องนี้ฉันรับผิดชอบเองจ้ะ ^^” โอซึงอาเพื่อนของฉันรับอาสา

                    “ดีเลย ถ้างั้นก็ปิดประชุม” ยงฮวาตบโต๊ะทั้งๆที่นอนอยู่อย่างนั้น แล้วคณะกรรมการที่เหลือก็ลุกขึ้นแยกย้ายกันไป เหลือแต่ฉันกับหมอนั่นที่ยังนั่งอยู่

                    จองยงฮวา... ประธานนักเรียนที่สาวๆกว่าครึ่งโรงเรียนหมายปอง ทั้งหน้าตาดี เรียนเก่ง เป็นกัปตันทีมบาสชาย (แม้จะตัวเตี้ยไปหน่อยก็ตาม) เล่นกีตาร์ขั้นเทพ ร้องเพลงก็เพราะ เป็นสุภาพบุรุษสุดๆ เรียกว่าใครได้หมอนี่ไปเป็นแฟนเนี่ย โชคดีสุดๆเลยค่ะ แต่ถึงใครจะมองว่ายงฮวาเป็นเพอร์เฟคต์แมนขนาดไหน สำหรับฉันแล้วหมอนี่ก็แค่ผู้ชายธรรมดาๆคนนึง และฉันก็รู้ว่าเขามีเรื่องที่ต้องให้หนักใจอยู่เสมอ

                    “ยงฮวา... น้องชายของนายอีกแล้วสินะ”

                    ยงฮวาเงยหน้าขึ้นจากโต๊ะแต่กลับพยายามมองไปทางอื่น ไม่สบตาฉัน แม่ของยงฮวาแต่งงานใหม่เมื่อสามปีที่แล้วก่อนจะเสียชีวิตไปพร้อมกับพ่อเลี้ยงด้วยอุบัติเหตุเมื่อปีกลาย ตอนนี้ยงฮวาอาศัยอยู่กับคุณย่าที่ไม่ใช่คุณย่าแท้ๆ และน้องชายที่เป็นลูกติดของพ่อเลี้ยง... อีจองชิน หนึ่งในเพื่อนสนิทของซอฮยอนและหัวหน้ากลุ่มอันธพาลของโรงเรียน ที่สำคัญจองชินเกลียดยงฮวาเอามากๆเลยล่ะค่ะ

                    “ไปเรียนกันเถอะ” ยงฮวาพูดพร้อมกับลุกขึ้นยืน

     

     

                    “เห? จริงเหรอซอฮยอน!” นานะถามฉันเป็นรอบที่สามระหว่างที่พวกเรากำลังนั่งทานข้าวด้วยกันอยู่ที่โรงอาหาร

                    “ใช่จ้ะ” ฉันตอบเธอเป็นรอบที่สามเหมือนกันค่ะ - -“

                    “แบบนี้เธอก็จะได้ใกล้ชิดกับรุ่นพี่ยงฮวามากขึ้นน่ะสิ” นานะทำหน้าเพ้อฝัน ในขณะที่คีย์ถอนหายใจออกมา

                    “แค่เพราะชอบรุ่นพี่ยงฮวา เธอถึงกับไปสมัครเข้าคณะกรรมการนักเรียนเลยเหรอ?”

                    “ไม่ใช่นะ จริงๆแล้วฉันเองก็คิดอยากจะทำกิจกรรมอะไรซักอย่างมาตลอดน่ะจ้ะ เพราะตอนเย็นๆฉันก็ต้องรอพวกเธอกลับบ้านทุกวัน แถมถ้าฉันได้เป็นคระกรรมการ ฉันจะได้ช่วยจินอุนด้วยไงล่ะ”

                    “งั้นเหรอ” นานะ ยิ้มอย่างรู้ทัน “แล้วทำไมเธอต้องหน้าแดงด้วยล่ะ?”

                    “พอได้แล้วน่า เลิกล้อจูฮยอนซะที” จองชินพูดขึ้นมา

                    “ไง พวกนาย คุยอะไรกันอยู่น่ะ” จินอุนที่เพิ่งเลิกจากการประชุมเดินเข้ามานั่งโต๊ะเดียวกับพวกเรา

                    “สวัสดีค่ะท่านประธาน” นานะพูดเหน็บก่อนจะโยนขนมปังกับนมกล่องไปให้จินอุนที่ยิ้มกว้าง “เรากำลังคุยเรื่องที่ซอฮยอนลงสมัครสภานักเรียนน่ะ”

                    “อ้อ ฉันเห็นใบสมัครเธอแล้วล่ะ” จินอุนหันมาพูดกับฉัน “แล้วก็จะบอกว่า เธอจะได้มาแทนตำแหน่องรองประธานฝั่ง ม.ต้นนะ พอดีว่านัมฮีจินรองประธานคนเก่าเค้าย้ายโรงเรียนไปน่ะ ตำแหน่งเลยว่างพอดี”

                    “พูดเป็นเล่นน่า!” คีย์ตบโต๊ะเสียงดัง

                    “สำเร็จแล้วนะซอฮยอน >_<

                    “แบบนี้พวกเราก็สบายแล้วสิ เวลาไปมีเรื่องอะไรกับใครก็ไม่ต้องห่วงว่าจะโดนสภานักเรียนจับได้ เพราะเรามีทั้งซอฮยอน มีทั้งจินอุน” คีย์หัวเราะร่า แต่จองชินกลับวางกล่องนมลงบนโต๊ะแรงๆ

                    “น่ากลัวว่าจะตรงกันข้ามมากกว่าน่ะสิ”

                    “ใช่ พวกนายไม่ควรจะใช้ประโยชน์จากการที่ฉันกับซอฮยอนเป็นสภานักเรียนนะ” จินอุนเริ่มพูด “เพราะฉันเองก็ตกที่นั่งลำบากเหมือนกันเวลาต้องปกปิดความผิดให้พวกนาย”

                    “ย่ะ พ่อนักเรียนดีเด่น!”  นานะเชิดหน้าใส่จินอุน

                    “เย็นนี้เลิกเรียนแล้วเธอไปกับฉันนะซอฮยอน ฉันจะพาเธอไปแนะนำตัวกับคณะกรรมการ”

                    “อื้อ” ฉันตอบจินอุนรู้สึกหัวใจเต้นเป็นจังหวะแปลกๆ... ฉันจะได้เจอกับพี่ยงฮวาแล้วสินะ

     

     

                    “ไปไม่ได้อีกแล้วเหรอซึงอา?”

                    “ขอโทษนะ ฉันมีนัดกับพี่จุนจริงๆน่ะจ้ะ

                    “แต่ว่าเธอโดดประชุมไปหลายครั้งแล้วนะ! ไหนจะซ้อมเต้นของชมรมเชียร์ลีดเดอร์อีก”

                    “อา... ซูยอง” ซึงอามีสีหน้าลำบากใจขึ้นมาเล่นเอาฉันรู้สึกผิดไปเลย

                    “ซึงอา อยู่นี่น่ะเอง ไปกันเถอะ” อีจุนเปิดประตูเดินเข้ามาในห้องเล่นเอาสาวๆหลายคนแอบกรี๊ด เชอะ ฉันรู้น่ะว่าหมอนี่น่ะป๊อปปูล่าร์เป็นอันดับต้นๆของโรงเรียนเราไม่แพ้ยงฮวา เป็นเอซของชมรมเคนโด้ หน้าตาก็ดี ถึงจะเรียนไม่เอาไหนก็เถอะ แต่ยังไงฉันก็ไม่ชอบขี้หน้าหมอนี่จริงๆนะ T^T

                    “อีจุน ช่วยกรุณาแต่งตัวให้เรียบร้อยด้วย” ฉันใช้หางตามองชายเสื้อที่หลุดลุ่ย กระดุมเสื้อก็ไม่ยอมติดให้เรียบร้อย สาวๆหลายคนอาจจะคิดว่ามันเท่ แต่สำหรับฉันหมอนี่จะทำอะไรก็เหมือนกุ๊ยทั้งนั้นแหละ

                    “ชเวซูยอง =__= ฉันเป็นรุ่นพี่เธอนะ อย่ามาเรียกกันห้วนๆได้ไหม แล้วก็เธอน่ะว่าฉันแต่ตัวเองก็เอาเสื้อออกนอกกระโปรงเหมือนกัน เนคไทก็ไม่ผูก แถมกระโปรงก็สั้นอีก เป็นถึงรองประธานแท้ๆ”

                    “มันจะมากเกินไปแล้วนะยะ! ที่กระโปรงสั้นน่ะเพราะฉันสูงต่างหาก T^T

                    “จ้ะ แม่คนสูง ^^ ฉันจะเอาตัวเพื่อนเธอไปล่ะนะ” อีจุนยิ้มก่อนจะโอบไหล่ซึงอาแล้วตะเบ๊ะให้ฉัน เล่นเอาเพื่อนๆอีกหลายคนส่งเสียงกรี๊ดเบาๆเป็นแบ็กกราวน์ เฮ้อ~ ให้มันได้ยังงี้สิ!

                    แล้วสุดท้าย ฉันก็เดินย่ำโครมๆไปที่ห้องประชุมคนเดียว เฮอะ! สายแล้วด้วย แถมต่อจากนี้ฉันต้องไปซ้อมกับชมรมเชียร์ลีดเดอร์ต่อ แล้วมีนัดขึ้นแสดงกับสาวๆเอฟคลับอีก อ๊ากกกก >_<! ชเวซูยองงานเยอะจริงๆค่ะ

                    ฉันถีบประตูเข้าไปด้วยอารมณ์เซ็ง

                    นั่นไง! เริ่มประชุมแล้วจริงๆด้วย...

                    “มาพอดีเลยยัยโย่ง” ไอ้ยงฮวาปากเสีย -__-

                    “หุบปากไปเถอะไอ้เตี้ย!

                    ฉันด่ากลับ เล่นเอาคนอื่นๆหัวเราะกันครืน ฉันโยนกระเป๋าลงตรงที่นั่งข้างๆยงฮวา ก่อนจะมองไปรอบๆโต๊ะแล้วสายตาก็ไปสะดุดลงที่ใครคนหนึ่ง...

                    ซอฮยอนนี่นา!

                    “เอ่อ... สวัสดีค่ะ ฉันซอจูฮยอน จากวันนี้ไปจะมาเป็นรองประธานสภานักเรียนฝ่าย ม.ต้นค่ะ” ซอฮยอนลุกขึ้นอย่างเรียบร้อยแล้วโค้งคำนับรุ่นพี่ทุกคน อ๊า >_<! น้องสาวฉันน่ารักสุดๆเลยล่ะค่ะ!

                    “ซอฮยอนนี่~! เธอลงสมัครสภานักเรียนโดยไม่บอกพี่ได้ยังไงกัน”

                    “อ้าว นี่พวกเธอรู้จักกันแล้วเหรอ” ยงฮวาทำหน้าเหรอหราใส่ฉัน

                    “ก็เออน่ะสิ =__=

                    “เพราะยังงี้แหละ ผมถึงได้เชียร์ซอฮยอนไงครับพี่ ^^” จินอุนยิ้มหน้าบานส่งให้ยงฮวา ทำไมฉันจะไม่รู้ว่าหมอนี่ชอบซอฮยอน แต่ขอโทษทีเถอะ ฉันรู้นะว่าซอฮยอนน่ะไม่ได้ชอบนายหรอก ว่ะฮ่ะฮ่าๆๆๆ

                    “เอาล่ะๆ เริ่มประชุม”

     

     

                    ฉันตื่นเต้นจังเลยค่ะ >_<!

                    แค่ได้นั่งร่วมโต๊ะกับพี่ยงฮวาก็ใจเต้นไปหมดแล้ว พี่ซูยองกับจินอุนจะผิดสังเกตรึเปล่านะ? แต่จะว่าไปแล้ว พี่ซูยองกับจินอุนเนี่ยดูเท่มากๆเลยล่ะค่ะ สองคนนั้นดูมีความเป็นผู้นำมากๆเลย ส่วนพี่ยงฮวา ถึงส่วนมากจะดูนิ่งๆ แต่พอพี่เค้าพูดอะไรที่เป็นเรื่องงานออกมาปั๊บ ทุกคนก็จะนิ่งฟังทันทีเลย สมกับเป็นประธานจริงๆค่ะ นอกจากนั้นเขายังดูขี้เล่นกว่าตัวจริงตั้งเยอะแน่ะ รอยยิ้มของเค้าก็ดูอบอุ่นมากๆเลยด้วย

                    “เอาล่ะ วันนี้พอแค่นี้ก่อน ซูยอง เธอก็คอยสอนงานซอฮยอนด้วยนะ” พี่ยงฮวาหันไปพูดกับพี่ซูยองก่อนจะส่งยิ้มให้ฉัน ฉันจะละลายแล้วค่ะ >_<!

                    “ซอฮยอนเธอกลับก่อนเลยก็ได้นะ เดี๋ยวฉันมีเรื่องคุยกับพี่ยงฮวาต่อแปปนึง จินอุนพูดกับฉันในขณะที่พี่ซูยองทำปากขมุบขมิบบอกฉันว่า แล้วเจอกันที่คลับฉันโค้งให้กับทุกคนก่อนจะเดินออกมานอกห้องประชุม

                    เฮ้อ~

                    “เหนื่อยขนาดนั้นเลยเหรอ?”

                    “จองชิน ตกใจหมดเลย!

                    “จินอุนล่ะ?”

                    “ยังอยู่ประชุมต่อจ้ะ แล้ววันนี้เธอไม่ไปซ้อมดนตรีเหรอ” เขาส่ายหน้าก่อนจะดึงกระเป๋านักเรียนของฉันไปถือให้ จองชินเป็นมือเบสให้กับชมรมดนตรีของโรงเรียนค่ะ เขาเก่งมากๆเลยนะคะ

                    “แล้วนานะกับคีย์?”

                    “นานะไปซ้อมกับชมรมเชียร์ลีดเดอร์ คีย์ก็เข้าชมรมเคนโด้”

                    “อา... งั้นพวกเราก็ต้องรอสินะ”

                    “ไม่ต้องหรอก นานะกับคีย์จะเลิกเย็น แล้วสองคนนั้นจะไปเที่ยวกันต่อ” จองชินออกเดินไปพร้อมกับฉัน

                    “เธอไม่ไปด้วยเหรอ?” ปกติจองชิน นานะและคีย์มักจะไปเที่ยวด้วยกันอยู่บ่อยๆ ถึงแม้ว่าจองชินจะเหมือนตามไปเป็นบอดี้การ์ดให้พวกนั้นมากกว่าก็เถอะ

                    “วันนี้ขี้เกียจ เธอจะกลับบ้านใช่ไหม จะรอจินอุนรึเปล่า?”

                    “ไม่หรอกจ้ะ เดี๋ยวรถที่บ้านฉันก็จะมารับแล้วล่ะ ^^

                    “อือ... ถ้างั้นก็ ฉันจะอยู่รอเป็นเพื่อนเธอก่อนแล้วกัน”

     

     

                    “นี่ซูยอง ซอฮยอนอยู่กลุ่มเดียวกับจินอุนเหรอ?” ยงฮวาถามฉันขณะที่เราเดินออกจากห้องคณะกรรมการด้วยกัน

                    “ทำไมล่ะ?”

                    “ท่าทางจะสนิทกับจองชินด้วยสินะ” ยงฮวามองออกไปนอกหน้าต่าง ฉันมองตามสายตาหมอนั่นออกไปแล้วก็เห็นซอฮยอนกำลังหัวเราะเล่นอยู่กับอีจองชิน ฉันหันไปมองสีหน้าของยงฮวาที่ดูเหมือนจะเศร้านิดหน่อย คงเป็นเพราะจองชินไม่เคยยิ้มแบบนั้นให้ยงฮวาเห็นแน่ๆ

                    “น้องนายท่าทางจะชอบน้องฉันนะ”

                    “อืม... ซอฮยอนน่ารักออกขนาดนั้น”

                    ฉันยังคงมองสองคนนั้นคุยเล่นกันต่อไปจนกระทั่งมีใครคนหนึ่งเดินผ่านเข้ามา... นั่นมัน... อีจุน? เดินมากับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง... ไม่ใช่ซึงอานี่นา บ้าจัง! ไกลชะมัด ฉันมองสองคนนั้นไม่ชัดเลย -*-

                    “มีอะไรเหรอ?” ยงฮวาหันมาถามฉันแล้วพยายามเพ่งมองสองคนนั้นบ้าง

                    “อีจุน ปีสามแฟนซึงอาน่ะ”

                    “รุ่นพี่อีจุน? อืม... แต่นั่นไม่ใช่ซึงอาไม่ใช่เหรอ?”

                    ฉันไม่ได้ตอบคำถามหมอนั่น อีจุนกับผู้หญิงคนนั้นเดินเข้าไปใต้ต้นไม้ข้างอาคารเรียน สองคนนั้นเหมือนหยอกล้อคุยเล่นกันก่อนที่ฝ่ายหญิงจะเขย่งตัวขึ้นจูบจุน!

                    “เฮ้ย!” ฉันร้องเสียงดังพลางคว้าแขนยงฮวา “นายเห็นอย่างที่ฉันเห็นรึเปล่า?”

                    “หา? อะไร” ไอ้เตี้ยเพิ่งหันกลับมามอง โธ่เอ๊ย -*- หมอนั่นมัวแต่มองน้องชายมันสวีทกับซอฮยอนอยู่สินะถึงได้พลาดช็อตเด็ด แต่พอฉันหันกลับไปมองคู่ของอีจุนอีกที พวกเขาก็หายไปแล้ว

                    “บ้าจริงไปไหนแล้วเนี่ย!

                    “อะไรของเธอน่ะยัยโย่ง =__=”

                    “ฉันเห็นอีจุนจูบผู้หญิงคนอื่น!

                    “ตาฝาดรึเปล่ายัยโย่ง คนเค้ารู้กันทั้งโรงเรียนว่าอีจุนกับโอซึงอาเป็นแฟนกัน แล้วใครจะกล้ามาจูบจุนกลางวันแสกๆแบบนี้”

                    “ฉันไม่ได้ตาฝาดนะ! หมอนั่นจูบกับผู้หญิงอื่นจริงๆ T_T ฉันพูดจริงๆนะยงฮวา”

                    “เหรอ... ฉันว่าเธออาจจะมองคนอื่นผิดเป็นอีจุนก็ได้ ฉันรู้ว่าเธอสนิทกับซึงอา แต่รุ่นพี่จุนก็ดูเป็นคนดีนะ อย่าอคติให้มากนักเลยน่า” ยงฮวาลากแขนฉันออกมาจากข้างหน้าต่าง

                    ฉันตาฝาดเหรอ? ไม่น่าจะเป็นไปได้นะ... นั่นมันอีจุนแน่ๆ ฉันมองไม่ผิดหรอก

                    ท่าทาง... ฉันจะต้องสืบเรื่องนี้ซะแล้ว

     

     

                    ในที่สุดผมก็มายืนอยู่หน้าบ้าน...

                    บ้านหลังใหญ่ที่ผมรู้สึกอึดอัดทุกครั้งที่จะก้าวเข้าไป แต่ผมไม่มีที่อื่นให้ไปอีกแล้ว...

                    “กลับมาแล้วครับคุณย่า” ผมพูดออกไป แล้วคำตอบก็คือความเงียบเหมือนทุกวัน ผมถอนหายใจก่อนจะถอดรองเท้าวางไว้บนชั้น... จองชินกลับมาแล้ว รองเท้าเขาอยู่นี่

                    ผมขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าบนห้องก่อนจะเดินลงมาหาคุณย่าที่ห้องครัว... เหมือนเคยเธอมองผมเหมือนคนแปลกหน้า

                    “จองชินล่ะ?”

                    “คงอยู่ข้างบนน่ะครับ คุณย่ากินข้าวเย็นรึยัง? ให้ผมทำอะไรให้กินนะครับ”

                    คุณย่าไม่ตอบ แต่ยังนั่งจ้องรูปของคุณพ่ออยู่อย่างเคย... ผมเปิดตู้เย็นเตรียมทำกับข้าวเหมือนทุกวันแล้วคุณย่าก็พูดขึ้น

                    “ปีนึงแล้วสินะ... ตั้งแต่ที่ลูกชายฉันจากไป...”

                    ผมได้แต่เงียบฟังคุณย่าพูดต่อ “จองชินเขาคงคิดถึงพ่อนะ... เขาคงเสียใจมาก”

                    ผมเองก็คิดถึงแม่เหมือนกัน คิดถึงคุณพ่อด้วย... ถ้าหากว่าพ่อกับแม่ยังอยู่ทุกอย่างมันอาจจะไม่เป็นแบบนี้ ถึงแม้ในตอนแรกๆจองชินจะไม่ยอมรับผมกับแม่ก็ตาม แต่ผมเชื่อว่าถ้าหากพวกเขาไม่ด่วนจากไปซะก่อน จองชินคงไม่ปฏิเสธผมถึงขนาดนี้ รวมทั้งคุณย่าคงไม่ลืมว่าผมเองก็เป็นหลานของท่านคนนึงเหมือนกัน...

                    “คุณย่าครับ... ผมทำกับข้าวทิ้งไว้ให้นะครับ เดี๋ยวสองทุ่มผมจะออกไปทำงานแล้ว อย่าลืมกินข้าวแล้วก็ทานยาด้วยนะครับ” ผมย้ำกับคุณย่าก่อนจะหยิบขวดยาวางไว้บนโต๊ะ

                    “ไปเถอะพ่อหนุ่ม” คุณย่าพูดกับผมทั้งๆที่ยังนั่งเหม่อเหมือนเดิม

                    ผมเดินออกจากห้องครัวแล้ววิ่งขึ้นชั้นบนไปเคาะประตูห้องของจองชิน

                    “จองชินอา พี่จะไปทำงานแล้วนะ ฝากดูแลย่าด้วย ข้าวเย็นพี่ทำไว้ให้แล้วนะ... แล้วก็ อย่าออกไปมีเรื่องอีกล่ะ”

                    ...ความเงียบคือคำตอบเหมือนทุกที อันที่จริงแล้วผมกับจองชินไม่เคยทะเลาะกันเลย แต่ผมว่ามันคงจะดีกว่าถ้าเราทะเลาะกันแล้วเคลียร์กันให้จบๆไปซะ แต่จองชินไม่เคยเรียกผมว่าพี่ แทบจะไม่เคยพูดหรือมองหน้ากัน และถึงแม้เราจะอยู่บ้านเดียวกันแต่จองชินก็แทบจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับผมเลยแม้แต่เรื่องเงิน แทนที่จองชินจะรับเงินจากผม แต่เขากลับออกไปหางานพิเศษทำ ผมไม่เคยรู้ว่าเขาทำงานอะไร แต่มันคงไม่ดีเท่าไหร่ บางครั้งเขาก็กลับมาบ้านพร้อมรอยฟกช้ำเต็มไปหมด เหมือนอย่างเมื่อวาน...

                    ผมหยิบกีตาร์ที่เป็นของดูต่างหน้าของแม่แล้วเดินออกจากบ้านไป

                    งานที่ผมทำคือเป็นนักร้องในบาร์ครับ รุ่นพี่ที่เคยเล่นดนตรีด้วยกันกับผมเป็นหุ้นส่วนของบาร์แห่งหนึ่ง ถึงจะพูดว่าบาร์แต่ที่นี่ก็ดูดีกว่าที่อื่นๆมากครับ ถ้าจะให้พูดจริงๆมันเหมือนร้านอาหารที่เสิร์ฟคอกเทลมากกว่า เพราะบรรยากาศที่นี่ดูไฮโซมากๆ แล้วลูกค้าส่วนมากก็มีแต่นักธุรกิจหรือไม่ก็ดาราทั้งนั้น เพราะงั้นนอกจากจะได้ค่าจ้างเยอะพอดูแล้วผมยังได้ทิปอีก ดีสุดๆเลยล่ะครับ

                    “อ้าว ยงฮวา มาแล้วเหรอ”

                    “สวัสดีครับพี่อีทึก”

                    “นี่ วันนี้นายมีสเปเชี่ยลเกสท์ด้วยนะ”

                    “เห? ผมไม่เห็นรู้เลย”

                    “เซอร์ไพรส์น่ะ เด็กๆพวกนี้รุ่นน้องพี่แนะนำมา พวกเธอเพิ่งโชว์เต้นจบไปก่อนนายจะมาเมื่อกี้เอง แล้วถ้าเป็นไปได้พี่ก็อยากให้นายร่วมโชว์กับพวกเธอหน่อยน่ะ พอดีมือกีตาร์ที่นัดไว้เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย” พี่อีทึกโอบไหล่ผมพาเข้าไปหลังร้าน ผมได้ยินเสียงคุยจ้อกแจ้กของผู้หญิงดังขึ้นมา แล้วก่อนที่ผมจะทันได้ถามอะไรพี่อีทึกก็ผลักประตูเข้าไปแล้ว

                    “สวัสดีค่ะ” เสียงสาวๆทักทายขึ้นมาพร้อมกัน ให้ตายเถอะ! พวกเธอสวยมากๆ สวยกันทุกคนเลยครับ!

                    “อ้าว! ทำไมเหลือแค่นี้ล่ะ =__=” พี่อีทึกถามขึ้นมา

                    “อ๋อ พวกทีมเต้นไปนั่งรอดูหน้าเวทีน่ะค่ะ” ผู้หญิงคนที่ตัวเล็กที่สุดพูดขึ้นมา พี่อีทึกพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจก่อนจะหันมาแนะนำตัวผม

                    “นี่นักร้องประจำร้านพี่ ชื่อยงฮวา ยงฮวา... นี่แทยอน ซันนี่ เจสสิก้า ทิฟฟานี่ แล้วก็ซอฮยอนรู้จักกันไว้นะ...”

                    ซอฮยอน... ซอฮยอนเหรอ?

                    “รุ่นพี่ยงฮวา...?”

                   

     

                    “ขอโทษครับสาวๆ ให้ผมเลี้ยงค็อกเทลพวกคุณได้ไหมครับ?” ผู้ชายหน้าตาไม่ดีแต่ท่าทางชีกอคนหนึ่งเดินเข้ามาหาพวกเราแต่สายตากลับมองที่ยุนอาเป็นพิเศษ

                    “ขอโทษครับ ^^ เด็กๆพวกนี้เป็นนักแสดงของผม ผมดูแลพวกเธอได้ครับ”

                    พี่อีทึกที่โผล่มาจากไหนไม่รู้เข้ามารับหน้าพอดี เล่นเอาหมอนั่นหลบฉากไปแทบไม่ทัน

                    “พี่ทึกกี้ ขอดื่มหน่อยไม่ได้เหรอ?” ฮโยยอนหันไปออดอ้อน

                    “อยากให้พี่โดนจับรึไง -*- พวกเธอนี่” แล้วพวกเราก็หัวเราะกันใหญ่

                    “แล้วนี่พวกทีมร้องได้เจอนักดนตรีรึยังคะ?” ฉันถามขึ้นมา วันนี้การแสดงของพวกเราแบ่งเป็นสองทีม ฉัน ยูริ ยุนอาและฮโยยอนอยู่ในทีมเต้นคอนเซปต์เซ็กซี่ในชุดสีดำ ส่วนแทยอน สิก้า ฟานี่ ซันนี่และซอฮยอนอยู่ในทีมร้องกับเพลงอคูสติกหวานๆ แย่หน่อยที่มือกีตาร์ขาประจำของเราอย่างพี่จองโมเกิดเมาค้างมาเล่นให้ไม่ได้ เพราะงั้นพี่อีทึกก็เลยเสนอให้ทีมร้องไปร้องแจมกับมือกีตาร์ประจำร้านแทนค่ะ

                    “เสียดายจัง พวกพี่แทยอนอุตส่าห์ซ้อมมา” ยุนอาบ่น

                    “นักดนตรีพี่เก่งนะ รับรองว่าเล่นเพลงที่พวกเธอเตรียมมาได้แน่ๆ”

                    “หวังว่านะคะพี่ =__=

                    “รอดูเอาแล้วกัน” พี่อีทึกตอบฉันพร้อมๆกับที่แสงไฟบนเวทีดับลง แล้วเสียงปรบมือก็ดังขึ้น

                    แสงไฟค่อยๆเฟดกลับมาอีกที แล้วสาวๆทั้งห้าคนของเราก็นั่งประจำที่พร้อมกับชุดสีขาว น่ารักเหมือนนางฟ้าเลยล่ะค่ะ >_<! แล้วทำนองกีตาร์หวานๆก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงคุ้นๆของใครบางคน

                    จองยงฮวา!

                    ซวยล่ะสิ! ฉันรีบมุดเข้าไปใต้โต๊ะทันที... ไอ้เตี้ยนั่นคงยังไม่เห็นฉันหรอกใช่ไหม T_T

                    “พี่! เป็นอะไรอ่ะ” ยุนอามุดลงมาถามฉันใต้โต๊ะ

                    “ไอ้มือกีตาร์นั่นน่ะ... เพื่อนพี่เอง T__T แย่แล้วยุนอา พี่ต้องรีบกลับแล้วอ่ะ!

                    “เฮ้ย ถ้าเป็นเพื่อนเธอแล้วซอฮยอนล่ะ?” ยูริมุดลงมาถามอีกคน

                    “หมอนั่นรู้จักซอฮยอนเหมือนกัน แต่ไม่สนิทเท่าไหร่ แล้วหมอนั่นก็ไม่รู้ด้วยว่าฉันสนิทกับซอฮยอน เธอคิดว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นล่ะถ้าเขาเห็นฉันอยู่ในสภาพนี้!

                    “ก็ความแตกน่ะสิ!” ฮโยยอนพูดขึ้น

                    “งั้นเธอกลับไปก่อนเลยดีกว่า เดี๋ยวเรื่องซอฮยอนพวกเราจัดการเอง”

                    “T__T ฝากด้วยนะยูริ”

                    ว่าแล้วฉันก็มุดออกจากใต้โต๊ะแล้วหยิบกระเป๋าถือมาบังหน้า ยงฮวากำลังจดจ่ออยู่กับการเล่นกีตาร์ซะจนไม่ได้มองมาทางคนดูเลย อา... ขอโทษนะสาวๆ ฉันอยากฟังพวกเธอร้องเพลงแต่มันช่วยไม่ได้จริงๆ

     

     

                    รุ่นพี่จองยงฮวา ตายแล้ว! นี่ฉันกับพี่ซูยองจะทำยังไงดีเนี่ย!

                    “เอ่อ... เธอร้องเพลงเพราะมากเลยนะซอฮยอน” พี่เขาพูดกับฉันขณะที่พวกเราเดินลงมาจากเวทีการแสดง

                    “รุ่นพี่ก็เล่นกีตาร์เก่งมากเหมือนกันค่ะ”

                    “ไม่ต้องเรียกรุ่นพี่หรอก เรียกพี่ยงฮวาเฉยๆก็พอแล้ว ^^

                    “เอ่อ...ค่ะ...พี่...ยงฮวา” ฉันรู้สึกตัวเองหน้าแดงไปถึงใบหู ทำยังไงดีล่ะ พี่ๆในคลับก็จ้องฉันอยู่ด้วย

                    “ว่าแต่ ทำไมเธอถึงได้มาร้องเพลงที่นี่ล่ะ?”

                    “เอ่อ... คือ พวกเรามาทำงานพิเศษน่ะค่ะ” พี่ฟานี่พูดขึ้นมา

                    “ใช่ค่ะ พวกเรามาทำงานพิเศษ” พี่แทยอนเสริม แล้วพวกเราทุกคนก็พยักหน้าหงึกหงัก

                    “อ๋อ แล้วพวกคุณไปรู้จักกันที่ไหนเหรอครับ?”

                    “พวกเรา... พวกเราร้องเพลงประสานเสียงที่โบสถ์ด้วยกันน่ะค่ะ เนอะซอฮยอน” พี่ซันนี่ตอบแทน

                    “มิน่าล่ะเสียงดีกันทุกคนเลย ^^

                    “ขอบคุณนะคะ” พี่เจสสิก้าตอบแล้วพวกเราก็สบตากันอย่างลุกลี้ลุกลน

                    “เอ่อ นี่ก็ดึกมากแล้ว เรากลับกันดีกว่าไหมซอฮยอน? เนอะ?” พี่แทยอนรีบหาทางหนีทีไล่

                    “ให้ผมไปส่งไหมครับ?”

                    “ไม่เป็นไรค่ะ ไม่เป็นไร เรากลับกันเองได้ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ สวัสดีค่ะ” พี่ทิฟฟานี่กดหัวฉันให้โค้งคำนับลงแล้วพวกพี่ๆก็กึ่งลากกึ่งจูงฉันออกมานอกร้านทันที

                    “พี่คะ! เดี๋ยวก่อนค่ะ แล้วพวกพี่ยูริ...”

                    “พวกนั้นรีบชิ่งกลับไปรอเราที่ฐานทัพแล้วล่ะ” พี่ซันนี่ตอบ

                    “แต่เรายังไม่ได้ลาพี่อีทึก...”

                    “เดี๋ยวพี่ค่อยโทรคุยกับพี่ทึกกี้เอง” พี่เจสสิก้าปิดประเด็นก่อนจะผลักฉันเข้าไปในรถของพี่ซันนี่แล้วปิดประตูตามหลัง ลุงคนขับรถของพี่ซันนี่ก็รู้หน้าที่สุดๆเลยค่ะ รีบเหยียบคันเร่งมุ่งหน้าไปฐานทัพของเอฟคลับทันที

                    เฮ้อ~ เกือบไปแล้วนะซอฮยอน T__T

     

     

                    ผมเดินออกมาจากร้านหลังบอกลาพี่ทึกกี้... ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะได้เจอซอฮยอน เธอสวยมากๆเลยล่ะครับ สวยเหมือนนางฟ้า แล้วก็เสียงหวานเหมือนน้ำผึ้งเลย

                    ให้ตายเถอะ ทำไมผมถึงได้เอาแต่คิดถึงซอฮยอนกันนะ? จะว่าไปแล้วผมโทรไปเล่าให้ยัยโย่งฟังดีกว่า

                    ว่าแล้วผมก็หยิบมือถือขึ้นมาแต่ยังไม่ทันที่จะได้กดเบอร์ ใครคนหนึ่งก็เซมากระแทกผมจนโทรศัพท์หลุดมือไป

                    “เฮ้! นายเดินดูตาม้าตาเรือหน่อยสิ!” ขอโทษครับ คุณต่างหากที่เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ -*- ผมก้มลงเก็บมือถือก่อนจะหันไปมองหน้าไอ้ขี้เมาที่เดินชนผม

                    อีจุน!

                    “จุนคะ อย่าไปหาเรื่องเค้าสิ” ผู้หญิงอีกคนที่เมาพอๆกันเดินมาประคองเขาก่อนจะส่งยิ้มหวานเชื่อมให้ผม ถึงเธอจะแต่งหน้าจัดแถมยังแต่งตัวเปรี้ยวอย่างกับผู้หญิงที่ทำงานในบาร์ แต่ผมจำได้แน่ๆ ผู้หญิงคนนี้คือฮอกายูน เพื่อนร่วมห้องของผมเอง!

                    “ข...ขอโทษครับ” ด้วยความตกใจผมเลยเผลอพูดขอโทษพวกเค้าไปก่อนจะรีบก้มหน้าก้มตาเดินจากมา เหมือนพวกเค้าจะจำไม่ได้ว่าเป็นผม ให้ตาย! ผมไม่อยากจะเชื่อเลย

                    ...สงสัยเรื่องที่ซูยองพูดคงจะเป็นเรื่องจริงซะแล้ว...

     

     

                    “ว่าไงนะ!” ฉันโพล่งออกมาหลังจากที่ได้ฟังเรื่องที่ยงฮวาเล่า

                    “ชู่ว! อย่าเสียงดังสิเธอ!” ยงฮวาเอามือมาปิดปากฉันไว้ เพราะซึงอานั่งอยู่ใกล้ๆด้วย

                    “ไม่ได้! ฉันต้องไปเตือนซึงอา”

                    “เธอจะบ้ารึเปล่า? คิดเหรอว่าซึงอาจะเชื่อเธอ ดีไม่ดีจะทะเลาะกันเปล่าๆ”

                    “แล้วจะทำยังไงล่ะ ซึงอาเป็นเพื่อนฉันนะ ฉันไม่ยอมให้หมอนั่นมาสวมเขาเพื่อนฉันหรอก!

                    “แต่ถ้าเธอบุ่มบ่ามแบบนี้แล้วทะเลาะกับซึงอาเข้ามันจะไม่ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่เหรอ?” เออแฮะ ที่มันพูดก็มีเหตุผล ในที่สุดฉันก็ได้แต่ถอนหายใจแล้วนั่งลงเหมือนเดิม

                    “บางทีฉันอาจจะต้องหาหลักฐานอะไรบางอย่างว่าอีจุนนอกใจเพื่อนฉันจริงๆ”

                    “อืม...” ยงฮวาพยักหน้า แต่ยังไม่ทันที่เราจะได้พูดอะไรกันต่อ ซอฮยอนก็เดินเข้ามาพร้อมกับจินอุน เธอชะงักไปนิดหนึ่งเมื่อเห็นยงฮวา โอ๊ะ! ใช่สิ เรื่องเมื่อวาน...

                    “ซอฮยอนมานี่ซิ” ฉันลากตัวซอฮยอนออกไปข้างนอกด้วยกัน เธอดูงงๆนิดหน่อย

                    “เมื่อวานเป็นไงบ้าง” หลังจากที่ฉันชิ่งออกมาจากร้านได้ฉันก็รีบเผ่นแน่บกลับบ้านเลยค่ะ

                    “อ๋อ พวกพี่ๆช่วยกันพูดให้น่ะค่ะ พี่ยงฮวาไม่รู้เรื่องที่พี่ไปกับพวกเราหรอก”

                    “เฮ้อ~ โล่งอกไปที”

                    “ค่ะ แต่ก็เกือบแย่เหมือนกัน ไม่น่าเชื่อว่าเราจะบังเอิญเจอพี่ยงฮวา” อืม...เอ๊ะ เดี๋ยวสิ...

                    “จะว่าไป เธอเรียกยงฮวาว่า พี่ยงฮวาแทน รุ่นพี่ตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ?”

                    “อ๊ะ... พี่เค้าให้ฉันเรียกแบบนั้นน่ะค่ะ”

                    หืม? หรือว่าไอ้เตี้ยนี่จะชอบซอฮยอนด้วยเหมือนกัน =__= แบบนี้ก็เกิดศึกพี่น้องน่ะสิ

                    “ซอฮยอน!” เสียงเรียกชื่อซอฮยอนดังขึ้นมาจากข้างหลัง ฉันหันกลับไปมองแล้วก็เห็นคีย์ เพื่อนในกลุ่มของซอฮยอนโบกมืออย่างร่าเริงก่อนจะวิ่งเข้ามาแล้วคำนับฉัน

                    “สวัสดีครับรุ่นพี่ซูยอง ^^

                    “เอ่อ หวัดดีจ้ะ” ฉันตอบกลับไป แต่สายตากำลังมองผู้หญิงคนหนึ่งที่เดินมากับเพื่อนของซอฮยอน

                    “คีย์! วันนี้เธอมีแข่งใช่ไหม? เดี๋ยวฉันกับจินอุนจะไปเชียร์นะ”

                    “อื้อ! ห้ามเบี้ยวนะ... อ้อ แล้วก็นานะฝากมาบอกว่าให้จองที่ไว้ให้ด้วย เสร็จจากซ้อมชมรมเชียร์แล้วยัยนั่นจะตามไป”

                    “อ๊ะ งั้นจองที่เผื่อพี่ด้วยสิ พี่กับนานะคงจะไปพร้อมกันน่ะ” ฉันหันไปพูดกับซอฮยอนแต่สายตายังคงมองผู้หญิงคนนั้นอยู่

                    “ถ้างั้น ผมไปก่อนนะครับ ^^ ไปกันเถอะพี่กายูน” คีย์หันไปพูดกับผู้หญิงคนนั้นแล้วเดินจากไป

                    “นี่... ซอฮยอนคนนั้นใครเหรอ? ที่มากับคีย์น่ะ”

                    “รุ่นพี่ฮอกายูนน่ะค่ะ รู้สึกว่าเค้าจะเรียนห้องเดียวกับพี่ยงฮวานะคะ เป็นรุ่นพี่ในชมรมเคนโด้ของคีย์ค่ะ” ซอฮยอนตอบกลับมาในขณะที่ฉันมองฮอกายูนเดินไปจนลับสายตา

                    ใช่... ผู้หญิงคนนี้แหละที่จูบกับอีจุนเมื่อวาน!

     

     

                    “รอนานไหม?” จูฮยอนหันมาถามผมพร้อมกับรอยยิ้ม มีจินอุนเดินตามเข้ามา

                    “ไม่หรอก” ผมตอบก่อนที่ซอฮยอนจะนั่งลงข้างผม แล้วจินอุนก็เดินอ้อมมานั่งข้างๆอีกฝั่ง

                    “ยังไม่เริ่มแข่งใช่ไหมเนี่ย?” จินอุนถามแล้วผมก็ส่ายหน้า พวกเรามองลงไปที่สนามแข่งแล้วก็เห็นคีย์กำลังง่วนอยู่กับบรรดาโค้ชรุ่นพี่และเพื่อนในทีม แต่ถึงอย่างนั้นพอสบโอกาสเขาก็หันมายิ้มแล้วโบกมือให้พวกเราก่อนจะหันไปง่วนกับชุดและดาบในมือต่อ

                    “ยู้ฮู~ ซอฮยอนนี่!” เสียงดังแปดสิบหลอดแบบนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากนานะ เธออยู่ในชุดเชียร์ลีดเดอร์สีแดงสด แถมยังมีพู่อยู่ในมือด้วย เล่นเอาหนุ่มๆทุกคนมองกันตาเป็นมัน... เพราะต้องคอยตามเป็นบอดี้การ์ดให้ยัยนี่แหละน้า ผมถึงได้มีเรื่องกับคนเค้าไปทั่ว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่านานะสวยจริงๆครับ

                    “คีย์สู้ๆ คีย์สู้ตาย! ถ้านายแพ้ฉันฆ่านายทิ้งแน่ไอ้เตี้ย!” นานะตะโกนลงไปหาคีย์ที่ทำท่าเหมือนจะเขวี้ยงดาบขึ้นมาแสกหน้า เล่นเอาคนรอบๆหัวเราะกันครืน

                    “นี่ๆ ฉันพารุ่นพี่ในชมรมมาด้วยสองคนน่ะ นั่งด้วยกันได้ไหม?”

                    “ได้สิ” จูฮยอนตอบ แล้วสองสาวในชุดเชียร์ลีดเดอร์ที่เดินตามนานะมาก็ส่งยิ้มทักทายพวกเรา

                    “นี่พี่ซูยอง นี่พี่ซึงอา ซอฮยอนกับจินอุนคงรู้จักแล้วแหละ ส่วนคนนี้จองชิน เพื่อนสนิทฉันเองค่ะ”

                    “สวัสดีครับ” ผมก้มหัวลงทักทายรุ่นพี่ คนสูงๆผมสั้นๆที่ชื่อซูยองคงเป็นเพื่อนสนิทของยงฮวา เพราะผมจำได้ว่าเธออยู่กับเขาบ่อยๆ แล้วบางครั้งก็เห็นเธอมาคุยกับนานะและจูฮยอนที่ห้องเรียนด้วย

                    “ขอโทษครับขอผมนั่งด้วยคนได้ไหม?”

                    “อ๊ะ พี่ยงฮวา” จูฮยอนทักขึ้นมา

                    “ขอโทษนะพี่ชวนมาเองแหละ” พี่ซูยองส่งยิ้มให้พวกเรา ผมกับจองยงฮวาสบตากันแล้วผมก็เมินหน้าหนีไปทางอื่น

                    “มานี่มายงฮวา” แล้วพี่ซูยองก็ลากเขาไปนั่งสุดปลายแถว... คงจะรู้เหมือนกันสินะว่าเราสองคนไม่ถูกกัน

                    “ไม่เป็นไรนะจองชิน?” จูฮยอนหันมามองผม ตากลมๆของเธอแสดงความเป็นห่วง เท่านี้ผมก็ยิ้มออกแล้ว

                    “อื้ม ไม่เป็นไรหรอก”

                    “ว่าแต่... แมทช์แรก ใครกับใครกันล่ะ?” นานะถามขึ้นมา

                    การแข่งครั้งนี้เรียกได้ว่าเป็นการแข่งคัดตัวนักกีฬาที่จะไปแข่งต่อระดับโรงเรียนครับ เพราะงั้นจริงๆมันก็ไม่ได้วัดกันที่ผลแพ้ชนะซักเท่าไหร่ สำหรับแมทช์ครั้งนี้แบ่งออกเป็นฝั่ง ม.ต้นและ ม.ปลาย ซึ่งจะส่งตัวแทนชายหญิงมาอย่างละสี่คน สรุปว่ามีทั้งหมดแปดคู่ด้วยกัน

                    “แมทช์แรกเป็นของผู้หญิงจ้ะ ฝ่าย ม.ต้นคือปาร์คจียอน ฝ่าย ม.ปลายคือฮอกายูน”

                    จูฮยอนตอบคำถามของนานะ

                    “แล้วของคีย์ล่ะ?” คราวนี้จินอุนที่นั่งข้างผมเป็นคนถาม

                    “คู่ที่สอง แข่งกับรุ่นพี่อีจุนจ้ะ”

                    “โอ๊ะ... ตัวเต็งเลยนี่นา” นานะพูดขึ้นมาก่อนจะหันไปยิ้มให้กับพี่ซึงอา “งั้นฉันจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย แฟนของพี่ซึงอามาแข่งกับเพื่อนฉันซะแล้ว”

                    “ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ เชียร์ไปตามสบายเถอะ ^^ พี่ว่าคีย์อาจจะชนะนะ ดูเหมือนวันนี้พี่จุนไม่ค่อยพร้อมแข่งเท่าไหร่”

                    “เฮอะ! แน่อยู่แล้วสิ เพราะเมื่อวาน...”

                    “ซูยอง!” จู่ๆยงฮวาก็ยกมือขึ้นปิดปากพี่ซูยอง แล้วสองคนนั้นก็หันไปกระซิบกระซาบอะไรบางอย่าง จะว่าไปก็ดูเค้าสนิทกันดีแฮะ หรือว่าจะเป็นแฟนกันนะ?

                    “เค้าดูสนิทกันจังเนอะ” ผมได้ยินเสียงจูฮยอนเปรยขึ้นมา สายตาของเธอกำลังมองไปทางคนสองคนที่หยอกล้อกันอยู่... และผมเห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น... นั่นก็คือความเจ็บปวด...

                    ...ผลการแข่งสองคู่ผ่านไป คีย์เอาชนะรุ่นพี่อีจุนได้อย่างเหนือความคาดหมาย เพื่อนๆของผมส่งเสียงเชียร์ลั่น แต่ผมกลับไม่รู้สึกอะไรเลยสักนิด

                    เพราะตอนนี้ในใจผมมีแต่ความเจ็บปวดที่รู้ว่าหัวใจของซอจูฮยอนมีแต่จองยงฮวา...

     

     

                    “ฝีมือนายดีขึ้นเยอะเลยนะคิบอม”

                    “ไม่หรอกครับ ผมเองก็เกือบจะแย่แล้ว คงไม่ชนะพี่หรอกถ้าพี่ไม่ได้ป่วยอยู่แบบนี้”

                    “ฮะๆ ไม่หรอก นายเก่งขึ้นจริงๆ”

                    “ขอบคุณครับ ผมไปก่อนนะครับเพื่อนๆรออยู่”

                    ฉันรอจนคีย์ออกไปจากห้องพักนักกีฬา หมอนั่น อีจุนดูท่าทางหัวเสียเอาการ... คงไม่คิดว่าจะต้องมาแพ้เด็ก ม.ต้นล่ะสิ

                    “เมาค้างแบบนั้นจะไปแข่งไหวได้ยังไง จริงมั้ยคะ? รุ่นพี่อีจุน”

                    “ชเวซูยอง เธอหมายความว่ายังไง?” เขาหันกลับมามองฉันด้วยสายตาหาเรื่องสุดๆ

                    “ก็หมายความตามที่พูดนั่นแหละ เมื่อวานนายไปไหน ทำอะไรก็รู้อยู่แก่ใจดี”

                    “เธอต้องการอะไรกันแน่” หมอนั่นยืนขึ้นแล้วก้าวเข้ามาในขณะที่ฉันเริ่มก้าวถอยหลังไป... ชักไม่ดีแล้วแฮะ รู้งี้เอายงฮวามาด้วยดีกว่า

                    “นั่นน่ะฉันต้องถามนายต่างหาก... คบเพื่อนฉันกับผู้หญิงคนอื่นพร้อมๆกัน หัวใจนายมันทำด้วยอะไร? ซึงอารักนายมากขนาดไหน?”

                    “หุบปากไปเลยนะ ยัย--

                    “พี่จุน พี่จุนอยู่รึเปล่าคะ?” เสียงของซึงอาดังขึ้นมาถูกจังหวะพอดี อีจุนถอยห่างไปจากฉันทำหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

                    “อ้าว ทำไมซูยองถึงมาอยู่นี่ล่ะ?” ซึงอาหันมาเห็นฉันก่อนจะเลิกคิ้วด้วยความสงสัย ซวยแล้วสิ! ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ตอบอะไร ใครคนหนึ่งก็โผล่เข้ามาซะก่อน

                    “เห็นมั้ย ยัยโย่ง ฉันบอกแล้วว่าเธอมาไม่ทันคิมคิบอมหรอก เขาออกไปหาพวกจินอุนข้างนอกโน่นแล้ว”

                    จองยงฮวา T_T นายมันพระเอกขี่ม้าขาวจริงๆ ให้ตายเหอะ!

                    “แล้วทำไมไม่รอมาพร้อมกันล่ะ?” ซึงอาก็ยังคงสงสัยอยู่

                    “ก...ก็...แหม มันพูดยากนะซึงอา จะให้ยัยโย่งนี่มาแสดงความยินดีกับคนที่เพิ่งชนะรุ่นพี่อีจุนต่อหน้าเธอเหรอ ฉันบอกให้ยัยนี่แอบมาก่อนเองแหละ ใช่ไหม? ซูยอง”

                    “อ่ะ...ใช่”

                    โอ๊ย T__T จองยงฮวา! ฉันรักนายโคตรๆ!

                    “งั้น... ฉันไม่กวนพวกเธอแล้วนะ ขอตัวนะครับรุ่นพี่จุน ไปนะซึงอา” ยงฮวาพูดก่อนจะเดินเข้ามาลากฉันให้ออกไปจากห้อง

                    “ทำบ้าอะไรของเธอหา! รู้มั้ยว่าอยู่กับอีจุนสองต่อสองแบบนั้นมันอันตรายแค่ไหน! นี่ถ้าเกิดฉันไม่ได้ตามมาแล้วหมอนั่นทำร้ายเธอหรือซึงอาเกิดเข้าใจผิดว่าเธอเป็นมือที่สามจะทำยังไง?”

                    “ขอโทษ T__T ฉันใจร้อนไปหน่อย”

                    “รู้ตัวก็ดี -*-

                    “พวกพี่หายไปไหนกันมาคะ นึกว่าหลงกันซะแล้ว” นานะทักขึ้นมาหลังจากที่เรากลับมารวมกลุ่มอีกครั้ง

                    “ไปเข้าห้องน้ำน่ะ” ฉันตอบพลางกระทืบเท้ายงฮวา

                    “โอ๊ย! เออ ใช่...”

                    “คืนนี้ฉันกับคีย์จะไปฉลองกันนะ >_< ใครจะไปบ้าง?” นานะตะโกนขึ้นมาอย่างร่าเริง

                    “ถามทำไม =__= เธอก็รู้ว่าปกติแล้วก็มีแค่เราสองคนกับจองชินเท่านั้นแหละ” คีย์เอาดาบเขกหัวนานะเบาๆ

                    “ขอบาย เย็นนี้ฉันจะไปส่งซอฮยอน” จองชินพูดขึ้นมาก่อนจะหันมาสบตายงฮวา... เอ๊ะ เดี๋ยวก่อนสิบรรยากาศนี้มันแปลกๆนะ =_=

                    “งั้นพวกพี่ขอตัวก่อนแล้วกัน” ยงฮวาพูดขึ้นมาแต่ดูเหมือนจะพูดกับจองชินซะมากกว่า โอ๊ย! ให้มันได้ยังงี้สิ เมื่อไหร่พี่น้องคู่นี้จะเลิกมึนใส่กันซะทีเนี่ย!

                   

     

                    เฮ้อ~ ยัยโย่งเพื่อนผมนี่ช่างหาเรื่องจริงๆเลยครับ ดูสิ นี่ก็เพิ่งลากผมไปบ่นเรื่องอีจุนมาอีกยกนึง ถ้ายัยนี่ไม่ยุงเรื่องชาวบ้านเค้าซักวันมันจะตายมั้ยเนี่ย -*-

                    นี่ก็เย็นขนาดนี้แล้วผมคงต้องรีบกลับบ้านไปหาคุณย่า วันนี้โชคดีนิดหน่อยที่ผมไม่ต้องทำงาน แต่ยังไงก็เถอะผมก็เถลไถลไปไหนกับเขาไม่ได้อยู่ดี... แต่จองชินออกไปเที่ยวกับเพื่อนบ่อยๆนี่นะ... แต่มันก็เป็นเรื่องดีอยู่แล้วล่ะ เขาเพิ่งจะอยู่ ม.ต้น ไม่ควรจะต้องมานั่งรับผิดชอบกับอะไรในเวลานี้ ขอแค่ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขก็พอ

                    ผมเดินไปทางห้องสภานักเรียนเพื่อไปเอากระเป๋านักเรียนที่ทิ้งไว้ที่นั่น แต่พอเปิดประตูเข้าไปผมกลับเจอใครบางคนที่ไม่คิดจะเจออยู่ในนั้น

                    “ซอฮยอน?”

                    “พี่ยงฮวา อ๊ะ โอ๊ย!

                    เพราะเธอเหมือนกำลังมุดหาอะไรบางอย่างอยู่ พอผมทักขึ้นมาก็เลยหัวกระแทกกับโต๊ะเข้าอย่างจัง ผมรีบเข้าไปดูเธอ หน้าผากขาวๆเป็นรอยแดงขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

                    “เจ็บจังเลย” เธอเบะปากเหมือนเด็กๆจนผมอดขำไม่ได้ “ขำอะไรกันคะ พี่ใจร้ายจัง ฉันเจ็บอยู่นะ T_T

                    “ขอโทษนะ ไม่ขำแล้วก็ได้” ผมยิ้มให้เธอก่อนจะแตะหน้าผากเธอเบาๆ เธอสะดุ้งก่อนจะส่งเสียงร้องออกมา มันเริ่มปูดแล้วแฮะ

                    “พี่ว่าประคบน้ำแข็งดีกว่านะ มานั่งนี่ก่อน อยู่เฉยๆล่ะ” ผมจูงเธอให้ลุกขึ้นมานั่งบนเก้าอี้ โชคดีที่ห้องสภานักเรียนของเรามีตู้เย็น ผมเลยไม่ต้องไปวิ่งหาน้ำแข็งที่ไหน ผมดึงผ้าเช็ดหน้าออกจากกระเป๋าเสื้อของตัวเองก่อนจะหยิบน้ำแข็งออกมาแล้วห่อมันไว้ในผ้าเช็ดหน้า ก่อนจะเอาไปประคบหน้าผากของซอฮยอน

                    “ขอบคุณนะคะ” เธอพูดออกมา ดวงตากลมโตของเธอจ้องมาที่ผม แล้วผมก็รู้สึกเหมือนหัวใจเต้นประหลาดๆ จู่ๆภาพของเธอในชุดสีขาวที่เจอกันเมื่อวานก็ผุดขึ้นมาในหัวสมองซะดื้อๆ

                    นี่ผมเป็นบ้าอะไรขึ้นมาเนี่ย! ผมเพิ่งรู้จักเธอได้แค่สามสี่วันเท่านั้นเองนะ!

                    ~ติ๊ด ตี๊ ดี่ดิด ติ๊ด ติ๊ด~

                    “โอ๊ะ ขอโทษค่ะ” ซอฮยอนกดรับโทรศัพท์

                    จูฮยอน เธอหาของเจอรึยัง?

                    เสียงของคนที่ดังมาในโทรศัพท์คือเสียงของจองชิน ผมไม่ได้ตั้งใจจะฟังพวกเขาแอบคุยกันนะครับ แต่เป็นเพราะผมอยู่ใกล้ซอฮยอนมากมันก็เลยเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้

                    “อ๊ะ ยังเลยจ้ะ ทำไมเหรอ?”

                    “เปล่า เห็นเธอหายไปนานน่ะ แล้วก็คีย์โทรมาบอกว่านานะมีเรื่องอีกแล้ว -__-

                    “จริงเหรอ? งั้นเธอรีบไปเถอะ”

                    “เธอจะไม่เป็นไรนะ? กลับบ้านได้นะ?”

                    “ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ เดี๋ยวฉันโทรเรียกรถที่บ้านมารับก็ได้ ระวังตัวด้วยนะจองชิน”

                    “อื้ม ไว้เจอกันพรุ่งนี้”

                    จองชินกดตัดสายไปแล้ว เหมือนซอฮยอนจะเพิ่งรู้ตัวว่าผมกับจองชินไม่ถูกกัน เธอถึงได้มีสีหน้ารู้สึกผิด

                    “ขอโทษนะคะ...” เธอพูดออกมา

                    “ขอโทษทำไมกันล่ะ เธอไม่ได้ทำอะไรผิดซักหน่อย” ผมยิ้มให้เธอ แต่ในใจกลับรู้สึกเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก แล้วเราต่างคนก็ได้แต่เงียบกันไปพักหนึ่ง

                    “จองชินสนิทกับเธอมากเลยสินะ” จู่ๆผมก็พูดขึ้นมา

                    “ค่ะ... พวกเราเรียนห้องเดียวกันมาสองปีแล้ว” เธอตอบเรียบๆตามสไตล์

                    “วันนี้เขาจะไปมีเรื่องเหรอ?”

                    “เอ่อ... อันที่จริง จองชินไม่ใช่คนแบบนั้นนะคะ จริงๆเขาเป็นคนใจดีมาก เขาดีกับฉันมากค่ะ ที่เขาไปมีเรื่องก็เพราะว่าบางทีนานะกับคีย์ใจร้อนไปหน่อย เขาไม่มีทางทำร้ายใครก่อนแน่นอนค่ะ” ซอฮยอนดูท่าทางร้อนใจมากจนผมอดขำเธอไม่ได้

                    “พี่รู้ว่าจองชินเป็นคนยังไง เธอไม่เห็นต้องตกใจขนาดนั้นเลย”

                    “ขอโทษค่ะ... ฉัน...เอ่อ... ฉันเห็นพี่กับจองชินไม่ค่อยถูกกัน ฉันไม่อยากให้พี่เข้าใจจองชินในทางที่ผิดน่ะค่ะ”

                    “อืม... เธอเป็นห่วงเขามากเลยสินะ”

                    “ค่ะ...” ซอฮยอนตอบเรียบๆ เธอเป็นคนซื่อๆตรงไปตรงมาแบบนี้เองสินะ แต่นั่นแหละที่ทำให้เธอดูน่ารัก ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมจองชินถึงได้ชอบ

                    “จองชินเคยบอกรึเปล่าว่าทำไมเขาถึงไม่ชอบพี่”

                    “นานะกับจินอุนพยายามจะถามค่ะ แต่ว่า...”

                    “เขาก็เงียบใช่ไหมล่ะ?” ซอฮยอนพยักหน้าตอบคำถามของผม “เขาเป็นแบบนี้แหละ เป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูง แต่ถ้าหากเขารักใคร เขาก็จะดูแลคนๆนั้นดีมากเลยล่ะ” ผมพูดก่อนจะหันมามองซอฮยอน ท่าทางเธอคงจะไม่รู้ตัวสักนิดว่าผมกำลังหมายถึงเธอ

                    “ว่าแต่เธอมาหาอะไรเหรอ?”

                    “อ๊ะ เกือบลืมไปเลยค่ะ ฉันลืมโน๊ตเปียโนไว้น่ะค่ะ” เธอพูดขึ้นมาก่อนจะก้มลงไปหยิบสมุดโน๊ตเปียโนที่อยู่ใต้โต๊ะ

                    “เล่นเปียโนเป็นด้วยเหรอ?” ผมถามเธอ

                    “ค่ะ”

                    “แล้วอยากลองเล่นกีตาร์ดูบ้างไหม?”

     

     

                    ผ่านไปอาทิตย์นึงแล้ว...

                    ความสัมพันธ์ระหว่างซึงอากับจุนยังคงดำเนินต่อไป แต่หมอนั่นเริ่มออกลายมากขึ้น สองสามวันหลังๆมานี่เขาเบี้ยวนัดซึงอาตลอด ไม่รับโทรศัพท์เธอ บางทีก็ทำท่ารีบร้อนเหมือนไม่อยากจะเจอหน้า เฮอะ... เพราะฮอกายูนน่ะสิ แต่ฉันรู้ว่าหมอนั่นไม่กลัวคำขู่ของฉันเลยสักนิด แย่จริงๆ! ต้องทำยังไงนะไอ้ผู้ชายเห่ยๆพรรค์นี้ถึงจะออกไปจากชีวิตของเพื่อนฉันได้ -*-

                    “ซูยอง ยัยโย่งนี่เธอฟังอยู่รึเปล่า?” ยงฮวาแทบจะพูดกรอกหูฉันอยู่แล้วค่ะ หมอนั่นกำลังสาธยายเรื่องของซอฮยอน พักนี้สองคนนั้นชอบมาเล่นกีตาร์ด้วยกันที่ห้องสภานักเรียนบ่อยๆ งานการไม่เป็นอันทำกันแล้วล่ะ

                    “อย่ามายุ่งได้ไหมไอ้เตี้ย คนกำลังใช้ความคิดอยู่”

                    “คิดอะไร วางแผนให้คู่รักแตกคอกันล่ะสิ”

                    “คู่รง คู่รักที่ไหน! ฉันไม่ยอมรับไอ้หมอนั่นเป็นแฟนเพื่อนฉันหรอก -*-

                    “เรื่องแบบนี้เธอน่าจะปล่อยให้ซึงอารู้ด้วยตัวเองนะ เราทำได้แต่คอยปลอบใจเท่านั้นแหละ” ยงฮวาพูด แหม... ถึงมันจะจริงก็เถอะ แต่ฉันทำใจไม่ได้หรอก เพื่อนฉันทั้งคนเลยนะ!

                    “ไม่รู้ล่ะ ยังไงฉันก็จะบอกซึงอาให้ได้” ฉันลุกขึ้นตบโต๊ะดังปังก่อนจะเดินออกจากห้องสภานักเรียนสวนกับจินอุนและซอฮยอนที่เพิ่งเดินเข้ามา แต่ตอนนี้ฉันไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ฉันมุ่งหน้าไปทางห้องพักนักกีฬาของชมรมเคนโด้ ซึงอาต้องไปเจอกับจุนที่นั่นแน่ๆ

                    ฉันเดินลงจากอาคารแล้ววิ่งเข้าไปในโรงยิม มุ่งหน้าตรงไปทางห้องพักที่อยู่ด้านใน... นั่นไงซึงอาอยู่จริงๆด้วย แต่เธอนั่งอยู่คนเดียวที่ม้านั่ง เธอเงยหน้าขึ้นมองฉันก่อนที่น้ำตาจะค่อยๆไหลลงมา

                    “เขาไม่อยู่อีกแล้วซูยอง...” เสียงสั่นเครือของเธอทำให้ฉันรู้สึกเจ็บปวดหัวใจไปด้วย “เขาไม่รอฉัน แล้วก็ไม่รับโทรศัพท์ด้วย...”

                    ฉันเดินเข้าไปกอดซึงอาเอาไว้ แล้วลูบหลังเธอเบาๆ

                    “ให้มันจบเถอะ อีจุนไม่ใช่คนดีขนาดนั้นนะซึงอา เขาไม่ได้ซื่อสัตย์กับเธอหรอก”

                    “ไม่นะ” ซึงอาผลักฉันออก “ทำไมเธอพูดแบบนี้ล่ะ ซูยอง ทำไมเธอถึงได้อยากให้เราสองคนเลิกกันนัก เลิกอคติกับพี่จุนซักทีได้ไหม?”

                    “ใช่! ฉันอยากให้พวกเธอสองคนเลิกกัน ดีกว่าที่จะมาเห็นเธอโดนหมอนั่นสวมเขาให้อยู่แบบนี้! ตาสว่างซักทีซึงอา อีจุนกำลังจะทิ้งเธอนะ!

                    “เลิกยุให้ฉันกับซึงอาเลิกกันซักทีเถอะชเวซูยอง”

                    จู่ๆ อีจุนก็ปรากฏตัวขึ้นมา ซึงอาดูเหมือนจะยิ้มได้ทันทีที่เห็นหน้าหมอนั่น

                    “พี่จุน...”

                    “ซึงอา พี่ต้องขอโทษจริงๆนะ แต่ในเมื่อมันมาถึงขั้นนี้แล้ว พี่ก็คงต้องพูดกับเธอตรงๆ”

                    “พูดเรื่องอะไรกันคะ?” หมอนี่คิดจะทำอะไรกันแน่... ฉันชักรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีซะแล้วสิ

                    “ที่พี่หลบหน้าเธอไปพักหลังนี้ บอกตรงๆเลยว่าเพราะซูยองทำให้พี่อึดอัด เธอมาขู่พี่...เหมือนอย่างที่พูดกับเธอ หาว่าพี่นอกใจ แต่พี่รักซึงอาคนเดียว และเพราะพี่รู้ว่าซูยองเป็นเพื่อนสนิทของเธอ พี่ถึงได้ไม่อยากให้มันเป็นเรื่องเป็นราว”

                    “หึ... เล่นละครเก่งมากนะอีจุน” ฉันลุกขึ้นยืน “ซึงอา อย่าโดนหมอนี่หลอกนะ เลิกกับเขาเถอะ”

                    “...ฉันไม่คิดเลยนะว่าเธอจะเป็นคนแบบนี้ ชเวซูยอง” ซึงอาพูดขึ้นมา ฉันแทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง “ฉันไว้ใจเธอมาตลอด ฉันแคร์เธอ คิดว่าเธอเป็นเพื่อน แต่เธอกลับเกลียดพี่จุนอย่างไม่มีเหตุผล เธอกลับพยายามทำลายความรักของเรา”

                    “ซึงอา... เดี๋ยวก่อนสิ ฟังฉันก่อน”

                    “เราไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกันอีกแล้ว” ซึงอาพูดอย่างเย็นชา “ตั้งแต่นี้ต่อไปเธอไม่ใช่เพื่อนฉันอีก พอกันที ชเวซูยอง”

                    แล้วโอซึงอา เพื่อนรักของฉันก็หันหลังจากไปพร้อมกับรอยยิ้มเยาะของอีจุน...

                    หันหลังก้าวออกจากชีวิตของฉันไปโดยไม่คิดแม้แต่จะหันกลับมามามอง...

     

     

                    “คอร์ด F กดแบบนี้นะ”

                    “ยังงี้เหรอคะ?” ฉันลองกดสายกีตาร์ตามที่พี่ยงฮวาบอกก่อนจะลองดีดดู อ่า... เสียงมันบอดแฮะ = =

                    “ไหนมานี่ซิ” พี่ยงฮวาดึงกีตาร์ไปแล้วลองดีดคอร์ด F ทำไมทีแบบนี้ล่ะเสียงใสเชียว เมื่อไหร่ฉันจะเล่นได้อย่างนี้บ้างนะ T^T

                    “ค่อยๆเล่นไปนะ อย่าเพิ่งรีบร้อน พี่ว่าเท่าที่สอนมาเธอหัวไวมากเลยล่ะ ^^

                    “ข...ขอบคุณค่ะ” อีกแล้ว... รอยยิ้มอบอุ่นของพี่เค้าทำให้หัวใจฉันเต้นแรงอีกแล้ว

                    ~ ตี๊ด ตี่ ดี ตี๊ด ดี่ ดี ดี~

                    “โอ๊ะ ขอโทษทีนะ” พี่ยงฮวาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาก่อนจะกดรับสาย “ว่าไงยัยโย่ง” สงสัยเป็นพี่ซูยองแน่ๆเลย แล้วจู่ๆท่าทางของพี่ยงฮวาก็เปลี่ยนไปกลายเป็นดูร้อนใจขึ้นมา พี่เค้าลุกออกจากเก้าอี้ แล้วถามอะไรสองสามอย่างที่ฉันไม่ทันได้ฟังก่อนจะวางสายไป

                    “ซอฮยอนขอโทษนะ เดี๋ยวพี่กลับมา รอแปบนึงได้ไหม?”

                    “เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ?”

                    “ไม่มีอะไรหรอก เดี๋ยวพี่มา” พี่ยงฮวาที่ดูรีบร้อนตอบฉันก่อนจะวิ่งออกจากห้องไป เอ... หรือว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพี่ซูยองกันนะ? เมื่อกี้เดินสวนกันอยู่ก็ยังไม่เห็นมีอะไรนี่นา...

                    ว่าแต่...ไหนๆก็ต้องรอพี่ยงฮวากลับมา ฉันลองหัดจับคอร์ดต่อดีกว่า~

                    ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ทำอะไรต่อ ประตูห้องสภานักเรียนก็เปิดขึ้นอีกครั้ง แต่คนที่เข้ามากลับเป็นรุ่นพี่โอซึงอา เพื่อนสนิทของพี่ซูยองกับรุ่นพี่อีจุน

                    “สวัสดีค่ะรุ่นพี่” ฉันโค้งทักทาย

                    “ตามสบายเถอะจ้ะซอฮยอน พี่แค่มาเอาของ” พี่ซึงอาดูสีหน้าไม่ดีเลย เหมือนกำลังจะร้องไห้ยังไงก็ไม่รู้ อ่า... ฉันควรจะถามดีมั้ยนะ?

                    “นี่ ซึงอา พี่ว่าไหนๆแล้วเธอก็ลาออกไปซะเลยดีกว่า คนที่นี่คงโดนชเวซูยองปั่นหัวให้เกลียดพี่ไปหมดแล้วล่ะ” รุ่นพี่อีจุนพูดขึ้นมา... เมื่อกี้นี้พี่เขาพูดถึงพี่ซูยองใช่ไหมนะ?

                    “พอเถอะค่ะ เลิกพูดชื่อคนๆนั้นซักที ฉันไม่อยากจะได้ยินเรื่องของชเวซูยองอีกต่อไปแล้ว” พี่ซึงอาหยิบกระเป๋ากับหนังสือที่วางทิ้งไว้ก่อนจะหมุนตัวเดินกลับออกไปโดยมีพี่อีจุนตามหลังไปติดๆ เดี๋ยวก่อนสิ นี่มันหมายความว่าพี่ซึงอาเพิ่งทะเลาะกับพี่ซูยองมางั้นเหรอ?... พี่ซูยองถึงจะเห็นห้าวๆแบบนั้นแต่ที่จริงแล้วพี่เค้าเป็นคนอ่อนไหวกับเรื่องมิตรภาพมากๆเลยล่ะค่ะ ฉันชักเป็นห่วงแล้วสิ ทางที่ดีไปดูหน่อยดีกว่า...

                    ว่าแต่... พี่เค้าจะอยู่ที่ไหนกันนะ? พี่ซึงอากับพี่อีจุนเพิ่งเข้ามาตะกี้ พี่อีจุนถือดาบไม้ไผ่อยู่อาจจะมาจากทางชมรมเคนโด้ล่ะมั้ง? ฉันไปหาพี่เค้าที่นั่นดีกว่า...

                    ฉันกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปตามอาคารเรียนที่ว่างเปล่าก่อนจะออกจากตึกเรียนแล้วมุ่งหน้าไปทางโรงยิม เหมือนจะเห็นพี่ยงฮวาเดินหายเข้าไปทางนั้น... ต้องใช่แน่ๆ ฉันเร่งฝีเท้าขึ้นอีกจนในที่สุดก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าห้องพักนักกีฬาของชมรมเคนโด้...

                    ฉันได้แต่แอบมองอยู่ตรงทางเข้า พี่ยงฮวากำลังยืนอยู่ส่วนพี่ซูยองนั่งก้มหน้าอยู่บนม้านั่ง แล้วพี่ยงฮวาก็เดินเข้าไป เขากอดพี่ซูยองเอาไว้ก่อนจะลูบผมเธอเบาๆ

                    “ร้องไห้ออกมาเถอะ ฉันจะอยู่ข้างๆเธอเอง...”

                    แล้วเสียงสะอื้นก็ค่อยๆดังขึ้น...

                    ที่น่าแปลกคือไม่ใช่แค่น้ำตาของพี่ซูยอง แต่น้ำตาของฉันก็ไหลลงมาอย่างไม่รู้ตัวเหมือนกัน...

     To be continue...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×