คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Profile No.2 : ฮโยยอน
Seungyeon KARA Sunwha Secre Go Younha (Yunna)
Noeul (Rainbow) HyunA 4Minute Sulli f(x)
Profile No.2 : ฮโยยอน
ตำแหน่งในคลับ : สมาชิกคลับ
อายุ : 17 ปี (ม.ปลาย ปี 2)
โรงเรียน : ร.ร.สตรีโซฮวา
ความสามารถ : ภาษาจีน, การเต้น
“ชักตื่นเต้นแล้วสิ!” ซึงยอนหันมาหาฉัน แล้วเริ่มเดินไปเดินมาอยู่หลังเวที
“ใจเย็นๆน่า เราซ้อมมาดีแล้ว ต้องทำได้แน่” ฉันพยายามปลอบเธอ คนอื่นในทีมกำลังซ้อมเต้นอยู่ไม่ไกล
“ทีมวีนัสพร้อมนะคะ” สตาฟฟ์หลังเวทีหันมาบอกเรา ฉันพยักหน้ารับ แล้วก็เรียกทุกคนในทีมของเรามารวมกัน
“ฮโยยอนทำไงดี... ฉันทำไม่ได้แน่เลย” ซึงยอนเริ่มหน้าซีด ฉันยิ้มแล้วก็กอดคอเธอ
“เรามาทำวีนัสไฟท์ติ้งกันเถอะ”
“อื้อ”
“หนึ่ง...สอง...สาม! วีนัส ไฟท์ติ้ง!!!”
เสียงดนตรีดังขึ้นเป็นจังหวะ... ทำนองเดิมๆที่เราคุ้นเคย พวกเราทั้งห้าคนก้าวเข้าไปประจำบล็อกกิ้ง ก่อนที่ม่านจะถูกปลดลง...
ฉันหันไปเผชิญหน้ากับคนดูแล้วร่างกายก็ขยับไปตามทำนองโดยอัตโนมัติ ป้ายเชียร์ของหนุ่มๆถูกโบกไปมาอย่างบ้าคลั่ง กว่าครึ่งในนั้นเป็นชื่อของฮันซึงยอน... ฮันซึงยอน คนที่กำลังเต้นอยู่ข้างๆฉันคนนี้
ฉันกับซึงยอนเป็นเพื่อนสนิทกันมาแปดปีแล้วค่ะ เราสองคนเรียนด้วยกันมาตั้งแต่ประถม ไม่รู้เพราะอะไรฉันกับซึงยอนถึงได้คบกันมานานขนาดนี้ทั้งๆที่เราต่างกันสุดขั้ว ซึงยอนเป็นคนน่ารัก คุยเก่ง เปิดเผย ในขณะที่ฉันเงียบขรึมและไม่ชอบคุยกับคนแปลกหน้า ซึงยอนเก่งไปซะทุกอย่างไม่ว่าจะเรื่องการเรียน ร้องเพลง การเต้น ส่วนฉันนอกจากอย่างหลังแล้วก็ไม่มีอะไรดีเลย...
แม้แต่ตอนที่ซันนี่ชวนเข้าเอฟคลับ ฉันยังคิดอยู่ว่าน่าจะเป็นซึงยอนมากกว่าฉัน...
“ฮันซึงยอน! ฮันซึงยอน!” เสียงแฟนคลับตะโกนก้องหลังจากที่การแสดงจบลง ฉันกับรุ่นพี่อีกคนและซึงยอนร่วมกันก่อตั้งชมรมเต้นขึ้นมาตั้งแต่เราอยู่ม.ต้นปีสอง ชมรมของเรานานๆทีก็ไปออดิชั่นกันบ้าง แต่งานที่ไม่เคยพลาดเลยก็คือการแสดงประจำปีของโรงเรียนสตรีโซฮวา ซึ่งก็คือโรงเรียนของเรานั่นแหละค่ะ วันนี้เป็นวันพิเศษที่โรงเรียนจะเปิดนิทรรศการให้คนภายนอกเข้าชมได้ ดังนั้นบรรดาแฟนคลับหนุ่มทั้งหลายของเราก็เลยมาให้กำลังใจกันพร้อมหน้า ฉันกับซึงยอนโบกมือทักทายหนุ่มๆสิบกว่าคนที่เป็นแฟนคลับของวีนัส แล้วพวกเราก็เดินลงเวทีไป
“อ๋า เหนื่อยชะมัดเลย” ซอลลี่ น้องเล็กในวงของเรานั่งแปะลงกับพื้นทันที
“ฮโยยอน เราไปหาอะไรกินกันเถอะ!” โนอึล สมาชิกอีกคนของเราพูดขึ้นมาแล้วก็วิ่งไปลากมือฮยอนอากับซอลลี่ให้ลุกขึ้นยืน
“อืม ดีเหมือนกัน... วันนี้เพื่อนฉันเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นด้วยล่ะ” ซันนี่เพิ่งบอกฉันเมื่อวานเองแหละค่ะว่าเธอจะจัดร้านอาหารญี่ปุ่นกับเพื่อนๆในห้อง ถึงฉันกับซันนี่จะอยู่ปีเดียวกันแต่เราสองคนก็อยู่คนละห้องค่ะ
“อื้ม ^^ ดีเลย ไปกันเถอะ!” ซึงยอนพยักหน้ารับพร้อมกับยิ้มกว้าง แล้วพวกเราก็อพยพไปร้านอาหารของซันนี่กัน....
“อ๋า!!! ทำไมไม่มีใครมาตามฉันเลยล่ะ -*-” ซันนี่วีนขึ้นมาหลังจากที่เห็นหน้าพวกเราเดินเข้ามาในร้าน “ฉันเป็นแฟนคลับวีไอพีของพวกเธอนะ!”
“งั้นแฟนคลับวีไอพีเลี้ยงข้าวเราซักมื้อสิ” ฉันพูดขึ้นมา เท่านั้นแหละซันนี่เดินไปหยิบเมนูโยนโครมลงบนโต๊ะทันที เล่นเอาพวกเราขำกันไม่หยุด แต่ถึงอย่างนั้นก็มีอาหารที่เราไม่ได้สั่งยกออกมาให้ก่อน แล้วเจ้าของร้านอาหารญี่ปุ่นในชุดยูคาตะสุดน่ารักก็เดินเข้ามานั่งร่วมวงกับเราด้วยแบบไม่ต้องให้เชิญ
“กินเยอะๆนะคะ ไม่ต้องเกรงใจ ^^” ซันนี่รินน้ำชาให้พวกเราอย่างรู้หน้าที่
“อ๊ะ! พี่ฮโยยอน” เสียงทักดังขึ้นจากข้างหลัง ฉันหันกลับไปแล้วก็เห็นยุนอาเดินออกมาจากในครัว พร้อมกับเพื่อนสนิทของเธอฮันซอนฮวา ทั้งคู่ใส่ชุดยูคาตะแถมยังยิ้มกว้าง น่ารักจังเลย~
“มาทำอะไรที่นี่ล่ะเนี่ย?”
“วันนี้ฉันให้ยุนอากับซอนฮวามาช่วยเป็นพนักงานในร้านให้น่ะ” ซันนี่หัวเราะคิกคักแล้วเดินไปจูงทั้งคู่ให้มานั่งด้วยกัน
“...มิน่าหนุ่มๆเต็มร้านไปหมด” ฮยอนอาพูดขึ้นมา
“พวกเราไปทำงานก่อนนะคะ” สองสาวโค้งคำนับให้พวกเราอย่างล้อเลียนก่อนจะลุกไปรับออร์เดอร์ ส่วนซันนี่ก็เดินไปรับลูกค้า ทิ้งให้พวกเราห้าคนนั่งรออยู่ที่โต๊ะ
“พี่คะ พี่รู้จักพี่ยุนอากับพี่ซอนฮวาด้วยเหรอ?” เจ้าน้องเล็กมินจิถามขึ้นมา
“ก็รู้จักกันนิดหน่อยน่ะ...” ฉันตอบเลี่ยงๆ ฉัน ยุนอา และซันนี่อยู่โรงเรียนเดียวกันค่ะ แต่ตามปกติแล้วฉันจะแทบไม่ได้คุยกับยุนอาเลย เพราะว่ายุนอาน่ะป๊อปมากๆในโรงเรียน ก็เธอเป็นเน็ตไอดอลชื่อดังนี่คะส่วนซอนฮวาก็เป็นเพื่อนสนิทกับยุนอามาตั้งแต่ก่อนเข้าเอฟคลับ เธอนิสัยดี หน้าตาก็น่ารัก ถึงจะไม่ค่อยได้มีโอกาสคุยกันมากแต่ฉันก็ชอบเธอนะคะ
“ฉันได้ยินข่าวมานะว่าพี่ยุนอาเป็นหนึ่งในสมาชิกเอฟคลับ” โนอึลพูดขึ้นมา ฉันแทบจะสำลักน้ำชา ซึงยอนที่นั่งข้างๆหันมามองแบบงงๆ
“ฉันก็ไม่รู้อะไรเยอะขนาดนั้นหรอก” ฉันตอบ พอดีกับที่ซันนี่ยกชามราเม็งเข้ามาให้พอดี
“นี่ฉันบอกแม่ครัวให้ทำพิเศษทุกจานเลยนะ ถือเป็นของขวัญในฐานะที่ฉันเป็นแฟนคลับวีไอพีไง ^^”
“รุ่นพี่น่ารักที่สุดเลยค่ะ >_<” น้องๆสองคนประสานเสียงก่อนจะลงมือโซ้ยราเม็ง ในขณะที่โนอึลได้แต่ขำ
ฉันหันไปยิ้มกับซึงยอนก่อนจะลงมือจัดการกับราเมงของตัวเองบ้าง แต่จู่ๆเสียงโทรศัพท์ของซึงยอนก็ดังขึ้นซะก่อน
“ฮัลโหล” เธอรับโทรศัพท์ตามปกติ แต่สองสามวิต่อมาซึงยอนก็เบิกตากว้าง “จริงเหรอคะ!”
ทุกคนบนโต๊ะเราหันมามองซึงยอนเป็นตาเดียวกัน รวมทั้งฉันด้วย
“ค่ะ จะไปเดี๋ยวนี้แหละ” ซึงยอนวางสายก่อนจะหันมาหาพวกเรา “ขอโทษด้วยนะ ฉันต้องรีบไปก่อนแล้ว มีธุระด่วน เจอกันพรุ่งนี้นะ”
ว่าแล้วซึงยอนก็รีบเก็บข้าวของ กึ่งเดินกึ่งวิ่งออกจากร้านไป ฉันได้แต่มองแผ่นหลังของเธอที่ห่างออกไปเรื่อยๆ...
ทำไมฉันถึงได้รู้สึกใจหายแบบนี้นะ...
“อรุณสวัสดิ์”
ฉันหันหลังกลับไปพร้อมกับรอยยิ้มกว้างและแผ่นโปสเตอร์ในมือ
“แต่น แต๊น! เทศกาลออดิชั่นเริ่มต้นขึ้นแล้วจ้า! ซึงยอน เดือนหน้าเราไปสมัครกันนะ”
“เห? เดือนหน้า เร็วขนาดนั้นเลยเหรอ?” ซึงยอนทำตาโตแล้ววางกระเป๋าลงบนโต๊ะตัวข้างหน้าฉัน
“อื้ม เราต้องรีบซ้อมกันแล้วล่ะ”
“อ่า... ฉันคง...”
“อาจารย์มาแล้ว!” หัวหน้าห้องตะโกน แล้วความวุ่นวายก็บังเกิด ฉันรีบกระโจนกลับไปทางโต๊ะของตัวเองที่อยู่หลังซึงยอน อาจารย์สุดเฮี้ยบเดินเข้ามาแล้ว
“ไว้คุยต่อตอนเย็นแล้วกันนะ”
ไม่รู้ว่าซึงยอนได้ยินที่ฉันกระซิบหรือเปล่า แต่เธอนิ่งเฉย...
“เห? กลับไปแล้วเหรอ?” ฉันหันไปถามฮยอนอาที่พยักหน้าหงึกๆคู่กับซอลลิ
“ค่ะ พี่เค้าแวะมาบอกแล้วก็ออกไปเลย” ซอลลิเสริม
“สงสัยคงมีธุระด่วนมั้ง” ฉันตอบไปแบบนั้นก่อนจะเดินไปเปิดเพลง... จริงๆวันนี้เป็นวันที่สามแล้วที่ซึงยอนไม่มาซ้อม สองวันแรกซึงยอนเป็นคนบอกฉันด้วยตัวเองว่ามาไม่ได้ แต่วันนี้... เราสองคนยังแทบไม่ได้พูดกันเลยด้วยซ้ำ...
“ฉันนึกว่าซึงยอนบอกเธอแล้วซะอีก” โนอึลหันมาถาม
“อา พอดีตอนเย็นวันนี้แยกกันเรียนน่ะ ฉันเรียนจีน ส่วนซึงยอนเรียนภาษาญี่ปุ่น” ฉันเริ่มต้นวอร์มร่างกายทั้งๆที่รู้สึไม่สบายใจเอาซะเลย พักนี้ดูซึงยอนไม่ค่อยสนใจเรื่องการเต้นเท่าไหร่ เหมือนมีความลับอะไรบางอย่าง ทั้งๆที่เราสองคนไม่เคยมีเรื่องปิดบังกันแท้ๆ
“เอาล่ะ เลิกคุยกันได้แล้ว วันนี้เราจะขึ้นเพลงใหม่กัน” ฉันพยายามรวบรวมสมาธิให้อยู่กับการเต้น สมาชิกอีกสามคนเข้าประจำบล็อกกิ้งแล้ว... แต่พื้นที่ซ้ายมือข้างๆตัวฉันยังคงว่างอยู่...
ซึงยอน... เธอเป็นอะไรไปนะ
“คิมฮโยยอน!” ฉันกระโดดเขาไปเกาะไหล่แม่สาวนักเต้นคนเก่งแห่งเอฟคลับและแน่นอน... ของโรงเรียนเราด้วย
“ว่าไงซันนี่” ฮโยยอนตอบกลับมาแบบเนือยๆ เอ...แบบนี้ต้องมีอะไรซักอย่างแหงๆ
“ทำไมวันนี้กลับคนเดียวล่ะ ซึงยอนไปไหน?”
“ไม่รู้เหมือนกัน” เธอตอบห้วนๆ ดูท่าทางเหมือนไม่อยากพูดเรื่องนี้ต่อ เอ้า! ไม่พูดก็ไม่พูดสิ
“วันนี้ฉันขอไม่เข้าคลับนะ เหนื่อย”
ฉันพยักหน้ารับ รู้สึกไม่ค่อยสบายใจเลยแฮะที่ฮโยยอนเป็นแบบนี้ ปกติแล้วฮโยยอนเป็นคนไม่ค่อยเปิดใจกับใครเท่าไหร่ แม้แต่คนในเอฟคลับด้วยกันเองฮโยยอนก็ยังไม่ค่อยจะปรึกษา พวกเราก็ได้แต่อยู่ห่างๆอย่างห่วงๆเท่านั้นแหละ
จู่ๆฮโยยอนก็หยุดเดิน
“อ้าว ซึงยอนนี่” ฉันอ้าปากกำลังจะเรียก แต่ฮโยยอนกลับดึงมือเอาไว้ซะก่อน นั่นน่ะฮันซึงยอนแน่ๆ แต่เธอไม่ได้มาคนเดียว เด็กสาวอายุรุ่นราวคราวเดียวกับพวกเราอีกคนเดินตามซึงยอนมา ทั้งคู่คุยกันสนุกสนาน แล้วซึงยอนก็ชี้มือไปทางโปสเตอร์แผ่นหนึ่ง เด็กสาวที่มาด้วยกันดึงโปสเตอร์นั่นออกมาแล้วพับใส่กระเป๋า ทั้งคู่คุยอะไรกันบางอย่างที่ฉันจับความไม่ได้ แต่ถ้าให้เดา ดูเหมือนว่าพวกเธอจะตกลงอะไรบางอย่างร่วมกัน
ฉันหันไปมองหน้าฮโยยอน... ความเจ็บปวดที่บอกไม่ถูกปรากฏอยู่บนใบหน้าเธอ
“โปสเตอร์นั่น” ฮโยยอนค่อยๆพูดออกมา “...ประกาศรับสมัครออดิชั่น ที่ฉันเคยชวนซึงยอนไป...”
“เหรอ ซึงยอนท่าทางสนใจนี่ คงรอไปสมัครกับเธอล่ะมั้ง”
“ฉันเพิ่งโดนปฏิเสธไปเมื่อวาน”
“ฉันชื่อโกยูนา เพิ่งมาจากประเทศญี่ปุ่น ฝากตัวด้วยนะคะ”
เด็กสาวผมสั้นดวงตากลมโต ใส่ชุดเครื่องแบบของโรงเรียนเรายืนอยู่หน้าชั้น
คนที่อยู่กับซึงยอนเมื่อวานนี้...
“ไปนั่งข้างฮันซึงยอนแล้วกันนะ ตรงนั้นว่างอยู่นี่” อาจารย์ประจำชั้นหันไปพูดกับเธอ ฉันเห็นซึงยอนยิ้มกว้าง แล้วยูนาก็รีบเดินมาทางนี้ เธอยิ้มด้วยเหมือนกัน...
“เอาล่ะ เปิดไปหน้า 273 วันนี้เราจะเริ่มกันที่--” เสียงของอาจารย์ดังทะลุโสตประสาทของฉันไป ข้างหน้าฉันยูนากับซึงยอนกำลังพูดคุยอย่างสนิทสนม... ทำไมกันนะ ซึงยอนไม่เห็นเคยบอกฉันเรื่องนี้มาก่อนเลย สองคนนี้ไปรู้จักกันที่ไหน รู้จักกันได้ยังไง ทำไมฉันต้องรู้สึกไม่ชอบหน้านักเรียนใหม่ขนาดนี้ด้วยนะ...
คาบเรียนผ่านไปอย่างเชื่องช้า จนในที่สุดก็ถึงเวลากิจกรรมชมรม ยูนาดูจะกำลังป๊อปปูลาร์ในหมู่เพื่อนๆ แน่ล่ะ เธอเพิ่งมาจากญี่ปุ่นแถมยังสนิทกับซึงยอนที่ฮอตมากๆ ถึงแม้จะดูนิ่งๆ ยิ้มยาก แต่เธอก็หน้าตาน่ารักทีเดียว ภายในเวลาไม่กี่นาทีระหว่างที่ฉันยัดหนังสือลงกระเป๋า ใครๆต่างก็วิ่งเข้ามารุมรอบโต๊ะเธอเต็มไปหมด เฮอะ!
ฉันแหวกกลุ่มเพื่อนๆออกไป แล้วเดินตรงไปทางห้องซ้อมเหมือนอย่างทุกที... ต่างกันตรงที่วันนี้ฉันไปคนเดียว...
“ฮโยยอน! ฮโยยอน เดี๋ยวสิ” เสียงเรียกของซึงยอนดังขึ้นตามมา ฉันหยุดเดินแล้วหันไปมองเธอ
“นี่ ฉันว่าจะแนะนำให้เธอรู้จัก--”
“โกยูนาใช่ไหม ฉันรู้จักแล้วล่ะ”
“อื้อ ยูนาอยู่บ้านติดกับฉันน่ะ เราเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็กๆ” ซึงยอนยิ้มอย่างร่าเริงแล้วจูงมือเพื่อนใหม่ให้เดินเข้ามาหา
“เธอคือคิมฮโยยอนใช่ไหม?” ยูนาถาม สีหน้าของเธอเรียบเฉย ดูเหมือนจะไม่ค่อยชอบฉันเท่าไหร่ “ซึงยอนเล่าให้ฟังบ่อยๆ”
“แต่ฉันไม่เคยได้ยินเรื่องเธอเลย” ฉันตอบกลับไปแล้วหันไปหาซึงยอน “วันนี้จะไปซ้อมเต้นรึเปล่า เราขึ้นเพลงใหม่แล้วนะ”
ซึงยอนดูมีท่าทางลังเล เธอหันไปสบตายูนา แต่กลับไม่กล้ามองหน้าฉันตรงๆ
“เอ่อ... ฉันคง ไปซ้อมเต้นไม่ได้ซักพักน่ะ...”
“ซึงยอนจะไปกับฉัน” ยูนาพูดแทรกขึ้นมา เหมือนเอาน้ำเย็นจัดสาดโครมใส่ฉันทั้งตัว ฉันได้แต่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น
“ไป...ไปไหนกัน” ฉันบังคับตัวเองให้ถามออกมาได้หลังจากนิ่งไปนาน
“ก็ไม่ใช่เรื่องอะไรของเธอนี่” ยูนายังคงเย็นชา นิ่งเฉย ฉันหันไปสบตาซึงยอนแต่เธอกลับไม่พูดอะไรซักคำ เพื่อนสนิทของฉันก้มหน้านิ่ง ไร้คำอธิบาย
“ขอโทษนะที่ยุ่งไม่เข้าเรื่อง แต่ซึงยอนเป็นคนในทีมของฉัน ฉันว่าฉันมีสิทธิ์ที่จะรู้”
“ฮโยยอน ไว้ฉันจะบอกเธอทีหลัง” ในที่สุดซึงยอนก็พูดขึ้นมา “ไปกันเถอะยูนา เดี๋ยวจะไม่มีเวลา” เธอคว้าข้อมือ ‘เพื่อนเก่า’ ขึ้นมาก่อนจะเดินเคียงคู่กันไปตามทางเดินที่ว่างเปล่า
ไม่...แม้แต่จะบอกลาฉันซักคำ...
“โกยูนา เอ...ชื่อนี้เหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อนนะคะ” ซอฮยอนพูดขึ้นมาก่อนจะเคาะนิ้วลงบนโต๊ะอย่างครุ่นคิด ในขณะที่ยุนอาเหลือบมองไปทางฮโยยอนที่นั่งเหม่อเป็นระยะๆ
“อ๊ะ! รู้แล้ว” ซอฮยอนตบโต๊ะจนพวกเราสามคสะดุ้ง ฮโยยอนหันมามองพวกเรา เลิกคิ้ว แล้วเดินออกไปเปิดวิทยุ วอร์มร่างกายพร้อมเต้น
“เบาๆหน่อยสิ! เดี๋ยวฮโยยอนก็รู้กันพอดี”
“ขอโทษค่ะพี่ซูยอง”
“ตกลงเค้าเป็นใครเหรอคะ” ยุนอาถามขึ้นมา
“ฉันเคยเจอเค้าที่งานแข่งขันเปียโนเยาวชนระดับโลกน่ะค่ะ เธอเป็นตัวเก็งของประเทศเรา ได้รองชนะเลิศเชียวนะคะ” มิน่าล่ะ ซอฮยอนถึงเคยรู้จัก เพราะว่าที่บ้านของซอฮยอนเป็นโรงเรียนสอนเล่นเปียโนค่ะ เห็นยังงี้ก็เถอะ น้องเล็กของเราน่ะเล่นเปียโนเก่งอย่าบอกใครเลยนะคะ
“แล้วเราจะทำยังไงกันดีล่ะ ถ้าปล่อยให้ผิดใจกับรุ่นพี่ซึงยอนต่อไปแบบนี้สงสัยพี่ฮโยยอนจะเฉาตายแน่ๆ” ยุนอาถอนหายใจออกมาก่อนจะเหลือบมองไปทางฮโยยอนด้วยความเป็นห่วง
“ฮึ้ย เอฟคลับซะอย่าง เราก็ต้องออกโรงไปช่วยฮโยยอนเคลียร์สิ ยุนอา เธอไปสืบเบอร์โทรของยัยนั่นมาซิ”
“พี่คะ มันไม่มากไปหน่อยเหรอ...” ยุนอาทำสีหน้าลำบากใจขณะที่ซอฮยอนก็เริ่มอึกอัก
“พี่ไม่ได้จะไปฆ่าเขาซะหน่อย แค่จะไปตีซี้ แบบว่าเนียนๆน่ะ ถ้าเค้ามีเพื่อนคุยก็อาจจะห่างๆจากซึงยอนไปเอง ฮโยยอนจะได้ไม่ถูกทิ้งอีกไงล่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นฉันจะช่วยเองค่ะ เราไปบอกว่าเป็นแฟนคลับของพี่เค้าก็น่าจะได้” คราวนี้ซอฮยอนเริ่มจะเห็นด้วย ฮึๆ มีแนวร่วมแล้วฉัน
“งั้นก็... ลงมือตามแผน”
ฉัน ซอฮยอน และยุนอายืนลับๆล่อๆอยู่หน้าโรงเรียนสอนเปียโนเล็กๆแห่งหนึ่ง โกยูนาเพิ่งแยกกับซึงยอนไปตะกี้ ถ้าจะมีช่วงไหนที่เหมาะที่สุดที่จะรุกเข้าไปล่ะก็... ต้องเป็นช่วงนี้แหละ!
“ไปเลยซอฮยอน”
“ทำไมพี่ไม่ออกไปก่อนล่ะคะ” ยุนอาดันหลังฉัน
“ไม่เอา เธอดีกว่ายุนอา อยู่โรงเรียนเดียวกันนี่เค้าคงคุ้นหน้าเธอ ลุยเลยน้องรัก” ว่าแล้วฉันก็ผลักยุนอาออกไป และด้วยโชคช่วยหรืออะไรยังไงไม่ทราบ ยุนอาก็ดันทะเร่อทะร่าไปชนกับเป้าหมายของเราพอดี
“ข... ขอโทษค่ะ” ยุนอารีบกระวีกระวาดเก็บโน๊ตเพลงในแฟ้มที่กระจัดกระจายรวบกลับมาเหมือนเดิม
“อย่าแตะนะ เธอทำโน๊ตของฉันปนกันไปหมดแล้ว” โกยูนาพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา เล่นเอาน้องรองของเราจ๋อยไปเลย ท่าทางจะอารมณ์ไม่ค่อยดีแฮะ ฉันว่าส่งสัญญาณถอยดีกว่า...
“พี่ชอบเล่นเพลงของโชแปงเหรอคะ?” ซอฮยอนที่เดินออกไปเมื่อไหร่ไม่รู้ ยื่นโน๊ตเพลงหน้าหนึ่งที่ก็บได้คืนให้กับเจ้าของที่มองกลับมาด้วยความประหลาดใจ แต่ซอฮยอนเพียงแค่ยิ้มรับก่อนจะพูดต่อ
“ฉันก็ชอบโชแปงเหมือนกันค่ะ แค่เห็นโน๊ตแว้บเดียวก็จำได้แล้ว”
“เธอ...”
“ฉันชื่อซอฮยอนค่ะ เป็นรุ่นน้องของพี่ยุนอา แล้วนี่ก็รุ่นพี่อีกคนของฉัน พี่ซูยองค่ะ” ว่าแล้วซอฮยอนก็ลากฉันออกมาจากเงามืด ฉันกับยุนอายืนประดักประเดิดครู่หนึ่งก่อนจะก้มหัวลงทักทาย
“พวกเธอ... ตามฉันมาทำไม” โกยูนาเอ่ยดักคอพวกเรา
“เอ่อ เรา... พอดีว่ายุนอาน่ะค่ะ เล่าเรื่องคุณให้ฟัง แล้วฉันกับซอฮยอนก็ชื่นชมฝีมือการเล่นเปียโนของคุณมากๆ ก็เลยอยากรู้จักน่ะค่ะ”
“คิมฮโยยอนสินะ”
จู่ๆยูนาก็พูดขึ้น จนพวกเราต่างก็สะดุ้งกันเป็นแถบ
“คิมฮโยยอนใช่ไหมที่ส่งพวกเธอมาหาฉัน ฉันรู้ว่าพวกเธอสนิทกับฮโยยอน พวกเธอต้องการอะไรกันแน่” ซอฮยอนกับยุนอารีบถอยกลับมาหลบหลังฉันทันที แหม หลบนี่ยังไม่ว่านะ แต่ยังเล่นดันฉันไปประจันหน้ากับยัยนี่ด้วยน่ะสิ
“ฮโยยอนไม่ได้ใช้ให้พวกเรามาหรอกนะ เอ้า! พูดตามตรงก็ได้... พวกเราแค่เป็นห่วงฮโยยอนเพราะเธอน่ะ ตั้งแต่เธอมาซึงยอนก็ทำตัวเหินห่างกับฮโยยอนไป ฉันรู้ว่าเธอสนิทกับซึงยอนมากๆ แต่อย่าแยกสองคนนั้นออกจากกันเลยนะ ฉันขอแค่นี้แหละ”
ฉันพูดทั้งหมดนั่นรวดเดียวจบ โกยูนามองหน้าฉันกะพริบตาปริบๆ แล้วจู่ๆเธอก็หัวเราะออกมา แต่เป็นเสียงหัวเราะที่เย็นชาฟังดูน่าขนลุกอย่างบอกไม่ถูก
“เรื่องอะไรฉันจะต้องทำตามที่เธอพูดล่ะ? ฮโยยอนมีเพื่อนอย่างพวกเธออยู่แล้ว จะมาแย่งซึงยอนไปจากฉันอีกได้ยังไง ฉันไม่ยอมหรอก ซึงยอนเป็นเพื่อนของฉันคนเดียวเท่านั้น”
ฉันรู้สึกว่าความโกรธพุ่งขึ้นมาจนหน้ามืดตาลาย แต่ก่อนที่จะทันได้ทำอะไรยุนอาก็ปล่อยแขนฉันแล้วก้าวออกไปข้างหน้า...
เพี๊ยะ!
ยูนาหน้าหันไปด้านหนึ่ง แก้มซ้ายปรากฏรอยแดงขึ้นมาในขณะที่สีหน้าของเธอดูตกใจเอามากๆ
“รุ่นพี่คะ ฉันว่าพี่เข้าใจความหมายของคำว่าเพื่อนผิดไปแล้ว” ยุนอาลดมือลง ก่อนจะสูดหายใจลึกแล้วพูดต่อ “เพื่อนไม่ใช่ของส่วนตัวของใครแค่คนเดียวนะคะ รุ่นพี่เห็นแก่ตัวจริงๆที่พยายามจะเก็บพี่ซึงยอนเอาไว้แบบนี้ ที่พี่ทำน่ะ ไม่เรียกว่าเพื่อนหรอกค่ะ”
ยูนานิ่งไปอย่างคาดไม่ถึงในขณะที่น้องรองของเราดูเหมือนจะฟิวส์ขาดไปเรียบร้อย
“ซอฮยอน พี่ซูยอง กลับกันเถอะ อย่าเสียเวลาอยู่ต่อเลย”
แล้วเราสามคนก็จากมา ทิ้งให้โกยูนา ยืนอยู่เพียงลำพัง...
“ฮโยยอน ทำไมเธอทำแบบนี้ล่ะ?”
ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองตามคำกล่าวหาของเพื่อนสนิทฉัน
“อะไรเหรอ?” สมาชิกในทีมเต้นวีนัสอีกสามคนหยุดวอร์มร่างกายแล้วหันกลับมามองพวกเรา
“เพื่อนของเธอไปทำร้ายยูนาเมื่อวานนี้ใช่ไหม?”
“อะไรน่ะซึงยอน ทำไมเธอพูดกับฮโยยอนแบบนี้” โนอึลเริ่มวีนขึ้นมา แต่ฉันส่งสายตาปรามให้เธอหยุด
“อิมยุนอา กับเพื่อนเธออีกสองคน ไปว่ายูนา แล้วก็ตบหน้าเธอด้วย”
ฉันเห็นโนอึลยิ้มเหยียดๆก่อนจะขยับปากพูดกับน้องอีกสองคนว่า ‘สมน้ำหน้า’
“ยุนอา... อีกสองคน... ซูยองกับซอฮยอนล่ะมั้ง?”
“เธอทำแบบนี้ทำไม ยูนาไม่ได้ทำอะไรให้เธอเลยนะฮโยยอน” ซึงยอนท่าทางร้อนใจแล้วก็ผิดหวังมาก แต่มันเทียบกันไม่ได้หรอกกับสิ่งที่ฉันรู้สึก...
“...นี่เป็นครั้งแรก... ที่เธอกลับมาเหยียบห้องซ้อมตั้งแต่โกยูนามา... แต่เธอไม่สนใจเลยด้วยซ้ำว่าการซ้อมจะเป็นยังไง”
“ฉัน...”
“ซึงยอน... ฉันไม่เคยผิดหวังในตัวเธอขนาดนี้มาก่อนเลย”
แล้วบรรยากาศเงียบชวนอึดอึดก็ก่อตัวขึ้นระหว่างพวกเรา ซอลลี่ดูตกใจในขณะที่ฮยอนอาทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ โนอึลดูท่าทางไม่สบายใจอย่างเห็นได้ชัด แต่ฉันกับซึงยอนยังคงนิ่ง
“นี่เป็นครั้งแรกเหมือนกัน... ที่เธอพูดสิ่งที่เธอคิดจริงๆกับฉัน” น้ำเสียงของเธอนิ่งสนิทเหมือนสีหน้า “เธอเก็บทุกอย่างไว้กับตัวตลอด ฉันไม่เคยรู้เลยว่านอกจากพวกเราแล้ว เธอมีเพื่อนกลุ่มอื่นอยู่ด้วย ไม่รู้แม้กระทั่งว่าเธอสนิทกับคนดังอย่างอิมยุนอามากขนาดที่จะขอให้เ
ธอไปทำร้ายใครให้ก็ได้”
นอกจากพวกเธอแล้วฉันก็มีแค่เอฟคลับ แต่ฉันบอกใครไม่ได้!
“มีอะไรอีกบ้างที่เธอปิดบังฉัน... แล้วถ้าเธอไม่ชอบยูนาทำไมถึงไม่บอกฉันตรงๆ เธอกลับไปทำแบบนี้... ทำร้ายเพื่อนของเรา”
“เพื่อน ของเธอ ไม่ใช่ ของเรา” ฉันแก้คำพูด
“ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับเธอต่อไปอีกแล้ว” ซึงยอนตอบกลับมา ก่อนจะกระแทกประตูกลับออกไป ทิ้งไว้แต่ความเงียบงันและบรรยากาศเย็นชาที่ยังคงเหลืออยู่ในห้องซ้อม...
...กับน้ำตาของฉัน
“เธอไม่ควรจะทำแบบนั้นนะ!” พี่เจสสิก้ากรี๊ดใส่หูโทรศัพท์พร้อมกับเสียงโหวกเหวกโวยวายของสาวๆเอฟคลับเป็นแบ็กกราวด์
“ซันนี่เล่าให้พี่ฟังหมดแล้ว ทำไมเธอใจร้อนแบบนั้นนะยุนอา ตอนนี้ซึงยอนกับฮโยยอนแทบจะตัดขาดกันอยู่แล้วนะ!”
“ขอโทษค่ะ ฉันโกรธมากไปหน่อย ตอนนี้พี่ฮโยยอนเป็นยังไงบ้างคะ?” ฉันถามกลับไป พี่เจสสิก้าถอนหายใจตอบกลับมา
“เอาแต่ซ้อมเต้นจนเหมือนคนบ้าไปแล้ว พวกพี่เองก็ไม่รู้จะทำยังไง”
ความรู้สึกผิดท่วมท้นใจฉันขึ้นมาทันที อา... เป็นเพราะฉันจริงๆสินะ T^T
“ฉันจะหาทางไปขอโทษโกยูนากับพี่ซึงยอนเองค่ะ ขอโทษนะคะพี่” พี่เจสสิก้าตอบรับเนือยๆก่อนจะกดวางสายไป ฉันเก็บหนังสือใส่กระเป๋า... เฮ้อ~ นี่ก็ปาไปหกโมงกว่าแล้ว เพราะฉันโดดเรียนไปถ่ายโฆษณาเมื่อวันก่อน คราวนี้เลยต้องอยู่เรียนชดเชย แย่จังเลย...
“ยุนอา” เสียงเรียกดังขึ้นจากทางประตู แล้วหน้าใสๆของฮันซอนฮวาเพื่อนสนิทฉันก็โผล่เข้ามาพร้อมรอยยิ้มกว้าง
“ทำไมยังไม่กลับอีกล่ะ”
“ก็เห็นว่าเธอมีนัดเรียนวันนี้ ฉันก็เลยขออาจารย์ซอที่สอนอีกวิชาให้ฉันเรียนชดเชยวันเดียวกับเธอ เราจะได้กลับบ้านพร้อมกันไง ^^”
ฉันยิ้มให้เธอ “ขอบใจนะ”
“อื้อ เรื่องแค่นี้เอง” ซอนฮวาเป็นเน็ตไอดอลเหมือนกับฉันค่ะ แล้วก็ค่อนข้างเป็นที่นิยมเหมือนกัน เธอน่ารักทั้งหน้าตาและนิสัยเลยล่ะ เพราะเราต้องโดดไปทำงานแล้วอยู่เรียนชดเชยด้วยกันบ่อยๆ ฉันกับเธอก็เลยกลายเป็นเพื่อนสนิทกันมากๆเลยค่ะ
“มีเรื่องอะไรกลุ้มใจรึเปล่า?” ซอนฮวาหันมาถามฉันที่ได้แต่ถอนหายใจออกมาอีกรอบ
“มีสิ ฉันไปก่อเรื่องไว้กับโกยูนา ฉันน่ะดันไปตบหน้าพี่เค้าซะเต็มมือเลย”
“ว้าย แบบนี้ก็แย่สิ เขาอาจจะไปว่าเธอในอินเตอร์เน็ตก็ได้นะ”
“ไม่หรอก แต่เค้าทำเรื่องที่แย่กว่านั้นมากเลยล่ะ” ฉันทำหน้าบูด “ยังไงก็เถอะ ฉันต้องไปขอโทษเขา เรื่องจะได้จบๆซะที”
“ถ้างั้นก็รีบไปขอโทษตอนนี้เลยสิ” ซอนฮวาบอกฉันพร้อมรอยยิ้ม “เมื่อกี้ฉันเดินผ่านห้องดนตรี เห็นทั้งรุ่นพี่ฮันซึงยอนและรุ่นพี่โกยูนาอยู่ในห้องน่ะ”
“เย็นขนาดนี้แล้วน่ะเหรอ?”
“อื้ม รีบไปดูกันเถอะ” ซอนฮวาดันหลังฉันแล้วเราสองคนก็เดินไปตามทางที่ทอดยาวไปสู่ห้องซ้อมดนตรี ฉันได้ยินเสียงเปียโนลอดออกมา หวา~ เพราะขนาดนี้ต้องเป็นฝีมือของโกยูนาแน่ๆเลย
แล้วโดยที่ฉันยังไม่ได้ทันตั้งตัวสักนิด ซอนฮวาจอมซื่อเพื่อนรักของฉันก็เดินเข้าไปเคาะประตูเฉยเลยค่ะ
“ขอโทษนะคะ รุ่นพี่ซึงยอน รุ่นพี่ยูนา ขอฉันคุยอะไรด้วยหน่อยได้ไหมคะ” ซอนฮวายิ้มหวานแล้วก็ลากฉันเข้าไปในห้องแบบไม่รอคำตอบจากรุ่นพี่ทั้งสองคนเลย พี่ซึงยอนดูตกใจหน่อยๆที่เห็นหน้าฉัน ส่วนโกยูนากลับไม่มีปฏิกิริยาอะไรสักนิด
“คราวนี้จะเข้ามาหาเรื่องฉันแบบไหนอีกล่ะ?” โกยูนาพูดกับฉัน ดูสิ แค่ประโยคแรกก็ชวนหาเรื่องซะแล้วคนเรา
“เปล่าค่ะ” ฉันตอบ “เรื่องเมื่อวันนั้นที่ฉันทำรุนแรงกับพี่... ฉัน... ฉันขอโทษนะคะ!” ฉันโค้งคำนับลงต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ โกยูนายังคงก้มมองคีย์เปียโนอยู่เหมือนเดิม
“ทำไมล่ะ? คิมฮโยยอนมีอะไรดีนักหนา อิมยุนอาเน็ตไอดอลชื่อดังถึงได้ยอมมาขอโทษฉันแบบนี้?”
“พี่ฮโยยอนเป็นรุ่นพี่ที่ฉันเคารพมากคนหนึ่ง แล้วก็เป็นเพื่อนของฉันด้วยค่ะ อีกอย่าง ฉันอยากจะมาชี้แจงให้พี่เข้าใจว่าการกระทำของฉันในวันนั้นไม่ใช่เพราะเป็นคำสั่งของพี่ฮโยยอน แต่ทั้งหมดเกิดขึ้นด้วยความคิดของฉันเอง รุ่นพี่ยูนา รุ่นพี่ซึงยอน ได้โปรดอย่าเข้าใจพี่ฮโยยอนผิดไปเลยนะคะ” ฉันโค้งคำนับให้กับรุ่นพี่ทั้งสองคนอีกรอบ
“หึ... เพื่อนงั้นเหรอ?” ยูนาไล่นิ้วไปตามคีย์เปียโน “เพื่อนที่ไหนกัน? เธอกับฮโยยอนเป็นเพื่อนที่สนิทกันขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วการที่พวกเธอปิดบังซึงยอนเอาไว้แบบนี้ คิดว่ามันเป็นเรื่องที่เพื่อนสมควรจะทำรึไงกัน?”
“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังนะคะ แต่ว่า...” ฉันยั้งปากเอาไว้ ถ้าเกิดฉันพูดออกไปว่าเราอยู่ในเอฟคลับเหมือนกันความลับก็ต้องถูกเปิดเผย ทั้งฉันและพี่ฮโยยอนก็จะต้องออกจากสถานภาพสมาชิกคลับทันที... จริงๆเรื่องนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก เพราะพี่แทยอนก็เคยบอกพี่จียงเรื่องคลับไปแล้ว แต่ปัญหาคือ พี่ซึงยอนที่โดดเด่นที่สุดในวงวีนัสจะรู้สึกยังไงถ้าหากรู้ว่าพี่ฮโยยอนเป็นหนึ่งในสมาชิกคลับ แต่กลับไม่ชวนพี่ซึงยอนเข้าร่วม...
“ว่ายังไงล่ะ ซึงยอน... เธอเองก็ไม่เคยรู้ใช่ไหมว่าสองคนนี้สนิทกัน?” พี่ซึงยอนส่ายหน้าช้าๆ แล้วหันมาทางฉันเหมือนจะขอคำตอบ
“...คือว่า...”
“เรื่องนั้นมันสำคัญตรงไหนเหรอคะ?”
ซอนฮวา เพื่อนของฉันก้าวเข้ามาแทรกตรงกลาง ตาโตๆของเธอหันไปมองทางโกยูนาที่ดูแปลกใจขึ้นมาทันที
“คนเรามันก็ต้องมีความลับ มีเรื่องที่ไม่อยากให้ใครรู้เป็นธรรมดา พี่เองก็คงมีเรื่องที่ปกปิดไว้ไม่อยากให้มีใครรู้เหมือนกัน การที่เพื่อนจะมีความลับ หรือมีเรื่องส่วนตัวที่ไม่ได้บอกอีกฝ่ายมันก็เป็นเรื่องปกติ ตราบใดที่เรื่องนั้นมันไม่ได้เกี่ยวกับเรา” เพื่อนของฉันพูดตรงไปตรงมา
“ถ้างั้นคำว่า ‘เพื่อน’ ในความหมายของเธอคืออะไรล่ะ?”
“เพื่อนก็คือเพื่อนไงคะ” ซอนฮวาตอบกลับทันที “คนที่อยู่เคียงข้าง และคอยเข้าใจฉันเสมอ แม้ว่าจะไม่ได้พูดอะไรเลยก็ตาม... ฉันน่ะ มาจากบ้านนอก เพิ่งจะมาเข้าเรียนที่นี่ตอน ม.ต้น เพราะฉันพูดสำเนียงโซลไม่ชัดแล้วก็เป็นคนขี้อายเลยทำให้โดนแกล้งตลอด ฉันท้อจนคิดอยากจะกลับบ้านเกิดตั้งหลายครั้งค่ะ จนกระทั่งได้พบกับยุนอา...” ซอนฮวาหันมาส่งยิ้มให้กับฉันก่อนจะเริ่มเล่าต่อ “ยุนอาน่ะ เข้ามาปกป้องฉันจากเด็กเกเร อยู่เคียงข้างฉันเสมอในเวลาที่ฉันโดนแกล้ง แล้วก็ทำให้ทุกคน รวมทั้งตัวฉันเองยอมรับฮันซอนฮวาอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ได้ เพราะความเข้าใจของยุนอาทำให้ฉันรู้สึกเข้มแข็ง และไม่เคยรู้สึกเหงาเลย เพราะฉะนั้น ฉันไม่ต้องการจะรู้ทุกเรื่องที่ยุนอาเก็บเอาไว้หรอกค่ะ ฉันเพียงแค่อยากจะอยู่เคียงข้างและเข้าใจยุนอา เหมือนอย่างที่เธอทำกับฉันเท่านั้นก็พอ” ถ้อยคำของซอนฮวากับมืออุ่นๆที่เอื้อมมาบีบมือฉันแน่นทำให้ฉันรู้สึกตื้นตันอย่างบอกไม่ถูก ไม่ใช่แค่ฉันคนเดียว แม้แต่พี่ซึงยอนเองก็ดูจะหวั่นไหวกับคำพูดของซอนฮวาไปเหมือนกัน
“พี่ยูนาคะ ฉันรู้ว่าพี่เหงาที่ต้องจากเพื่อนเก่ามาเจอกับคนแปลกหน้าที่นี่” ฉันเริ่มพูดขึ้น “...แต่ว่า ฉันเชื่อนะคะว่าต่อให้พี่ซึงยอนมีเพื่อนอีกกี่ร้อยคน พี่เค้าก็จะยังคงยืนอยู่เคียงข้างพี่เหมือนเดิม เหมือนทุกวันนี้... แล้วพี่จะเลือกความสุขของตัวเองด้วยการเก็บพี่ซึงยอนเอาไว้ ให้พี่เค้ายืนอยู่ข้างๆพี่อย่างโดดเดี่ยว โดยไม่สนใจเลยว่า ‘เพื่อนรัก’ ของพี่ต้องทิ้งใครไว้ข้างหลังบ้าง อย่างงั้นเหรอคะ?”
โกยูนาก้มหน้าเงียบอยู่เหนือคีย์เปียโน พี่ซึงยอนค่อยๆเดินเข้าไปหาเค้าช้าๆ ก่อนจะวางมือลงบนบ่าเบาๆ
“...ขอโทษนะ... ขอโทษนะซึงยอน...”
แล้วเสียงเปียโนอบอุ่นก็ดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับรอยยิ้มของฉันและเพื่อนรัก... ฮันซอนฮวา...
“อะไรกันนะเนี่ย” ฉันแกล้งทำท่าหงุดหงิดใส่ขบวนสาวๆเอฟคลับที่เข้ามาล้อมหน้าล้อมหลังฉันเต็มไปหมด “ตกลงจะไม่มีใครบอกฉันใช่ไหมว่าเรากำลังจะไปที่ไหนกัน”
“ก็บอกแล้วไงว่าจะพาไปเลี้ยงข้าวปลอบใจ” ซูยองพูดขึ้นมา “เพื่อนดีๆไม่ไร้เท่าใบพุทรานะเธอ อย่ากลุ้มมาก เดี๋ยวผมร่วงหมดกันพอดี”
“ชเวซูยอง เงียบไปเลยย่ะ” เจสสิก้าหันไปเอ็ดซูยอง แล้วสาวๆก็หัวเราะกันครืน
“ฉันจองร้านนี้ไว้ให้เป็นพิเศษเลยนะ ปิดร้านเลี้ยงเลยล่ะ” ซันนี่เข้ามาดันไหล่ฉันให้เดินต่อไปทั้งๆที่ยังโดนปิดตา
“แล้วก็มีเซอร์ไพรส์พิเศษด้วยนะคะ” น้องเล็กสองคน ซอฮยอนและยุนอาประสานเสียงขึ้นมา
“เอ้าๆ เดินกันดีๆหน่อยสาวๆ” แทยอนหันมาว่า แล้วเสียงกระดิ่งกรุ๊งกริ๊งก็ดังขึ้นก่อนที่เพื่อนๆจะจูงฉันเข้ามาในร้าน กลิ่นหอมของกาแฟและไซรัปที่คุ้นจมูกลอยเข้ามา ก่อนที่สาวๆจะพร้อมใจกันเงียบ
“ฮโยยอน ฉันกำลังจะแกะผ้าผูกตาให้ แต่เธอต้องสัญญานะว่าจะหลับตาไว้ก่อน” แทยอนพูดขึ้นมา
“แล้วเมื่อไหร่จะลืมตาได้ล่ะ?”
“เดี๋ยวก็จะรู้เองน่า” แทยอนตอบพร้อมกับที่ผ้าผูกตาคลายลง ฉันยังคงหลับตาไว้ตามที่ท่านประธานสั่ง รู้สึกได้ว่าสาวๆเอฟก้าวถอยไปยืนอยู่ข้างหลังขณะที่เสียงเปียโนค่อยๆดังขึ้น...
난 너를 사랑해 너에게 감사해
ฉันรักเธอ ฉันซาบซึ้งต่อเธอ
너뿐야 소중해 That is friend
คนพิเศษของฉัน That is friend
힘들땐 내게 기대 아플땐 내게 기대
เวลาที่ยากลำบากให้พึ่งพาฉัน เวลาที่เจ็บปวดให้พิงที่ฉัน
너의 눈물을 내가 꼭 닦아줄게
น้ำตาของเธอ ฉันจะเช็ดมันให้แน่นอน
언제든 달려갈게 너에게 약속할게
ไม่ว่าเมื่อไหร่จะรีบวิ่งไปหาเธอ ฉันให้สัญญากับเธอ
꼭 잡은 두 손 절대 놓지마
แน่นอนว่าจะไม่ปล่อยมือทั้งสองข้างของเธอโดยเด็ดขาด
Oh I love you my friend
눈빛만 스쳐도 알아
แค่มองตาก็รู้
힘들고 지쳐도 항상 곁에 있는 내 친구
แม้ว่ามันจะยากลำบากและเหนื่อยเธอก็ยังอยู่ข้างกัน เพื่อนของฉัน
달빛처럼 한결같은 별빛처럼 변하지도 않는
ไม่เปลี่ยนไปเหมือนแสงจันทร์ ไม่เปลี่ยนแปลงเหมือนแสงดาว
내 친구야 (You're my friend)
เพื่อนของฉัน (You're my friend)
힘들어도 우린 항상 함께 하자
ถึงจะยากลำบาก เราก็จะอยู่ด้วยกัน
난 너를 사랑해 너에게 감사해
ฉันรักเธอ ฉันซาบซึ้งต่อเธอ
난 너를 사랑해 너에게
ฉันรักเธอ สำหรับเธอเท่านั้น
เสียงหวานๆนั่นไม่ผิดแน่... เป็นเสียงของฮันซึงยอน เพื่อนสนิทของฉันเอง แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่น่าเชื่อคือ ทำนองเปียโนที่บรรเลงคลอกับเสียงนุ่มๆของซึงยอน เป็นฝีมือของโกยูนา...
โดยที่ไม่รู้ตัว มือของยุนอาก็ผลักฉันเข้าไปหาซึงยอนที่ยืนรออยู่บนเวที
“ฮโยยอน...” ซึงยอนส่งยิ้มให้ฉัน “จำได้ไหมว่าวันนี้เป็นวันอะไร?”
“วันนี้เหรอ?”
“ใช่... วันที่ฉันกับเธอเจอกันเป็นครั้งแรก” เพื่อนของฉันตอบพร้อมรอยยิ้ม “ฉันอยากจะมอบเพลงนี้ให้กับเธอมาตลอด ช่วงหนึ่งเดือนหลังที่ฉันเริ่มหายไป เป็นเพราะว่าฉันพยายามจะแต่งเพลงนี้แล้วก็ให้ยูนาช่วยสอนเล่นเปียโน เพื่อจะมอบมันให้กับเธอ...” น้ำเสียงของซึงยอนขาดห้วงลงไปพร้อมกับน้ำตาที่เอ่อท้นขึ้นมา “ทั้งๆที่พยายามจะทำเพื่อเธอ แต่ฉันกลับมองข้ามสิ่งที่สำคัญที่สุดไป... ขอโทษนะ ฉันรู้แล้วว่าสิ่งที่เธอต้องการจริงๆไม่ใช่บทเพลง หรือของขวัญที่มีค่ามากมายอะไร เธอแค่ต้องการใช้เวลาดีๆร่วมกับฉันเท่านั้น”
ฉันพูดอะไรไม่ออก รู้สึกเหมือนน้ำตาอุ่นๆไหลอาบแก้ม แล้วมือของซึงยอนก็เอื้อมมาบีบมือฉันไว้แน่น
“ยกโทษให้ฉันได้ไหม?”
แทนคำตอบนั้น ฉันกลับโผเข้ากอดเพื่อนรักของฉันอีกครั้ง ภาพคืนวันเก่าๆไหลย้อนกลับมาในความทรงจำ วันที่เราเคยหัวเราะด้วยกัน เคยไปเที่ยวด้วยกัน เคยไปออดิชั่น เคยซ้อมเต้น เคยเหนื่อย เคยท้อ และร้องไห้ด้วยกันจนถึงเช้า...
“ฉันไม่เคยโกรธเธอเลยซึงยอน และจะไม่มีวันด้วย” ฉันยิ้มออกมา แล้วเราสองคนก็ทั้งยิ้มทั้งร้องไห้ ก่อนที่น้ำตากับความไม่เข้าใจจะเหือดแห้งไป กลายเป็นเสียงหัวเราะและรอยยิ้มสดใสเหมือนที่เราเคยมีให้กัน
“...ฉันมีเรื่องปิดบังเธออยู่” ฉันหันหลังกลับไปมองเพื่อนๆเอฟคลับทุกคนที่จับมือกันแล้วส่งยิ้มให้ฉัน “ฉัน...”
“ถ้าเรื่องที่เธอเป็นเอฟคลับล่ะก็... ฉันรู้แล้วล่ะ” ซึงยอนชิงพูดขึ้นมาซะก่อน “ถึงจะเพิ่งมาแน่ใจเอาวันนี้ แต่ฉันก็พอจะเดาออกว่าทำไมจู่ๆเธอถึงสนิทกับยุนอาและซันนี่”
“เธอโกรธฉันรึเปล่า?” ฉันถาม แต่ซึงยอนกลับส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้ม
“ฉันภูมิใจในตัวเธอนะ... สำหรับฉันการจะได้เป็นเอฟคลับหรือไม่ ไม่สำคัญหรอก ขอแค่ ‘เรา’ ยังเป็นส่วนหนึ่งของวีนัส ขอแค่ ‘เรา’ ยังเป็นเพื่อนกัน และฉันรู้ว่ามันจะเป็นแบบนั้นตลอดไป”
ฉันมองรอยยิ้มที่สดใสของซึงยอน แล้วก็ห้ามน้ำตาของตัวเองไว้ไม่อยู่ “ขอบคุณนะ ขอบคุณจริงๆ”
สาวๆเอฟคลับของฉันปรบมือเสียงดังเกรียวกราวกันอยู่ข้างหลังในขณะที่ซึงยอนเข้ามากอดฉันเบาๆ
“แทนคำขอบคุณอันนั้น ฉันมีใครบางคนอยากจะแนะนำให้เธอรู้จักอีกสักครั้ง” ซึงยอนพูดก่อนจะหมุนตัวฉันให้กลับไปเผชิญหน้ากับโกยูนา เธอลุกขึ้นจากเปียโนแล้วยืนขึ้น ดวงตากลมโตของเธอสบตาฉันตรงๆ
“มันจะช้าเกินไปไหมถ้าหากเราจะทำความรู้จักกันใหม่?” เธอยื่นมือออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม...รอยยิ้มที่แทนคำขอโทษ คำขอบคุณ และความเข้าใจทั้งหมดที่มี
ฉันเอื้อมมือไปบีบมือเธอไว้แน่น
“ยินดีที่ได้รู้จัก ขอบคุณนะ โกยูนา”
“นี่เธอ! หายไปตั้งหลายวันแล้วนะยะ คิดจะมาซ้อมไหม งานน่ะงาน รออยู่เป็นกองเลยนะ” ซูยองวีนใส่โทรศัพท์ของฉันท่าทางหัวเสียน่าดูเลยค่ะ
“ให้ตายเถอะ ฉันต้องเตรียมตัวไปออดิชั่นนะ” ฮโยยอนวีนกลับมา อ้อ ฉันลืมบอกไปว่าฉันใช้วีดีโอคอลโทรหาซูยองน่ะค่ะ =__= สาเหตุที่ซูยองใช้โทรศัพท์ฉันน่ะเหรอ? ก็เพราะเธอยังไม่ได้จ่ายบิลค่าโทรศัพท์น่ะสิ = =
“จะไปออดิชั่นทำเกลืออะไรอีกยะ เธอเป็นเอฟคลับอยู่แล้วนะ!”
“ก็ไปเป็นเพื่อนซึงยอนกับยูนาไง เอาน่าๆ อย่าบ่นมากนักเลย เดี๋ยวฉันเข้าไปพรุ่งนี้นะ บ๊ายบาย” ฮโยยอนพูดก่อนจะตัดสายไป
“แหม ฮโยยอนได้ทีก็เอาใหญ่เลยนะเนี่ย” ทิฟฟานี่หัวเราะขึ้นมา
“ขอบใจนะซันนี่” ซูยองส่งโทรศัพท์คืนมาให้ฉันก่อนจะเอนหลังพิงพนักเก้าอี้อย่างเซ็งๆ “ทีตอนมีเพื่อนล่ะ พวกเราก็กลายเป็นหมาหัวเน่าไปเลย”
“เฮ้อ หวังว่าจะไม่ไปออดิชั่นเพลินจนลืมพวกเรานะ” ยูริเท้าคางกับโต๊ะพลางเขี่ยซากเค้กในจานเล่น ยังไม่ทันที่ใครจะได้พูดอะไรต่อ เสียงมือถือของพวกเราทั้งแปดคนก็ดังขึ้นพร้อมๆกัน ในขณะที่คนอื่นๆมัวแต่ล้วงหาโทรศัพท์ในกระเป๋ากันวุ่นวาย ฉันที่เพิ่งโทรหาฮโยยอนไปเมื่อกี้ก็เลยเป็นคนแรกที่ได้เห็นข้อความที่ส่งเข้ามา
เจอกันพรุ่งนี้นะสาวๆ ฉันไม่มีวันทิ้งเอฟคลับแน่นอน พวกเธอคือ ‘เพื่อน’ คนสำคัญของฉันเสมอและจะเป็นตลอดไป
ขอบคุณนะที่รอ ^^ - ฮโยยอน
“รู้แล้วล่ะน่า” เจสสิก้าพึมพำออกมาพร้อมรอยยิ้มเมื่อได้เห็นข้อความในขณะที่แทยอนลุกขึ้นเตรียมยืดเส้นยืดสาย
“เอาล่ะ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เรามาจัดบล็อกกิ้งกับต่อท่ารอฮโยยอนไว้เลยดีกว่ามั้ย”
“อื้ม” ฉันยิ้มกว้างแล้วพวกเราก็ลุกขึ้น สาวๆทุกคนที่เหลือมีรอยยิ้มไม่ต่างกับฉัน...
เจอกันพรุ่งนี้นะ ฮโยยอน เพื่อนรัก...
ความคิดเห็น