ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ゛⋕ไวรัสไอค่อน!:W.T.H-ikon ="virus00-0" bjin« :

    ลำดับตอนที่ #2 : ="virus00-[0]" {i};

    • อัปเดตล่าสุด 6 เม.ย. 58




     [W.T.H/IKON]="virus00-[0]"> Bjin {#ไวรัสไอค่อน};




    <!virus00-0 bjin> 
    <file ikon:virus hanbin="zombie-cracker" v s="jinhwan"
    human:hacker="7place" project="virus-ikon" with="virus00-1">
    <hacked>  <see more="virus00-0" /click>







     

    loading..









     

    ❐❐❐❐




     

                ตอนนี้ชานอูเข้าไปในห้องแล็บเรียบร้อยแล้ว ส่วนเขาก็มุ่งหน้าตรงไปยังห้องทำงานของเขา ห้องของเขาค่อนข้างกว้างแต่มันค่อนข้างถูกซ่อน มีเพียงเขา ชานอู เจ้าชายยุนฮยองและซึลกิ รวมทั้งพ่อของเขาและคนที่เขาสนิทด้วยเท่านั้นที่จะรู้ว่าห้องนี้มันอยู่ตรงส่วนไหน ข้างในห้องเป็นจอคอมพิวเตอร์ขนาดกว้างพอสมควรเรียงรายกันอยู่ประมาณสักยี่สิบกว่าเครื่องมีเม้าส์คีย์บอร์ดเก้าอี้ทำงานและอุปกรณ์ต่างๆอยู่มากมาย เขาไม่รอช้าเริ่มคิดที่จะเจาะเข้าระบบอีกครั้งแต่แล้วก็ต้องสบถออกมาเบาๆ

     

    “โธ่เว๊ย! อะไรว้ะเนี่ย”ระบบในตอนนี้ถูกล็อกหมดเลยเนื่องจากเหมือนพวกซ้อมบี้มันจะรู้ตัวแล้วว่ากำลังถูกเราพยายามแฮกข้อมูลของฐานทัพมัน ทำให้มันจัดการสร้างระบบใหม่ที่แบ่งออกเป็น 7 แห่ง นั่นคือ หนึ่ง.ฐานทัพซอมบี้ สอง.เรือนจำ สาม.ห้องสมุดร้าง สี่.โรงละครเก่า ห้า.โบสถ์ หก.โรงพยาบาล และเจ็ด.บ้านผีสิงเก่า

     
     

                เขาใช้สมองนั่งคิดอยู่สักพักก่อนจะหิ้วเพียงแค่โน๊ตบุ๊คที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแฮกและออกนอกสถานที่โดยเฉพาะ เขาคว้าปืนไปหนึ่งกระบอกและนำกระสุนรวมทั้งระเบิดใส่มันลงไปในเป้สะพาย จากนั้นเขาก็ติดสปีกเกอร์โฟนไว้ที่ข้างหูซึ้งมันเป็นอย่างนี้ทุกชุดปฏิบัติการจะมีสปีกเกอร์โฟน ข้างๆไหล่ฝั่งขวาจะมียาอยู่ประมาณห้าเม็ดเท่านั้น
    ซึ่ง  เม็ดสองแรก.เป็นตัวยาที่จะทำให้มีพลังมหาศาลหากต้องต่อกรกับซอมบี้จริงๆ มีฤทธิ์ยาประมาณชั่วโมงครึ่งเท่านั้น
    สองเม็ดถัดมา.เป็นเม็ดที่ทำให้ตัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะ มีภาพตายด้านเหมือนซอมบี้ แต่จะไม่สามารถขยับตัวได้ไม่ว่ากรณีใดๆ มีไว้ใช้เฉพาะตอนนอนเท่านั้น กันซอมบี้บุก มีฤทธิ์ยาแค่แปดชั่วโมงเท่านั้น  ส่วนเม็ดสุดท้าย.เป็นตัวยาที่กินเข้าไปแล้วตาย ใช้ต่อต้านเวลาซอมบี้กัด จะได้ไม่กลายเป็นซอมบี้เสียเอง มีฤทธิ์ยา..ตลอดกาล

     

     

    ‘Error’ก่อนจะออกไปจากตัวฐานทัพหรือศูนย์คุ้มครอง เขาไม่ลืมที่เขาเขียนบางอย่างลงไปในโพสต์อิทก่อนจะแปะมันไว้หน้าห้องแล็บเพื่อบอกให้ชานอูรู้ นี่เป็นสิ่งที่มีแค่เฉพาะเขากับชานอู ยุนฮยองหรือคนที่สนิทด้วยเท่านั้นที่จะรู้ว่าเขากำลังจะทำอะไรต่อไป

     

                สองขาของเขาไม่รอช้าที่จะก้าวตรงไปยังช่องโหว่ของกำแพงออกแรงวิ่งอย่างประณีตแล้วพยายามพาตัวเองออกไปให้ไกล เขายังพอจำทางได้เลื่อนลางจากเมื่อสิบปีก่อน ทุกอย่างไม่เปลี่ยนไปเลย เพราะไม่มีใครมาแตะต้องมันอีก สิ่งที่เปลี่ยนไปจะมีแค่ผู้คนที่ตอนนี้นั่เซื่องซึม โหยหาอาหารที่เป็นของสด ก่อนจะมีมือของใครบางคนมาปิดปากเขาไว้และพาตัวเขาเข้าไปยังตรอกแห่งหนึ่ง ซึ่งเขาพยายามขัดขืนแต่คิดว่าควรรอจังหวะดีกว่าเพราะหากขยับตัวเร็วเท่าไหร่ ซอมบี้ก็จะยิ่งรู้เท่านั้นว่าเขายังมีชีวิต

     

    “แม่!”ทันทีที่มือบางของผู้ที่ปิดปากเขาปล่อยออกเขาก็พลิกตัวแล้วเอาปืนในมือมาจ่อไว้ที่หน้าผากของผู้เป็นแม่ก่อนจะลดปืนลงช้าๆเมื่อรู้ว่าอีกคนเป็นใคร

     

    “ไป..ไหน”ผู้เป็นแม่ของเขาเอ่ยถาม ..ใช่หรอ นี่ใช่จริงๆหรอ นี่เสียงแม่ใช่ไหม เขาไม่ได้ยินเสียงแม่มา..นานมากแล้ว ตั้งแต่แม่กลายเป็นซอมบี้เขาก็ไม่ได้ยินเสียงหวานนั่นอีกเลย

     

    “แม่พูดกับหนูได้?”เขาถามอย่างแผ่วเบา และพยายามจะวิ่งเข้าไปกอดแม่ของตนก่อนที่แม่ของตนจะพยายามผลักตนออก

     

    “แม่..ทำไมแม่ผลักหนูออก”เขาถามอย่างแผ่วเบา ตอนนี้น้ำตาของเขากำลังไหลออกมาโดยที่ไม่รู้ตัวอีกแล้ว แม่..

     

    “กลับไป..เดี๋ยว.นี้ อีกสิบนาทีจะมีฐานทัพ..จาก..ซอมบี้ มาตรวจ..อัน.ตราย”แม่ของเขาพยายามพูดและพยายามผลักลูกของตนออกไป ซึ่งจินฮวานเมื่อเห็นว่าเป็นอย่างนั้นจึงหันไปก้มหัวให้แม่นิดหน่อย แล้วรีบวิ่งออกไปจากตรงนั้นและรีบกลับไปยังฐานทัพทันที

     

                ตอนนี้สมองของเขากำลังตีรวนกันไปหมด แม่จำเขาได้งั้นหรอ แม่พยายามปกป้องเขา แถมแม่ยังพูดกับเขา.. แต่ทำไมเขา ไม่ได้กอดแม่ เขาโหยหา โหยหาเหลือเกิน ถึงแม้ว่าน้ำเสียงของแม่มันจะเชื่องช้าไปบ้างแต่นี่มันเสียงแม่ เขาคิดถึง คิดถึงเหลือเกิน ชั่ววูบนึงเขาเหมือนจะได้ยินเสียงหัวใจแม่เต้นแต่แล้วมันก็กลับไปนิ่งสงันอยู่เหมือนเดิม

                ผมกลับมานั่งคิดเงียบๆอยู่ที่ห้องปฏิบัติการของผมก่อนซึลกิเพื่อนผู้หญิงที่เป็นหมอแล็บเหมือนชานอูจะเดินเข้ามาพร้อมทั้งยื่นกล่องยาบางอย่างให้กับผม ผมรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย แต่ผมก็รับมันเอามาไว้ในมือ

     

    “กลับมานานรึยัง ฉันรู้เรื่องระบบใหม่แล้วนะ พึ่งมาดูเมื่อกี้ ให้เดาได้เลยอีกไม่นานหัวหน้าต้องเรียกประชุม แล้วก็นะฉันแอบเอาโพสต์อิสออกจากหน้าห้องแล็บแล้วส่วนยาที่ฉันให้นายไปมันคือยาต้านซอมบี้ ฉันพึ่งคิดค้นมาใหม่ กะจะให้นายตอนที่เราบุกไปทำลายซอมบี้ แต่ฉันว่าให้ตอนนี้เลยดีกว่า ยานี่มีฤทธิ์ทำให้ซอมบี้มองไม่เห็นนาย แม้นายจะวิ่ง จะบิน จะเดิน ซอมบี้ธรรมดาก็จะมองไม่เห็น แบบนี้มันก็จะช่วยนายได้ ถ้านายจะต้องออกนอกสถานที่ แต่ยานี่มีฤทธิ์แค่สามชั่วโมงเท่านั้น จำไว้นะจินฮวานแค่สามชั่วโมง ในนี้มียาอยู่แค่สองเม็ด อยากลองใช้ดูก่อนป่ะล่ะ”จินฮวานยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยก่อนจะตอบซึลกิที่พึ่งพูดจบไป นั่นคือ

     

    “เดี๋ยวนี้เลยเป็นไง”

     

    “ตามใจนายเลย แต่แค่สามชั่วโมงนะ นายกลับเข้ามาอีกทีนี่ก็น่าจะทันประชุมรอบบ่ายพอดี รีบกลับมานะ”ซึลกิตอบกลับมา ก่อนจะออกจากประตูและมุ่งตรงเข้าห้องแล็บไปส่วนจินฮวานก็รีบมุ่งตรงไปยังช่องโหว่นั่นอีกเป็นครั้งที่สาม

     



     

                เขาเดินออกมาก็เจอแม่กำลังนั่งเฝ้าอยู่หน้ากำแพง เขาได้แต่ยกยิ้มออกมาเบาๆคงกลัวเขาจะออกมาสินะ เขาคิดเบาๆก่อนจะทานยานั่นไป ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วขอพิสูจน์หน่อยแล้วกัน เขาวิ่งเล่นเป็นเด็กอยู่ตรงหน้าแม่สักพัก ก่อนจะรู้ตัวว่านี่มันกินเวลาเขามาเป็นสิบนาทีแล้ว และแม่ก็ไม่มีทางเห็นเขา เขาจึงมุ่งหน้าตรงไปยังบนถนน ตอนนี้เขาเห็นซอมบี้เต็มไปหมดและแน่นอนตอนนี้เขาเหมือนเป็นอากาศ เขาเดินขึ้นไปสำรวจบนตึกแห่งหนึ่งก่อนจะพบว่ามันค่อนข้างจะร้าง แต่จากตรงนี้แล้วมันสามารถเห็นได้กว้างมากเลยทีเดียว เขารู้สึกเหมือนว่าทุกอย่างในตอนนี้ใกล้จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม เขาจะสามารถอยู่ได้โดยไม่หลบซ่อน และทุกอย่างจะกลับมาดีเหมือนเดิม เขาไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ขาของเขาขยับ เขารู้สึกเหมือนตัวเองได้เต้นรำอีกครั้ง เหมือนที่สมัยเด็กเขาชอบทำบ่อยๆกับพ่อและแม่ แต่แล้วโชคช่างไม่เข้าข้างเขาสะเลย..เขาก้าวพลาดไปแค่นิดเดียวก็ทำให้เขาแทบจะทรงตัวไม่อยู่ อยู่แล้วจนเขาเกือบจะตกลงไปจากตัวตึก แต่ก็มีมือมาฉุดรั้งเขาไว้ ก่อนเขาจะหมุนตัวอย่างรวดเร็วและเอาปืนจ่อไปที่หัวของผู้ที่ช่วยชีวิตเขาไว้
     

    “บอกมาซอมบี้หรือคน”เขาตะโกนถามอย่างเกรี้ยวกราด
     

    “ไม่รู้สิ แต่ใจเต้นนะ ไม่เชื่อมาจับดูไหมล่ะ”ผู้ชายคนนั้นพูดแล้วยิ้มหน่อยๆ ทำให้จินฮวานนึกขึ้นได้ว่าถ้าเป็นซอมบี้คงไม่เห็นเขาหรอก หรือยานี่จะหมดเร็วกว่าสักหนึ่งหรือสองชั่วโมงนะ แต่ยังไงก็เถอะ เขาขอเข้าไปลองจับดูสักหน่อยแล้วกัน เขาค่อยๆลดปืนลงก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ๆและทันทีที่เขาจับแผงอกนั่น มือของอีกคนก็รวบโอบและลากเขาเข้าไปประชิดตัวก่อนเขาจะรับรู้ได้ว่าหัวใจของผู้ชายคนนี้ไม่ได้เต้นอย่างที่เขาบอกไว้

     

    “โกหก .. ใจนายไม่เต้น”เขาพูดกับผู้ชายคนนั้นไปก่อนผู้ชายคนนั้นจะขยับตัวให้ระยะห่างของทั้งสองคนแน่ขึ้นอีก

     

    “ลองฟังดูสิ มันเต้นจริงๆนะ”ผู้ชายคนนั้นพูดขึ้นก่อนที่จินฮวานจะโน้มตัวลงไปฟังเสียงหัวใจของอีกคน ตึก ตัก ตึก ตัก

     

    “ยังเต้นอยู่จริงๆด้วย แต่ฉันก็ไม่ไว้ใจนายหรอก”จินฮวานพูดขึ้นก่อนจะใช้แรงทั้งหมดที่มีดันตัวเองออกจากอ้อมกอดอีกคนและใช้ปืนจ่อไปที่หัวของอีกคนอีกครั้งพร้อมทั้งก้าวไปรอบๆตัวซึ่งอีกคนก็หมุนตัวตามทุกครั้งที่จินฮวานก้าว

     

    “นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ไม่กลัวโดนกัดหรอ”
     

    “นี่บ้านฉัน”
     

    “ตลกหน่า.. นายไม่ใช่ซอมบี้ไม่ใช่หรอ”
     

    “ก็ไม่แน่นี่ แล้วก็ไม่ได้บอกด้วยว่าไม่ได้เป็น”
     

    “แต่ใจนายยังเต้นนะ!
     

    “ทำอย่างกับว่ามนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตเดียวบนโลกที่มีหัวใจที่เต้นได้”
     

    “ตอบมามนุษย์หรือซอมบี้! อย่าลีลา”
     

    “ถ้านี่จะเป็นการตอบแทนผู้ช่วยชีวิตของนายล่ะก็นะ..”
     

    “ขอโทษ...”จินฮวานกล่าวขอโทษก่อนจะลดปืนลงหลังจากที่คิดได้ว่าเขาเป็นคนช่วยชีวิตจินฮวานไว้ จินฮวานไม่ควรจะไปทำท่าทางหยาบคายใส่เขาแบบนั้น
     

    “ดี ระวังมันจะไปลั่นใส่หัวใครมันจะไม่คุ้มกันนะ”ผู้ชายคนนั้นพูดก่อนจะยิ้มออกมาหน่อยๆอย่างผู้มีชัย
     

    “นั่นนายกำลังจะไปไหน”จินฮวานร้องเรียกอีกคนที่ตอนนี้เริ่มเดินหันหลังให้เขาแล้ว
     

    “นั่งเล่นน่ะ จะไปด้วยกันรึเปล่าล่ะ”ผู้ชายคนนั้นถาม ซึ่งจินฮวานก็ทำหน้าครุ่นคิดอยู่แป๊ปนึงก่อนจะวิ่งไปจูงมือผู้ชายคนนั้น
     

    “ก็ได้ งั้นไปด้วยดิ ไม่รู้จะไปไหนอ่ะ แอบโดดเครื่องบินลงมาก็เลยหาทางกลับฐานทัพป้องกันไม่เจออ่ะ”จินฮวานพูดขึ้นอย่างร่าเริงหน่อยๆ ซึ่งผู้ชายคนนั้นได้แต่ลอบยิ้มเบาๆ ...คิดว่าฉันโง่ขนาดนั้นเลยรึไงนะ จินฮวาน
     

    “ฉันคิมฮันบิน”ผู้ชายคนนั้นพูดก่อนจะพาจินฮวานลงจากตึกไป ส่วนจินฮวานก็เดินตามไปอย่างว่าง่ายเพราะเชื่อว่าถ้าผู้ชายคนนี้เป็นซอมบี้จริงๆ ไม่มีทางที่หัวใจเขาจะไม่เต้น และไม่มีทางที่เขาจะเห็นจินฮวานได้

     

    “ฉัน..” จินฮวานกำลังจะแนะนำตัวต่อไปแต่เนื่องจากก้าวพลาดจึงทำให้เกือบตกบันไดแต่ฮันบินก็ประคองตัวจินฮวานเอาไว้ทัน
     

    “คิมจินฮวาน ฉันรู้ ลูกชายคนเดียวของหัวหน้าฐานทัพคุ้มครอง”ฮันบินพูดขึ้นก่อนจะพยายามพยุงจินฮวานเล็กน้อย
     

    “นะ.นายรู้? ขอโทษที่โกหกนะ”จินฮวานตอบกลับฮันบินไปด้วยสีหน้ารู้สึกผิดแต่ฮันบินก็ยิ้มออกมาหน่อยๆ
     

    “รู้สิ พี่แก่กว่าผมสักปีนึงได้ล่ะมั้ง”ฮันบินตอบกลับจินฮวานมาก่อนจินฮวานจะก้มหน้ามองดูนาฬิกา...เหลืออีกหนึ่งชั่วโมงถ้วน
     

    “ฮันบิน..นายออกมาที่นี่ได้ยังไงไม่กลัวโดนกัดหรอ ละ..แล้วพ่อกับแม่นายไม่ว่าหรอ”จินฮวานเอ่ยถามฮันบินเบาๆส่วนฮันบินก็หันหน้ามายิ้มก่อนจะตอบกลับอย่างเชื่องช้าว่า
     

    “พ่อกับแม่ตายแล้ว..จริงๆฉันก็ไม่ได้อยู่ที่นี่หรอก แต่ว่าถ้าให้ฉันเข้าไปยังฐานทัพของนาย ฉันก็ไม่สามารถหรอก ว่าแต่..กำแพงสูงขนาดนั้นนายออกมาคนเดียวได้ยังไง แล้วออกมาทำไม มันอันตรายไม่ใช่หรอ”ฮันบินตอบและถามจินฮวานอย่างชวนคุยในขณะที่ทั้งคู่นั่งอยู่บนชั้นที่สองของตัวตึกตรงบันได โดยมีฮันบินนั่งบนขั้นที่สูงกว่าจินฮวานนิดหน่อย
     

    “มีทางลับน่ะ อีกอย่างฉันแค่ออกมาเดินเล่นน่ะ ไม่รู้สิข้างในกำแพงบ้าๆนั่นเหมือนคุกดีๆเลย .. แต่นายดูไม่เหมือนซอมบี้เลย แล้วนายก็ไม่ได้เข้าไปอยู่ในฐานทัพคุ้มครองหรอฮันบิน ฉันไม่เคยเห็นนายหรอ นายเอาชีวิตรอดมาจนถึงป่านนี้ได้ยังไงกัน”หลังจากที่จินฮวานตอบคำถามฮันบินไป จินฮวานก็พุ่งคำถามใส่กลับไปบ้าง ไม่รู้สิ ตอนนี้เขารู้สึกทั้งอยากรู้เรื่องคนตรงหน้าและไว้ใจคนตรงหน้าตั้งแต่ได้มองตาอีกคนชัดๆแล้วล่ะ เขารู้สึกว่าถ้าอยู่ใกล้ๆคนๆนี้เขาจะปลอดภัย..แล้วก็จะไม่มีใครทำร้ายเขาได้ นั่นคือสิ่งที่เขาเชื่อ
     

    “นั่นไม่ใช่เรื่องของพี่ที่พี่จะต้องรู้หรอกหน่า”ฮันบินตอบเขามาแบบปัดๆ ทำให้จินฮวานจิ๊ปากหน่อยๆ ก่อนจะเบ้ปากแล้วมองไปทางอื่นด้วยเหตุที่ฮันบินไม่ยอมบอกอะไรเขาเลย บางที..ที่ประเทศนี้อาจจะไม่ได้มีฐานทัพแค่แห่งเดียวก็ได้มั้ง แล้วถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริง ทำไมไม่เห็นติดต่อกับเราเลยนะ เพราะในประเทศนี้มีฐานทัพอยู่แค่สองแห่งเท่านั้น นั่นคือฐานทัพคุ้มครอง กับฐานทัพซอมบี้ มันน่าแปลก..ผู้ชายคนตรงหน้านี้ที่ชื่อฮันบิน เขาเป็นใครกันนะ
     

    “ฉันว่า ฉันคงต้องไปแล้วล่ะ เดี๋ยวคุณพ่อดุเอา ขอบคุณนะที่ช่วยฉันไว้ แล้วก็..หวังว่าจะได้เจอนายอีก”จินฮวานพูดขึ้นก่อนจะกอดฮันบิน เขาก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่เขากลัว..กลัวว่าจะไม่ได้เจอคนตรงหน้าอีกยังไงก็ไม่รู้ ถ้าเป็นไปได้เขาอยากจะพาฮันบินไปที่ฐานทัพคุ้มครองเลยด้วยซ้ำ แต่จากที่นั่งคุยกันมากสักพักก็รู้ได้ว่าฮันบินคงไม่ยอมแน่ๆ
     

    “แน่ใจนะ ว่าจะไม่ไปฐานทัพกับฉัน”จินฮวานพูดก่อนจะผละออกจากฮันบินอย่างเบามือ สิ่งที่จินฮวานอยากได้มันคงเป็นสิ่งที่มากเกินกว่าที่พระเจ้าจะให้ได้ล่ะมั้ง เพราะฮันบินทำเพียงแค่ยิ้มแล้วพยักหน้าเบาๆ
     

     

    “รักษาตัวด้วยนะ”จินฮวานบอกฮันบินก่อนจะเดินฮัมเพลงออกมาจากตรงนั้น อาการของจินฮวานเหมือน...คนกำลังตกหลุมรัก



     

     

    ❐❐❐❐





    ▣ อัพให้แล้วๆๆ อัพช้าไปอ่าาา ไม่คือกะจะอัพพร้อมกับพันปีไปเลยดีกว่า
    ▣ ขี้เกียจเข้าเรื่องนั้นที เรื่องนี้ทีแล้วอัพแต่เรื่องเก่าหรือเรื่องใหม่
    ▣ ไรท์เป็นห่วงรีดด้วย เดี๋ยวรีดบ่นไรท์ 55555555 นี่แคร์นะเนี่ยรู้ยังงง
    ▣ ยังไงก็ฝากติดตามด้วยน้าาา
    ▣ เดี๋ยวไว้จะมาอัพให้บ่อยๆแบบถี่ๆเลย
    ▣ ช่วงนี้อีเว้นท์เยอะนิดหน่อยงับ5555555555
    ▣ ไม่แน่นะพรุ่งนี้อิไรท์อาจจะมานั่งอัพก็ด้ายยยยย ดีใจป่ะล่ะะะ
    ▣ ไม่รู้จะสนุกไหมมมม แต่อยากให้ติดตามนะรู้ยังงง
    ▣ อีกอย่างอยากให้รู้ไว้ ไรท์เป็นพวกคิดพล็อตเก่งแต่แต่งไม่ค่อยเก่งสักเท่าไหร่
    ▣ แรงบันดาลใจเรื่องนี้ของอิไรท์มาจากฮังเกอร์เกมส์และซอมบี้ที่ร้ากกกก

    ▣ บอกเลยยย พี่จินเรื่องนี้ฉลาดแต่ไม่เฉลียววววววว เชื่อไรท์ดิ


     

    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×