ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ゛⋕ไวรัสไอค่อน!:W.T.H-ikon ="virus00-0" bjin« :

    ลำดับตอนที่ #1 : ="virus00-[0]" {INTRO};

    • อัปเดตล่าสุด 6 เม.ย. 58





     

     

    [W.T.H/IKON]="virus00-[0]"> Bjin {#ไวรัสไอค่อน};



    <!virus00-0 bjin> 
    <file ikon:virus hanbin="zombie-cracker" v s="jinhwan"
    human:hacker="7place" project="virus-ikon" with="virus00-1">
    <hacked>  <see more="virus00-0" /click>







     

    loading..









     













                เสียงปืน เสียงระเบิด เสียงกรีดร้องของผู้คน ในตอนนี้กำลังดังก้องอยู่ในหูของเด็กน้อยคนหนึ่งที่ได้แต่ยืนมองแม่ตัวเองที่กำลังโดนซอมบี้กัดคอ น้ำตาของเล็กน้อยคลอเบ้าน้อยๆ ตัวเขาน่ะ..เขาไม่รู้หรอกว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เชื้อไวรัสบ้าๆนี่หลุดรั่วออกมา แต่มันใช้เวลาเพียงไม่ถึงร้อยปีก็แพร่กระจายมาได้อย่างไว ซ้ำยังเกิดการพัฒนาได้อย่างไวอีก  แค่กัด..แค่กัดเท่านั้น แค่กัดคนๆนั้นก็จะตายแล้วก็จะกลายเป็นซอมบี้ในที่สุด เด็กน้อยได้แต่หวังว่ามารดาของเขาจะไม่เป็นเช่นนั้น แต่เปล่า..โชคชะตาไม่เคยเข้าข้างใคร แม่ของเขาค่อยๆลุกขึ้นอย่างเชื่องช้า เด็กน้อยพยายามกลั้นสะอื้นแต่เปล่าประโยชน์ แม่ของเขากำลังเข้ามาใกล้..เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ จากนั้น

     

    ปัง! เสียงปืนดังออกมาจากกระปอกปืนของพ่อเด็กน้อย สายตาของคุณพ่อราวกลับโลกนี้แหลกสายด้วยมือของท่าน ท่านพยายามกลั้นน้ำตาไว้ให้อยู่ ก่อนแม่ของเด็กน้อยจะล้มลงจากนั้น ผู้เป็นพ่อจึงอุ้มเด็กน้อยขึ้นมาและพาวิ่งออกไปจากตรงนั้น

     

    “ป๊า! ม๊าหนูจิน ป๊าอย่าทิ้งม๊าของหนูนะ ป๊า! ป๊า!!”      เด็กน้อยร้องไห้ครวญครางอยู่บนเฮลิคอปเตอร์ อีกทั้งยังพยายามยื่นหน้าออกจากตัวเฮริคอปเตอร์ แต่เปล่าประโยชน์..เฮลิคอปเตอร์ บินสูงขึ้น สูงขึ้นและสูงขึ้น สูงจนเด็กน้อยได้แต่มองก้อนเมฆและนึกถึงหน้ามารดาผู้เป็นที่รักของเขา ซึ่งนี่มันก็ไม่ต่างจากผู้เป็นพ่อสักเท่าไหร่ เขากำลังสูญเสียคนในครอบครัว เขาเกลียด..เกลียด..เกลียดซอมบี้ ไอ้ไวรัสบ้าๆนั่น ทำไมมันต้องมีด้วย ฮึก .ทะ..ทะ..ทะ...ทำไม

     

     

    .

     

    ...

     

     

    .

     

    .

     

    “แม่!!!!! ........ทำไมว้ะ!!”     เสียงเด็กหนุ่มอายุราวๆสิบเก้าสะดุ้งตื่นขึ้นหลังจากที่รู้ตัวว่าตนนั้นฝันไปอีกแล้ว.. อีกครั้งแล้วสินะที่เขาจมลงไปกับความทรงจำบ้าๆนั่น หากเป็นแต่ก่อนผู้เป็นพ่อจะเข้ามาปลอบเข้าทุกครั้ง แต่หลังๆมานี้ผู้เป็นพ่อแทบจะไม่มาเจอหน้าเขาเลยด้วยซ้ำ เพราะท่านเอาแต่ยุ่งอยู่กับระบบรักษาความปลอดภัย ทำให้เขาต้องเข้มแข็งขึ้นให้ได้ด้วยตัวเองในทุกๆครั้งที่ตื่นมาใช่ ...ถ้าพูดเรื่องที่แม่ตาย ไม่สิ ไม่ตายหรอก เรื่องที่แม่เป็นซอมบี้น่ะ เขาไม่เจ็บปวดแล้วล่ะ..มั้ง เพราะความเจ็บปวดในตอนนี้มันกลายเป็นความทรงจำที่ยังไม่ตายจากไปก็เท่านั้นเอง

                สองมือของเขารีบลุกขึ้นจัดการเปลี่ยนชุดของตนเองและรีบเร่งหยิบปืนไปหนึ่งกระปอก จากนั้นก็พยายามมุ่งหน้าตรงไปยังประตูบานเล็กของรั้วกำแพงด้านนอกที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างแน่นหนาแต่แน่นอนต่อให้แน่ต่อให้หนาแค่ไหน มันก็ต้องมีช่องโหว่ เขาใช้เวลาอยู่ประมาณสองถึงสามปีกว่าจะหาช่องโหว่ที่จะผ่านออกไปยังนอกเขตคุ้มครองได้ เขาไม่ได้ต้องการอะไรเลยนะ ไม่ได้ต้องการอะไรเลยจริงๆ เขาแค่อยาก.....ไปเจอแม่

     

    “แม่...”    เขาส่งเสียงเรียกผู้เป็นแม่ในตรอกแคบๆที่อยู่ไม่ไกลจากกำแพงมากนัก เขารอไม่นานก่อนที่แม่จะมาตะครุบหลังเขาให้ล้มลง แต่สุดท้ายเขาก็รีบพลิกตัวและยืนขึ้นมาพร้อมทั้งยื่นชิ้นเนื้อที่เป็นของสดมาให้ผู้เป็นแม่ของเขา

     

    “แม่ดูโทรมมากกว่าแต่ก่อนมากเลยนะรู้ไหม..”เขาพยายามพูดกับผู้เป็นแม่ด้วยรอยยิ้ม ในขณะที่ผู้เป็นแม่กำลังกัดกินชิ้นเนื้อที่เขานำมาให้ด้วยความเอร็ดอร่อย  และมันก็แทบจะเป็นอย่างนี้สะทุกครั้งสิหน่า..น้ำตาของเขามันค่อยๆไหลออกมาอีกครั้ง แต่เขาก็หายใจฟึดฟัดอีกสักสักสามทีก่อนจะปาดมันออกไป

     

    พี่จินฮวาน! พี่อยู่ไหน กลับมาที่ศูนย์เดี๋ยวนี้นะ พ่อพี่อาละวาดใหญ่แล้ว พี่ได้ยินไหม!’    ทันทีที่ผมได้ยินเสียงจากสปีกเกอร์โฟนที่เสียบอยู่ข้างๆหูผมก็รีบลุกขึ้นจำใจมองแม่สักครู่หนึ่งก่อนจะรีบวิ่งกลับไปยังศูนย์คุ้มครองแต่แน่นอนว่ามันต้องประณีตมาก เพราะถ้าพวกซอมบี้รู้ว่าในกำแพงหนาสองร้อยฟุตที่สูงอีกหลายพันเมตร ยังมีช่องโหว่ที่ทำให้เขาออกมาบ่อยๆ พวกนั้นจะต้องหาทางเข้ามายังศูนย์คุ้มครองให้ได้ และ..เขา พ่อ รวมทั้งประชากรทั้งหมดก็จะไม่ปลอดภัยอีก

     

    “พลทหารจินฮวาน! หายไปไหนมา”     เสียงผู้เป็นพ่อดูโกรธเกรี้ยวทันทีที่ร่างบางของจินฮวานเดินก้าวเข้ามายังห้องปฏิบัติการ

     

    “หนู แค่ไป... เอ่ออ ผมแค่ไปเดินเล่นรอบๆกำแพงคุ้มครองแค่นั้นเองครับ พ่อ...ไม่ใช่สิ ท่านหัวหน้า”     เขาแทบจะลืมตัวไปเสียสนิทว่าผู้ชายตรงหน้าเข้มแข็งขึ้นมาก มากขึ้นและมากขึ้นอีกตั้งแต่สูญเสียผู้เป็นแม่ไป พ่อของเขาเป็นถึงหัวหน้าผู้ควบคุมศูนย์ปฏิบัติการคุ้มครองของประเทศนี้ทั้งหมด แถมพ่อยังกลายเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างเย็นชาไปแล้วด้วย แต่เขาชินแล้วล่ะ พ่อของเขาเลือกที่จะเข้มแข็ง ส่วนเขา..ยังเหมือนเดิมยังเลือกที่จะอ่อนแอและ โหยหาอ้อมกอดของผู้เป็นแม่ รวมทั้งอ้อมกอดของผู้เป็นพ่อที่เขาไม่ได้กอดมานานอีกด้วย

     

    “อย่าโกหก ทั้งเจ้าทั้งชานอูนั่นแหละ มีคนรายงานว่าเห็นเจ้าหนีออกนอกกำแพงคุ้มครองไปอีกแล้ว”       เขาทำหน้าตกใจเล็กน้อยที่ได้ยินพ่อพูดแบบนั้น แต่นี่ก็ปกติ ใช่..พ่อเขารู้ รู้ทุกครั้งที่เขาหนีออกนอกปราสาทไปนั่นแหละแต่พ่อเขาแค่ไม่พูด เขาก็ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้พ่อของเขาพูดแบบนั้น แต่เขาก็ได้แต่ส่งยิ้มแล้วก้มหัวน้อยๆเป็นการขอโทษชานอูที่ทำให้ชานอูโดนดุไปด้วยนิดหน่อย

     

    “ถ้าท่านจะเรียกผมมาพูดเรื่องนี้ ผมขอเอาเวลาไปเจาะเข้าระบบข้อมูลของซอมบี้ยังจะมีประโยชน์เสียกว่า ขอตัวนะครับ”     เขาพูดแล้วก็ก้มหัวให้ผู้เป็นพ่อเล็กน้อย เขาไม่อยาก ไม่อยากโดนพ่อดุอีกแล้วเรื่องที่แอบหนีออกไป แต่จะให้เขาทำยังไงได้ล่ะ เขาคิดถึง..คิดถึงผู้เป็นแม่เหลือเกิน ถ้าตอนนี้แม่ยังเป็นมนุษย์อยู่ หนูจะได้กอดแม่อีกครั้งไหมนะ

     

    “เดี๋ยว!..เจอแม่รึเปล่า แม่เป็นยังไงบ้าง”    ผู้เป็นพ่อพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เบาและนุ่มนวลลง ซึ่งมันทำให้เขาเผยยิ้มออกเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า แล้วก็เดินออกไป ซึ่งก่อนประตูจะปิดเขาก็ได้ยินพ่อของเขาแอบลอบถอนหายใจเล็กน้อย เขารู้ว่าพ่อเองก็เป็นห่วงแม่ ถ้าแม่ตายแต่ไม่กลายเป็นซอมบี้มันก็คงจะดีสำหรับเขาสองคนมากกว่านี้ เพราะแม่จะได้ไม่ทรมาน

     

    “พ่อของพี่เกือบทำระบบพังแล้วไหมล่ะ พี่รู้ไหมเนี่ย พอหาพี่ไม่เจอก็วิ่งทั่วศูนย์เลย”   ชานอูที่วิ่งตามเขาออกมารีบมาต่อว่าเล็กน้อยที่อีกคนหนีออกไปโดยที่ไม่บอกเขา

     

    “พี่ฝันร้ายนิดหน่อยน่ะชานอู พี่ก็เลย...”   จินฮวานพยายามพูดแต่มันเหมือนมีอะไรมาติดอยู่ที่ปากมันเหมือน น้ำลายมันท่วมปากเต็มไปหมด

     

    “ช่างเถอะพี่”     ชานอูเอ่ยออกมาเบาๆ ทำให้เขาต้องแอบลอบถอนหายใจออกมาอีกครั้ง

     

    “ช่างเถอะ ได้รู้อะไรเกี่ยวกับไวรัสบ้างไหม”      จินฮวานเอ่ยถามชานอูออกไปส่วนหมอนั่นก็รีบหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมา มันออกจะดูทันสมัยไปหน่อย เพราะมันเป็นแค่รีโมทเล็กๆแค่เท่านิ้วี้กับนิ้วกลางรวมกันเท่านั้น และมันมีเพียงแค่ปุ่มเป็นรูปวงกลมอยู่ตรงกลาง จากนั้นก็มีแสงวูบวาบขึ้นมาเรียงเป็นตัวอักษรและกรอบต่างๆ ชานอูใช้นิ้วสัมผัสเพียงนิดหน่อยก็เจอสิ่งที่ต้องการ

     

    “รู้สิพี่ จากที่ดูตรงนี้ ไวรัสชนิดนี้ถูกพัฒนาขึ้นเมื่อปี 1889 เริ่มแพร่ระบาดในช่วงปี 1900 จากนั้นก็ค่อยๆพัฒนาไปเรื่อยๆมาจนถึงปัจจุบัน ในข้อมูลบอกกไว้ว่าต้นกำเนิดของไวรัสอยู่ที่อเมริกา แต่เพราะควบคุมไม่ได้ก็เลยส่งต่อมาให้ประเทศในเอเชียได้ลองดู ผมพึ่งรู้ข้อมูลเมื่อไม่นานมานี้ว่ามันเคยถูกจะส่งให้จีนแต่จีนปฏิเสธ ไม่นานมันก็เกือบจะถูกส่งไปญี่ปุ่นแต่เฮลิคอปเตอร์ที่บรรจุไวรัสไว้ได้หล่นลงมายังเกาหลี ที่โรงพยาบาลโซล ไม่นานนักมันก็แพร่กระจาย”        ชานอูพูดขึ้นพร้อมทั้งนำมือเลื่อนสไลด์ไปเรื่อยๆ ใช่..เขาเห็นห้องแล็บ เห็นศูนย์พัฬนาเชื้อไวรัสที่อเมริกา และเห็นหลอดแก้วเล็กๆตกลงบนหลังคาของโรงพยาบาลโซล

     

    “ได้ข้อมูลมาจากไหน”        จินฮวานทำหน้างงเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมา ก็เมื่อวานเราแฮกเข้าไปไม่ได้นี่

     

    “ก็เมื่อวานไง ที่พี่เกือบจะแฮกเข้าไปสำเร็จแล้วแต่เราก็ได้ข้อมูลมาบ้าง แล้วกว่าจะถอดรหัสได้นะพี่ เล่นเอาพวกผมแทบกระอักเลือดกันเลย”    ชานอูพูดแบบหน้าบี้นิดหน่อย คือเขาก็เข้าใจหรอกนะว่ามันค่อนข้างยาก แต่การที่ได้ข้อมูลมาแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน


     



     

     มาอัพvอินโทรให้ก่อนน้าาา ไม่รูู้น้อยไปรึเปล่าาา แต่ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะ
     ฝากติดตามฟิคไวรัสไอค่อนเวอร์ชั่นvirus00-1บ๊อบยุนด้วยน้าาาา
     เดี๋ยวจะมาอัพให้ต่อประมาณวันศุกร์เนอะ ฮุฮุ 555555555
     ไม่มีไรจะพูดมากอ่าาา พาร์ทหน้าเดี๋ยวพี่จินเราจะเจอบีไอ คิคิ
     สปอยยยยยยย์ เดี๋ยวมาอัพให้ไม่เกินวันเสาร์อาทิตย์

    “โกหก .. ใจนายไม่เต้น”

    “ลองฟังดูสิ มันเต้นจริงๆนะ”

    ......

     

    “ใจนายยังเต้นนะ!

    “ทำอย่างกับว่ามนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตเดียวบนโลกที่มีหัวใจที่เต้นได้”
    ▣ จัดไปปปป ฝากติดตามด้วยน้าาาา ฟิคเรื่องนี้ไรท์รักมันพอสมควรเลยนะงื้อออ

    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×