คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : You're my only one way บทที่2 60%
บทที่2
ตี2.15
รีไวล์กลับมาถึงบ้านพบว่าไฟที่บ้านนั่นยังเปิดอยู่ เจ้าเด็กเหลือขอยังไม่นอนอีกหรอ เขาคิดพรางขมวดคิ้วมุ่นด้วยความไม่พอใจ ร่างกะทัดรัดเดินตรงไปที่ห้องครัวเขามั่นใจว่าเจ้าเด็กนั่นต้องนั่งรอเขาพร้อมอาหารที่ทำแน่ …
เมื่อเดินมาถึง เจ้าเด็กเหลือขอหรือน้องชายเขานั่งหลับบนโต๊ะอาหารที่เต็มไปด้วยของโปรดเขาโดยเฉพาะ
“ชิ! ไอ้เด็กบ้านี่” รีไวล์ตรงเข้าไปอุ้มร่างโปร่งผอมอย่างเบามือเพราะกลัวเจ้าตัวจะรู้สึกตื่นขึ้นมาเสียก่อน น่าแปลกเจ้านี่ตัวก็สูงแต่ตัวเบาอย่างเหลือเชื่อ รีไวล์วางร่างเอเลนลงเตียงนุ่ม มองพิจใบหน้าหวานดุจหญิงสาว เส้นผมสีน้ำตาลเปลือกไม้ เขาสัมผัสมันก่อนไล่มาที่แก้มนิ่มแล้วเลื้อนมาที่ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อ เขาเกลี่ยมันไปมาแตะริมฝีปากล่างให้เผลอออก รีไวล์ค่อยๆลดหน้าลงจุมพิศเบาๆเหมือนมีอะไรดึงดูดเขาให้ทำเช่นนี้
“ อ… อื่อออ” เสียงครางหวานเรียกสติเขากลับมา รีไวล์ค่อยๆถอนริมฝีปากออก
นี่เขาทำอะไร
เขาคิดอะไรอยู่
นี่น้องนะ!
รีไวล์ผละออกจากนั่นจัดแจงห่มผ้าห่มให้น้องชายเพียงคนเดียวก่อนเดินจากไป
………….
……………………………..
รุ่งเช้า
เอเลนลุกขึ้นสะลึมสะลือจากเตียง เอ๊ะ? เขานอนที่เตียงได้ยังไง เท่าที่จำได้เขานั่งรอพี่รีไวล์จนเผลอหลับไปนี่ หรือว่า … พี่รีไวล์จะเป็นคนอุ้มเขามาที่เตียง?? เอเลนอมยิ้มด้วยหัวใจพองโต แค่สิ่งเล็กที่พี่ชายทำให้เขาก็ดีใจมากโขแล้ว
ซ่า าา
เอเลนลงจากชั้นสอง กลิ่นไหม้ไม่พึ่งประสงค์ลอยมาจากห้องครัว ร่างโปร่งรีบตรงดิ่งไปทันทีด้วยกลัวว่าจะเกิดภัยอะไรขึ้น แต่เมื่อถึงเขาก็ต้องตะลึงกับภาพร่างเล็กกระทัดรัดกำลังจับกระทะทอดไข่เจียวสิ่งเดียวที่ทำได้และถนัดที่สุด เอเลนนั่งลงที่โต๊ะมองดูแผ่นหลังที่สารวนกับมื้อเช้า แผ่นหลังเล็กแต่กลับดูแข็งแกร่งแผ่นหลังที่คอยแบกภาระอย่างเขามาโดยตลอด
“หยิบจานมา” เอเลนสะดุ้งหลุดจากภวังค์ รีไวล์ขมวดคิ้วมองที่ยังเห็นน้องชายนั่งนิ่งอยู่กับที่
“ฉันสั่ง!” รีไวล์พูดเสียงดังขึ้นกว่าเดิม เอเลนรีบลุกตัวตรงแล้ววิ่งไปหยิบจานให้พี่ชสย รีไวล์รับมาตักไข่เจียวที่ไหม้เกรียมใส่จาน
“อะ ของแก” เอเลนรับมาพร้อมกลืนน้ำลายดัง เอือก ตั้งแต่พ่อแม่เขาเสียไปเขาต้องทนกินไข่เจียวและขนมปังปิ้งตลอด นี่คงเพราะคนเป็นพี่ทำได้แค่นี้จริงๆ แน่นอนรสชาติมันก็ไม่ต่างจากตอนที่รีไวล์ทำครั้งแรกซึ้งมันทำเอาเขาท้องเสียทั้งวันทีเดียว นี่พี่เขาใส่อะไรลงไปนะ?? เอเลนมองอย่างชั่งใจ เขาควรกินดีมั่ย มันจะทำเขาท้องเสียอย่างคราวนั่นหรือป่าว
“กินซะ” รีไวล์นั่งไขว่ห้างพร้อมกอดอกสายตาเชิงบังคับให้กระเดือกอาหารพิษนี้เข้าไป เอเลนจำใจตักกิน วินาทีแรกที่เข้าปากรสชาติที่ส่งมาที่ลิ้นคือเค็มม ! เค็มมาก!!
“เป็นไง?” เค็มมากครับ!! เขาอยากตอบไปแบบนี้ แต่หากพูดตามความใจคิดคงโดนซัดแน่ๆ
“ฉันถามได้ยินหรือป่าว?”
“อ อร่อยมากครับ!” เอเลนจำใจตอบในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับที่คิด รีไวล์ยกยิ้มที่มุมปากเป็นเชิงพอใจ มันหายากนักที่จะเห็นพี่ตนยิ้มอย่างนี้ เพราะปกติแทบไม่แสดงสีหน้าอะไรเลย
หลังจากเอเลนกล่ำกลืนฝืนกินเข้าไปจนหมดจาน ช่างน่ามอบเหร๊ยญทองแห่งตวามพยายามให้จริงๆ รีไวล์จัดเก็บจานไปล้างเอเลนนั่งกินน้ำเงียบๆ
“เอเลน วันนี้ฉันจะพาแกเข้าบริษัท” พูดจบน้ำที่เพิ่งเข้าปากแทบพุ่งออกมา อะไรที่คิดให้รีไวล์พาเขาเข้าบริษัท เขาไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อนเลย สิ่งที่พอทำได้มีแค่งานบ้านธรรมดา เอ๊ะ?! คงไม่ใช่ให้เขาไปทำความสะอาดให้หรอกนะ ถ้าเป็นแบบนั่นเขาตายแน่ๆ แค่ทำงานที่บ้านคุณพี่ท่านก็สั่งให้ทำแล้วทำอีกจนกว่าจะสะอาดไรฝุ่น
“อะ … เอ่อ ผมมีการบ้าน” รีไวล์ตวัดตามองด้วยสายตากดดัน
“ฉันรู้แกทำงานเสร็จแล้ว”
เอือก
“ตะ แต่”
“ฉันสั่ง!!!”
สุดท้ายเขาก็มิอาจขัดคำสั่งคนแป็นพี่ได้จริงๆ กลัวจะโดนซัดนะสิ ตอนเด็กเคยปฎิเสธคนเป็นพี่แล้วแต่ผลลัพธ์ที่ออกมาคือรีไวล์ซ้อมเขาปางตายหลังจากนั่นเขาไม่เคยคิดขัดคำสั่งอะไรเลยแม้ว่างานจะหนักเพียงไรเขาก็ต้องทำเพื่อเอาตัวรอดไว้ก่อนเอเลนเดินตามรีไวล์ดุ่มๆจนถึงห้องใหญ่ซึ่งคาดคะเนไว้ว่าคงเป็นห้องทำงานของพี่ชายตนแน่ๆ
“แกนั่งตรงนู่นอย่ากวนฉันละ ฉันต้องทำงาน” รีไวล์ชี้นิ้วไปที่โซฟาสีนวลขาว เอเลนทรุดตัวนั่งเงียบตามคำสั่งคนเป็นพี่ แล้วมองไปรอบๆห้อง พื้นมันวาวจนสะท้อนเห็นเงาใบหน้าเขาได้เลย
ผ่านไป2ชั่วโมง เอเลนหลับคาโซฟาไปแล้ว รีไวล์วางเอกสารลงแล้วถอดแว่นออก งานมันเยอะขึ้นเรื่อยๆทุกวันจนแทบไม่มีเวลาจะแบ่งไปสั่งสอนน้องชายบ้างเลย รีไวล์รู้เอเลนเหงาเพียงใดเมื่อกลับบ้านแล้วไม่เจอใคร และยังรู้อีกว่าน้องชายแอบรักตนเกินพี่น้องเรื่องแค่นี้ทำไมเขาจะดูไม่ออก แต่สิ่งที่เอเลนคิดมันไม่ควรเป็นอย่างนั่น หากสังคมรู้คงโดนรังเกียจแน่แท้ ตัวเขานะไม่เป็นไร … แต่ถ้าเป็นเอเลนนี่สิ .. จะทนได้งั้นหรอ นั่นเป็นสาเหตุที่เขาบอกว่ามีงานไม่สามารถกลับบ้านได้ รีไวล์พยายามตีออกห่างแต่ทำแบบนี้เจ้าเด็กดื้อด้านต้องดันด้นพยายามใกล้ชิดเขาอีกแน่
ก็อกๆ
เสียงเคาะประตูทำให้รีไวล์หลุดจากภวังค์ คงเป็นเลขาเขากระมัง
“เข้ามา” เมื่อเจ้าของห้องอนุญาต บุคคลข้างนอกจึงเปิดประตูเข้ามา หญิงสาวผมสีทองสว่างดวงตาสีฟ้าอ่อน นาม ‘ เพ็ตโทร่า ‘
“หัวหน้าค่ะ ประชุมด่วนค่ะ” เลขาส่วนตัวเอ่ยขึ้น รีไวล์พยักหน้าก่อนตอบกลับไป “เดี๋ยวฉันไป”
“ค่ะ” พอรับคำหญิงสาวเตรียมท่าจะหันหลังเดินกลับแต่รีไวล์เรียกไว้ก่อน
“เดี๋ยว”
“มีอะไรค่ะ?”
“วันนี้เธอไม่ต้องเข้าประชุมพร้อมฉัน”เพทโท่ร่าเอียงคอสงสัยก่อนจะเอ่ยถามอะไรรัไวล์ก็แทรกขึ้นมาซะก่อน
“ไม่ต้องถาม ไปได้แล้ว”
“ค่ะ”เธอเก็บความสงสัยไว้ในใจ ไม่กล้าเอ่ยปากออกไปโดยสายตาเองก็เหลือบมองเด็กหนุ่มหน้ามนที่เจ้านายตนพามาด้วย เด็กนี่ ? เป็นใครกันนะ??
เมื่อเลขาจากไปรีไวล์ตรงไปที่โซฟา มองหน้าน้องชายหน้าหวานด้วยสายตานิ่งแล้วฟาดมือไปที่ใบหน้างาม
เพี้ยะ!!
“โอ้ยยย!!!” เด็กหนุ่มที่หลับกำลังเคลิ้มสะดุ้งด้วยความเจ็บแสบที่ใบหน้า เอเลนคงไม่ต้องอธิบายมากหรอกนะ คนที่ทำอะไรแบบนี้มีอยู่คนเดียว
“รีไวล์!! ผมเจ็บนะ!”
เพี้ยะ!!!!
คราวนี้หลังมือฟาดอย่างเต็มแรง เสียงหวานร้องอวดครวญด้วยความแสบ เอเลนยังไม่ทันได้ผด้แย้งอะไร รีไวล์ก็เปิดปากแทรกพูดซะก่อน
“ฉันสอนให้นายเติมคำว่าพี่นำชื่อฉันหรือเปล่า”
“เคยครับ!! แต่ที่คุณ …”
“พี่!!!” เอเลนพูดยังไม่จบคำดีก็โดนแทรกขึ้นมาก่อน เอเลนเงียบไปพักนึงเขาไม่อยากเรียกพี่นั่นเพราะเขาไม่ต้องการให้เราทั้งคู่เป็นแค่พี่น้อง เอเลนสบตาสีเทาหม่นดูกี่ครั้งก็เจอแต่ความเย็นชา เมื่อเห็นว่าเอเลนเงียบไปนาน รีไวล์ทำท่าจะฟาดมือที่หน้าอีกครั้ง เอเลนหลับตารอรับความเจ็บปวดอีกครั้ง
“เรียกฉัน ‘ พี่รีไวล์ ‘ “ เสียงเรียบนิ่งดังขึ้นข้างหูพร้อมลมหายใจร้อนรดใบหู ตอนนี้ทั้งคู่อยู่สภาพล่อแหลม รีไวล์ขึ้นคร่อมเอเลนพร้อมซุกอยู่ที่ลำคอ
ตึกตัก ตึกตัก
หัวใจเต้นผิดจังหวะ แรงมากถึงขนาดน่าจะออกจากอกได้เลย เอเลนหวังแค่ว่าขอให้รีไวล์ไม่ได้ยินเข้า ใบหน้าก็ร้อนผ่าวตอนนี้มันคงแดงมากแน่ๆ
“เฮ้ … ถ้าแกไม่ตอบฉันจะทำโทษนะ” เอเลนหลับตาปี๋ด้วยความกลัว รีไวล์ลดมือลงไปที่เป้ากางเกงอีกฝ่ายจากนั่นลูบเบาๆ
“อ๊ะ … รีไวล์ พี่รีไวล์ ..” เสียงหวานครางกระเส่าด้วยความเสียวซ่านที่ตรงจุดศูนย์กลาง รีไวล์ส่งเสียง โฮ่ เหมือนถูกใจกับการแกล้งน้องชาย
ตัด!!!! เอาไป แค่นี้ก่อนนะเจ้าค่ะ แล้วอีกสักพักข้าน้อยจะมาต่อ
ความคิดเห็น