ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic attack on titan yaoi]You're my only one way

    ลำดับตอนที่ #2 : You're my only one way บทที่2 60%

    • อัปเดตล่าสุด 7 ก.ย. 56


    บทที่2

     

     

     

     

    ตี2.15

     

    รีไวล์กลับมาถึงบ้านพบว่าไฟที่บ้านนั่นยังเปิดอยู่    เจ้าเด็กเหลือขอยังไม่นอนอีกหรอ   เขาคิดพรางขมวดคิ้วมุ่นด้วยความไม่พอใจ  ร่างกะทัดรัดเดินตรงไปที่ห้องครัวเขามั่นใจว่าเจ้าเด็กนั่นต้องนั่งรอเขาพร้อมอาหารที่ทำแน่

              เมื่อเดินมาถึง เจ้าเด็กเหลือขอหรือน้องชายเขานั่งหลับบนโต๊ะอาหารที่เต็มไปด้วยของโปรดเขาโดยเฉพาะ

     

    “ชิ! ไอ้เด็กบ้านี่”  รีไวล์ตรงเข้าไปอุ้มร่างโปร่งผอมอย่างเบามือเพราะกลัวเจ้าตัวจะรู้สึกตื่นขึ้นมาเสียก่อน   น่าแปลกเจ้านี่ตัวก็สูงแต่ตัวเบาอย่างเหลือเชื่อ  รีไวล์วางร่างเอเลนลงเตียงนุ่ม  มองพิจใบหน้าหวานดุจหญิงสาว  เส้นผมสีน้ำตาลเปลือกไม้  เขาสัมผัสมันก่อนไล่มาที่แก้มนิ่มแล้วเลื้อนมาที่ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อ  เขาเกลี่ยมันไปมาแตะริมฝีปากล่างให้เผลอออก  รีไวล์ค่อยๆลดหน้าลงจุมพิศเบาๆเหมือนมีอะไรดึงดูดเขาให้ทำเช่นนี้

    “ ออื่อออ”  เสียงครางหวานเรียกสติเขากลับมา  รีไวล์ค่อยๆถอนริมฝีปากออก  

     

    นี่เขาทำอะไร 

     

    เขาคิดอะไรอยู่

     

    นี่น้องนะ! 

     รีไวล์ผละออกจากนั่นจัดแจงห่มผ้าห่มให้น้องชายเพียงคนเดียวก่อนเดินจากไป

     

     

    ………….

     

    ……………………………..

     

     

     

     

    รุ่งเช้า

     

         เอเลนลุกขึ้นสะลึมสะลือจากเตียง    เอ๊ะ?   เขานอนที่เตียงได้ยังไง  เท่าที่จำได้เขานั่งรอพี่รีไวล์จนเผลอหลับไปนี่    หรือว่า      พี่รีไวล์จะเป็นคนอุ้มเขามาที่เตียง??        เอเลนอมยิ้มด้วยหัวใจพองโต   แค่สิ่งเล็กที่พี่ชายทำให้เขาก็ดีใจมากโขแล้ว

     

     

    ซ่า าา

     

    เอเลนลงจากชั้นสอง  กลิ่นไหม้ไม่พึ่งประสงค์ลอยมาจากห้องครัว  ร่างโปร่งรีบตรงดิ่งไปทันทีด้วยกลัวว่าจะเกิดภัยอะไรขึ้น  แต่เมื่อถึงเขาก็ต้องตะลึงกับภาพร่างเล็กกระทัดรัดกำลังจับกระทะทอดไข่เจียวสิ่งเดียวที่ทำได้และถนัดที่สุด  เอเลนนั่งลงที่โต๊ะมองดูแผ่นหลังที่สารวนกับมื้อเช้า   แผ่นหลังเล็กแต่กลับดูแข็งแกร่งแผ่นหลังที่คอยแบกภาระอย่างเขามาโดยตลอด

     

    “หยิบจานมา”  เอเลนสะดุ้งหลุดจากภวังค์  รีไวล์ขมวดคิ้วมองที่ยังเห็นน้องชายนั่งนิ่งอยู่กับที่

     

    “ฉันสั่ง!  รีไวล์พูดเสียงดังขึ้นกว่าเดิม   เอเลนรีบลุกตัวตรงแล้ววิ่งไปหยิบจานให้พี่ชสย  รีไวล์รับมาตักไข่เจียวที่ไหม้เกรียมใส่จาน 

     

    “อะ  ของแก”   เอเลนรับมาพร้อมกลืนน้ำลายดัง เอือก ตั้งแต่พ่อแม่เขาเสียไปเขาต้องทนกินไข่เจียวและขนมปังปิ้งตลอด  นี่คงเพราะคนเป็นพี่ทำได้แค่นี้จริงๆ แน่นอนรสชาติมันก็ไม่ต่างจากตอนที่รีไวล์ทำครั้งแรกซึ้งมันทำเอาเขาท้องเสียทั้งวันทีเดียว   นี่พี่เขาใส่อะไรลงไปนะ??   เอเลนมองอย่างชั่งใจ เขาควรกินดีมั่ย  มันจะทำเขาท้องเสียอย่างคราวนั่นหรือป่าว

    “กินซะ”  รีไวล์นั่งไขว่ห้างพร้อมกอดอกสายตาเชิงบังคับให้กระเดือกอาหารพิษนี้เข้าไป   เอเลนจำใจตักกิน วินาทีแรกที่เข้าปากรสชาติที่ส่งมาที่ลิ้นคือเค็มม  !  เค็มมาก!!

    “เป็นไง?”   เค็มมากครับ!!  เขาอยากตอบไปแบบนี้  แต่หากพูดตามความใจคิดคงโดนซัดแน่ๆ

    “ฉันถามได้ยินหรือป่าว?”

    “อ  อร่อยมากครับ!  เอเลนจำใจตอบในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับที่คิด  รีไวล์ยกยิ้มที่มุมปากเป็นเชิงพอใจ  มันหายากนักที่จะเห็นพี่ตนยิ้มอย่างนี้   เพราะปกติแทบไม่แสดงสีหน้าอะไรเลย

           หลังจากเอเลนกล่ำกลืนฝืนกินเข้าไปจนหมดจาน  ช่างน่ามอบเหร๊ยญทองแห่งตวามพยายามให้จริงๆ     รีไวล์จัดเก็บจานไปล้างเอเลนนั่งกินน้ำเงียบๆ

     

    “เอเลน  วันนี้ฉันจะพาแกเข้าบริษัท”  พูดจบน้ำที่เพิ่งเข้าปากแทบพุ่งออกมา   อะไรที่คิดให้รีไวล์พาเขาเข้าบริษัท   เขาไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อนเลย  สิ่งที่พอทำได้มีแค่งานบ้านธรรมดา  เอ๊ะ?!  คงไม่ใช่ให้เขาไปทำความสะอาดให้หรอกนะ  ถ้าเป็นแบบนั่นเขาตายแน่ๆ  แค่ทำงานที่บ้านคุณพี่ท่านก็สั่งให้ทำแล้วทำอีกจนกว่าจะสะอาดไรฝุ่น

     

    “อะ เอ่อ  ผมมีการบ้าน”  รีไวล์ตวัดตามองด้วยสายตากดดัน

    “ฉันรู้แกทำงานเสร็จแล้ว”

     

    เอือก

     

    “ตะ  แต่”

    “ฉันสั่ง!!!

     

        สุดท้ายเขาก็มิอาจขัดคำสั่งคนแป็นพี่ได้จริงๆ  กลัวจะโดนซัดนะสิ  ตอนเด็กเคยปฎิเสธคนเป็นพี่แล้วแต่ผลลัพธ์ที่ออกมาคือรีไวล์ซ้อมเขาปางตายหลังจากนั่นเขาไม่เคยคิดขัดคำสั่งอะไรเลยแม้ว่างานจะหนักเพียงไรเขาก็ต้องทำเพื่อเอาตัวรอดไว้ก่อนเอเลนเดินตามรีไวล์ดุ่มๆจนถึงห้องใหญ่ซึ่งคาดคะเนไว้ว่าคงเป็นห้องทำงานของพี่ชายตนแน่ๆ

     

    “แกนั่งตรงนู่นอย่ากวนฉันละ  ฉันต้องทำงาน” รีไวล์ชี้นิ้วไปที่โซฟาสีนวลขาว เอเลนทรุดตัวนั่งเงียบตามคำสั่งคนเป็นพี่  แล้วมองไปรอบๆห้อง พื้นมันวาวจนสะท้อนเห็นเงาใบหน้าเขาได้เลย

     

     

     

     

          ผ่านไป2ชั่วโมง   เอเลนหลับคาโซฟาไปแล้ว  รีไวล์วางเอกสารลงแล้วถอดแว่นออก  งานมันเยอะขึ้นเรื่อยๆทุกวันจนแทบไม่มีเวลาจะแบ่งไปสั่งสอนน้องชายบ้างเลย  รีไวล์รู้เอเลนเหงาเพียงใดเมื่อกลับบ้านแล้วไม่เจอใคร  และยังรู้อีกว่าน้องชายแอบรักตนเกินพี่น้องเรื่องแค่นี้ทำไมเขาจะดูไม่ออก   แต่สิ่งที่เอเลนคิดมันไม่ควรเป็นอย่างนั่น  หากสังคมรู้คงโดนรังเกียจแน่แท้    ตัวเขานะไม่เป็นไร แต่ถ้าเป็นเอเลนนี่สิ  .. จะทนได้งั้นหรอ  นั่นเป็นสาเหตุที่เขาบอกว่ามีงานไม่สามารถกลับบ้านได้   รีไวล์พยายามตีออกห่างแต่ทำแบบนี้เจ้าเด็กดื้อด้านต้องดันด้นพยายามใกล้ชิดเขาอีกแน่

     

     

    ก็อกๆ

     

    เสียงเคาะประตูทำให้รีไวล์หลุดจากภวังค์   คงเป็นเลขาเขากระมัง

     

    “เข้ามา” เมื่อเจ้าของห้องอนุญาต  บุคคลข้างนอกจึงเปิดประตูเข้ามา  หญิงสาวผมสีทองสว่างดวงตาสีฟ้าอ่อน นาม เพ็ตโทร่า

    “หัวหน้าค่ะ  ประชุมด่วนค่ะ” เลขาส่วนตัวเอ่ยขึ้น  รีไวล์พยักหน้าก่อนตอบกลับไป  “เดี๋ยวฉันไป”

    “ค่ะ”  พอรับคำหญิงสาวเตรียมท่าจะหันหลังเดินกลับแต่รีไวล์เรียกไว้ก่อน

    “เดี๋ยว”

    “มีอะไรค่ะ?”

    “วันนี้เธอไม่ต้องเข้าประชุมพร้อมฉัน”เพทโท่ร่าเอียงคอสงสัยก่อนจะเอ่ยถามอะไรรัไวล์ก็แทรกขึ้นมาซะก่อน

    “ไม่ต้องถาม  ไปได้แล้ว”

    “ค่ะ”เธอเก็บความสงสัยไว้ในใจ  ไม่กล้าเอ่ยปากออกไปโดยสายตาเองก็เหลือบมองเด็กหนุ่มหน้ามนที่เจ้านายตนพามาด้วย   เด็กนี่  ?  เป็นใครกันนะ?? 

     

          เมื่อเลขาจากไปรีไวล์ตรงไปที่โซฟา  มองหน้าน้องชายหน้าหวานด้วยสายตานิ่งแล้วฟาดมือไปที่ใบหน้างาม

     

    เพี้ยะ!!

     

    “โอ้ยยย!!!  เด็กหนุ่มที่หลับกำลังเคลิ้มสะดุ้งด้วยความเจ็บแสบที่ใบหน้า  เอเลนคงไม่ต้องอธิบายมากหรอกนะ  คนที่ทำอะไรแบบนี้มีอยู่คนเดียว

     

    “รีไวล์!! ผมเจ็บนะ!

     

    เพี้ยะ!!!!

     

    คราวนี้หลังมือฟาดอย่างเต็มแรง   เสียงหวานร้องอวดครวญด้วยความแสบ  เอเลนยังไม่ทันได้ผด้แย้งอะไร  รีไวล์ก็เปิดปากแทรกพูดซะก่อน

     

    “ฉันสอนให้นายเติมคำว่าพี่นำชื่อฉันหรือเปล่า”

    “เคยครับ!! แต่ที่คุณ

    “พี่!!!” เอเลนพูดยังไม่จบคำดีก็โดนแทรกขึ้นมาก่อน   เอเลนเงียบไปพักนึงเขาไม่อยากเรียกพี่นั่นเพราะเขาไม่ต้องการให้เราทั้งคู่เป็นแค่พี่น้อง   เอเลนสบตาสีเทาหม่นดูกี่ครั้งก็เจอแต่ความเย็นชา   เมื่อเห็นว่าเอเลนเงียบไปนาน  รีไวล์ทำท่าจะฟาดมือที่หน้าอีกครั้ง เอเลนหลับตารอรับความเจ็บปวดอีกครั้ง

     

    “เรียกฉัน  พี่รีไวล์ “ เสียงเรียบนิ่งดังขึ้นข้างหูพร้อมลมหายใจร้อนรดใบหู  ตอนนี้ทั้งคู่อยู่สภาพล่อแหลม  รีไวล์ขึ้นคร่อมเอเลนพร้อมซุกอยู่ที่ลำคอ

     

    ตึกตัก  ตึกตัก

     

    หัวใจเต้นผิดจังหวะ   แรงมากถึงขนาดน่าจะออกจากอกได้เลย   เอเลนหวังแค่ว่าขอให้รีไวล์ไม่ได้ยินเข้า  ใบหน้าก็ร้อนผ่าวตอนนี้มันคงแดงมากแน่ๆ

     

    “เฮ้ ถ้าแกไม่ตอบฉันจะทำโทษนะ”   เอเลนหลับตาปี๋ด้วยความกลัว  รีไวล์ลดมือลงไปที่เป้ากางเกงอีกฝ่ายจากนั่นลูบเบาๆ

    “อ๊ะ  รีไวล์  พี่รีไวล์ ..  เสียงหวานครางกระเส่าด้วยความเสียวซ่านที่ตรงจุดศูนย์กลาง  รีไวล์ส่งเสียง โฮ่  เหมือนถูกใจกับการแกล้งน้องชาย 

     

    ตัด!!!!  เอาไป  แค่นี้ก่อนนะเจ้าค่ะ  แล้วอีกสักพักข้าน้อยจะมาต่อ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×