คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : MSGS [8]
เรื่องของเบนเนทคงไม่ใช่เรื่องที่มันให้มาร์คหงุดหงิดแต่เป็นเรื่องที่เขาต้องมาแบกหนังสือหนาๆ
ข้าวของอื่นที่ใช้ในการเรียนของแจ็คสันแล้วไหนจะให้เขาถือของอลาวดี้อีก
มาร์คเดินตามแจ็คสันไปยังห้องโถงใหญ่จัดการวางข้าวของทั้งหมดลง
โดยที่แจ็คสันที่ยิ้มอย่างชอบใจส่วนคนอื่นในห้องโถงต่างพาเขาอย่างงงๆ
ผสมนินทาเล็กๆ ข่าวเก่ายังไม่ทันจะหมด ข่าวใหม่ขอเขาก็ถือกำเนิน
ไม่พ้นเรื่องที่เขาแบกข้าวของให้กับแจ็คสัน
แล้วช่วงนี้เขาไม่ได้กลับหอกริฟฟินดอร์อีก
เพราะดับเบิลดอร์ไม่ต้องการให้เรื่องที่เขาเฝ้าดูเด็กนั้นเพราะเรื่องที่กำลังปิดบังเอาไว้
มาร์คไม่เข้าใจดับเบิลดอร์เลยว่าทำไมต้องปิดบังเรื่องนี้
จะบอกน้อยใจก็ได้เพราะมันเป็นพวกเขาที่ถูกสงสัยแทน
มาร์คเดินไปยังโต๊ะบ้านของตนเพื่อไปนั่งร่วมกับเจบีที่กำลังอ่านหนังสืออยู่
เจบีเงยหน้ามองเพื่อนของเขาที่ทำหน้าเหมือนกินเยลลี่รสขี้หูมาเลย
“นายโอเคหรือเปล่ามาร์ค”
“ไม่เลยสักนิด”
มาร์คตอบในระหว่างที่เขากำลังนั่งลงแล้วไปหยิบอาหารของเจบีโดยที่อีกฝ่ายยังไม่ได้อนุญาตเลยสักนิด
ระหว่างที่มาร์คกำลังกัดขนมปังนั้นสายตาของเขามองไปยังกลุ่มคนบ้านเรเวนเครอที่กำลังพูดคุยกันหนึ่งในนั้นคงไม่ใช่ใครนอกจาก
มิสเตอร์จินยองที่กำลังพูดคุยสนุกสนามกับเพื่อนๆ
มาร์ครีบหลบสายตาเมื่อจินยองสบเข้ากับตาของเขาพอดี
เจบีมองอาการของเพื่อนที่ร้นๆ
ก็พอจะเข้าใจก่อนที่จะหมั่นไส้เอาขนมปังอีกชิ้นยัดเข้าปากมาร์คให้หายเขิน
เรื่องของเบนเนทที่เป็นหินนั้นยังวนเวียนอยู่ในหัวของมาร์คทั้งวันเพราะเขาไม่รู้ว่าจะทำยังไงถ้าบอกดับเบิลดอร์ละ
เขากลัวจะโดนเข้าใจผิดต่อให้เป็นดับเบิ้ลดอร์ก็เถอะเขาเอาแต่คิดแก้ไขปัญหาตรงนี้จนไม่ได้สนเรื่องเรียนเลย
โชคดีที่ไม่โดนตัดคะแนน
มาร์คมายังห้องต้องประสงค์แล้วก็พบว่าแจ็คสันกำลังอ่านอะไรบ้างอย่างอยู่ในขณะที่อลาวดี้กำลังหยิบขนมใส่ปากอย่างเอร็ดอร่อยไม่ได้สนใจว่าฝันจะพุเลยสักนิด
มาร์คทำเป็นไม่สนใจทั้งสองแต่ทว่ามีบ้างอย่างที่มาร์คต้องสนใจแล้วละ
อะไรนะหรอ
ร่างเบนเนทไง มันหาย?
“แจ็คสัน เบนเนทไปไหน?”
เหมือนแจ็คสันจะอ่านหนังสือเงยหน้าขึ้นมามองมาร์คแล้วกลับไปสนใจหนังสือที่ตนกำลังอ่านต่อ
“ดับเบิ้ลดอร์เอาไปแล้วละ”
“ว่าไงนะ!
แล้วทำไม.............นายบอกดับเบิ้ลดอร์หรอ”
“ใช่ จะทำไม”
มาร์คหงุดหงิดขึ้นมาทันที
เขาคิดวันนี้ทั้งวันว่าจะทำยังไงแต่แจ็คสันดันไปบอกกับดับเบิ้ลดอร์แทนเสียงั้น
“ทำไมนายทำแบบนี้แจ็คสัน!”
แจ็คสันตกใจเล็กๆ
คิ้วเริ่มขมวดเมื่อได้ยินเสียงของมาร์คขึ้นเสียงกับเขา
แจ็คสันเงยหน้าจากหนังสือไม่มีสมาธิจะอ่านมัน
อลาวดี้เคี้ยวขนมแล้วกลืนลงคอไม่กล้าจะกินชิ้นต่อไปอีกเพราะเสียงของอีกคนน่ากลัวไม่น้อย
“แล้วทำไมฉันจะทำไม่ได้ นายเป็นอะไรของนาย
นายจะหงุดหงิดทำไม”
“ทำไมนายมีอะไรต้องบอกดับเบิลดอร์ตลอดเลย!”
“แล้วจะให้ฉันไปบอกใครเล่า! มีใครวางไว้ใจเท่าดับเบิ้ลดอร์หรอ!”
“ไว้วางใจหรอ ดูซิ
เขาปิดบังข่าวเพื่อให้เราเป็นคนรับเคราะห์ครั้งนี้แทน”
แจ็คสันสูดลมหายใจเขาก่อนที่จะเอาหนังสือที่ตัวเองอ่านเอาเข้าไปตีมาร์ค
โชคดีที่มาร์คหลบทันเลยไม่โดนหนังสือเล่มหนาๆ นั้นตีหัวเอา มาร์คกระชากหนังสือออกจากแจ็คสันไม่งั้นเขาคงได้เจ็บตัวแน่ๆ
“นายเอาสมองส่วนไหนมาคิดมาร์ค
ที่เขาปิดข่าวครั้งนี้ก็เพื่อเด็กนั้นแล้วก็ให้นักเรียนในโรงเรียนได้เรียนแบบปกติไม่ต้องมาหวาดระแวงอะไร
นายไม่เข้าใจเลยหรือไงว่าดับเบิลดอร์เขาไว้วางใจเราแค่ไหนที่ให้เรามาดูแลเด็กนี่และเขาไว้วางใจเราว่าเราจะช่วยเขาแก้ปัญหาครั้งนี้ได้ด้วยกัน”
มาร์คตาโตเล็กๆ เมื่อได้ยินที่แจ็คสันอธิบาย
มาร์คลองมาไล่คิดอีกทีมันคงจริงอย่างที่แจ็คสันบอกก็ได้นี่
มาร์คมองแจ็คสันที่ดูมีแววตาเจ็บปวดเล็กๆ นั้น
“มีเพียงดับเบิ้ลดอร์เท่านั้นมาร์ค
มีเพียงดับเบิ้ลดอร์เท่านั้นที่เราไว้ใจได้ นายเลิกคิดอะไรไม่เข้าท่าได้แล้ว”
แจ็คสันแบมือไปเพียงขอหนังสือคืน มาร์คชั่งใจเล็กๆ
แล้วยื่นคืนให้กับแจ็คสัน
“ไปอาบน้ำให้สติของนายมันโอเคซะ นี่อีกหนึ่งคำสั่งของฉัน”
ไม่จำเป็นต้องสั่งมาร์คก็จะไปอาบน้ำอยู่แล้ว
ในขณะที่มาร์คเดินไปอาบน้ำนั้นแจ็คสันยกหนังสือขึ้นมากอดมันจนแน่น
เขาอยากบอกกับมาร์คแต่เขาเลือกที่จะเงียบเมื่อเขาได้ยินสิ่งที่ดับเบิ้ลดอร์บอกกับเขาตอนที่เขาไปบอกเรื่องเบนเนท
ในฮอกวอตส์แห่งนี้จะมีสักกี่คนที่ไว้ใจได้
“เธออย่าเพิ่งไปบอกเขาเรื่องนี้นะมิสเตอร์แจ็คสัน
เอาไว้มีโอกาสเหมาะๆ ค่อยบอกเขา”
“ทำไมครับ ผมบอกเขาเลยไมได้หรอ”
“เพราะมิสเตอร์มาร์คไม่เหมือนเธอ”
“ยังไงครับ?”
“เขาเป็นคนไว้ใจใครยากและดูเหมือนจะเป็นคนที่รับกระแสกดดันไม่ไหว
เห็นแบบนั้นเป็นคนจิตใตอ่อนไหวนะ เธอเองก็เช่นกันอ่อนไหวภายใต้หน้ากากอันนี้”
แจ็คสันยกมือไปแตะที่หน้าผากที่ดับเบิ้ลดอร์ใช้นิ้วจิ้มลงมาอย่างแผ่วเบาและอ่อนโยน
ไม่มีใครทำกับเขาดับเบิ้ลดอร์เป็นคนอ่านคนออกเก่งจริงๆ
อย่างเมื่อกี้สิ่งที่เขาเห็นมาร์คเป็นอย่างที่ดับเบิ้ลดอร์เดาไว้ไม่มีผิด
ถ้ารู้ว่าในตอนนี้แม้กระทั่งเพื่อนก็ยังไว้วางใจไม่ได้ละก็
จากที่ไว้ใจใครยากจะกลายเป็นหวาดระแวง
และนั้นมันคงไม่ดีแน่ถ้ามาร์คจะมาระแวงดับเบิ้ลดอร์หรือเขา
เพราะสิ่งที่พวกเขากำลังเจอมันน่ากลัวมากเลย
“บ้างครั้งฉันก็ต้องพึ่งนายนะมาร์ค”
อลาวดี้ลุกจากเตียงเดินไปหาแจ็คสันที่ยืนอยู่แจ็คสันได้แต่มองก่อนที่ส่ายหน้าเป็นสัญญาณบอกกับเด็กชายว่าเขาไมเป็นไร
ความรู้สึกผิดเกาะจิตใจของมาร์ค
ระหว่างที่เขาอาบน้ำเขาก็ทบทวนคำพูดของแจ็คสันยิ่งทบทวนมากเท่าไรเขายิ่งรู้สึกแย่มากเท่านั้น
เมื่อเขาอาบน้ำเสร็จก็เดินมายังแจ็คสันที่กำลังเก็บหนังสือเข้าชั้น
“แจ็คสัน”
แจ็คสันหันขวับไปยังคนที่เดินเข้ามาตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้
“อะไรของนาย”
“ฉันขอโทษเรื่องเมื่อกี้นี่อะ ที่ฉันว่าร้ายดับเบิ้ลดอร์”
“ช่างมัน ฉันก็ไม่ได้ติดใจอะไร”
แจ็คสันเดินเลี่ยงมาร์คเพื่อกลับไปนอน เพราะตอนนี้ก็ดึกมากแล้วอีกอย่างต้องเอาโซ่คล้องข้อเท้า
อลาวดี้อีกเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายลุกไปกลางดึกได้
“นายรู้แย่ไหม”
แจ็คสันถามอลาวดี้ที่ตัวเองต้องมาโดนโซ่ล่ามแบบนี้
“ไม่ครับถ้าจะทำให้ผมกับพวกพี่ๆ สบายใจผมโอเคครับ”
แจ็คสันยิ้มบางๆ
แล้วเอามือยกไปลูบหัวอลาวดี้เก็บขนมออกจากเตียงให้เพื่อให้อลาวดี้ได้นอนเสียที
การกระทำของแจ็คสันอยู่ในสายตาของมาร์คมันเป็นอีกมุมมองหนึ่งเลยมั่งเพราะเขาไม่เคยเห็นแจ็คสันในด้านนี้มาก่อน
มาร์คเดินไปยังเตียงของตัวเอง ก่อนที่ไฟจะดับลงมาร์คก็เรียกแจ็คสันที่กำลังจะนอน
“แจ็คสัน”
“อะไร”
“ราตรีสวัสดิ์”
แจ็คสันชะงักไปเสี้ยววินาที่ได้ยินมาร์คพูดแบบนั้นก่อนที่จะเอยตอบ
“เช่นกัน”
#FicMSGS
ความคิดเห็น