คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : MSGS [4]
ข่าวเช้าของวันนี้ถูกลือกันไปทั่วเรื่องของนักเรียนที่ตายกันในโรงเรียนในตอนนี้แต่ไม่ได้บอกว่าใครเป็นคนพบเจอ ทั้งที่ไม่ได้บอกแต่ทำไมมาร์คถึงโดนถูกจ้องมองละ ทำไมกัน มาร์คหันหลังไปมองเพราะมีความรู้สึกเมื่อโดนจ้องมองแล้วมันก็จริงเมื่อเขาหันหลังกลับไปทุกคนพากันหลบสายตาหันหน้าหนีกันทุกคน มาร์คขมวคคิ้วไม่เข้าใจว่าทำไมกัน
“นี่ท่าทางนายยังไม่รู้อะไรจริงๆซินะ”
มาร์คมองเจบีที่นั่งตรงข้ามกับเขา ก้มหน้าก้มตาทำเป็นอ่านหนังสือทั้งๆที่มันไม่ใช่หลบสายตาทุกคู่ที่มองมาทางเขาต่างหาก มันจำเป็นต้องทำแบบนี้ไหมเจบีเพื่อนรัก
“แล้วอะไร มันเกิดอะไรขึ้นทำไมทุกคนต้องมองฉันด้วย”
เจบีปิดหนังสือลงแล้วมองมายังเขา
“ในเทอมนี่ทั้งเทอม ยังไม่มีใครโดนลงโทษก็มีเพียง.................”
มาร์คถึงกับอ้าปากเหวอ เฮ แค่นี้หรอที่มองเขาและสงสัยเขา ให้ตายเถอะเมอร์ลิน นี่มันอะไรกัน
“แล้วนายก็สงสัยฉันด้วยใช่ไหมเจบี”
เจบีเม้มปากเล็กน้อย ก่อนที่จะหลบสายตาของเขา
“ขอบใจมากเพื่อน”
มาร์คเก็บหลังสือของตัวเองบนโต๊ะแล้วเดินออกไปจากที่ตรงนี้ทันที เจบีเห็นท่าไม่ดีก็เลยรีบตามเพื่อนรักของเขาไปด้วยเพื่ออธิบายสิ่งที่เขากำลังคิด เจบีเร่งฝีเท้าตามให้ทันมาร์ค จนมาเดินข้างๆกันในที่สุด
“มาร์คนายอย่าโกรธฉันได้ไหม ก็มันน่าคิดนี่นา”
มาร์คหยุดเดินมองหน้าเจบีที่หยุดเดินเหมือนกันกับเขา ใบหน้าของเจบีทำท่าเหมือนจะรู้สึกผิดกับการที่คิดสงสัยในตัวเพื่อนของตัวเอง
“มาร์คนายก็ลองคิดเอาซิ มันเกิดขึ้นสองครั้งในสองวันที่พวกนายโดนลงโทษนะ”
“ก็ใช่นะซิ แต่ฉันไมได้เป็นคนทำ .........เดี๋ยวก่อนนะ พวกนายหรอ”
“อ้าว มาร์คนายอย่าลืมซิว่านายโดนลงโทษพร้อมกับใคร”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
หอดูดาว
“นี่มันบ้าชัดๆ!”
มาร์คมองแจ็คสันที่ตะโกนเหมือนคนอัดอั้นในใจเต็มที่ มาร์คเองก็เหมือนกันที่เป็น เวลาเรียนก็ถูกมอง ถูกถามอะไรไม่เข้าท่า ไปห้องน้ำนักเรียนคนอื่นก็พากันหลบเขาเหมือนกลัวเขาจะทำอะไรบางอย่าง มันทำให้เขาเหมือนตัวประหลาดไปเลยทีเดียว
“นายจะตะโกนทำไม ตะโกนไปก็ไม่ได้ช่วยอะไร”
แจ็คสันหันมายังมาร์คที่ยืนพิงกำแพงอยู่ วันนี้พวกเขาต้องมาทำความสะอาดบนหอดูดาวนี่แทน วันนี้วันสุดท้ายแล้วที่โดนลงโทษแล้วการที่ต้องมายังหอดูดาวก็เพื่อปกป้องไม่ให้เจอเรื่องราวแปลกๆ นั้นอีกด้วย แต่พวกเขาไม่จำเป็นต้องทำอะไรมากนักเพราะข้างบนนี้ก็สะอาดพอควรอยู่แล้ว
“อย่างน้อยก็ได้ปลดปล่อยความอึดอัด แล้วเมื่อไรนายจะให้ไม้กายสิทธิ์ ฉันซะที”
จะว่าไปมาร์คก็ลืมไปเสียสนิทว่าเขายังไม่ได้ให้ไม้กับแจ็คสัน แต่ก็นะใครจะให้ง่ายๆ
“จนกว่านายจะเรียนวิชามักเกิ้ลรู้เรื่อง”
แจ็คสันถอนหายใจขมวคคิ้วอย่างหงุดหงิดเมื่อได้ยินแบบนั้น
“ฉันรู้เรื่องดีพอ เอาไม้คืนฉันได้แล้ว”
มาร์คทำเป็นหูทวนลม ไม่สนใจจนแจ็คสันรู้สึกโมโหขึ้นมา เดินเข้าไปกระชากเสื้อคลุมจนมาร์คตกใจถอยหลังดึงแจ็มสันออกได้ทันเวลา
“นายจะทำอะไร!”
“ถามได้! จะเอาไม้คืนยังไงละ”
มาร์ครีบออกแรงจับข้อมือแจ็คสันที่พยายามจะเอามาดึงเสื้อคลุมของเขา แจ็คสันก็ออกแรงมากขึ้น แจ็คสันพยายามเข้าหามาร์ค มาร์คก็พยายามดันแจ็คสันออกไป จนขามาร์คเกี่ยวขาของแจ็คสันจนร่างของแจ็คสันหงายหลังจะล้มมาร์คที่จับข้อมือแจ็คสันเอาไว้ก็รีบปล่อยทันที จนร่างแจ็คสันหงายหลังก้นกระแทกกับพื้นทันที มาร์คเห็นท่าไม่ดีก็เลยรีบวิ่งออกมา ก็เขาไม่อยากจะโดนทำโทษอีกไงละแจ็คสันมองร่างมาร์คที่วิ่งหนีเขา คิดหรอว่าจะหนีเขาได้ แจ็คสันวิ่งตามมาร์คทันที
มาร์ควิ่งลงบันไดมาได้ไม่เท่าไรก็ต้องชะงักเมื่อเขาพบเจออะไรบ้างอย่างตรงด้านล่าง มาร์ครีบคว้าตัวแจ็คสันเข้ามากอดเอาไว้แล้วใช้มือปิดปากที่กำลังจะโวยวายนั้น แจ็คสันตีมือมาร์คที่ปิดปากตัวเองอย่างงงๆ มาร์คออกเสียงชู่ว์เบาๆ เป็นสัญญาณให้เขาเงียบพร้อมสบตาเขาให้ปฎิบัติตาม แจ็คสันหยุดกระทำทุกอย่างมาร์คมั่นใจว่าแจ็คสันทำตามเขาแล้วจึงปล่อยมือออกจากปากและเอวของแจ็คสัน
เอวเล็กกว่าที่คิดอีกแหะ
มันใช่เวลามาคำนวนเรือนร่างรึไง! มาร์คสลัดหัวตัวเองเบาๆ เรียกสติกลับมาด้านล่างนั้นเรียกได้มืดสลัวๆ มาร์คมองเห็นมีอะไรบ้างอย่างกำลังขยับอยู่ ด้านล่างนั้นมืดสลัวมากเพราะไม่ได้จุดไฟ ตอนที่มาทำความสะอาดมันยังสว่างอยู่เลยเพราะเป็นเวลาพลบค่ำ มาร์คดึงไม้ของตัวเองออกมาเพื่อใช้คาถาลูมอสแต่มือของแจ็คสันนั้นจับเข้าที่ข้อมือของเขา มาร์คมองแจ็คสันที่มองไปที่เดียวกับเขาคงเห็นเหมือนอย่างที่เขาเห็นแจ็คสันส่ายหน้าว่าอย่าใช้มัน พร้อมออกแรงดึงให้เขาเดินขึ้นบันไดดั่งเดิม แต่ด้วยความเซ่อซ่าของมาร์คก้าวบันไดพลาดลื่นไหลลงไป
“เหวอ!”
ร่างของมาร์คไหลลงมาข้างล่างของพื้น โชคดีที่คอของเขาไม่หัก เพียงแค่เจ็บเล็กน้อย
“มาร์ค!”
มาร์คมองขึ้นไปยังแจ็คสันที่เรียกเขา แจ็คสันชี้ไปยังทางหนึ่ง และนั้นมาร์คก็เข้าใจว่าเขากำลังตกอยู่ในอันตรายเสียแล้ว เมื่อมาร์คมองไปยังจุดที่แจ็คสันชี้ บางอย่างได้หยุดการเคลื่อนไหวแล้วมองมายังเขา
มันเป็นดวงตาสีแดงก่ำ
ทำเอามาร์คถึงกับสั่น ไม้ของเขาละ มาร์คพยายามหาไม้ของตัวเองแต่ก็ไม่พบ ร่างประหลาดนั้นจากหยุดนิ่งกำลังเคลื่อนตัวมายังเขา มาร์คหลังติดกำแพงแต่ดูเหมือนเขาจะลุกขึ้นไม่ได้
ให้ตายเถอะ
ข้อเท้าของเขาเจ็บ!
เมื่อร่างประหลาดนั้นเดินเข้ามาหาเขาเรื่อยๆ เมื่อต้องแสงสว่างจากด้านบน พระเจ้า! นี่มันตัวอะไรกัน ร่างของมันไม่ใหญ่โตมันเหมือนร่างของมนุษย์แต่หลังโกงงอ สวมผ้าคลุมขาดๆ สีดำ ดวงตาแดง ปากของเขามีเขี้ยวยื่นออกมา
“มาร์คไม้กายสิทธิ์ของฉันไง!”
เสียงของแจ็คสันจะโกนบอกเขา นั้นซิไม้ของแจ็คสัน มาร์คดึงไม้ของแจ็คสันออกมา มันไม่ถนัดเอาเสียเลย แล้วเขาจะใช้คาถาอะไร มาร์คนึกไม่ออก ขณะที่มาร์คกำลังคิดคาถา ร่างประหลาดนั้นหันความสนใจไปยังร่างของแจ็คสันแทน แจ็คสันถึงกับตัวแข็งเมื่อดวงตาแดงมองมายังเขายังด้านบน ไม่ทันได้เตรียมใจเตรียมตัวอะไร ร่างประหลาดก็แยกเขี้ยวส่งเสียงกรีดร้อง แล้วพุ่งตรงใส่แจ็คสันทันที
“ครูซิโอ!”
กรีด!!!
ร่างประหลาดดิ้นทุรนทุราย ตรงหน้าของแจ็คสัน เสียงของมันแสบแก้วหูจนแจ็คสันกับมาร์คต้องอุดหู มันดิ้นกรีดร้องอยู่แบบนั้นได้ไม่นาน อยู่ๆ ร่างของมันก็หายไป
ทุกอย่างกลับมาสู่ความเงียบอีกครั้ง แจ็คสันที่ดูเหมือนจะตั้งสติได้รีบเดินลงมายังด้านล่างที่มาร์คนั่งอยู่ แจ็คสันดึงไม้ของตัวเองออกจากมือของมาร์คก่อนเปล่งเสียงอินเซนดิโอตรงไปนั้นแท่งเทียน เมื่อแสงสว่างปรากฎว่าทั้งสองก็ต้องพบเจอกับสิ่งที่พวกเขาภาวนาไม่ขออยากจะเจอมัน
ร่างที่แห้งราวกับเปลือกไม้
เด็กบ้านฮัพเฟิลพัฟ
เรื่องราวเมื่อคืนนั้นส่งผลให้เสียงนินทาในวันนี้เพิ่มมากขึ้น มาร์คมองข้อเท้าของตัวเองที่โดยพันเอาไว้เพราะตกบันไดเมื่อวาน ขณะที่เขานั่งเรียนอยู่นั้นเสียงนินทาเบาๆ ดังขึ้น มาร์คไม่ได้ยินหรอกแต่ทำไมถึงรู้ว่าตัวเขาเองกำลังโดนนินทาก็เพราะสายตามองมายังเขา และนั้นก็ทำให้มาร์คทนไม่ไหว ลุกออกจากโต๊ะเรียนของตัวเองทันทีแม้เท้าเขาจะเจ็บและเรื่องเดินเขาไวอยู่แล้ว ไม่ทันทีอาจารย์จะได้เอยถามเขาซะนิด จะโดนตัดคะแนนก็เอาเถอะ เขายอม มาร์คเดินออกมาจากห้องเรียนไม่รู้ว่าเขาจะไปที่ไหน ไม่ว่าเขาเดินผ่านไปตรงไหนทุกสายตาก็มองมายังที่เขาราวกับเขาเป็นตัวประหลาด
“โอะ มาร์ค”
มาร์คที่กำลังคิดว่าจะไปอยู่ตรงไหน ก็ต้องชะงักเมื่อเขาได้ยินเสียงที่เขาชอบมันนัก มาร์คมองบุคคลที่ยื่นอยู่ตรงหน้าเขา ใบหน้านั้นส่งยิ้มให้กับเขาอย่างอ่อนโยน
“จินยอง”
มาร์คตกใจไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะทักเขาก่อน
“เรื่องที่จะไปซ้อมกัน..................ท่าทางจะไม่ได้ซินะ”
จินยองชี้นิ้วไปข้อเท้าของเขาทันที
“ได้ซิได้ ขาเจ็บแค่นี้เอง เย็นนี่เลยไหม”
จินยองกำลังจะตอบ แต่มาร์คต้องร้องสั่นเมื่ออยู่ๆ เขาโดนใครบ้างคนเตะเข้าที่ข้อเท้าของเขาจนต้องเคลื่อนตัวเองไปดันกำแพงเอาไว้ เล่นเอาขาของเขาชาไปเลยทีเดียว
“ดูท่าทางจะไม่ได้แล้วสงสัยจะได้รักษาซ้ำ”
ไม่ต้องถามว่าใครที่เป็นคนเตะเขา จินยองตกใจรีบเดินไปดูมาร์คทันที ใบหน้าของมาร์คเจ็บมากเลยทีเดียว แจ็คสันมองการกระทำของตัวเองอย่างสะใจแล้วเดินจากไปโดยมีเฮนรี่ร่วมหัวเราะเยาะช่วย มาร์คกัดฟันอย่างแค้นใจและเจ็บข้อเท้าของเขาอีกด้วย
“มาร์คไม่ไหวก็ไม่ต้องก็ได้นะ”
มาร์คมองใบหน้าของจินยองที่ดูเป็นห่วงเขาอย่างมาก
“ขอโทษทีนะ”
“อืม ไปเถอะ เดี๋ยวฉันช่วยพยุงนะ”
“นายไม่กลัวโดนมองไม่ดีหรอ ช่วงนี้ข่าวลือของฉันยิ่ง................”
จินยองฉีกยิ้มก่อนที่จะส่ายหน้า
“ไม่หรอก ไปเถอะ ว่าแต่นายกำลังจะไปไหน”
เออ นั้นซิ ไปไหนดีละ
“ห้องสมุด”
“ห้องสมุด ดีจังฉันกำลังจะไปที่นั้นอยู่พอดีเลย”
มาร์ครับรู้ถึงหัวใจที่กำลังพองโต ตอนแรกเขาเดินได้สบายโดยไม่ต้องใช้ไม้พยุง แต่ตอนนี้มาร์คอยากไม้พยุง ยิ่งไม้พยุงหอมๆ แบบนี้มาร์คชอบเลยทีเดียว
ห้องสมุดวันนี้เงียบผู้คนมากๆ มาร์คเองก็ไม่ค่อยชอบเข้าห้องสมุดซะเท่าไรยกเว้นแต่วันนี้เท่านั้นที่เขารู้สึกชอบมันเอามากๆ ยิ่งร่างข้างหน้ากำลังตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือ แต่ว่าเงียบแบบนี้มันก็ไม่โอเค
“จินยองนายอ่านอะไรหรอก”
จินยองละใบหน้าจากหนังสือแล้วหมุนหนังสือยื่นให้กับมาร์คดู
“เรื่องราวของแดร็กคิวล่า มันเป็นการบ้านที่ฉันต้องทำส่งมันในวิชาศาสตร์มืด”
มาร์คมองตัวอักษรที่สุดแสนจะน่าเบื่อ พร้อมกับภาพร่างของแดร็กคิวล่า มาร์คมองไปมาสักครู่ก็คืนจินยองเพื่อทำการบ้านต่อ
“เท่าที่ฉันอ่านมันก็เรื่องเดิมๆ แบบเดิมๆ มันง่ายจนฉันไม่ต้องอ่านมันเลยด้วยซ้ำ”
“อ้าวแล้วทำไมถึงต้องมาค้นหาอีกละ”
“อาจารย์ให้หาข้อมูลเสริมนะซิ ว่าแต่นายไม่เบื่อหรอ หาหนังสืออย่างอื่นมาอ่านบ้างก็ได้นะ”
มาร์คส่งยิ้มให้แล้วก็หุบยิ้มลงเมื่อจินยองก้มหน้าอ่านหนังสือต่อ ให้เขาอ่านหนังสือเนี่ยนะ แต่เอาเป็นว่าเอาอะไรมาอ่านดีกว่าดูเหมือนจินยองจะมองเขาอีกรอบ เอาเถอะมาร์คไปหาอะไรง่ายๆมาอ่านก็แล้วกัน มาร์คลุกจากเก้าอี้เดินไปยังหมวดหนังสือของมักเกิ้ลเพราะนั้นเป็นหนังสือที่เขาอ่านมันโอเคที่สุด แต่เมื่อไปถึงมาร์คก็ต้องประหลาดใจเมื่อเขาเจอร่างหนึ่งที่ยืนค้นหาหนังสืออยู่ อยู่ท่าทางจะเข้ามาก่อนเขา มาร์คถึงมองไม่เห็นเพราะห้องสมุดวันนี้คนน้อยมาก ใบหน้านั้นดูเคร่งเคลียด เหมือนหาหนังสือที่ต้องการไม่เจอ
“เล่มนั้นอยู่ไหนนะ”
มาร์คที่หลบอยู่มองแจ็คสันค้นหาหนังสือบางอย่าง
“เล่มที่เจ้าบ้านั้นให้ฉันคัดอยู่ไหนเนี่ย”
มาร์คถึงกับอดยิ้ม ที่แท้ก็มาหาหนังสือที่เขาให้คัดนั้นเอง มาร์คส่งเสียงกระแอ่มที่ลำคอ แจ็คสันตกใจมากหันมาหายังเจ้าของเสียงนั้น
“นั้นนายหาอะไรอยู่หรอ”
แจ็คสันมองบุคคลที่ไม่คิดว่าจะต้องมาเจอตอนนี้ แล้วมาตอนไหนก็ไม่รู้อีกด้วย
“เรื่องของฉันนายไม่ต้องมายุ่ง”
แจ็คสันว่ากลับทำท่าจะเดินหนีออกไปแต่มาร์คเข้าแขนกั้นไว้ แจ็คสันมองการกระทำนั้นเตรียมจะเตะข้อเท้าของมาร์ค แต่มาร์คเอาหลบเสียก่อน
“คิดจะเตะให้ฉันต้องเข้าเฝือกรึไง”
“จะบอกว่าใช่แล้วจะทำไม”
แจ็คสันพยายามเตะเข้าที่ข้อเท้าของมาร์ค มาร์คมองเท้าของแจ็คสันที่พยายามจะเตะ สองมือของมาร์คดันร่างแจ็คสันออกไปห่างๆ เมื่อแจ็คสันดันตัวเองเข้ามาเพื่อให้เตะถึงข้อเท้าของมาร์ค ด้วยความกลัวเจ็บอีกมาร์คจึงออกแรงดันร่างแจ็คสันสุดแรงจนแจ็คสันเสียหลัก เมื่อรับรู้ว่าตัวเองกำลังจะหงายหลังด้วยสัญชาตญาณของมือแล้วจะคว้าอะไรก็ได้เพื่อยึดตัวเองไม่ให้ล้ม แต่นั้นมือของแจ็คสันก็คว้าเข้าที่เสื้อคลุมของมาร์ค ซึ่งมาร์คที่ยกขาหนีอยู่ข้างนึงนั้นไม่สามารถรับแรงที่ดึงนั้นได้ทำให้มาร์คเสียหลักล้มลงไปพร้อมกับแจ็คสัน
โครม!!
เสียงของมันดังมากแจ็คสันจุกที่หลังอย่างมากเพราะตอนล้มนั้นล้มแรงมาก แต่โชคดีของแจ็คสันที่หัวไม่ได้กระแทกพื้น แต่สิ่งที่ทำเอาหัวใจของแจ็คสันเกือบหยุดเต้นนั้นก็คือ
ความชื้นที่ริมฝีปากของเขา
ริมฝีปากของมาร์คโดนปากของเขานั้นเอง ทั้งสองที่ดูเหมือนจะตั้งสติได้นั้นรีบลุกออกจากกันทันที แจ็คสันยกมือเช็ดปากตัวเอง แล้วเดินหนีออกมาโดยเจอกับจินยองที่กำลังเดินมานั้นเอง จินยองมองร่างของแจ็คสันที่เดินผ่านตัวเองไปแล้วเดินไปยังจุดที่ได้ยินเสียงเมื่อครู่นี่
“มาร์ค เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นหรอ เสียงดังมากเลยนะ”
มาร์คมองจินยองที่ดูท่าทางจะเป็นห่วงเขา
“อุบัติเหตุนะ”
“แล้วนายไม่เจ็บตรงไหนนะ”
มาร์คส่ายหน้า แล้วกัดริมฝีปากของตัวเอง เมื่อกี้............
“นุ่ม.........”
“เอ๋ เมื่อกี้นายว่าไงนะมาร์ค”
มาร์คมองจินยองที่มองมาทางเขาอย่างสงสัย
“อ๋อ เปล่าหรอก จินยองนายจะอยู่ที่นี้ต่อรึเปล่า ถ้าอยู่ฉันขอกลับหอก่อนได้ไหม รู้สึกว่าจะทำการบ้านไม่เสร็จ”
จินยองอดยิ้มแล้วพยักหน้าให้กับมาร์ค มาร์คเก็บข้าวของเพื่อกลับไปยังหอพักแต่ยังไม่ทันได้ออกจากห้องสมุดดี
“เฮ มาร์ค”
มาร์คหันไปมองเสียงที่เรียกเขา เสียงนั้นคือเสียงของเจบีนั้นเอง
“ว่าไงเพื่อน”
“จะว่าไง ฉันตามหานายซะทั่วเลย ดับเบิลดอร์ต้องการพบนาย”
“พบฉันเนี่ยนะ”
“ใช่ตอนนี้เลย”
#Ficmsgs
บอกตามตรงคะแอบมึนกับคาถามาก
มีหลงอีกด้วย
ต้องกลับไปศึกษาใหม่อีกรอบแล้วคะ
5555555
ความคิดเห็น