คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : MARK X JACKSON : เกลียดเด็ก
ผมไม่ชอบเด็กและไม่ชอบเด็กที่ปากดีเป็นพิเศษ
“ฝากหลานไว้กับแกสามวันได้ไหมวะ กูจะไปฮันนีมูนกับแฟนวะ”
คำขอร้องของเพื่อนสนิทที่ผมได้ยินแล้วคำไม่จะหลุดออกจากปากผมทันที
มันยืนไหว้ผมอยู่หน้าประตูบ้านแทบจะกราบให้ผมทำในสิ่งที่มันขอร้องให้ผมรับบ้างสิ่งที่ยืนอยู่ด้านหลังของมัน
“ไม่”
ประตูบ้านของผมไม่รับเด็กโดยเฉพาะหลานไอ้จินยองแต่คนเป็นอาหรือจะยอมดันประตูผมไม่ให้ปิด
“เฮ้ย! มาร์คกูขอร้อง ช่วยดูแลหลานให้กูหน่อย”
“ไม่”
“ไอ้มาร์คมึงเพื่อนกูเปล่าวะ”
“ไอ้ห่าจินยองมึงนั้นแหละเพื่อนกูเปล่าวะ
มึงก็รู้ว่ากูไม่ชอบเด็กโดยเฉพาะไอ้เด็กอย่างแจ็คสันหลานชายมึง”
“มึงจะเอาอะไรกับมันวะ ไอ้แจ็คสันมันก็แค่เด็กมันเพิ่งจะ 12
ก็งี้แหละมันกำลังเข้าสู่วัยรุ่น”
“เหอะ ยังไงกูก็ไม่รับฝาก”
ผมดันประตูเพราะไอ้จินยองมันดันจะเข้ามาให้ได้
ทำไมมึงไม่เอาหลานไปฮานีมูนด้วยเลยวะมาเดือดร้อนคนอย่างผมทำไม
สุดท้ายดันกันไปกันมาผมก็ยอมแพ้ปล่อยประตู
จินยองดันเข้ามาด้วยแรงที่ผลักทำให้หมอนั้นหน้าทิ่มพื้น
ขอให้จมูกหักเล่นเอาผมเหนื่อยเลย ไอ้บ้าจินยองไม่ลดละความพยายามคลานเข้ามากอดขาผมทันที
แม่งโคตรลงทุน
“นะ นะ มาร์คเพื่อนรักไม่มีใครอีกแล้วที่จะพึ่งได้เท่านาย”
“แต่กูไม่อยากเป็นที่พึ่งของมึง ปล่อย”
ผมพยายามแกะมือปลาหมึกของจินยองออกจากขา
แต่ทว่าจังหวะที่ผมเอาแต่สนไอ้จินยองมัน ไอ้หลานนรกของจินยองก็ใช้จังหวะนั้นเดินเข้ามาในบ้านของผม
“เฮ้ย นายออกไปจากบ้านฉันเลยนะ”
ผมตะโกนใส่หลานจินยองให้ออกจากบ้านของผมไป แล้วจินยองที่จู่ๆ
ก็ปล่อยมือจากขาของผมที่ผมแกะเท่าไรก็ไม่ออก
จินยองลุกขึ้นแล้วเอายกมือบายใส่ผมจากนั้นมันก็…….
วิ่งออกไปจากบ้านพร้อมกับตะโกนขอบใจ
มันเลวทั้งอาทั้งหลานเลย!!!!!
สุดท้ายผมต้องส่งข้อความไปด่ามันทางไลน์ถ้าเกินสามวันจะเอาหลานไปไว้วัด
ไอ้จินยองก็ส่งสติ๊กเกอร์ไหว้มาให้ผมโยนโทรศัพท์ลงโซฟาแล้วทิ้งตัวลงตามอย่างอารมณ์เสีย
ผมมองไอ้หลานจินยองที่กำลังเดินสำรวจบ้านผมก่อนที่มันจะมามองที่ผม
“ผมนอนไหน”
“หน้าห้องน้ำ”
“ลุงจะนอนเองละซินะ”
ผมรับรู้ว่าเส้นโมโหผมกำลังกระตุกอย่างรุนแรงมันเถียงกลับจะไม่ว่าสักคำแต่มันเรียกผมว่าลุง
“เมิ่อกี้เอ็งเรียกใครว่าลุงไม่ทราบ”
“แก่แล้วความจำยังสั้นอีกนะ”
ปริ้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
เส้นความอดทนของผมหมดลงแล้วผมก็ไล่เตะได้เด็กปากดีนั้นทันที
ผมไม่รู้ว่าสามวันนี่ผมจะรักษาชีวิตไอ้เด็กนั้นได้ไหมแค่เมื่อวานผมก็ไล่เตะมันรอบบ้านแล้ว
ไหนจะขึ้นมาแย่งที่นอนของผมอีกเพราะที่ผมมันแค่ห้องคอนโดเล็กๆ
ที่มีเพียงแค่ห้องนอนห้องเดียวแล้วยังจะมาแย่งผ้าห่มผมอีกนะ
ไอ้เด็กเวร
เช้าวันนี้เป็นวันหยุดของผมที่ผมโหยหามันมาทั้งสัปดาห์แต่ต้องมาพังลงเพราะไอ้เด็กที่มันกำลังเคี้ยวอาหารเช้าที่มันผมทำเอาไว้แล้วมันดันแย่งไปหน้าตาเฉย
ผมแทบจะเอาตะหลิวขว้างใส่แต่มันโชคดีที่ผมทำเอาไว้เยอะไม่งั้นมันโดนแน่
ในวันหยุดผมจะออกไปซื้อของเข้าห้องเพื่อตุนในแต่ละสัปดาห์ ผมขี้เกรียจที่จะซื้อของเข้าบ้านทุกวันแค่เลิกงานผมก็อยากกลับมาที่ห้องแล้วนอนเลย
ชีวิตของผมคือคนโสดกลับมาก็ไม่มีใครเตรียมอาหารให้เหมือนไอ้จินยองมัน
“ลุงจากไปไหนอะ”
เจ้าเด็กนรกเห็นผมกำลังสวมรองเท้าก็เอยถามทันที
“เรื่องของฉัน”
“ไปด้วยซิ อยู่แต่ในห้องลุงคนโสดมันน่าเบื่ออะ”
ทำไมมันต้องเติมคำว่าคนโสดด้วยวะ เอารองเท้ายัดปากเลยดีไหม
“ก็ดีจะได้ทิ้งไว้ข้างนอกให้หลงทาง”
“ผมจำทางกลับได้แม่น”
“ฉันจะปิดประตูให้นายนอนข้างนอก”
“ผมจะร้องไห้ให้คนแถวนี้สงสาร”
ไอ้เด็กเวร เออ กูยอมก็ได้วะ สุดท้ายผมก็ต้องหิ้วไอ้เด็ก 12
ขวบไปห้างด้วยแล้วสิ่งที่มันทำกับผมนั้นก็คือมันแอบเอากล่องขนมยัดใส่รถเข็นของผมได้แนบเนียนจนผมไม่รู้มารู้อีกทีก็ตอนจ่ายเงินแล้ว
เดี๋ยวคิดค่าขนมแยกรวมยอดแล้วไปทวงกับไอ้จินยองมัน
ผมว่าทิ้งมันไว้ด้านนอกแต่มันไวหว่ามากเพราะเหมือนปลดกุญแจรถมันไม่ช่วยผมเอาของขึ้นท้ายรถมันขึ้นรถเลย
เดี๋ยวเอาขนมทิ้งเลยทีไหม ไม่ได้อีกแหละนี่มันเงินผมทั้งนั้น พอผมกลับมาถึงคอนโด
ผมก็หิ้วเฉพาะของผมส่วนพวกถุงขนมกับพวกน้ำอัดลมผมให้เจ้าของมันถือเอง
“เอานี่ถุงขนมของนายหิ้วเอง”
ผมเดินหิ้วของตัวเองขึ้นคอนโดทันทีส่วนพวกถุงขนมผมวางไว้กับพื้นให้ไอ้เด็กนั้นถือเอาเอง
10 ขวบแล้วถือไม่ได้ร้องไห้ไม่ซะ ผมเดินมาถึงคอนโดแต่ไม่ได้ล็อกห้อง
ผมจัดการเก็บของเข้าตู้เย็นและพวกเครื่องใช้ให้เข้าที่ก่อนที่จะมานั่งตรงโซฟาเพื่อเปิดรายการยามบ่ายที่กำลังจะฉายในไม่ช้า
ว่าแต่ทำไมไอ้เด็กนั้นมันถึงได้ช้าจัง
สุดท้ายผมต้องลุกออกไปดูหน้าห้องก็ไม่มีวี่แวว
สุดท้ายผมก็ลงไปยังด้านล่างตรงที่ผมจอดรถ
ตอนแรกผมคิดว่าไอ้เด็กนั้นคงหิ้วขนมไปนั่งกินบนหลังคารถแก้แค้นผมไปแล้วแน่ๆ
แต่เปล่า ก่อนจะถึงลิฟต์เด็กนั้นกำลังนั่งยองๆ มองอะไรบ้างอย่างอยู่จนผมต้องเดินเข้าไป
“ทำอะไรอยู่ชักช้าอยู่ได้”
ผมส่งเสียงไปเอ็ดเล็กน้อยเด็กนั้นก็สะดุ้งเบาๆ
แต่ไม่ยอมหันมามองผมทุกครั้งมันจะหันมาเถียงนี่หวา ผมเลยเดินไปใกล้จนพบว่า
ถุงขนมมันขาดจนขวดน้ำหวานตกแตกกระจายพวกขนมก็กองอยู่กับพื้น
“ถุงขาดหรอเนี่ย”
เด็กนั้นก็พยักหน้าเบาๆ ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาจนผมไปนั่งลงข้างๆ
จนพบว่าเด็กนั้นกำลังร้องไห้ เฮ้ย ร้องไห้เนี่ยนะ
“ร้องไห้ทำไมก็แค่ถุงมันขาดเดี๋ยวซื้อใหม่ก็ได้”
แจ็คสันไม่ยอมสบน้ำแต่มองมือนั้นกุมกางเกงที่หัวเข่าก่อนที่สะอื้นออกมาเบาๆ
“มันเป็นเงิน อึก ฮือ ของลุงนี่ ถ้ามันเป็นเงินของผม
ผมจะไม่ร้องไห้ แต่นี่มันเงินของลุง ลุงซื้อให้ผมนี่นา ฮืออออ”
ที่นี่ร้องไห้ดังเลย
ผมไม่รู้จะทำยังไงดีอันที่จริงผมจะไปทวงเงินกับจินยองมันก็เลยไม่คิดโมโหอะไร
แต่เด็กนี่มันคิดว่าผมยอมซื้อให้มันเองเสียงั้น
เด็กยังไงก็เด็ก
สุดท้ายผมก็ยกมือไปลูบหัวเด็กนั้นเบาๆ
เพื่อให้เด็กมันหายสะอึกไห้แล้วมันก็ได้ผล
“เออ ช่างมันเอาเฉพาะที่กินได้ขึ้นห้องที่เหลือทิ้งไป เร็วๆ
ฉันไม่ได้ล็อกห้อง”
ผมลุกขึ้นส่วนเจ้าเด็กนั้นรีบหอบเก็บถุงขนมที่เหลือหอบแล้ววิ่งตามมา
ใบหน้าที่ตอนแรกร้องไห้ตอนนี้ก็ยังร้องอยู่เหมือนจะรู้สึกผิด
เด็กนรกนี่มีมุมอะไรแบบนี่กับเขาด้วยหรอ
พอมาถึงห้องผมให้แจ็คสันวางถุงขนมแล้วไล่ให้ไปอาบน้ำให้เรียบร้อยเพราะเสื้อผ้าและผมเหนียวจากน้ำหวานไปหมดแล้วผมใช้ผ้าเปียกเช็ดถุงขนมให้
ขนมแต่ละอย่างก็แถมของเล่นทั้งนั้น มันมีประโยชน์ต่อร่างกายไหมเนี่ย ผมเช็ดเสร็จก็วางเอาไว้ตรงโต๊ะอาหารนั้นแหละหลังจากนั้นผมก็มานั่งโซฟาเพื่อดูรายการทีวีต่อแจ็คสันที่เหมือนจะอาบน้ำเสร็จถือถุงขนมมานั่งข้างๆ
ผมกลิ่นแรกที่มาแตะที่จมูกมันเหมือนกลิ่นแต่งโมหวานๆ
น่าจะเป็นแชมพูของแจ็คสันนั้นแหละ
มันก็หอมดีนะ
ผมมองเด็กข้างๆ นั่งยกเข่ามาชิดกับอกสวมเสื้อยืดหลวมๆ
กับกางเกงขายาวกว่าขาตัวเองดูแล้วน่าจะเป็นเสื้อเก่าของจินยอง
หมอนั้นไม่ได้ซื้อเสื้อดีๆ ให้หลานใส่เลยหรือไงกัน ผมก็เปียกไม่เช้ดให้แห้งอีก
“ทำไม่เช็ดผมให้แห้ง”
“เดี๋ยวโดนแอร์แห้งเองแหละ”
“จะได้เป็นหวัดซะก่อนนะซิ ไปเช็ดผม”
“ไม่”
“ไปเช็ดผม”
“ไม่”
แล้วมันก็เคี้ยวขนมดังกรุบ.....................................
“บอกให้ไปเช็ดผมไงเล่า!!!”
“ปล่อยผมนะ!!!”
ผมจัดการยกร่างเล็กขึ้นแล้วพาไปเข้าไปในห้องนอนเพื่อจัดการเช็ดผมให้
ผมคว้าผ้าขนหนูจับโยนร่างแจ็คสันไปบนเตียงแล้วตามจับไอ้หัวเล็กนั้นมาเช็ดผมให้แห้ง
ผมขยี้แรงๆ ให้หายโมโหแจ็คสันก็โวยวายไป
“พอแล้วมันเจ็บ!!!!!”
แจ็คสันดึงมือออกแล้วรีบลุกหนีไปอยู่อีกด้านของเตียง
แสงจากระเบียงกระทบย้อนแสงจากร่างเล็กของแจ็คสัน ผมที่ยุ่งๆ ที่ชื้นๆ
กับเสื้อผ้าที่หลวมๆ กว่าตัวคนใส่
รู้สึกอันตรายแปลกๆ แหะ
ผมจับผ้าขนหนูโยนใส่หน้าเจ้าเด็กนั้นทันที
“เช็ดผมให้แห้งซะถ้าไม่สบายขึ้นมาไม่พาไปหาหมอหรอกนะ”
ผมพูดเสร็จก็เดินออกจากห้องไปเพื่อเก็บผ้าแม้ในหัวจะมีความรู้สึกแปลกๆ
กับภาพเมื่อกี้
อันที่จริงเจ้านั้นก็น่ารักดีนะผมรีบเก็บผ้าที่ซักไว้ก่อนที่เจ้าเด็กบ้านี่จะมา
ด้านนอกคืนนี้ฝนคงตกแน่
แล้วก็ตกจริงๆ
ฝนด้านนอกสาดมาแบบไม่ยั้งทำเอาไฟฟ้าดับกันทั้งตึก
ตอนนี้ก็สองทุ่มแล้วมีแต่แสงไฟจากด้านนอกที่ทำให้ห้องของผมมีแสงบ้าง
โชคดีที่ห้องของผมมันเย็นไม่งั้นผมคงได้หงุดหงิดแน่ๆ
เพราะไฟดับทำให้ผมทันทีนอนเร็วกว่าปกติอีกอย่างพรุ่งนี้ผมก็ต้องไปทำงานแล้วด้วย
ด้านหลังของผมก็มีเจ้าเด็กนั้นนอนอยู่ ในขณะที่ผมกำลังจะเคลิ้มหลับนั้นผมรู้สึกว่าด้านหลังของผมถูกอะไรบ้างอย่างที่แนบชิด
จะอะไรอีกละเจ้าเด็กนั้นมันเขยิบมานอนชิดหลังของผมนะซิ
“นี่แกจะนอนมาชิดทำไม มันร้อน”
ผมเขยิบเล็กน้อยให้ไอ้เด็กนั้นถอยออกไปแต่ทว่าเด็กนั้นไม่มีทีท่าจะเขยิบออกเลยจนผมหงุดหงิดหมุนตัวกลับมาจะต่อว่าแต่แล้วผมต้องกลืนคำต่อว่าลงคอ
เจ้าเด็กนั้นนอนหลับตาปี้ตัวสั่นๆ น้ำตาไหลอีกต่างหาก ผมมองอยู่แบบนั้นสักพัก
ดวงตากลมก็ค่อยๆ ลืมตาจึ้นมาช้อนมองผมด้วยสายตาอ้อนวอน
“ลุง ผะ ผะผมนี่นา”
กลัวหรอ?
อ่า ผมลืมไปสนิทเลยว่าจินยองมันเคยว่าพ่อแม่ของแจ็๕สันถูกฆ่าตายในวันฝนตกและฟ้าร้องแบบนี้นี่นา
เปี้ยง!
แจ็คสันสะดุดแล้วโผเขามากอดผม
ตัวสั่นจนผมสัมผัสได้ทีกลิ่นหอมของแชมพูสระผมกลิ่นแตงโมผสมกับกลิ่นแป้งอ่อนลอยเอามาแตะที่จมูกชองผม
เฮ้ย! เดี๋ยวนะ!
ผมพยายามแกะแจ็คสันออกจากร่างผมให้ออกห่างสักครู่
ผมไม่รู้ว่าทำไมอยู่ดีๆ ผมถึงได้
มีอารมณ์ขึ้นมานะซิ
นานเท่าไรแล้วนะที่ผมไม่ได้นอนกับผู้หญิง เพราะกลิ่นหอมอ่อนๆ
นี่มันกระตุ้นอารมณ์ผมซะงั้นแล้วทำไมผมถึงได้มามีอารมณ์แบบนั้นกับกลิ่นจากเจ้าเด็กนี่ด้วย
ผมพยายามแกะร่างที่กอดผมแน่นแล้วไอ้เข่าบ้าของแจ็คสันดันมาสัมผัสส่วนนั้นของผมอีก
อันตรายโวย!
ผมแกะมือของแจ็คสันออกแม้อีกฝ่ายยังตัวสั่นจากความกลัวอยู่ก็ตาม
“ออกไปนอนๆ ห่างๆ ฉันซะ”
ผมลุกออกจากเตียงเพื่อที่ออกไปนอกข้างนอกให้ดับอารมณ์ของตัวเองแต่มือของแจ็คสันคว้าเข้าที่ขอบเสื้อยืดของผม
ผมจะดึงมือที่คว้านั้นออกเมื่อหันไปดู แจ็คสันนั่งร้องไห้สะอื้อช้อนตาขึ้นมามองผม
“ลุงเกลียดผม ผมรู้ครับ แต่ตอนนี้อยู่กับผมก่อนได้ไหม”
ผมมองหน้าที่อ้อนวอนผมจะแกะมือที่จับออกก็ง่ายดายมากเพราะมันไม่ได้ดึงแรงอะไรเลย
“นะครับ”
“ไม่ได้ ฉันอยู่ตรงไม่ได้ ปล่อย”
“ทำไมหรอครับบอกได้ไหม”
มือที่จับเสื้อของผมค่อยๆ ปล่อยออกเสียงฟ้าแลบจากด้านนอกผสมกับแสงไฟอีกเล็กน้อยที่สะท้อนเข้ามานั้น
ทุกครั้งที่มีเสียงฟ้าร้องแจ็๕สันจะเอามือมาอุดหูของตัวเองเพื่อกลบเสียงที่ตัวเองกลัว
ร่างกายที่กำลังสั่นเทาผสมกับหยาดน้ำตาเล็กๆ ที่ดวงตากลมนั้น
บ้าเอ็ย ตอนนี้อันตรายแล้วจริงๆ
มือเรียวไปเสยคางมนของแจ็คสันที่กำลังก้มห้าลงเพราะข่มความกลัวเอาไว้
แจ็คสันสะดุ้งเล็กๆ เมื่อมีมืออุ่นๆ มาสัมผัสที่คางของตน
ใบหน้าของลุงที่เขารู้ว่าอีกฝ่ายไม่ค่อยชอบเขานักกำลังจ้องมองเขาด้วยแววตาแปลกๆ
“นายกลัวมากเลยซินะ”
“ครับ”
แจ็คสันตอบออกไปด้วยสัตย์จริงไม่ได้โกหกเขากลัวในวันที่ฝนตกมากๆ
มันมีภาพพ่อกับแม่เขาลอยเข้ามาตลอด ทุกครั้งที่ที่ฝนตกเขาจะไปนอนกับอาจินยองตลอด
“ฉันจะทำให้นายหายกลัวเอง”
แจ็คสันไม่เข้าในสิ่งที่ลุงมาร์คพูดเลยแม้แต่น้อย
แต่แจ็คสันต้องผวาเล็กๆ เมื่อปากของคนอายุเยอะกว่ากำลังกัดปากเขา
แจ็คสันไม่รู้ว่ามันคือแต่มันรู้สึกแปลกๆ หัวใจของเขากำลังเต้นแรง
ลิ้นหนาสอดเข้าไปในปากเล็กๆ
ที่ไม่รู้ประสีประสาอ้าปากรอรับเล็กน้อยถูกเกี่ยวหยอกล้อไปมา
มาร์คถอดจูบออกจับร่างเล็กเอนตัวลงนาบไปกับเตียงนอนนุ่ม
ผิวกายเนียนละเอียดฉบับเด็กนั้นพอใช้มือถูมันช่างนุ่มนิ่มจนน่ากัด
“รู้สึกยังไงแจ็คสัน”
แจ็คสันกำลังตัวสั่นเขาไม่ได้สั่นเพราะเสียงฟ้าร้องที่เขาสั้นเพราะมีบางอย่างมันทำให้แจ็คสันสั่น
“ฉันจะสัมผัสมากขึ้นแล้วนะ”
แจ็คสันไม่ได้ปฏิเสธเพราะไม่รู้ว่าคนอายุมากกว่าจะสัมผัสเขากันแน่
เสื้อตัวใหญ่กว่าตัวเพราะการซื้อที่ไม่ได้เรื่องของอาถูกเปิดขึ้นจนถึงหน้าอก
“อ๊ะ!”
แจ็คสันสะดุ้งเมื่อหน้าอกของเขาถูกมาร์คกอบกุมด้วยปากร่างเล็กสั่นหนักขึ้นเสียงครางหลานเริ่มปรากฏเด่นชัดขึ้นไม่ได้เพราะกลัวแต่มันรู้สึกแปลก
จะว่าไปแจ็คสันเคยเห็นอาจินยองกับทำแบบนี้กับแฟนด้วยนี่นา มันรู้สึกแบบนี้หรอ
แจ็คสันยังไม่ทันได้เรียนรู้ความรู้สึกแปลกๆ
นี่มือใหญ่ของอีกฝ่ายไปสัมผัสที่ขอบกางเกงของเด็กชายก่อนที่จะจับมันดึงออกจนแจ็คสันเริ่มโวยวายเพราะถูกถอดกางเกงแต่ปากเล็กถูกปกปิดด้วยปากใหญ่กว่า
คำว่าเสียงที่จะโวยวายถูกกลืนลงคอไป น้ำตาใสเริ่มไหลออกจากหางตาคนตัวเล็ก
เมื่อมือใหญ่ไปสัมผัสส่วนที่อ่อนไหวของเด็กชายหยอกยั่วส่วนนั้นจนคนตัวเล็กเริ่มครางออกไม่เป็นภาษา
“ลุง อ่า มันรู้สึกแปลกๆจังครับ”
มาร์คมองหน้าที่กำลังเคลิ้มจนกระตุ้นอารมณ์เขา
มาร์คเผลอกลืนน้ำลายลงคอ ในตอนนี้เขาเริ่มทนไม่ไหวเสียแล้ว เด็กก็เด็กเถอะ
ทั้งหอมทั้งนุ่มเลยในตอนนี้
“จากนี้ไปจะเจ็บหน่อยนะ แต่รับรองนายจะชอบมัน”
นิ้วเรียวหยุดกระกระทำตรงช่วงอ่อนไหวของเด็กน้อย
แม้แจ็คสันจะไม่ชอบใจที่หยุดการกระทำเพราะมันทำให้เขาอึดอัดมากแต่ไม่กล้าจะเอยปากออกไป
นิ้วเรียวเลื่อนยังไปด้านหลังของร่างเล็กก่อนที่แหวกนิ้วเข้าในช่องทางอุ่นและแคบนั้น
“อ่า!!”
มันเป็นความเจ็บที่เด็กชายไม่เคยได้รับมาก่อน
เจ็บจนน้ำไหลเล็ดออกมาจนการเป็นร้องไห้แต่กระนั้นมันกลับมีอีกความรู้สึกหนึ่งที่คืบคลานเข้ามาจนเด็กชายปฏิเสธไม่ได้ว่ารู้สึกดี
มาร์คยังพรมจูบทั่วเรือนร่างของเด็กชายในขณะที่นิ้วกำลังขยับมันไป
มาร์คในตอนนี้ไม่อาจจะตอนได้แล้ว
“จากนี้นายจะจำแต่สิ่งที่สุดยอดจนนายไม่กลัวฟ้าร้องอีกต่อไปเลยละ”
.
.
.
.
.
......................................
“ขอบใจมากนะเพื่อนที่ดูแลหลานให้กูอะ”
จินยองมันไม่ยอมเข้ามาในบ้านของผมเพราะอะไรหรอกลัวผมจะกระทืบมันไง
อันที่จริงก็อยากทำอยู่หรอกแต่ก็นะ
“เออ”
แจ็คสันกระชับกระเป๋าจะเดินเข้าไปหาจินยองแต่ก่อนที่จะเดินไปถึงแจ็คสันหันหลังมาหาผมก่อนที่
“นี่ลุง”
“อะไร”
“ผมมาอีกได้ไหม ผมอยากให้ลุงปลอบผมอีก”
“ถ้าอยากให้ปลอบก็มา”
จากนั้นแจ็คสันก็เดินไปหาจินยองที่เหมือนจะงงๆ
กับผมที่ยอมหลานง่ายๆ ถ้าผมไม่ยอมก็ไม่ได้กอดนะซิ
ผมอะไม่ชอบเด็ก
แต่แจ็คสันมันตอนนี้คือเด็กที่ผมยกให้เป็นกรณีพิเศษแล้วละ
........................................................
แต่งไปแล้วรู้สึกบาปไปมากคะ
#ออลหนูอ๊บ
ความคิดเห็น