คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : โรคหัวใจกำเริบ...งั้นรึ??
เช้าวันอาทิตย์
"แม่ครับ พ่อครับ เดี๋ยววันนี้เพื่อนเต้จะมาบ้านนะครับ"
"เพื่อนผู้หญิงที่เล่าให้ฟังรึเปล่าจ๊ะ?"คุณวิชุดาถามลูก ด้วยความสนใจ
"ผู้หญิง? สวยเท่าแม่เขารึเปล่าล่ะเจ้าตัวเล็ก"
พ่อพูดแหย่แม่กับลูกเล่นด้วยความสนุก
เจี๊ยบยืนมองหน้าบ้านเต้ด้วยความสนใจ บ้านเต้เป็นบ้านร่วมสมัย
นำบ้านสไตล์เรือนไทยมาประยุกต์กับยุคใหม่ดูเข้ากันมากทีเดียว
"อยู่หน้าบ้านแล้ว ทำไมใจเต้นแรงแบบนี้นะ โอ๊ย ทำไงดีๆ"
เจี๊ยบบ่นกับตัวเองเบาๆ
"สงสัยมาแล้วมั้งครับแม่ เสียงเจ้าชินจังกับกูลิโกะเห่าแบบนี้
เดี๋ยวออกไปดูก่อนนะครับ"เต้รีบบอกผู้เป็นแม่อย่างเร่งรีบ
"นี่คุณ ดูลูกของเราสิ ผมไม่เคยเห็น เจ้าตัวเล็กลุกลี้ลุกลนแบบนี้มา
ก่อน สงสัยจะตัวจริง 5555"
"พ่อนี่ก็"คุณวิชุดา หันไปค้อนคุณกฤตภาส ด้วยความรัก
เต้ออกไปรับเจี๊ยบหน้าบ้านพร้อมพาไปแนะนำ
ให้ครอบครัวของเขารู้จัก
"เจี๊ยบครับ...คุณพ่อ คุณแม่ที่น่ารักของเต้ครับ"
เต้แนะนำพ่อแม่ของตัวเองตามประสาคนขี้เล่นเหมือนพ่อ
"สวัสดีค่ะคุณอาทั้งสอง"เจี๊ยบยกมือไหว้ท่านทั้งสองอย่างสวยงาม
"มานั่งตรงนี้สิลูก"เสียงคุณวิชุดาเรียกเจี๊ยบนั้น
ทำให้เจี๊ยบลดอาการประหม่าลงได้เล็กน้อย
"ขอบคุณค่ะ"เจี๊ยบเข้าไปนั่งตรงข้ามกับพ่อแม่ของเต้
"มาเหนื่อยๆ ดื่มน้ำก่อนสิลูก วันนี้แม่ทำอาหารสุดฝีมือเพื่อหนูเลยนะ"
"55 แม่เขาเตรียมทำต้อนรับว่าที่สะใภ้น่ะ หนูลองชิมดูสิ
รับรองติดใจ ต้องมาขอสูตรไปทำแน่ๆ"คุณกฤตภาสพูดอย่างกันเอง
กับเจี๊ยบ เป็นเพราะคุณกฤตภาส เห็นเด็กคนนี้เดินเข้ามาในบ้านแล้ว
รู้สึกว่าเด็กคนนี้ต้องถูกเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดีแน่
กิริยามารยาทเรียบร้อย เหมือนที่เขาว่ากันจริง
"กิริยาส่อภาษา วาจาส่อสกุล"
"คุณพ่อก็... เห็นมั้ยครับ เจี๊ยบอายแย่อยู่แล้ว"เต้พูดปนหัวเราะ
เพราะเห็นว่าคนที่เขารักเฝ้ามองมาหนึ่งปีเต็มๆนั้นหน้าแดงจริงๆ
ทั้งสี่คนรับประทานอาหาร คุยกันอย่างถูกคอ เจี๊ยบเริ่มรู้สึกรัก
และผูกพันครอบครัวนี้หลังจากได้พูดคุย
บ้านเต้อยู่กันแบบครอบครัวเล็กๆ แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่น
ไม่เหมือนครอบครัวของเราเลยที่เต็มไปด้วยเงิน
คุณพ่อเต้ทำงานเป็นตำรวจยศ พันตำรวจเอก
มีคุณแม่เป็นแม่บ้านคอยดูแลทุกอย่าง คุณแม่เต้ไม่ชอบมีลูกจ้าง
ชอบทำงานบ้านเองมากกว่าได้ออกกำลังกายไปในตัว
เจี๊ยบไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเต้ถึงเป็นผู้ชายที่อบอุ่น
"คุณอาคะ"เจี๊ยบเรียกคุณวิชุดาเมื่อเดินชมความงาม
ของสวนแห่งนี้ได้สักพัก
"เรียกแม่เถอะลูก" คุณวิชุดาบอกด้วยความเมตตา
"ค่ะ คุณแม่ เจี๊ยบเห็นสวนหลังบ้านปลูกผักสวนครัวเต็มไปหมด
เลยสงสัยว่าทำไมคุณแม่ถึงปลูกคะ ซื้อกินเองง่ายกว่าอีกนะคะ?"
เจี๊ยบหันมาถามมารดาของคนรักอย่างเกรงใจ
แต่ด้วยความสงสัยจึงอดถามไม่ได้
"อ๋อ...คืองี้นะลูก แม่เห็นว่า การที่เราปลูกผักพืชสวนครัวมากินเอง
ดีกว่าไปซื้อเขากิน เพราะที่นี่ไม่มีสารพิษ และไม่เปลืองเงิน
ด้วยนะลูก ตอนแรกๆแม่ซื้อเขากินนี่แหละจ๊ะ
แล้วแม่อ่านหนังสือของในหลวงท่าน
ท่านทรงแนะนำให้เราอยู่อย่างพอเพียง มีเท่าไหร่ใช้เท่านั้น
รู้จักประมาณตน อย่าเป็นหนี้เป็นสินใครเขา
แม่ก็เลยเริ่มหาเมล็ดพืช ผักมาปลูก บ้านเราไม่ใหญ่มาก
เลยดูแลง่าย ที่สำคัญใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ด้วย"
คุณวิชุดาอธิบายให้เจี๊ยบฟังไป มือก็ตัดแต่งกิ่งของต้นไม้
ที่แตกออกมา
"ดีจังเลยนะคะ เจี๊ยบชอบบ้านหลังนี้มากๆเลยค่ะ
บ้านหลังเล็กแต่เต็มไปด้วยความอบอุ่น
บ้านเจี๊ยบหลังใหญ่แต่...
ไม่ค่อยมีความสุขเลยค่ะ คุณพ่อท่านหาแต่เงิน
คุณแม่ออกแต่งานสังคม ทำให้เจี๊ยบต้องอยู่กับพี่เลี้ยงตลอดเวลา
ถ้าไม่ว่าอะไร เจี๊ยบขอมาบ้านนี้บ่อยๆได้ไหมคะ?"
เจี๊ยบถามไปช่วยคุณวิชุดาเก็บกิ่งไม้ที่ถูกตัดออกมาไปใส่ถังขยะ
คุณวิชุดามองเจี๊ยบด้วยความเอ็นดูปนเห็นใจ
เฮ้อ...ยังมีอีกกี่ครอบครัวนะที่เป็นแบบนี้
คนเป็นพ่อเแม่ น่าจะเอาใจใส่เลี้ยงลูกด้วยความรัก
ความอบอุ่น หนูเจี๊ยบเป็นเด็กดีมีเมตตานับว่าโชคดี
ที่ลูกของเราเลือกคนไม่ผิด
"อยากจะมาเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ต้องมีเต้ ก็มาหาพ่อและแม่ได้นะลูก"
คุณวิชุดาตอบเจี๊ยบด้วยน้ำเสียงที่รักและเอ็นดู
"ขอบคุณค่ะ..."เจี๊ยบก้มลงไปไหว้คุณวิชุดาที่หน้าอก
คุณวิชุดาเลยดึงตัวเจี๊ยบมากอดและลูบผมด้วยความรัก
เต้เห็นเจี๊ยบนั่งคุยกับแม่อย่างถูกคอ
รู้สึกพอใจมากที่แม่กับเจี๊ยบเข้ากันได้ดี
เลยปล่อยให้นั่งคุยส่วนตัวเองช่วยพ่ออาบน้ำให้
ชินจังกับกูลิโกะ แต่ไม่ค่อยมีสมาธิเพราะตาคอยมองแต่เจี๊ยบ
ผู้เป็นพ่อเห็นก็มักจะล้ออยู่บ่อยๆจนเต้ พยายามไม่มอง
พอเห็นแม่เดินแยกออกมาหาพ่อ เต้จึงรีบเดินไปหาเจี๊ยบทันที
ปล่อยให้พ่อกับแม่คุยกันสองคน
"นางฟ้าครับ!"เสียงเต้เรียกเจี๊ยบอย่างอ่อนโยน
"คะ ว่าไงเอ่ย?" เจี๊ยบหันมามองด้วยความรักปนสงสัย
"เต้ เห็นว่ามันสวยดี เลยซื้อมา เป็นตัวแทนความรักของเราสองคน
ไม่ว่าเจี๊ยบจะอยู่ที่ไหน เจี๊ยบจะได้มีเต้อยู่ข้างกายตลอดเวลา
เหมือนกันเต้จะมีเจี๊ยบอยู่ตลอดเวลา นาฬิกาเรือนนี้เต้ทำให้มัน
ไม่เดินไว้ เดี๋ยวเต้ขอปรับเวลาก่อนนะ"
เต้หยิบนาฬิกาออกมาปรับให้เวลาเดิน
"ขอมือหน่อยครับนางฟ้า"เต้บรรจงใส่นาฬิกาให้เจี๊ยบด้วยรัก
และถนุถนอม
"เต้?ทำไมถึงให้นาฬิกาไม่เดินในตอนแรกล่ะคะ"
เจี๊ยบแปลกใจมากเมื่อเต้บอกไม่ให้มันเดินในตอนแรก
"เต้อยากให้เจี๊ยบ จดจำวันเวลานี้ไว้ ทุกครั้งที่เราห่างไกลกัน
เราจะได้นึกถึงวันที่เรามีความสุขอย่างวันนี้ไงคะ
แต่หากวันหนึ่งเราสองคนต้องแยกจากกัน
เต้ขอให้เราปรับนาฬิกาให้หยุดเดินไว้นะ
เพื่อที่เราจะได้จดจำแต่เวลาแห่งความสุข เจี๊ยบใส่ให้เต้บ้างสิคะ"
เต้ ทำสีหน้าอ้อนเจี๊ยบ จนเจี๊ยบต้องยอมแพ้
กับความขี้อ้อนของเขาเลยทีเดียว
ทั้งสองคนนั่งเล่นบริเวณสวนได้สักพัก
"ซินเดอเลอล่า ต้องกลับบ้านแล้วสินะ
เฮ้ออ..เต้ไม่อยากให้กลับเลย"เต้บ่นออกมาเมื่อ
มองดูเวลาที่นาฬิกา
"พรุ่งนี้เราก็เจอกันแล้วนะคะ ไม่ต้องไปส่งถึงบ้านนะคะ
เดี๋ยวเจี๊ยบให้คนที่บ้านมารับที่ป้ายรถเมล์ค่ะ"
"เจี๊ยบ...เต้เรียกเจี๊ยบไว้ด้วยความรู้สึกแปลกๆ
เหมือนกับว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เราจะได้พบกัน
"ว่าไงคะนายตัวเล็ก?"
"เฮ่ย !นั่นมันชื่อพ่อเต้เรียกนิ่ เจี๊ยบรู้ได้ไงน่ะ"
"555 ก็คุณพ่อแอบบอกเจี๊ยบน่ะสิ ว่าแต่ก่อน
เต้น่ะตัวเตี้ย ไม่สูงเลยเรียกว่านายตัวเล็ก อิอิ"
"คุณพ่อนะคุณพ่อ" เต้บ่นออกมาด้วยความอาย
"เจี๊ยบ เต้รู้ว่าไม่เหมาะสม แต่เต้ขอกอดเจี๊ยบได้ไหมครับ"
"ทำไมล่ะเต้ ทำไมต้องกอดด้วยล่ะ เราเพิ่งคบกันเองนะ
อีกอย่างเจี๊ยบไม่อยากให้เต้มองดูว่าเจี๊ยบเป็นผู้หญิง
ที่ง่ายให้ใครกอดก็ได้นะคะ"เจี๊ยบตอบเต้ด้วยความรัก
แต่ต้องห้ามใจทั้งเต้และตัวเองไม่ให้มากเกินกว่านี้
"เปล่านะเจี๊ยบ แต่เต้รู้สึกยังไงไม่รู้สิ
เหมือนกับว่าวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่จะได้เจอกัน"
"บ้าน่ะเต้ คิดมากไปได้ โอเค แค่กอดนะคะ ย้ำว่าแค่กอด!"
"เต้รักนางฟ้าตัวน้อยๆของเต้มากนะครับ"
"นางฟ้าก็รักนายตัวเล็กเหมือนกันค่ะ อนาคตถ้าเต้เป็นตำรวจนะ
เจี๊ยบจะเป็นคุณหมอคอยเย็บแผลให้เต้
เวลาเต้ไปจับผู้ร้ายแล้วมีบาดแผลกลับมา
ห้ามไปทำแผลกับใครนะ !ต้องให้เจี๊ยบรักษาแผลให้เต้คนเดียว
รู้มั้ย??"
"งั้นว่าที่คุณหมอ ตอนนี้จับหัวใจของคนไข้ดูทีสิครับ
มันเต้นแรงมาก ไม่รู้เป็นอะไร"
"จากการวินิจฉัยเบื้องต้น พบว่า คนไข้มีอาการ
โรคหัวใจกำเริบ เลิฟ ละ ละ เลิฟ เลิฟ เลิฟ
ดูสิมันกำเริบ เลิฟ ละ ละ เลิฟ ยู เห็นแล้วใจมันอ่อนอ๊อน
อยากจะอ้อนเธอน่าดู ช่วยมาดูแลรักษากันหน่อยเหอะ"
ผมมองดูเจี๊ยบเล่นมุขแป๊กๆกับท่าเต้นของเธอ
ทำให้ผมรู้สึกรักผู้หญิงคนนี้เพิ่มมากขึ้น
นอกจากจะเป็นคนน่ารักแล้ว รอยยิ้มของเธอช่างสดใสเหลือเกิน
เวลาอยู่ใกล้ทำให้มีความสุขโดยไม่รู้ตัว
เราสองคนเดินออกจากบ้านไปยังป้ายรถเมล์พร้อมกัน
ที่บ้านโทรมาบอกเจี๊ยบว่าให้กลับบ้านเองก่อนมารับไม่ได้
เลยรอส่งเจี๊ยบขึ้นรถเมล์แล้วค่อยเดินกลับบ้าน
"ไปแล้วนะคะ เต้"เจี๊ยบหันมาโบกมือและยิ้มให้อย่างน่ารัก
ยิ้มหวานๆของเจี๊ยบทำให้เต้มีความสุขมากๆ
"กลับบ้านดีๆนะครับ"เต้บอกกับคนรักอย่างอ่อนโยนและเป็นห่วง
ความคิดเห็น