คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Part 1 (100%)
ถ้าพูดถึงฤดูหนาวแล้ว สำหรับคนส่วนใหญ่ ก็จะพูดถึง ฤดูที่สี่ของปี ที่เต็มไปด้วยเทศกาลและวันหยุด ไม่ว่าจะเป็น คริสต์มาส ปีใหม่ รวมถึง เทศกาลแห่งความรักหรือวาเลนไทน์
สำหรับเด็กแล้ว ก็เป็นฤดูที่มีแต่คำว่าสนุกสนานและของขวัญ ได้มีวันที่จะเป็นการรวมตัวกันของครอบครัว เพื่อมาฉลองกัน หลังจากแยกย้ายกันไปทำงานในช่วงอื่นของปี
แต่สำหรับฉันแล้ว มันช่างเป็นฤดูที่เต็มไปด้วยความอ้างว้าง เหงาหงอย และเดียวดาย ไม่ใช่ว่าฉันจะไม่มีครอบครัว แต่พวกท่านอยู่ไกลจากฉันมาก ถึงจะได้ไปหาท่านตอนช่วงปีใหม่ก็ตาม พอกลับมาที่โซลแล้ว ฉันก็กลับมาสู่ความรู้สึกข้างต้นอีก
เช้าวันนี้ ความรู้สึกดังกล่าวพร้อมใจกันมาฉันตั้งแต่ที่ฉันเดินออกมาจากห้องพักของตนเอง วันนี้ลมหนาวได้พัดมาอย่างชัดเจน ระหว่างทางที่ฉันเดินทางมาทำงาน ฉันเห็นคนหลายคนที่มีความสุข ทั้งเด็ก คู่รัก หรือ คนทั่วไป ฉันอยากรู้มากว่าทำไมพวกเขาถึงมีความสุขกัน
ฉันมาถึงที่ทำงานของฉัน ก่อนเวลาเข้างานประมาณครึ่งชั่วโมง เพื่อนของฉันหลายคนบอกว่าอิจฉาฉันที่ได้ทำงานใน Kim Cooperation บริษัทด้านเทคโนโลยีชั้นนำของเอเชีย แต่ตัวฉันเองกลับอิจฉาพวกเพื่อนๆมากกว่า ถึงพวกเขาจะไม่ได้ทำงานในบริษัทใหญ่โต แต่พวกเขาก็ทำงานและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
“ซอนเยจ๊ะ เป็นอะไรหรือเปล่า ดูซึมๆหน่ะเรา” พี่นิโคล รุ่นพี่ที่ทำงานด้วยกัน ถามฉันทันทีที่ฉันไปถึงโต๊ะทำงาน
“ไม่เป็นไรค่ะ แค่เหนื่อยๆเท่านั้นเองค่ะ” ฉันหันไปยิ้มตอบกลับไป
“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วจ๊ะ แต่ถ้าเป็นอะไรก็บอกพี่ได้หน่ะ พี่ยินดีช่วยเราทุกเรื่องหน่ะ เราหน่ะ เสมือนน้องสาวของพี่คนนึงหน่ะ รู้มั้ย” พี่นิโคลบอกกับฉันด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความห่วงใย ซึ่งฉันก็รู้สึกถึงมันได้ทุกครั้ง มันไม่แปลกเลย ที่พี่นิโคลจะเป็นห่วงฉัน ซึ่งทำงานเป็นผู้ช่วยของพี่เขา โดยตำแหน่งของพี่นิโคลนั้น ก็คือเลขานุการของกรรมการผู้จัดการใหญ่ของบริษัท และนั้นก็หมายความว่าตำแหน่งของฉันก็คือ ผู้ช่วยเลขานุการของกรรมการผู้จัดการใหญ่ นั้นเอง
“ค่ะพี่” ฉันตอบรับพี่นิโคลกลับไป ขณะเริ่มจัดการกับงานที่เริ่มเข้ามาตั้งแต่ยังไม่ถึงเวลาเข้างาน
“ซอนเยจ๊ะ เดี๋ยวจะมีคนจากแผนกคอมพิวเตอร์มาหาผู้จัดการหน่ะจ๊ะ ผู้จัดการเรียกมาคุยเรื่องโครงการใหม่ เรารับให้พี่ด้วยหน่ะ พี่ต้องไปทำธุระด่วนที่แผนกบุคคลให้ผู้จัดการก่อน” พี่นิโคลหันมาบอกฉัน เริ่มงานของวันนี้กันมาพักใหญ่แล้ว
“ได้ค่ะพี่” ฉันตอบรับกลับไป ซึ่งพี่นิโคลก็ส่งยิ้มกลับมาให้ ก่อนที่จะเดินออกไป
“คุณค่ะ ดิฉันมาหาผู้จัดการค่ะ” หลังจากที่พี่นิโคลออกไปไม่นาน ก็มีเสียงทุ้มๆเสียงหนึ่งดังแทรกความเงียบขึ้นมา นี่ถ้าเขาไม่พูดว่า ค่ะ และ ดิฉัน ต้องได้เข้าใจผิดกันแน่ว่าเขาเป็นผู้ชาย เมื่อฉันเงยหน้าตามต้นเสียงขึ้นมา ก็ได้พบกับหญิงสาวตาคม เจ้าของผิวเนียนเข้ม ซึ่งดูแล้วน่าจะสูงกว่าเธอ ที่ท่าทางทะมัดทะแมงคนนึงยืนอยู่ตรงหน้า
“ค่ะ คนจากแผนกคอมพิวเตอร์ใช่มั้ยค่ะ ดิฉัน มิน ซอนเยหน่ะค่ะ ผู้จัดการได้บอกไว้แล้วค่ะ ไม่ทราบว่าจะให้แจ้งผู้จัดการว่าใครมาหาค่ะ” ฉันแนะนำตัวพร้อมถามคนตรงหน้ากลับไป แต่ในใจก็อดประทับใจกับบุคลิกอันดูดีเกินพนักงานกินเงินเดือนทั่วไปของเขาไม่ได้
“ยูบินค่ะ คิม ยูบิน”
+---------------------+
href="file:///C:\DOCUME~1\User\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_filelist.xml" />
“นี่เรา เมื่อไรจะมาช่วยงานพี่สักที” เสียงนุ่มของ คิม ฮีชอล ชายหนุ่มเจ้าของร่างกายบอบบาง พูดกับโทรศัพท์ราคาแพงของตน
(อีกสักพักหน่ะพี่ ตอนนี้ฉันกำลังสนุกกับงานที่ทำอยู่)
“พี่ละไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมพ่อกับแม่ถึงยอมให้เราทำอย่างนี้” ฮีชอลพูดออกไปอย่างเหนื่อยใจ พ่อกับแม่ของเขามักจะตามใจน้องคนเดียวของเขาเป็นอันมาก ก็มีแต่เขาเท่านั้นหล่ะ ที่จะค้านอยู่บ่อยๆ
(เอาหน่ะพี่ พี่ก็ถือซ่ะว่าให้ฉันได้หาประสบการณ์ก่อนจะไปช่วยพี่ พอไปทำงานกับพี่แล้ว จะได้เข้าถึงงานไง)
“แต่พี่ว่างานที่เราทำอยู่ ก็ใช่ว่าจะหาประสบการณ์ตรงนี้ได้สักหน่อย แค่มันตรงกับสายที่เราเรียนมาเท่านั้นเองไม่ใช่หรอ” ฮีชอลย้อนกลับไป
(ใครว่าไม่ตรง ตรงสุดๆเลยหน่ะพี่ ถ้าไม่รู้งานนี้ก่อน งานตรงนั้นก็จะยากขึ้นหน่ะพี่)
“เออ พี่ไม่เถียงเราแล้ว จะเถียงยังไงพี่ก็แพ้อยู่ดี” ฮีชอลตัดบทอย่างปลงๆ เขาพยายามกล่อมปลายสายอยู่หลายรอบแล้ว แต่ว่าก็ไม่สำเร็จมาโดยตลอด เพราะน้องของเขาเป็นคนที่มุ่งมั่นจะทำอะไรแล้ว ก็จะทำอย่างเต็มที่ ใครจะขว้างก็ไม่มีทางสำเร็จหรอก
(พี่ก็รู้อยู่แล้วหนิ แล้วยังเถียงอีก เอาเป็นว่าวันนี้แค่นี้ก่อนหน่ะพี่ฮีชอล ฉันต้องย้ายห้องอ่ะ)
“หืม...ย้ายห้องหรอ ย้ายไปไหนหล่ะ แล้วทำไมย้าย” ฮีชอลถามปลายสายกลับชุดใหญ่
(ทีละคำถามซิพี่ ก็ย้ายให้ใกล้กับที่ทำงานมากขึ้นเท่านั้นหล่ะ ที่เดิมมันไกลจากที่ทำงานมากเลย ฉันขี้เกียจตื่นแต่เช้าหน่ะ)
“เหตุผลหลักคือข้อหลังใช่มั้ยหล่ะ” ฮีชอลแซวปลายสายอย่างรู้ทัน
(ก็อ่ะหน่า พี่ก็รู้)
“แล้วของเยอะมั้ย มีใครช่วยหรือเปล่า ให้พี่ไปช่วยมั้ย” ฮีชอลถามปลายสายอย่างเป็นห่วง
(ไม่เป็นไรพี่ ฉันให้เพื่อนมาช่วยแล้ว มันกำลังขนขึ้นรถบรรทุกของบ้านมันอยู่เนี่ย ฉันต้องวางแล้วหล่ะพี่ มันบ่นแล้ว บายหน่ะพี่)
“เออ บาย เห้อ ไอ้ตัวแสบนี่หน่ะ” ฮีชอลบ่นกับโทรศัพท์ของตนเองด้วยรอยยิ้ม ไม่มีครั้งไหนเลย ที่เขาจะไม่ตามใจน้องคนเล็กของบ้าน
ก๊อกๆๆ ก๊อกๆๆ
“เชิญครับ” ฮีชอลเอ่ยปากอนุญาติทันที เมื่อมีเสียงเคาะประตูห้องทำงานของตนเอง
“ผู้จัดการค่ะ งานด่วนของแผนกบุคคลที่ให้พี่นิโคลไปเคลียมา เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ” ซอนเยที่ก้าวเข้ามาพร้อมเอกสารแฟ้มใหญ่ พูดขึ้น พร้อมส่งแฟ้มดังกล่าวให้ชายหนุ่มในห้อง
“ขอบคุณมากหน่ะซอนเย นี่ก็เลยเวลาเลิกงานมานานแล้ว เธอกลับไปเถอะ ไม่ต้องรอฉันหรอก” ฮีชอลรับเอกสารดังกล่าวมาก พร้อมกับเอ่ยปากบอกผู้ช่วยเลขาของตน
“ไม่เป็นไรค่ะผู้จัดการ ดิฉันกับพี่นิโคลยังต้องเคลียเอกสารอีกเยอะเลยค่ะ ถือซ่ะว่าตอนรอผู้จัดการกลับ พวกเราจะได้เคลียให้เสร็จๆไปอีกงาน” ซอนเยตอบกลับอย่างนอบโน้ม
“จริงด้วย ลืมไปเลยว่าช่วงใกล้สิ้นปีอย่างนี้ เอกสารจะเยอะมาก เอาเถอะๆ อีกชั่วโมงคุณช่วยเรียกรถให้ด้วยหน่ะ” ฮีชอลรับคำก่อนที่จะสั่งกลับไป ซึ่งคำสั่งดังกล่าวเป็นการบอกว่า อีกหนึ่งชั่วโมง ผู้จัดการใหญ่จะกลับแล้ว
“ค่ะ ผู้จัดการ” ซอนเยรับคำ ก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป
ความคิดเห็น