ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Miracle Earth พิภพปาฏิหาริย์ : ปฐมบทแห่งราชันย์

    ลำดับตอนที่ #83 : ตอนที่ 81 ห้องแห่งความลับ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.05K
      61
      18 เม.ย. 64

     

     

                คนพวกนี้มักน่ากลัวอยู่เสมอ

     

                ไม่ว่าจะในยุคสมัยไหนก็ตาม

     

                หลายคนมักคิดเช่นนั้น เสมือนหนึ่งเดียวกับชายคนหนึ่ง ชายผู้ที่นั่งอยู่ในห้องที่มีความพิสดารเกินกว่าจะเรียงเรียงได้ในนิยามของคนทั่วไป อักขระจำนวนมหาศาลและไอมานาในปริมาณที่ไม่ต่างกันลอยคละคลุ้งกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับอากาศ ในห้องนั้นมีเพียงโค๊ะตัวเดียวที่อยู่เป็นสิ่งแปลกปลอม ซึ่งก็คือโต๊ะไม้ขนาดใหญ่ที่อยู่เบื้องหน้าชายผู้นั้น หากแต่ใบหน้ากลับถูกปกคลุมไปด้วยฮู้ดสีขาวจนไม่อาจรู้ได้ว่ารูปพรรณสันฐานของชายผู้นี้มีลักษณะอย่างไร

     

                “ไม่นึกเลยว่าท่านจะอุตส่าห์ดั้นด้นมาหาข้าถึงที่นี่” ชายคนดังกล่าวพูดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่ขลุ่ย หากคนใครอื่นมาเห็นเข้าคงนึกว่าเขาไม่มีสติหรือเป็นพวกเพ้อเจ้อละเมอไปวันๆ เพียงแต่พอสิ้นคำพูดของชายสวมฮู้ด บริเวณมุมหนึ่งในห้องกลับสำแดงถึงความผิดปกติออกมา

     

                ความผิดปกติที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าสภาพโดยรวมของห้องแห่งนี้แม้แต่นิด

     

                “เจ้าคงคิดแบบนั้นอยู่ล่ะสิ” เสียงๆหนึ่งดังขึ้น พร้อมกับเจ้าของเสียงที่โผล่พ้นออกจากอากาศธาตุอย่างน่าอัศจรรย์ เขาผู้นี้ก็สวมฮู้ดปกคลุมใบหน้าเช่นเดียวกัน ทว่าฮู้ดของผู้มาใหม่เป็นสีดำทมิฬราวกับราตรีกาล จนให้ความรู้สึกขัดแย้งกับคนที่นั่งอยู่ในห้องแห่งนี้มาตั้งแต่แรกยิ่งนัก

     

                “ข้าบอกท่านกี่ครั้งแล้วว่าอย่ามาเที่ยวอ่านใจคนอื่น” ชายสวมฮู้ดสีขาวตอบกลับทันควัน ฟังจากบริบทอาจจะดูเหมือนไม่พอใจ แต่น้ำเสียงที่เปล่งออกมาคล้ายนึกสนุกมากกว่าจะจริงจัง

     

                “ก็ยังดีกว่าเจ้ามากนัก” ชายผู้นั้นหัวเราะในลำคอ ก่อนจะเดินไปยังโต๊ะเพียงตัวเดียวในห้อง เหมือนกับรู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร บุรุษที่นั่งอยู่พลันดีดนิ้วขึ้นมาหนึ่งเป๊าะ เก้าอี้นวมขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นมาด้านหน้าในบันดล

     

                กลายเป็นว่าทั้งสองฝ่ายได้มาประจันหน้ากันแล้วเป็นที่เรียบร้อย

     

                “ไม่นึกไม่ฝันว่าคนอย่างเจ้าจะยอมละทิ้งงานอดิเรกนั่น แล้วยอมมาทำงานอย่างจริงจังซะที” ชายในฮู้ดสีดำเอ่ยขึ้น

     

                     ดินแดนที่ดำรงอยู่ได้ร่วมพันปี ก่อเกิดจากหยาดโลหิตและหยาดเงื่อของบรรพชน วีรชนและทรราชย์จำนวนมากล้วนผุดขึ้นมาในทุกยุคทุกสมัย ตำราการศึกหรือพิชัยสงครามมีอยู่เกือบทุกพื้นที่ประหนึ่งของใช้ประจำวัน นั้นเองทำให้โนอาห์ที่แม้จะไม่ได้ข้องเกี่ยวการเมืองมากนัก ยังต้องประสบพบเจออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

     

             “เหตุการณ์ในปัจจุบันมันเป็นยังไง ข้ารู้ท่านรู้ คงมีแต่คนเขลาเท่านั้นที่จะยอมอยู่เฉยๆ” ชายสวมฮู้ดสีขาวตอบแบบขอไปที ริมฝีปากเหยียดรอยยิ้มเล็กๆประหนึ่งรอดูท่าทีของสหายสนิทที่นั่งอยู่เบื้องหน้า

     

                “และมันหนักเกินกว่าที่พวกเขาจะแบกรับ” บุรุษผู้มาเยือนพูด น้ำเสียงดูจริงจังกว่าปกติอย่างเห็นได้ชัด ชายในฮู้ดสีขาวเลิกคิ้วเพียงเล็กน้อยจะกลั้วหัวเราะเบาๆ

     

                “ตอนนี้จิ้งจอกได้ออกล่าแล้ว ข้าก็ไม่เห็นท่านจะต้องกังวลอะไร ไม่มีเหยื่อตนไหนหนีจิ้งจอกตัวนั้นพ้น ท่านย่อมรู้ดีเป็นที่สุด” เขาตอบพลางยิ้มละไม

     

                “ทางตอนเหนือต่อให้สถานการณ์มันเลวร้ายยิ่งกว่านี้ ถ้าเจ้านั่นอาสาออกหน้าเอง....การที่จะคลี่คลายสถานการณ์ย่อมสามารถนับวันเวลาได้ แต่สิ่งที่ข้ากังวลเห็นทีจะเป็นด้านอื่น..." ชายผู้มาเยือนถอนหายใจออกมาเบาๆ

     

                “คนตกปลาได้วางอวนไว้จนหมดสิ้น เว้นเสียแต่ท่านจะไม่เชื่อใจฝีมือของคนๆนั้น” ชายสวมฮู้ดสีขาวพูด

     

                “ข้ารู้ดีว่าในบรรดาพวกเราเจ็ดคน เจ้านั้นเป็นเลิศในด้านนี้อย่างหาที่พวกเราทั้งหกจะเทียมทันได้....แต่เพราะจุดเริ่มของแผนการมันเสี่ยงเกินไป เสี่ยงเกินกว่าที่ข้าจะยอมอยู่เฉยๆ” บุรุษในฮู้ดสีดำพูดขึ้น ในขณะที่ในใจกลับคิดไปอีกอย่าง

     

                          ทั้งอารัน เซเรน่า เลชาน หรือแม้กระทั่งไอล์ อาจจะรวมซายากะเข้าไปด้วยถ้าเธอยังมาเรียนเหมือนคนอื่นๆ พวกเขาทั้งหมดต่างแก้กลศึกด้วยกรรมวิธีที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งผลที่ออกมาล้วนเป็นสิ่งที่อาจารย์ผู้สอนพึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง ทว่าดูเหมือนชายสูงวัยผู้นี้จะไม่สาแก่ใจ ถึงอุตส่าห์ดั้นด้นเรียกหาคนที่สามารถแก้กลศึกนี้อีกครั้ง และนั้นเองจึงเป็นโอกาสให้โนอาห์ได้มายืนอยู่หน้าชั้นเรียนอีกครา

     

           

     

                “เวลามีไม่จำกัด แต่อย่านานจนหมดเวลาล่ะ” อาจารย์ยามาโมโตะกล่าวทวนอีกครั้ง ก่อนจะถอยออกไปห่างๆให้นักเรียนหนุ่มแสดงฝีมือได้อย่างเต็มที่

     

                ฝีมือที่เพื่อนๆของเขาต่างนึกไม่ออกว่าจะขุดมาจากไหน

     

                โนอาห์หันไปพยักหน้าน้อยๆให้กับอาจารย์ยามาโมโตะหนึ่งครั้งพอเป็นพิธี ก่อนจะหันกลับมาสนใจกลศึกเบื้องหน้าต่อ โดยแบ่งออกเป็นสองฝ่าย สีดำและสีขาว ซึ่งฝ่ายที่โนอาห์จะต้องควบคุมคือสีดำ การจัดวางแม้จะดูเรียบง่ายแต่กลับแฝงไปด้วยความลุ่มลึกของคนแก่ประสบการณ์ ดูเหมือนชื่อชั้นของอดีตกุนซือคนสำคัญแห่งยามาไทจะไม่ใช่คำกล่าวอ้างที่เกินจริงแต่อย่างใด

     

            โนอาห์หันไปพยักหน้าน้อยๆให้กับอาจารย์ยามาโมโตะหนึ่งครั้งพอเป็นพิธี ก่อนจะหันกลับมาสนใจกลศึกเบื้องหน้าต่อ โดยแบ่งออกเป็นสองฝ่าย สีดำและสีขาว ซึ่งฝ่ายที่โนอาห์จะต้องควบคุมคือสีดำ การจัดวางแม้จะดูเรียบง่ายแต่กลับแฝงไปด้วยความลุ่มลึกของคนแก่ประสบการณ์ ดูเหมือนชื่อชั้นของอดีตกุนซือคนสำคัญแห่งยามาไทจะไม่ใช่คำกล่าวอ้างที่เกินจริงแต่อย่างใด

     

                หมากสีดำแบ่งออกเป็นสองกอง กองแรกมีเป็นทหารม้า มีกำลังราวๆห้าพัน กองที่สองเป็นทหารราบและพลธนูรวมๆกัน กะเกณฑ์แล้วได้ราวๆเจ็ดพัน มีแม่ทัพเพียงคนเดียวคอยบัญชาการทั้งหมด ยึดอยู่ในชัยภูมิที่ได้เปรียบนั้นคือเนินเขาสูง ในขณะที่ฝ่ายหมากสีดำนั้นมีจำนวนถึงห้ากองด้วยกัน แต่ละกองมีแม่ทัพประจำอยู่แทบทั้งสิ้น พลม้าสองกอง กองละสามพัน พลทหารราบสองกอง กองละสี่พัน และพลธนูอีกหนึ่งกอง จำนวนสองพัน ด้านจำนวนฝ่ายหมากสีดำนับว่าด้อยกว่ากันหลายขุม แต่ถ้ายึดในด้านของชัยภูมิแล้วยังนับว่าได้เปรียบ

     

                ข้อได้เปรียบที่ช่วยให้นักเรียนก่อนหน้านี้แก้กลศึกเหล่านี้ได้

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×